Home / รักโบราณ / ดอกไม้ในเปลวเพลิง / บทที่ 86 คุณหนูสุ่ยเลือกคู่ครอง

Share

บทที่ 86 คุณหนูสุ่ยเลือกคู่ครอง

last update Last Updated: 2025-04-01 22:14:56

ฉินอ๋องถามขึ้นมาว่า “เสด็จลุงอนุญาตแล้วหรือพี่สี่”

รัชทายาทยิ้มกว้าง “อนุญาตแล้ว เมื่อข้าพูดคุยกับเฟิงเอ๋อร์เป็นที่เข้าใจกันดีแล้ว ก็จะมีพระราชโองการไปยังจวนแม่ทัพใหญ่ และมีพิธีอภิเษกสมรส แต่ตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดคุยกับเฟิงเอ๋อร์เช่นไรดี”

สุ่ยฝานหรงตัดสินใจตอบไปว่า “ก็บอกความรู้สึกออกไปตามตรง นางจะตอบรับหรือไม่ก็ขอให้รับให้ได้นะพ่ะย่ะค่ะ”

รัชทายาทฟังแล้วก็รู้สึกแปลก ๆ แต่ด้วยความที่กำลังสุขใจจึงไม่ได้คิดอะไรมาก ฉินอ๋องถามว่า “ถ้าหากคุณหนูสุ่ยมีคนอื่นในใจแล้ว พี่สี่จะว่าอย่างไร”

“เป็นไปไม่ได้ ข้าส่งคนไปสืบแล้ว นางไม่มีชายหนุ่มไปมาหาสู่” รัชทายาทยิ้มอย่างมั่นใจแล้วกล่าวต่อไปว่า “สำหรับคนที่ไร้วาสนาอย่างมือปราบวังหลวงผู้นั้น เฟิงเอ๋อร์ปฏิเสธไปแล้ว อีกทั้งเป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว”

“พี่สี่รู้เรื่องของคุณหนูสุ่ยมากจังเลย”

“แน่นอนสิ ตอนที่หลบภัยอยู่ที่เพิงพวกเราพูดคุยกันทุกวัน” ฉินอ๋องยิ่งหน้าซีดเซียว เหมือนมีใครซักคนมาบีบคอ เกิดอาการหายใจติดขัดขึ้นมาเชียว รัชทายาทยังกล่าวต่อไปอีกว่า

“เฟิงเอ๋อร์คงไม่ปฏิเสธข้าหรอก อย่างไรเสียเราสองคนก็เคยนอนห้องเดียวกันแล้ว”

“ห๊า!!!!” สุ่ยฝานหรงร้อ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 87 ฉินอ๋องไม่ยินยอม

    เสียงกระแอมดังขึ้นทำให้ทั้งสองคนผละออกจากกันแล้วก็อุทานออกมาพร้อมกันว่า“ซีซวน”“พี่ใหญ่”สุ่ยฝานหรงคารวะฉินอ๋องแล้วเดินเข้ามาร่วมวง ฉินอ๋องรีบกล่าวว่า “อย่าว่าเฟิงเอ๋อร์ เป็นข้าเองที่ดีใจมากจนลืมตัว”“ดีใจอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”“เฟิงเอ๋อร์ตกลงแต่งให้ข้าแล้ว”“เรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องพ่อแม่และแม่สื่อ ไม่ใช่เรื่องของหนุ่มสาวนะพ่ะย่ะค่ะ”“ข้ารู้ สามหนังสือหกพิธีการจะจัดให้อย่างครบถ้วน”“แล้วจะบอกกับรัชทายาทอย่างไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”“ข้าจะบอกพี่สี่ตรง ๆ ว่าเฟิงเอ๋อร์และข้ามีใจตรงกัน การที่เฟิงเอ๋อร์ช่วยเหลือให้พี่สี่พ้นภัยนั้นเพราะนางทำตามคำขอร้องของข้า เรื่องอื่นข้าอาจจะยอมให้พี่สี่ได้ แต่เรื่องของเฟิงเอ๋อร์ข้าไม่ยินยอมมอบให้ใครทั้งนั้น”สุ่ยฝานหรงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง เขาเกรงว่าความสัมพันธ์พี่น้องอันแนบแน่นของรัชทายาทและฉินอ๋องจะแตกร้าว เรื่องนี้ไม่มีใครผิด แต่เป็นความร้ายกาจของโชคชะตา เรื่องนี้จะกระทบตำแหน่งและความเจริญก้าวหน้าของเขาแน่นอน แต่ความสุขของสุ่ยเฉินเฟิงสำคัญสำหรับเขามากกว่าฮูหยินเจียงจือไฉกลับจากงานเลี้ยงในตอนเย็น รับทราบข้อมูลด้วยความดีใจและหนักใจ ดีใจเพราะบุตรีผู้งดงามมีบุรุ

    Last Updated : 2025-04-02
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 88 ข้าจะดูแลนางเอง

    “ข้ามาขอทานข้าวด้วยนะ” โดยไม่รอคำเชิญ ฉินอ๋องนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งและชี้ให้สุ่ยฝานหรงนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัว นางกำนัลรีบนำข้าวและตะเกียบมาวางให้ นางกำนัลอีกคนนำอาหารมาวางเพิ่มให้อีกสามอย่างอย่างรวดเร็ว พวกเขาจำได้ดีว่าเมื่อทั้งสามคนรวมตัวกัน รัชทายาทจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ“พวกเจ้าคงรู้ข่าวแล้วสินะว่าข้าไม่สามารถอภิเษกเฟิงเอ๋อร์เป็นพระชายาได้” เมื่อกล่าวประโยคนี้ออกมา รัชทายาทก็วางตะเกียบ ลำคอตีบตันขึ้นมาทันที ฉินอ๋องโบกมือให้นางกำนัลออกไปพ้นบริเวณนั้น รัชทายาทกล่าวต่อไปอย่างขมขื่นว่า “หากจะให้นางเป็นสนม นางคงไม่ยอม”ฉินอ๋องคีบปลาทอดส่งเข้าปากตนเองอย่างสบายใจแล้วกล่าวว่า “นางไม่ยอมหรอก”“เสด็จพ่อทรงกริ้วมากเพราะข่าวลือนั่น ข้าเถียงไปหลายคำทำให้ทรงกริ้วจนประชวร ตอนนี้พระอาการก็ไม่ดีขึ้น ข้าไม่กล้าทำให้กริ้วอีก แต่ข้าก็ทุกข์ใจมาก”รัชทายาทหันมามองหน้าสุ่ยฝานหรงซึ่งนั่งฟังเงียบ ๆ อาหารก็ไม่แตะแม้แต่คำเดียว “ตอนนี้เฟิงเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง ข้าไม่กล้าสู้หน้านาง”ฉินอ๋องเป็นผู้ตอบว่า “นางสบายดี พี่สี่ไม่ต้องกังวล ท่านยังไม่เคยพูดเรื่องการแต่งงานกับคุณหนูสุ่ย จึงไม่ถือว่าผิดคำมั่นสัญญาอะไร”“

    Last Updated : 2025-04-02
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 89 ค้นหาคนสร้างเรื่องอื้อฉาว

    ณ เรือนอักษรในจวนฉินอ๋อง สุ่ยฝานหรงวางหลักฐานชิ้นหนึ่งลงบนโต๊ะ ฉินอ๋องก้มลงอ่านเอกสาร พบว่าผู้ที่ถวายฎีกากล่าวหาว่าสุ่ยเฉินเฟิงขโมยบุตรีของเหอฮวามาเนื่องจากตัดใจจากเมิ่งหยางไม่ได้นั้นชื่อเปี้ยนวา“นางคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเมิ่งหยางหรือนางเหอฮวา”“นางเป็นสาวใช้ของนางเหอฮวาพ่ะย่ะค่ะ เป็นชาวเมืองซู่ที่นางเหอฮวาไปพักอาศัยอยู่ด้วยในตอนนี้”“ท่านจะไปนำตัวนางเหอฮวาที่เมืองซู่เมื่อไร”“พรุ่งนี้เช้าพ่ะย่ะค่ะ ทุกอย่างเตรียมการไว้หมดแล้ว”“ท่านไม่ต้องเดินทางไกล เมื่อนางเปี้ยนวามาถวายฎีกาถึงเมืองหลวง ข้าคาดว่านางเหอฮวาก็น่าจะอยู่ในเมืองหลวง ท่านสั่งระดมกำลังจับตัวมาให้ได้”“พ่ะย่ะค่ะ”ไม่ถึงหนึ่งก้านธูปในเมืองหลวงก็เต็มไปด้วยกองกำลังทหาร เหอฮวาถูกพบได้ในโรงเตี้ยมขนาดเล็กใกล้ประตูเมือง ทหารมองภาพวาดที่นำมาเปรียบเทียบกับหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นอยู่ตรงหน้า อีกคนเป็นหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่า ทหารจึงนำตัวทั้งสองคนไปที่กองบัญชาการทหารเมื่อเหอฮวามองเห็นสุ่ยฝานหรงก็เข่าอ่อนทรุดตัวลงนั่งกับพื้น นางเคยเห็นสุ่ยฝานหรงและรู้ดีว่าเขาเป็นพี่ชายของสุ่ยเฉินเฟิง แม่ทัพใหญ่มองหญิงสาวตรงหน้า เดิมนางไม่จัดว่าเป็นคนสวย แต่อ

    Last Updated : 2025-04-03
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 90 วิธีโน้มน้าวใจ

    “หากยังกล้าสร้างความเดือดร้อนให้น้องสาวของข้า ข้าจะตัดมือข้างที่เขียนสร้างความเดือดร้อนทิ้งเสีย ตัดลิ้นที่พูดจาให้ร้ายออกเสีย พวกเจ้าจำเป็นต้องอยู่ให้ดีดี เงินที่ให้ไปก็จงใช้เลี้ยงดูลูกของเจ้า แล้วต่อไปอย่าให้ข้าเห็นหน้าพวกเจ้าอีก”ตลอดเวลาฉินอ๋องนั่งฟังเงียบ ๆ แต่สีหน้าเย็นชาขั้นสุดทำให้ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นสบตาทหารเข้ามานำตัวหญิงสาวทั้งสองออกไปส่งตัวไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ความผิดของเหอฮวาและเปี้ยนวาเท่ากัน แม้เปี้ยนวาจะเป็นผู้ลงนามถวายฎีกา แต่ก็เป็นคำสั่งของเหอฮวา พวกนางถูกแห่ประจานรอบเมืองหลวง แล้วจึงถูกโบยหนักเจียนตาย ก่อนนำตัวไปทิ้งไว้นอกประตูเมืองหลวงฮูหยินเจียงจือไฉหอมแก้มทารกน้อยซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำตาไหลออกมาเต็มตา สุ่ยเฉินเฟิงเองก็กอดเพียวเพียวอย่างอาลัยอาวรณ์จนกระทั่งพี่ชายต้องดึงตัวเด็กออกจากอ้อมกอดของน้องสาว แม้จะรักใคร่เอ็นดูทารกน้อยแต่ฮูหยินเจียงจือไฉและสุ่ยเฉินเฟิงรู้ดีว่านี่คือวิธีจบความวุ่นวายที่เหมาะสมเหอฮวาและเปี้ยนวาในสภาพถูกโบยบาดเจ็บสาหัสเดินทางกลับเมืองซู่ด้วยรถม้า มีทหารควบคุมขบวนและพี่เลี้ยงของเพียวเพียวก็ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อช่วยเลี้ยงเพียวเพียวระหว่าง

    Last Updated : 2025-04-03
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 91 แม่สื่อกิตติมศักดิ์

    ณ ตำหนักบูรพา รัชทายาท ฉินอ๋อง และแม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรง นั่งร่วมโต๊ะกัน มีอาหารสองอย่างวางอยู่บนโต๊ะ ตรงหน้าฉินอ๋องและแม่ทัพใหญ่ย่อมมีสุรา และแน่นอนว่าตรงหน้ารัชทายาทย่อมมีน้ำชา ฉินอ๋องบอกกล่าวด้วยความดีใจว่าผู้เป็นมารดารับปากให้แต่งสุ่ยเฉินเฟิงเป็นพระชายาแล้ว รัชทายาทหน้าเผือดสีไปนิดหนึ่งก่อนกล่าวแสดงความยินดี ยังไม่ทันจะกล่าวอะไรต่อไป ก็มีเสียงดังว่า“ฮองเฮาเสด็จ” ทั้งสามคนรีบลุกขึ้นทำความเคารพอย่างพร้อมเพรียง“คารวะเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”“คารวะเสด็จป้าสะใภ้พ่ะย่ะค่ะ”“คารวะฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ”ฮองเฮาตรัสด้วยพระพักตร์ยิ้มแย้มว่า “ไม่ต้องมากพิธี เชิญนั่ง” และพระนางก็ตรงเข้าประทับบนเก้าอี้ที่ว่าง “เมื่อกี้ได้ยินแว่ว ๆ ว่าจื่อหยวนจะแต่งพระชายา ผู้โชคดีคือใครหรือ”“คุณหนูสุ่ยเฉินเฟิงพ่ะย่ะค่ะเสด็จป้าสะใภ้”ฮองเฮาเหลือบมองพระราชโอรสก็เห็นสีหน้าหม่นหมอง พระนางหวังว่าหากสุ่ยเฉินเฟิงแต่งงานไปโดยเร็ว พระราชโอรสก็จะสามารถตัดใจได้โดยเร็ว อีกทั้งพระนางยังเอ็นดูสุ่ยเฉินเฟิงมาก จึงตรัสว่า“เช่นนั้นป้าสะใภ้ก็ต้องแสดงความยินดีกับจื่อหยวนที่จะได้เฟิงเอ๋อร์มาเป็นพระชายา และต้องแสดงความยินดีกับซีซวนที่น้องสาวจ

    Last Updated : 2025-04-04
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 92 ผลัดแผ่นดิน

    ฮองเฮาและรัชทายาทรับฟังการตัดสินพระทัยของฮ่องเต้แล้วก็ไม่รู้สึกแปลกใจ รู้อยู่แล้วว่าสักวันเหตุการณ์นี้ต้องมาถึงอย่างแน่นอน เมื่อบอกกล่าวให้รู้ตัวแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นในที่ประชุมขุนนาง ฮ่องเต้ก็ประกาศสละราชบัลลังก์รัชทายาท เทียนตี้เต๋อ ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นพระเจ้าเต๋อหมิง มีการจัดพิธีฉลองราชสมบัติอย่างยิ่งใหญ่ แคว้นต้าเจียคึกคักไปทั่วทั้งแผ่นดิน ราษฎรล้วนแสดงความยินดีออกมาเฉลิมฉลองกันเจ็ดวันเจ็ดคืน มีการพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ที่กระทำความผิดไม่ร้ายแรงพระเจ้าเต๋อหมิงแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาพิเศษประจำพระองค์ขึ้นมาหนึ่งคณะ ให้ฉินอ๋องเป็นประธานที่ปรึกษา แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงเป็นรองประธานฝ่ายความมั่นคง อัครมหาเสนาบดีเป็นรองประธานฝ่ายกิจการภายใน มีขุนนางและทหารที่ทรงคัดเลือกเองทำหน้าที่ต่าง ๆ รวมแล้วสิบคนฉินอ๋องถอนหายใจ เขากำลังจัดเตรียมพิธีสมรสให้เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่ตอนนี้ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษา งานในหน้าที่ก็จะมากขึ้นหลายเท่าตัว อย่างไรก็ตามการขึ้นครองราชย์ของฮ่องเต้องค์ใหม่ในแต่ละรัชสมัยย่อมยังไม่มั่นคง อาจเป็นที่จับตาของแคว้นอื่นที่จ้องจะรุกรานดินแดน และอาจจะมี

    Last Updated : 2025-04-04
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 93 พิธีมงคลสมรส

    ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ครุ่นคิดหนัก “สิ่งแรกคือแก้ไขกฎหมาย เด็กที่พ่อและแม่มิใช่ราษฎรต้าเจีย แม้จะคลอดบนดินแดนต้าเจียก็ไม่สามารถใช้สวัสดิการฟรีตลอดชีพเช่นเดียวกับราษฎรต้าเจียได้ แต่เพื่อมนุษยธรรม โรงหมอของรัฐก็จะยังคงช่วยทำคลอดให้พ่ะย่ะค่ะ” “ดีมาก เรื่องนี้ข้าเห็นด้วย”“อีกเรื่องคือการที่ชนกลุ่มน้อยโกวพ่างเข้ามารักษาจนล้นโรงหมอของรัฐจนกระทั่งราษฎรต้าเจียไม่สามารถใช้สิทธิของตนเองได้นั้น ต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขนานกว่าพ่ะย่ะค่ะ”ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง กล่าวต่อไปว่า “ควรก่อสร้างโรงหมอของรัฐสักแห่งไว้ที่ชายแดนเพื่อมนุษยธรรม ไม่ว่าราษฎรต้าเจียหรือคนแคว้นอื่นเข้ารับการรักษาก็จะดูแลให้เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบันพ่ะย่ะค่ะ แต่หากต้องการจะไปใช้โรงหมอของรัฐแห่งอื่นก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าราษฎรต้าเจีย เรื่องนี้จะช่วยคลายความคับข้องใจของราษฎรต้าเจียไปได้บ้าง”พระเจ้าเต๋อหมิงพยักพระพักตร์ “เรื่องนี้ไม่ว่าแก้ไขไปในแนวทางใด ก็จะต้องมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว การดำเนินการเช่นนี้ก็เป็นการดูแลราษฎรต้าเจียที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันก็มีมนุษยธรรมกับคนแคว้นอื่นด้วย เรื่องที่พวกเราหารือกันในว

    Last Updated : 2025-04-05
  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 94 หอมกลิ่นความรัก

    เมื่อขบวนรับเจ้าสาวเดินทางมาถึงจวนอ๋อง สุ่ยเฉินเฟิงซึ่งนั่งอยู่ในเกี้ยวขนาดใหญ่ก็สูดลมหายใจเข้าอย่างตื่นเต้น ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ลงจากหลังอาชาแล้วมารับเจ้าสาวด้วยตนเอง พระชายากู้ชุนฉือรออยู่ในโถงหลักของจวน นางแต่งกายอย่างหรูหราสวยงาม สวมใส่เครื่องประดับอัญมณีล้ำค่าเข้าชุดกันทั้งคอ แขน และนิ้วมือ มวยผมที่เกล้าอย่างประณีตปักปิ่นล้ำค่าสะดุดตาของบรรดาผู้สูงศักดิ์ที่มาร่วมงาน พระชายากู้ชุนฉือยิ้มรับลูกสะใภ้อวดให้เห็นความสามัคคีกลมเกลียวของแม่สามีและลูกสะใภ้จวนอ๋อง ลบล้างคำกล่าวหาว่านางหวงแหนโอรสจนเกินพอดีสุ่ยเฉินเฟิงรวบรวมสติทำตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง วันนี้แขกเหรื่อมากันมากมาย ทั้งบรรดาเชื้อพระวงศ์ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ นายทหารระดับสูง พร้อมกับครอบครัวของพวกเขาทั้งหลาย ทุกพื้นที่มีเสียงพูดคุยอย่างร่าเริง กลิ่นดอกไม้ที่ประดับอยู่ทั่วจวนทำให้อากาศมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ อาหารชั้นเลิศนานาชนิดและสุราอย่างดีถูกนำมาต้อนรับเลี้ยงแขก งานสมรสพระราชทานนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการกว่าที่ทุกคนจะเคยพบเห็นมาก่อนในที่สุดสุ่ยเฉินเฟิงก็ถูกนำตัวมาที่เรือนหอ เมื่อฉินอ๋องเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออก ก็เผยให้

    Last Updated : 2025-04-05

Latest chapter

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 114 ใต้หล้าล้วนสงบสุข

    สิบปีผ่านไป ณ ตำหนักคุนหนิง ฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง นั่งดื่มชาในสวนดอกไม้ อากาศอบอุ่น มีลมพัดผ่านเบา ๆ นึกถึงชะตาชีวิตที่แปลกประหลาด ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่มีชีวิตสงบสุขเหมือนคุณหนูสูงศักดิ์ทั่วไป แต่เมื่อถึงวัยมีคู่ครองก็มีเรื่องเดือดร้อนไม่จบไม่สิ้น ชีวิตเหมือนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง กว่าจะฝ่าฟันมาถึงวันนี้ก็ได้รับประคับประคองจากพระสวามีผู้สง่างามและครอบครัวเดิม สุ่ยเฉินเฟิงสัญญากับตนเองว่าจะทะนุถนอมความรักของพวกเขาไว้อย่างดีฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง และฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิง มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมห้าองค์ องค์ชายหย่งเฉิงคล้ายเสด็จพ่อมากที่สุดทั้งรูปร่างหน้าตา อุปนิสัย และความรู้ความสามารถ องค์ชายหย่งเฉิงชื่นชอบการฝึกซ้อมอาวุธทุกประเภท อีกทั้งยังชำนาญหมากล้อมและการฝึกเชาว์ปัญญาต่าง ๆ เรียกว่าเก่งทั้งบู๊และบุ๋นองค์หญิงเฟิงซินหน้าตาคล้ายเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ ทำให้นางเป็นที่โปรดปรานของเสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือยิ่งนัก บางครั้งฮ่องเต้ยังจำใจต้องอนุญาตให้องค์หญิงเฟิงซินไปพักค้างที่ตำหนักนอกวังบ้างเพราะทนการรบเร้าของผู้เป็นมารดาไม่ไหว แรก ๆ ก็ไปพักค้างครั้งละหนึ่งคืน พอนานเข้าเสด็จย่าไทเฮา

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 113 ราษฎรกินอิ่มนอนอุ่น

    ราษฎรต้อนรับการประสูติขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงอย่างเอิกเกริก ร้านค้าในตลาดและบ้านเรือนราษฎรปักธงถวายพระพร เหลาเฉียนจัดทำอาหารพิเศษแจกจ่ายให้ลูกค้าโดยไม่คิดเงิน ร้านขายผลไม้ก็นำส้มมงคลมาแจกจ่ายให้ผู้คนที่สัญจรไปมาเมื่อครั้งเทียนตี้หย่งยังดำรงตำแหน่งฉินอ๋อง ราษฎรก็รักใคร่ชื่นชม แม้ในจวนอ๋องจะไม่มีพระชายา พระชายารอง หรืออนุ ก็ไม่มีผู้ใดใส่ใจ ต่อมาขึ้นครองราชย์ ราษฎรก็ปลื้มปิติ แต่ก็กังวลเพราะฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ลั่นวาจาไว้ว่าจะมีฮองเฮาสุ่ยเฉินเฟิงเพียงพระองค์เดียวแม้ในขณะที่แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฮองเฮา พระนางจะตั้งครรภ์แล้วก็ตาม หากเป็นพระราชธิดาพวกเขาก็ยังไม่วางใจ ดังนั้นเมื่อองค์ชายน้อยหย่งเฉิงประสูติ จึงเป็นทั้งความยินดีและความโล่งใจของราษฎรทั้งหลาย อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่า แคว้นต้าเจียมีผู้สืบทอดบัลลังก์มังกรแล้วในแต่ละวันขององค์ชายน้อยหย่งเฉิงมีเสด็จย่าทั้งสองและท่านยายผลัดกันมาดูแล คือเสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้ เสด็จย่าไทเฮากู้ชุนฉือ และท่านยายเจียงจือไฉ แต่เสด็จย่าไทเฮาสือจินอวี้จะได้เปรียบมากกว่าเพราะประทับในวังเช่นเดียวกัน จึงมาดูแลเกือบทุกวัน เว้นแต่วันที่เสด็จย่าไทเฮ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 112 เจ้าก้อนแป้งตัวน้อยน่ารัก

    พระราชพิธีแต่งตั้งฮองเฮาเป็นไปอย่างเรียบง่ายตามความประสงค์ของสุ่ยเฉินเฟิง ตำหนักคุนหนิงของฮองเฮาได้รับการปรับปรุงใหม่ มีห้องสำหรับทารกติดกับห้องบรรทมของฮองเฮา สำหรับฮ่องเต้เทียนคงอิงฉงนั้นแม้จะมีตำหนักเฉียนชิง แต่พระองค์ก็จะมาบรรทมที่ตำหนักคุนหนิงเป็นประจำ เว้นแต่ช่วงที่ทรงงานดึกจึงจะพักผ่อนที่ตำหนักเฉียนชิงเพื่อให้ฮองเฮาพักผ่อนเต็มที่ ไม่ต้องตื่นกลางดึกสุ่ยฝานหรงซึ่งบัดนี้ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีนั้น บางวันจะพาเหมยกุ้ยเข้าวังมาส่งที่ตำหนักคุนหนิงในช่วงเช้า และมารับกลับหลังจากประชุมขุนนางเสร็จ ชีวิตของสุ่ยเฉินเฟิงจึงไม่เงียบเหงาเกินไป ส่วนถิงถิงซึ่งบัดนี้เป็นนางกำนัลคนสนิทของฮองเฮาก็ช่างมีเรื่องซุบซิบมาเล่าให้ฟัง แม้กระทั่งองค์หญิงนาราที่เสวยผลไป่เซียงกั่วเพื่อให้เกิดผื่นจะได้ยืดเวลาการอยู่ในวังหลวงเพื่อมีเวลาขอถวายตัวเป็นสนมก็มาเล่าให้ฟัง เรียกได้ว่าทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ถิงถิงไม่ค่อยจะพลาดข่าว ถิงถิงมีความเห็นว่ารู้มากหน่อยดีกว่ารู้น้อยไปเมื่อสุ่ยฝานหรงเข้ารับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีแล้ว ฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ก็ต้องวางกำลังคนที่ไว้ใจให้ควบคุมหน่วยกำลัง

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 111 เข้าวัง

    ไทเฮาสือจินอวี้ลุกขึ้นจากที่ประทับ ตรงไปยังองค์หญิงนาราที่นั่งคุกเข่า ใช้สองพระหัตถ์แตะไหล่ประคองให้องค์หญิงน้อยลุกขึ้นยืน แล้วตรัสว่า “องค์หญิงนารามีหน้าตาสวยงามและเพียบพร้อมด้วยความรู้ ไม่ควรจะมาเป็นสนม ความหวังดีนี้ไม่อาจรับไว้ได้ ขอให้แคว้นต้าเจียและเผ่าตู้ผูกพันเป็นมิตรที่ดีต่อกันเถิด”ภายนอกมีเสียงดังขึ้นว่า “ฮ่องเต้เสด็จ”เมื่อร่างสูงสง่าของฮ่องเต้ก้าวเข้ามาในโถงกลางของวังหลัง พระองค์ทำความเคารพไทเฮาก่อน แล้วจึงหันไปตรัสแก่ผู้อื่นที่ทำความเคารพว่า “ไม่ต้องมากพิธี” องค์หญิงน้อยมองด้วยสายตาหลงใหลเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อยแล้วตรัสด้วยสุรเสียงจริงจังว่า “เจิ้นขอบใจในน้ำใจของถู่ซือและองค์หญิง แต่ไม่อาจรับไว้ได้ ต้าเจียและเผ่าตู้ไม่จำเป็นต้องผูกพันกันด้วยการอภิเษกหรือการเป็นสนม แต่ยังเป็นพันธมิตรกันต่อไปได้”องค์หญิงน้อยทำได้เพียงกล่าวเสียงเบาว่า “เพคะ” รู้สึกอับอายแทบแทรกแผ่นดิน ไม่คิดมาก่อนว่าจะถูกปฏิเสธแม้แต่การเป็นสนม เทียนตี้หย่งหันไปทางทูตเผ่าตู้แล้วตรัสว่า “เผ่าตู้มีสินค้าหายากหลายอย่างที่ต้าเจียไม่มี เจิ้นจะให้ทูตการค้าต้าเจียหารือเรื่องการพัฒนาการค้าขายระหว่างกันดีห

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 110 ใคร ๆ ก็หลงรักฮ่องเต้ผู้สง่างาม

    พระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ เทียนตี้หย่ง ขึ้นครองราชย์สถาปนาเป็นฮ่องเต้เทียนคงอิงฉง ราษฎรทั่วแคว้นต้าเจียเฉลิมฉลองเจ็ดวันเจ็ดคืน พวกเขาล้วนมีความหวังที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งใดที่เคยหวัง ต่างแคว้นล้วนส่งทูตมาแสดงความยินดี ไม่มีแคว้นใดหาญกล้าทดสอบความแข็งแกร่งของฮ่องเต้พระองค์ใหม่เผ่าตู้เป็นชนเผ่าที่เคยถูกแคว้นต้าเลี่ยงรุกรานและสร้างความอัปยศให้แก่องค์หญิงหลายองค์จนปลิดชีพตนเอง เมื่อแคว้นต้าเจียปราบปรามแคว้นต้าเลี่ยงทำให้เผ่าตู้ได้รับอิสระอีกครั้ง เมื่อมาแสดงความยินดีในครั้งนี้ มีองค์หญิงน้อยเผ่าตู้ร่วมเดินทางมาด้วย องค์หญิงนาราเป็นองค์หญิงองค์เดียวที่ปลอดภัยจากการรุกราน เนื่องจากช่วงเวลานั้นไม่ได้อยู่ในดินแดนเผ่าตู้ ในท้องพระโรง พระเจ้าเทียนคงอิงฉง เทียนตี้หย่ง ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ขาวใส ดวงตาดำขลับยาวรีปลายชี้ฟ้า จมูกโด่งเป็นสัน ช่างสง่างามเหลือเกิน องค์หญิงน้อยมองดูด้วยความตะลึง หลงรักบุรุษผู้สง่างามนี้ทันทีเทียนตี้หย่งแย้มพระโอษฐ์ขอบคุณแคว้นต่าง ๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดี และเชิญทูตทุกแคว้นทุกชนเผ่าเข้าร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น เนื่องจากยังไม่มีการแต่งตั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 109 เทพสงครามครองบัลลังก์มังกร

    หลังจากพระเจ้าเต๋อหมิงได้รับบาดเจ็บ คณะหมอหลวงก็พยายามทุกวิธีในการรักษา เพราะฤทธิ์ยาระงับความเจ็บปวดที่หมอหลวงปรุงขึ้น แม้พระพักตร์จะขาวซีดแต่ก็ไม่แสดงถึงความเจ็บปวด เวลาผ่านไปสิบกว่าวัน ลมหายใจที่แผ่วเบานั้นก็หยุดนิ่ง หัวหน้าหมอหลวงตรวจชีพจรอีกครั้งก่อนจะหันมาทูลต่อไทเฮาสือจินอวี้ว่า“พระองค์กลับคืนสู่สวรรค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”ไทเฮาสือจินอวี้ตัวอ่อน เป็นลมล้มพับ ฉินอ๋อง เทียนตี้หย่ง ที่ยืนอยู่ใกล้กันรับตัวเสด็จป้าสะใภ้ไว้ทันก่อนพระวรกายกระทบพื้น หมอหลวงแบ่งคนมาปฐมพยาบาลไทเฮา ความเศร้าโศกเสียใจล้นห้องบรรทมออกไปครอบคลุมวังหลวงและกระจายออกไปทั่วแคว้น พระเจ้าเต๋อหมิงเป็นผู้ปกครองใต้หล้าด้วยความเมตตา จึงเป็นที่รักใคร่ของราษฎร ในช่วงเวลาอันเศร้าหมอง ฉินอ๋องเป็นกำลังหลักในการสั่งการเรื่องต่าง ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากพิธีการต่าง ๆ ผ่านพ้นไป ไทเฮาสือจินอวี้ก็เรียกฉินอ๋องเข้าเฝ้า สุ่ยเฉินเฟิงดูแลเครื่องแต่งกายให้พระสวามี ฉินอ๋องใช้นิ้วดันคางของนางให้เงยหน้าขึ้น“เฟิงเอ๋อร์ เจ้ากังวลอะไรหรือ”สุ่ยเฉินเฟิงถอนหายใจ “ไม่แน่ว่าการเรียกตัวเข้าเฝ้าในครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับบัลลังก์ที่ว่างอยู่เพ

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 108 ศาสตร์และศิลป์ในการปกครอง

    พระเจ้าเต๋อหมิงบาดเจ็บสาหัส นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุพระองค์ก็ยังไม่ลืมพระเนตรขึ้นมา มีเพียงชีพจรและลมหายใจแผ่วเบาเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่ายังมีพระชนม์ชีพอยู่ เกิดความโกลาหลในการบริหารงานเล็กน้อย ไทเฮาสือจินอวี้ต้องออกนั่งเป็นประธานการประชุมขุนนางในฐานะผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน พระนางไม่ประทับบนบัลลังก์มังกร แต่กลับให้คนนำเก้าอี้หงส์จากตำหนักของพระนางมาใช้ประทับเป็นการชั่วคราวแม้ว่าปกติไม่ว่าไทเฮาหรือฮองเฮาพระองค์ใดก็ตาม ไม่สามารถเข้ามายุ่งเกี่ยวกับกิจการของวังหลวงได้ ผู้เป็นมารดาของแผ่นดินมีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลวังหลังให้เป็นไปโดยเรียบร้อย แต่สถานการณ์ของแคว้นต้าเจียในคราวนี้แตกต่างออกไป พระเจ้าเต๋อหมิงไม่ได้อภิเษกสมรสเพราะอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ให้กับไท่ซ่างหวงซึ่งก็คือเสด็จพ่อของพระองค์นั่นเอง อีกทั้งพระเจ้าเต๋อหมิงก็ไม่มีสนมจึงยังไม่มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดาแม้แต่พระองค์เดียว แคว้นต้าเจียจึงยังไม่มีรัชทายาทเดิมทีเหล่าขุนนางตั้งใจว่าหลังจากพ้นการไว้ทุกข์ให้ไท่ซ่างหวงแล้ว พวกเขาจะกดดันให้พระเจ้าเต๋อหมิงอภิเษกสมรสและแต่งตั้งฮองเฮา รวมทั้งให้เริ่มการคัดเลือกสนมเข้ามาปรนนิบัติตามธรรมเนียมท

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 107 ขบวนการทำลายแคว้นจบสิ้น

    ก่อนที่สุ่ยฝานหรงจะออกไป ฉินอ๋องสั่งการเพิ่มเติมว่า “ตอนที่จับกุมเมิ่งกุ้ยเฟย คนที่สุสานบรรพชนล้วนถูกลงโทษ นางกำนัลอู่ก็ติดตามกุ้ยเฟยไปที่สุสานด้วย ท่านตรวจสอบด้วยว่าผู้ใดช่วยเหลือให้นางหลบหนีจนรอดพ้นได้” “พ่ะย่ะค่ะ”สุ่ยฝานหรงออกไปแล้ว ฉินอ๋องกลับเข้าไปในห้องบรรทมของพระเจ้าเต๋อหมิง มีโต๊ะวางไว้มุมห้อง เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ จางชุนรินน้ำชาส่งให้ เขารับมาถือไว้นิ่ง ๆ มองตรงไปก็เห็นญาติผู้พี่นอนนิ่ง พระพักตร์ซีดเซียว นี่คือสิ่งที่เขากังวลอยู่เสมอว่าจะเกิดขึ้น และแล้วก็เกิดขึ้นจริง พี่สี่ของเขาพระทัยอ่อน ใช้สายพระเนตรที่เมตตามองผู้คนโดยรอบ ใช้พระคุณแต่เพียงอย่างเดียวในการปกครองเวลาผ่านไป แม่ทัพใหญ่สุ่ยฝานหรงกลับมาอีกครั้งเมื่อเข้ายามอิ๋น เขาสีหน้าไม่ดีนัก รายงานว่า“ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางกำนัลอู่ไม่ถูกจับกุมเพราะนางลากลับบ้านเดิมเพื่อจัดการงานศพของมารดา เมื่องานศพเสร็จแล้ว ระหว่างทางที่เดินทางกลับเมืองหลวง ก็ได้ข่าวว่าคนที่สุสานบรรพชนถูกจับกุม นางจึงซ่อนเร้นตัว เมื่อทหารที่ไปตรวจค้นสุสานบรรพชนและทำลายเห็ดเมากลับไปแล้ว นางก็ลักลอบเข้าไปในสุสานบรรพชน เพราะนางอยู่ที่นั่นกั

  • ดอกไม้ในเปลวเพลิง   บทที่ 106 บาดเจ็บสาหัส

    “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ หลานจะสอบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้สภาพในคุกไม่เหมาะสำหรับผู้บาดเจ็บ” เขาหันถามหัวหน้าหมอหลวงว่า “จะเคลื่อนย้ายฝ่าบาทได้หรือไม่ หรือต้องรอให้อาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน”หัวหน้าหมอหลวงตอบว่า “สามารถเคลื่อนย้ายได้แล้วพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง คุกหลวงไม่เหมาะกับการรักษาผู้ป่วยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ”ในที่สุด พระเจ้าเต๋อหมิงก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังตำหนักเฉียนชิง ฉินอ๋องประคองไทเฮา สือจินอวี้ไปพร้อมกัน โดยให้สุ่ยฝานหรงซึ่งตามมาถึงแล้ว ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไทเฮานั่งกุมพระหัตถ์พระราชโอรส พระพักตร์ของพระองค์และพระเจ้าเต๋อหมิงซีดขาวพอกัน"เสด็จป้าสะใภ้พักผ่อนก่อนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” ไทเฮาสือจินอวี้ส่ายพระพักตร์ “ป้าสะใภ้จะเฝ้าเต๋อเอ๋อร์ เมื่อเขาฟื้นจะได้เห็นหน้าแม่เป็นคนแรก”“ถ้าเช่นนั้นหลานจะให้คนจัดห้องด้านข้างเป็นที่บรรทมชั่วคราวดีไหมพ่ะย่ะค่ะ เสด็จป้าสะใภ้ไปพักผ่อนก่อน มิฉะนั้นอาจจะประชวรไปอีกพระองค์ หากพี่สี่รู้สึกตัวแม้เพียงเล็กน้อยจะให้คนไปทูลให้ทรงทราบทันที”ไทเฮาพยักพระพักตร์ ฉินอ๋องจึงสั่งให้ขันทีประจำตำหนักเฉียนชิงเร่งจัดห้องบรรทมช

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status