Share

ซีอีโอสาวทวงแค้น
ซีอีโอสาวทวงแค้น
Author: ริน่า โนวิต้า

บทที่ 1

Author: ริน่า โนวิต้า
last update Last Updated: 2024-12-24 15:57:53
“แม่คะ ทำไมรูปโปรไฟล์ของพ่อเป็นผู้หญิงล่ะคะ? เธอเป็นใครเหรอ?”

'อะไรนะ?'

ฉันตกใจกับคำถามของกิลเลียน ลูกสาววัยเจ็ดขวบของฉัน

ฉันรีบเปิดดูรายชื่อติดต่อของเดอร์ริคในวอทส์แอปแล้วคลิกรูปโปรไฟล์ของเขา ทันใดนั้นก็ปรากฏรูปหญิงสาวคนหนึ่งในชุดยั่วยวน ผมยาวประบ่า ฉันรีบบันทึกรูปนั้นลงในแกลเลอรีของตัวเองทันที

"อ๋อ อาจจะเป็นเพื่อนที่ทำงานของพ่อคนหนึ่งก็ได้จ้ะ เพื่อนพ่อเขาชอบเล่นอะไรแผลง ๆ กัน" ฉันตอบพลางหาข้ออ้างที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ลูกคิดลบกับพ่อ

ประมาณสามนาทีต่อมา รูปโปรไฟล์ก็เปลี่ยนเป็นรูปภาพอักษรวิจิตร

'บางทีเดอร์ริคอาจจะเผลอกดโดนก็ได้ แต่ทำไมถึงมีรูปผู้หญิงคนนั้นบันทึกไว้ในเครื่องล่ะ? เธอเป็นใครกัน?' ฉันคิดว่าตัวเองต้องสืบให้กระจ่าง

จึงส่งรูปนั้นไปให้แบรดลีย์พร้อมข้อความ : “ช่วยตรวจสอบให้หน่อยว่านี่ใคร ด่วนที่สุด”

แบรดลีย์เป็นเพื่อนร่วมงานของเดอร์ริคและเป็นคนที่เบนนี่ ฮัมฟรีย์ ซีอีโอไว้ใจ ลุงเบนนี่เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อผู้ล่วงลับของฉันและเอ็นดูฉันมาตั้งแต่เด็ก ด้วยการสนับสนุนของเขา ทำให้เดอร์ริคซึ่งจบแค่ชั้นมัธยมปลายได้งานและตำแหน่งที่ดีในบริษัท แต่เดอร์ริคไม่รู้เรื่องนี้

: “นี่เคนดัล โควิตซ์ เป็นพนักงานที่นี่ แต่เธอเพิ่งเข้ามาใหม่ ยังไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานประจำ มีอะไรหรือเปล่า?”

: “ขอเบอร์โทรเธอหน่อยสิ”

หลังจากแบรดลีย์ส่งเบอร์โทรศัพท์ของเคนดัลมาให้ ฉันก็รีบบันทึกไว้ในวอทส์แอป สังเกตเห็นว่ารูปโปรไฟล์ของเธอก็เป็นภาพอักษรวิจิตรเหมือนกับรูปโปรไฟล์ของเดอร์ริค

'แปลกจัง ทำไมพวกเขาถึงตั้งรูปโปรไฟล์เหมือนกันล่ะ?'

ฉันตัดสินใจติดต่อเดอร์ริค

"ไง ที่รัก"

ปลายสายมีคนกดรับ แต่ไม่มีใครพูด

"ที่รัก คุณอยู่ไหน?"

"ขอโทษค่ะ ใคร…ใครพูดคะ?" เสียงตอบกลับมาจากปลายสาย

หัวใจฉันหล่นวูบ

‘ผู้หญิง ใครกัน?’

"สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ? ทำไมถึงมีโทรศัพท์ของสามีฉัน?" ฉันถามอย่างร้อนใจ

ตี๊ด!

'ทำไมต้องตัดสายด้วย?' ฉันยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ เดอร์ริคนอกใจฉันงั้นเหรอ?

เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาในบ้าน บ่งบอกว่าเดอร์ริคกลับมาแล้ว ยังไม่ทันจะมืดค่ำ แต่เขากลับบ้านแล้ว

"กลับมาแล้วครับ"

"ที่รัก กลับเร็วจังเลยวันนี้"

"คุณเห็นมือถือผมไหม? หายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งแต่เช้าแล้ว เมื่อเช้าผมต้องไปประชุมกับคุณฮัมฟรีย์โดยไม่มีโทรศัพท์ด้วยซ้ำ"

ฉันประหลาดใจ

'ว่าไงนะ? เขาไปประชุมกับลุงเบนนี่ตั้งแต่เช้าเหรอ?'

ฉันรีบถามแบรดลีย์เพื่อยืนยันเรื่องนี้

: “ใช่ เมื่อเช้าเดอร์ริคเข้าประชุมกับคุณฮัมฟรีย์จริง ๆ ทำไมเหรอ?”

ฉันรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยที่ได้อ่านคำตอบนี้จากแบรดลีย์

"แน่ใจนะว่าจำไม่ได้ว่าวางลืมไว้ตรงไหน?" ฉันถามย้ำ

"อืม แต่ถ้ามันไม่ได้อยู่ที่บ้าน งั้นก็อาจจะอยู่ที่ทำงาน พอดีผมรีบออกไปทำงานภาคสนามกับคุณฮัมฟรีย์น่ะ"

ดูเหมือนเดอร์ริคจะไม่ได้โกหก

"อืม... ดูเหมือนว่า... มือถือคุณจะอยู่กับเคนดัลนะ" ฉันพูดอย่างระมัดระวัง

"หา? อะ…อะไรนะ?" เดอร์ริคพูดตะกุกตะกัก สีหน้าวิตกกังวล

"ทำไม? ทำไมทำหน้าตกใจแบบนั้นล่ะ?"

"ก็… ถ้าเธอมีโทรศัพท์ผมอยู่ในมือต้องสุ่มเสี่ยงมากแน่ เธอเป็นตัวอันตราย" เดอร์ริคดูสับสน เดินวนไปวนมา

"หมายความว่าไง?"

"เธอ... เธอเคยมาอ่อยผมหลายครั้งตอนอยู่ที่ทำงาน ไม่ใช่แค่ผมนะ เพื่อนร่วมงานหลายคนก็โดนเธอหว่านเสน่ห์เหมือนกัน แม้แต่คุณทอมป์สันก็ทะเลาะกับภรรยาเพราะเธอ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมบอกคุณฮัมฟรีย์ไปแล้ว เธออาจจะโดนเชิญออกในเดือนหน้า"

ฉันรู้สึกโล่งใจที่ได้ยินคำอธิบายของเดอร์ริค ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจทั้งหมด แต่ฉันสามารถตรวจสอบเรื่องนี้กับแบรดลีย์และลุงเบนนี่ได้อีกครั้งในภายหลัง

"งั้นไปกันเถอะ"

"เดี๋ยวก่อน เราจะไปไหน?"

"ผมรู้ว่าคุณยังไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด ดูเหมือนเคนดัลจะทำให้คุณไม่สบายใจจริงๆ งั้นเราไปที่ทำงานด้วยกันเลย ไปเอาโทรศัพท์คืนจากเธอเอง"

เดอร์ริคจับมือฉันแล้วพาฉันไปที่รถ มุ่งหน้าไปยังที่ทำงานของเขา

ฉันภาวนาในใจว่าเขาคงยังไม่ตกหลุมพรางแม่สาวเคนดัล จอมสร้างความแตกแยกคนนั้น

ระหว่างทางไปที่ทำงาน เราไม่ได้คุยกันเลย ยิ่งนานฉันก็ยิ่งสงสัยเกี่ยวกับเคนดัลมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเดอร์ริคดูไม่สบายใจ แม้ในรถจะเปิดแอร์ แต่เขาก็ยังเหงื่อแตกพลั่กและขับรถช้า จนอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาจงใจทำแบบนี้หรือเปล่า

"สวัสดีตอนบ่ายครับ คุณเดน" รปภ.ประจำออฟฟิศทักทายเดอร์ริค ขณะที่เราเดินเข้าประตูทางเข้าหลัก

"สวัสดีตอนบ่าย จอห์น พนักงานกลับบ้านกันหมดแล้วหรือยัง?"

"บางคนกลับแล้วครับ แต่คุณฮัมฟรีย์กับคนอื่นๆ อีกสองสามคนยังอยู่ข้างบนครับ แล้วก็ คุณโควิตซ์ฝากสิ่งนี้ไว้ให้คุณครับ" จอห์นยื่นซองจดหมายที่มีโทรศัพท์ของเดอร์ริคอยู่ข้างใน

เดอร์ริคดูโล่งใจ ไม่ว่าจะเป็นเพราะเจอโทรศัพท์หรือเพราะไม่ต้องเจอเคนดัล ฉันก็บอกไม่ได้

"โอ้ ขอบคุณมาก จอห์น" เดอร์ริคตอบ

"ที่รัก ผมขอขึ้นไปชั้นบนก่อนนะ"

"โอเค"

ฉันนั่งลงตรงหน้าแผนกต้อนรับ เพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้มาที่นี่นานแล้ว ลุงเบนนี่เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมออฟฟิศให้ดีขึ้นและเป็นระเบียบเรียบร้อยกว่าเดิมมาก

"ซาร่าห์!" แบรดลีย์อุทานด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นฉัน เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งกลับมาจากข้างนอก

ฉันเบิกตากว้างใส่เขาและขยิบตาให้เร็ว ๆ อย่างมีเลศนัย โชคดีที่แบรดลีย์เข้าใจทันที ไม่มีใครรู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับแบรดลีย์ แม้แต่เดอร์ริค มีเพียงลุงเบนนี่เท่านั้นที่รู้ เพราะฉันเป็นคนแนะนำแบรดลีย์ให้ได้เข้ามาทำงานที่นี่

แบรดลีย์ยิ้มและพยักหน้าขณะเดินผ่านฉันไป โชคดีที่ไม่มีพนักงานคนอื่นแถวนั้นเห็นเรา

ทันใดนั้น โทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้น เป็นลุงเบนนี่ที่โทรมา

"ซาร่าห์ ขึ้นมาที่ห้องทำงานลุงหน่อย"

"แต่..."

"ไม่เป็นไร มาเถอะ ตอนนี้ออฟฟิศว่างแล้ว" ลุงเบนนี่ขัดจังหวะ

"ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันขึ้นไป"

ฉันรีบขึ้นไปที่ห้องทำงานของลุงเบนนี่ที่ชั้นบนสุด

"เป็นยังไงบ้าง ซาร่าห์?" ลุงเบนนี่ถามด้วยสีหน้าจริงจัง

"ฉันสบายดีค่ะ ลุงเบนนี่" ฉันตอบขณะนั่งลงตรงข้ามกับเขา ออฟฟิศเงียบสงบ

ดูเหมือนทุกคนจะเลิกงานกลับบ้านกันหมดแล้ว เดอร์ริคก็หายไปไหนแล้วไม่รู้ เหลือแค่แบรดลีย์กับพนักงานอีกสองคนที่ยังอยู่บนชั้นสอง

"ซาร่าห์ ลุงอายุปูนนี้แล้วนะ ลุงบริหารบริษัทของพ่อเธอต่อไปไม่ไหวแล้ว สเกลมันใหญ่เกินไปสำหรับลุง"

คำพูดของลุงเบนนี่ทำให้ฉันคิดว่า ถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ฉันจะต้องเข้ามาดูแลบริษัทโดยตรง

"ค่ะ ลุงเบนนี่ งั้นเรื่องนี้เรารู้กันแค่สองคนก่อนนะคะ อย่าเพิ่งให้เดอร์ริครู้ว่าจริงๆ แล้วฉันเป็นเจ้าของบริษัทนี้"

"ถ้าเธอต้องการแบบนั้น ลุงก็จะร่วมมือด้วย งั้นเธอจะเริ่มเข้ามาดูแลเมื่อไหร่ล่ะ? ส่วนรายงานทางการเงินและอื่นๆ เธอให้แบรดลีย์ส่งอีเมลไปให้ก็ได้"

"เดี๋ยวฉันแจ้งลุงอีกทีนะคะ แต่ตอนนี้ฉันต้องไปแล้วค่ะ เดี๋ยวเดอร์ริคจะหาฉันไม่เจอ" ฉันรีบขอตัวเพื่อไปหาเดอร์ริค

ตี๊ด

ข้อความจากแบรดลีย์เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ : “ซาร่าห์ ฉันเห็นเดอร์ริคอยู่กับเคนดัลอีกแล้วนะ หลังออฟฟิศ”

อะไรนะ? ไม่ใช่ว่าเคนดัลกลับไปแล้วเหรอ? ฉันต้องไปดูด้วยตาตัวเอง แบรดลีย์ไม่โกหกฉันแน่

ฉันรีบตรงไปที่หลังออฟฟิศ ที่จริงแล้วตรงนั้นเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ของพนักงาน ส่วนรถของเราจอดอยู่หน้าออฟฟิศ แสดงว่าเดอร์ริคตั้งใจไปพบผู้หญิงคนนั้นแน่นอน

ฉันจ้องมองคนสองคนที่กำลังคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จากจุดที่ฉันยืนอยู่ ไม่ได้ยินเลยว่าพวกเขากำลังคุยอะไรกัน แต่พวกเขาดูใกล้ชิดกันเกินไป

ผู้หญิงคนนั้นคือเคนดัลใช่ไหม? เธอยังเด็กอยู่เลย ไม่คิดว่าเธอจะสวยขนาดนั้น แต่เธอกำลังยั่วยวนสามีฉัน แถมพวกเขายังแสดงความสนิทสนมกันเป็นระยะ ๆ ด้วย

ดูเหมือนเดอร์ริคจะเก่งเรื่องซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเขามากทีเดียว

ก็ได้ งั้นก็เอาสิ เขาต้องตกใจแน่เมื่อรู้ทีหลังว่าฉันเป็นใคร ดีแล้วที่ฉันปิดบังตัวตนมาแปดปี

'คอยดูเถอะ ฉันจะแก้แค้นให้สาสม'

Related chapters

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 2

    “กลับบ้านกันไหม?” เดอร์ริคเดินเข้ามาหาฉันที่บริเวณแผนกต้อนรับที่ว่างเปล่าฉันเดินตามเดอร์ริคไปที่รถด้วยฝีเท้าที่อ่อนล้า พยายามเก็บซ่อนอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ รู้ดีว่ามันต้องพังทลายแน่เมื่อถึงเวลาระหว่างทางกลับบ้าน เดอร์ริคดูมีความสุข ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับตัวเองราวกับกำลังหลงใหลอะไรบางอย่าง แต่สำหรับฉัน เขาดูเหมือนคนบ้ามากกว่าในขณะที่เดอร์ริคกำลังขับรถและดื่มด่ำกับช่วงเวลาของตัวเขาเอง ฉันก็ส่งข้อความหาแคร์รี ผู้ช่วยของฉัน ซึ่งเดอร์ริคไม่รู้จักแคร์รีจัดการเรื่องธุรกิจทั้งหมดของฉัน รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ฉันเป็นผู้ดำเนินการอย่างเงียบ ๆ รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงและเครื่องมือสื่อสารที่มีมูลค่าสูงในการดูแลธุรกิจเหล่านี้จากที่บ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเดอร์ริคอยู่ที่ทำงาน ขณะที่ฉันทำงานบ้านรถแล่นเข้ามาจอดในบ้าน จอดอยู่หน้าบ้านแม่สามี ใช่แล้ว นับตั้งแต่เราแต่งงานกัน เราก็อาศัยอยู่กับรูธ แม่สามีของฉัน เดอร์ริคอ้างว่าเงินเก็บของเขายังไม่พอทุกครั้งที่ฉันพูดถึงเรื่องการซื้อบ้าน"ซาร่าห์ ไปไหนมา? ฉันหาตัวเธอทั่วเลย กิลเลียนก็ถามหาเธอเหมือนกัน" รูธทักทายขณะยืนอยู่ที่หน้าประตูเมื่อเรามาถึง

    Last Updated : 2024-12-24
  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 3

    วันนี้ฉันตั้งใจทำกับข้าวแต่เช้า หลังจากไปส่งกิลเลียนที่โรงเรียนแล้ว ฉันวางแผนที่จะไปพบกับลุงเบนนี่และผู้ถือหุ้นของบริษัทบางคนลุงเบนนี่นัดประชุมที่สาขาแห่งหนึ่งของเรา โชคดีที่ฉันไม่ต้องเจอเดอร์ริคหรือเคนดัลที่ทำงานอยู่สำนักงานใหญ่"สวัสดี!" เสียงดังมาจากข้างนอก ใครมาเยี่ยมแต่เช้าตรู่กันนะ? เสียงนั้นฟังดูคุ้น ๆแล้วฉันก็ได้ยินเสียงเด็ก ๆ ในห้องนั่งเล่นฉันเดินไปด้านหน้าเพื่อดูว่าใครมาตาฉันเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าลอเรนและแจ็ค สามีของเธอ พร้อมกับลูก ๆ ทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว พวกเขากำลังกินอาหารเช้ากับเดอร์ริค รูธ และกิลเลียนอย่างหน้าตาเฉยบ้าไปแล้ว! พวกเขาชักจะไร้ความเกรงใจมากขึ้นเรื่อยๆโชคดีที่ฉันกินอาหารเช้าในครัวเรียบร้อยแล้ว จึงยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น มองดูแขกไม่ได้รับเชิญเหล่านี้กินอาหารอย่างไม่สนใจไยดี อาหารทั้งหมดที่ฉันทำเมื่อเช้านี้หายวับไปหมดแล้วฉันรู้ว่าหลังจากที่ลูก ๆ ของลอเรนกินเสร็จ เธอไม่เก็บไปล้างแน่ "กิลเลียน ไปกันเถอะ จะสายแล้ว" ฉันเรียกกิลเลียนที่กินอาหารเช้าเสร็จแล้ว"เดอร์ริคไปส่งกิลเลียนเองได้ เธออยู่บ้านทำความสะอาดไปเถอะ!" รูธสั่ง"ขอโทษค่ะ คุณแม่ ฉ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 4

    "ซาร่าห์!""คะ คุณแม่?""ไปไหนมา? ฉันหิวจะแย่ มึนหัวไปหมดแล้วเนี่ย ดูสิบ้านรกขนาดนี้ ลูก ๆ ของลอเรนนี่ซนจริง ๆ" รูธที่เพิ่งตื่นนอนเดินออกมาจากห้องแล้วตรงมาหาฉัน"ฉันทำความสะอาดบ้านเรียบร้อยแล้วค่ะ อดทนหน่อยนะคะ เดี๋ยวอาหารก็เสร็จแล้ว""ลอเรนนี่ไม่มีความรับผิดชอบเลย ทิ้งลูก ๆ ไว้ที่นี่" รูธบ่นพึมพำรูธค่อนข้างแปลก เธอไม่กล้าพูดแบบนั้นต่อหน้าลูกสาวแท้ ๆ ของเธอหรอกแต่ไม่ว่ายังไง ฉันก็มีหน้าที่ทางศีลธรรมที่จะเคารพเธอต่อไปหลังจากทำอาหารเสร็จ ฉันก็ชวนรูธมากินข้าวด้วยกันที่โต๊ะอาหาร ตอนนี้เธอคงหิวมากแล้ว"แม่!" เสียงดังของลอเรนดังมาจากข้างนอก"เวลาเข้าบ้านคนอื่น ควรทักทายและสวัสดีก่อนนะ อย่าตะโกนเฉย ๆ" ฉันบ่นพึมพำขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารกลางวันที่ยังอุ่นอยู่"นี่มันบ้านแม่ฉันนะ ฉันจะทำอะไรก็ได้ เธอเป็นแค่สะใภ้ อย่ามาสั่งฉัน" ลอเรนตวาดใส่ฉัน"ใจเย็น ๆ ลอเรน ลำพังหน้าเธอก็น่ากลัวอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องทำให้น่ากลัวยิ่งกว่าเดิมเลย" ฉันตอบอย่างใจเย็นโดยไม่ชายตามอง"อ้อ ลอเรนกับแจ็ค มากินข้าวด้วยกันสิ" รูธชวนพวกเขา"ไม่ล่ะแม่ รีบไปงานเลี้ยงน่ะ แค่มารับลูกเฉย ๆ" ลอเรนตอบขณะเดินไปที่

    Last Updated : 2024-12-24
  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 5

    โดยไม่รอช้า ฉันลองปลดล็อกโทรศัพท์ของเดอร์ริค และ... มันก็ปลดล็อกได้จริง ๆตาฉันเบิกกว้างเมื่อเห็นข้อความจากเคนดัลอยู่บนสุด ฉันเปิดดูทันที และมันเป็นข้อความที่ยังไม่ได้กดอ่านเพียงข้อความเดียว: “โอเค เจอกันพรุ่งนี้นะ เดอร์ริค”ดูเหมือนจะเป็นข้อความตอบกลับ แสดงว่าพวกเขาส่งข้อความหากันตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนเดอร์ริคจะลบข้อความก่อนหน้าออกไป สามีฉันระมัดระวังตัวอยู่พอสมควรฉันถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ข้อสงสัยของฉันยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ฉันจะไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ จะเปิดโปงคำโกหกทั้งหมดของเดอร์ริคให้ได้"ที่รัก ปิดไฟได้แล้ว ดึกแล้ว"ฉันสะดุ้งกับเสียงของเดอร์ริค ค่อยๆ วางโทรศัพท์ของเขากลับที่เดิมแล้วปิดไฟ ก่อนจะนอนลงข้าง ๆ เดอร์ริคที่กลับไปสู่ดินแดนแห่งความฝันแล้วเช้าวันนี้ ฉันก็ทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม: ทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน และดูแลกิลเลียนกับเดอร์ริคบางทีเดือนหน้า ฉันอาจจะจ้างแม่บ้านเพื่อให้มีคนคอยดูแลกิลเลียนโดยเฉพาะ ฉันไม่อยากให้เธอถูกละเละเพราะฉันยุ่งกับงานบริษัท อย่างน้อยฉันก็จะทำงานได้อย่างสบายใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามีคนช่วยดูแลกิลเลียนและจัดการเรื่องสารทุกข์สุกดิบขอ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 6

    "สวัสดีค่ะ ฉันเคนดัล" ผู้หญิงคนนั้นยื่นมือมาหาฉัน เล็บยาว ๆ ของเธอทาสีแดงสด"ฉันซาร่าห์" ในที่สุดฉันก็จับมือเธอ"เธอนี่สวยจริง ๆ เลยเคนดัล เหมือนแม่ของเธอตอนยังสาวเปี๊ยบเลย" รูธชม ทำให้เคนดัลยิ้มอย่างภาคภูมิใจจริง ๆ แล้วเคนดัลก็มีใบหน้าที่สะสวย ผิวขาวเผือด ตัวสูงโปร่งผอมเพรียว น่าเสียดายที่เธอใช้รูปลักษณ์ภายนอกแสนสวยของตัวเองไปอ่อยผู้ชายที่มีภรรยาอยู่แล้วเดอร์ริครู้หรือเปล่าว่าแขกคือเคนดัล?ฉันได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดในบ้าน ดูเหมือนเดอร์ริคเพิ่งจะกลับมา ฉันอยากรู้มากว่าเดอร์ริคจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อเห็นเคนดัล"สวัสดีทุกคน" เสียงเดอร์ริคดังมาจากข้างนอก"สวัสดี" เราทุกคนตอบพร้อมกัน"หา คุณมาทำอะไรที่นี่ เดอร์ริค?""เคนดัล...?"เดอร์ริคกับเคนดัลดูประหลาดใจและชี้หน้ากันเห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอกันที่นี่ผู้หญิงแต่งหน้าจัดจ้านคนนั้นดูดีใจมากเมื่อเห็นสามีของฉัน"ดีจัง พวกเธอรู้จักกันอยู่แล้วเหรอ?" รูธพูดด้วยรอยยิ้ม"เคนดัลเป็นลูกสาวของโซเนียน่ะ เดอร์ริค" รูธพูดต่อ"จริงเหรอ? เคนดัลทำงานที่ออฟฟิศเดียวกับผมน่ะครับแม่" เดอร์ริคอธิบาย"อ๋อ ได้งานทำแล้วนี่เ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 7

    "ฉันไม่คิดเลยว่าพ่อของเธอจะเป็นเจ้าของบริษัทนี้ จอย" อัลเบิร์ตพูดพลางจิบลาเต้แก้วโปรดของเขา"ฉันก็ไม่คิดเหมือนกันว่านายคือคนที่จะมาช่วยพัฒนาบริษัทของพ่อฉัน อัลเบิร์ต" ฉันตอบพลางคนชามะนาวแก้วโปรดของฉัน กลิ่นหอมสดชื่นของมันอบอวลไปทั่ว"ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ หลังจากทำงานร่วมกันมาหลายปี ฉันเพิ่งมารู้ว่าอัลเบิร์ตเป็นเพื่อนสมัยเรียนของเรา" แบรดลีย์เสริมเราหัวเราะ นี่มันบังเอิญสุด ๆ ที่เพื่อนสมัยเรียนสามคนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังจากผ่านไปนานหลายปี"คือ ฉันไม่เคยเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมาก่อนเลยน่ะ" แบรดลีย์พูด"แต่นับจากนี้ไป นายคือผู้ช่วยของฉัน แบรด! นี่คือคำสั่ง" ฉันประกาศ"ครับ คุณซีอีโอ"อัลเบิร์ตมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการเติบโตของบริษัทฉัน เอียน วิลเลียมส์ พ่อของเขามีส่วนสำคัญในความสำเร็จของบริษัท"อัลเบิร์ต ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าฉันอยากให้นายคอยช่วยฉันเหมือนกัน ได้ไหม?""ได้สิ คนสวย เพื่อเธอแล้วอะไรก็ได้ทั้งนั้น" อัลเบิร์ตพูดพร้อมกับขยิบตา"เฮ้... เธอแต่งงานแล้วนะ" แบรดลีย์พูดแทรก"ไงนะ? เธอแต่งงานแล้วเหรอ จอย?" อัลเบิร์ตตกใจกับคำพูดของแบรดลีย์ เขามองฉันพลางเ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 8

    "สวัสดีค่ะทุกคน""สวัสดี ซาร่าห์" รูธตอบฉันทักทายรูธซึ่งละสายตาจากถุงช้อปปิ้งของฉันไม่ได้ ลอเรนก็จ้องมองพวกมันเช่นกัน เธอต้องสังเกตเห็นถุงแบรนด์เนมที่ฉันถืออยู่แน่ ๆฉันแสร้งทำเป็นไม่สนใจและวางถุงช้อปปิ้งทั้งหมดไว้บนโต๊ะอาหารเดอร์ริคเดินตามฉันเข้ามาในห้องนอน "คุณเอาเงินที่ไหนไปซื้อของพวกนี้?" เขาถาม หน้าแดงก่ำ"เงินส่วนตัวของฉันเอง" ฉันตอบอย่างหนักแน่น"อย่างคุณจะมีเงินเยอะขนาดนั้นได้ยังไง? ของพวกนี้มันแพงมากเลยนะ" เขาถามอีกครั้ง"เป็นอะไรไป? เมื่อวานคุณยังตำหนิว่าฉันซื้อเสื้อผ้าดี ๆ ใส่ไม่ได้เพราะฉันบริหารเงินไม่เป็น ตอนนี้พอฉันซื้อมา คุณก็โกรธ คุณเองไม่ใช่เหรอที่บอกให้ฉันแต่งตัวให้ดูดี" ฉันพยายามใจเย็นเดอร์ริคเงียบไป"เดอร์ริค มานี่หน่อย!" รูธเรียกจากห้องนั่งเล่นพวกเขาดูเหมือนจะคุยกันเรื่องสำคัญ"บ้านหลังนี้เป็นทรัพย์สินอย่างเดียวที่ครอบครัวเรามีนะ ลอเรน ฉันไม่เห็นด้วยที่จะเอาไปจำนองกับธนาคาร" เสียงของเดอร์ริคฟังดูโกรธ"แต่แจ็คเขาอยากได้เงินทุนไปเริ่มต้นธุรกิจนี่นา แล้วตอนนี้พวกเราก็ไม่ได้ทำงานประจำแล้วด้วย" เสียงของลอเรนก็เพิ่มระดับขึ้นเช่นกันอะไรนะ? ลอเรนลาออกจากง

    Last Updated : 2024-12-24
  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 9

    "ลอเรน พรุ่งนี้เขาเรียกเธอไปสัมภาษณ์งานที่ออฟฟิศนะ" ทันใดนั้นเคนดัลก็พูดขึ้นขณะที่เธอเดินเข้ามาทางประตูข้างขณะที่เรากำลังกินข้าวเย็นกันอยู่"จริงเหรอ?" ลอเรนหน้าตาเบิกบาน"ขอบคุณมากนะ เคนดัล""ทำไมถึงได้เรียกสัมภาษณ์เร็วขนาดนี้ล่ะ ลอเรน? เธอนี่เก่งมากเลยนะ เคนดัล" รูธพูดเสริม"เคนดัลไม่ได้บอกหรอกเหรอคะว่าเธอรู้จักหัวหน้าหลายคน" ฉันเสริม"ใช่แล้ว เวลาทำงานฉันเข้ากับคนง่ายจะตายไป ฉันรู้จักกับผู้จัดการ รู้จักแม้กระทั่งท่านประธานด้วยนะ" เคนดัลพูดอย่างอวดดี"เห็นไหม ซาร่าห์? เธอควรเรียนรู้จากเคนดัลให้มากนะ พอเริ่มทำงานเมื่อไหร่ ก็หัดหาเวลาว่างมาเรียนรู้จากเธอบ้าง" รูธแนะนำฉัน'อะไรนะ?! ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า?' ตอนนั้นฉันแทบอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ"ใช่ เคนดัลเฟรนด์ลี่กับทุกคนในออฟฟิศ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงเข้าใจเธอผิด" เดอร์ริคพูดพร้อมกับเหลือบมองฉันหมายความว่ายังไง?"เธอไม่ใช่แค่เฟรนด์ลี่ แต่ยังสวยมากด้วย ก็ไม่แปลกหรอกที่คนอื่นจะโดนคนเข้าใจผิดเอา" ลอเรนชมเคนดัล"ซาร่าห์ เธอควรหัดแต่งตัวแบบเคนดัลนะ บางทีเดอร์ริคอาจจะอยู่ติดบ้านกว่านี้ ไม่กลับดึกดื่น" รูธพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ

    Last Updated : 2024-12-24

Latest chapter

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 28

    [มุมมองของผู้แต่ง]การที่ซาร่าห์เมินเฉยต่อเดอร์ริคทำให้เขารู้สึกรำคาญใจอย่างมาก เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะเดินจากไปง่าย ๆ หลังจากที่ไล่ครอบครัวของเขาออกไป"ยโสโอหังจริง ๆ!" เดอร์ริคตะโกนขณะที่ยังคงยืนอยู่ที่ประตู จากนั้นเขาก็กลับเข้าไปข้างในเพราะคนทวงหนี้ยังคงอยู่ที่นั่น"พวกคุณมีเวลาจนถึงพรุ่งนี้เพื่อย้ายออกจากบ้านหลังนี้! เข้าใจไหม?" คนทวงหนี้ที่ตัวใหญ่และหน้าตาน่ากลัวที่สุดคนหนึ่งตะคอก"ขอโทษนะ ให้เวลาแค่หนึ่งวันมันโหดร้ายไปหน่อยไหม พวกเรามีของเยอะมากเลยนะ!" เคนดัลประท้วงพร้อมกับทำตาแข็งเล็กน้อย"บอสพวกคุณใจร้ายมาก!" เธอเสริม"พอได้แล้ว! ไม่ต้องพูดอะไรอีก ไม่งั้นผมจะไล่พวกคุณออกไปเดี๋ยวนี้!" คนทวงหนี้อีกคนตะคอกคนทวงหนี้ไม่พอใจกับทัศนคติของเคนดัล ในขณะเดียวกัน แคร์รี่ก็รำคาญที่เห็นเคนดัลกล้ามีปากเสียงหลังจากที่ซาร่าห์จากไป"ขอเตือนไว้เลย! วันพรุ่งนี้บ้านหลังนี้จะต้องว่างเปล่า!" คนทวงหนี้พูดอย่างหนักแน่นแคร์รี่และคนทวงหนี้จากพวกเขาไป"โธ่ เดอร์ริค! เราจะทำยังไงกันดี? เราจะไปอยู่ที่ไหน? ฮือ! ทุกอย่างหายไปหมดแล้ว! ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะซาร่าห์!" รูธกำล

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 27

    : ‘ซาร่าห์ ดูเหมือนว่าเราจะต้องลงไปจัดการและไล่ครอบครัวของเดอร์ริคออกไปได้แล้ว’เช้าวันนี้ ฉันได้รับข้อความจากแคร์รี่ขณะที่กำลังเตรียมตัวไปที่ทำงาน ฉันจึงต้องหยุดชั่วคราวฉัน : ‘จริงด้วย ฉันอยากจะไล่พวกเขาออกไปเอง เมื่อไหร่พวกทวงหนี้จะไปที่นั่นอีก?’แคร์รี่ : ‘วันนี้ค่ะ’ฉัน : ‘โอเค งั้นไปเจอกันที่นั่น เอาเอกสารสำคัญทั้งหมดมาด้วย’แคร์รี่ : ‘รับทราบค่ะ บอส’ระหว่างรอโจชัวที่ล็อบบี้ ฉันส่งข้อความถึงแบรดลีย์ว่าฉันจะเข้าออฟฟิศในช่วงบ่ายเท่านั้น"วันนี้ไม่เข้าออฟฟิศนะ แต่จะไปที่บ้านคุณย่าของกิลเลียน""รับทราบครับ คุณผู้หญิง" โจชัวตอบรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของเดอร์ริค ไม่นานเราก็มาถึงปลายทาง"จอดรถที่นี่ก่อน" ฉันพูดกับโจชัวขณะที่รถจอดห่างจากบ้านของเดอร์ริคไม่กี่เมตรรถของแคร์รี่จอดอยู่ข้างหน้า เธอและคนทวงหนี้บางส่วนคงอยู่ที่นั่นแล้ว ฉันควรรอสักครู่ก่อนจะตามเธอเข้าไปข้างในตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงเช้า ดังนั้นเดอร์ริคน่าจะอยู่บ้านในเวลานี้ เพราะปกติเขาจะเข้าออฟฟิศในช่วงบ่าย"เข้าไปกันเถอะ!" ฉันพูดกับโจชัว พวกเขาดูประหลาดใจเมื่อรถของฉันแล่นเข้าไปในบ้าน ฉันเห็นใบหน้าที่ตึงเครียดของพวกเขาขณะ

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 26

    "ไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอกลับบ้านเอง" อัลเบิร์ตเสนอฉันเดินตามอัลเบิร์ตที่เดินอยู่ข้าง ๆ ด้วยฝีเท้าที่เหนื่อยล้า เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ยังทำให้ฉันรู้สึกตึงเครียดและตกใจอยู่บ้างฉันขึ้นไปนั่งบนเบาะผู้โดยสารหลังจากที่อัลเบิร์ตเปิดประตูรถให้ฉัน หลังจากคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว อัลเบิร์ตก็เร่งเครื่อง"จอย เธอทำให้ฉันตกใจมากเลยนะ""หือ? ตกใจ? ทำไมล่ะ?" ฉันถามอย่างงงๆ"ฉันกลัวแทบตายว่าจะเสียเธอไป....""หมายความว่ายังไง?" ฉันตอบด้วยความรู้สึกเขินอาย"รู้ไหม? มีทฤษฎีใหม่บอกว่าจริง ๆ แล้วโลกไม่ได้กลม" อัลเบิร์ตพูดด้วยสีหน้าจริงจัง"หา จริงเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลยล่ะ?" ฉันถามด้วยความสับสน"เพราะตั้งแต่ฉันได้เจอเธอ โลกก็กลายเป็นรูปหัวใจ ฮิฮิ!"โอ๊ย อัลเบิร์ต นั่นน้ำเน่ามากนะ! ฉันยิ้มอย่างขัดเขิน อายเกินกว่าจะมองหน้าเขา ทันใดนั้นหัวใจของฉันก็รู้สึกอบอุ่น นี่มันความรู้สึกอะไรกันนะ?"จอย รู้ไหมว่าคืนไหนสวยที่สุด?""อืม... คืนแรก?""ผิด""คืนส่งท้ายปีเก่า?""ไม่ใช่""แล้วคืนไหนล่ะ?""คืนที่มีเธอไง""บ้าจริง อัลเบิร์ต!" ฉันตะโกนพร้อมกับยิ้มและพยายามกลั้นหัวเราะ"เอาน่า! อย่

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 25

    "บริษัทของคุณน่าประทับใจมากเลยนะ ทรอย" ฉันเริ่มบทสนทนา"ใช่! ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณการทำงานหนักตลอดเวลาของผม" ทรอยตอบอย่างภาคภูมิใจพลางจัดเนกไทล่องหนของเขา"ซาร่าห์ คุณตัดสินใจเรื่องการแต่งงานแบบคลุมถุงชนของเราหรือยัง?""ขะ…ขอโทษค่ะ! ตอนนี้ฉันยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้น บริษัทของฉันกำลังมีปัญหา" ฉันจงใจเลี่ยงทรอย"มีปัญหาอะไรเหรอ? ผมช่วยอะไรได้บ้างไหม?""ดูเหมือนว่ามีคนอยากให้ฉันล้มละลาย" ฉันตอบอย่างหนักแน่น พร้อมกับสังเกตปฏิกิริยาจากชายที่หล่อเหลาเกินเหตุคนนี้"จริงเหรอ? งั้นผมจะส่งคนของผมไปสืบให้" ทรอยมองมาที่ฉันด้วยสีหน้ากังวล มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขาจริงใจหรือไม่"ตอนนี้คุณไม่ควรให้คนนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องภายในบริษัทของตัวเองนะ""หมายความว่ายังไง?" ฉันถามกลับทรอยเพียงแค่ยิ้มเยาะ เขาอาจจะหมายถึงอัลเบิร์ตหรือเปล่า? น่าปวดหัวจริง ๆ ทำไมทั้งคู่ถึงเอาแต่สงสัยกันไปกันมา?"อย่าไว้ใจใครเต็มร้อยนะ ซาร่าห์! โลกธุรกิจโหดร้ายจะตายไป แม้แต่คนที่ใกล้ชิดที่สุดก็อาจเป็นหมาป่าในคราบลูกแกะก็ได้" ทรอยมองมาที่ฉันอย่างใกล้ชิด สายตาของเราสบกันอยู่ครู่หนึ่ง'ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีบา

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 24

    สองสามวันที่ผ่านมา ฉันมีเรื่องให้คิดมากมาย และยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับการควบรวมกิจการกับปีเตอร์สันกรุ๊ปด้วย"เธอควรคิดทบทวนเรื่องการร่วมมือกับปีเตอร์สันกรุ๊ปให้รอบคอบ อย่ารีบร้อนตัดสินใจ" อัลเบิร์ตพูดระหว่างมื้อกลางวันเมื่อวานนี้"นายรู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทนั้นเหรอ?""เธอและแบรดลีย์ควรสืบเบื้องลึกเบื้องหลังให้ดี ทรอยขึ้นชื่อเรื่องชอบเล่นสกปรก" คำพูดของอัลเบิร์ตทำให้ฉันประหลาดใจ ทรอยเป็นแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?ถ้าเขาเป็นแบบนั้น ฉันคงปฏิเสธที่จะร่วมมือกับปีเตอร์สันกรุ๊ปทันที ส่วนเรื่องการแต่งงานแบบคลุมถุงชนและการควบรวมกิจการ ฉันต้องตรวจสอบด้วยตัวเองเช่นเคย ฉันติดต่อแคร์รี่ ที่เป็นทั้งเพื่อนและหุ้นส่วนทางธุรกิจของฉัน เธอมีความรู้มากมายเกี่ยวกับโลกธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ฉันสนใจ"แคร์รี่ ช่วยรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เธอหาได้เกี่ยวกับปีเตอร์สันกรุ๊ปแล้วส่งมาให้ฉันโดยเร็วที่สุด""ได้สิ ซาร่าห์"ฉันวางสายจากแคร์รี่และโทรหาแบรดลีย์ผ่านโทรศัพท์สำนักงาน"เฮ้ แบรด ฉันอยากให้แม่บ้านหญิงมาจัดห้องทำงานหน่อย เดี๋ยวนี้เลย!"ไม่นานหลังจากนั้น แม่บ้านหญิงก็เดินเข้ามา"ช่วยจัดห้องท

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 23

    อัลเบิร์ตไม่ยอมให้ฉันไปส่งเขาที่บ้าน เขาให้คนขับรถมารับที่โรงพยาบาลแทน"เย็นมากแล้ว เธอควรกลับบ้านได้แล้ว" อัลเบิร์ตพูดพลางลูบหัวฉันฉันรู้สึกอึดอัดกับท่าทางของเขา"ขอบคุณที่เป็นห่วงฉันนะ" เขาพูดต่อพร้อมกับยิ้มและพยายามแกล้งฉัน"โอ๊ย! ใครเป็นห่วงกัน? อย่ามั่นใจเกินไปหน่อยเลย!" ฉันตอบกลับแบบแกล้งทำเป็นรำคาญอัลเบิร์ตหัวเราะอีกครั้งเราแยกทางกันที่ล็อบบี้โรงพยาบาล โจชัวรออยู่ที่นั่นแล้วเพื่อมารับฉัน ทันใดนั้นโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นโซเฟียโทรมา ฉันเริ่มสงสัยว่ามีอะไรด่วน เพราะมันผิดวิสัยมากที่แม่บ้านจะโทรหาฉันโดยตรง"ฮัลโหลโซเฟีย มีอะไรเหรอ?""คุณผู้หญิงคะ... ฉันขอโทษจริง ๆ...""เกิดอะไรขึ้นโซเฟีย? บอกฉันเร็วเข้า!" ฉันตกใจ กลัวว่าจะมีข่าวร้ายเกี่ยวกับกิลเลียน ลูกสาวของฉัน"ขอโทษค่ะ คุณผู้หญิง หลังเลิกเรียนกิลเลียนขอให้ฉันพาเธอไปส่งที่บ้านคุณย่า ฉันพยายามโทรหาคุณแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ แต่กิลเลียนรบเร้า เราเลยไปที่นั่นกันค่ะ"ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอก"โอเค ไม่เป็นไรโซเฟีย ฉันกำลังจะกลับบ้านพอดี เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอเอง"ฉันวางสาย"โจชัว เราไปรับกิลเลียนที่บ้านของรูธกันเลย"โจชั

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 22 (Part 2)

    "นายเวียนหัวจริงเหรอ? ทำไมถึงดูสงบจัง?" ฉันเอามือแตะหน้าผากของอัลเบิร์ต แต่อุณหภูมิของเขาปกติดี"อย่ามาจับตัวฉัน" เขาปัดมือฉันออกด้วยความรำคาญ“อารมณ์ไม่ดีอะไร? กินยาผิดหรือเปล่า?" ฉันพยายามพูดติดตลก แม้ว่าฉันจะเห็นความจริงจังบนใบหน้าของเขา ใบหน้าที่ฉันเพิ่งรู้ว่าหล่อแค่ไหนตอนที่เราอยู่ใกล้กัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้หญิงหลายคนคลั่งไคล้เขาอัลเบิร์ตถอนหายใจแรง ๆ จากนั้นดวงตาสีน้ำตาลแดงของเขาก็มองลึกเข้าไปในดวงตาของฉัน"จอย ทำไมเธอถึงไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของฉันเลย?" เขาพูดเบา ๆ"มะ… หมายความว่ายังไง?" ฉันเริ่มเดาว่าบทสนทนานี้กำลังมุ่งไปทางไหนอัลเบิร์ตถอนหายใจอีกครั้ง คราวนี้นานกว่าเดิม เขามองไปทางอื่นครู่หนึ่ง แล้วจึงสบตากับฉัน สายตาของเราประสานกัน ฉันละสายตาจากดวงตาสีน้ำตาลแดงแสนสวยคู่นั้นไม่ได้อีก"จอย ฉันสาบานว่าจะไม่ยอมสูญเสียความรักในชีวิตไปเป็นครั้งที่สอง"อัลเบิร์ตจับมือฉันไว้ ดวงตาของเขามองลึกเข้าไปในดวงตาของฉัน และฉันก็รู้สึกใจสั่นผิดปกติ"ฉันไม่เคยหยุดรักเธอตั้งแต่นั้นมา ไม่เคยเลิกรัก... ไม่เคยเลย"ฉันตกใจ ช่างเป็นอะไรที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้รับคำสารภาพจากผู้ชายที่เ

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 22 (Part 1)

    ฉันรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ลุงเบนนี่เพิ่งพูดไป ฉันจะแต่งงานกับผู้ชายที่เพิ่งเจอเมื่อวานได้ยังไง?"ขอโทษนะคะ ลุงเบนนี่ พูดอีกครั้งได้ไหมคะ?" ฉันถามด้วยความหวังว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่น"เอ่อ คือลุง.. พ่อของเธอที่เสียไปแล้ว และพ่อของทรอยที่เสียไปแล้วเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย" ลุงเบนนี่เริ่มอธิบาย"พ่อของเธอและพ่อของทรอยประสบความสำเร็จในการก่อตั้งบริษัทของตัวเอง พวกเขาตกลงกันว่าจะควบรวมกิจการของบริษัทโดยให้ลูก ๆ แต่งงานกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเขียนพินัยกรรมเอาไว้" ลุงเบนนี่อธิบายอย่างละเอียดฉันสังเกตเห็นว่าทรอยยิ้มพราวตลอดเวลา"ทรอย คุณรู้เรื่องนี้แล้วเหรอ?" ฉันถามด้วยความสงสัย"ใช่ ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ผมจับตาดูว่าที่ภรรยาของผมมาระยะหนึ่งแล้ว ซาร่าห์ ถึงเวลาที่คุณควรจะมีความสุขได้แล้ว หลังจากที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับผู้ชายไร้ประโยชน์คนนั้นมานาน ผมสัญญาว่าจะทำให้คุณมีความสุขไปตลอดชีวิต แต่งงานกับผมนะครับ" ทรอยกล่าวฉันตะลึง มองไปที่ทรอยซึ่งจู่ ๆ ก็มายืนอยู่ตรงหน้าฉัน หัวใจของฉันเต้นแรง กระเพื่อมขึ้นลงเมื่อสายตาของเราสบกันทรอยดูเพอร์เฟกต์เกินไปในส

  • ซีอีโอสาวทวงแค้น   บทที่ 21

    เช้าวันนี้ฉันพร้อมที่จะไปทำงานแล้ว กิลเลียนบอกลาและไปโรงเรียนพร้อมกับโซเฟียซึ่งไปส่งเธอที่ล็อบบี้ระหว่างอาหารเช้า ฉันถามอัลเบิร์ตว่าวันนี้เขามาทำงานไหวไหม เสียงของเขายังคงอ่อนเพลีย ดูเหมือนว่าเขายังคงป่วยอยู่ ฉันรู้สึกสงสารเขา บางทีฉันควรพาเขาไปหาหมอหลังจากประชุมเสร็จผู้ช่วยของเขาบอกว่าอัลเบิร์ตไม่ยอมไปหาหมอเพราะเขากลัว ผู้ชายที่หล่อเหลาทั้งยังดูน่าเกรงขามคนนี้กลับกลัวหมอ ฮ่า ๆ!ฉันเดินไปที่ล็อบบี้ของอะพาร์ตเมนต์ ขณะที่ฉันอยู่ในลิฟต์ เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น ฉันประหลาดใจที่เห็นชื่อของทรอยบนหน้าจอ ทำไมเขาถึงโทรมาเช้าขนาดนี้?"สวัสดีคนสวย พร้อมหรือยัง? ผมรอคุณอยู่ข้างล่าง"อะไรนะ?! ทรอยอยู่ที่ล็อบบี้เหรอ?!"ฉันมีคนขับรถไปส่งค่ะ ไม่อยากรบกวนคุณ" ฉันปฏิเสธอย่างสุภาพ"แต่ผมไม่รับคำปฏิเสธนะครับ คุณจอห์นสัน" เขาตอบอย่างหนักแน่นฉันถอนหายใจแรง ๆ อันที่จริงแล้ว ฉันไม่ชอบนิสัยชอบบังคับกลาย ๆ ของเขา แต่ฉันก็ไม่อยากเถียง ครั้งนี้จึงตัดสินใจปล่อยมันไป"ครับ ลุงเบนนี่ ขอบคุณครับ ผมจะดูแลเธออย่างดี"ดูเหมือนว่าทรอยและลุงเบนนี่กำลังคุยเรื่องซีเรียสกันอยู่ทางโทรศัพท์ตอนที่ฉันมาถึงล็อบบี้ แต่

DMCA.com Protection Status