แพรวพรรณเลี่ยงออกมาจากกลุ่มของณภัทร หลังจากเขาออกไปคุยเรื่องงานกับลูกค้ารายสำคัญ ถึงแม้จะไม่ชอบเจ้าของงาน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นคนที่เก่งมาก ๆ อัญมณีถูกนำออกโชว์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากกลุ่มคุณหญิงคุณนายและเหล่าไฮโซ รวมไปถึงกลุ่มนักธุรกิจยังสนใจอยากจะร่วมลงทุนด้วย
เธอยืนอยู่ตรงมุมห้องเพียงลำพัง ซึ่งงานประเภทนี้ตนไม่ค่อยถนัดเอาเสียเลย แม้กระทั่งในพีเจก็มีเพียงพ่อและอาสาวที่มักออกงานสังคมพวกนี้ จะว่าไปทำไมพวกท่านถึงไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย ทั้ง ๆ ที่อยู่แวดวงเดียวกัน!
“สวัสดีครับผมชื่อริว บนเวทีคุณเต้นได้สวยมาก ๆ ไม่ทราบว่าสนใจอยากจะทำงานร่วมกับทางเราไหมครับ นี่ครับนามบัตรของผม”
แพรวพรรณหันมาตามเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูงแต่งตัวภูมิฐาน กำลังส่งนามบัตรมาให้ เธอยิ้มให้กับเขา แล้วรับบัตรมาถือไว้
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฉันไม่ได้รับงานแสดงเป็นประจำ ที่มาในวันนี้ก็เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีค่ะ” แพรวพรรณปฏิเสธเสียงนุ่ม
“อ้อ ไม่เป็นไรครับ เผื่อว่าวันข้างหน้าคุณสนใจ ติดต่อมาได้ทุกเมื่อเลยนะครับ ผมชอบทักษะและไลน์เต้นของคุณมาก ถ้าหากมีโอกาสได้ร่วมงานกันคงดีไม่น้อย” ชายหนุ่มผู้มาใหม่มีแววผิดหวัง
“ค่ะ ถ้าฉันเปลี่ยนใจจะติดต่อกลับไปนะคะ”
ลานกว้างกลางห้อง
ณภัทรกำลังคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการร่วมลงทุน คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เริ่มจากโปรเจคนี้ งานนี้ไม่ใช่แค่ตลาดในไทยยังตีตลาดในต่างประเทศได้อีกด้วย ในระหว่างนั้นสายตาก็ส่ายหันไปมองรอบ ๆ ภาพของแพรวพรรณกำลังยืนคุยกับผู้ชายแปลกหน้า ดวงหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มตลอดการสนทนา ช่างขัดลูกตานัก ทีกับเขาเอาแต่ทำหน้าบูดบึ้งใส่ คิดแล้วอยากจะบีบกรอบหน้าเรียวให้เลิกทำตัวน่ารังเกียจนี้
ได้คุยกับริวจึงทำให้รู้ว่าเขาเองก็จบมาจากสถาบันเดียวกัน ไม่เพียงเท่านั้นยังรู้จักกับอาจารย์ของเธออีกด้วย ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมได้ขนาดนี้ เสียงหัวเราะสดใสเปล่งออกมา เมื่อได้พูดถึงวีรกรรมคราวอยู่กับอาจารย์ของตน
กระทั่งมีความรู้สึกถึงการถูกจับจ้อง ดวงตากลมโตส่ายมองไปอีกฝั่ง ก็ปะทะเข้ากับดวงตาแข็งกร้าว ความกรุ่นโกรธในสายตานั้น สร้างความงุนงงให้เธอเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าตนเองเคยไปทำอะไรเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
‘คนเลว’
ปากอวบอิ่มขยับช้า ๆ ตั้งใจสื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ ทว่าดูเหมือนณภัทรจะไม่สะทกสะท้าน มุมปากหยักหนาแสยะยิ้มตอบกลับมา
15 นาทีต่อมา
ฟู่ววว⁓
ลมหายใจพรูใหญ่ถูกพ่นออกมายาวยืด ด้านในสุดภายในห้องน้ำ แพขนตางอนปิดลงสนิท แพรวพรรณไล่ความคิดอันหนักอึ้งในหัวแต่ก็ไร้ความหมายเรื่องราวในอดีตกลายเป็นตราบาปอันแสนเจ็บปวดจากการกระทำของผู้ชายเลว ๆ มันสร้างความทุกข์ใจให้แก่เธออยู่นาน
มันได้ย้อนกลับมาทำร้ายเธออีกครั้งแล้ว…
“หนีกลับไปตอนนี้เลยได้ไหมนะ” เสียงเหนื่อยอ่อนเปล่งแผ่วเบา
แกรก!
แอ๊ด...
ประตูจากด้านนอกทำให้แพรวพรรณทรงตัวขึ้นเตรียมจะออกไปจากที่แห่งนี้ มือเล็กจัดชุดให้เข้าที่เข้าทาง ปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ทว่ามือกำลังจะเอื้อมไปเปิดประตูต้องหยุดชะงัก เพราะบทสนทนาจากด้านนอก
“คุณณภัทรตัวจริงนี่หล่อกว่าในรูปอีกนะ แกว่าไหม”
เสียงชื่นชมบุรุษที่กล่าวถึง น่าจะเป็นบรรดาสาวน้อยใหญ่ในงาน แพรวพรรณเกิดอาการประหม่าขึ้นมาเสียดื้อ ๆ เธอย้อนกลับมานั่งเหมือนเดิม
“แน่สิ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ไอ้ที่มีดีนะไม่ใช่แค่หน้าตาแต่...”
ไม่มีถ้อยคำพูดต่อจากนั้น เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจก็ดังขึ้นมาแทน เหมือนประโยคหลังจะกระซิบกันเอง
“อย่าบอกว่าแกเคยแล้วนะ”
เสียงคนแรกถามออกมา
“ถ้าไม่เคยแล้วฉันจะพูดไหมล่ะ ฉายา ‘เอวดุ’ ต้องยกให้เขาเลย”
เสียงดี๊ด๊าของอีกฝ่ายดังขึ้นแสดงว่าข้างนอกน่าจะมีแค่สองคน
“ร้ายนะแกเนี่ย”
“ของดีแบบนั้นปล่อยไปก็โง่แล้ว”
น้ำเสียงภูมิอกภูมิใจเรื่องอย่างว่า จากที่ได้ยินหญิงสาวกับณภัทรน่าจะไม่ใช่แฟนกัน แต่ทำไมถึงได้เอาเรื่องน่าอายพวกนั้นมาพูดในที่สาธารณะอย่างนี้ได้ ไม่อายกันหรือยังไงนะ!
“แต่คืนนี้แกคงจะต้องชวดแล้วแหละ ดูเหมือนคุณณภัทรจะหิ้วแม่สาวนักแสดง ที่ควงอยู่ไปกกนะคืนนี้”
“คิดว่าฉันสนหรือไง ดูก็รู้ว่าหล่อนแค่ของเล่นแก้ขัดคุณณภัทร ไม่เห็นเหรอเวลาที่เขามองแม่นั่นน่ะ ก็เหมือนมองผู้หญิง ‘อย่างว่า’ เท่านั้นเอง”
น้ำเสียงดูถูกดูแคลนจากด้านนอก ทำให้แพรวพรรณต้องกำมือเข้าหากันแน่น
“แกคิดว่าคุณณภัทรเขาจะคว้าพวกผู้หญิงเต้นกินรำกินมาเป็นเมียเหรอ หล่อนก็คงไม่ต่างจากพวกที่เขาเคยหิ้วไปนอนด้วย พอใช้งานเสร็จก็โยนเงินให้พันสองพัน แค่นั้นก็คงจะดีใจตายแล้วมั้ง” คนเดิมพูดต่อ
“แกนี่มันปากร้ายจริง ๆ แล้วเขาให้เงินแกไหม”
“ฉันเหมือนผู้หญิงพวกนั้นเสียที่ไหน อีกอย่างฉันว่าแม่นั่นอาจจะได้มาแล้วทั้งกลุ่มเลยด้วยซ้ำ ดูแต่ละคนมองกันตาเป็นมัน โดยเฉพาะคนที่มีลักยิ้มนั้นน่ะ คงได้กันแล้วชัวร์”
วาจาสาดโคลนจากผู้หญิงด้วยกัน แพรวพรรณยืนตัวสั่น สองมือกำเข้าหากันแน่นยังเพิ่มแรงมากขึ้นจนแทบจะมองเห็นเส้นเลือดที่ข้อมือเล็ก
“คุณทำให้คนอื่นมองว่าฉันเป็นผู้หญิงเต้นกินรำกิน คุณมันเลวกว่าที่ฉันคิดไว้จริง ๆ” แพรวพรรณโกรธขึ้งขบริมฝีปากของตัวเองจนเจ็บ
แกรก!เมื่อทนฟังวาจาปรักปรำเหล่านั้นไม่ไหว แพรวพรรณจึงเปิดประตูออกมา“.....”“.....”หญิงสาวทั้งสองหันไปพร้อม ๆ กัน ดวงตาของพวกเธอเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินออกมาจากด้านหลัง“ตกใจเหรอคะที่เป็นฉัน!” ดวงตาวาวโรจน์มองหญิงสาวทั้งสอง ชุดที่พวกเธอสวมใส่ล้วนหรูหราดูแพงแต่วาจากลับต่ำตมสิ้นดี เธอเดินออกมายืนด้านนอก“อย่าคิดว่าคนอื่นจะนิสัยเหมือนตัวเองสิ” แพรวพรรณพูดต่อ“อย่าแก้ตัวไปหน่อยเลย” หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำขลับยาวละพื้นพูดอย่างเย้ยหยัน ในน้ำเสียงของเธอก็ยังดูแคลนแพรวพรรณอยู่“ฉันไม่ได้แก้ตัว อีกอย่างก็ไม่เคยคิดที่จะไปนอนให้ผู้ชายเอาเล่น ๆ แล้วเที่ยวออกมาป่าวประกาศในที่สาธารณะ ให้คนอื่นรับรู้อย่างพวกคุณ ไม่อายกันบ้างหรือคะ”“นี่แก!”คำบริภาษของแพรวพรรณทำให้สองสาวโมโห จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หนึ่งในนั้นปรี่เข้าหาหมายจะฟาดฝ่ามือบนแก้มเนียน ด้วยความที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วเธอจึงคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้ได้ทัน“สันดานคนมองกันจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ พวกคุณแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ใส่เพชรใส่พลอยหรูหรา แต่ทำไมถึงมีความคิดที่ต่ำ ให้ร้ายผู้หญิงด้วยกันได้ถึงขนาดนี้” พูดจบแพรวพรรณก็ผลักหญิงสาวออก
ลานจอดรถของโรงแรมชั้นพรีเมียมติ้ง!เมื่อประตูลิฟต์เปิดแพรวพรรณก็รีบเดินออกมา เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถเร่งจ้ำฝีเท้าโดยเร็วที่สุด พอเจอแล้วนิ้วเล็กกดปลดล็อก ดึงประตูฝั่งคนขับวางกระเป๋าลงไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็สอดตัวลงไปนั่งประจำที่คนขับ ทว่ากลับปิดประตูรถไม่ได้“คุณ!” แพรวพรรณมองมือใหญ่จับขอบประตูไว้ ก่อนจะเลื่อนไปยังใบหน้าเรียบตึง“คิดจะหนีผมงั้นเหรอ” ณภัทรถามเสียงแข็ง นัยน์ตาเคร่งขรึมก้มมองคนในรถ“ปล่อยมือของคุณออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” เธอคิดว่าตนเองออกมาเร็วแล้ว แต่ก็ยังหนีเขาไม่พ้น!ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้“ผมบอกคุณว่าไง ให้รอกลับพร้อมผมไม่ใช่เหรอ ไม่เอาแล้วใช่ไหมเงินทุนของนักเรียน”“คุณนี่มันเลวจริง ๆ งั้นก็แล้วแต่ละกัน จะจ่ายไม่จ่ายมันก็เรื่องของคุณ ถ้าคิดจะเอาเปรียบเด็ก ๆ ด้วยการใช้งานฟรี ๆ ก็แล้วแต่เลย ยังไงก็เป็นคนประเภทชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้วนี่ ส่วนของฉันก็จะถือเสียว่าทำบุญทำทานไปก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการเงินของคุณแม้แต่แดงเดียว!” นับเป็นประวัติศาสตร์ทีบริภาษยืดยาวใส่ใครสักคนอย่างนี้“ปากเก่งดีนี่ งั้นก็ช่วยเก่งให้ตลอดแล้วกัน” กรามแกร่งขึ้นส
ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวันเพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้นณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”“.....”จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่“ลงมา”“.....”การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเ
เสียงฉีกขาดของเดรสแสนสวยก็ดังขึ้น กลายเป็นเศษผ้าขาดวิ่นไปตามแรงกระชากของมือใหญ่ เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มล้นออกมา“ทำอะไรของคุณ!” แพรวพรรณปัดป้องมือใหญ่พัลวัน“ทำให้คุณเห็นไงว่าคนที่กล้าตบผมจุดจบมันจะเป็นยังไง”ณภัทรไม่สนใจว่าแพรวพรรณจะเจ็บหรือหวาดกลัวแค่ไหนกับการกระทำของตน ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้มาก่อนความเกรี้ยวกราดจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาฝังเนินเนื้ออวบอิ่ม ปากหยักหนาดูดดึงขบเม้มบริเวณนั้นอย่างแรง จนผิวเนียนขึ้นรอยช้ำเป็นสีม่วง“ฮึก เจ็บ อย่า พอแล้วฉันเจ็บ” น้ำตาร่วงเผาะลงข้างแก้มใส เมื่อถูกซาตานร้ายกระทำอย่างป่าเถื่อนเสียงสะอื้นทำให้ณภัทรผละออกห่างจากผิวนวลเนียน ไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนที่เคยพยศจะเป็นเช่นไรดวงตากลมโตสั่นระริกสองแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างชอบใจ“ลองเจ็บดูบ้างไหมแพรวพรรณ ถ้าคุณยังกล้าทำผมเลือดออกอีกครั้ง รอยพวกนี้มันจะไม่อยู่แค่ตรงนี้ มันจะไปอยู่ทั่วเรือนร่างของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาตะคอกใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่คิดสงสารแพรวพรรณเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตากับดวงตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น“ถอดชุดออก” คำสั่
กลางดึกในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ ภายใน TClub สถานบันเทิงชื่อดังแหล่งรวบรวมอบายมุขทุกอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ ของมึนเมาหรือแม้แต่สิ่งต้องห้ามต่าง ๆ รวมไปถึงการพนันล้วนมีครบจบอยู่ในสถานที่แห่งนี้ถึงอย่างนั้นก็มีไม่กี่คนรู้ว่า ‘สิ่งต้องห้าม’ เหล่านั้นอยู่ชั้นไหนบ้างชั้นหนึ่งและสองเสียงบีทจังหวะสนุกสนาน ทำให้นักท่องราตรีต่างโยกย้ายส่ายสะโพกตามอย่างเมามัน ในค่ำคืนนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มนักดื่มขาประจำยังมีขาจรอย่าง แพรวพรรณและเขมจิรา ซึ่งหนึ่งในนั้นพึ่งกลับมาจากฝึกงานที่ฝรั่งเศสสาวสวยทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่โดยรอบ พวกเขาต่างก็อยากเข้ามาทำความรู้จัก เห็นได้ชัดจากสายตามองกันเป็นมันพวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอเขมจิรากลับมาจึงได้นัดฉลองตำแหน่ง ‘ผู้ช่วยดีไซเนอร์ฝึกหัด’ นี่ถือเป็นก้าวแรกของการเดินตามความฝัน ที่จะได้ก้าวขึ้นไปเป็น ‘ดีไซเนอร์หลัก’ ในบริษัทออกแบบชั้นนำของเมืองไทยแก้วสีอำพันในมือแพรวพรรณได้ยื่นออกมาข้างหน้า“แด่ความสำเร็จ”“ขอบคุณสำหรับมื้อนี้”ของเหลวรสชาติขมปร่าค่อย ๆ ไหลลงสู่ลำคอสวยทั้งสอง แก้วว่างเปล่าก็ชูสูงขึ้นในเวลาไล่เลี่ย
“ทำให้ผู้หญิงคนนั้นค้างกับกูที่นี่คืนหนึ่ง” สายตามาดร้ายยังไม่ละไปจากตำแหน่งเดิม แก้วเหล้าในมือณภัทรยกขึ้นดื่มหมดในครั้งเดียว“กูไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม! ไอ้ภัทรมันขอเอง” ทิวปากไวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเองผลัวะ!เสียงฝ่ามือฟาดลงไปบนหลังของคนขี้สงสัยฉาดใหญ่ ส่วนน้ำหนักคงไม่ต้องพูดถึงเพราะสามารถทำให้ทิวน้ำตาคลอออกมาได้“ไอ้เหี้ยกูเจ็บ” ทิวยกแขนขึ้นคลำหลังตัวเองปรอย ๆ“งั้นก็ช่วยหุบปากของมึงสักที” เสียงเข้มบอกอย่างเหลืออด“เออ!”“คนไหน?” ธาดายังมองไม่เห็นว่าจะมีผู้หญิงคนไหน พอจะตรงสเปคเพื่อนได้ จึงถามเพื่อหาพิกัดที่แน่นอน“โต๊ะริมในสุดโซนB ใส่เดรสสีดำนั่งอยู่กับเพื่อนใส่เกาะอกสีเดียวกัน ใกล้กับลูกน้องมึงยืนอยู่”ธาดาเพ่งสายตาไปยังจุดนั้น เมื่อได้เห็นคิ้วเข้มก็ขมวดด้วยความไม่เข้าใจ ท่าทางหรือแม้แต่จริตจะก้านของหล่อน ไม่มีจุดไหนพอจะดึงดูดเพื่อนได้เลย‘หรือรสนิยมของมันเปลี่ยนไป?’“เปลี่ยนรสนิยม?”ไม่ได้มีแค่ธาดาที่แปลกใจ ทิวเองก็เช่นกัน“นั่นดิ ไม่ใช่แบบที่มึงชอบเลยนะ”“กูไม่ได้จะเอาเพราะชอบ นั่นเป็นลูกของผู้ชายคนนั้นต่างหาก!” ณภัทรไม่แม้อยากจะเอ่ยชื่ออีกฝ่ายน้ำเสียงแข็
ณภัทรมองใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตรับกับจมูกโด่งสวยแต่ติดจะรั้นเสียมากกว่า ริมฝีปากอวบอิ่ม จากที่เห็นในภาพถ่ายและระยะไกลในความคิดติดจะธรรมดา แต่พอได้เห็นในระยะใกล้อย่างนี้ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเครื่องสำอางแต่งแต้มบางเบาจนแลดูเป็นธรรมชาติ แต่สองข้างแก้มแดงระเรื่อนั้นน่าจะเกิดมาจากยาของธาดาป้ายให้เธอมากกว่าหญิงสาวเป็นคนสวยคนหนึ่งแต่ออกน่ารัก มิน่าผู้ชายคนนั้นถึงได้หวงนักหนาไม่แม้จะให้ออกสื่อ แต่ถึงจะซ่อนไว้แค่ไหนก็ไม่มีทางรอดพ้นไปจากสายตาเขาหรอกยิ้มร้ายยกขึ้นเมื่อเห็นกิริยาตื่นกลัวของอีกฝ่ายว่ามีมากแค่ไหน“คุณคงอยากรู้สินะว่าผมเป็นใคร” เขาก้าวเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่ยืนสั่นเทาอยู่ริมห้องเมื่อได้เห็นดวงตาสวยสั่นระริกมากเท่าไหร่ ณภัทรก็ยิ่งนึกสนุกอยากให้ความหวาดกลัวเหล่านี้ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของผู้หญิงคนนี้ ให้เธอได้จดจำความรู้สึกที่ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้มันเป็นยังไง!“คุณ! ไม่ใช่เจ้าของคลับ” เสียงหวานทั้งสั่นและแผ่วเบา“แล้วใครว่าใช่ละ”เวลานี้แพรวพรรณรู้แล้วว่าตนโดนหลอก เรื่องทั้งหมดถูกจัดฉากขึ้นจากผู้ชายคนนี้ แต่ถึงจะรู้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว...“อย่าเข้ามานะ ฉันไปทำอะ
“ต้องการ! ต้องการอะไรงั้นเหรอ” “.....” “ว่าไง” ณภัทรถามย้ำ “ฉันต้องการคุณ” หลังจากเอ่ยคำน่าอายออกไป เปลือกตาของเธอก็ปิดลง หึ! สุ้มเสียงดูแคลนเปล่งผ่านลำคอชายหนุ่ม อยากเกิดมาเป็นลูกสาวของคนที่ทำลายครอบครัวเขาทำไมกัน! “คุณได้สมใจอยากแน่!” พันธนาการที่ตรึงถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แควก! เสียงฉีกขาดของเสื้อผ้าทำให้เปลือกตาปิดอยู่เบิกโพลง แขนเล็กยกขึ้นโอบกอดเรือนร่างเพื่อปกปิดเนื้อเนียนเอาไว้ “เปล่าประโยชน์น่า เอามือออก” เสียงแข็งออกคำสั่ง เขาชักหัวเสียกับการเล่นตัวไม่เลิกของเธอแล้ว ณภัทรคว้าข้อมือเล็กแยกออก เผยผิวเนียนละเอียดขาวผุดผ่องของเนินเนื้อนูนโผล่พ้นออกมาจากบราเนื้อดี ณภัทรกลืนน้ำลายอย่างหื่นกระหายเมื่อความสวยงามโชว์หราแก่สายตา ยามหน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอยู่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอดูดีกว่าผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา ริมฝีปากหยักหนาฝังจูบบนลำคอระหง “อ๊ะ” ความเจ็บแปลบแล่นขึ้น เมื่อถูกขบเม้มอย่างแรง ชายหนุ่มรุกรานเรือนร่างอ่อนนุ่มอย่างไม่ปรานี ลมหายใจร้อนผะผ่าวเป่ารดผิวเป็นดังเชื้อเพลิงชั้นดี ปลุกไฟปรารถนาให้ลุกโชนขึ้น หญิงสาวดิ้นพล่านสะโพกบางส่ายเร่าตามแรงอารมณ์ สติของเธอก
เสียงฉีกขาดของเดรสแสนสวยก็ดังขึ้น กลายเป็นเศษผ้าขาดวิ่นไปตามแรงกระชากของมือใหญ่ เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มล้นออกมา“ทำอะไรของคุณ!” แพรวพรรณปัดป้องมือใหญ่พัลวัน“ทำให้คุณเห็นไงว่าคนที่กล้าตบผมจุดจบมันจะเป็นยังไง”ณภัทรไม่สนใจว่าแพรวพรรณจะเจ็บหรือหวาดกลัวแค่ไหนกับการกระทำของตน ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้มาก่อนความเกรี้ยวกราดจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาฝังเนินเนื้ออวบอิ่ม ปากหยักหนาดูดดึงขบเม้มบริเวณนั้นอย่างแรง จนผิวเนียนขึ้นรอยช้ำเป็นสีม่วง“ฮึก เจ็บ อย่า พอแล้วฉันเจ็บ” น้ำตาร่วงเผาะลงข้างแก้มใส เมื่อถูกซาตานร้ายกระทำอย่างป่าเถื่อนเสียงสะอื้นทำให้ณภัทรผละออกห่างจากผิวนวลเนียน ไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนที่เคยพยศจะเป็นเช่นไรดวงตากลมโตสั่นระริกสองแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างชอบใจ“ลองเจ็บดูบ้างไหมแพรวพรรณ ถ้าคุณยังกล้าทำผมเลือดออกอีกครั้ง รอยพวกนี้มันจะไม่อยู่แค่ตรงนี้ มันจะไปอยู่ทั่วเรือนร่างของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาตะคอกใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่คิดสงสารแพรวพรรณเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตากับดวงตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น“ถอดชุดออก” คำสั่
ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวันเพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้นณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”“.....”จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่“ลงมา”“.....”การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเ
ลานจอดรถของโรงแรมชั้นพรีเมียมติ้ง!เมื่อประตูลิฟต์เปิดแพรวพรรณก็รีบเดินออกมา เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถเร่งจ้ำฝีเท้าโดยเร็วที่สุด พอเจอแล้วนิ้วเล็กกดปลดล็อก ดึงประตูฝั่งคนขับวางกระเป๋าลงไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็สอดตัวลงไปนั่งประจำที่คนขับ ทว่ากลับปิดประตูรถไม่ได้“คุณ!” แพรวพรรณมองมือใหญ่จับขอบประตูไว้ ก่อนจะเลื่อนไปยังใบหน้าเรียบตึง“คิดจะหนีผมงั้นเหรอ” ณภัทรถามเสียงแข็ง นัยน์ตาเคร่งขรึมก้มมองคนในรถ“ปล่อยมือของคุณออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” เธอคิดว่าตนเองออกมาเร็วแล้ว แต่ก็ยังหนีเขาไม่พ้น!ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้“ผมบอกคุณว่าไง ให้รอกลับพร้อมผมไม่ใช่เหรอ ไม่เอาแล้วใช่ไหมเงินทุนของนักเรียน”“คุณนี่มันเลวจริง ๆ งั้นก็แล้วแต่ละกัน จะจ่ายไม่จ่ายมันก็เรื่องของคุณ ถ้าคิดจะเอาเปรียบเด็ก ๆ ด้วยการใช้งานฟรี ๆ ก็แล้วแต่เลย ยังไงก็เป็นคนประเภทชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้วนี่ ส่วนของฉันก็จะถือเสียว่าทำบุญทำทานไปก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการเงินของคุณแม้แต่แดงเดียว!” นับเป็นประวัติศาสตร์ทีบริภาษยืดยาวใส่ใครสักคนอย่างนี้“ปากเก่งดีนี่ งั้นก็ช่วยเก่งให้ตลอดแล้วกัน” กรามแกร่งขึ้นส
แกรก!เมื่อทนฟังวาจาปรักปรำเหล่านั้นไม่ไหว แพรวพรรณจึงเปิดประตูออกมา“.....”“.....”หญิงสาวทั้งสองหันไปพร้อม ๆ กัน ดวงตาของพวกเธอเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินออกมาจากด้านหลัง“ตกใจเหรอคะที่เป็นฉัน!” ดวงตาวาวโรจน์มองหญิงสาวทั้งสอง ชุดที่พวกเธอสวมใส่ล้วนหรูหราดูแพงแต่วาจากลับต่ำตมสิ้นดี เธอเดินออกมายืนด้านนอก“อย่าคิดว่าคนอื่นจะนิสัยเหมือนตัวเองสิ” แพรวพรรณพูดต่อ“อย่าแก้ตัวไปหน่อยเลย” หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำขลับยาวละพื้นพูดอย่างเย้ยหยัน ในน้ำเสียงของเธอก็ยังดูแคลนแพรวพรรณอยู่“ฉันไม่ได้แก้ตัว อีกอย่างก็ไม่เคยคิดที่จะไปนอนให้ผู้ชายเอาเล่น ๆ แล้วเที่ยวออกมาป่าวประกาศในที่สาธารณะ ให้คนอื่นรับรู้อย่างพวกคุณ ไม่อายกันบ้างหรือคะ”“นี่แก!”คำบริภาษของแพรวพรรณทำให้สองสาวโมโห จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หนึ่งในนั้นปรี่เข้าหาหมายจะฟาดฝ่ามือบนแก้มเนียน ด้วยความที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วเธอจึงคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้ได้ทัน“สันดานคนมองกันจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ พวกคุณแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ใส่เพชรใส่พลอยหรูหรา แต่ทำไมถึงมีความคิดที่ต่ำ ให้ร้ายผู้หญิงด้วยกันได้ถึงขนาดนี้” พูดจบแพรวพรรณก็ผลักหญิงสาวออก
แพรวพรรณเลี่ยงออกมาจากกลุ่มของณภัทร หลังจากเขาออกไปคุยเรื่องงานกับลูกค้ารายสำคัญ ถึงแม้จะไม่ชอบเจ้าของงาน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นคนที่เก่งมาก ๆ อัญมณีถูกนำออกโชว์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากกลุ่มคุณหญิงคุณนายและเหล่าไฮโซ รวมไปถึงกลุ่มนักธุรกิจยังสนใจอยากจะร่วมลงทุนด้วยเธอยืนอยู่ตรงมุมห้องเพียงลำพัง ซึ่งงานประเภทนี้ตนไม่ค่อยถนัดเอาเสียเลย แม้กระทั่งในพีเจก็มีเพียงพ่อและอาสาวที่มักออกงานสังคมพวกนี้ จะว่าไปทำไมพวกท่านถึงไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย ทั้ง ๆ ที่อยู่แวดวงเดียวกัน!“สวัสดีครับผมชื่อริว บนเวทีคุณเต้นได้สวยมาก ๆ ไม่ทราบว่าสนใจอยากจะทำงานร่วมกับทางเราไหมครับ นี่ครับนามบัตรของผม”แพรวพรรณหันมาตามเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูงแต่งตัวภูมิฐาน กำลังส่งนามบัตรมาให้ เธอยิ้มให้กับเขา แล้วรับบัตรมาถือไว้“ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฉันไม่ได้รับงานแสดงเป็นประจำ ที่มาในวันนี้ก็เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีค่ะ” แพรวพรรณปฏิเสธเสียงนุ่ม“อ้อ ไม่เป็นไรครับ เผื่อว่าวันข้างหน้าคุณสนใจ ติดต่อมาได้ทุกเมื่อเลยนะครับ ผมชอบทักษะและไลน์เต้นของคุณมาก ถ้าหากมีโอกาสได้ร่วมงานกันคงดีไม่น้อย” ชายหนุ่มผู้มาใหม่ม
ครูสาวเดินนำลูกศิษย์ลงจากเวทีไปหาเจต ซึ่งยืนรอด้วยรอยยิ้มกว้างอยู่ด้านล่าง“เก่งมากครับ ทุกคนทำได้ดีมากเลยรู้ไหม”“ขอบคุณครับ, ขอบคุณค่ะ”คำชื่นชมจากผู้อำนวยการทำให้นักศึกษาหายเหนื่อยในพริบตา ปลาบปลื้มที่เจ้าของสถาบันให้ความสำคัญอย่างนี้“ขอบคุณแทนพวกเขาด้วยนะคะ” แพรวพรรณมองตามหลังนักศึกษากำลังแยกตัวกันออกไปทางประตูด้านข้าง“พี่ถึงบอกไง ว่างานนี้เด็ก ๆ จะได้รับโอกาสเยอะมาก”“งั้นแพรวขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”“ครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับแพรว! พี่ลืมเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอก”“เรื่องอะไรเหรอคะพี่เจต”“คือ...ตอนที่เจ้าของบริษัทขึ้นไปกล่าวเปิดงาน แพรวช่วยเอาดอกไม้ขึ้นไปมอบให้เขาหน่อยนะครับ”“ดอกไม้! ทำไมถึงเป็นแพรวล่ะคะ”“เมื่อกี้ตอนที่แพรวกำลังแสดงอยู่เขาบอกว่าชอบมาก ๆ ก็เลยอยากให้แพรวเป็นคนถือดอกไม้ขึ้นไปแล้วจะขอบคุณแพรวเองด้วยครับ”เจตประดิษฐ์ถ้อยคำเพื่อให้ครูสาวเข้าใจ นั่นก็เพราะเจ้าเพื่อนบ้าดันมาบอกเอาวินาทีสุดท้าย แล้วยังขู่อีกด้วยถ้าไม่ยอมเงินก็ไม่ต้องเอา ถึงจะรู้ว่าณภัทรพูดเล่นก็ตาม“.....”“นะครับพี่ขอร้องอีกสักครั้ง” แววตาเว้าวอนส่งให้ครูสาวต่อมา...“งานแสดงอัญมณี Gems of beauty f
แพรวพรรณนั่งตรงขอบเวที วันมาซ้อมหากมีจุดไหนต้องปรับแก้ค่อยว่ากันอีกที“แพรวจะให้เด็ก ๆ มาซ้อมกันที่นี่ช่วงไม่มีเรียน แพรวอาจจะไม่ได้เข้ามหาลัยพี่ไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”“พี่จะว่าอะไรละครับ งานนี้ต้องยกความดีให้แพรวสิถึงจะถูก” เขาส่งขวดน้ำให้กับเธอ“ความดีอะไรกันคะ เพื่อเด็ก ๆ ทั้งนั้น”“ก็นี่ไงความดี ถ้าไม่ได้แพรวพวกเขาก็ไม่ได้รับโอกาสนี้กันนะ”คำชื่นชมราวกับว่าทำความดีมากมายมหาศาล แพรวพรรณไม่กล้ากล่าวคำใดต่อ เกรงว่าจะเป็นการเสริมคำเยินยอไม่จบไม่สิ้น“งั้นแพรวขอตัวกลับก่อนนะคะ”“เอ่อ! นี่ก็จะเที่ยงแล้วเราไปกินข้าวกันก่อนดีไหมครับ”แพรวพรรณยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นมาดู เหลืออีกแค่ไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงแล้ว หากครั้งนี้ปฏิเสธอีกคงจะดูน่าเกลียด“ก็ได้ค่ะ แต่ขอเป็นร้านใกล้ ๆ นี้นะคะ”“ได้ครับ ร้านไหนก็ได้ตามใจแพรวเลย” เจตพูดด้วยความกระตือรือร้น ในที่สุดความพยายามของตนเองก็เกิดผล“จะยืนอยู่ตรงนี้อีกเหรอ! เธอกับไอ้เจตกำลังจะออกมาแล้วเห็นไหม” ทิวสะกิดณภัทร ยังเอาแต่จ้องมองสองคนนั้นอย่างไม่วางสายตา‘จะอยู่ให้ถูกจับได้หรือไง!’สองอาทิตย์ต่อมาบรรยากาศภายในห้องแต่งตัว ติดกับห้องจัดงานแสดงเครื่องเพชรเต็มไปด
โรงแรมทิมสัน เวลา 10:50 นาฬิกาแพรวพรรณเดินดูรอบ ๆ สถานที่จัดงาน เพราะอีกไม่กี่วันก็จะต้องพาลูกศิษย์มาซ้อม หลังจากกลับไปนอนคิดเรื่องนี้ ทบทวนถึงผลจะได้รับมีมากกว่าเสีย จึงตัดสินใจรับปากกับผู้อำนวยการของมหาลัย ซึ่งนักศึกษาเต็มใจเป็นอย่างมากทุกคนตื่นเต้นเมื่อจะได้ออกงานแสดงเป็นครั้งแรก“แล้วคนที่จ้างเราล่ะคะ แพรวยังไม่เห็นเขาเลย”“เขาไม่ว่างมาครับ แต่ส่งรายละเอียดมาให้พี่แล้วนะ”เจตเปิดข้อมูลให้กับครูสาวดู ก่อนหน้านี้เขาก็สงสัยว่าทำไมเจ้าตัวถึงไม่ยอมมาเอง ในเมื่อเป็นงานสำคัญ ณภัทรให้เหตุผลว่าติดงานด่วนจึงปลีกตัวมาไม่ได้“แพรวจะรู้ได้ยังไงคะว่าเขาต้องการให้เราจัดงานในรูปแบบไหน” เอารูปสินค้ามาให้เธอดูแล้วจะรู้ได้ยังไง แปลกคนจริง ๆ“นี่ครับ” เขาเปิดรูปแบบและชื่องานให้กับครูสาวดูอีกครั้ง“Gems of beauty for you that are precious” นิ้วเรียวเลื่อนรูปในมือถือของเจตไปเรื่อย ๆ เก็บทุกรายละเอียดที่เจ้าของงานถ่ายส่งมา จากนั้นก็ยื่นมือถือคืนให้กับเจต“เขาจะไม่เบี้ยวค่าจ้างเราใช่ไหมคะ” เพราะเป็นงานแรกที่ผู้ว่าจ้างไว้ใจทีมงานมาก ถึงขนาดปล่อยให้จัดการกันเอง“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เบี้ยวแน่นอนครับคนนี้ไว้ใจได้
“เออ ๆ ยังไงจะช่วยพูดกับแพรวให้แล้วกัน”“อืม” ณภัทรยกยิ้มให้เพื่อน ถ้าลองได้รับปากว่าจะช่วยออกมาแล้ว ไม่มีงานไหนที่เจตจะทำไม่สำเร็จ“กดดันกูนักนะมึง” เจตใช้สายตาเคร่งขรึมมองอีกคนอย่างหนักใจ ทว่าก็เข้าใจว่าเพื่อนคงหวังดีจริง ๆ มาคิดอีกทีข้อเสนอนี้ก็ไม่เลว!รุ่งเช้าอีกวันสายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำไหลลงกระทบผิวเรียบเนียนฝ่ามือน้อย ๆ ถูไถฟองนุ่มไปตามเรือนร่างช้า ๆ กลิ่นหอมของสบู่บวกกับน้ำเย็นสบายทำให้แพรวพรรณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายหญิงสาวต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าเนื่องจากมีสอน เพื่อที่จะไม่ต้องไปนั่งติดแหง็กอยู่บนรถเป็นชั่วโมงก็ต้องออกจากบ้านให้เร็วหน่อย“หวังว่ารถจะไม่ติดนะวันนี้” จากนั้นเสียงฮัมเพลงไปพร้อมกับการอาบน้ำก็คลอออกมาเบา ๆต่อมา…“มีสอนตอนเช้าเหรอแพรว” แพรวพราวเอ่ยถามลูกสาวกำลังเดินมาใกล้ กลิ่นหอมละมุนลอยมาแต่ไกล ยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นเมื่อเธอนั่งลงข้าง ๆ“ค่ะแม่ พ่อกับอาเกศไปทำงานแล้วเหรอคะ”“ไปกันตั้งแต่เช้าแล้ว”“ช่วงนี้หนูว่าพ่อกับอาเกศดูงานยุ่งมาก ๆ เลยนะคะไปแต่เช้ากลับค่ำทุกวันเลย”“ก็อย่างนี้แหละ งานออกแบบไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้”“ก็จริงค่ะ ก็มีแค่เรื่องนี้ที่หนูพอจะรู้ งั้นหนูไปก่อ