“เออ ๆ ยังไงจะช่วยพูดกับแพรวให้แล้วกัน”
“อืม” ณภัทรยกยิ้มให้เพื่อน ถ้าลองได้รับปากว่าจะช่วยออกมาแล้ว ไม่มีงานไหนที่เจตจะทำไม่สำเร็จ
“กดดันกูนักนะมึง” เจตใช้สายตาเคร่งขรึมมองอีกคนอย่างหนักใจ ทว่าก็เข้าใจว่าเพื่อนคงหวังดีจริง ๆ มาคิดอีกทีข้อเสนอนี้ก็ไม่เลว!
รุ่งเช้าอีกวัน
สายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำไหลลงกระทบผิวเรียบเนียนฝ่ามือน้อย ๆ ถูไถฟองนุ่มไปตามเรือนร่างช้า ๆ กลิ่นหอมของสบู่บวกกับน้ำเย็นสบายทำให้แพรวพรรณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย
หญิงสาวต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าเนื่องจากมีสอน เพื่อที่จะไม่ต้องไปนั่งติดแหง็กอยู่บนรถเป็นชั่วโมงก็ต้องออกจากบ้านให้เร็วหน่อย
“หวังว่ารถจะไม่ติดนะวันนี้” จากนั้นเสียงฮัมเพลงไปพร้อมกับการอาบน้ำก็คลอออกมาเบา ๆ
ต่อมา…
“มีสอนตอนเช้าเหรอแพรว” แพรวพราวเอ่ยถามลูกสาวกำลังเดินมาใกล้ กลิ่นหอมละมุนลอยมาแต่ไกล ยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นเมื่อเธอนั่งลงข้าง ๆ
“ค่ะแม่ พ่อกับอาเกศไปทำงานแล้วเหรอคะ”
“ไปกันตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ช่วงนี้หนูว่าพ่อกับอาเกศดูงานยุ่งมาก ๆ เลยนะคะไปแต่เช้ากลับค่ำทุกวันเลย”
“ก็อย่างนี้แหละ งานออกแบบไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้”
“ก็จริงค่ะ ก็มีแค่เรื่องนี้ที่หนูพอจะรู้ งั้นหนูไปก่อนนะคะ ออกช้าเดี๋ยวรถจะติด” แพรวพรรณหอมแก้มผู้เป็นแม่หลังจากนั้น
“ขับรถระวัง ๆ นะแพรว” แววตาห่วงใยทอดมองลูกสาว
“ค่ะแม่”
มหาลัยวิทยาลัยเจ
ครูสาวก้าวเข้ามายังห้องปฏิบัติการ ยิ้มสดใสส่งให้กับลูกศิษย์ที่รออยู่ก่อนแล้ว หนึ่งในนั้นเดินเข้ามาเสนอท่าใหม่ ๆ เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
การสอนประสบผลสำเร็จเพราะนักเรียนสามารถคิดค้นท่าทางออกมาได้เอง ความสุขมากกว่าการเป็นครูสอนพิเศษคือมิตรภาพ
ถึงแม้ว่าแพรวพรรณจะอายุห่างจากพวกเขาไม่มาก ทุกคนก็ยังให้ความเคารพเช่นนักเรียนมีให้กับครูคนหนึ่ง
วันนี้เป็นการทดสอบผลการฝึกซ้อมของครั้งที่แล้ว สายตาชื่นชมทอดมองนักเรียนของตนเองด้วยความภูมิใจ พวกเขาโชว์ผลงานออกมาได้เป็นอย่างดี จุดบกพร่องมีอยู่บ้างทว่าก็น้อยมาก ให้ปรับแก้ท่วงท่านิดหน่อยก็ได้แล้ว
แพรวพรรณปรบมือหลังจากลูกศิษย์กลุ่มสุดท้ายกลับเข้ามานั่งประจำที่
“เก่งมาก แสดงว่าขยันซ้อมกันดี ค่อยมีกำลังใจสอนต่อหน่อย”
“ถ้าเป็นอาจารย์พวกหนูขยันแน่นอนค่ะ” นักศึกษาหญิงนั่งอยู่หน้าสุดเอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง
“อาจารย์ต้องปล่อยเกรดให้พวกผมแล้วนะครับ” นักศึกษาชายนั่งริมสุดพูดต่อ
“ครูปล่อยแน่ถ้าวันสอบจริงพวกเธอทำออกมาได้ดีอย่างวันนี้ ตกลงไหม” แพรวพรรณหันไปทางนักศึกษาชายที่พูดออกมาเมื่อครู่ แล้วค่อยมองไปรอบ ๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
จากนั้นเสียงตอบรับอย่างแข็งขันก็ดังขึ้นพร้อมกัน พวกเขารักในการแสดง การเอาใจใส่จากครูสาวจึงเป็นแรงผลักดันที่ดี
แพรวพรรณให้ลูกศิษย์แยกย้ายกันไปซ้อม เมื่อโทรศัพท์แจ้งเตือนข้อความจากผู้อำนวยการเข้ามา
“มีอะไรอีกหรือเปล่านะ”
ห้องผู้อำนวยการ
“นั่งก่อนสิแพรว” เจตวางงานทุกอย่างลงแล้วเดินอ้อมมาหาเธอ
“พี่เจตมีอะไรให้แพรวช่วยเหรอคะ”
“นั่งลงก่อนสิ จะว่าให้ช่วยก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว คืออย่างนี้นะ มีคนอยากให้นักเรียนห้องแพรวไปแสดงในงานของเขาหน่อย” ชายหนุ่มเริ่มเข้าประเด็นเมื่อทั้งคู่นั่งเรียบร้อยแล้ว
“ห้องแพรว?”
“ใช่ห้องที่แพรวสอนพิเศษนั่นแหละ”
“ทำไมถึงเป็นห้องแพรวล่ะคะ ห้องใหญ่น่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอพี่เจต” แพรวพรรณเสนอห้องใหญ่ซึ่งหมายถึงสาขาการแสดงที่เรียนกันประจำไม่ใช่ห้องเรียนเสริมพิเศษอย่างนี้
“เพราะห้องที่แพรวสอนเก่งที่สุดไงครับ” เจตพูดตามความจริง เท่าที่เขาเห็นหากจะให้ห้องไหนไปก็น่าจะเป็นห้องของแพรวพรรณนี่แหละ เหมาะสมที่สุดแล้ว
“แต่แพรวว่าห้องของอาจารย์ท่านอื่นก็เก่งไม่แพ้กันนะคะ”
“พี่รู้ครับ แต่เจ้าของงานเขาอยากได้ห้องของแพรวไง”
“เขารู้จักแพรวด้วยงั้นเหรอคะ!”
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ แต่เป็นคนที่คุณอาแนะนำมา เขาน่าจะไปปรึกษางานนี้กันก่อน แล้วค่อยมาหาพี่น่ะ”
เมื่อรู้อย่างนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ อาของเจตเคยเห็นตนเองขึ้นแสดงมาก่อนแล้ว ทว่างานนอกสถานที่อย่างนี้ไม่อยากรับเลย
“พี่เข้าใจนะ แค่แพรวมาช่วยสอนพิเศษให้เด็ก ๆ ก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว” เมื่อเห็นสีหน้าแพรวพรรณแสดงถึงความลำบากใจ เจตจึงลดความกดดันนั่นลง
“ขอบคุณนะคะพี่เจตที่เข้าใจ”
“ครับ แต่พี่เสียดายโอกาสดี ๆ ของนักเรียนได้รับในงานนี้นี่สิ” ชายหนุ่มเริ่มหาข้อเสียในการปฏิเสธงานในครั้งนี้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวพอพวกเขาจบไปโอกาสเหล่านี้ก็จะเข้ามาหาเอง ถ้ายังมีใจรักในการแสดงอยู่” แพรวพรรณยังไม่อยากรับงานนี้จริง ๆ เนื่องจากเล็งเห็นข้อเสียอยู่ หากว่ารับไปแล้วมีข้อผิดพลาดอาจจะทำให้เสียชื่อเสียงของสถาบันได้
“ไม่ใช่โอกาสแบบนั้นนะสิแพรว พี่หมายถึงเขาจะให้ทุนกับมหาลัยเรา ถึงหนึ่งร้อยทุน หากเราได้ส่วนนี้มาจะช่วยนักเรียนได้อีกหลายคน”
“เขาให้ทุนด้วยเหรอคะ”
“ใช่ครับ ถ้าแพรวตกลงเด็ก ๆ จะได้ทั้งค่าเหนื่อย และได้ช่วยเพื่อนคนอื่นด้วย แพรวก็รู้นี่ว่าเด็กมาเรียนไม่ได้มีแค่ลูกคนรวย ที่ต้องสอบชิงทุนเข้ามาก็มีไม่น้อย พวกเขาจะได้แบ่งเบาภาระจากทางบ้านไปอีกเยอะเลย”
เจตสังเกตปฏิกิริยาของแพรวพรรณ หลังจากฟังคำพูดของตนเองไป อาการนิ่งอย่างนี้หมายความว่าเธอกำลังลังเลอยู่
“ก็จริงที่ว่าทางมหาลัยของเรามีเงินทุนส่วนนี้อยู่แล้ว แต่นักศึกษาเข้ามาทุกปีที่ยังขาดแคลนเรื่องทุนก็มีเยอะเหมือนกัน จะให้ครบทุกคนพี่ก็ทำไม่ได้” ตีเหล็กมันก็ต้องตีตอนที่ยังร้อน ๆ นี่แหละ
กลางดึกในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ ภายใน TClub สถานบันเทิงชื่อดังแหล่งรวบรวมอบายมุขทุกอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ ของมึนเมาหรือแม้แต่สิ่งต้องห้ามต่าง ๆ รวมไปถึงการพนันล้วนมีครบจบอยู่ในสถานที่แห่งนี้ถึงอย่างนั้นก็มีไม่กี่คนรู้ว่า ‘สิ่งต้องห้าม’ เหล่านั้นอยู่ชั้นไหนบ้างชั้นหนึ่งและสองเสียงบีทจังหวะสนุกสนาน ทำให้นักท่องราตรีต่างโยกย้ายส่ายสะโพกตามอย่างเมามัน ในค่ำคืนนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มนักดื่มขาประจำยังมีขาจรอย่าง แพรวพรรณและเขมจิรา ซึ่งหนึ่งในนั้นพึ่งกลับมาจากฝึกงานที่ฝรั่งเศสสาวสวยทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่โดยรอบ พวกเขาต่างก็อยากเข้ามาทำความรู้จัก เห็นได้ชัดจากสายตามองกันเป็นมันพวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอเขมจิรากลับมาจึงได้นัดฉลองตำแหน่ง ‘ผู้ช่วยดีไซเนอร์ฝึกหัด’ นี่ถือเป็นก้าวแรกของการเดินตามความฝัน ที่จะได้ก้าวขึ้นไปเป็น ‘ดีไซเนอร์หลัก’ ในบริษัทออกแบบชั้นนำของเมืองไทยแก้วสีอำพันในมือแพรวพรรณได้ยื่นออกมาข้างหน้า“แด่ความสำเร็จ”“ขอบคุณสำหรับมื้อนี้”ของเหลวรสชาติขมปร่าค่อย ๆ ไหลลงสู่ลำคอสวยทั้งสอง แก้วว่างเปล่าก็ชูสูงขึ้นในเวลาไล่เลี่ย
“ทำให้ผู้หญิงคนนั้นค้างกับกูที่นี่คืนหนึ่ง” สายตามาดร้ายยังไม่ละไปจากตำแหน่งเดิม แก้วเหล้าในมือณภัทรยกขึ้นดื่มหมดในครั้งเดียว“กูไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม! ไอ้ภัทรมันขอเอง” ทิวปากไวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเองผลัวะ!เสียงฝ่ามือฟาดลงไปบนหลังของคนขี้สงสัยฉาดใหญ่ ส่วนน้ำหนักคงไม่ต้องพูดถึงเพราะสามารถทำให้ทิวน้ำตาคลอออกมาได้“ไอ้เหี้ยกูเจ็บ” ทิวยกแขนขึ้นคลำหลังตัวเองปรอย ๆ“งั้นก็ช่วยหุบปากของมึงสักที” เสียงเข้มบอกอย่างเหลืออด“เออ!”“คนไหน?” ธาดายังมองไม่เห็นว่าจะมีผู้หญิงคนไหน พอจะตรงสเปคเพื่อนได้ จึงถามเพื่อหาพิกัดที่แน่นอน“โต๊ะริมในสุดโซนB ใส่เดรสสีดำนั่งอยู่กับเพื่อนใส่เกาะอกสีเดียวกัน ใกล้กับลูกน้องมึงยืนอยู่”ธาดาเพ่งสายตาไปยังจุดนั้น เมื่อได้เห็นคิ้วเข้มก็ขมวดด้วยความไม่เข้าใจ ท่าทางหรือแม้แต่จริตจะก้านของหล่อน ไม่มีจุดไหนพอจะดึงดูดเพื่อนได้เลย‘หรือรสนิยมของมันเปลี่ยนไป?’“เปลี่ยนรสนิยม?”ไม่ได้มีแค่ธาดาที่แปลกใจ ทิวเองก็เช่นกัน“นั่นดิ ไม่ใช่แบบที่มึงชอบเลยนะ”“กูไม่ได้จะเอาเพราะชอบ นั่นเป็นลูกของผู้ชายคนนั้นต่างหาก!” ณภัทรไม่แม้อยากจะเอ่ยชื่ออีกฝ่ายน้ำเสียงแข็
ณภัทรมองใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตรับกับจมูกโด่งสวยแต่ติดจะรั้นเสียมากกว่า ริมฝีปากอวบอิ่ม จากที่เห็นในภาพถ่ายและระยะไกลในความคิดติดจะธรรมดา แต่พอได้เห็นในระยะใกล้อย่างนี้ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเครื่องสำอางแต่งแต้มบางเบาจนแลดูเป็นธรรมชาติ แต่สองข้างแก้มแดงระเรื่อนั้นน่าจะเกิดมาจากยาของธาดาป้ายให้เธอมากกว่าหญิงสาวเป็นคนสวยคนหนึ่งแต่ออกน่ารัก มิน่าผู้ชายคนนั้นถึงได้หวงนักหนาไม่แม้จะให้ออกสื่อ แต่ถึงจะซ่อนไว้แค่ไหนก็ไม่มีทางรอดพ้นไปจากสายตาเขาหรอกยิ้มร้ายยกขึ้นเมื่อเห็นกิริยาตื่นกลัวของอีกฝ่ายว่ามีมากแค่ไหน“คุณคงอยากรู้สินะว่าผมเป็นใคร” เขาก้าวเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่ยืนสั่นเทาอยู่ริมห้องเมื่อได้เห็นดวงตาสวยสั่นระริกมากเท่าไหร่ ณภัทรก็ยิ่งนึกสนุกอยากให้ความหวาดกลัวเหล่านี้ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของผู้หญิงคนนี้ ให้เธอได้จดจำความรู้สึกที่ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้มันเป็นยังไง!“คุณ! ไม่ใช่เจ้าของคลับ” เสียงหวานทั้งสั่นและแผ่วเบา“แล้วใครว่าใช่ละ”เวลานี้แพรวพรรณรู้แล้วว่าตนโดนหลอก เรื่องทั้งหมดถูกจัดฉากขึ้นจากผู้ชายคนนี้ แต่ถึงจะรู้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว...“อย่าเข้ามานะ ฉันไปทำอะ
“ต้องการ! ต้องการอะไรงั้นเหรอ” “.....” “ว่าไง” ณภัทรถามย้ำ “ฉันต้องการคุณ” หลังจากเอ่ยคำน่าอายออกไป เปลือกตาของเธอก็ปิดลง หึ! สุ้มเสียงดูแคลนเปล่งผ่านลำคอชายหนุ่ม อยากเกิดมาเป็นลูกสาวของคนที่ทำลายครอบครัวเขาทำไมกัน! “คุณได้สมใจอยากแน่!” พันธนาการที่ตรึงถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แควก! เสียงฉีกขาดของเสื้อผ้าทำให้เปลือกตาปิดอยู่เบิกโพลง แขนเล็กยกขึ้นโอบกอดเรือนร่างเพื่อปกปิดเนื้อเนียนเอาไว้ “เปล่าประโยชน์น่า เอามือออก” เสียงแข็งออกคำสั่ง เขาชักหัวเสียกับการเล่นตัวไม่เลิกของเธอแล้ว ณภัทรคว้าข้อมือเล็กแยกออก เผยผิวเนียนละเอียดขาวผุดผ่องของเนินเนื้อนูนโผล่พ้นออกมาจากบราเนื้อดี ณภัทรกลืนน้ำลายอย่างหื่นกระหายเมื่อความสวยงามโชว์หราแก่สายตา ยามหน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอยู่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอดูดีกว่าผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา ริมฝีปากหยักหนาฝังจูบบนลำคอระหง “อ๊ะ” ความเจ็บแปลบแล่นขึ้น เมื่อถูกขบเม้มอย่างแรง ชายหนุ่มรุกรานเรือนร่างอ่อนนุ่มอย่างไม่ปรานี ลมหายใจร้อนผะผ่าวเป่ารดผิวเป็นดังเชื้อเพลิงชั้นดี ปลุกไฟปรารถนาให้ลุกโชนขึ้น หญิงสาวดิ้นพล่านสะโพกบางส่ายเร่าตามแรงอารมณ์ สติของเธอก
สองเดือนต่อมาตึกสูงตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองใหญ่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร มีบริษัทน้อยใหญ่มากมายในพื้นที่นี้ เนื่องจากโดยรอบเจริญทั้งด้านการค้าทั้งสะดวกการเดินทาง และง่ายต่อการติดต่อธุรกิจจึงเป็นทางเลือกของนักลงทุนระดับใหญ่ รวมไปถึงบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายจิวเวลรี่ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง เอ็นเจดับบิล ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 21 ณ.ตึกสูงแห่งนี้‘บริษัทเอ็นเจดับบิล’ ไม่เพียงแค่ผลิตเครื่องประดับและอัญมณีส่งขายในเมืองไทย ยังส่งออกไปยังต่างประเทศ ลูกค้ามากมายเข้ามาสั่งซื้อติดต่อกันเป็นเวลานานหลายสิบปี นับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมาโดยมีผู้บริหารสูงสุดคือ นายณธี อินตานนท์ หนึ่งในนักธุรกิจที่เก่งของวงการนี้ เขาสามารถนำพาบริษัทยืนหยัดมาได้อย่างยาวนาน แม้จะมีคู่แข่งมากมายณธีใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตของเขาสร้างบริษัทให้มีความเจริญก้าวหน้า ชื่อเสียงแผ่ขยายเป็นวงกว้างเป็นที่นับหน้าถือตา ผลักดันเอ็นเจดับบิลเจริญรุ่งเรืองมาถึงจุดสูงสุด เม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสายแล้วธุรกิจนี้อีกเช่นกันสร้างรายได้มหาศาล สามารถส่งลูกชายเพียงคนเดียวไปเล่าเรียนยังเมืองนอกเมืองนาสมดั่งวาดหวังไว้ พอลูกชายจบกลับมาจะได
เขาจะเหยียบให้พีเจจมลงไปยิ่งกว่าที่เอ็นเจดับบิลเคยเจอ!นักธุรกิจหนุ่มวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะทำงาน ใบหน้ามีสีสันเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน แผ่นหลังกว้างเอนไปด้านหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ นัยน์ตาสีดำขลับมองลูกน้องคนสนิท“มีอะไรอีกหรือเปล่า ถ้าไม่...”“มีครับ เรื่องคุณภัทรให้ผมตามสืบเกี่ยวกับลูกสาวของ...” ครรชิตหยุดพูดเพียงเท่านั้น เพราะไม่กล้าเอ่ยชื่อคนซึ่งอาจจะทำให้บรรยากาศภายในห้องเปลี่ยนไปอ้อ! นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วกับ ‘เหตุการณ์’ ในคลับของธาดา เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานจนลืมไปเสียสนิทว่าเคยสั่งลูกน้องสืบเรื่องของเธอ“ฉันเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย ได้ความว่าไงบ้าง”“เท่าที่ผมเห็นเธอไม่เคยเข้าบริษัทพีเจครับ แต่ไปมหาลัยคุณเจตอาทิตย์ละสามหรือสี่ครั้งแทน”“หื้ม! มหาลัยไอ้เจตงั้นเหรอ”“ครับ เธอเป็นครูสอนพิเศษที่นั่น”นอกจากการเอาคืนพีเจ ชายหนุ่มก็แทบไม่สนใจเรื่องความเป็นมาของครอบครัวนั้นเลย เขารู้เพียงว่าสมาชิกทั้งหมดมีใครบ้าง น้องสาวทำงานอยู่ด้วยกันส่วนภรรยาก็อยู่แต่ในบ้านส่วน ‘ลูกสาว’ สุดที่รักก็แทบจะไม่มีใครได้เห็น คงรักมากถึงได้เลี้ยงอย่างตามใจให้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ กรามแกร่งขบเข้าห
“วันนี้แพรวว่างไหมไปกินข้าวกัน”“พอดีแพรวนัดเพื่อนไว้แล้วค่ะ ไว้วันอื่นได้ไหมคะพี่เจต” เธอปฏิเสธเขาเช่นเคย แต่จะว่าปฏิเสธเลยก็ไม่ได้ในเมื่อมีนัดแล้วจริง ๆ“ว้า! เสียดายจังงั้นเป็นวันอื่นก็ได้ครับ” สีหน้าของผู้อำนวยการหนุ่มฉายแววออกมาชัดเจนว่าผิดหวัง จากนั้นก็เดินออกมาส่งหญิงสาว แม้จะโดนปฏิเสธอีกครั้งแต่เขาก็ยังปฏิบัติกับแพรวพรรณเช่นปกติ“ไว้เจอกันใหม่นะครับ”“ขอบคุณนะคะ”เวลา 13.41นาฬิกาแพรวพรรณมาถึงห้างสรรพสินค้าซึ่งนัดกับเขมจิราไว้ รอยยิ้มแสนหวานที่หลาย ๆ คนต่างชื่นชมและหลงเสน่ห์ผุดขึ้น เมื่อเข็มยาวได้ชี้บอกว่าได้เลยเวลานัดมาเกือบจะยี่สิบนาทีแล้ว“โทษทีนะแกที่มาช้าพอดีรถติด”“ไม่เป็นไรนั่งก่อน ฉันก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน”“จริงเหรอ สั่งอะไรมายัง?” เธอหันไปวางกระเป๋าลงเก้าอี้ข้างตัวแล้วหันกลับมาถามเขมจิราที่ยังดูเมนูในมือ“ยังฉันรอแกมาสั่งเอง” เขมจิราละสายตาจากเมนู หันมาตอบแพรวพรรณแต่คำตอบของเธอกลับได้สายตาค้อนของเพื่อนกลับมาแทน“ทำไมต้องรอฉันด้วยล่ะ แกอยากกินอะไรก็สั่งไปเลยหรือสั่งเหมือนที่เคยกินก็ได้” น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความใส่ใจ ไม่อยากให้เพื่อนมาคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้เลยจริ
หลายวันต่อมาบรรยากาศภายในห้องทำงานของ ไพศาล วีรกุล เต็มไปด้วยความตึงเครียด งานส่งไปเสนอถูกตีกลับมาเกือบทั้งหมด ระยะนี้ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนล้วนถูกปฏิเสธ ที่ตอบรับก็เป็นแค่งานชิ้นเล็ก ๆ แทบจะไม่ได้กำไรอะไร เขาวางเอกสารลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองน้องสาวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“เราจะเอายังไงต่อไปดีคะ แทบจะไม่มีบริษัทไหนสนใจข้อเสนอของเราเลย” เกศหรือเกวริน น้องสาวเพียงคนเดียวของไพศาล เธอเป็นลูกหลงอายุห่างจากเขาถึง 15 ปี หลังจากเรียนจบก็เข้ามาช่วยงานพี่ชาย“อย่าพึ่งหมดหวัง ตราบใดงานยังดำเนินต่อไปได้ พี่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก”“ขอให้ที่เหลือเลือกเรา ไม่เอนเอียงไปทางนั้นอีก”จบคำพูดของน้องสาวไพศาลก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่“เป็นเพราะพี่แท้ ๆ หากตอนนั้นตาไม่มืดบอด มองเห็นแต่ผลประโยชน์ พีเจก็คงจะไม่โดนหนักขนาดนี้”“พี่อย่าโทษแต่ตัวเองอีกเลย ยังไงเราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้นายชานนท์ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้”“พี่ขอนะเกศ เรื่องนี้อย่าให้ยัยหนูรู้เด็ดขาด พี่จะทำทุกวิถีทางให้พีเจกลับมาเป็นเหมือนเดิม” เขากลัวมากว่าเรื่องนี้จะรู้ถึงหูลูกสาว เพราะเธอไม่ได้เรียนสายนี้มาไม่อยากให้เป็นกังวลไปด้วย‘ลูกสาวจะต้องมี
“เออ ๆ ยังไงจะช่วยพูดกับแพรวให้แล้วกัน”“อืม” ณภัทรยกยิ้มให้เพื่อน ถ้าลองได้รับปากว่าจะช่วยออกมาแล้ว ไม่มีงานไหนที่เจตจะทำไม่สำเร็จ“กดดันกูนักนะมึง” เจตใช้สายตาเคร่งขรึมมองอีกคนอย่างหนักใจ ทว่าก็เข้าใจว่าเพื่อนคงหวังดีจริง ๆ มาคิดอีกทีข้อเสนอนี้ก็ไม่เลว!รุ่งเช้าอีกวันสายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำไหลลงกระทบผิวเรียบเนียนฝ่ามือน้อย ๆ ถูไถฟองนุ่มไปตามเรือนร่างช้า ๆ กลิ่นหอมของสบู่บวกกับน้ำเย็นสบายทำให้แพรวพรรณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายหญิงสาวต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าเนื่องจากมีสอน เพื่อที่จะไม่ต้องไปนั่งติดแหง็กอยู่บนรถเป็นชั่วโมงก็ต้องออกจากบ้านให้เร็วหน่อย“หวังว่ารถจะไม่ติดนะวันนี้” จากนั้นเสียงฮัมเพลงไปพร้อมกับการอาบน้ำก็คลอออกมาเบา ๆต่อมา…“มีสอนตอนเช้าเหรอแพรว” แพรวพราวเอ่ยถามลูกสาวกำลังเดินมาใกล้ กลิ่นหอมละมุนลอยมาแต่ไกล ยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นเมื่อเธอนั่งลงข้าง ๆ“ค่ะแม่ พ่อกับอาเกศไปทำงานแล้วเหรอคะ”“ไปกันตั้งแต่เช้าแล้ว”“ช่วงนี้หนูว่าพ่อกับอาเกศดูงานยุ่งมาก ๆ เลยนะคะไปแต่เช้ากลับค่ำทุกวันเลย”“ก็อย่างนี้แหละ งานออกแบบไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้”“ก็จริงค่ะ ก็มีแค่เรื่องนี้ที่หนูพอจะรู้ งั้นหนูไปก่อ
“ถ้าไม่มีอะไรจะมาหา ผอ.อย่างมึงไม่ได้เหรอ”“อย่างกูมันทำไม พูดดี ๆ นะไอ้ภัทร”“ต้องให้บอกด้วยเหรอ ระวังไว้เถอะสักวันจะโป๊ะแตก เจอลูกศิษย์ตัวเองเข้าสักวัน”“กวนกูอีก ตกลงมานี่มีอะไร” เจตตัดบทกวน ๆ ของเพื่อนแล้วเข้าประเด็นในทันที“ถ้ากลัวก็หยุดทำตัวแบบนั้นก็จบ” อยู่ข้างนอกเจตจะไม่ใช่คนนิ่งและเคร่งขรึมเหมือนเช่นตอนนี้เลย“เลิกให้โง่! เอาดี ๆ มีอะไรก็ว่ามา ลีลาอยู่นั่นกูมีงานต้องทำต่อนะ” ใครมันจะไปเลิกทำสิ่งที่ชอบได้ ชายหนุ่มเลี่ยงพูดเรื่องที่จะเข้าตัวเองไปมากกว่านี้มาอีหรอบนี้คงจะให้หา ‘ของ’ ให้สินะ พวกนักธุรกิจพออยากได้อะไร เป็นต้องหาคำว่านล้อมอีกฝั่งให้ยอมจำนนจนได้สิน่า“กูไม่ได้จะให้มึงช่วยฟรี ๆ สักหน่อย ทำเป็นอารมณ์เสียไปได้”“หึ” ผิดจากที่เขาคิดที่ไหนล่ะ“ทุนการศึกษาร้อยทุน เท่านี้พอที่จะทำให้มึงช่วยกูได้ไหม”“ร้อยทุน! ทุนละเท่าไหร่” อันที่จริงก็จะตอบตกลงตั้งแต่แรกนั่นแหละ“ห้าพัน เอาไม่เอา ไม่เอากูกลับ”“เฮ้ย ๆ เดี๋ยวก่อนสิ เป็นนักธุรกิจประสาอะไรใจร้อนแบบนี้วะ นั่งลงก่อน” เจตรั้งณภัทรไว้เสียก่อนที่อีกคนจะลุกออกไป“ก็แค่นี้ทำเป็นลีลาอยู่นั่น”“ลงทุนขนาดนี้งานคงไม่ธรรมดาแน่ไหนลองว่า
หลายวันต่อมาบรรยากาศภายในห้องทำงานของ ไพศาล วีรกุล เต็มไปด้วยความตึงเครียด งานส่งไปเสนอถูกตีกลับมาเกือบทั้งหมด ระยะนี้ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนล้วนถูกปฏิเสธ ที่ตอบรับก็เป็นแค่งานชิ้นเล็ก ๆ แทบจะไม่ได้กำไรอะไร เขาวางเอกสารลงแล้วเงยหน้าขึ้นมองน้องสาวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“เราจะเอายังไงต่อไปดีคะ แทบจะไม่มีบริษัทไหนสนใจข้อเสนอของเราเลย” เกศหรือเกวริน น้องสาวเพียงคนเดียวของไพศาล เธอเป็นลูกหลงอายุห่างจากเขาถึง 15 ปี หลังจากเรียนจบก็เข้ามาช่วยงานพี่ชาย“อย่าพึ่งหมดหวัง ตราบใดงานยังดำเนินต่อไปได้ พี่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก”“ขอให้ที่เหลือเลือกเรา ไม่เอนเอียงไปทางนั้นอีก”จบคำพูดของน้องสาวไพศาลก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่“เป็นเพราะพี่แท้ ๆ หากตอนนั้นตาไม่มืดบอด มองเห็นแต่ผลประโยชน์ พีเจก็คงจะไม่โดนหนักขนาดนี้”“พี่อย่าโทษแต่ตัวเองอีกเลย ยังไงเราก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้นายชานนท์ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้”“พี่ขอนะเกศ เรื่องนี้อย่าให้ยัยหนูรู้เด็ดขาด พี่จะทำทุกวิถีทางให้พีเจกลับมาเป็นเหมือนเดิม” เขากลัวมากว่าเรื่องนี้จะรู้ถึงหูลูกสาว เพราะเธอไม่ได้เรียนสายนี้มาไม่อยากให้เป็นกังวลไปด้วย‘ลูกสาวจะต้องมี
“วันนี้แพรวว่างไหมไปกินข้าวกัน”“พอดีแพรวนัดเพื่อนไว้แล้วค่ะ ไว้วันอื่นได้ไหมคะพี่เจต” เธอปฏิเสธเขาเช่นเคย แต่จะว่าปฏิเสธเลยก็ไม่ได้ในเมื่อมีนัดแล้วจริง ๆ“ว้า! เสียดายจังงั้นเป็นวันอื่นก็ได้ครับ” สีหน้าของผู้อำนวยการหนุ่มฉายแววออกมาชัดเจนว่าผิดหวัง จากนั้นก็เดินออกมาส่งหญิงสาว แม้จะโดนปฏิเสธอีกครั้งแต่เขาก็ยังปฏิบัติกับแพรวพรรณเช่นปกติ“ไว้เจอกันใหม่นะครับ”“ขอบคุณนะคะ”เวลา 13.41นาฬิกาแพรวพรรณมาถึงห้างสรรพสินค้าซึ่งนัดกับเขมจิราไว้ รอยยิ้มแสนหวานที่หลาย ๆ คนต่างชื่นชมและหลงเสน่ห์ผุดขึ้น เมื่อเข็มยาวได้ชี้บอกว่าได้เลยเวลานัดมาเกือบจะยี่สิบนาทีแล้ว“โทษทีนะแกที่มาช้าพอดีรถติด”“ไม่เป็นไรนั่งก่อน ฉันก็พึ่งมาถึงเหมือนกัน”“จริงเหรอ สั่งอะไรมายัง?” เธอหันไปวางกระเป๋าลงเก้าอี้ข้างตัวแล้วหันกลับมาถามเขมจิราที่ยังดูเมนูในมือ“ยังฉันรอแกมาสั่งเอง” เขมจิราละสายตาจากเมนู หันมาตอบแพรวพรรณแต่คำตอบของเธอกลับได้สายตาค้อนของเพื่อนกลับมาแทน“ทำไมต้องรอฉันด้วยล่ะ แกอยากกินอะไรก็สั่งไปเลยหรือสั่งเหมือนที่เคยกินก็ได้” น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความใส่ใจ ไม่อยากให้เพื่อนมาคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้เลยจริ
เขาจะเหยียบให้พีเจจมลงไปยิ่งกว่าที่เอ็นเจดับบิลเคยเจอ!นักธุรกิจหนุ่มวางซองเอกสารสีน้ำตาลลงบนโต๊ะทำงาน ใบหน้ามีสีสันเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน แผ่นหลังกว้างเอนไปด้านหลังพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่ นัยน์ตาสีดำขลับมองลูกน้องคนสนิท“มีอะไรอีกหรือเปล่า ถ้าไม่...”“มีครับ เรื่องคุณภัทรให้ผมตามสืบเกี่ยวกับลูกสาวของ...” ครรชิตหยุดพูดเพียงเท่านั้น เพราะไม่กล้าเอ่ยชื่อคนซึ่งอาจจะทำให้บรรยากาศภายในห้องเปลี่ยนไปอ้อ! นี่ก็ผ่านมาเป็นเดือนแล้วกับ ‘เหตุการณ์’ ในคลับของธาดา เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับงานจนลืมไปเสียสนิทว่าเคยสั่งลูกน้องสืบเรื่องของเธอ“ฉันเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลย ได้ความว่าไงบ้าง”“เท่าที่ผมเห็นเธอไม่เคยเข้าบริษัทพีเจครับ แต่ไปมหาลัยคุณเจตอาทิตย์ละสามหรือสี่ครั้งแทน”“หื้ม! มหาลัยไอ้เจตงั้นเหรอ”“ครับ เธอเป็นครูสอนพิเศษที่นั่น”นอกจากการเอาคืนพีเจ ชายหนุ่มก็แทบไม่สนใจเรื่องความเป็นมาของครอบครัวนั้นเลย เขารู้เพียงว่าสมาชิกทั้งหมดมีใครบ้าง น้องสาวทำงานอยู่ด้วยกันส่วนภรรยาก็อยู่แต่ในบ้านส่วน ‘ลูกสาว’ สุดที่รักก็แทบจะไม่มีใครได้เห็น คงรักมากถึงได้เลี้ยงอย่างตามใจให้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ กรามแกร่งขบเข้าห
สองเดือนต่อมาตึกสูงตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองใหญ่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร มีบริษัทน้อยใหญ่มากมายในพื้นที่นี้ เนื่องจากโดยรอบเจริญทั้งด้านการค้าทั้งสะดวกการเดินทาง และง่ายต่อการติดต่อธุรกิจจึงเป็นทางเลือกของนักลงทุนระดับใหญ่ รวมไปถึงบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายจิวเวลรี่ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง เอ็นเจดับบิล ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 21 ณ.ตึกสูงแห่งนี้‘บริษัทเอ็นเจดับบิล’ ไม่เพียงแค่ผลิตเครื่องประดับและอัญมณีส่งขายในเมืองไทย ยังส่งออกไปยังต่างประเทศ ลูกค้ามากมายเข้ามาสั่งซื้อติดต่อกันเป็นเวลานานหลายสิบปี นับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมาโดยมีผู้บริหารสูงสุดคือ นายณธี อินตานนท์ หนึ่งในนักธุรกิจที่เก่งของวงการนี้ เขาสามารถนำพาบริษัทยืนหยัดมาได้อย่างยาวนาน แม้จะมีคู่แข่งมากมายณธีใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตของเขาสร้างบริษัทให้มีความเจริญก้าวหน้า ชื่อเสียงแผ่ขยายเป็นวงกว้างเป็นที่นับหน้าถือตา ผลักดันเอ็นเจดับบิลเจริญรุ่งเรืองมาถึงจุดสูงสุด เม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสายแล้วธุรกิจนี้อีกเช่นกันสร้างรายได้มหาศาล สามารถส่งลูกชายเพียงคนเดียวไปเล่าเรียนยังเมืองนอกเมืองนาสมดั่งวาดหวังไว้ พอลูกชายจบกลับมาจะได
“ต้องการ! ต้องการอะไรงั้นเหรอ” “.....” “ว่าไง” ณภัทรถามย้ำ “ฉันต้องการคุณ” หลังจากเอ่ยคำน่าอายออกไป เปลือกตาของเธอก็ปิดลง หึ! สุ้มเสียงดูแคลนเปล่งผ่านลำคอชายหนุ่ม อยากเกิดมาเป็นลูกสาวของคนที่ทำลายครอบครัวเขาทำไมกัน! “คุณได้สมใจอยากแน่!” พันธนาการที่ตรึงถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แควก! เสียงฉีกขาดของเสื้อผ้าทำให้เปลือกตาปิดอยู่เบิกโพลง แขนเล็กยกขึ้นโอบกอดเรือนร่างเพื่อปกปิดเนื้อเนียนเอาไว้ “เปล่าประโยชน์น่า เอามือออก” เสียงแข็งออกคำสั่ง เขาชักหัวเสียกับการเล่นตัวไม่เลิกของเธอแล้ว ณภัทรคว้าข้อมือเล็กแยกออก เผยผิวเนียนละเอียดขาวผุดผ่องของเนินเนื้อนูนโผล่พ้นออกมาจากบราเนื้อดี ณภัทรกลืนน้ำลายอย่างหื่นกระหายเมื่อความสวยงามโชว์หราแก่สายตา ยามหน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอยู่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอดูดีกว่าผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา ริมฝีปากหยักหนาฝังจูบบนลำคอระหง “อ๊ะ” ความเจ็บแปลบแล่นขึ้น เมื่อถูกขบเม้มอย่างแรง ชายหนุ่มรุกรานเรือนร่างอ่อนนุ่มอย่างไม่ปรานี ลมหายใจร้อนผะผ่าวเป่ารดผิวเป็นดังเชื้อเพลิงชั้นดี ปลุกไฟปรารถนาให้ลุกโชนขึ้น หญิงสาวดิ้นพล่านสะโพกบางส่ายเร่าตามแรงอารมณ์ สติของเธอก
ณภัทรมองใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตรับกับจมูกโด่งสวยแต่ติดจะรั้นเสียมากกว่า ริมฝีปากอวบอิ่ม จากที่เห็นในภาพถ่ายและระยะไกลในความคิดติดจะธรรมดา แต่พอได้เห็นในระยะใกล้อย่างนี้ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเครื่องสำอางแต่งแต้มบางเบาจนแลดูเป็นธรรมชาติ แต่สองข้างแก้มแดงระเรื่อนั้นน่าจะเกิดมาจากยาของธาดาป้ายให้เธอมากกว่าหญิงสาวเป็นคนสวยคนหนึ่งแต่ออกน่ารัก มิน่าผู้ชายคนนั้นถึงได้หวงนักหนาไม่แม้จะให้ออกสื่อ แต่ถึงจะซ่อนไว้แค่ไหนก็ไม่มีทางรอดพ้นไปจากสายตาเขาหรอกยิ้มร้ายยกขึ้นเมื่อเห็นกิริยาตื่นกลัวของอีกฝ่ายว่ามีมากแค่ไหน“คุณคงอยากรู้สินะว่าผมเป็นใคร” เขาก้าวเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่ยืนสั่นเทาอยู่ริมห้องเมื่อได้เห็นดวงตาสวยสั่นระริกมากเท่าไหร่ ณภัทรก็ยิ่งนึกสนุกอยากให้ความหวาดกลัวเหล่านี้ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของผู้หญิงคนนี้ ให้เธอได้จดจำความรู้สึกที่ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้มันเป็นยังไง!“คุณ! ไม่ใช่เจ้าของคลับ” เสียงหวานทั้งสั่นและแผ่วเบา“แล้วใครว่าใช่ละ”เวลานี้แพรวพรรณรู้แล้วว่าตนโดนหลอก เรื่องทั้งหมดถูกจัดฉากขึ้นจากผู้ชายคนนี้ แต่ถึงจะรู้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว...“อย่าเข้ามานะ ฉันไปทำอะ
“ทำให้ผู้หญิงคนนั้นค้างกับกูที่นี่คืนหนึ่ง” สายตามาดร้ายยังไม่ละไปจากตำแหน่งเดิม แก้วเหล้าในมือณภัทรยกขึ้นดื่มหมดในครั้งเดียว“กูไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม! ไอ้ภัทรมันขอเอง” ทิวปากไวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเองผลัวะ!เสียงฝ่ามือฟาดลงไปบนหลังของคนขี้สงสัยฉาดใหญ่ ส่วนน้ำหนักคงไม่ต้องพูดถึงเพราะสามารถทำให้ทิวน้ำตาคลอออกมาได้“ไอ้เหี้ยกูเจ็บ” ทิวยกแขนขึ้นคลำหลังตัวเองปรอย ๆ“งั้นก็ช่วยหุบปากของมึงสักที” เสียงเข้มบอกอย่างเหลืออด“เออ!”“คนไหน?” ธาดายังมองไม่เห็นว่าจะมีผู้หญิงคนไหน พอจะตรงสเปคเพื่อนได้ จึงถามเพื่อหาพิกัดที่แน่นอน“โต๊ะริมในสุดโซนB ใส่เดรสสีดำนั่งอยู่กับเพื่อนใส่เกาะอกสีเดียวกัน ใกล้กับลูกน้องมึงยืนอยู่”ธาดาเพ่งสายตาไปยังจุดนั้น เมื่อได้เห็นคิ้วเข้มก็ขมวดด้วยความไม่เข้าใจ ท่าทางหรือแม้แต่จริตจะก้านของหล่อน ไม่มีจุดไหนพอจะดึงดูดเพื่อนได้เลย‘หรือรสนิยมของมันเปลี่ยนไป?’“เปลี่ยนรสนิยม?”ไม่ได้มีแค่ธาดาที่แปลกใจ ทิวเองก็เช่นกัน“นั่นดิ ไม่ใช่แบบที่มึงชอบเลยนะ”“กูไม่ได้จะเอาเพราะชอบ นั่นเป็นลูกของผู้ชายคนนั้นต่างหาก!” ณภัทรไม่แม้อยากจะเอ่ยชื่ออีกฝ่ายน้ำเสียงแข็