Share

บทที่ 7

“ต้องซาวน้ำล้างเศษดินทิ้งก่อนหุงเจ้าค่ะ” เสียงเล็กๆ ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ในกระแสเสียงปะปนด้วยอารมณ์หวาดหวั่นของผู้เป็นเจ้าของ

เยว่อวิ๋นเลิกคิ้วเล็กน้อย ในใจบางอ้อขึ้นมาทันที ที่แท้เพราะนางยังไม่ได้ล้างข้าวก่อนนี่เอง สีของน้ำจึงมิต่างจากน้ำโคลนเช่นนี้ หญิงสาวหันไปยิ้มให้เจ้าตัวน้อยที่แอบอยู่ด้านหลังพี่ชาย พลางยกหม้อออกไปล้างเมล็ดข้าวตามคำบอก โดยไม่มีท่าทีเหนียมอายต่อการกระทำผิดพลาดของตนเลยแม้แต่น้อย

เสี่ยวอวี้หลบอยู่ด้านหลังพี่ชายฝาแฝด คำพูดที่หลุดออกไปเมื่อครู่ทำให้นางเกิดอาการตื่นตระหนก คิดถึงยามอาหญิงเล็กที่ชอบหยิกตีตนยามไม่พอใจ เด็กหญิงก็ยิ่งหวาดกลัวว่ามารดาคนใหม่อาจไม่ชอบคำพูดที่ตนเองกล่าวออกมา

ทว่ารอยยิ้มบางของเยว่อวิ๋นเมื่อครู่ ทำให้เด็กหญิงงงงันไปพักหนึ่ง ดวงตาคู่เล็กเบิกกว้างในแววตาผุดประกายวาดหวังบางอย่าง “พี่ชาย ท่านแม่คนใหม่… นางดูใจดีมากเลยเจ้าค่ะ”

ผู้เป็นพี่ฟังน้องสาวพูดพร้อมกับดึงชายเสื้อตนแล้วพูดไม่ออก น้องโง่เอ๋ย ผู้อื่นแค่ส่งยิ้มให้เล็กน้อย นางก็มอบป้ายคนดีให้อีกฝ่ายเสียแล้ว ช่าง…

ต้าเป่าแม้จะมีอายุแค่ห้าขวบ ทว่าฉลาดเฉลียวมีความคิดเกินเด็กวัยเดียวกัน ก่อนที่พ่อเฒ่าเซี่ยจะจากไป เขาเคยได้ร่ำเรียนเขียนอ่านกับท่านปู่มาก่อน จึงพอรู้จักคำพูดประโยคในตำรามาอยู่บ้าง เด็กชายรู้สึกว่าเวลานี้เขาสามารถนิยามลักษณะนิสัยน้องสาวฝาแฝดของตนเองได้เพียงประโยคนี้เท่านั้น

นั่นก็คือ คนโง่ใสซื่อไร้เดียงสาที่ถูกขายแล้วยังช่วยคนลงมือนับเงินอีกด้วย!

เสี่ยวอวี้ไม่ทันรู้เลยว่าถูกพี่ชายแปะป้ายคนโง่ใสซื่อให้แล้ว ดวงตาคู่เล็กมองตามด้านหลังของสตรีแปลกหน้าอย่างสนใจใคร่รู้ ก่อนที่ร่างเล็กจะวิ่งปรื๋อออกไปด้านหลังตามอีกฝ่าย

ต้าเป่าสบถเบาๆ ก้าวเท้าตามไปติดๆ ดูสิ เพียงแค่หันหลังน้องสาวโง่ก็ลืมคำเตือนของเขาเสียแล้ว

เสี่ยวอวี้ที่ถูกพี่ชายค่อนขอดไม่ได้รู้ตัวแม้แต่น้อย เด็กหญิงวิ่งมาหยุดด้านหลังมารดาเลี้ยงของตน จากนั้นจึงชะโงกมองภายในหม้อ เห็นว่าสีน้ำใสไร้ตะกอนดินศีรษะเล็กๆ ก็ผงกขึ้นลงอย่างพอใจ

แม้ไม่มีวาจา ทว่าเยว่อวิ๋นกลับเข้าใจความหมายของท่าทางเหล่านั้นได้ นึกไม่ถึงว่าจากแม่ทัพผู้บัญชาการรบ ยามนี้ตนจะตกต่ำจนเด็กน้อยก็ยังดูแคลนไม่เชื่อใจ คิดแล้วนางพลันรู้สึกทั้งฉิวทั้งขันบอกไม่ถูก

“หิวแล้วใช่หรือไม่ รอก่อนนะข้าวต้มยังต้องต้มอีกสักพักถึงจะสุก” มองเห็นดวงตากลมพราวระยับที่จับจ้องไปยังหม้อในมือนาง เยว่อวิ๋นเอ่ยบอกอย่างอดไม่ได้

เสี่ยวอวี้ฟังแล้วดวงตาเบิกกว้าง เด็กหญิงมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าคำพูดเมื่อครู่นั้นกล่าวกับตัวเองจริงๆ

เมื่อครู่ที่บอกให้รอ แสดงว่าอีกฝ่ายคิดจะแบ่งอาหารให้นางด้วยใช่หรือไม่ คิดแล้วดวงหน้าเล็กก็เผยรอยยิ้มสดใสออกมาเต็มสีหน้า

“อื้ม เจ้าค่ะ”

เสียงเล็กๆ รับคำ ท่าทางเชื่อฟังรู้ความในขณะที่เจ้าตัวยังจ้องเขม็งไปยังหม้อ ท่าทางน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก เยว่อวิ๋นใจอ่อนยวบจนอดเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กไม่ได้

เส้นผมของเด็กน้อยทั้งเหนียวทั้งแข็งกระด้างไม่สบายมือเลยสักนิด เยว่อวิ๋นขมวดคิ้วบางๆ ทว่าไม่เอ่ยปากอะไร นางหันหลังก้าวเข้าครัว หลังจากวางหม้อลงบนเตา ก็เดินไปค้นของบนโต๊ะอีกครั้ง

ในบ้านไม่มีผักสด มีเพียงผักแห้งกับโหลผักดองที่ด้านในมีอยู่ไม่ถึงครึ่ง มือเรียวอุ้มโหลขึ้นมาถือ ก่อนจะฉวยเอาตะกร้าใส่ไข่ที่มีอยู่สิบกว่าใบติดมาด้วย

ผักสดไม่มีไม่เป็นไร ข้าวต้มกับผักดองก็พอเข้ากันอยู่ เพียงแต่ในบ้านมีเด็กน้อยวัยกำลังโตกับคนป่วยอยู่ คนผู้นั้นร่างกายย่ำแย่ทรุดโทรมนัก หากไม่บำรุงด้วยเนื้อหรือไข่ก็คงไม่เพียงพอให้ฟื้นตัวเป็นแน่

เห็นมารดาคนใหม่ยืนนิ่งไม่ขยับ เสี่ยวอวี้เริ่มวุ่นวายใจ แม้จะไม่คุ้นเคยกันมาก่อน ทว่ารอยยิ้มกับฝ่ามือที่ลูบศีรษะก็อบอุ่นเหลือประมาณ อีกทั้งอีกฝ่ายยังเอ่ยปากแล้วว่าจะแบ่งอาหารให้พวกตนด้วย

“ผะ…ผักสดต้องไปเก็บที่แปลงในลานด้านหลังบ้านใหญ่เจ้าค่ะ ทะ…ที่นี่แต่ก่อนเป็นกระท่อมสำหรับเก็บของเท่านั้น”

ใช่แล้ว เดิมทีพวกนางอาศัยอยู่ในบ้านสกุลเซี่ย แต่เป็นเพราะท่านพ่อแต่งมารดาใหม่เข้ามา ท่านย่าจึงจัดเตรียมกระท่อมแห่งนี้ให้พวกนางสามคนพ่อลูกย้ายมาอยู่ที่นี่แทน

เยว่อวิ๋นฟังแล้วพลันเข้าใจในทันที มิน่าเล่าเมื่อวานนางถึงรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง เหตุใดบ้านสกุลเซี่ยที่ใครต่างก็บอกว่าฐานะไม่เลว ถึงได้ดูยากไร้ถึงเพียงนี้ นั่นก็เพราะกระท่อมแห่งนี้ก็เป็นแค่ที่ทิ้งขว้างภาระของพวกเขาเท่านั้น

“ไม่เป็นไร มีผักดองกับไข่ไก่อยู่ พวกเรากินไปก่อนก็แล้วกัน” เยว่อวิ๋นกล่าวด้วยรอยยิ้ม ขณะที่มือก็ล้างไข่ไก่ไปด้วย

ยามนี้ฟ้าเริ่มสางแล้ว อีกสักพักคนบ้านเซี่ยก็คงมา หากไม่รีบกินให้อิ่มไว้ก่อนจะเอาแรงที่ไหนไปรับมือ เยว่อวิ๋นคิดพลางขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะนำไข่ไก่ในมือลงใส่ในหม้อข้าวต้มทันที

ห้า… หก… เจ็ด… แปด…

เสี่ยวอวี้เบิกตากว้าง นับจำนวนไข่ที่จมหายไปในหม้ออย่างตกใจ ไข่ไก่ถือเป็นของล้ำค่ามาก อยู่กับท่านย่านางและพี่ชายยังไม่เคยได้กิน ทว่ามารดาคนใหม่กลับใส่ลงไปถึงแปดฟอง ช่างมือเติบยิ่งนัก

ต้าเป่าที่เพิ่งขยับเข้ามาดูอ้าปากค้างไม่ต่างกัน ไข่ไก่ในบ้านเซี่ยมีไว้สำหรับอาสามกับอาหญิงเล็กเท่านั้น แม้แต่เซี่ยเสี่ยวเกอบุตรชายคนโตของท่านลุงใหญ่บางวันก็ยังไม่มีให้กินด้วยซ้ำ ทว่าสตรีตรงหน้ากลับนำมาต้มในคราวเดียวถึงแปดฟอง

ฟุ่มเฟือย! นี่มันฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว!

เยว่อวิ๋นไหนเลยจะเข้าใจถึงเรื่องราวเหล่านี้ ชีวิตก่อนนางคือท่านหญิงแห่งวังอ๋อง ต่อให้มีชีวิตเป็นเพียงเม็ดหมากในมือบิดา ทว่าด้านอาหารการกินที่เพียงต้องใช้เงินมีหรือจะขาดตกบกพร่อง กระทั่งเข้าสู่กองทัพในยามที่เดินทางไร้เสบียง บนโต๊ะอาหารของนางก็มิเคยขาดแคลนจานเนื้อสักมื้อ

ไม่สิ อย่าว่าแต่จะไม่มีให้กินเลย แต่ละมื้อของนางยังไม่เคยจำเจด้วยซ้ำ หากไม่มีเนื้อหมูป่าก็มักเป็นกวาง ไม่มีไก่ป่าก็เป็นนกหรือปลา และเบื้องหลังความเพียบพร้อมพวกนี้ ทุกอย่างล้วนเป็นความชอบของคนผู้นั้นทั้งสิ้น

เนื่องจากความคิดถูกดึงล่องลอยไปกับอดีต เยว่อวิ๋นจึงไม่ทันสังเกตสีหน้าสองพี่น้อง ทำให้นางพลาดสีหน้าหนักอกหนักใจของเจ้าตัวน้อยทั้งสองไป
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 8

    “เด็กน้อย เจ้าดูไฟเป็นหรือไม่” หญิงสาวถามเบาๆเสี่ยวอวี้ประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักใบหน้ารัวๆ ประดุจไก่จิกข้าวสาร“เป็นเจ้าค่ะ ตั้งแต่เสี่ยวอวี้สี่ขวบก็มีหน้าที่คอยจุดไฟให้ท่านป้าใหญ่อยู่แล้ว” เด็กหญิงบอกน้ำเสียงเจื้อยแจ้ว ขณะทรุดลงนั่งยองๆ หน้าเตาไฟเยว่อวิ๋นหรี่นัยน์ตามองร่างเล็กตรงหน้าอย่างพินิจ

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 9

    ในความคิดของเยว่อวิ๋น เด็กน้อยอายุไม่กี่ขวบเหล่านี้ หากถูกเลี้ยงดูดีๆ มีใครบ้างที่ไม่ขาวอวบนุ่มนิ่มดังเช่นซาลาเปาทว่าน่าเสียดายนัก ลูกเลี้ยงของนางทั้งสองคนกลับเป็นได้แค่หัวไชเท้าน้อยเปื้อนโคลน พวกเขาไม่เพียงมีร่างกายที่ผ่ายผอมแคระแกร็น ทั้งยังเต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผลฟกช้ำตามเนื้อตัวชนิดไม่มีที่ว่าง

    Huling Na-update : 2025-04-02
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 10

    เยว่อวิ๋นนั้นไม่รู้ตัวเลยว่าเจ้าหัวไชเท้าน้อยที่นางกำลังคิดเลี้ยงดูนั้น กำลังวางแผนที่จะเลี้ยงดูนางในอนาคตเช่นกันเนื่องจากฟ้าด้านนอกยังสว่างไม่มากนัก ภายในห้องมีเพียงเแสงสว่างสลัวๆ เมื่อรวมกับกลิ่นอับชื้นอากาศจึงไม่น่าพิสมัยนัก เยว่อวิ๋นพลันขมวดคิ้วเล็กน้อยขณะถือชามข้าวต้มเดินเข้าในห้องคนบนเตียงยั

    Huling Na-update : 2025-04-03
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 11

    รอยยิ้มกลบเกลื่อนของเยว่อวิ๋นไม่นับว่าแนบเนียน แต่ตัวเซี่ยฉงอวิ๋นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ทั้งคู่จึงไม่ทันมองออกถึงความในใจที่ต่างคนก็ต่างซ่อนเก็บไว้“นี่มันอะไรกัน ทำไมข้าวสารกับไข่ถึงได้เหลือแค่นี้!”เสียงร้องตะโกนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เยว่อวิ๋นราวกับได้ย้อนไปวันแรกที่นางฟื้นมาในร่างนี้แล้วมียายแ

    Huling Na-update : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 12

    นี่ใช่นางเด็กบ้านเยว่ที่ตนเคยเจอจริงน่ะหรือแม่เฒ่าเซี่ยเบิกตากว้างมองคนตรงหน้า อีกฝ่ายไม่เหมือนเดิมเลยแม้แต่น้อย คำพูดที่ฉาดฉานแสดงออกถึงความมั่นใจ การกระทำท่าทางทุกอย่างล้วนสง่างาม แฝงด้วยไปกลิ่นอายข่มขวัญกดดันผู้คน แม้แต่ฮูหยินนายอำเภอที่นางเคยได้เห็นไกลๆ ก็ยังไม่อาจเทียบได้“เจ้าต้องการอะไร” แม่

    Huling Na-update : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 13

    เยว่อวิ๋นมองตามหลังแม่สามีที่เดินจากไปจนลับตา จึงไม่พลาดสีหน้าท่าทางทั้งหมดของอีกฝ่าย ทว่านางไม่คิดแยแสแต่อย่างใด คนอย่างแม่เฒ่าเซี่ยยิ่งอ่อนข้อให้ก็มีแต่จะยิ่งได้ใจเท่านั้นร่างบางหันหลังเดินกลับมุ่งหน้าไปยังห้องนอนที่สามพ่อลูกอยู่ หากรอพวกเขาจนปรึกษากันเสร็จ เงินนี่คงถูกเรียกร้องขอคืนเป็นแน่ เพราะ

    Huling Na-update : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 14

    เยว่อวิ๋นไม่ล่วงรู้ถึงความสงสัยของเซี่ยฉงอวิ๋นเลยแม้แต่น้อยและแน่นอนว่าถึงรู้นางก็ไม่ใส่ใจอยู่ดี ชีวิตก่อนนางเป็นแม่ทัพนำทหารออกรบ พอจบศึกก็เป็นหมอรักษาผู้ใต้บังคับบัญชา ได้เห็นร่างกายบุรุษมานับไม่ถ้วน สูงต่ำดำขาวแบบใดก็ล้วนมีทั้งสิ้นผู้เป็นหมอต้องมีใจเมตตา รักษาคนไม่แบ่งแยกชายหญิง ยิ่งไม่ต้องพูดถ

    Huling Na-update : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 15

    ถึงจะคิดว่าอีกฝ่ายจะดูแปลกๆ แต่ในใจหมอจางก็มีความรู้สึกดีให้เยว่อวิ๋นมากว่าพวกแม่เฒ่าเซี่ยมากนัก เขากวาดสายตามองเซี่ยฉงอวิ๋นที่อยู่บนเตียง แล้วพยักหน้าพึงพอใจ แม้เสื้อผ้าจะดูเก่าซีดใบหน้ามีหนวดเครารุงรัง ทว่าเนื้อตัวสะอาดสะอ้านไม่มีกลิ่นเหม็น สภาพดูดีกว่าครั้งก่อนที่ได้เห็นนับว่าไม่เลวเลย“ตกลง ไม่ต

    Huling Na-update : 2025-04-04

Pinakabagong kabanata

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 120

    หลังผ่านเหตุการณ์ปิดประตูทุบตีคน เยว่อวิ๋นก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมตามปกติคล้ายลืมเลือนไปแล้วว่ามีเรื่องนี้อยู่ จนกระทั่งเซี่ยฉงอวิ๋นเอ่ยถามขึ้นระหว่างกินอาหาร“บ้านเดิมเจ้าไม่มาแล้วหรือ” คิดถึงการสนทนาของนางกับคนสกุลเยว่ที่บุตรชายถ่ายทอดให้ฟัง ดวงตาของเซี่ยฉงอวิ๋นก็ดำมืดขึ้นหลายส่วน“อืม” เยว่อวิ๋

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 119

    “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ดีแล้ว” แม่เฒ่าเยว่ขมวดคิ้วครุ่นคิดหนักขนาดเซี่ยฉงอวิ๋นป่วยล้มหมอนนอนเสื่อเป็นคนไร้ประโยชน์ นางเด็กนั่นยังหยิ่งผยองไม่สนใจทางบ้านเดิมเช่นนี้ แล้วถ้าสามีนางได้เป็นซิ่วไฉหรือขุนนางขึ้นมาจริงๆ นางจะไม่ลอยขึ้นฟ้าจนมองไม่เห็นศีรษะใครเลยอย่างนั้นหรือ“ฟังจากที่พวกเจ้าเล่ามา ในใจเด็กนั่น

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 118

    ทว่าสิ่งที่นางได้รับเล่า...ถูกผู้ที่ได้ชื่อว่าครอบครัวบีบคั้นส่งนางออกมาแค่เพื่อสินสอดไม่กี่ตำลึงเท่านั้น และในยามที่นางขัดขืนดิ้นรนร้องขอความเมตตา คนเป็นแม่กลับทำเพียงทอดสายตามองด้วยใบหน้าเฉยเมย คิดถึงตรงนี้เยว่อวิ๋นพลันรู้สึกแสบร้อนโพรงจมูกอย่างบอกไม่ถูก“หลิวซื่อ ตัวเจ้าเองรู้ดีที่สุด ว่าบุตรสาว

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 117

    “ไม่ได้ทำอะไรงั้นหรือ พวกเจ้ามาถึงก็อ้างความกตัญญูเรียกร้องให้ข้ามอบสิ่งของให้ พอข้าไม่ยอมก็คิดจะทำร้ายข้า นี่ยังเรียกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกหรือ” เยว่อวิ๋นเอียงคอถามน้ำเสียงจริงจัง“แล้วจะทำไม ในเมื่อบ้านเราเลี้ยงดูเจ้ามาตั้งหลายสิบปี จะให้เจ้าแสดงความกตัญญูบ้างมันผิดตรงไหน อย่าลืมนะว่าถ้าไม่ใช่เพราะท่า

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 116

    แม่เฒ่าเยว่ฟังแล้วหยุดหอบหายใจ นางไม่ได้เอะอะโวยวายต่ออีก เรื่องที่จางซื่อยังคิดออกมีหรือนางจะคิดไม่ได้ “ช่างเถอะๆ พรุ่งนี้เจ้าก็พาสะใภ้รองไปหมู่บ้านเซี่ย บอกเด็กนั่นว่าข้าล้มป่วยคิดถึงต้องการให้นางกลับมาเยี่ยม”พูดจบแม่เฒ่าเยว่กับจางชุ่ยก็สบสายตากันอย่างมีเลศนัย ผู้อาวุโสไม่สบายถ้าไม่อยากถูกตราหน้า

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 115

    “สะใภ้ใหญ่ที่เจ้าเล่ามาเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ” แม่เฒ่าเยว่ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เนื่องจากรู้นิสัยชอบพูดใส่สีตีไข่ของลูกสะใภ้คนโตดี“จริงสิเจ้าคะ ถ้าท่านแม่ไม่เชื่อจะไปถามอาฮัวดูก็ได้ นางมาเล่าให้ข้าฟังว่านางเป็นคนเห็นกับตาเลย” จางชุ่ยยืนยันหนักแน่น ในดวงตายังฉายแววอิจฉาไม่หาย“อาฮัวเล่าว

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 114

    ในใจเจ้าของร่างมีสองสิ่งที่ยังมิอาจปล่อยวาง หนึ่งคือบุตรฝาแฝดที่ยังเล็ก สองคือความเสียดายแกมริษยาน้องชายที่ได้ร่ำเรียน เขาปรารถนาจะร่ำเรียนฝากชื่อให้คนทั่วหล้าได้รู้จัก ได้รับราชการเป็นขุนนางที่นำพาเกียรติยศมาสู่วงศ์ตระกูลในยามที่เซี่ยฉงอวิ๋นวิญญาณหลุดลอยมาเข้าร่าง จึงได้เอ่ยคำมั่นให้สัญญาว่าจะทำสอ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 113

    การปะทะกันระหว่างสะใภ้ครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของอู่ซื่อ เนื่องจากรู้ดีว่าเป็นตัวเองที่ไร้เหตุผลก่อน ยามพ่อสามีกลับมากินอาหารเย็น อู่ซื่อจึงไม่ได้รื้อฟื้นเรื่องราวขึ้นมาอีกแต่อย่างใดเพียงแต่อู่ซื่อไม่เอ่ยถึง ไม่ได้หมายความว่าเจินซื่อจะปล่อยผ่าน พวกนางสะใภ้ทั้งสามล้วนทำหน้าที่ของตัวอย่างเต็มกำลัง

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 112

    หลานชายหายดีอนาคตเขาลงไปแดนน้ำพุเหลืองก็สามารถสู้หน้าน้องชายที่ตายไปได้แล้วได้คำตอบที่ต้องการแล้ว เซี่ยเหล่าซานกับผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้รั้งอยู่ต่อ เยว่อวิ๋นนำใบยาสูบและแบ่งใบชาหลงจิ่งที่ซื้อมาให้เซี่ยฉงอวิ๋นให้แก่ลุงสามกับผู้ใหญ่บ้าน เดิมนางต้องการจ่ายค่าจ้างให้สองสามีภรรยาเซี่ยหู่ชิงหลัว ทว่าทั้งคู่

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status