Home / วาย / ดลรวีที่รัก / บทที่ ๘ เพียงครึ่งวัน (๕๐%)

Share

บทที่ ๘ เพียงครึ่งวัน (๕๐%)

last update Last Updated: 2024-11-07 18:00:51

เช้าวันนี้ถือเป็นโชคดีที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือเพราะว่าเขาเคยชินกับบรรยากาศน่าอึดอัดในบ้านไปแล้วก็ไม่รู้เหมือนกัน กระนั้นมันกลับทำให้ช่วงเวลาที่เขามีความสุขเด่นชัดขึ้นมาโดยปริยาย

“กันต์ วันนี้สอบวันสุดท้ายแล้วใช่ไหม?”

“ครับ!”

“เราอยากกินอะไรหรือเปล่า ฉลองหลังสอบเสร็จไง ดีไหม?”

“ผมอยากกินไก่ทอดน้ำปลา”

“แค่อย่างเดียวเองเหรอ อาอุตส่าห์บอกลุงแดงให้เตรียมทำกุ้งเผาเอาไว้ให้ สงสัยคงต้องไปบอกยกเลิกแล้วมั้ง”

“เอาด้วยครับ เอาด้วย!”

“ของหวานก็เอาเป็น...”

“ขนมปังสังขยา!”

“ฮ่า ๆ กินเป็นอยู่อย่างเดียวรึ ฮึ?”

กันต์ยิ้มแฉ่งขณะเดินคู่ไปกับคุณอาหลังลงจากรถราง ด้วงเองก็ยังคงทำหน้ายิ้มรับเช่นเคย ตลอดหนึ่งสัปดาห์มานี้เด็กชายจมปลักอยู่แต่ในห้อง วันหยุดที่โรงเรียนสั่งให้นักเรียนพักอ่านหนังสือแม้จะบอกว่าอยู่ที่บ้าน แต่เจ้าตัวตลอดทั้งวันไม่ออกมาจากห้องเลยสักนิดเพราะลุงแดงก็เอามื้อเช้ากลางวันเย็นวางไว้หน้าห้อง ห้องน้ำก็อยู่ด้านใน เรียกได้เต็มปากว่าเจ้าตัวอ่านหนังสือแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันเสียยิ่งกว่าสมัยก่อนที่เขาต้องทำอี

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๘ เพียงครึ่งวัน (๑๐๐%)

    ไกรวิชญ์เดินกลับมาถึงห้องก็คว้าเสื้อคลุมที่พาดอยู่มาปั้นเป็นหมอนก่อนจะโยนมันไปยังหัวม้านั่งยาวตามด้วยโยนร่างที่เหนื่อยล้าของตัวตามลงไปแขนหนายกขึ้นก่ายหน้าผากบังแสงที่เข้ามาทางหน้าต่างให้สายตามองเห็นเพียงความมืด จิตตั้งมั่นพยายามข่มใจหลับทว่าสิ่งถัดไปที่ผุดขึ้นมาฟุ้งซ่านในหัวคือ น้องชายเขาคิดจนแทบบ้าไม่ต่างจากนักโทษในกรงขังนั่นทว่ากลับคิดหาวิถีทางที่จะเอ่ยกล่าวกับด้วงให้เจ้าตัวกลับมาทำตัวปกติกับเขาไม่ออกเลยสักนิด“เฮ้อ...”*แอ๊ด* เสียงบานประตูไม้หนาค่อย ๆ แง้มเปิดสะกิดหูนายตำรวจที่สะลึมสะลือใกล้หลับให้หันสมาธิมาสนใจทว่าก็ยังไม่ได้เปลี่ยนท่าทางการนอนแต่อย่างใด คงจะเป็นเจ้าแผนที่กลับเข้ามานั่งเล่นอีกตามเคย“ไม่คิดว่าคนอย่างแกจะนอนกลางวันกับเขาด้วยนะ” เสียงอย่างชายชราคุ้นหูเอ่ยขึ้นทำให้เขาต้องรีบหยัดตัวลุกขึ้นโดยไม่ดูทรงผมของตัวเองที่กระเซอะกระเซิง เมื่อสบตาผู้กำกับการหนุ่ม ชายสูงอายุจึงอมยิ้มกับหน้าอ่อนเยาว์ที่อ้าปากหวอด้วยความปฏิบัติตัวไม่ถูก“ท่าน...สวัสดีครับ”ไกรวิชญ์เอ่ยทักทายพร้อมรีบลุกขึ้น

    Last Updated : 2024-11-08
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๙ คำที่ไม่อยากได้ยิน (๕๐%)

    ‘วันนี้คุณผู้ชายฝากมาบอกว่าจะไปดื่มกับเพื่อนนะ’นั่นเป็นสิ่งที่ลุงแดงกล่าวเมื่อเขากลับมาถึงบ้านก่อนเจ้าตัวจะผละออกไปเก็บงานทำความสะอาดให้เรียบร้อยและขอตัวกลับบ้าน ทั้งที่ปกติพี่ไกรช่วงนี้ก็กลับเย็นกลับหัวค่ำแต่สงสัยที่มาบอกครั้งนี้คงจะกลับดึกมากจริง ๆด้วงคุยกับตัวเองในหัวขณะเดินขึ้นไปบนบ้าน ด้วยช่วงนี้ฟ้ามืดเร็วดวงไฟบนเพดานจึงเปิดสว่างโร่ แต่เขากลับไม่เห็นเด็กชาย สงสัยคงจะอาบน้ำอาบท่าไม่ก็ทำการบ้านอยู่ในห้องทว่าเมื่อมารู้ว่าวันนี้จะได้มีเวลาอยู่คนเดียวมากขึ้นรายการเรื่องที่ยังค้างคาก็แล่นเข้ามาในหัวการงาน/การเรียนในอนาคตของกันต์ธีร์ ตอนนี้แม้เจ้าตัวจะยังหาอาชีพในฝันไม่ได้ รู้แต่เพียงปฏิเสธการเป็นตำรวจ กระนั้นเรื่องนี้ก็ยังสามารถเลื่อนเวลาออกไปได้ อย่างไรเสียอายุของเด็กชายก็พึ่งพ้นเลขหลักเดียวมาไม่เท่าไร ส่วนเรื่องที่ใกล้เข้ามาหน่อยอย่างการเรียนพิเศษ เขาลองเอามาขึ้นมาคิดดูอีกครั้งเมื่อนึกย้อนกลับไปพี่ไกรก็มีส่วนที่พูดถูก เขาไม่ควรเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งมากจนเกินไป ทว่าอย่างน้อยหากจะเรียนก็อยากให้หลานรักได้มีสิทธิ์ออกความเห็นบ้าง และอีกเรื่อง.

    Last Updated : 2024-11-09
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๙ คำที่ไม่อยากได้ยิน (๑๐๐%)

    ด้วงหลังจากทานมื้อเย็นเสร็จก็ยกจานชามลงมาทำความสะอาด แม้น้ำประปาในตอนกลางคืนจะเย็นโดยธรรมชาติแต่เมื่อเข้าฤดูฝนคล้ายว่ามันจะเย็นเป็นพิเศษ อีกไม่กี่เดือนคงเย็นจากฤดูหนาวจนต้องรีบหาอะไรมาอุ่นมือ เมื่อคิดดังนั้นเสียงฟ้าร้องก็ดังกระหึ่มโดยพลัน อีกไม่ถึงชั่วโมงฝนคงตก หวังว่าพี่ไกรจะกลับมาทันก่อนฝนลงเม็ดปกติพี่เจ้าไม่ใช่คนช่างเที่ยว ไปกินดื่มครั้งนี้คงไปกับคณะหรือไม่ก็เพื่อนสนิทอย่างพี่พูน เจ้าตัวยิ่งคออ่อนอยู่ด้วย แม้ลึก ๆ แล้วจะยังรู้สึกระแวงแต่ในฐานะน้องชายก็อดเป็นห่วงไม่ได้เลยด้วงเช็ดไม้เช็ดมือแล้วจึงดึงแขนเสื้อสีขาวลงมาปิดแขนกันลมหนาว เดินไปปิดไฟถือตะเกียงส่องตรวจตราความเรียบร้อยบริเวณชั้นหนึ่งก่อนขึ้นไปจบที่หน้าห้องของเด็กชาย ช่วงนี้เห็นเจ้าตัวดูเหนื่อยเป็นพิเศษไม่รู้ว่าเวลาเกือบสองทุ่มจะเข้านอนไปหรือยัง*ก๊อก ก๊อก ก๊อก*“กันต์นอนหรือยัง อาขอเข้าไปได้ไหม?”‘ได้ครับ’ เสียงเล็กกล่าวอนุญาต คุณอาจึงเปิดประตูเข้าไปเมื่อไขกลอนเปิดแล้วจึงเห็นว่าเด็กชายกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่โดยมีเพียงตะเกียงหัวโต๊ะเป็นจุดกำเนิดแสง

    Last Updated : 2024-11-10
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๑๐ ไร้ที่พึ่ง (๕๐%)

    เพราะเมื่อคืนกระดกหมดแก้วแบบไม่รู้สี่รู้แปดแท้ ๆ ตอนนี้เขาเลยจำอะไรหลังจากภาพตัดไปไม่ได้สักนิด จำได้แต่เพียงพวกเขาเข้าไปในร้าน นั่งมองอะไรไปเรื่อยสักพัก พอแก้วมาวางตรงหน้าหลังจากนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้อีกทีก็ตื่นขึ้นมาบนเตียงห้องนอนตัวเองแล้วไกรวิชญ์สะลึมสะลือพาตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมกุมศีรษะปวดตุบไปด้วย กระดุมเสื้อถูกปลดให้คอปกหย่อนคล้อยให้พอหายใจสะดวก ขมวดคิ้วฝืนอาการเวียนหัวเหลือบมองตะเกียงเจ้าพายุอันเป็นของน้องชายที่คงจะนำมาตั้งทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน รวมไปถึงถุงสัมภาระของเขาที่เจ้าพูนมันน่าจะแบกมาให้ ทว่าไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกแปลก ๆ ผ้าปูเตียงผ้าห่มยับยู่ยี่ โต๊ะเก้าอี้เอียงไม่เข้าที่ เสื้อผ้าบางตัวหล่นอยู่บนพื้น เขาคงต้องไปถามด้วง แต่แสงแดดข้างนอกดันบ่งบอกเวลาสายโด่ง แถมงานของด้วงผู้คนพลุกพล่านในช่วงวันหยุดเสียด้วยป่านนี้คงออกไปทำงานแล้ว พินิจพิเคราะห์ได้ไม่เท่าไรร่างกายก็อ่อนล้าจนอยากจะนอนต่อ ไหน ๆ วันนี้เขาก็ไม่ต้องไปทำงานขอพักผ่อนสักหน่อยก็แล้วกันร่างกำยำในเสื้อผ้าของเมื่อวานพาตัวเองลงนอนอีกครั้งพร้อมกระชับผ้าห่มคลุมร่างเนื่องจาก

    Last Updated : 2024-11-11
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๑๐ ไร้ที่พึ่ง (๑๐๐%)

    เมื่อเข็มหน้าปัดนาฬิกาชี้เลขสิบสองพร้อมกัน ด้วงจึงขอตัวจากเพื่อนร่วมงานออกจากสถานีมากินข้าวตามปกติโดยมีเสียงโอดโอยของแผนเพื่อนสนิทไล่หลังเพราะเขาไม่เคยแม้แต่จะไปกินข้าวเที่ยงกับมันเลยไม่รู้ว่าป่านนี้พี่จะตื่นรึยัง หรืออีกความหมาย วันนี้พี่จะพาตัวเองตื่นขึ้นมาไหวหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าต้องให้เขาไปช่วยพยุงอีกหรอกนะ“…”เมื่อความคิดเป็นห่วงแล่นเข้ามา ไม่นานก็ตามมาด้วยภาพเหตุการณ์เมื่อคืนวาน เมื่อสักครู่เขาลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร ทว่าพอมานึกได้ก็อยากจะลืม ๆ ไปเสียให้สิ้นเรื่อง เพราะเจ้าพี่อย่างไรตื่นมาก็คงจำอะไรไม่ได้อยู่แล้วฝีเท้าที่ก้าวไปข้างหน้าฉับไวกลับค่อย ๆ ชะลอและหยุดกึกเมื่อสิ่งของตรงหน้าคือประตูรั้วสีขาวที่คุ้นเคย เขาไม่กล้าเปิดมันทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหากไม่ส่อพิรุธก็จะไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น“เฮ้อ…”ด้วงถอนหายใจระบายความหนักอก เขาจะมัวแต่ยืนแช่อยู่ตรงนี้ไม่ได้ เพราะตอนบ่ายยังมีงานที่ต้องทำ เอาเป็นว่าเขาจะรีบกินรีบออกก็แล้วกัน-‘สวัสดีจ้ะหนูกันต์ ต่อจากนี้ครูจะมาเป็นอาจารย์สอนพิเศษของหนูนะจ๊ะ’เสียงแหลมเล็กของหญิงสาวแว

    Last Updated : 2024-11-12
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๑๑ เลี้ยงมื้อกลางวัน (๕๐%)

    ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในสน.อย่างเคย ดีหน่อยที่เอกสารจิปาถะดำเนินไปได้ด้วยดีทำให้เขาสามารถกลับมาเพ่งสมาธิไปกับภารกิจสุดท้ายได้อย่างเต็มตัว อีกไม่นานเขาจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ต้องก้มหน้าเขียนงานงก ๆ อีกต่อไปไกรวิชญ์สัมผัสได้ถึงกลิ่นแปลก ๆ ระหว่างเขากับน้องชาย แม้รู้ว่าเมื่อครั้งก่อนยามอีกฝ่ายโทรศัพท์จะจงใจไม่พูดความจริง แต่ในตอนนั้นเขากลับรู้สึกว่าการไปถามตามตรงคงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไรนัก มันคงมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในคืนก่อนหน้าที่เขาเมาเขาพยายามนึกคิดด้วยตัวเองแต่กลับจำอะไรไม่ได้ ถึงพูนมันมาเล่าให้ฟังว่าเขาขึ้นบ้านได้อย่างไรก็ไม่สามารถเชื่อมโยงความจำได้เพราะหลังจากนั้นเขาอยู่ด้วงตามลำพัง หากไม่ถามเจ้าตัวแล้วจะไปถามใคร กระนั้นคราวจะหาจังหวะถาม ด้วงก็เอาแต่ปฏิเสธบทสนทนายิ่งกว่าเมื่อก่อน นอกจากจะหลบหน้าแล้วยังไม่ยอมคุยเรื่องชีวิตประจำวันหากไม่ใช่เรื่องของกันต์ธีร์ ยิ่งทำเขาอยากรู้เรื่องราวในคืนนั้นเข้าไปใหญ่‘แม่ ผม…’แม่อย่างนั้นเหรอ เขาได้ยินแว่ว ๆ จากการยกหู โทรศัพท์ในครั้งนั้น ตอนนี้แม่แท้ ๆ ของด้วงหรือแม่เลี้ยงของเขาอา

    Last Updated : 2024-11-13
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๑๑ เลี้ยงมื้อกลางวัน (๑๐๐%)

    “ผมไม่ถนัดทานของหวาน แต่ถ้าคุณบอกว่าดีผมจะลองดูครับ”ด้วงยกมุมปากยิ้มกว้างน้อมรับความเอาใจใส่ของอาจารย์เจ้า นี่คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่อยากให้เขาไปร้านอื่นสินะ“โดยเฉพาะน้ำมะพร้าว”เขารู้สึกได้ว่าตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงกว่าปกติ มันคงไม่ใช่เพราะอากาศร้อน เพราะในห้องนี้มีลมโกรกผ่านช่องหน้าต่างอยู่ตลอดบทสนทนา และคงไม่ใช่เพราะเขากำลังเกร็งอยู่ หรือมันจะเป็นความรู้สึกที่อยู่เหนือไปกว่านั้นกัน*กริ๊ก* ระหว่างที่ด้วงกำลังมองจานที่เต็มไปด้วยอาหารที่คุณอุ่นตักให้ ก็ได้ยินเสียงคล้ายโลหะกระทบกันเบา ๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาด้วยความสงสัย จึงเห็นแสงสะท้อนบริเวณอกก่อนจะปรับสายตาจนได้เห็นว่าเจ้าตัวสวมสร้อยคออยู่“คุณอุ่น”“ครับ?”ด้วงที่กลืนข้าวลงคอเรียบร้อยแล้วจึงเรียกเพื่อนร่วมโต๊ะอาหาร นายสถานีชี้ไปยังบริเวณอกของตัวเองให้อาจารย์ชาวญี่ปุ่นก้มหน้าลงไปมองจนเห็นว่าตัวเองทำสร้อยคอหลุดออกจากเสื้อเชิ้ต“อ่า ขอบคุณนะครับ”ดันกิกล่าวพลางรวบหยิบสายคล้องยัดกลับเข้าคอปกก่อนจะจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้

    Last Updated : 2024-11-14
  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๑๒ แสดงละคร (๕๐%)

    “ไอ้ด้วง ช่วงนี้มึงดูแปลก ๆ ไปนะ”แผนเดินเข้ามาหาเจ้าเพื่อนสนิทหลังทำหน้าที่โบกธงสัญญาณ เสียงรองเท้าหนังคู่เก่าเดินเตาะแตะมานั่งบนเก้าอี้ไม้ข้างเจ้าเพื่อนผู้ห่อเหี่ยว มันบอกว่าได้ย้ายกะสัปดาห์หน้า เขาก็ว่าจะย้ายตามเพราะส่วนตัวไม่ได้อยากร่วมงานกับพวกตาลุงพูดมากสักเท่าไรนัก ในสถานีนี้คนที่เด็กสุดก็เป็นพวกเขาสองคนกับหลานสาวสามขวบของคุณปู่นักการภารโรงตอนนี้นอกสถานีฝนตก ทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารหรือไม่ต่างพากันเข้ามาหาที่นั่งหลบฝน หรือจะเป็นเพราะสภาพอากาศจึงส่งให้คนที่มีเรื่องกลุ้มใจอยู่แล้วหดหู่ยิ่งขึ้นไปอีก จนตอนนี้เขาถามไปตั้งแต่เสียงระฆังดัง ด้วงมันก็ยังคงนั่งห่อไหล่ก้มมองพื้นลายหินกรวดอยู่“ด้วง มึงไหวปะเนี่ย?”ครั้งนี้แผนวางธงสองสีไว้ข้าง ๆ แล้วจึงใช้สองมือเขย่าตัวเพื่อนตัวใหญ่ให้เงยหน้าขึ้นมามองกัน อย่างน้อยให้มันด่าเขาสักนิดก็ยังดี“ด้วง! มึงเป็นอะไร ถ้าป่วยก็ไม่ต้องมาทำงานดิวะ”“…”“สภาพแบบนี้มึงทำงานไม่ไหวหรอก”“กูไหวเว้ย…”“สภาพแบบนี้ยังอุตส่าห์พูดมาได้อีกนะ”ตอนนี้สภาพของไอ้ด้วงดูไม่จืด แม้จ

    Last Updated : 2024-11-15

Latest chapter

  • ดลรวีที่รัก   เรื่องในจวน ๓ ขจัดภัย

    “ตื่นมาก็ทำงานเลยหรือ?”องค์กษัตริย์ไถ่ถามมเหสี ที่เคยนอนด้วยกันปกติจะเป็นเขาที่ออกมาทันทีหลังแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จเนื่องจากมีราชกิจกับเหล่าเสนาบดี แต่วันนี้เนื่องจากเป็นวันดีที่จะได้ไปส่งมเหสีขึ้นเกี้ยวกลับไปเยี่ยมมารดาพวกเขาจึงตื่นสายหน่อยและให้เวลาส่วนตัวแก่มเหสีคนใหม่ จึงมาอาบน้ำด้วยตัวเอง“ข้าไม่คิดว่าท่านจะทำได้จึงมีงานวังหลังเหลืออยู่”“เช่นนั้นเจ้าก็เลือกสนมรองขึ้นมาช่วยงานสิ งานบัญชีเยอะเช่นนี้เจ้าทำคนเดียวไม่ไหวหรอก”“หากข้าเลือกขึ้นมาแล้วท่านสัญญาได้ไหมว่าจะปันเวลาให้พวกนาง”เขาไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำสอง อย่างไรพระสนมส่วนใหญ่ถึงบางรายอาจไม่แสดงออกแต่ลึก ๆ ทุกคนล้วนต้องการความรักจากองค์จักรพรรดิทั้งสิ้น“ข้าทำไม่ได้มเหสี”“เช่นนั้นก็สมควรแล้วที่ข้าจำต้องตื่นแต่เช้ามาทำงานแต่เพียงผู้เดียว”ว่าแล้วอดีตพระสนมจึงวางพู่กันลงลุกขึ้นจากเบาะรองนั่งเดินตรงไปยังส่วนอาบน้ำโดยไม่แม้แต่จะสบตาพระสวามีผู้ทำทุกอย่างเพื่อให้ตนเองได้ปิ่นปักผมหงส์กนกมาครองแม้วันนี้พวกเขาจะมีนัดไปเยี่ยมมารดาแต่ก็ยังคงตื่

  • ดลรวีที่รัก   เรื่องในจวน ๒ ลำบากใจ

    “ท่านพี่ ท่านพี่เพคะ ท่านพี่ว่าปิ่นปักผมชิ้นนี้เข้ากับน้องไหมเพคะ?”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงในชุดผ้าแพรยาวสีสันสดใสพร้อมด้วยสองมวยผมที่จับมักเป็นมวยกลมตกแต่งด้วยดอกไม้หยกห้อยระย้าประดับกรอบหน้างามอย่างคุณหนูลูกสาวขุนนางใหญ่ เธอหยิบปิ่นปักผมดอกกล้วยไม้ขึ้นมาทาบศีรษะกล่าวถามเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่ปลอมตัวเป็นคนรวยเข้ามาเดินเล่นในชุมชนในกลางเมืองเด็กหนุ่มผมหยักศกสีน้ำตาลผินใบหน้าแววตาเหยียดมองคู่หมั้นที่ติดสอยห้อยตามเขามาด้วย ทำเอาเสียอารมณ์ไม่ใช่น้อย แทนที่จะได้เดินดูทุกข์ราษฎรแล้วเอาไปเขียนรายงานส่งท่านอาจารย์กลายเป็นต้องมาดูแลประคบประหงมลูกคุณหนูเสียอย่างนั้น“กระจกก็มีเจ้าไม่ส่องดูเอาเองล่ะ”ไร้ซึ่งความเห็นใจ เด็กหนุ่มตอบเสียงแข็งเดินสะบัดก้นหนีจนองครักษ์ซึ่งติดตามมาด้วยถึงกับทำตัวไม่ถูกเฉกเช่นเดียวกับพระคู่หมั้นที่ยืนตัวแข็งทื่อไปแล้วองค์รัชทายาทในวัยสิบสองขวบปีเดินกระชับปีกหมวกคล้องลูกปัดหลบเลี่ยงมายังตรอกซอกซอยหนึ่งโดยมีองครักษ์ในชุดชาวบ้านเดินติดสอยห้อยตามมาคุ้มครองด้วย‘เดินถัดจากตลาดมานิดเดียวก็เจอศพคนตายแล้ว’

  • ดลรวีที่รัก   เรื่องในจวน ๑ สถานะ

    ชนชั้นในสถานที่อันปวงประชาภายนอกรั้วมองเข้ามาล้วนบอกเป็นเสียงเดียวกันถึงสิ่งปลูกสร้างอันประณีตงดงาม สวนดอกไม้อันเขียวชอุ่มและอาหารเลิศรสที่สามัญชนแม้เฝ้าเก็บเงินมาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถลิ้มลองจานของโอรสสวรรค์ได้ท่ามกลางความอู้ฟู่โอฬารเหล่านั้น ภาพสวยหรูที่ใครต่อใครซึ่งพรายกระซิบกันมาผ่านกำแพงสูงกลับถูกสกัดด้วยมุมมืดของวังหลวงแห่งนี้พระราชโอรสได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นกษัตริย์เมื่อพระราชบิดาสิ้นอายุขัย พระคู่หมั้นเข้าพิธีอภิเษกสมรสและได้ครอบครองปิ่นปักผมหงส์กนกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระมารดาแห่งแผ่นดิน ทั้งสองปกครองเคียงคู่กันมาจนให้กำเนิดองค์รัชทายาท เป็นที่รักใคร่เอ็นดูต่อเหล่านางกำนัลน้อยใหญ่พระราชโอรสชาญฉลาดนัก ใฝ่เรียนใฝ่รู้ทุกสิ่งรอบตัวเป็นอาจิณ กระนั้นยังคงไว้ซึ่งประกายสดใสในแววตาเปล่งปลั่ง ประหนึ่งดวงตะวันน้อยที่ค่อย ๆ เจริญเติบโตและกลายมาเป็นที่พึ่งพิงของผืนฟ้าจนมาวันหนึ่ง ท่ามกลางโต๊ะไม้สักลายมังกรวางเรียงรายด้วยจานอาหาร เมื่อพระมเหสีได้ตักเนื้อข้าวเสวยเข้าไปเพียงคำเดียว เสียงช้อนเงินซึ่งค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีดำร่วงหล่น

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๑๑ หนึ่งวันธรรมดา (NC)

    "กันต์มาทำงานใกล้บ้านไม่ได้เหรอ อาไม่อยากให้เราไปอยู่ที่ไหนนาน ๆ เลย”“ผมไปอยู่นั่นแค่ปีเดียว เดี๋ยวก็ได้ย้ายมาศูนย์พระนครแล้วครับ”จนแล้วจนรอดคุณอาที่เลี้ยงดูหลานชายมาตั้งแต่ยังแบเบาะจนยามนี้มีงานมีการทำก็ยังเป็นห่วงแล้วเป็นห่วงอีก กลับมาบ้านครั้งหนึ่งก็จัดอาหารชุดใหญ่เอาไว้ให้เสียอลังการ พอจะกลับไปวิทยาลัยอาเจ้าก็เอาของกินใส่ปิ่นโตมาให้ทั้งยังหาอาหารที่เก็บได้นาน ๆ จัดใส่กระเป๋าเอาไว้ กลัวว่าหลานชายจะไม่มีอะไรกินเมื่ออยู่ที่นั่นตอนนี้กันต์ธีร์โตเป็นหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาได้พ่อ กำลังเรียนต่อชั้นป.โทจากทุนที่ได้มาทันทีหลังจบป.ตรี ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในนักวิจัยพรรณพืชของวิทยาลัยแม้เป็นที่ภาคภูมิใจของคนในครอบครัว ทว่าคุณอาไม่ชอบใจเท่าไรที่ที่เรียนที่ทำงานไกลจากบ้านเหลือเกิน เขาอดใจรอหลานเรียนจบ หวังจะได้กลับมาเห็นหน้าค่าตาทุกวันเหมือนวันวานกลายเป็นต้องเหินห่างกันเหมือนเดิมไปอีกหนึ่งปีเสียได้“เดี๋ยวผมจะพยายามกลับมาให้ได้ทุกสัปดาห์นะครับ”“มันจะไม่รบกวนเราไปใช่ไหมกันต์?”เดินทางครั้งหนึ่งนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายแล้วยั

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๑๐ ปัญหาของคนหน้าตาดี

    กันต์ธีร์ × อาจารย์น้ำหวานคุณอานายสถานีในวัยสามสิบสี่ย่างสามสิบห้านั่งปักผ้าเตรียมทำถุงหอมให้พี่ชายคนรักและกันต์ธีร์ที่จะกลับมาเยี่ยมบ้านในสัปดาห์นี้ โดยมีพี่ชายนั่งกกกอดอยู่ด้านหลังซุกไซ้ใบหน้าไปมาตามกิจวัตรอยู่บนเตียงนุ่ม แทนที่จะเรียกว่าเอือมระอาให้เรียกว่าชินชาเสียมากกว่า ทว่าอย่างไร ณ จุดจุดนี้อ้อมกอดของพี่ก็ไม่ได้ทำให้เขาปักผ้าลำบากขึ้นมากนักหรอกเห็นว่ามหาวิทยาลัยกันต์ธีร์อยู่ไกลจึงจำต้องไปอาศัยพักหอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดเอาไว้ให้ ดีที่เจ้าตัวเก่งพอจะได้ทุนการศึกษา ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จึงไม่ได้หนักหนาอะไรมาก เผลอ ๆ อาจราคาพอกันกับสมัยมัธยมเลยกระมังทว่าแม้จะผ่านมาครบหนึ่งปีที่หลานชายที่รักต้องออกไปใช้ชีวิตคนเดียวก็ยังมีเรื่องที่คุณอาคนนี้กังวลใจอยู่ไม่หาย“เฮ้อ...”“ถ้าเหนื่อยก็พักก่อนก็ได้ครับ ค่อยเย็บใหม่วันพรุ่งนี้”“น้องไม่ได้เหนื่อยเรื่องนั้น น้องแค่เป็นห่วงน้องกันต์”“กันต์โตเป็นหนุ่มแล้ว ปล่อยให้เขามีชีวิตเป็นของตัวเองบ้างก็ได้ ไว้มีปัญหาพี่เชื่อว่ากันต์จะมาบอก

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๙ เรื่องหนวด ๆ

    “ด้วง เรามาโกนหนวดให้พี่ได้ไหมครับ?”ไกรวิชญ์ในทุกอาทิตย์มักจะเข้ามาอ้อนขอน้องชายถึงสิ่งนี้เป็นประจำ บางครั้งด้วงก็งงงวยว่าทำไมเจ้าพี่เมื่อก่อนก็จัดการเคราบนหน้าได้เองตามปกติแต่ทำไมหลังจากที่เขาโกนให้ครั้งแรกถึงได้ติดอกติดใจนัก“พี่เตรียมของไว้นะ เดี๋ยวผมตามเข้าไป”ด้วงซึ่งอาสาเช็ดโต๊ะทานอาหารหลังมื้อเช้าเสร็จบอกดังนั้นก่อนจะเห็นพี่ไกรเดินเข้าห้องอย่างอารมณ์ดี หากเทียบตัวตนของพี่ไกรวิชญ์เมื่อปีที่เรื่องราวเกิดขึ้นล้านแปดแล้วเหมือนเป็นคนละคนตอนนั้นเขามองหน้าพี่แทบไม่ติดคล้ายจะมีรังสีความน่ากลัวแผ่ออกมาตลอด คุยกันครั้งหนึ่งต้องมีทะเลาะเบาะแว้งไม่ลงรอย แต่มาเดี๋ยวนี้พี่เจ้าแค่มองหน้าเขาก็ยิ้มร่า มักจะชอบวิ่งเข้าหามาช่วยเขาไม่ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องเล็กแค่ไหน จนบางครั้งก็เหมือนได้เห็นภาพซ้อนของกันต์ธีร์ในวัยเยาว์อย่างไรอย่างนั้น คิดแล้วก็ขำกับตัวเอง นี่เขาเห็นพี่มีนิสัยเหมือนเด็กเล็กอย่างนั้นหรือด้วงคิดสะระตะก่อนเดินไปพาดตากผ้าขี้ริ้วกับระเบียงด้านนอก จัดแจงเก้าอี้ให้เข้าที่แล้วจึงพาตัวเองเดินเข้าห้องนอนไปทำตามที่พี่เจ้าร้องขอไว้

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๘ ประชุมแบบใด

    “ไอ้ไกร ยังหมัดหนักเหมือนเดิมเลยนะ”“ขอบคุณครับ”ไกรวิชญ์รู้สึกว่าตัวเองห่างหายจากการซ้อมมวยมานานจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่มาเห็นจะเป็นเมื่อต้นปีที่แล้วก่อนที่จะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นจนเขาไม่มีเวลามากพอจะมาให้เวลากับการฝึกซ้อมที่นี่เป็นลานอเนกประสงค์ซึ่งตำรวจในพื้นที่หากมีเวลาก็จะมานั่งสังสรรค์พักผ่อนจากการทำงานในกรณีวันไหนไม่อยากกลับไปเจอหน้าเมีย (ไอ้พูนที่ก๊งเหล้าประจำนั้นเป็นคนบอกมา) ทว่าสำหรับเขาแล้วที่นี่เหมือนเป็นที่ออกกำลังเสียมากกว่า แถมทำไมเขาจะไม่อยากกลับเจอหน้าคนรักเล่าไกรวิชญ์ซึ่งปลดเสื้อเครื่องแบบออกเหลือเพียงเสื้อกล้ามสีขาวเปื้อนเหงื่อเดินกลับมานั่งพักบนแคร่ไม้ไผ่พลางถอดผ้าพันข้อมือ เขาค่อนข้างภาคภูมิใจมากที่วันนี้ข้อนิ้วเขาไม่ได้รับบาดเจ็บจนถลอกจากการต่อยถุงทราย ทั้งยังสภาพการณ์ดีขึ้นเยอะ แบบนี้ด้วงก็ไม่ต้องมาสละเวลานั่งทายาให้แล้ว“โอ๊ย ๆ ปวดไหล่จังเว้ย ไอ้ไกรเอ็งเมื่อก่อนมาซ้อมทุกวันเลยดิ”พูนเดินกลับมาจากลานหลังลองวัดฝีมือกับชาวบ้านในวงท่านหนึ่ง เพราะอยากรู้ว่าตัวเองอยู่ในระดับไหน แต่เอาเข้าจริงเขาที่ถนัดลอบเร้นม

  • ดลรวีที่รัก   บทที่ ๗ รถคันเก่า (NC)

    ย้อนกลับไปวันที่ทุกคนจะไม่อยู่บ้านเนื่องจากคุณแม่ที่กลับมาอยู่บ้านหลักสักพักก็คิดจะย้ายกลับมาอย่างเต็มตัว ยิ่งไปกว่านั้นก็อยากพาเจ้าหมึกมาพระนครด้วย ทั้งกันต์ธีร์นัดกับเพื่อนว่าจะไปนอนค้างคืนเล่นอะไรตามประสาในช่วงวันศุกร์-เสาร์ ทำให้เขาและพี่ไกรเหลือกันอยู่สองคนในบ้าน เพราะลุงแดงก็อาสาตามไปช่วยขนสัมภาระกับพี่ชมพู่เมื่อรู้ดังนั้นพวกเขาเลยตกลงกันว่าจะออกไปเที่ยวกันสองคน พี่ไกรจึงเสนอว่าจะพาไปขับรถเล่นหลังจากปล่อยรถนอนในอู่มานานหลายปีจนต้องมีล้างทำความสะอาดไล่ฝุ่นกันนิดหน่อย เมื่อลองเปิดปิดใช้งานเครื่องยนต์ก็ยังสามารถทำงานได้ดีเหมือนเดิมพี่ไกรบอกว่าจะกลับมาขับรถให้มากขึ้น เวลาพาครอบครัวไปไหนมาไหนจะได้ไม่ต้องรอระบบขนส่งสาธารณะไกรวิชญ์ในชุดพร้อมเที่ยวเปิดประตูหน้าคนขับเข้ามาในรถ เมื่อเห็นว่าเครื่องปรับอากาศทำงานได้ดีไม่ร้อนอบอ้าวเขาจึงเดินขึ้นไปตามด้วงให้ลงมา“ไปวันเดียวเอง เราขนอะไรไปเยอะจัง”“ผมไม่ชินเลย ไปกันแค่สองคน”ปกติหากไปเที่ยวจะไปกันทั้งครอบครัว หรืออย่างน้อยก็จะมีกันต์ธีร์มาด้วยอีกคนเสมอ แต่ครั้งนี้เพราะเป็นครั้งแรกมัน

  • ดลรวีที่รัก   บทพิเศษ ๖ คุณตำรวจสายตาสั้น

    ด้วงเข้าใจดีว่าพี่ชายเป็นตำรวจก็มีล้มลุกคลุกคลานบ้างเวลาไล่ตามโจรผู้ร้ายน้องชายในชุดเครื่องแบบนายสถานีพึ่งเลิกงานมาหมาด ๆ นั่งมองพี่ชายบนเตียงคนไข้ตาเขม็งโดยที่ไกรวิชญ์ไม่สามารถปฏิเสธข้อกล่าวหาได้เป็นพี่พูนที่เอาความมาเล่าสู่กันฟังกับเจ้าแผนและเขาที่สถานีรถไฟ เห็นว่าคราวนี้งานไม่ยากเย็นอะไรเพราะได้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ ตัวพี่เองไม่ต้องลงไปอยู่ในสนามรบเองก็ได้ ทั้งพี่พูนเห็นว่าช่วงนี้พี่ไกรมีปัญหาด้านสายตา เริ่มมองระยะไกลๆ ไม่ค่อยชัด จะเอื้อมหยิบเอกสารที่อยู่ห่างออกไปสักหน่อยก็หยิบผิด ๆ ถูก ๆ เพ่งสายตามองนานเป็นนาทีก็ยังอ่านตัวอักษรบนกระดานไม่ออกซึ่งพี่พูนก็ปรามแล้วแต่พี่ไกรก็ยังดื้อแพ่งจับปืนไปลงพื้นที่โดยเมินคำเตือนเหล่านั้นจนได้กระสุนฝังหน้าขามาจนได้ แบบนี้เขาขอหยิกให้เนื้อเขียวหน่อยเถอะ“หายแล้วพี่ไปตัดแว่นใส่เลยนะ”“ไว้ค่อยรอช่างมาตัดให้แม่รอบหน้า-“ไม่ต้องเลย แล้วก็พากันต์ไปด้วย เผื่อมันส่งต่อทางพันธุกรรม”“ครับ...”ไกรวิชญ์เย็นวันนั้นกลับมาบ้านขากะเผลกจนต้องให้น้องชายช่วยประคอง ทั้งที่เมื่อก่อนสมัยยี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status