Share

บทที่ 11

รอยยิ้มกลบเกลื่อนของเยว่อวิ๋นไม่นับว่าแนบเนียน แต่ตัวเซี่ยฉงอวิ๋นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ทั้งคู่จึงไม่ทันมองออกถึงความในใจที่ต่างคนก็ต่างซ่อนเก็บไว้

“นี่มันอะไรกัน ทำไมข้าวสารกับไข่ถึงได้เหลือแค่นี้!”

เสียงร้องตะโกนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เยว่อวิ๋นราวกับได้ย้อนไปวันแรกที่นางฟื้นมาในร่างนี้แล้วมียายแก่แซ่เยว่นั่งก่นด่าอยู่ข้างหูอย่างไรอย่างนั้น

หญิงสาวเหลือบมองไปทางด้านนอกประตู ก่อนจะค่อยๆ ประคองร่างบนเตียงให้เอนลงนอน “เจ้านอนพักไปก่อน รอข้าจัดการธุระแล้วจะมาเช็ดตัวให้”

นางกล่าวด้วยท่าทีเฉยเมย ทว่าเซี่ยฉงอวิ๋นกลับรู้สึกหน้าร้อนผ่าว ต่อให้นางเป็นภรรยาที่แต่งเข้ามา เขาก็รู้สึกไม่คุ้นชินอยู่ดี แต่ยังไม่ทันเอ่ยปฏิเสธผู้พูดก็ก้าวเท้าหายลับออกจากห้องไปแล้ว

เยว่อวิ๋นได้ยินเสียงเมื่อครู่ ก็พอนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องครัว นางแค่ดูจากร่างกายของเด็กๆ กับเซี่ยฉงอวิ๋น ก็พอคาดเดาได้แล้วว่าในยามปกติพวกเขาคงไม่ได้กินอิ่มท้องกันนัก โดยเฉพาะเด็กน้อยเสี่ยวอวี้

นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ในยุคสมัยที่นางจากมา ผู้คนก็มักให้ความสำคัญกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเช่นกัน ตัวยายเฒ่าเซี่ยเองก็ดูไม่ใช่ผู้อาวุโสที่เที่ยงธรรมอันใด นางมาเห็นเจ้าเด็กเสี่ยวอวี้กินข้าวเยอะขนาดนั้น ไม่แหกปากร้องโวยวายก็คงเสียชื่อแย่

เมื่อเยว่อวิ๋นมาถึงห้องครัว เหตุการณ์ด้านในก็ไม่ผิดจากที่นางคาดการณ์เอาไว้สักนิด หญิงสาวมองต้าเป่าที่พยายามกางแขนป้องกันน้องสาวไปพลาง ขอร้องหญิงชราผู้เป็นย่าไปพลาง ในแววตาพลันปรากฏโทสะลุกโชน

“นี่แน่ะ! ตัวขาดทุน ตัวล้างผลาญ เลี้ยงพวกเจ้าไปก็ไร้ประโยชน์ ตีเสียให้ตาย ตีเสียให้ตาย” แม่เฒ่าเซี่ยทั้งปวดใจ ทั้งโมโห ไม้ในมือขยับฟาดไม่ยั้งแรง

เยวอวิ๋นมองแขนขาเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยรอยยาวแล้วขบกรามกรอด หากไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นแม่สามี นางคงเดินเข้าไปถีบอกเข้าให้แล้ว

“เอะอะโวยวายเสียงดังอะไรกัน” เสียงเย็นเยียบดุจธารน้ำในฤดูหนาวดังขึ้น ต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ประหนึ่งพบเจอที่หลบภัย พากันวิ่งหนีมาซ่อนด้านหลังผู้มาใหม่ทันที

“อะไรกัน ข้าเพิ่งแต่งเข้าบ้านสกุลเซี่ยเมื่อวาน วันนี้ท่านแม่ก็มากรีดร้องทุบตีคนเสียแล้ว นี่ท่านแม่ต้องการจะแสดงความไม่พอใจต่อสะใภ้คนนี้อย่างงั้นหรือ”

เยว่อวิ๋นวางชามในมือลง มองสองพี่น้องที่สภาพทุลักทุเลด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไม่รู้ว่าเด็กสองคนนี้ทำสิ่งใดผิด ท่านถึงได้ลงไม้ลงมือรุนแรงขนาดนี้”

แม่เฒ่าเซี่ยอายุอานามไม่น้อยแล้ว นางเดินจากบ้านมากระท่อมก็ใช้เรี่ยวแรงไปไม่น้อย ทั้งมาถึงยังไม่ทันพักก็ออกแรงตีเด็กสองคนไปอีกยกหนึ่ง ตอนนี้จึงเหนื่อยหอบเสียจนพูดไม่ออก ได้แต่ยืนถลึงตาใส่เยว่อวิ๋นอยู่เป็นนาน

เยว่อวิ๋นเองก็ดูออก นางฉวยจังหวะนี้กล่าวคำพูดยืดยาว “ท่านแม่ ข้าเองก็ไม่อยากจะพูดมากหรอกนะ แต่ท่านทำแบบนี้มิใช่ว่าจงใจหักหน้าข้าหรอกหรือ ข้าเพิ่งแต่งเข้าบ้านท่านวันที่สอง ท่านก็บุกเข้ามาทุบตีลูกเลี้ยงของข้าเสียแล้ว ถ้าหากพวกเขามีบาดเจ็บหรือมีบาดแผลขึ้นมา ผู้อื่นเห็นเข้า ใครบ้างจะไม่นึกว่าเป็นฝีมือข้า ท่านแม่ ท่านต้องการใช้วิธีนี้บีบให้ข้าหย่าร้างกลับบ้านเดิมใช่หรือไม่ นี่มันจะรังแกกันเกินไปแล้วกระมัง ท่านเห็นว่าข้าเยว่อวิ๋นอยู่หมู่บ้านนี้ตัวคนเดียวจึงจงใจกลั่นแกล้งสินะ”

แม่เฒ่าเซี่ยที่พยายามหายใจเข้าออกพลันมีอาการสำลักไอโขลกอีกครั้ง นางแค่รู้สึกปวดใจกับข้าวสารและไข่ที่หายไปจนลืมตัว ตีสั่งสอนลูกหลานไปไม่กี่ที ไฉนกลายเป็นการกลั่นแกล้งรังแกบีบคั้นลูกสะใภ้ใหม่ไปได้เล่า

“จะ…เจ้า! ใครคิดบีบคั้นให้เจ้าหย่ากัน ถุยๆ อย่ามาพูดมั่วๆ นะ” เสียสินสอดไปแล้ว ปล่อยคนไปจะไม่ยิ่งขาดทุนรึ นางเด็กนี่จงใจหาเรื่อง หรือยายเฒ่าบ้านเยว่จะสอนให้นางทำแบบนี้กัน ต้องใช่แน่ๆ ยายแก่น่าตายนั่นคงคิดละสิ ว่าหากนางเด็กนี่ทำให้ตนไล่ออกกลับไป จะได้จับนางแต่งกับผู้อื่นเพื่อเอาสินสอดอีก

“ฝันไปเถอะ! เจ้าแต่งให้ลูกชายข้าแล้ว อย่าหวังว่าจะได้หย่า จำเอาไว้ว่าอนาคตเจ้าเป็นคนของสกุลเซี่ย ถึงตายก็ต้องเป็นผีสกุลเซี่ย!” แม่เฒ่าเซี่ยประกาศลั่น

แน่นอนว่าเยว่อวิ๋นย่อมไม่ได้คิดจะหย่าร้างเพื่อกลับบ้านเดิมให้ครอบครัวขายอีกจริงๆ นางเพียงแค่ต้องการแต้มต่อในการเจรจาเรื่องต่อจากนี้ และเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจอีกฝ่ายจากเจ้าหัวไชเท้าแฝดนี่ก็เท่านั้น

“ต้าเป่า เจ้ากับน้องช่วยไปดูแลท่านพ่อแทนข้าที ได้มั้ย”

“ขอรับ เสี่ยวอวี้ไปกันเถอะ” ต้าเป่ารับคำดวงตาเป็นประกาย ฉุดมือน้องสาววิ่งจากไปทันที ในใจนึกเลื่อมใสอย่างที่สุด มารดาเลี้ยงพูดไม่กี่ประโยค ก็สามารถทำให้ท่านย่าหยุดการกระทำพูดไม่ออกแล้ว สุดยอดมาก

ส่งเด็กๆ ออกไปหาบิดาเสร็จ เยว่อวิ๋นก็หันมาทางแม่สามี เห็นดวงตาคมกริบตวัดมองมาที่ตน แม่เฒ่าเซี่ยพลันประหม่าจนเผลอก้าวถอย

“อะ อะไร” สะใภ้รองผู้นี้อายุแค่สิบกว่าปี แต่มีบรรยากาศกดดัน จนนางไม่กล้าสบตา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า ทำไม! ลูกหลานทำความผิด ข้าผู้อาวุโสสั่งสอนไม่ได้หรือ เจ้าทำแบบนี้คิดจะต่อต้านงั้นรึ”

“ท่านแม่ ข้าวสารกับไข่ล้วนเป็นข้าที่นำมาทำอาหาร และก็เป็นข้าอีกที่อนุญาตให้พวกเขากิน เด็กๆ กินอาหารที่ข้าทำจึงมีความผิด เช่นนี้ท่านยังกล้าบอกว่าไม่เกี่ยวกับข้าอีกหรือ”

“เจ้าเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ รู้หรือไม่ ว่าข้าวสารถุงนี้ปกติกินได้เป็นสิบมื้อด้วยซ้ำ แต่เจ้ากลับกินหมดครึ่งหนึ่งในมื้อเดียว ไหนจะไข่อีก ตัวล้างผลาญ ตัวล้างผลาญจริงๆ เจ้าคิดว่าอาหารเหล่านี้หล่นมาจากฟ้าหรืออย่างไร” แม่เฒ่าเซี่ยปวดใจจนเอามือกุมอก นางก่นด่าด้วยน้ำเสียงคับแค้นที่ไม่สามารถผ่าท้องอีกฝ่ายเอาของเหล่านั้นกลับคืนมาได้

เยว่อวิ๋นกลอกตามองบน สิบมื้อ! มิน่าเล่า สภาพเซี่ยฉงอวิ๋นกับเจ้าไชเท้าน้อยถึงได้ไม่ต่างจากโครงกระดูกหุ้มหนังมนุษย์ ขออภัยหากรู้แล้วต้องอดอยากจนมีสภาพแบบสามพ่อลูก นางขอไม่รู้ต่อไปจะดีกว่า

“ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้เลยว่าการกินอาหารให้อิ่มจะมีความผิดถึงขนาดนี้ และข้าก็ไม่รู้ด้วยว่าตัวเองต้องแต่งให้กับสามีที่พิการและตาบอดเช่นนี้ อ่อ…ท่านแม่ แล้วท่านเล่า รู้หรือไม่”

เยว่อวิ๋นมั่นใจว่าบ้านเซี่ยไม่ได้บอกอาการของเซี่ยฉงอวิ๋นกับแม่เฒ่าเยว่ตามความจริงเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นยายแก่สารพัดพิษแซ่เยว่นั่นมีรึจะพลาดโอกาสรีดไถตำลึงงามๆ แบบนี้

“แม่สามี ท่านว่าการกระทำพวกนี้ถือเป็นการหลอกลวงแต่งงานหรือไม่ เอ…แบบนี้ ถ้าหากข้าไปฟ้องร้องกับทางการ ท่านว่าคนทำจะมีโทษหรือไม่เจ้าคะ”

เห็นแม่เฒ่าเซี่ยแสดงสีหน้าดุจคนโดนผีหลอก เยว่อวิ๋นก็อารมณ์ดีขึ้นมาอีกหลายส่วน นางเผยอรอยยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง

“อันที่จริงถึงจะมี โทษนี้ก็คงไม่หนักมาก เพียงแต่ว่า…”

“เพียงแต่ว่าอะไร!” แม่เฒ่าเซี่ยนึกเกลียดประโยคลากยาวนี้เหลือเกิน นางเป็นชาวบ้านธรรมดาย่อมมีความหวาดเกรงทางการซึมลึกอยู่ในกระดูก ยามนี้นางได้แต่นึกสาปแช่งตัวเองที่อยู่ดีไม่ว่าดี ดันคิดวางแผนแต่งเยว่อวิ๋นให้บุตรชายคนรอง

“เพียงแต่ว่ามันจะมีผลกระทบยังไงล่ะเจ้าคะ” แม้จะรู้จักแม่สามีมาผ่านคำนินทา ทว่าเยว่อวิ๋นที่เป็นอดีตแม่ทัพผู้บัญชาการรบกลับเข้าใจความคิดและลักษณะนิสัยรวมถึงจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้กระจ่างยิ่ง

“ผลกระทบที่สำคัญมากสำหรับคนที่คิดจะรับราชการก็คือชื่อเสียง” ยายเฒ่านี่หวังฝากอนาคตไว้กับบุตรชายคนที่สาม มีหรือจะยอมเสี่ยง “หากคนใกล้ชิดทำความผิดจนต้องคดีความ คนผู้นั้นจะยังรับราชการอยู่ได้หรือเจ้าคะ มีมารดาเป็นคนต้องโทษนี้ชื่อเสียงเขาย่อมตกต่ำ ถูกผู้คนก่นด่ากล่าวประณาม แล้วคนเช่นนี้จะเป็นขุนนางภายใต้รัชสมัยของโอรสสวรรค์ได้อย่างไร แม่สามี ท่านว่าจริงไหมเจ้าคะ”

เซี่ยฉงอวิ๋นไม่ใช่แค่พิการแต่ยังตาบอดเป็นเพียงภาระบวกกับบ่อน้ำที่ไร้ก้น เซี่ยซื่อจึงต้องการแต่งนางมาแบกรับภาระแทน อีกฝ่ายจึงวางแผนใช้สินสอดเล็กน้อยกับข้าวสารไม่กี่จินเพื่อเตะส่งพวกเขาสามพ่อลูก

อันที่จริงนางไม่ขัดหากอีกฝ่ายจะสลัดคนทิ้งไว้ให้นาง เพียงแต่จะให้เสียเปรียบเปล่าๆ นางก็ไม่อยากเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นก่อนจากก็ขอขูดเลือดอีกฝ่ายติดไปด้วยละกัน

แยกบ้านงั้นหรือ… ฮึ! ก็แยกสิ!
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 12

    นี่ใช่นางเด็กบ้านเยว่ที่ตนเคยเจอจริงน่ะหรือแม่เฒ่าเซี่ยเบิกตากว้างมองคนตรงหน้า อีกฝ่ายไม่เหมือนเดิมเลยแม้แต่น้อย คำพูดที่ฉาดฉานแสดงออกถึงความมั่นใจ การกระทำท่าทางทุกอย่างล้วนสง่างาม แฝงด้วยไปกลิ่นอายข่มขวัญกดดันผู้คน แม้แต่ฮูหยินนายอำเภอที่นางเคยได้เห็นไกลๆ ก็ยังไม่อาจเทียบได้“เจ้าต้องการอะไร” แม่

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 13

    เยว่อวิ๋นมองตามหลังแม่สามีที่เดินจากไปจนลับตา จึงไม่พลาดสีหน้าท่าทางทั้งหมดของอีกฝ่าย ทว่านางไม่คิดแยแสแต่อย่างใด คนอย่างแม่เฒ่าเซี่ยยิ่งอ่อนข้อให้ก็มีแต่จะยิ่งได้ใจเท่านั้นร่างบางหันหลังเดินกลับมุ่งหน้าไปยังห้องนอนที่สามพ่อลูกอยู่ หากรอพวกเขาจนปรึกษากันเสร็จ เงินนี่คงถูกเรียกร้องขอคืนเป็นแน่ เพราะ

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 14

    เยว่อวิ๋นไม่ล่วงรู้ถึงความสงสัยของเซี่ยฉงอวิ๋นเลยแม้แต่น้อยและแน่นอนว่าถึงรู้นางก็ไม่ใส่ใจอยู่ดี ชีวิตก่อนนางเป็นแม่ทัพนำทหารออกรบ พอจบศึกก็เป็นหมอรักษาผู้ใต้บังคับบัญชา ได้เห็นร่างกายบุรุษมานับไม่ถ้วน สูงต่ำดำขาวแบบใดก็ล้วนมีทั้งสิ้นผู้เป็นหมอต้องมีใจเมตตา รักษาคนไม่แบ่งแยกชายหญิง ยิ่งไม่ต้องพูดถ

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 15

    ถึงจะคิดว่าอีกฝ่ายจะดูแปลกๆ แต่ในใจหมอจางก็มีความรู้สึกดีให้เยว่อวิ๋นมากว่าพวกแม่เฒ่าเซี่ยมากนัก เขากวาดสายตามองเซี่ยฉงอวิ๋นที่อยู่บนเตียง แล้วพยักหน้าพึงพอใจ แม้เสื้อผ้าจะดูเก่าซีดใบหน้ามีหนวดเครารุงรัง ทว่าเนื้อตัวสะอาดสะอ้านไม่มีกลิ่นเหม็น สภาพดูดีกว่าครั้งก่อนที่ได้เห็นนับว่าไม่เลวเลย“ตกลง ไม่ต

    Last Updated : 2025-04-04
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 16

    เยว่อวิ๋นยังไม่ทันกล่าวคำพูด ก็มีเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นเสียก่อน เมื่อหันไปมองที่มาของเสียงก็เห็นแม่เฒ่าเซี่ยเดินนำหน้าคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาคนกลุ่มนั้นประกอบไปด้วยบุรุษสองคนสตรีสองนาง สองในสี่นั้นนางพอรู้จักคุ้นหน้าอยู่บ้าง เพราะเคยพบอีกฝ่ายเมื่อวันส่งตัวเจ้าสาว เป็นเซี่ยจินกับอู๋ซื่อพี่สะใภ้ใหญ่ของนางนั

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 17

    อู๋ซื่อหันหน้ามาตามเสียงคำราม ทว่าสายตาเห็นเพียงเงาร่างพร่าเลือน จากนั้นก็ถูกแรงปะทะจนลอยละลิ่วไปปะทะผนังบ้านด้านหลังเสียงดังโครม“โอ๊ย!”แม่เฒ่าซี่ยเพิ่งตั้งหลักขยับลุกจากตัวบุตรสาวได้ เดิมคิดฉวยโอกาสนี้ตบสั่งสอนสะใภ้ของตนสักหลายฉาด ทว่ายามเห็นร่างอวบอ้วนของอู๋ซื่อถูกถีบกระเด็นไปกระแทกผนังบ้านแล้วท

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 18

    เสียงของเยว่อวิ๋นไม่ได้เบานัก ภายในบ้านที่คับแคบจึงได้ยินกันโดยทั่ว สี่คนที่กำลังถูกเปรียบเปรยเป็นสุนัขมีใบหน้าแดงก่ำ ส่วนแม่เฒ่าเซี่ยนั้นทั้งแดงทั้งดำสลับกันจนดูน่าขันที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากแม่เฒ่าเซี่ยไม่มั่นใจ ว่าประโยคเมื่อครู่ของเยว่อวิ๋นหมายถึงลูกๆ ของนาง หรือกล่าวเหมารวมไปถึงตัวนางเองด้วย เพ

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 19

    เซี่ยเหล่าซานมองภาพมารดากับบุตรกอดกันด้วยความพอใจ ดูเหมือนว่าภรรยาเจ้ารองจะไม่ใช่สตรีจำพวกเดียวกับเซี่ยซื่อ นี่ถือว่าเป็นเรื่องดี“แต่เรื่องพวกนี้ตัวข้าเองก็ไม่ได้ถือสา” เยว่อวิ๋นกอดเจ้าไชเท้าน้อย พลางลูบคลำตรวจดูรอยปูดด้านหลังศีรษะอีกฝ่าย ขณะกล่าวต่อ “ทว่าวันนี้แม่สามีมาแต่เช้า พอนางพบว่าข้าต้มข้าว

    Last Updated : 2025-04-07

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 120

    หลังผ่านเหตุการณ์ปิดประตูทุบตีคน เยว่อวิ๋นก็กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมตามปกติคล้ายลืมเลือนไปแล้วว่ามีเรื่องนี้อยู่ จนกระทั่งเซี่ยฉงอวิ๋นเอ่ยถามขึ้นระหว่างกินอาหาร“บ้านเดิมเจ้าไม่มาแล้วหรือ” คิดถึงการสนทนาของนางกับคนสกุลเยว่ที่บุตรชายถ่ายทอดให้ฟัง ดวงตาของเซี่ยฉงอวิ๋นก็ดำมืดขึ้นหลายส่วน“อืม” เยว่อวิ๋

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 119

    “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ดีแล้ว” แม่เฒ่าเยว่ขมวดคิ้วครุ่นคิดหนักขนาดเซี่ยฉงอวิ๋นป่วยล้มหมอนนอนเสื่อเป็นคนไร้ประโยชน์ นางเด็กนั่นยังหยิ่งผยองไม่สนใจทางบ้านเดิมเช่นนี้ แล้วถ้าสามีนางได้เป็นซิ่วไฉหรือขุนนางขึ้นมาจริงๆ นางจะไม่ลอยขึ้นฟ้าจนมองไม่เห็นศีรษะใครเลยอย่างนั้นหรือ“ฟังจากที่พวกเจ้าเล่ามา ในใจเด็กนั่น

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 118

    ทว่าสิ่งที่นางได้รับเล่า...ถูกผู้ที่ได้ชื่อว่าครอบครัวบีบคั้นส่งนางออกมาแค่เพื่อสินสอดไม่กี่ตำลึงเท่านั้น และในยามที่นางขัดขืนดิ้นรนร้องขอความเมตตา คนเป็นแม่กลับทำเพียงทอดสายตามองด้วยใบหน้าเฉยเมย คิดถึงตรงนี้เยว่อวิ๋นพลันรู้สึกแสบร้อนโพรงจมูกอย่างบอกไม่ถูก“หลิวซื่อ ตัวเจ้าเองรู้ดีที่สุด ว่าบุตรสาว

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 117

    “ไม่ได้ทำอะไรงั้นหรือ พวกเจ้ามาถึงก็อ้างความกตัญญูเรียกร้องให้ข้ามอบสิ่งของให้ พอข้าไม่ยอมก็คิดจะทำร้ายข้า นี่ยังเรียกว่าไม่ได้ทำอะไรอีกหรือ” เยว่อวิ๋นเอียงคอถามน้ำเสียงจริงจัง“แล้วจะทำไม ในเมื่อบ้านเราเลี้ยงดูเจ้ามาตั้งหลายสิบปี จะให้เจ้าแสดงความกตัญญูบ้างมันผิดตรงไหน อย่าลืมนะว่าถ้าไม่ใช่เพราะท่า

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 116

    แม่เฒ่าเยว่ฟังแล้วหยุดหอบหายใจ นางไม่ได้เอะอะโวยวายต่ออีก เรื่องที่จางซื่อยังคิดออกมีหรือนางจะคิดไม่ได้ “ช่างเถอะๆ พรุ่งนี้เจ้าก็พาสะใภ้รองไปหมู่บ้านเซี่ย บอกเด็กนั่นว่าข้าล้มป่วยคิดถึงต้องการให้นางกลับมาเยี่ยม”พูดจบแม่เฒ่าเยว่กับจางชุ่ยก็สบสายตากันอย่างมีเลศนัย ผู้อาวุโสไม่สบายถ้าไม่อยากถูกตราหน้า

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 115

    “สะใภ้ใหญ่ที่เจ้าเล่ามาเป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ” แม่เฒ่าเยว่ถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ เนื่องจากรู้นิสัยชอบพูดใส่สีตีไข่ของลูกสะใภ้คนโตดี“จริงสิเจ้าคะ ถ้าท่านแม่ไม่เชื่อจะไปถามอาฮัวดูก็ได้ นางมาเล่าให้ข้าฟังว่านางเป็นคนเห็นกับตาเลย” จางชุ่ยยืนยันหนักแน่น ในดวงตายังฉายแววอิจฉาไม่หาย“อาฮัวเล่าว

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 114

    ในใจเจ้าของร่างมีสองสิ่งที่ยังมิอาจปล่อยวาง หนึ่งคือบุตรฝาแฝดที่ยังเล็ก สองคือความเสียดายแกมริษยาน้องชายที่ได้ร่ำเรียน เขาปรารถนาจะร่ำเรียนฝากชื่อให้คนทั่วหล้าได้รู้จัก ได้รับราชการเป็นขุนนางที่นำพาเกียรติยศมาสู่วงศ์ตระกูลในยามที่เซี่ยฉงอวิ๋นวิญญาณหลุดลอยมาเข้าร่าง จึงได้เอ่ยคำมั่นให้สัญญาว่าจะทำสอ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 113

    การปะทะกันระหว่างสะใภ้ครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของอู่ซื่อ เนื่องจากรู้ดีว่าเป็นตัวเองที่ไร้เหตุผลก่อน ยามพ่อสามีกลับมากินอาหารเย็น อู่ซื่อจึงไม่ได้รื้อฟื้นเรื่องราวขึ้นมาอีกแต่อย่างใดเพียงแต่อู่ซื่อไม่เอ่ยถึง ไม่ได้หมายความว่าเจินซื่อจะปล่อยผ่าน พวกนางสะใภ้ทั้งสามล้วนทำหน้าที่ของตัวอย่างเต็มกำลัง

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   บทที่ 112

    หลานชายหายดีอนาคตเขาลงไปแดนน้ำพุเหลืองก็สามารถสู้หน้าน้องชายที่ตายไปได้แล้วได้คำตอบที่ต้องการแล้ว เซี่ยเหล่าซานกับผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้รั้งอยู่ต่อ เยว่อวิ๋นนำใบยาสูบและแบ่งใบชาหลงจิ่งที่ซื้อมาให้เซี่ยฉงอวิ๋นให้แก่ลุงสามกับผู้ใหญ่บ้าน เดิมนางต้องการจ่ายค่าจ้างให้สองสามีภรรยาเซี่ยหู่ชิงหลัว ทว่าทั้งคู่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status