ปัง ปัง ปัง!!!
"อิง เสร็จยังวะ เข้าไปนานแล้วนะเว้ย "
"อย่าเร่งดิฉี่ไม่ออก " ผลตรวจออกแล้วต่างหากแต่ฉันไม่กล้ายอมรับความจริงกับเรื่องที่เกิดขึ้น จากนี้ไปฉันจะอยู่ยังไง ต้องทำตัวแบบไหน แล้วต้องตอบคำถามคนอื่นๆ ยังไง มันเครียดไปหมด! เครียดจนไม่กล้ายอมรับว่านี่มันคือเรื่องจริง
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน ฉันกับไคล์เกิดพลาดมีอะไรกัน อยากตบหน้าตัวเองแรงๆ ต้องไม่ใช่แบบนี้ ต้องไม่ใช่ไคล์นั่นมันเพื่อนรักของฉัน
"อิง! " เสียงตะโกนของไคล์ดังเข้ามาอีกครั้ง ฉันคงหนีไม่พ้น ความจริงก็คือความจริง
แต่ฉันไม่อยากให้เรื่องมันออกมาแบบนี้ ฉันไม่อยากท้อง ฉันยังอยากใช้ชีวิตอิสระอยู่เลย เราทั้งคู่ไม่ควรมาเจอเรื่องแบบนี้ ฉันยกมือขึ้นมาลูบท้องเบาๆ แล้วพูดในใจว่าเขาไม่ผิดเหมือนกัน เราทั้งคู่ต่างหากที่ใช้ชีวิตประมาทขาดสติ
"จะออกไปแล้ว"
"เร็วๆ ดิวะ " น้ำเสียงรีบเร่งเจือกังวลนั้นทำให้ความเครียดที่มีสะสมมากขึ้น ถ้าไคล์รู้ว่าฉันท้อง เขาคงผิดหวังมากเพราะอนาคตที่กำลังจะไปได้สวยคงดับวูบ เพื่อนสนิทของฉันคนนี้กำลังจะบินไปเป็นซุป'ตาร์ที่เมืองจีน ใครกันอยากตัดอนาคตเพื่อน ฉันคิดอะไรไม่ออกเลยจริง ๆ
"เออ ๆ "
"ว่ายังไง ท้องมั้ย" ฉันไม่อยากเห็นสีหน้ากังวลของมันเลยจริงๆ มือที่กำที่ตรวจครรภ์อยู่นั้นสั่นแปลก ๆ จนไคล์ยื่นมือมาแย่งมันออกไปจากมือของฉัน
"ไคล์"
"เฮ้อ ลีลาว่ะ เข้าไปตั้งนาน ขีดเดียว สรุปไม่ท้องใช่มั้ย" ฉันพยักหน้าน้อย ๆ พยายามเก็บกลั้นอารมณ์ข้างในเอาไว้ไม่ให้หลุด ลูกคนเดียวฉันเลี้ยงไม่ไหวหรอกใครกันจะเลี้ยงไหว แต่ฉันมีผู้ใหญ่ที่นับถืออยู่คนหนึ่ง ท่านคงจะช่วยฉันได้แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องอึดอัดใจกับฉันมากก็ตาม
"ใช่ ไม่ท้อง โล่งหรือยัง" ฉันรีบเดินผ่านไคล์เพื่อไปนั่งพักที่โซฟา การโกหกทำไมมันยากขนาดนี้
"ไม่ได้โกหกใช่มั้ยอิง ตรวจกี่อัน"
"เออ ไม่ท้องก็คือไม่ท้องดิวะ ทำไม อยากให้ท้องหรือไง" ฉันถามกลับทำให้สีหน้าของไคล์เป็นกังวลขึ้นมาอีกครั้ง
"อิง ขอร้องอย่าโกหก" ไคล์เดินมาหยุดอยู่ข้าง ๆ แล้วนั่งลงใกล้ฉัน ขอร้องล่ะอย่าคาดคั้นอะไรอีกเลย แค่นี้ฉันก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว
"ไม่เชื่อใจกันหรือไง กลับไปได้แล้ว" ทั้งที่ในใจตอนนี้มันอ่อนแอมาก แต่ฉันก็ต้องอดทนอดกลั้นทุกๆ อย่างเอาไว้ ไคล์ไม่ใช่ผู้ชายเห็นแก่ตัว ฉันรู้ว่าเพื่อนคนนี้พร้อมจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น
"ทำไมต้องไล่ด้วย ไม่ท้องแล้วก็จะถีบหัวส่งกันเลยหรือไง" ไอ้ไคล์บ้ายื่นมือมายีหัวฉันอีกแล้ว
"เปล่าสักหน่อย เอามือออกไปเลย" ฉันขยับตัวหนีทันที ชอบเล่นแบบนี้อยู่เรื่อย
"เล่นนิดเล่นหน่อยก็ไม่ได้"
"เออ เอ่อ คือว่า"
"อะไร อึกอักอะไร" ไคล์มองหน้าฉันนิ่งเพื่อรอคำตอบ
"รีบกลับไปได้แล้ว ฉันนัดพี่จินไว้ ลืมบอกไปเลย"
"นี่อย่าบอกนะว่าคบกันอ่ะอิง บอกแล้วไงว่านั่นมันเสือนะเว้ย" ฉันเองก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอก แต่จะทำยังไงให้สลัดไคล์ออกไปง่ายๆ ไม่มีเลยสักทาง
"ก็ลองดูสักตั้งมันจะเป็นไรวะ ไหนๆ ก็ไม่ได้ท้อง" ฉันฝืนยิ้มแล้วลุกยืน ให้มันจบสักที หลังจากนี้ไคล์ควรออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว ส่วนเรื่องเด็กในท้อง ฉันจะจัดการเองในเมื่อท้องไม่พร้อมและไม่มีศักยภาพที่สามารถเลี้ยงดูเค้าได้ ฉันก็จะปล่อยเด็กคนนี้ให้ไปเกิดใหม่
"อิง ที่บอกไปไม่เข้าใจเลยใช่มั้ยวะ"
"จะหัวเสียทำไม"
"เตือนไม่ฟัง แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน อาทิตย์หน้าจะบินแล้วไปส่งด้วย" ไคล์เตือนเรื่องพี่จินหลายครั้งฉันจำและรับรู้มาโดยตลอดแล้วฉันก็จะไม่มีวันคบกับพี่จินเด็ดขาดเพราะความจำเป็นจึงต้องยกพี่จินขึ้นมาอ้าง
"เก็บของครบแล้วใช่มั้ย" ฉันอดเป็นห่วงเรื่องนี้ไม่ได้ ไคล์เป็นพวกขี้ลืม ไม่ค่อยเรียบร้อยเรื่องแบบนี้ ทุกครั้งที่บินฉันเนี่ยแหละที่ต้องเข้าไปช่วยจัดการเรื่องกระเป๋าเป็นประจำ
"อือ ไปแล้วนะ" สีหน้าดูผิดหวังของไคล์ทำให้ฉันใจไม่ดีเหมือนกัน ความเป็นเพื่อนของเราจะยังอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงแน่นอน แต่ตอนนี้ฉันขอเวลาทำใจสักระยะได้มั้ย
สิ้นเสียงปิดประตู ฉันก็ทรุดตัวลงบนพื้น ปลดปล่อยทุกอย่างที่อัดอั้นออกมา ฉันร้องไห้ฟูมฟายชนิดที่ว่าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
"เจ้าเด็กน้อย ฉันขอโทษ ขอโทษที่ไม่สามารถรั้งเขาเอาไว้ได้"
"อิง"
นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ฉันนอนร้องไห้พร้อมกับกอดตัวเองอยู่บนพื้น
"พี่จิน"
"พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงไม่ยอมรับสายพี่" พี่จินยังไม่ลดความพยายามในการตามจีบแล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าพี่จินมาได้ยังไง
"อิงลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องน้ำค่ะ ขอโทษนะคะ พี่จินมีอะไรหรือเปล่าคะ" ฉันพยายามจะลุกแต่ก็ไม่ไหวจนพี่จินต้องช่วยประคองพาไปนั่งบนโซฟาอีกครั้ง
"ไอ้ไคล์มันโทรมาหาพี่ มันบอกว่าฝากอิงด้วย ถ้าพี่ทำให้อิงร้องไห้มันจะกลับมาฆ่าพี่แล้วก็ขออิงคืน" ได้ยินแบบนี้แล้วน้ำตาก็ยิ่งไหลมากกว่าเดิม ไอ้บ้าไคล์ทำแบบนี้อีกแล้ว
"ไคล์มันจะฆ่าใครได้" ฉันพึมพำแล้วหลุดขำทั้งๆ ที่น้ำตายังนองหน้า
"นั่นสิ บอกพี่ได้มั้ยว่ามีปัญหาอะไรกัน"
"ทะเลาะกันนิดหน่อยค่ะ"
"พี่ว่าไม่นิดแล้วนะแบบนี้" ให้มันเป็นความลับนั่นแหละดีแล้ว ฉันไม่อยากให้ใครรู้นอกจากตัวเองและผู้ใหญ่ที่ตัวเองกำลังจะเดินทางไปขอความช่วยเหลือ ยังไงก็ขอบคุณไคล์ที่ยังเป็นห่วง มิตรภาพสำหรับเรายังคงอยู่ ฉันเลือกแล้วว่าต้องการให้เรื่องมันจบแบบนี้
3 ปีต่อมา
"ไออุ่นอยู่ไหนลูก น้องอุ่น"
"แม่อิง น้องอุ่นอยู่นี่ค่ะ"
"มอมแมมอีกแล้ว แม่บอกว่ายังไงคะ ห้ามแอบเล่นน้ำไง"
"คุณอิงครับ นายต้องการพบครับ"
"พ่อพ่อมาแล้วหรือคะ น้องคอุ่นคิดถึงพ่อพ่อค่ะ"
"ไปหาพ่อพ่อกันค่ะ"
----------------
สาธารณรัฐประชาชนจีน"ได้เรื่องบ้างมั้ย""ยังเลยครับ ค้นจากประวัติที่คุณไคล์ให้มาไม่พบประวัติของผู้หญิงที่ชื่ออิงฟ้าเลยครับ ที่อยู่ ชื่อและนามสกุลก็ไม่ปรากฏในทะเบียนราษฎร์เลยครับ" ผมถอนหายใจอีกครั้งเมื่อเรียกนักสืบมาถามความคืบหน้าการตามหาเพื่อนสนิทที่มีเพียงคนเดียว สองปีกว่าแล้วที่ผมไม่ได้รับข่าวและการติดต่อจากเพื่อนคนนี้อีกเลยเพราะอะไรวะอิง ทำไมถึงหายไปจนทำให้ใจหายแบบนี้"ตามหาต่อไป ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานการเสียชีวิต ผมเชื่อว่าเธอยังมีชีวิตอยู่" นักสืบเอกชนหลายต่อหลายบริษัทที่ผมว่าจ้างทำงานไม่ได้เรื่องเลยสักบริษัท จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาผู้ใหญ่คนหนึ่งแนะนำบริษัทนี้มา ผ่านไปสองอาทิตย์ก็ยังไร้วี่แวว"เป็นไปได้มั้ยครับว่าเธอจะเปลี่ยนชื่อ" ผมชะงักแล้วหันไปมองหน้านักสืบ ผมลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่อิงจะเปลี่ยนชื่อ"อิงจะเปลี่ยนชื่อเพื่ออะไร""หนีคุณไงครับ""หนีผม" ผมชี้ตัวเองอย่างงงๆ เป็นไปไม่ได้หรอก เราสองคนไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย ก่อนบินอิงก็มาส่งผมที่สนามบิน ช่วงต้นปีแรกเราก็ยังคุยกันปกติ แล้วหลังจากนั้นผมก็ติดต่ออิงไม่ได้อีกเลยไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร"เป็นไปได้ครั
"ยังไม่เลิกซื้อหวยอีกหรือไง""อะไรกันคะ เรียกมาพบก็เพราะเรื่องหวยเนี่ยนะ" ฉันดึงเก้าอี้ตรงหน้าแล้วหย่อนตัวลงนั่ง พี่ชายต่างแม่ของฉันคนนี้ทำหน้าซีเรียสแล้วสักพักก็ผ่อนคลายลงเมื่อเห็นหน้าเด็กหญิงไออุ่นที่วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงออดอ้อน"พ่อพ่อขา""ไออุ่นของพ่อพ่อมาช่วยแม่ใช่มั้ย" เจ้าตัวอ้วนพยักหน้าแล้วโผเข้ากอดพ่อพ่อของเขาหลังจากที่ฉันไปส่งไคล์ที่สนามบินวันนั้นเสร็จฉันก็รีบติดต่อหาพี่ตฤณทันที เขาคือพี่ชายต่างแม่และเป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ ชีวิตฉันไม่เหลือใครแล้วนอกจากพี่ชายคนนี้ ก่อนหน้าฉันคิดว่าตัวเองสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งพาใคร พอท้องก็เริ่มกังวลทีแรกฉันจะทำแท้งเพราะไม่พร้อมจริงๆแต่พี่ตฤณห้ามเอาไว้ ฉันเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่ตฤณฟัง พี่ชายของฉันคนนี้เข้าใจและยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยไม่ลังเล ปกปิดที่อยู่และจัดการเรื่องชื่อนามสกุลให้จนเสร็จสรรพ อิงดาวได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ตอนนี้มีแค่ฟ้ารดาเท่านั้น ฟ้ารดา อักษรศิลากุล เป็นนามสกุลที่ฉันปฏิเสธมาตลอดสุดท้ายฉันก็ต้องกลับมาพึ่งพานามสกุลนี้ ลดทิฐิในตัวลงเพื่อชีวิตน้อยๆ ที่ฉันเกือบจะตัดเขาออกจากตัวไป"พ่อพ่อดุแ
"ดูนั่นสิ แสดงเป็นต้นไม้ซะสมจริงเลย""พี่ตฤณ หลานตั้งใจออก ดูสิคะจ้องพี่ตฤณไม่วางตาเลย" สิ่งที่ไออุ่นกังวลมากที่สุดคือกลัวพ่อพ่อของเขามาไม่ได้ พอได้เห็นว่าพ่อพ่อมาได้ก็จ้องตาไม่กะพริบเลย เอ็นดูเจ้าต้นไม้น้อยนั่น"พี่ผิดนัดครั้งก่อนคงกลัว" ครั้งนั้นเป็นงานวันเด็ก ไออุ่นได้ขึ้นแสดงเต้นประกอบเพลง แววตาเศร้าหมองในวันนั้นทำให้พี่ตฤณรู้สึกผิดไม่น้อย รูปที่ฉันตั้งใจถ่ายไปอวดกลายเป็นภาพแห่งความเจ็บปวดไปซะงั้น แต่พี่ตฤณก็สั่งให้คนไปอัดใส่กรอบตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเอาไว้เตือนใจว่าไม่ควรผิดสัญญากับใครอีก"ครั้งนั้นเต้นเกือบไม่ออก เอาแต่มองหาพ่อพ่อ""พี่รู้สึกว่าตัวเองเป็นพ่อของไออุ่นเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วนะ" พี่ตฤณยื่นมือมาแตะบ่าฉันเบา ๆ แล้วหันไปมองลูกสาวที่กำลังทำการแสดงอยู่บนเวที วันนี้พ่อพ่อของไออุ่นออร่าจับมาก ๆ แม่ ๆ หลายคนมองตาไม่กะพริบ โดยเฉพาะแม่ของน้องอิ๊งที่นั่งอยู่ข้างหลัง เพราะไม่ค่อยได้เห็นพี่ตฤณสักเท่าไหร่"แสดงจบก็กลับบ้านได้เลย พี่ตฤณจะกลับก่อนก็ได้นะคะ" งานพี่ตฤณรออยู่อีกมาก ไออุ่นเห็นหน้าพี่ตฤณแล้วก็น่าจะพอใจแล้วล่ะ ได้ข่าวว่ามีประชุมอีก"รอกลับพร้อมกันนี่แหละ ถ่ายรูปกันก่อนสิ"
"อุ่นอยากขึ้นเครื่องบิน เครื่องบิน เครื่องบิน""รู้แล้วค่ะ ดี๊ด๊าใหญ่เลยนะเรา ป้าสุดใจเอากระเป๋ามาครบแล้วใช่มั้ยคะ""เอามาครบแล้วค่ะ" ฉันตรวจเช็กความเรียบร้อยของทุกคน โดยเฉพาะเด็กหญิงไออุ่นเพราะเมื่อวานมีไข้ต่ำ ๆ กำหนดเดินทางวันนี้ตอนแรกจะเลื่อนไปก่อน แต่งานที่นู่นดันมีปัญหาก็เลยเลื่อนไม่ได้ ปรึกษาคุณหมอแล้วว่าอาการของไออุ่นไม่รุนแรงกินยาลดไข้และเช็ดตัวบ่อยๆก็จะดีขึ้นดีขึ้นจริง ๆ นั่นแหละ เสียงแจ๋วเชียว"ถึงแล้วก็โทรมาบอกพี่ด้วย ""พ่อพ่อจะตามไปวันไหนคะ""อีกสองวันครับ ไหนจับตัวสิ ตัวไม่ร้อนแล้วคนเก่ง" ไม่ใช่แค่พ่อพ่อหรอกที่เป็นห่วงอาการของไออุ่นฉันเองก็ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่ กลัวว่าลูกจะเป็นหนักระหว่างนั่งเครื่อง แต่บินแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้วเมื่อกี้ก็เพิ่งป้อนยากันไปกว่ายาจะหมดฤทธิ์ก็ตั้งสี่ชั่วโมงถึงก่อนชัวร์อยู่แล้ว"ต้องกินยา อุ่นไม่ชอบเลย""ถ้าไม่กินยาก็จะอดขึ้นเครื่องบินนะ""กินก็ได้ค่ะ""กินไปแล้วค่ะ เมื่อกี้ให้ป้าสุดใจป้อนแล้ว" ฉันทำหน้าเหนื่อย ๆ ถ้าไม่ได้เดินทางไออุ่นคงไม่ยอมกินยาง่ายขนาดนี้ งานนี้ไม่ยากเลยอดเป็นห่วงไม่ได้"เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น ไม่สบายใจเรื่องลูกเ
"ป้าสุดใจ ไออุ่นล่ะคะ ไออุ่นไปไหนคะ " ฉันรีบวางแก้วกาแฟลงแล้วหันไปย้ำถามหาไออุ่นจากป้าสุดใจอีกครั้ง สีหน้าของป้าดูไม่ดีเลย มือไม้ของฉันมันสั่นไปหมด ไม่ต่างจากผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า"คือป้า ป้าแค่หันไปหยิบของในกระเป๋า หันมาก็ไม่เห็นน้องแล้วค่ะ" ใจฉันกระตุกวูบเชื่อว่าสิ่งที่ป้าสุดใจพูดคือความจริง ท่านเองก็ทำท่าจะเป็นลมอยู่เหมือนกัน"ป้านั่งพักก่อนนะคะ อิงจะไปประชาสัมพันธ์ อย่าเพิ่งเดินไปไหนนะคะ เดี๋ยวจะเป็นลม""ได้ค่ะๆ คุณอิงป้าขอโทษนะคะ น้องเพิ่งหายไปเมื่อกี้ค่ะ" น้ำเสียงสั่นเครือนั่นทำให้ฉันแอบน้ำตาคลอไปด้วย ห่วงทั้งป้าสุดใจและลูกสาวเพียงคนเดียว"ไม่เป็นไรค่ะ ไออุ่นคงซนตามประสา เดี๋ยวอิงกลับมานะคะ ป้ารออยู่ตรงนี้นะคะเผื่อไออุ่นกลับมา""ได้ค่ะๆ "ฉันรีบวิ่งไปที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบิน โดยไม่ลืมจะหยิบมือถือออกมาแล้วกดโทรหาพี่ตฤณ พอพี่ตฤณรู้เรื่องก็ร้อนใจไม่ต่างจากฉัน"ใจเย็นๆ แล้วตอนนี้กำลังจะไปไหน""ประชาสัมพันธ์ค่ะ ถ้าวิ่งหากันคงไม่เจอ พี่ตฤณน้องกลัว ฮึก" ฉันกลัวตามหาลูกไม่เจอ กลัวไปหมด สนามบินทั้งใหญ่และกว้างขนาดนี้วิ่งตามหาวันก็คงไม่เจอ ไออุ่นหายไปไหน? คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของฉันซ
พอเคลียร์เรื่องที่สนามบินเสร็จฉันก็รีบหยิบมือถือไลน์ไปแจ้งพี่ตฤณพร้อมกับถ่ายรูปไออุ่นส่งไป พี่ตฤณส่งสติ๊กเกอร์ปาดเหงื่อกลับมาตามด้วยสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ คงยุ่งอยู่จริง ๆ ถึงไม่โทรมาปกติพี่ตฤณจะต้องโทรกลับทุกครั้ง"กลับโรงแรมกันก่อนนะคะ""ดีเลยค่ะ เจ้าตัวแสบคงเหนื่อยแย่" ไออุ่นหลับไปแล้ว ป้าสุดใจอุ้มไออุ่นไม่ยอมวางจนขึ้นรถของโรงแรม กว่าจะถึงโรงแรมก็บ่ายแก่ๆ พอถึงห้องพักป้าสุดใจก็แยกพาไออุ่นไปนอน ห้องที่พี่ตฤณจองให้เป็นห้องคอนเน็กเชื่อมกันถึงสามห้องเหมาะสำหรับครอบครัวมาก ๆ เดาว่าพี่ตฤณคงมาพักที่นี่กับพวกเราด้วย"ป้าสุดใจก็ไปพักเถอะค่ะ""คุณอิงก็พักบ้างนะคะ" ฉันพยักหน้ารับ คงยังหลับตาไม่ลง สายตาของฉันจ้องไปที่หน้าจอมือถือตลอดเวลา เราได้เจอกันแล้วสินะ พ่อลูกได้เจอกันแล้ว จากนี้ไปจะเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้คิดเอาไว้เลย คนมีเป็นร้อยเป็นล้านทำไมต้องเป็นเขาด้วยที่ช่วยไออุ่นไว้ ฉันนั่งคิดเรื่องนี้นานนับชั่วโมงคิดเผื่อไปด้วยว่าถ้าไคล์รู้เรื่องไออุ่นจะเป็นยังไงเขาจะแย่งลูกไปจากอกฉันเหมือนในละครหรือว่าเราจะคุยตกลงรื่องลูกกันดี ๆ แบ่งเวลาให้กันอย่างเท่าเทียม อีกประเด็นที่ฉันคิดคือไคล์อาจ
"ทำงานดีมาก เร็วมาก อะไรวะเนี่ยอิง" ผมทั้งโกรธ โมโห แล้วก็ดีใจในเวลาเดียวกัน ผมถูกอิงโกหกเรื่องท้องในวันนั้น ผิดที่ผมด้วยแหละที่ไม่เช็กให้ชัวร์ยอมปล่อยอิงไปง่าย ๆ เด็กที่ชื่อไออุ่นเป็นลูกของผมลูกของผมกับอิง ผลผลิตจากในคืนนั้นที่เราพลาดด้วยกันทั้งคู่ตอนนี้เขาอายุสามขวบแล้ว ให้ตายสิกว่าจะรู้ว่าตัวเองมีลูกใช้เวลาเกือบสามปีเลย ผมพลาดหลายๆ อย่างไปเยอะมาก"ผมช่วยได้เท่านี้นะครับ""ที่เหลือผมจัดการเอง เอาล่ะค่าจ้างที่เหลือผมจะโอนเข้าบริษัทให้ ทิ้งเลขบัญชีคุณไว้ให้ผมด้วย"ทำงานดีแบบนี้ไม่ให้พิเศษได้ยังไง และนี่คือเหตุผลที่ผมรีบโทรหาอิงแล้วนัดออกมาคุยข้างนอก แม้ว่ามันเสี่ยงมากก็ตามแต่ผมก็ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องหลังจากกลับจากสนามบินผมก็ร้อนใจเรื่องของอิงกับเด็กคนนั้นมาก รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกับว่ามันต้องมีอะไรสักอย่าง แล้วก็มีจริง ๆ นักสืบโทรมารายงานเรื่องอิงให้ผมฟังอย่างละเอียดพร้อมส่งข้อมูลเท่าที่หามาได้เข้าไลน์ หลังจากวางสายผมก็โทรนัดอิงส่งโลเคชั่นไปให้แล้วนั่งมองรูปเด็กน้อยตากลมโตไปด้วย รอยยิ้มนั่นเหมือนอิง ไออุ่นคือลูกสาวของผม เธอน่ารักมาก มีบางส่วนที่เหมือนผม ปากมั้งไม่แน่ใจโรงแรม K INผ
ทุกคนหลับหมดแล้ว ป้าสุดใจ ไออุ่น เวลาพักผ่อนนี่เนอะเที่ยงคืนแล้วด้วยฉันเพิ่งกลับถึงห้อง กลับมาพร้อมรอยยิ้มและความสบายใจ เราเคลียร์ทุกอย่างลงตัว ไคล์สัญญาแล้วว่าจะไม่ใช้ข้อกฎหมายมาต่อรองเรื่องลูก เรื่องอื่น ๆ เราก็ตกลงกันเรียบร้อยเพราะโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ค่อยสบายใจ ไคล์เพิ่งเดินทางกลับมาแล้วเขาก็มีชื่อเสียงมาก ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างลำบากเพราะแฟนคลับเยอะ ผู้หวังดีก็มีหวังร้ายก็คงมีเหมือนกันโดยเฉพาะพวกที่อยากได้เงินจากการขายรูปถ่ายให้กับสำนักข่าว ฉันไม่สบายใจเรื่องนี้เอามาก ๆME: ถึงห้องแล้วKAI : โอเค ถึงแล้วเหมือนกัน อาบน้ำแล้วรีบเข้านอนเลยนะฉันไม่ใช่ไออุ่นนะแต่ก็ทำให้เผลอยิ้มแล้วพิมพ์ตอบกลับไปME : เรื่องคำตอบ คือว่าKAI : ไม่รีบ ค่อย ๆ คิด ไคล์จะจีบอิงทุกวันใบหน้าของฉันร้อนผ่าว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าไคล์จะทำแบบนี้ เขาขอคบโดยที่ฉันยังไม่ได้ให้คำตอบแต่เขาก็ไม่ได้เร่งรัดบอกว่าจะจีบทุกวันจนกว่าฉันจะใจอ่อน ดูพ่อไออุ่นสิตลกชะมัดME : ตื่นเต้นจัง มีซุปตาร์มาตามจีบ ต้องเล่นตัวหน่อยแล้ว ^^KAI : เอาเลยตามสบาย แบบนี้ไคล์ชอบเขาหน่ะตัวร้ายเรื่องผู้หญิงเลย มีข่าวไ
“คุณอิงปั๊มนมอยู่ค่ะ”“พาน้องคินไปอาบน้ำได้เลยนะครับ เพราะวันนี้มีนัดฉีดวัคซีน”หลังจากสั่งพี่เลี้ยงเสร็จผมก็เดินเข้ามาในห้องปั๊มนมของภรรยา เธอกำลังโยกเก้าอี้ไม้ปั๊มนมอย่างสบายใจ เห็นอิงมีความสุขก็ทำให้ผมยิ้มไม่หุบเลยสักครั้งอิงคลอดลูกชายให้ผม สมบูรณ์แข็งแรงดี อิงเป็นแม่ที่แข็งแรงและเก่งมากๆ ผมตั้งชื่อลูกชายว่า อคิน ส่วนชื่อเล่นอิงเรียกน้องคิน ไออุ่นเห่อน้องชายมากๆ พยายามช่วยแม่เลี้ยงน้องเท่าที่ทำได้เพราะไม่อยากให้แม่เหนื่อยแต่ดูท่าว่าแม่จะเหนื่อยหนักกว่าเดิม“อิง ไออุ่นไปโรงเรียนแล้วนะ”“วิ่งมาหอมแก้มอิงตั้งนานกว่าจะไปได้ น้องคินล่ะคะ”“ให้พี่เลี้ยงพาไปอาบน้ำแล้ว วันนี้ลูกมีนัดฉีดวัคซีนนี่”“ไคล์ไปทำงานเลยก็ได้นะ อิงไปกับพี่เลี้ยงได้”“ไม่เป็นไรเลย ไคล์ว่าง”“โกหกเถอะ” อิงยังสวยสำหรับผมเหมือนเดิม แม้จะมีพี่เลี้ยงมาคอยช่วยแต่อิงก็ยังยืนยันว่าจะเลี้ยงลูกเอง เวลาได้ยินเสียงลูกร้องแล้วใจจะขาดขอจัดการเองดีกว่า แค่เอาเข้าเต้าลูกก็เงียบแล้วเป็นวิธีที่ง่ายแสนง่ายที่ผมได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ด้วยความอิจฉาเพราะลูกไม่ติดเต้าผมมีแต่ผมที่ติดเต้าเมียตอนนี้ถูกลูกแย่งซุกไปแล้ว“กลัวลูกมีไข้จะได้ช่วยก
มีแต่ความสุขเลยเต็มไปหมดเลย ชีวิตของฉันตอนนี้ค่อนข้างลงตัวสุดๆ ไปเลย ไออุ่นมีผู้ติดตามในไอจีหลักแสนแล้วตอนนี้ คลิปล่าสุดที่ไออุ่นร้องเพลงก็เป็นไวรัลยอดแชร์เกือบหมื่นเพราะเป็นการร้องเพลงคู่กับพ่อของเขาครั้งแรก ไม่ได้ตกแค่แฟนคลับในไทยเท่านั้น ที่จีนก็มีแฟนคลับกดแชร์คลิปไออุ่นไป ทำให้ฉันใจฟูมากๆ“ลูกเราจะมีแม่จีนมาซัปพอร์ตแล้วนะ” ไคล์นั่งลงข้างๆ แล้วโอบไหล่ฉันให้ขยับไปใกล้“พี่ตฤณคงดูคลิปลูกทั้งวันเลยมั้ง เผลอๆ สั่งให้คนงานดูด้วย” ลูกสาวคนนี้เกิดมาให้โชคโดยเฉพาะเลยจริงๆ กิจการของไคล์เติบโตแบบก้าวกระโดดนำหน้าคู่แข่งแบบไม่ต้องกลัวมีใครแซงเลย เริ่มขยายสาขาออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วด้วยตอนนี้“พ่อไคล์ แม่อิงดูอะไรกันอยู่เหรอคะ”“ดูคลิปไออุ่นไงลูก มาดูด้วยกันมั้ย” ฉันกวักมือเรียกเจ้าตัวเล็กที่ยืนหัวฟูเพราะเพิ่งตื่นมาดูด้วยกันไออุ่นรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กมาหาแล้วแทรกตัวนั่งตรงกลางทันที“อุ่นชอบอยู่ตรงกลางเพราะรู้สึกอบอุ่นค่ะ” โดนพ่อฟัดแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่“ลูกสาวพ่อเนี่ยน่ารักที่สุดเลย” ฉันส่งมือถือให้ลูกดูความน่ารักของตัวเอง แววตาของเจ้าตัวเล็กดูภูมิใจกับความสามารถและการแสดงออกของตัวเองแบบสุดๆ ไปเลย“พ
ผมวางหนังสือนิทานในมือลงแล้วหันไปมองหน้าลูกที่นอนหลับปุ๋ยข้างๆ ไออุ่นเวลาหลับน่ารักจนอยากฟัดให้ตื่นอีกสักรอบ ผมหลงลูกจนหาทางออกไม่เจอ รักและหวงจนไม่อยากให้คนอื่นเข้าใกล้ หนักถึงขั้นเตรียมบอดี้การ์ดเอาไว้อีกหนึ่งชุดเพื่อรักษาความปลอดภัยให้ไออุ่นโดยเฉพาะ“เจ้าหญิงน้อยของพ่อ” ถึงไม่ได้ดูแลตั้งแต่แกอยู่ในท้องและไม่ได้เลี้ยงดูตั้งแต่แรกคลอด พอรู้ว่านี่คือลูกสาวของตัวเอง ก็รู้สึกรักได้โดยไม่คิดลังเลผมเอี้ยวตัวเอาหนังสือนิทานไปเก็บเข้าชั้นแล้วขยับตัวก้าวลงจากเตียงให้เบาที่สุดเพราะกลัวลูกจะตื่น ปลายทางคือโซฟาเบดไม่ไกลจากเตียงเจ้าหญิงของลูกสาว“อิง มานอนบนเตียงเร็ว”“อื้อ นอนยังไง ไคล์นอนไปเลยอิงนอนนี่แหละ” พูดจบก็หันหลังดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเองจนมิดหัว“อิง”“อิง”พึ่บ!“อะไรเนี่ย ไคล์ ที่ยังแคบไม่พอเหรอ” ผมดื้อและมึนมาก แทรกตัวลงไปข้างๆ พร้อมยื่นแขนโอบรอบเอวเล็กเอาไว้แน่น“เราคบกันแล้วไม่ใช่เหรอ”“คบกันแล้วก็ใช่ว่าจะทำแบบนี้ได้นะไคล์” เธอดุผมเรื่องถึงเนื้อถึงตัว แค่กอดเอง ทำไมต้องใจร้ายต่อว่าผมขนาดนี้ด้วย“ก็คิดถึง อยากกอด คิดว่าเป็นกอดให้กำลังใจนะ อิงคงเหนื่อยมากใช่มั้ย” อิงถอนหายใจแล้วเลิก
ผมสารภาพความในใจให้อิงรู้ พูดทุกอย่างที่อยากบอกมาตลอดหลายปี มันคือเรื่องดีและอาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นกว่าเดิม“แอบชอบแล้วทำไมไม่บอก”“ไม่กล้าไง” หลังจากเลิกงานเราก็ไปรับลูกด้วยกัน ระหว่างทางอิงก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา“ถามจริง คืนนั้นพลาดใช่มั้ย”“พลาดจริงๆ ใครจะกล้าทำร้ายคนที่ชอบแบบนั้นได้ลง” ผมไม่เคยคิดล่วงเกินอิงเลยจริงๆ คิดว่ากลับมาแล้วค่อยสารภาพว่าชอบแต่ทุกอย่างมันก็เปลี่ยนไปหมดเพราะความผิดพลาดในคืนนั้น“แล้วถ้ากลับมา อิงมีแฟนแล้วล่ะ จะทำยังไง”“แย่งมั้ง”“เลว”“ไม่มีหรอก อิงไม่มีแฟนแน่นอน” ผมพบพิรุธตั้งแต่ตามหาอิงไม่เจอแล้ว นักสืบบริษัทใหญ่ๆ ยังทำงานพลาดแสดงว่าต้องมีอะไรบางอย่าง“แสดงว่ารู้มาตลอดใช่มั้ย”“ถ้าไม่มีอะไร อิงจะหนีไคล์ทำไม ไคล์มีอิงเป็นเพื่อนสนิทคนเดียวนะ ยิ่งหายไปแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ไคล์เป็นห่วง”“นั่นสิ แต่อิงไม่อยากให้ไคล์รู้นี่ว่ามีไออุ่น” เรื่องนี้คือเรื่องที่ทำให้อิงรู้สึกผิดมากๆ แต่ผมกลับไม่โกรธเธอเลยสักนิด ชื่นชมและรักเธอมากกว่าเดิมด้วยซ้ำที่อดทนและคลอดลูกสาวที่น่ารักออกมาให้ผมได้รู้ว่าตัวเองได้เป็นพ่อคน“อิงเป็นแม่ที่เก่งมากๆ เลยรู้มั้ย”“ตอนแรกก็ไม่รู้ห
หลังจากงานแถลงข่าวจบลงกระแสตอบรับที่ได้มามีทั้งด้านดีและไม่ดี แน่นอนว่าพวกเราทำใจยอมรับเอาไว้แล้วแต่ที่น่าตกใจมากกว่าเสียงวิจารณ์ในแง่ลบก็คือ รูปของไออุ่นติดอยู่ในโซเชียลมากกว่าไคล์ คอมเมนท์ที่ฉันไล่อ่านทำให้คนเป็นแม่ใจฟูอีกแล้ว“อิง วันนี้ลูกจะไปเรียนศิลปะกับพี่เลี้ยงนะ”“อืม”“อ่านอะไรอยู่ ติดกระดุมเสื้อให้หน่อยสิ”“อือๆ” ฉันวางโทรศัพท์ แล้วลุกขึ้นมาสนใจท่านรองประธาน“ยิ้มอะไร วันนี้ไคล์หล่อเหรอ”“ไม่ใช่” เรื่องติดกระดุมนี่ก็มีปัญหาได้เกือบทุกวัน พอช่วยติดให้ก็ติดเองไม่เป็นอีกเลย“เรื่องอะไรบอกหน่อยสิ อยากยิ้มด้วย”“ไม่เห็นข่าวลูกเหรอ มีแต่คนชมลูกเต็มไปหมดเลย” ฉันเข้าใจความรู้สึกของแม่ๆ ดาราแล้ว เวลามีคนชมลูกมันรู้สึกยังไงแต่ฉันก็เผื่อใจเอาไว้สำหรับพวกที่พิมพ์ความคิดเห็นแง่ลบ ขนาดเผื่อใจยังรับไม่ค่อยได้เลย“เห็นสิ”“แต่ว่า”“อิง อ่านแต่คอมเมนท์ดีๆ ก็พอ ร้อยพ่อพันแม่ไม่มีใครเหมือนกันทุกคนหรอก”“อิงกลัวลูกรู้สึกไม่ดี”“ลูกเราเพิ่งสามขวบ เรายังมีเวลาสอนเขา อย่าคิดมาก วันนี้ไปทำงานกับไคล์มั้ยเลิกงานจะได้ไปรับอุ่นกัน”“ทำงาน”“ใช่ ทำงาน” ฉันเลือกอะไรได้ล่ะ อยู่บ้านก็คงเฉาตาย ลูกก็ไม่อยู่
ผมตั้งใจจัดงานแถลงข่าวนี้ขึ้นมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ กำลังใจที่สำคัญของผมนั่งอยู่ด้านหน้าเวที สองสาวยิ้มให้ผมสลับกับโบกมือไปมาให้สัญญาณว่าอยู่ตรงนี้จะไม่ไปไหนความรู้สึกแบบนี้ทำให้ผมอบอุ่นใจทุกครั้ง มีพวกเขาอยู่เคียงข้างไม่ว่าปัญหาอุปสรรคจะหนักหนาสักแค่ไหนก็พร้อมสู้“แน่ใจนะไคล์ว่าจะทำแบบนี้” พี่แคทมาทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย เราผ่านเรื่องราวมาด้วยกันมากมายทั้งสุขและทุก พี่แคทเป็นทุกอย่างให้ผม ดูแลผมดีมากๆ“ใจหายว่ะพี่ แต่ก็ต้องทำ ผมไม่อยากอยู่แบบนี้อีกต่อไปแล้ว ถึงจะอำลาแต่แฟนคลับบางคนก็ไม่ให้เกียรติครอบครัวผมเลย”“แกมีลูกไง แกเป็นพ่อคนแล้ว ฉันเข้าใจ” ผมพยายามทุกๆ วัน มันไม่ง่ายเลยการเป็นพ่อคนเนี่ยแต่ผมก็ไม่เคยลดละความพยายามเลย ยิ่งได้เห็นหน้าลูกก็ยิ่งอยากพัฒนาตัวเองให้เป็นพ่อที่ดีเหมาะสมกับลูกสาวสุดน่ารักที่มีเลือดของผมไหลเวียนอยู่ในตัว“ผมรักลูกมากเลยพี่ อยากทำตัวดีให้เหมาะสมกับเป็นพ่อของเขา ขอบคุณพี่แคทมากๆ นะที่มาช่วยดูแลงานวันนี้”“เล็กน้อย มีงานอีกเมื่อไหร่ โทรตามฉันได้ตลอด คิดไม่แพงหรอก”“หน้าเงิน”“เอ้า อีนี่ ทำงานก็ต้องได้เงินสิ ไปเตรียมตัวได้แล้ว ใกล้ถึงเวลาแถลงข่าวแล้ว”ผมกำชั
2 เดือนต่อมา“แบบนี้ป้าคงคิดถึงแย่เลย”“ไปไม่นานหรอกค่ะ เดี๋ยวก็กลับแล้ว” มีคนทำหน้าเศร้าน้ำตาคลอหนึ่งอัตรา“ป้าสุดใจอย่าร้องไห้นะคะ อุ่นไปไม่นานค่ะ จะโทรมาหาบ่อยๆ ด้วยนะคะ”นั่นยิ่งทำให้คนแก่อาการหนัก ป้าสุดใจกอดไออุ่นแน่นทำให้ฉันยิ้มตามไม่หุบ ไม่ได้รู้สึกเศร้าแต่ปลื้มใจมากกว่า ใครๆ ก็รักและเอ็นดูไออุ่นเมื่อได้อยู่ใกล้ คนเป็นแม่มีแต่ปลื้มใจและหายเหนื่อย“เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะ ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาได้ตลอด เข้าใจมั้ย” พี่ตฤณเป็นคนขับรถมาส่งเราที่สนามบินด้วยตัวเอง“ค่ะ พี่ตฤณไม่ต้องห่วงอิงกับอุ่นนะคะ มีอะไรอิงจะรีบโทรหาพี่ตฤณทันที”“ไออุ่นครับ อย่าลืมโทรหาพ่อพ่อนะดูแลแม่อิงด้วย”“ค่ะพ่อพ่อ อุ่นจะดูแลแม่อิงเองค่ะ พ่อพ่ออย่าทำงานหนักมากนะคะอุ่นเป็นห่วง”“ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”“อิงไปก่อนนะคะ ถึงแล้วจะโทรหา ไปก่อนนะคะป้าสุดใจ”“เดินทางปลอดภัยนะคะ ทั้งคู่เลย”ไออุ่นดี๊ด๊าที่จะได้เจอคุณลุงของเขา (พ่อไคล์) นับวันรออยากให้ปิดเทอมเร็วๆ จนในที่สุดก็มาถึงวันนี้ ไคล์ออกค่าเครื่องบินให้และตอนนี้ก็คงรอรับเราทั้งคู่อยู่ที่สนามบิน“คุณลุง”“ว่าไงตัวเล็ก” เชื่อแล้วว่าคิดถึงกันจริง เ
คนบ้า ประสาท คิดว่ามีเงินแล้วจะพูด จะทำอะไรก็ได้ ผลของการมั่นหน้าทำให้ฉันเสียงานนอนเจ็บอยู่หลายวันยังไม่สำนึกอีก กระแสตอนนี้มีผลกระทบกับไคล์ทั้งดีและไม่ดี วงการนี้มันประสาทมากต้องจิตแข็งมากขนาดไหนถึงปล่อยจอยอดทนกว่าจะประสบความสำเร็จได้“คุณแม่ขา คุณลุงจะโทรมาหาอุ่นมั้ยคะ” หลังกลับมาจากกรุงเทพ คุณพ่อก็ทำคะแนนไม่พัก รู้เวลาโทรหาลูกสาวพร้อมอัปเดตความคืบหน้าห้องนอนส่วนตัวด้วย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ช่วงนี้คุณลุงงานเยอะ” ฉันตอบลูกพร้อมกับจัดที่นอน ไออุ่นต้องรีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน“คุณลุงบอกอุ่นว่าถึงงานเยอะก็จะไม่ลืมอุ่นค่ะ”“ตั้งตารอขนาดนั้นเชียวเหรอ”“อุ่นอยากให้คุณลุงเล่านิทานให้ฟังค่ะ”“เดี๋ยวคุณลุงก็โทรมาค่ะ แต่ถ้าอุ่นง่วงก็นอนก่อนนะคะไม่ต้องรอ” ฉันไม่ค่อยได้คุยกับไคล์ส่วนใหญ่จะส่งโทรศัพท์ให้ลูกคุยมากกว่า เรื่องการฟ้องร้องคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นหรอกอยู่ที่ว่าไคล์จะรับมือยังไง ส่วนเรื่องแฟนคลับก็ยังมีบางส่วนที่รับไม่ได้ที่ไอดอลของเขาจะโบกมือลาวงการวางทิ้งงานทุกอย่างลง วุ่นวายจนฉันปวดหัวแทน“ค่ะ อุ่นจะรอ” ฉันตามใจลูกแต่ก็ต้องไม่เกินเวลานอนไออุ่นเอาแต่จ้องหน้าจอรอพ่อของเขาตาไม
“คุณแม่ขา ที่บ้านคุณย่ามีรูปคุณลุงเต็มไปหมดเลย”“คุณย่าเป็นแม่ของคุณลุงค่ะ” ไออุ่นก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีเพราะตั้งแต่เกิดมาก็รู้จักแค่ตากับยายที่อยู่ในรูปเท่านั้น“ทำไมอุ่นต้องเรียกแม่ของคุณลุงว่าคุณย่าด้วยคะ เรียกคุณป้าไม่ได้เหรอคะ” ฉันยังไม่พร้อมอธิบายให้ลูกฟังตอนนี้เพราะยังเจ็บแผลและรู้สึกเพลียๆ อยู่ รอให้พ่อของเขามาก่อนดีกว่าค่อยปรึกษากันอีกครั้งว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้“ท่านอายุมากแล้วค่ะ เรียกคุณย่านั่นแหละถูกต้องแล้ว”“เมื่อไหร่คุณแม่จะหายคะ อุ่นกลัวมากๆ เลย”“เดี๋ยวก็หายแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัวแล้วนะคะ จะไม่มีใครมาทำร้ายแม่ได้อีกแล้ว”“จริงนะคะ”“คุณลุงสัญญากับคุณแม่ด้วยตัวเองเลยนะ” เขาเป็นพ่อของลูกนี่เนอะ ไม่มีเหตุผลที่ฉันต้องใส่ร้ายและพูดถึงเขาในทางไม่ดีให้ไออุ่นได้ยิน“คุณแม่หายเร็วๆ นะคะ เราจะได้ไปเที่ยวด้วยกัน”“ไม่คิดถึงพ่อพ่อเหรอคะ”“พ่อพ่อบอกว่าให้อุ่นดูแลคุณแม่ให้ดี อุ่นให้กำลังใจพ่อพ่อไปแล้วค่ะ กอดแน่นๆ หอมแก้มสองข้างเลย” พี่ตฤณต้องจัดการทุกอย่างแทนฉันหมด คงเหนื่อยแย่เลย“เก่งจังเลยลูกสาวแม่อิงเนี่ย”“เราจะกลับบ้านกันวันไหนคะคุณแม่”“รอให้คุณแม่หายก่อนนะคะ”“อุ่นจะได้เจอคุณ