แกรก!
เมื่อทนฟังวาจาปรักปรำเหล่านั้นไม่ไหว แพรวพรรณจึงเปิดประตูออกมา
“.....”
“.....”
หญิงสาวทั้งสองหันไปพร้อม ๆ กัน ดวงตาของพวกเธอเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินออกมาจากด้านหลัง
“ตกใจเหรอคะที่เป็นฉัน!” ดวงตาวาวโรจน์มองหญิงสาวทั้งสอง ชุดที่พวกเธอสวมใส่ล้วนหรูหราดูแพงแต่วาจากลับต่ำตมสิ้นดี เธอเดินออกมายืนด้านนอก
“อย่าคิดว่าคนอื่นจะนิสัยเหมือนตัวเองสิ” แพรวพรรณพูดต่อ
“อย่าแก้ตัวไปหน่อยเลย” หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำขลับยาวละพื้นพูดอย่างเย้ยหยัน ในน้ำเสียงของเธอก็ยังดูแคลนแพรวพรรณอยู่
“ฉันไม่ได้แก้ตัว อีกอย่างก็ไม่เคยคิดที่จะไปนอนให้ผู้ชายเอาเล่น ๆ แล้วเที่ยวออกมาป่าวประกาศในที่สาธารณะ ให้คนอื่นรับรู้อย่างพวกคุณ ไม่อายกันบ้างหรือคะ”
“นี่แก!”
คำบริภาษของแพรวพรรณทำให้สองสาวโมโห จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หนึ่งในนั้นปรี่เข้าหาหมายจะฟาดฝ่ามือบนแก้มเนียน ด้วยความที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วเธอจึงคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้ได้ทัน
“สันดานคนมองกันจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ พวกคุณแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ใส่เพชรใส่พลอยหรูหรา แต่ทำไมถึงมีความคิดที่ต่ำ ให้ร้ายผู้หญิงด้วยกันได้ถึงขนาดนี้” พูดจบแพรวพรรณก็ผลักหญิงสาวออกห่างจากตัว
“โอ๊ย!” เพราะอยู่บนรองเท้าขนาดสูง จึงทำให้เสียหลักจนเกือบล้ม ดีมีเพื่อนประคองไว้ด้านหลัง
ด้วยจำนวนของอีกฝ่ายมีมากกว่า บวกกับความโมโหทำให้แพรวพรรณเลือกใช้สิ่งของที่อยู่ต่ำสุดมาเป็นอาวุธ รองเท้าส้นสูงขนาดสามนิ้ว ถูกเจ้าของถอดออกมาถือไว้ในมือ
“จะแลกกับที่ฉันถืออยู่ก็เข้ามา” เนื้อตัวของเธอสั่นเทิ้ม เพราะไม่เคยเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนแต่สถานการณ์ได้บังคับให้ต้องสู้
“แกออกไปกันเถอะฉันว่าไม่คุ้มหรอก”
“ฝากไว้ก่อนเถอะ”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาจริงหญิงสาวทั้งสองจึงล่าถอยออกมา
แพรวพรรณวางรองเท้าลงพื้น เรี่ยวแรงเมื่อครู่ได้หายไปหมด
“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉันกันเนี่ย ทำไมถึงมีแต่เรื่อง ฉันเกลียดคุณเกลียดที่สุดเลยคุณณภัทร!”
มาถึงช่วงท้ายของงาน แขกบางรายทยอยกลับกันไปบ้างแล้ว การแสดงผลงานครั้งนี้ถือได้ว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก สำหรับตำแหน่งนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่พึ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทอย่างณภัทร
“ภัทรเห็นแพรวไหม” พอมองหาหญิงสาวจนทั่วทั้งงานแล้วแต่ไม่เจอ เจตจึงเดินมาถามณภัทรที่ยืนอยู่กับเพื่อนอีกสองคน
“กลับบ้านไปแล้วมั้ง” ณภัทรตอบเจตเสียงเรียบ
เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ได้สนใจไยดีของณภัทร ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังทำเป็นหวงแหนแพรวพรรณอยู่เลย
“ไอ้ภัทรกูถามหน่อย มึงกับแพรวรู้จักกันมาก่อนเหรอ” เจตตัดสินใจถามในสิ่งที่ค้างคาใจมาตลอด
“.....”
แต่สิ่งที่ได้รับก็ยังเป็นความเงียบ
“ถ้าไม่อยากมีปัญหากับมัน ผู้หญิงคนนี้มึงต้องปล่อย!” ธาดาตอบแทน เพราะดูจากสถานการณ์แล้ว ณภัทรคงจะไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาแน่
“ทำไมวะ มีอะไรที่พวกมึงยังไม่ได้บอกกูงั้นเหรอ” เจตหันไปมองเพื่อนอีกสองคน
“เธอคือลูกสาวของคนที่ทำให้พ่อไอ้ภัทรตรอมใจไง” ทิวตอบคำถามของเจตแทนณภัทรอีกคน
“ว่าไงนะ! พวกมึงพูดอะไร แพรวจบมาจากมหาลัยการแสดง แล้วยังสนิทกับอากูด้วย เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า”
คิ้วเข้มขมวดจรดกัน ยังไม่เชื่อในคำพูดของเพื่อนทั้งสอง เพราะถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้นจริง ทำไมแพรวพรรณถึงต้องมาเป็นครูสอนพิเศษ แทนที่จะไปทำงานในบริษัทของตนเอง
“จริง!” ณภัทรหันมาตอบด้วยตัวเองเสียงแข็งกร้าว นัยน์ตาคมฉายแววกรุ่นโกรธแลดูน่ากลัว
แพรวพรรณมุ่งหน้ามาทางลิฟต์ กดปุ่มลงไปชั้นล่าง เป้าหมายของเธอคือกลับบ้าน ไม่มีทางจะย้อนกลับเข้าไปในงานอีกเป็นแน่ ในเมื่อรู้ถึงจุดประสงค์ของณภัทรแล้ว
“คุณมันเลวจริง ๆ” น้ำเสียงโกรธขึ้งเปล่งออกมา
ติ้ง!
ข้อความมือถือของณภัทรดังขึ้น เขาล้วงมือเข้าไปหยิบเครื่องมือสื่อสารยี่ห้อหรูออกมาจากกระเป๋ากางเกง นิ้วเรียวยาวกดเข้าไปดู
ครรชิต: คุณแพรวพรรณลงมาที่ลานจอดรถครับนาย
ณภัทร: ตามเธอไปอย่าให้คลาดสายตา
ตอบกลับเสร็จสรรพริมฝีปากหยักหนาก็กระตุกยกยิ้มขึ้นอย่างมาดร้าย
‘ร้ายไม่เบา’
ชายหนุ่มไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้ ทั้งที่ก็ได้เตือนไปหลายรอบแล้ว
ลานจอดรถของโรงแรมชั้นพรีเมียมติ้ง!เมื่อประตูลิฟต์เปิดแพรวพรรณก็รีบเดินออกมา เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถเร่งจ้ำฝีเท้าโดยเร็วที่สุด พอเจอแล้วนิ้วเล็กกดปลดล็อก ดึงประตูฝั่งคนขับวางกระเป๋าลงไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็สอดตัวลงไปนั่งประจำที่คนขับ ทว่ากลับปิดประตูรถไม่ได้“คุณ!” แพรวพรรณมองมือใหญ่จับขอบประตูไว้ ก่อนจะเลื่อนไปยังใบหน้าเรียบตึง“คิดจะหนีผมงั้นเหรอ” ณภัทรถามเสียงแข็ง นัยน์ตาเคร่งขรึมก้มมองคนในรถ“ปล่อยมือของคุณออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” เธอคิดว่าตนเองออกมาเร็วแล้ว แต่ก็ยังหนีเขาไม่พ้น!ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้“ผมบอกคุณว่าไง ให้รอกลับพร้อมผมไม่ใช่เหรอ ไม่เอาแล้วใช่ไหมเงินทุนของนักเรียน”“คุณนี่มันเลวจริง ๆ งั้นก็แล้วแต่ละกัน จะจ่ายไม่จ่ายมันก็เรื่องของคุณ ถ้าคิดจะเอาเปรียบเด็ก ๆ ด้วยการใช้งานฟรี ๆ ก็แล้วแต่เลย ยังไงก็เป็นคนประเภทชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้วนี่ ส่วนของฉันก็จะถือเสียว่าทำบุญทำทานไปก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการเงินของคุณแม้แต่แดงเดียว!” นับเป็นประวัติศาสตร์ทีบริภาษยืดยาวใส่ใครสักคนอย่างนี้“ปากเก่งดีนี่ งั้นก็ช่วยเก่งให้ตลอดแล้วกัน” กรามแกร่งขึ้นส
ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวันเพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้นณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”“.....”จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่“ลงมา”“.....”การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเ
เสียงฉีกขาดของเดรสแสนสวยก็ดังขึ้น กลายเป็นเศษผ้าขาดวิ่นไปตามแรงกระชากของมือใหญ่ เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มล้นออกมา“ทำอะไรของคุณ!” แพรวพรรณปัดป้องมือใหญ่พัลวัน“ทำให้คุณเห็นไงว่าคนที่กล้าตบผมจุดจบมันจะเป็นยังไง”ณภัทรไม่สนใจว่าแพรวพรรณจะเจ็บหรือหวาดกลัวแค่ไหนกับการกระทำของตน ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้มาก่อนความเกรี้ยวกราดจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาฝังเนินเนื้ออวบอิ่ม ปากหยักหนาดูดดึงขบเม้มบริเวณนั้นอย่างแรง จนผิวเนียนขึ้นรอยช้ำเป็นสีม่วง“ฮึก เจ็บ อย่า พอแล้วฉันเจ็บ” น้ำตาร่วงเผาะลงข้างแก้มใส เมื่อถูกซาตานร้ายกระทำอย่างป่าเถื่อนเสียงสะอื้นทำให้ณภัทรผละออกห่างจากผิวนวลเนียน ไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนที่เคยพยศจะเป็นเช่นไรดวงตากลมโตสั่นระริกสองแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างชอบใจ“ลองเจ็บดูบ้างไหมแพรวพรรณ ถ้าคุณยังกล้าทำผมเลือดออกอีกครั้ง รอยพวกนี้มันจะไม่อยู่แค่ตรงนี้ มันจะไปอยู่ทั่วเรือนร่างของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาตะคอกใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่คิดสงสารแพรวพรรณเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตากับดวงตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น“ถอดชุดออก” คำสั่
กลางดึกในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ ภายใน TClub สถานบันเทิงชื่อดังแหล่งรวบรวมอบายมุขทุกอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ ของมึนเมาหรือแม้แต่สิ่งต้องห้ามต่าง ๆ รวมไปถึงการพนันล้วนมีครบจบอยู่ในสถานที่แห่งนี้ถึงอย่างนั้นก็มีไม่กี่คนรู้ว่า ‘สิ่งต้องห้าม’ เหล่านั้นอยู่ชั้นไหนบ้างชั้นหนึ่งและสองเสียงบีทจังหวะสนุกสนาน ทำให้นักท่องราตรีต่างโยกย้ายส่ายสะโพกตามอย่างเมามัน ในค่ำคืนนี้ไม่ได้มีแค่กลุ่มนักดื่มขาประจำยังมีขาจรอย่าง แพรวพรรณและเขมจิรา ซึ่งหนึ่งในนั้นพึ่งกลับมาจากฝึกงานที่ฝรั่งเศสสาวสวยทั้งสองกลายเป็นจุดสนใจของบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่โดยรอบ พวกเขาต่างก็อยากเข้ามาทำความรู้จัก เห็นได้ชัดจากสายตามองกันเป็นมันพวกเธอเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอเขมจิรากลับมาจึงได้นัดฉลองตำแหน่ง ‘ผู้ช่วยดีไซเนอร์ฝึกหัด’ นี่ถือเป็นก้าวแรกของการเดินตามความฝัน ที่จะได้ก้าวขึ้นไปเป็น ‘ดีไซเนอร์หลัก’ ในบริษัทออกแบบชั้นนำของเมืองไทยแก้วสีอำพันในมือแพรวพรรณได้ยื่นออกมาข้างหน้า“แด่ความสำเร็จ”“ขอบคุณสำหรับมื้อนี้”ของเหลวรสชาติขมปร่าค่อย ๆ ไหลลงสู่ลำคอสวยทั้งสอง แก้วว่างเปล่าก็ชูสูงขึ้นในเวลาไล่เลี่ย
“ทำให้ผู้หญิงคนนั้นค้างกับกูที่นี่คืนหนึ่ง” สายตามาดร้ายยังไม่ละไปจากตำแหน่งเดิม แก้วเหล้าในมือณภัทรยกขึ้นดื่มหมดในครั้งเดียว“กูไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม! ไอ้ภัทรมันขอเอง” ทิวปากไวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เอ่ยขึ้นอย่างไม่เชื่อหูตัวเองผลัวะ!เสียงฝ่ามือฟาดลงไปบนหลังของคนขี้สงสัยฉาดใหญ่ ส่วนน้ำหนักคงไม่ต้องพูดถึงเพราะสามารถทำให้ทิวน้ำตาคลอออกมาได้“ไอ้เหี้ยกูเจ็บ” ทิวยกแขนขึ้นคลำหลังตัวเองปรอย ๆ“งั้นก็ช่วยหุบปากของมึงสักที” เสียงเข้มบอกอย่างเหลืออด“เออ!”“คนไหน?” ธาดายังมองไม่เห็นว่าจะมีผู้หญิงคนไหน พอจะตรงสเปคเพื่อนได้ จึงถามเพื่อหาพิกัดที่แน่นอน“โต๊ะริมในสุดโซนB ใส่เดรสสีดำนั่งอยู่กับเพื่อนใส่เกาะอกสีเดียวกัน ใกล้กับลูกน้องมึงยืนอยู่”ธาดาเพ่งสายตาไปยังจุดนั้น เมื่อได้เห็นคิ้วเข้มก็ขมวดด้วยความไม่เข้าใจ ท่าทางหรือแม้แต่จริตจะก้านของหล่อน ไม่มีจุดไหนพอจะดึงดูดเพื่อนได้เลย‘หรือรสนิยมของมันเปลี่ยนไป?’“เปลี่ยนรสนิยม?”ไม่ได้มีแค่ธาดาที่แปลกใจ ทิวเองก็เช่นกัน“นั่นดิ ไม่ใช่แบบที่มึงชอบเลยนะ”“กูไม่ได้จะเอาเพราะชอบ นั่นเป็นลูกของผู้ชายคนนั้นต่างหาก!” ณภัทรไม่แม้อยากจะเอ่ยชื่ออีกฝ่ายน้ำเสียงแข็
ณภัทรมองใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตรับกับจมูกโด่งสวยแต่ติดจะรั้นเสียมากกว่า ริมฝีปากอวบอิ่ม จากที่เห็นในภาพถ่ายและระยะไกลในความคิดติดจะธรรมดา แต่พอได้เห็นในระยะใกล้อย่างนี้ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเครื่องสำอางแต่งแต้มบางเบาจนแลดูเป็นธรรมชาติ แต่สองข้างแก้มแดงระเรื่อนั้นน่าจะเกิดมาจากยาของธาดาป้ายให้เธอมากกว่าหญิงสาวเป็นคนสวยคนหนึ่งแต่ออกน่ารัก มิน่าผู้ชายคนนั้นถึงได้หวงนักหนาไม่แม้จะให้ออกสื่อ แต่ถึงจะซ่อนไว้แค่ไหนก็ไม่มีทางรอดพ้นไปจากสายตาเขาหรอกยิ้มร้ายยกขึ้นเมื่อเห็นกิริยาตื่นกลัวของอีกฝ่ายว่ามีมากแค่ไหน“คุณคงอยากรู้สินะว่าผมเป็นใคร” เขาก้าวเข้าไปใกล้ร่างบอบบางที่ยืนสั่นเทาอยู่ริมห้องเมื่อได้เห็นดวงตาสวยสั่นระริกมากเท่าไหร่ ณภัทรก็ยิ่งนึกสนุกอยากให้ความหวาดกลัวเหล่านี้ฝังลึกเข้าไปในจิตใจของผู้หญิงคนนี้ ให้เธอได้จดจำความรู้สึกที่ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้มันเป็นยังไง!“คุณ! ไม่ใช่เจ้าของคลับ” เสียงหวานทั้งสั่นและแผ่วเบา“แล้วใครว่าใช่ละ”เวลานี้แพรวพรรณรู้แล้วว่าตนโดนหลอก เรื่องทั้งหมดถูกจัดฉากขึ้นจากผู้ชายคนนี้ แต่ถึงจะรู้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว...“อย่าเข้ามานะ ฉันไปทำอะ
“ต้องการ! ต้องการอะไรงั้นเหรอ” “.....” “ว่าไง” ณภัทรถามย้ำ “ฉันต้องการคุณ” หลังจากเอ่ยคำน่าอายออกไป เปลือกตาของเธอก็ปิดลง หึ! สุ้มเสียงดูแคลนเปล่งผ่านลำคอชายหนุ่ม อยากเกิดมาเป็นลูกสาวของคนที่ทำลายครอบครัวเขาทำไมกัน! “คุณได้สมใจอยากแน่!” พันธนาการที่ตรึงถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แควก! เสียงฉีกขาดของเสื้อผ้าทำให้เปลือกตาปิดอยู่เบิกโพลง แขนเล็กยกขึ้นโอบกอดเรือนร่างเพื่อปกปิดเนื้อเนียนเอาไว้ “เปล่าประโยชน์น่า เอามือออก” เสียงแข็งออกคำสั่ง เขาชักหัวเสียกับการเล่นตัวไม่เลิกของเธอแล้ว ณภัทรคว้าข้อมือเล็กแยกออก เผยผิวเนียนละเอียดขาวผุดผ่องของเนินเนื้อนูนโผล่พ้นออกมาจากบราเนื้อดี ณภัทรกลืนน้ำลายอย่างหื่นกระหายเมื่อความสวยงามโชว์หราแก่สายตา ยามหน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงอยู่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอดูดีกว่าผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา ริมฝีปากหยักหนาฝังจูบบนลำคอระหง “อ๊ะ” ความเจ็บแปลบแล่นขึ้น เมื่อถูกขบเม้มอย่างแรง ชายหนุ่มรุกรานเรือนร่างอ่อนนุ่มอย่างไม่ปรานี ลมหายใจร้อนผะผ่าวเป่ารดผิวเป็นดังเชื้อเพลิงชั้นดี ปลุกไฟปรารถนาให้ลุกโชนขึ้น หญิงสาวดิ้นพล่านสะโพกบางส่ายเร่าตามแรงอารมณ์ สติของเธอก
สองเดือนต่อมาตึกสูงตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองใหญ่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพมหานคร มีบริษัทน้อยใหญ่มากมายในพื้นที่นี้ เนื่องจากโดยรอบเจริญทั้งด้านการค้าทั้งสะดวกการเดินทาง และง่ายต่อการติดต่อธุรกิจจึงเป็นทางเลือกของนักลงทุนระดับใหญ่ รวมไปถึงบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายจิวเวลรี่ชั้นแนวหน้าของเมืองไทยอย่าง เอ็นเจดับบิล ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 21 ณ.ตึกสูงแห่งนี้‘บริษัทเอ็นเจดับบิล’ ไม่เพียงแค่ผลิตเครื่องประดับและอัญมณีส่งขายในเมืองไทย ยังส่งออกไปยังต่างประเทศ ลูกค้ามากมายเข้ามาสั่งซื้อติดต่อกันเป็นเวลานานหลายสิบปี นับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมาโดยมีผู้บริหารสูงสุดคือ นายณธี อินตานนท์ หนึ่งในนักธุรกิจที่เก่งของวงการนี้ เขาสามารถนำพาบริษัทยืนหยัดมาได้อย่างยาวนาน แม้จะมีคู่แข่งมากมายณธีใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตของเขาสร้างบริษัทให้มีความเจริญก้าวหน้า ชื่อเสียงแผ่ขยายเป็นวงกว้างเป็นที่นับหน้าถือตา ผลักดันเอ็นเจดับบิลเจริญรุ่งเรืองมาถึงจุดสูงสุด เม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสายแล้วธุรกิจนี้อีกเช่นกันสร้างรายได้มหาศาล สามารถส่งลูกชายเพียงคนเดียวไปเล่าเรียนยังเมืองนอกเมืองนาสมดั่งวาดหวังไว้ พอลูกชายจบกลับมาจะได
เสียงฉีกขาดของเดรสแสนสวยก็ดังขึ้น กลายเป็นเศษผ้าขาดวิ่นไปตามแรงกระชากของมือใหญ่ เผยให้เห็นเนินเนื้ออวบอิ่มล้นออกมา“ทำอะไรของคุณ!” แพรวพรรณปัดป้องมือใหญ่พัลวัน“ทำให้คุณเห็นไงว่าคนที่กล้าตบผมจุดจบมันจะเป็นยังไง”ณภัทรไม่สนใจว่าแพรวพรรณจะเจ็บหรือหวาดกลัวแค่ไหนกับการกระทำของตน ไม่เคยมีใครกล้ากับเขาเช่นนี้มาก่อนความเกรี้ยวกราดจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาฝังเนินเนื้ออวบอิ่ม ปากหยักหนาดูดดึงขบเม้มบริเวณนั้นอย่างแรง จนผิวเนียนขึ้นรอยช้ำเป็นสีม่วง“ฮึก เจ็บ อย่า พอแล้วฉันเจ็บ” น้ำตาร่วงเผาะลงข้างแก้มใส เมื่อถูกซาตานร้ายกระทำอย่างป่าเถื่อนเสียงสะอื้นทำให้ณภัทรผละออกห่างจากผิวนวลเนียน ไม่ใช่ความสงสารแต่เป็นเพราะว่าต้องการเห็นคนที่เคยพยศจะเป็นเช่นไรดวงตากลมโตสั่นระริกสองแก้มเปื้อนคราบน้ำตา ชายหนุ่มแสยะยิ้มร้ายกาจอย่างชอบใจ“ลองเจ็บดูบ้างไหมแพรวพรรณ ถ้าคุณยังกล้าทำผมเลือดออกอีกครั้ง รอยพวกนี้มันจะไม่อยู่แค่ตรงนี้ มันจะไปอยู่ทั่วเรือนร่างของคุณ ไม่เชื่อก็ลองดู” เขาตะคอกใส่หน้าหญิงสาวอย่างไม่คิดสงสารแพรวพรรณเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตากับดวงตาเกรี้ยวกราดคู่นั้น“ถอดชุดออก” คำสั่
ชายหนุ่มย่นหน้าทุกครั้งที่เห็นว่าเจ้านายโดนฟาด เป็นพัลวันเพราะเอาแต่สู้รบกับณภัทร จึงไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวเปลี่ยนไป เส้นทางของรถยนต์ขับเคลื่อนอยู่ในตอนแรก จากถนนใหญ่ที่มีการสัญจรอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นทางสายเปลี่ยวจนแทบจะไม่มีรถขับสวนผ่าน แพรวพรรณเริ่มหวาดระแวงมองบรรยากาศโดยรอบด้วยความตื่นกลัว‘เขาจะพาเธอมาฆ่าหรือเปล่า’หัวใจเต้นรัวเมื่อคิดไปไกลถึงขั้นนั้นณภัทรเห็นปฏิกิริยาเปลี่ยนไปของแพรวพรรณ จึงนึกบางอย่างขึ้นมา“ถ้ายังไม่หยุด ผมจะโยนคุณลงจากรถเดี๋ยวนี้”“.....”จนกระทั่งรถหรูได้เลี้ยวเข้าไปจอดในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่“ลงมา”“.....”การกระทำของเธอเหมือนกำลังท้าทาย ทั้งที่มาอยู่ในอาณาเขตเขาแล้วแต่ก็ยังอวดเก่งไม่เลิก มือที่จับอยู่บนต้นแขนบีบเนื้อนุ่มอย่างแรงพลางกระชากเพื่อให้หญิงสาวลงมาจากรถ“ผมบอกให้ลงมา” เสียงห้วน ๆ ออกคำสั่ง“ฉันเจ็บนะ” แพรวพรรณแผดเสียงร้องใส่หน้าณภัทร ถลึงตาให้เขาอย่างไม่นึกเกรงกลัว“บอกดี ๆ แล้วฟังไหม”“คุณบังคับให้ฉันมา ฉันไม่ได้เต็มใจมาเลยสักนิด แล้วทำไมต้องฟังคุณด้วยเล่า”ณภัทรกัดฟันกรอดกับความดื้อดึงของอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าหากปล่อยแล้วรอให้เดินลงมาเองคงเป็นเ
ลานจอดรถของโรงแรมชั้นพรีเมียมติ้ง!เมื่อประตูลิฟต์เปิดแพรวพรรณก็รีบเดินออกมา เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถเร่งจ้ำฝีเท้าโดยเร็วที่สุด พอเจอแล้วนิ้วเล็กกดปลดล็อก ดึงประตูฝั่งคนขับวางกระเป๋าลงไว้อีกฝั่ง จากนั้นก็สอดตัวลงไปนั่งประจำที่คนขับ ทว่ากลับปิดประตูรถไม่ได้“คุณ!” แพรวพรรณมองมือใหญ่จับขอบประตูไว้ ก่อนจะเลื่อนไปยังใบหน้าเรียบตึง“คิดจะหนีผมงั้นเหรอ” ณภัทรถามเสียงแข็ง นัยน์ตาเคร่งขรึมก้มมองคนในรถ“ปล่อยมือของคุณออกจากรถฉันเดี๋ยวนี้ ฉันจะกลับบ้าน” เธอคิดว่าตนเองออกมาเร็วแล้ว แต่ก็ยังหนีเขาไม่พ้น!ใบหน้านวลเนียนซีดเผือดลงเมื่อผลออกมาเป็นอย่างนี้“ผมบอกคุณว่าไง ให้รอกลับพร้อมผมไม่ใช่เหรอ ไม่เอาแล้วใช่ไหมเงินทุนของนักเรียน”“คุณนี่มันเลวจริง ๆ งั้นก็แล้วแต่ละกัน จะจ่ายไม่จ่ายมันก็เรื่องของคุณ ถ้าคิดจะเอาเปรียบเด็ก ๆ ด้วยการใช้งานฟรี ๆ ก็แล้วแต่เลย ยังไงก็เป็นคนประเภทชอบเอาเปรียบคนอื่นอยู่แล้วนี่ ส่วนของฉันก็จะถือเสียว่าทำบุญทำทานไปก็แล้วกัน ฉันไม่ต้องการเงินของคุณแม้แต่แดงเดียว!” นับเป็นประวัติศาสตร์ทีบริภาษยืดยาวใส่ใครสักคนอย่างนี้“ปากเก่งดีนี่ งั้นก็ช่วยเก่งให้ตลอดแล้วกัน” กรามแกร่งขึ้นส
แกรก!เมื่อทนฟังวาจาปรักปรำเหล่านั้นไม่ไหว แพรวพรรณจึงเปิดประตูออกมา“.....”“.....”หญิงสาวทั้งสองหันไปพร้อม ๆ กัน ดวงตาของพวกเธอเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินออกมาจากด้านหลัง“ตกใจเหรอคะที่เป็นฉัน!” ดวงตาวาวโรจน์มองหญิงสาวทั้งสอง ชุดที่พวกเธอสวมใส่ล้วนหรูหราดูแพงแต่วาจากลับต่ำตมสิ้นดี เธอเดินออกมายืนด้านนอก“อย่าคิดว่าคนอื่นจะนิสัยเหมือนตัวเองสิ” แพรวพรรณพูดต่อ“อย่าแก้ตัวไปหน่อยเลย” หญิงสาวในชุดเกาะอกสีดำขลับยาวละพื้นพูดอย่างเย้ยหยัน ในน้ำเสียงของเธอก็ยังดูแคลนแพรวพรรณอยู่“ฉันไม่ได้แก้ตัว อีกอย่างก็ไม่เคยคิดที่จะไปนอนให้ผู้ชายเอาเล่น ๆ แล้วเที่ยวออกมาป่าวประกาศในที่สาธารณะ ให้คนอื่นรับรู้อย่างพวกคุณ ไม่อายกันบ้างหรือคะ”“นี่แก!”คำบริภาษของแพรวพรรณทำให้สองสาวโมโห จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หนึ่งในนั้นปรี่เข้าหาหมายจะฟาดฝ่ามือบนแก้มเนียน ด้วยความที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วเธอจึงคว้าข้อมือของหล่อนเอาไว้ได้ทัน“สันดานคนมองกันจากภายนอกไม่ได้จริง ๆ พวกคุณแต่งตัวดูดีมีชาติตระกูล ใส่เพชรใส่พลอยหรูหรา แต่ทำไมถึงมีความคิดที่ต่ำ ให้ร้ายผู้หญิงด้วยกันได้ถึงขนาดนี้” พูดจบแพรวพรรณก็ผลักหญิงสาวออก
แพรวพรรณเลี่ยงออกมาจากกลุ่มของณภัทร หลังจากเขาออกไปคุยเรื่องงานกับลูกค้ารายสำคัญ ถึงแม้จะไม่ชอบเจ้าของงาน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นคนที่เก่งมาก ๆ อัญมณีถูกนำออกโชว์ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากกลุ่มคุณหญิงคุณนายและเหล่าไฮโซ รวมไปถึงกลุ่มนักธุรกิจยังสนใจอยากจะร่วมลงทุนด้วยเธอยืนอยู่ตรงมุมห้องเพียงลำพัง ซึ่งงานประเภทนี้ตนไม่ค่อยถนัดเอาเสียเลย แม้กระทั่งในพีเจก็มีเพียงพ่อและอาสาวที่มักออกงานสังคมพวกนี้ จะว่าไปทำไมพวกท่านถึงไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย ทั้ง ๆ ที่อยู่แวดวงเดียวกัน!“สวัสดีครับผมชื่อริว บนเวทีคุณเต้นได้สวยมาก ๆ ไม่ทราบว่าสนใจอยากจะทำงานร่วมกับทางเราไหมครับ นี่ครับนามบัตรของผม”แพรวพรรณหันมาตามเสียง ชายหนุ่มรูปร่างสูงแต่งตัวภูมิฐาน กำลังส่งนามบัตรมาให้ เธอยิ้มให้กับเขา แล้วรับบัตรมาถือไว้“ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฉันไม่ได้รับงานแสดงเป็นประจำ ที่มาในวันนี้ก็เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนอีกทีค่ะ” แพรวพรรณปฏิเสธเสียงนุ่ม“อ้อ ไม่เป็นไรครับ เผื่อว่าวันข้างหน้าคุณสนใจ ติดต่อมาได้ทุกเมื่อเลยนะครับ ผมชอบทักษะและไลน์เต้นของคุณมาก ถ้าหากมีโอกาสได้ร่วมงานกันคงดีไม่น้อย” ชายหนุ่มผู้มาใหม่ม
ครูสาวเดินนำลูกศิษย์ลงจากเวทีไปหาเจต ซึ่งยืนรอด้วยรอยยิ้มกว้างอยู่ด้านล่าง“เก่งมากครับ ทุกคนทำได้ดีมากเลยรู้ไหม”“ขอบคุณครับ, ขอบคุณค่ะ”คำชื่นชมจากผู้อำนวยการทำให้นักศึกษาหายเหนื่อยในพริบตา ปลาบปลื้มที่เจ้าของสถาบันให้ความสำคัญอย่างนี้“ขอบคุณแทนพวกเขาด้วยนะคะ” แพรวพรรณมองตามหลังนักศึกษากำลังแยกตัวกันออกไปทางประตูด้านข้าง“พี่ถึงบอกไง ว่างานนี้เด็ก ๆ จะได้รับโอกาสเยอะมาก”“งั้นแพรวขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ”“ครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับแพรว! พี่ลืมเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอก”“เรื่องอะไรเหรอคะพี่เจต”“คือ...ตอนที่เจ้าของบริษัทขึ้นไปกล่าวเปิดงาน แพรวช่วยเอาดอกไม้ขึ้นไปมอบให้เขาหน่อยนะครับ”“ดอกไม้! ทำไมถึงเป็นแพรวล่ะคะ”“เมื่อกี้ตอนที่แพรวกำลังแสดงอยู่เขาบอกว่าชอบมาก ๆ ก็เลยอยากให้แพรวเป็นคนถือดอกไม้ขึ้นไปแล้วจะขอบคุณแพรวเองด้วยครับ”เจตประดิษฐ์ถ้อยคำเพื่อให้ครูสาวเข้าใจ นั่นก็เพราะเจ้าเพื่อนบ้าดันมาบอกเอาวินาทีสุดท้าย แล้วยังขู่อีกด้วยถ้าไม่ยอมเงินก็ไม่ต้องเอา ถึงจะรู้ว่าณภัทรพูดเล่นก็ตาม“.....”“นะครับพี่ขอร้องอีกสักครั้ง” แววตาเว้าวอนส่งให้ครูสาวต่อมา...“งานแสดงอัญมณี Gems of beauty f
แพรวพรรณนั่งตรงขอบเวที วันมาซ้อมหากมีจุดไหนต้องปรับแก้ค่อยว่ากันอีกที“แพรวจะให้เด็ก ๆ มาซ้อมกันที่นี่ช่วงไม่มีเรียน แพรวอาจจะไม่ได้เข้ามหาลัยพี่ไม่ว่าอะไรใช่ไหมคะ”“พี่จะว่าอะไรละครับ งานนี้ต้องยกความดีให้แพรวสิถึงจะถูก” เขาส่งขวดน้ำให้กับเธอ“ความดีอะไรกันคะ เพื่อเด็ก ๆ ทั้งนั้น”“ก็นี่ไงความดี ถ้าไม่ได้แพรวพวกเขาก็ไม่ได้รับโอกาสนี้กันนะ”คำชื่นชมราวกับว่าทำความดีมากมายมหาศาล แพรวพรรณไม่กล้ากล่าวคำใดต่อ เกรงว่าจะเป็นการเสริมคำเยินยอไม่จบไม่สิ้น“งั้นแพรวขอตัวกลับก่อนนะคะ”“เอ่อ! นี่ก็จะเที่ยงแล้วเราไปกินข้าวกันก่อนดีไหมครับ”แพรวพรรณยกนาฬิกาบนข้อมือขึ้นมาดู เหลืออีกแค่ไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงแล้ว หากครั้งนี้ปฏิเสธอีกคงจะดูน่าเกลียด“ก็ได้ค่ะ แต่ขอเป็นร้านใกล้ ๆ นี้นะคะ”“ได้ครับ ร้านไหนก็ได้ตามใจแพรวเลย” เจตพูดด้วยความกระตือรือร้น ในที่สุดความพยายามของตนเองก็เกิดผล“จะยืนอยู่ตรงนี้อีกเหรอ! เธอกับไอ้เจตกำลังจะออกมาแล้วเห็นไหม” ทิวสะกิดณภัทร ยังเอาแต่จ้องมองสองคนนั้นอย่างไม่วางสายตา‘จะอยู่ให้ถูกจับได้หรือไง!’สองอาทิตย์ต่อมาบรรยากาศภายในห้องแต่งตัว ติดกับห้องจัดงานแสดงเครื่องเพชรเต็มไปด
โรงแรมทิมสัน เวลา 10:50 นาฬิกาแพรวพรรณเดินดูรอบ ๆ สถานที่จัดงาน เพราะอีกไม่กี่วันก็จะต้องพาลูกศิษย์มาซ้อม หลังจากกลับไปนอนคิดเรื่องนี้ ทบทวนถึงผลจะได้รับมีมากกว่าเสีย จึงตัดสินใจรับปากกับผู้อำนวยการของมหาลัย ซึ่งนักศึกษาเต็มใจเป็นอย่างมากทุกคนตื่นเต้นเมื่อจะได้ออกงานแสดงเป็นครั้งแรก“แล้วคนที่จ้างเราล่ะคะ แพรวยังไม่เห็นเขาเลย”“เขาไม่ว่างมาครับ แต่ส่งรายละเอียดมาให้พี่แล้วนะ”เจตเปิดข้อมูลให้กับครูสาวดู ก่อนหน้านี้เขาก็สงสัยว่าทำไมเจ้าตัวถึงไม่ยอมมาเอง ในเมื่อเป็นงานสำคัญ ณภัทรให้เหตุผลว่าติดงานด่วนจึงปลีกตัวมาไม่ได้“แพรวจะรู้ได้ยังไงคะว่าเขาต้องการให้เราจัดงานในรูปแบบไหน” เอารูปสินค้ามาให้เธอดูแล้วจะรู้ได้ยังไง แปลกคนจริง ๆ“นี่ครับ” เขาเปิดรูปแบบและชื่องานให้กับครูสาวดูอีกครั้ง“Gems of beauty for you that are precious” นิ้วเรียวเลื่อนรูปในมือถือของเจตไปเรื่อย ๆ เก็บทุกรายละเอียดที่เจ้าของงานถ่ายส่งมา จากนั้นก็ยื่นมือถือคืนให้กับเจต“เขาจะไม่เบี้ยวค่าจ้างเราใช่ไหมคะ” เพราะเป็นงานแรกที่ผู้ว่าจ้างไว้ใจทีมงานมาก ถึงขนาดปล่อยให้จัดการกันเอง“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เบี้ยวแน่นอนครับคนนี้ไว้ใจได้
“เออ ๆ ยังไงจะช่วยพูดกับแพรวให้แล้วกัน”“อืม” ณภัทรยกยิ้มให้เพื่อน ถ้าลองได้รับปากว่าจะช่วยออกมาแล้ว ไม่มีงานไหนที่เจตจะทำไม่สำเร็จ“กดดันกูนักนะมึง” เจตใช้สายตาเคร่งขรึมมองอีกคนอย่างหนักใจ ทว่าก็เข้าใจว่าเพื่อนคงหวังดีจริง ๆ มาคิดอีกทีข้อเสนอนี้ก็ไม่เลว!รุ่งเช้าอีกวันสายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำไหลลงกระทบผิวเรียบเนียนฝ่ามือน้อย ๆ ถูไถฟองนุ่มไปตามเรือนร่างช้า ๆ กลิ่นหอมของสบู่บวกกับน้ำเย็นสบายทำให้แพรวพรรณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายหญิงสาวต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่เช้าเนื่องจากมีสอน เพื่อที่จะไม่ต้องไปนั่งติดแหง็กอยู่บนรถเป็นชั่วโมงก็ต้องออกจากบ้านให้เร็วหน่อย“หวังว่ารถจะไม่ติดนะวันนี้” จากนั้นเสียงฮัมเพลงไปพร้อมกับการอาบน้ำก็คลอออกมาเบา ๆต่อมา…“มีสอนตอนเช้าเหรอแพรว” แพรวพราวเอ่ยถามลูกสาวกำลังเดินมาใกล้ กลิ่นหอมละมุนลอยมาแต่ไกล ยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นเมื่อเธอนั่งลงข้าง ๆ“ค่ะแม่ พ่อกับอาเกศไปทำงานแล้วเหรอคะ”“ไปกันตั้งแต่เช้าแล้ว”“ช่วงนี้หนูว่าพ่อกับอาเกศดูงานยุ่งมาก ๆ เลยนะคะไปแต่เช้ากลับค่ำทุกวันเลย”“ก็อย่างนี้แหละ งานออกแบบไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้”“ก็จริงค่ะ ก็มีแค่เรื่องนี้ที่หนูพอจะรู้ งั้นหนูไปก่อ