Share

บทที่ 3

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-01 10:53:45

“อย่าทำมาเป็นมองข้าด้วยสายตาแบบนั้นนะ นางเด็กน่ารังเกียจ ข้าขอพูดเอาไว้ตรงนี้เลย ไม่ว่าวันนี้จะเป็นหรือตายเจ้าก็ต้องแต่งไปบ้านสกุลเซี่ย” แม่เฒ่าเยว่พยายามข่มอารมณ์หวาดกลัวของตน พลางแสร้งโมโหตวาดด่าทอกลบเกลื่อน “หากเจ้ากล้า…”

“เข้าใจแล้ว ข้าจะแต่ง”

เยว่อวิ๋นตอบขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

นางนอนฟังเรื่องราวอยู่นาน จึงพอจับใจความได้ว่า ที่แท้ยายเฒ่าน่าตายนี่ตั้งใจจับเจ้าของร่างที่วิญญาณนางเข้ามาอยู่แต่งงานแทนลูกสาวสุดที่รัก แต่เจ้าตัวไม่ยินยอมจึงก่อการประท้วงด้วยการพุ่งศีรษะชนเสาบ้าน

อันที่จริงเรื่องนี้ไม่สามารถโทษเจ้าของร่างเดิมที่ทำแบบนี้ได้ เดิมการหมั้นหมายเกิดขึ้นเพราะผู้เฒ่าเยว่เคยช่วยชีวิตผู้เฒ่าเซี่ย ซึ่งยามนั้นบุตรชายคนโตกับคนรองบ้านเซี่ยต่างก็แต่งงานแล้ว มีเพียงบุตรชายคนที่สามเซี่ยเฟิงที่ยังโสด

ดังนั้นการหมั้นหมายครั้งนี้ จึงเป็นที่รู้กันว่าเป็นของบุตรชายคนที่สามของบ้านเซี่ยกับบุตรสาวคนเดียวของผู้เฒ่าเยว่ เยว่เจินเจิน

บุตรชายคนเล็กของบ้านเซี่ยเป็นว่าที่บัณฑิตซิ่วไฉ [1] แน่นอนว่าแม่เฒ่าเยว่กับเยว่เจินเจินย่อมไม่คิดปฏิเสธการหมั้นหมายที่แสนยอดเยี่ยมนี้ พวกนางยินดีรอให้อีกฝ่ายสอบเสร็จแล้วมาจัดงานแต่งงาน

ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ บ้านเซี่ยกลับเกิดปัญหาขึ้น พ่อเฒ่าเซี่ยกับบุตรชายคนรองขึ้นเขาไปล่าสัตว์พลัดตกลงมา คนพ่อเสียชีวิตส่วนคนลูกบาดเจ็บสาหัส

ต่อมาไม่รู้ว่าคนบ้านเซี่ยปรึกษากันอย่างไร งานหมั้นที่เคยพูดคุยตกลงกันไว้จึงถูกยกให้บุตรชายคนรองแทน เพียงแต่บุตรชายคนรองของบ้านเซี่ยนั้นเป็นพ่อหม้ายลูกติดมีลูกเล็กถึงสองคน อีกทั้งยามนี้ยังมาบาดเจ็บตกอยู่ในสภาพครึ่งผีครึ่งคน เยว่เจินเจินย่อมไม่ยินยอมแต่งให้เป็นธรรมดา

เยว่เจินเจินคือแก้วตาดวงใจของแม่เฒ่าเยว่ อย่าว่าแต่นางจะไม่ยินยอมเลย ต่อให้ยินยอมเต็มใจ ด้วยสภาพของบุตรคนรองบ้านเซี่ยเวลานี้ ตัวแม่เฒ่าเยว่เองก็ไม่ยอมเป็นแน่

พวกนางแม่ลูกไม่ต้องการงานแต่งงานนี้แล้ว แต่ก็โลภมากไม่อยากคืนสินสอดของหมั้น ดังนั้นทั้งคู่จึงวางแผนโยนให้เจ้าของร่างเดิมรับไปแทน

คิดถึงตรงนี้เยว่อวิ๋นพลันโคลงศีรษะพูดไม่ออก สองแม่ลูกสกุลเยว่นิสัยชั่วร้ายเห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง ส่วนเจ้าของร่างเดิมก็ช่างใจร้อนเสียจริง

แค่ได้ยินว่าต้องแต่งให้พ่อหม้ายลูกติดที่ไม่รู้ว่าจะพิการหรือเปล่า ก็สติแตกจนกู่ไม่กลับ นำเอาความเป็นความตายของตนเองมาบีบเพื่อแก้ปัญหา ไม่คิดเลยว่าในครอบครัวเคยมีใครสนใจตัวเองบ้าง ดีจริงๆ คราวนี้เลยได้ตายสมใจเลย

หากเป็นนางแล้วละก็ ไม่มีทางใช้วิธีมัจฉาตายตาข่ายขาด [2] คิดทำลายศัตรูจนตัวเองต้องมอดม้วยไปด้วยเช่นนี้แน่

เอาเถิดนางในยามนี้อ่อนแอไม่อาจงัดข้อกับอีกฝ่าย เช่นนั้นก็คงต้องไหลตามสถานการณ์ไปก่อน รอวันหน้าฟื้นฟูร่างกายได้ ถึงตอนนั้นสิบนางเฒ่าสารพัดพิษแซ่เยว่มีหรือจะคณามือนาง

“ดี ดี” แม่เฒ่าเยว่ดีใจจนร้องดีๆ ติดกัน นางสลัดความรู้สึกแปลกประหลาดที่อยู่ในใจทิ้งไปทันที “ฉงอวิ๋นเจ้าเด็กนั่นข้าเห็นมาตั้งแต่เล็กตั้งแต่น้อย นิสัยของเขาไม่แย่เลย ถึงอายุจะมากกว่าเจ้าไปสักหน่อย แต่ก็บอกได้ว่างานแต่งครั้งนี้ไม่เลวร้ายนัก”

หลายคนเบ้หน้าให้กับคำพูดนี้ เยว่อวิ๋นเพิ่งจะอายุครบสิบห้าปีนี้ ส่วนเซี่ยฉงอวิ๋นนั่นอายุก็ปาเข้าไปยี่สิบเอ็ดยี่สิบสองแล้ว ที่สำคัญเซี่ยฉงอวิ๋นเป็นพ่อหม้ายลูกติด แต่งเข้าไปเยว่อวิ๋นก็ต้องทำหน้าที่แม่เลี้ยงเลย ไหนจะยังมีข่าวลือเรื่องที่ว่าได้รับบาดเจ็บจนกลายเป็นคนพิการนั่นอีก

นี่น่ะหรือที่บอกว่าไม่เลวร้าย ถ้าหากไม่เลวร้ายจริงทำไมนางถึงยืนกรานไม่ยอมส่งบุตรสาวตัวเองไปเล่า!

เยว่อวิ๋นไม่รู้ความคิดในใจผู้อื่น นางครุ่นคิดใจลอยเล็กน้อยกับชื่อว่าที่สามีเจ้าของร่าง “ฉงอวิ๋น” อย่างงั้นหรือ ช่างบังเอิญเสียจริง

ฉับพลันก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมา ครั้นเพ่งกลับไปทางที่มาก็เห็นเป็นสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่ง เยว่อวิ๋นจำได้ว่าเมื่อครู่ตอนที่ตัวเองลืมตา ยายเฒ่าพิษกำลังเอ่ยปากด่าทอสตรีนางนี้อยู่พอดี

ที่แท้หญิงผู้นี้ก็คือหลิวซื่อ [3] มารดาของร่างเดิมนั่นเอง เห็นอีกฝ่ายถลึงตาจ้องตอบตนเองอย่างขุ่นเคือง เยว่อวิ๋นพลันหลุดเสียงหัวเราะเหยียดหยันออกมาเบาๆ

เจ้าของร่างเดิมมีชีวิตที่น่าสงสารไม่น้อย นางถูกครอบครัวเอารัดเอาเปรียบ ต้องลำบากลำบนตั้งแต่เด็ก แม้แต่มารดาแท้ๆ ก็ยังรักตัวเองมากกว่า มองว่านางเป็นตัวนำโชคร้ายมาสู่ตนเองเท่านั้น

คิดถึงตรงนี้ ในอกก็คล้ายมีกระแสลมตีจนปั่นป่วน โพรงจมูกเกิดอาการแสบร้อน ดวงตาขัดเคืองจนรื้นน้ำ เยว่อวิ๋นแน่ใจว่านี่ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึกของนางแน่นอน

นางคือแม่ทัพที่เอาชนะข้าศึกมาทั่วสารทิศ ขนาดบุรุษอกสามศอกได้ยินชื่อยังต้องตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ไม่มีทางมานั่งจมจ่มอยู่ในอารมณ์น้อยอกน้อยใจแบบนี้ เช่นนั้นก็คงจะเป็นความรู้สึกของเจ้าของร่างนี้แล้ว

“วางใจเถอะ ในเมื่อข้ามาอาศัยร่างเจ้าอยู่ ย่อมต้องใช้ชีวิตต่อไปให้ดี ใครก็ตามที่มุ่งหมายคิดทำร้ายเจ้า ข้าจะทำให้คนผู้นั้นไม่ได้อยู่ดีมีสุข”

นางพึมพำเสียงแผ่วแทบไม่ได้ยิน ทว่าน่าแปลกที่หลังจากกล่าวจบ อาการอึดอัดในใจกลับค่อยๆ ทุเลาลงจนเป็นปกติ ดูเหมือนว่าเจ้าของร่างจะรับรู้และปล่อยวางได้แล้วสินะ

ชั่วเวลานี้เองที่เยว่อวิ๋นพลันตระหนักและเข้าใจแจ่มแจ้ง ว่าวิญญาณของตนได้หลุดลอยมาเข้าร่างคนอื่นแล้วจริงๆ

นางไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องราวที่อ่านในตำราเกี่ยวกับการสวมร่างคืนวิญญาณ [4] นั้นจะมีอยู่จริง เพียงแต่น่าเสียดายที่การสวมร่างของนางกลับไม่มีความทรงจำใดๆ ของตัวเจ้าของร่างเลยแม้แต่น้อย

ยังดีที่ตอนนี้นางบาดเจ็บลุกไม่ไหว อีกทั้งยังมีเรื่องราววุ่นวายจากการกระทำของเจ้าของร่าง คนสกุลเยว่จึงไม่มีใครทันสังเกตเห็นความผิดปกติ

แต่ต่อไปความแปลกประหลาดพวกนี้ย่อมถูกคนใกล้ชิดมองออกได้ ถึงที่นี่อาจจะเป็นคนละยุคสมัยกับที่ๆ นางมา แต่คิดว่าความเชื่อเรื่องภูติผีปีศาจน่าจะยังคงมีอยู่ นางไม่อยากโดนฝูงชนจับตัวเอาไปเผาทั้งเป็นหรอกนะ

และนี่ก็เป็นเหตุผลอีกข้อหนึ่งที่ทำให้เยว่อวิ๋นยินยอมตกลงแต่งเข้าบ้านสกุลเซี่ย

มีคำกล่าวเอาไว้ว่าสตรีเราสามารถเกิดใหม่ได้ถึงสองครั้ง ครั้งแรกตอนคลอดออกจากครรภ์มารดา ส่วนครั้งที่สองนั้นมาจากการแต่งงาน นางจึงหวังใช้ประโยชน์จากจุดนี้มาเป็นตัวเปลี่ยนแปลงตนเอง

น้ำมาใช้กำแพงดินต้าน ทหารมาเอาขุนพลเข้ารับมือ [5] อย่างไรเสียเจ้าของร่างกับคนสกุลเซี่ยก็ไม่ได้สนิทสนมกันอยู่แล้ว นางแต่งเข้าไปนิสัยแปลกแตกต่างไม่เหมือนเดิมตรงไหน ผู้ใดใครจะมาชี้บอกได้กันเล่า

ที่สำคัญหากแต่งออกไปภรรยาย่อมกลายเป็นสมบัติของสามี เช่นนั้นไม่ว่าจะท่านย่าหรือมารดาของเยว่อวิ๋นคนเดิมก็ย่อมไม่มีสิทธิ์ในตัวนางอีก วิธีง่ายๆ แต่ได้ผลประโยชน์หลายข้อ มีหรือคนฉลาดอย่างเยว่อวิ๋นจะไม่ทำ

ส่วนสามีราคาถูกนั่นน่ะหรือ ดวงตากลมหรี่ลงเล็กน้อยทว่าทอประกายเย็นเยียบแหลมคมดุจมีด

ทางที่ดีให้เขาบาดเจ็บหรือพิการจนต้องนอนเตียงไปทั้งชีวิตเลยก็ได้ สามีคนเดียวนางเลี้ยงไหวอยู่แล้ว แม้จะมีซาลาเปาน้อยแถมมาด้วยก็ไม่เป็นไรนางไม่ถือสา แต่ขออย่าได้ลุกขึ้นมายุ่มย่ามวุ่นวายกับนางเชียวล่ะ

เพราะถ้าไม่อย่างนั้นนางคงไม่ลังเลที่จะส่งเขาลงไปพบกับเหยียนหลัวหวาง [6] ก่อนเวลาเป็นแน่!

[1] ซิ่วไฉ คือผู้ที่สอบเข้ารับราชการผ่านระดับอำเภอ ซึ่งจะมีการจัดสอบขึ้นลปีละครั้ง

[2] หมายถึง ต่อสู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง

[3] ซื่อ ในสมัยโบราณ ตามธรรมเนียมจีน จะเรียกขานสตรีที่แต่งงานแล้วโดยใช้คำว่าซื่อต่อท้ายสกุลเดิม หรือบางครั้งอาจใช้สกุลของสามีไว้หน้าสุดเพื่อเป็นการระบุให้ชัดเจน

[4] การสวมร่าง คือ การที่คนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้วและมี วิญญาณของอีกคนหนึ่ง เข้ามาใช้ร่างกายนั้นแทน

[5] หมายถึง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ให้พลิกแพลงรับมือไปตามสถานการณ์

[6] เหยียนหลัวหวาง ชื่อเรียกพญายมราช
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 4

    ทางที่ดีให้เขาบาดเจ็บหรือพิการจนต้องนอนเตียงไปทั้งชีวิตเลยก็ได้ สามีคนเดียวนางเลี้ยงไหวอยู่แล้ว แม้จะมีซาลาเปาน้อยแถมมาด้วยก็ไม่เป็นไรนางไม่ถือสา แต่ขออย่าได้ลุกขึ้นมายุ่มย่ามวุ่นวายกับนางเชียวล่ะเพราะถ้าไม่อย่างนั้นนางคงไม่ลังเลที่จะส่งเขาลงไปพบกับเหยียนหลัวหวางก่อนเวลาเป็นแน่!เยว่อวิ๋นนอนนิ่งใช้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 5

    เยว่อวิ๋นฟังแล้วอดนึกขันไม่ได้ คงต้องบอกว่าคนจำพวกเดียวกันมักจะมองกันออกจริงๆ สินะ ขนาดอีกฝ่ายไม่อยู่ในขบวนรับตัวเจ้าสาวแท้ๆ กลับบรรยายการกระทำของแม่เฒ่าเยว่ได้ชัดเจนชนิดตาเห็นเลยทีเดียว ดูท่าแล้วหญิงชราผู้นี้คงเป็นแม่สามีราคาถูกของนางกระมั้ง“ท่านแม่ พวกข้าไม่ได้เสียเปรียบให้นางเลยขอรับ” เซี่ยจินกล

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-01
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 6

    ยามฟ้าสางรุ่งอรุณมาเยือน แสงอาทิตย์สีทองเริ่มจับขอบฟ้า หมู่สกุณาเริงร่าร้องขับขาน เยว่อวิ๋นถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงพูดคุยเล็กๆ“ท่านพี่ ข้าหิวแล้ว” เสียงที่พอฟังออกว่าเป็นเด็กหญิงดังขึ้น จากนั้นก็มีเสียงตอบกลับจากเด็กชาย “ชู่ เบาๆ นางตื่นแล้ว”เยว่อวิ๋นลืมตาเหม่อมองหลังคาอยู่พักหนึ่ง นางนอนฟังเจ้าของ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 7

    “ต้องซาวน้ำล้างเศษดินทิ้งก่อนหุงเจ้าค่ะ” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ในกระแสเสียงปะปนด้วยอารมณ์หวาดหวั่นของผู้เป็นเจ้าของเยว่อวิ๋นเลิกคิ้วเล็กน้อย ในใจบางอ้อขึ้นมาทันที ที่แท้เพราะนางยังไม่ได้ล้างข้าวก่อนนี่เอง สีของน้ำจึงมิต่างจากน้ำโคลนเช่นนี้ หญิงสาวหันไปยิ้มให้เจ้าตัวน้อยที่แอบอยู่ด้านหลัง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 8

    “เด็กน้อย เจ้าดูไฟเป็นหรือไม่” หญิงสาวถามเบาๆเสี่ยวอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักใบหน้ารัวๆ ประดุจไก่จิกข้าวสาร“เป็นเจ้าค่ะ ตั้งแต่เสี่ยวอวี้สี่ขวบก็มีหน้าที่คอยจุดไฟให้ท่านป้าใหญ่อยู่แล้ว” เด็กหญิงบอกน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ขณะทรุดลงนั่งยองๆ หน้าเตาไฟเยว่อวิ๋นหรี่นัยน์ตามองร่างเล็กตรงหน้าอย่างพินิจ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 9

    ในความคิดของเยว่อวิ๋น เด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบเหล่านี้ หากถูกเลี้ยงดูดีๆ มีใครบ้างที่ไม่ขาวอวบนุ่มนิ่มดังเช่นซาลาเปาทว่าน่าเสียดายนัก ลูกเลี้ยงของนางทั้งสองคนกลับเป็นได้แค่หัวไชเท้าน้อยเปื้อนโคลน พวกเขาไม่เพียงมีร่างกายที่ผ่ายผอมแคระแกร็น ทั้งยังเต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผลฟกช้ำตามเนื้อตัวชนิดไม่มีที่ว่าง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 10

    เยว่อวิ๋นนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าเจ้าหัวไชเท้าน้อยที่นางกำลังคิดเลี้ยงดูนั้น กำลังวางแผนที่จะเลี้ยงดูนางในอนาคตเช่นกันเนื่องจากฟ้าด้านนอกยังสว่างไม่มากนัก ภายในห้องมีเพียงเแสงสว่างสลัวๆ เมื่อรวมกับกลิ่นอับชื้นอากาศจึงไม่น่าพิสมัยนัก เยว่อวิ๋นพลันขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะถือชามข้าวต้มเดินเข้าในห้องคนบนเตียงยั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-03
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 11

    รอยยิ้มกลบเกลื่อนของเยว่อวิ๋นไม่นับว่าแนบเนียน แต่ตัวเซี่ยฉงอวิ๋นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ทั้งคู่จึงไม่ทันมองออกถึงความในใจที่ต่างคนก็ต่างซ่อนเก็บไว้“นี่มันอะไรกัน ทำไมข้าวสารกับไข่ถึงได้เหลือแค่นี้!”เสียงร้องตะโกนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เยว่อวิ๋นราวกับได้ย้อนไปวันแรกที่นางฟื้นมาในร่างนี้แล้วมียายแ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-04

Bab terbaru

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 120

    หลังผ่านเหตุการณ์ปิดประตูทุบตีคน เยว่อวิ๋นก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมตามปกติคล้ายลืมเลือนไปแล้วว่ามีเรื่องนี้อยู่ จนกระทั่งเซี่ยฉงอวิ๋นเอ่ยถามขึ้นระหว่างกินอาหาร“บ้านเดิมเจ้าไม่มาแล้วหรือ” คิดถึงการสนทนาของนางกับคนสกุลเยว่ที่บุตรชายถ่ายทอดให้ฟัง ดวงตาของเซี่ยฉงอวิ๋นก็ดำมืดขึ้นหลายส่วน“อืม” เยว่อวิ๋

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 119

    “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ดีแล้ว” แม่เฒ่าเยว่ขมวดคิ้วครุ่นคิดหนักขนาดเซี่ยฉงอวิ๋นป่วยล้มหมอนนอนเสื่อเป็นคนไร้ประโยชน์ นางเด็กนั่นยังหยิ่งผยองไม่สนใจทางบ้านเดิมเช่นนี้ แล้วถ้าสามีนางได้เป็นซิ่วไฉหรือขุนนางขึ้นมาจริงๆ นางจะไม่ลอยขึ้นฟ้าจนมองไม่เห็นศีรษะใครเลยอย่างนั้นหรือ“ฟังจากที่พวกเจ้าเล่ามา ในใจเด็กนั่น

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 118

    ทว่าสิ่งที่นางได้รับเล่า...ถูกผู้ที่ได้ชื่อว่าครอบครัวบีบคั้นส่งนางออกมาแค่เพื่อสินสอดไม่กี่ตำลึงเท่านั้น และในยามที่นางขัดขืนดิ้นรนร้องขอความเมตตา คนเป็นแม่กลับทำเพียงทอดสายตามองด้วยใบหน้าเฉยเมย คิดถึงตรงนี้เยว่อวิ๋นพลันรู้สึกแสบร้อนโพรงจมูกอย่างบอกไม่ถูก“หลิวซื่อ ตัวเจ้าเองรู้ดีที่สุด ว่าบุตรสาว

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 117

    “ไม่ได้ทำอะไรงั้นหรือ พวกเจ้ามาถึงก็อ้างความกตัญญูเรียกร้องให้ข้ามอบสิ่งของให้ พอข้าไม่ยอมก็คิดจะทำร้ายข้า นี่ยังเรียกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกหรือ” เยว่อวิ๋นเอียงคอถามน้ำเสียงจริงจัง“แล้วจะทำไม ในเมื่อบ้านเราเลี้ยงดูเจ้ามาตั้งหลายสิบปี จะให้เจ้าแสดงความกตัญญูบ้างมันผิดตรงไหน อย่าลืมนะว่าถ้าไม่ใช่เพราะท่า

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 116

    แม่เฒ่าเยว่ฟังแล้วหยุดหอบหายใจ นางไม่ได้เอะอะโวยวายต่ออีก เรื่องที่จางซื่อยังคิดออกมีหรือนางจะคิดไม่ได้ “ช่างเถอะๆ พรุ่งนี้เจ้าก็พาสะใภ้รองไปหมู่บ้านเซี่ย บอกเด็กนั่นว่าข้าล้มป่วยคิดถึงต้องการให้นางกลับมาเยี่ยม”พูดจบแม่เฒ่าเยว่กับจางชุ่ยก็สบสายตากันอย่างมีเลศนัย ผู้อาวุโสไม่สบายถ้าไม่อยากถูกตราหน้า

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 115

    “สะใภ้ใหญ่ที่เจ้าเล่ามาเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ” แม่เฒ่าเยว่ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เนื่องจากรู้นิสัยชอบพูดใส่สีตีไข่ของลูกสะใภ้คนโตดี“จริงสิเจ้าคะ ถ้าท่านแม่ไม่เชื่อจะไปถามอาฮัวดูก็ได้ นางมาเล่าให้ข้าฟังว่านางเป็นคนเห็นกับตาเลย” จางชุ่ยยืนยันหนักแน่น ในดวงตายังฉายแววอิจฉาไม่หาย“อาฮัวเล่าว

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 114

    ในใจเจ้าของร่างมีสองสิ่งที่ยังมิอาจปล่อยวาง หนึ่งคือบุตรฝาแฝดที่ยังเล็ก สองคือความเสียดายแกมริษยาน้องชายที่ได้ร่ำเรียน เขาปรารถนาจะร่ำเรียนฝากชื่อให้คนทั่วหล้าได้รู้จัก ได้รับราชการเป็นขุนนางที่นำพาเกียรติยศมาสู่วงศ์ตระกูลในยามที่เซี่ยฉงอวิ๋นวิญญาณหลุดลอยมาเข้าร่าง จึงได้เอ่ยคำมั่นให้สัญญาว่าจะทำสอ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 113

    การปะทะกันระหว่างสะใภ้ครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของอู่ซื่อ เนื่องจากรู้ดีว่าเป็นตัวเองที่ไร้เหตุผลก่อน ยามพ่อสามีกลับมากินอาหารเย็น อู่ซื่อจึงไม่ได้รื้อฟื้นเรื่องราวขึ้นมาอีกแต่อย่างใดเพียงแต่อู่ซื่อไม่เอ่ยถึง ไม่ได้หมายความว่าเจินซื่อจะปล่อยผ่าน พวกนางสะใภ้ทั้งสามล้วนทำหน้าที่ของตัวอย่างเต็มกำลัง

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 112

    หลานชายหายดีอนาคตเขาลงไปแดนน้ำพุเหลืองก็สามารถสู้หน้าน้องชายที่ตายไปได้แล้วได้คำตอบที่ต้องการแล้ว เซี่ยเหล่าซานกับผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้รั้งอยู่ต่อ เยว่อวิ๋นนำใบยาสูบและแบ่งใบชาหลงจิ่งที่ซื้อมาให้เซี่ยฉงอวิ๋นให้แก่ลุงสามกับผู้ใหญ่บ้าน เดิมนางต้องการจ่ายค่าจ้างให้สองสามีภรรยาเซี่ยหู่ชิงหลัว ทว่าทั้งคู่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status