Home / รักโบราณ / ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม / ลูกพลับนิ่มในอดีตได้กลายไปเป็นก้อนหินเสียแล้ว (3)

Share

ลูกพลับนิ่มในอดีตได้กลายไปเป็นก้อนหินเสียแล้ว (3)

เยว่อวิ๋นยังไม่ทันกล่าวคำพูด ก็มีเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นเสียก่อน เมื่อหันไปมองที่มาของเสียงก็เห็นแม่เฒ่าเซี่ยเดินนำหน้าคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา

คนกลุ่มนั้นประกอบไปด้วยบุรุษสองคนสตรีสองนาง สองในสี่นั้นนางพอรู้จักคุ้นหน้าอยู่บ้าง เพราะเคยพบอีกฝ่ายเมื่อวันส่งตัวเจ้าสาว เป็นเซี่ยจินกับอู๋ซื่อพี่สะใภ้ใหญ่ของนางนั่นเอง

ส่วนชายหญิงอีกคู่แลดูมีอายุน้อยกว่า บุรุษมีรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าคมคาย ทว่าดวงตาเรียวเต็มไปแววกลิ้งกลอกมองดูแล้วชวนให้ไม่น่าคบหา ส่วนสตรียิ่งแล้วใหญ่ดวงตามองสูงจมูกแทบชี้ฟ้า ต่อให้รูปร่างหน้าตาหมดจดงดงามก็ไม่เจริญตา เยว่อวิ๋นนึกถึงคำพูดของต้าเป่าเมื่อเช้า พอจะเดาออกทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

แม่เฒ่าเซี่ยมีบุตรสี่คน เป็นชายสามหญิงหนึ่ง คนโตเซี่ยจิน คนรองเซี่ยฉงอวิ๋น คนที่สามเซี่ยหยวนชาง และคนสุดท้ายคือเซี่ยหว่านหรูนั่นเอง

ไม่ต้องสงสัย สองคนที่นางไม่เคยพบหน้ามาคู่นี้ คงไม่แคล้วเป็นเซี่ยหยวนชางกับเซี่ยหว่านหรูนั่นเอง

เจ้าเด็กน้อยเสี่ยวอวี้เป็นเด็กช่างพูด นางใช้คำเจรจาเจื้อยแจ้วกล่าวถึงอาสามกับอาหญิงเล็กของตน ว่าเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในบ้าน

เนื่องจากอาสามต้องเรียนหนังสือเพื่อสอบซิ่วไฉจึงไม่ต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ลูกพลับนิ่มในอดีตได้กลายเป็นก้อนหินไปเสียแล้ว (4)

    อู๋ซื่อหันหน้ามาตามเสียงคำราม ทว่าสายตาเห็นเพียงเงาร่างพร่าเลือน จากนั้นก็ถูกแรงปะทะจนลอยละลิ่วไปปะทะผนังบ้านด้านหลังเสียงดังโครม“โอ๊ย!”แม่เฒ่าซี่ยเพิ่งตั้งหลักขยับลุกจากตัวบุตรสาวได้ เดิมคิดฉวยโอกาสนี้ตบสั่งสอนสะใภ้ของตนสักหลายฉาด ทว่ายามเห็นร่างอวบอ้วนของอู๋ซื่อถูกถีบกระเด็นไปกระแทกผนังบ้านแล้วทรุดกองบนพื้นไม่ขยับเขยื้อน ความคิดนี้ของแม่เฒ่าเซี่ยก็ถูกแช่แข็งในทันทีเช่นเดียวกับมารดาพวกเขา เซี่ยจินกับเซี่ยหยวนชางเองก็ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะเซี่ยจิน ยามนี้เขาชักไม่มั่นใจแล้วว่าเมื่อครู่ตนล้มลงไปเองจริงๆแม่เฒ่าเซี่ยกับบุตรชายรีบหยุดมืออย่างมีสติ ทว่าเซี่ยหว่านหรูกลับไม่ใช่ นางถูกมารดาล้มทับเพิ่งลุกจากพื้นได้ จึงพลาดที่จะเห็นฉากตัวลอยของอู๋ซื่อเหมือนคนอื่นๆ ความโมโหทำให้นางลืมตัวไปชั่วขณะ เปิดปากด่าทอเยว่อวิ๋นชนิดหนึ่งประโยคไม่มีซ้ำ“นางคนชั้นต่ำน่ารังเกียจ ทำอะไรของเจ้ากัน มิน่าเล่าบ้านเยว่ถึงได้เร่งรีบส่งตัวหายนะอย่างเจ้าออกมานัก ที่แท้ก็เป็นตัวอัปมงคล ไปที่ไหนก็นำพาแต่ความโชคร้าย” ความเจ็บปวดที่ก้นกระแทกพื้น ทำให้เซี่ยหว่านหรูยิ่งไม่พอใจในตัวพี่สะใภ้รองคนนี้มากกว่าเดิม ด่าเสร็จก็กางเล

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ลูกพลับนิ่มในอดีตได้กลายเป็นก้อนหินไปเสียแล้ว (5)

    เสียงของเยว่อวิ๋นไม่ได้เบานัก ภายในบ้านที่คับแคบจึงได้ยินกันโดยทั่ว สี่คนที่กำลังถูกเปรียบเปรยเป็นสุนัขมีใบหน้าแดงก่ำ ส่วนแม่เฒ่าเซี่ยนั้นทั้งแดงทั้งดำสลับกันจนดูน่าขันที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากแม่เฒ่าเซี่ยไม่มั่นใจ ว่าประโยคเมื่อครู่ของเยว่อวิ๋นหมายถึงลูกๆ ของนาง หรือกล่าวเหมารวมไปถึงตัวนางเองด้วย เพราะก่อนหน้านี้นางก็อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ทั้งยังเอาร่างกายแก่ๆ ของตนไปกอดปล้ำกับหมอจางอีกคิดถึงตรงนี้ใบหน้าชราของแม่เฒ่าเซี่ยจึงขึ้นสีแดงฉานไปทั้งหน้า ทว่าพอเห็นรอยยิ้มบางแฝงแววเจ้าเล่ห์ของเยว่อวิ๋น ใบหน้าแดงนั้นก็พัฒนากลายเป็นดำสลับไปมาเยว่อวิ๋นมองแล้วคิดอย่างขบขัน สีหน้าของแม่สามีนางช่างน่าตลกเสียจริง“น้องสะใภ้รองปากกล้าเหลือเกิน ไม่รู้ว่าสกุลเยว่สั่งสอนลูกหลานมาอย่างไร ถึงได้ไร้กฎระเบียบ ไร้มารยาท ไม่เคารพผู้อาวุโสแบบนี้” อู๋ซื่อสังเกตเห็นกลุ่มคนที่มาใหม่แล้ว นางเก็บอาการเสียกิริยาของตนหันมากล่าวเสียดสีเยว่อวิ๋นแทนแม่เฒ่าเซี่ยฟังแล้วพลันได้สติ เปล่งเสียงร้องโหยหวนปานจะขาดใจ “พี่สามในที่สุดท่านก็มา ไม่อย่างนั้นยายแก่อย่างข้าคงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว คงต้องถูกสะใภ้รองผู้นี้ทำให้อัดอั้นจนตายเป

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ลูกพลับนิ่มในอดีตได้กลายเป็นก้อนหินไปเสียแล้ว (6)

    เซี่ยเหล่าซานมองภาพมารดากับบุตรกอดกันด้วยความพอใจ ดูเหมือนว่าภรรยาเจ้ารองจะไม่ใช่สตรีจำพวกเดียวกับเซี่ยซื่อ นี่ถือว่าเป็นเรื่องดี“แต่เรื่องพวกนี้ตัวข้าเองก็ไม่ได้ถือสา” เยว่อวิ๋นกอดเจ้าไชเท้าน้อย พลางลูบคลำตรวจดูรอยปูดด้านหลังศีรษะอีกฝ่าย ขณะกล่าวต่อ “ทว่าวันนี้แม่สามีมาแต่เช้า พอนางพบว่าข้าต้มข้าวต้มกับไข่ให้เด็กๆ กิน นางก็โมโหทุบตีพวกเขา นางมอบเงินให้ข้ามาห้าตำลึง ข้าก็นำเงินนั้นไปจ่ายค่ารักษาให้ท่านหมอจาง พวกท่านว่าข้าทำผิดอะไร เกินไปตรงไหนอย่างนั้นหรือ”แน่นอนว่านางเล่าข้ามเรื่องที่ตนเองข่มขู่ขอแยกบ้าน และไม่ได้เอ่ยว่าเงินห้าตำลึงนั้นเป็นเงินค่าแยกบ้านที่แม่สามีนำออกมาให้เยว่อวิ๋นไม่เอ่ย แม่เฒ่าเซี่ยก็ไม่มีหน้าไปพูดถึง ลำพังได้ยินเรื่องที่นางทุบตีหลานเพราะกินอาหาร แล้วยังลงมือกับสะใภ้เนื่องจากอีกฝ่ายนำเงินไปรักษาสามี สายตาแสดงความเหยียดหยามก็พุ่งตรงมาที่นางจนแทบหายใจไม่ออกแล้ว“เรื่องนี้เป็นความจริง เดิมทีแล้วข้าไม่อยากมา แต่สะใภ้รองให้ต้าเป่ามาขอร้อง ข้าเห็นแก่ความจริงใจของนาง ถึงได้มาตามคำเชิญ” หมอจางที่กำลังดูละครเพลินๆ ได้รับสายตาจากเยว่อวิ๋น จึงก้าวออกมาพูดบ้าง“ถึงอย่างนั้น

    Last Updated : 2025-04-07
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ (1)

    หลังจากวกวนทุ่มเถียงกันไปมาอยู่นาน ในที่สุดหนังสือแยกครอบครัวก็ถูกเขียนขึ้นโดยเซี่ยเหล่าซานท่ามกลางคำเกลี้ยกล่อมของเซี่ยจินและเซี่ยหยวนชาง แม่เฒ่าเซี่ยรับเอาหนังสือที่ถูกลงชื่อมาถือไว้ด้วยมืออันสั่นเทา นางไม่ยินยอมทว่ากลับไม่อาจขัดขืนดวงตาหญิงชราจับจ้องไปที่ร่างบนเตียงของบุตรชายไม่วางตา ขณะที่ใจก็คิดตัดพ้ออีกฝ่ายไม่หยุด ไม่ใช่ว่านางไม่สงสารเขาเสียเมื่อใด เพียงแต่เงินส่วนนี้ยังมีความจำเป็นต้องใช้อีกมากหากจะนำไปสิ้นเปลืองกับขาที่ไม่มีวันรักษา ไม่สู้เก็บไว้ให้เจ้าสามนำไปใช้ประโยชน์ดีกว่าหรือ อย่างน้อยถ้าเจ้าสามสอบได้ตำแหน่งขุนนาง อนาคตเจ้ารองกับลูกๆ ก็จะได้มีที่พึ่งพิงที่นางทำทุกอย่างก็เพื่อครอบครัวทั้งนั้นทำไมบุตรชายถึงไม่ยอมเข้าใจกัน!แม่เฒ่าเซี่ยครุ่นคิดอย่างน้อยใจ ไม่ฉุกคิดถึงการกระทำที่ผ่านมาของตนกับบุตรชายคนที่สามเลยแม้แต่น้อย ยามนั้นนางปล่อยให้สามพ่อลูกใช้ชีวิตอย่างยากลำบากปางตาย นั่นยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซี่ยหยวนชางขนาดเวลานี้ยังไม่ได้เข้าสอบ ไม่มีตำแหน่งอะไรติดตัว ข้าวสักคำน้ำสักอึกเขายังไม่เคยหยิบยื่นให้พี่ชายที่นอนรอความตาย ถ้าวันใดสอบผ่านไหนเลยจะมีใจมัวมาคิดถึงตอบแทนอยู่อีกห

    Last Updated : 2025-04-11
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ (2)

    เมื่อสมหวังในสิ่งที่ต้องการแล้ว หมอจางก็ไม่คิดอยู่รบกวนต่อ ชายชรานำยาทาแก้ฟกช้ำมอบให้แก่เยว่อวิ๋น ก่อนจะโบกมือลาจากไปด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้ารอจนหมอจางเดินจากไปลับสายตา เยว่อวิ๋นจึงค่อยหันกลับมา นางมองดูสองพี่น้องที่เดินตามตนเองออกด้วยสายตาเคร่งขรึม ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ต้าเป่า เสี่ยวอวี้ รู้หรือไม่ว่าพวกเจ้าทำอะไรผิด”ต้าเป่าชะงักไปเล็กน้อย ความสนิทใจที่เพิ่มขึ้นมาถูกท่าทีเย็นชาของมารดาเลี้ยงทำให้ลดลงในทันทีมารดาเลี้ยงรังเกียจพวกเขา ความคิดนี้กลับผุดขึ้นมาอีกครั้ง เด็กชายพลันแสบร้อนจนดวงตาแดงก่ำ ที่แท้ก็แค่แสร้งแสดงตนเป็นคนดีนี่เอง ยามนี้ไม่มีผู้อื่นอยู่แล้ว นางย่อมต้องเปิดเผยนิสัยแท้จริงออกมาให้เห็น“ไม่รู้ขอรับ” คิดย้อนการกระทำของตนที่วิ่งหกล้มหกลุกไปตามปู่สามมาช่วยอีกฝ่าย ต้าเป่าก็มองไม่เห็นว่าตัวเองทำสิ่งใดผิดสักนิด“แล้วเจ้าเล่า เสี่ยวอวี้” เยว่อวิ๋นไม่พูดอะไรต่อ นางหันไปถามเสี่ยวอวี้ด้วยท่าทีเคร่งขรึมไม่เปลี่ยนเสี่ยวอวี้มีความคิดไร้เดียงสากว่าพี่ชาย เด็กหญิงชื่นชอบมารดาคนใหม่ด้วยใจจริง ครั้นประสบกับท่าทีห่างเหินเย็นชา ไม่ทันคิดออกว่าตนเองทำอะไรผิด เจ้าตัวน้อยก็ยื

    Last Updated : 2025-04-11
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ (3)

    ตั้งแต่ได้ยินชื่อของเจ้าสาวว่าที่ภรรยาตน เซี่ยฉงอวิ๋นไม่รู้เลยว่ากี่ครั้งแล้ว ที่เขาเฝ้าคิดเกี่ยวกับความเป็นไปได้นี้ความคาดหวังอันเลือนรางเติบโตอยู่กลางใจ ทว่าไม่นานก็พลันร่วงหล่นโรยราในพริบตา ช่างแสนสั้นยิ่งกว่าชั่วเวลาเบ่งบานของดอกถาน [1] ในข้ามคืนเสียอีก ต่อให้อยากหลอกตัวเองแค่ไหน เซี่ยฉงอวิ๋นก็รู้ว่าสิ่งที่ฝันนั้นยากที่จะเป็นจริง โลกนี้ไหนเลยจะมีเรื่องบังเอิญเช่นนี้เกิดขึ้นได้ช่วงเวลาการจากไปของนางกับเขาต่างกันมากนัก ยามเขาสิ้นลม นางก็คงข้ามผ่านสะพานไน่เหอ [2] ดื่มน้ำแกงเมิ่งผอ [3] ลืมเลือนทุกสิ่ง แล้วก้าวเข้าสู่ชาติภพใหม่ที่ดีไปแล้ว ไหนเลยจะเหมือนเขาที่ทำเรื่องเลวร้ายจนสวรรค์ยังทนดูไม่ได้ บันดาลให้ต้องมาชดใช้กรรมในร่างนี้นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เซี่ยฉงอวิ๋นนึกเกลียดความมีเหตุผลของตัวเองเป็นยิ่งนัก เพียงแค่ฝันหนึ่งตื่นก็ปล่อยผ่านไปไม่ได้หรือไงกันมุมปากภายใต้หนวดเคราอันรุงรังเผยอเป็นรอยยิ้มจนใจ ขณะเจ้าตัวปล่อยความคิดให้จมดิ่งลงช้าๆ ไม่นานเสียงสนทนาของเด็กกับผู้ใหญ่ด้านนอกก็ค่อยๆ เงียบหายไปจากสติ“ท่านแม่ ทำไมหรือเจ้าคะ” ดวงตากลมจ้องมองมารดาอย่างสงสัย ก่อนจะผงกใบหน้ายกมือมือขึ้

    Last Updated : 2025-04-11
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ (4)

    ต้าเป่าน้อยบุ้ยหน้าไปทางด้านหลัง ทว่ายังไม่ทันได้หันกลับไป เสียงตวาดจากคนเป็นมารดาก็ดังขึ้นเสียก่อน “อย่าขยับ!”เยว่อวิ๋นจ้องเลยไปยังด้านหลังของเด็กชายเขม็ง ใบหน้าเคร่งขรึมที่ดูจริงจังกว่าเวลาปกติทำให้เด็กชายอดใจหายไม่ได้ หรือว่าข้างหลังเขาจะมีงูตัวอื่นซ่อนอยู่อีก!หากเยว่อวิ๋นได้ยินความคิดนี้ นางคงได้สบถเป็นคำตอบให้แก่เจ้าไชเท้าน้อยเป็นแน่ นางยอมให้เจ้าสิ่งที่อยู่ด้านหลังอีกฝ่ายเป็นงูอย่างที่คิดเสียยังดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้สาเหตุที่เยว่อวิ๋นคิดอยากขึ้นภูเขาในครั้งนี้ นอกจากการหาสมุนไพรที่ต้องใช้รักษาเซี่ยฉงอวิ๋นแล้ว อีกเหตุผลก็คือนางต้องการล่าสัตว์เพื่อนำไปขายส่วนหนึ่งในวันพรุ่งนี้ด้วยนั่นเองเพราะเยว่อวิ๋นรู้ดีว่าอาหารป่าหายากจากธรรมชาติมักเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูง นางจึงมีความคิดที่จะใช้ความสามารถของตนมาทำเงินทว่าไหนเลยจะคาดคิดว่าโชคของนางจะย่ำแย่ถึงเพียงนี้ เจออะไรไม่เจอ กลับมาเจอเจ้าเหมียวยักษ์ตัวเบ้อเร่อเอาเสียได้!ดวงตาคมสบกับดวงตาสีเหลืองทอง เยว่อวิ๋นขบริมฝีปากอย่างหงุดหงิด ที่สำคัญนางไม่ใช่แค่เจอตัวยุ่งยากแบบธรรมดาเสียด้วย เพราะที่นางประสบในยามนี้คือ “การเจอตัวยุ่งยากในสถ

    Last Updated : 2025-04-11
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ (5)

    ยิ่งคิดเยว่อวิ๋นก็ยิ่งมีโทสะ นึกอยากร้องด่าระบายความไม่เป็นธรรมที่ได้รับสักสองสามประโยค แต่จนใจที่ฝ่ายตรงข้ามดันไม่เข้าใจภาษามนุษย์เสี่ยนี่ คิดพลางได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งหญิงสาวทำได้เพียงใช้ความสงบเข้ากดดัน ทว่าแม่เสือที่บาดเจ็บก็เรียนรู้ที่จะไม่บุ่มบ่ามโจมตี หนึ่งคนหนึ่งสัตว์จดจ้องกันอยู่เนิ่นนาน สองฝ่ายต่างไร้การเคลื่อนไหวทว่ากลับเต็มไปด้วยความระแวดระวังนี่หาใช่เรื่องดีเยว่อวิ๋นรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่เป็นผลดีกับตนเองนัก เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์เมื่อถึงขีดสุด ไม่ว่าอย่างไรร่างกายก็ต้องมีอาการอ่อนล้า นับประสาอะไรกับนางที่ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดีด้วยซ้ำหรือว่านางจะต้องแลกชีวิตกับเสือตัวนี้จริงๆเยว่อวิ๋นกระชับท่อนไม้ที่เหลือเพียงครึ่งในมือพลางขบคิดหนัก ถึงรู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางเอาชนะเจ้าสัตว์ตัวโตตรงหน้าได้โดยไม่บุบสลาย ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมล่าถอยแล้วนางจะทำอะไรได้เล่า ต่อให้นางอยากสงบศึกก็เถอะแต่ถ้าเจ้านี่ไม่ได้ลูกคืนมีหรือมันจะยอมจากไปง่ายๆไม่ยุติธรรมเลย ไม่ใช่นางที่เป็นคนบุกรุกอาณาเขตของมัน และก็ไม่ใช่นางที่คิดจะจับลูกมันเสียหน่อย เหตุใดนางต้องมาลำบากกับมันด้วยเล่า แล

    Last Updated : 2025-04-15

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (4)

    เยว่อวิ๋นไม่สนใจท่าทางโศกเศร้าอันไม่รู้ที่มาของชิงหลัว นางสอดส่ายสายตามองหาร้านของกิน ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับแผงขายเกี๊ยวน้ำด้านข้าง“ไปเถอะน้องสะใภ้ ข้าจะเลี้ยงอาหารเช้าเจ้า” พูดจบไม่รอให้ชิงหลัวตอบ ก็เดินนำหน้าไปยังเก้าอี้ตัวเตี้ยด้านหน้าร้านทันที“เถ้าแก่ เกี๊ยวน้ำสองชาม” เยว่อวิ๋นร้องสั่ง เถ้าแก่วัยกลางคนเงยหน้ารับคำด้วยรอยยิ้ม “ได้เลย นั่งรอก่อนนะ”“พี่สะใภ้ หากท่านหิวก็สั่งมาชามหนึ่งเถอะ ขะ ข้ากินมาแล้วเจ้าค่ะ” พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ดวงตาเหลือบมองไปทางหม้อลวกเกี๊ยวอย่างอาลัยอันที่จริงนางยังไม่ทันกินอาหารอย่างที่บอก เพราะพอตื่นลุกจากที่นอน พ่อสามีก็มาบอกสามีให้ไปดูครอบครัวพี่รองบ้านสี่ นางที่ติดตามพี่สะใภ้มาตลาดจึงไม่มีโอกาสได้กลับไปกินข้าวเช้าเพียงแต่เกี๊ยวน้ำนี่ราคาชามละตั้งสองอีแปะต่อให้หิวแค่ไหนนางก็ไม่กล้ากินหรอก“น้องสะใภ้เจ้าอย่าเกรงใจไปเลย ข้ารบกวนเจ้าตั้งแต่เช้า เลี้ยงเกี๊ยวน้ำหนึ่งชามนับว่าเอาเปรียบเจ้าแล้ว”“เอาเปรียบอะไร พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ข้าช่วยเหลือพี่สะใภ้นี่ถือเป็นเรื่องปกติ” ชิงหลัวเป็นเพียงหญิงสาวชนบทนิสัยซื่อสัตย์ ได้ยินแบบนั้นก็

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (3)

    เยว่อวิ๋นที่ไม่รู้ความคิดในใจชิงหลัว ยังคงเดินซื้อของอย่างบ้าคลั่ง ทุกร้านที่นางไปเยือนล้วนมีข้าวของกองโตกองอยู่หน้าร้านไม่ต่างกัน โชคดีที่แต่ละร้านมีน้ำใจให้คนช่วยยกไปส่งยังที่จอดเกวียนของเซี่ยต้าจวง หญิงสาวจึงไม่ต้องแบกของเหล่านั้นจนหลังแอ่น“พี่สะใภ้ ยังต้องการจะซื้ออะไรเพิ่มอีกหรือไม่” ชิงหลัวหันมาถามเมื่อเยว่อวิ๋นจ่ายเงินค่าผ้าให้กับทางร้านเสร็จ นางมองดูเสื้อผ้าสำเร็จที่เยว่อวิ๋นซื้อให้สามพ่อลูกคนด้วยความปวดใจพี่สะใภ้รองบ้านสี่ใช้จ่ายได้ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว เสื้อผ้าสำเร็จพวกนี้ราคาแพงกว่าซื้อผ้าเปล่าไปตัดเองเกือบเท่าตัว หากเป็นนางต่อให้มีเงินก็คงตัดใจซื้อไม่ลงเป็นแน่เยว่อวิ๋นมีหรือจะล่วงรู้ถึงความปวดใจของชิงหลัว ในบ้านนางเวลานี้มีเพียงคนป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้กับไชเท้าน้อยที่แคระแกร็นอีกสองหัว หากซื้อผ้าไปตัดเย็บเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน คิดถึงความเร่งด่วนในการใช้ กับงานบ้านที่แทบจะล้นมือ สามารถจ่ายเงินเพื่อแก้ปัญหาได้นับเป็นเรื่องดีสุดแล้วหญิงสาวสั่งชุดสำเร็จสีน้ำเงินกับดำมาให้เซี่ยฉงอวิ๋นสองชุด แม้เนื้อผ้าจะไม่ดีมากนัก ทว่าเทียบกับชุดที่เขาใส่อยู่ตอนนี้ย่อมดีกว่าอ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (2)

    “น่ะ…นี่” คนจัดยาแสดงความลังเล มองเยว่อวิ๋นที มองท่านหมอของร้านที ตั้งแต่แม่นางผู้นี้เข้ามา ก็สั่งให้เขาจัดยาเป็นรายการยาว แต่ละชื่อที่เอ่ยออกมาล้วนไม่มีผิดเพี้ยน แสดงให้เห็นชัดเจนว่านางมีความรู้และเชี่ยวชาญในด้านนี้“ผู้หญิงคนนี้เจ้าพูดอะไรของเจ้า” คนจัดยายังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ เสียงตะคอกดุดันของหมอที่ถูกพูดถึงก็ดังขึ้นเสียก่อน“ท่านหมอจู” เฉียนซานถอนลมหายใจ เขามองท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของหมอจูด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ในบรรดาหมอของร้านหงจือหลินทั้งหมดจูจ้งผู้นี้นิสัยแย่น่ารำคาญสุดๆ แล้ว แม่นางน้อยพูดจาล่วงเกินเขาย่อมไม่ปล่อยผ่านเป็นแน่“นางเป็นเพียงเด็กสาวอ่อนด้อยประสบการณ์จะไปรู้เรื่องอะไร ท่านหมอจูเป็นผู้อาวุโสย่อมไม่ถือสาผู้น้อย อย่าไปอารมณ์เสียกับเด็กไม่รู้ความเลยขอรับ”พอเขาพูดจบก็หันมาตะคอกเยว่อวิ๋น “ท่านหมอจู้เป็นผู้ใหญ่ไม่เอาความเจ้ายังไม่รีบขอบคุณอีกรึ”เยว่อวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึมไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก นางเห็นเด็กที่ถูกอุ้มเข้าไปตรวจแล้วว่าอาการไม่สู้ดีนัก ตอนที่เด็กถูกอุ้มออกมาจึงลอบเดินผ่านอาศัยช่วงคนอุ้มไม่ระวังจับชีพจรดูนางเคยเห็นคนอาการแบบนี้มาก่อน พอได้ยินคนจั

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (1)

    “ในเมื่อรู้ตัวว่าเสียมารยาท แล้วเจ้าจะยังยืนอยู่ต่อทำไมอีก ไม่รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าคุณชายข้าเล่า”รอยยิ้มบนใบหน้าเซี่ยหว่านหรูยังไม่ทันจางหาย เสียงเข้มๆ ของลู่จิ่วก็ดังขึ้น“มาเยือนเรือนผู้อื่น ไม่ทันกล่าววาจาเรียกเจ้าของบ้าน ก็แล่นเข้ามาในห้องของคนอื่น นี่ไม่ถือว่าเสียมารยาทหรอก แต่เจ้าก็แค่ไม่มีมารยาทเท่านั้นเอง”คุณชายเขาเป็นใคร หมาแมวคางคกที่ไหนก็นึกหมายปองได้อย่างนั้นหรือ“จะ เจ้า” เซี่ยหว่านหรูใบหน้าแดงเถือกพูดอะไรไม่ออก “ข้ามีธุระกับหมอจางต่างหาก” นางรีบกล่าวอ้าง“มีธุระกับข้า” หมอจางงงงวยเล็กน้อย ร้อยวันพันปีบุตรสาวคนเล็กของแม่เฒ่าเซี่ยผู้นี้ หากไม่ปรายตามองดูถูกคนอื่น ก็แหงนหน้าเดินเอาจมูกชี้ฟ้าตลอดนั่นแหละ มีหรือจะมาหาพูดคุยกับเขาแบบนี้“ก็ใช่น่ะสิ เจ้าเป็นหมอรักษาพี่ชายข้ามิใช่หรือ ขะ ข้ามาสอบถามอาการเขา” นางกล่าวด้วยท่าทางน่าสงสาร ใบหน้าที่มีริ้วรอยของความอับอายประหนึ่งจะร่ำไห้ ทว่าในใจนั้นก่นด่าลู่จิ่วไม่มีชิ้นดี บ่าวสมควรตายนี่กล้าดีอย่างไรมาพูดกับนางแบบนี้ รอให้นางได้แต่งให้เจ้านายเขาก่อนเถอะ“เพราะข้าเป็นห่วงพี่ชาย ถึงได้ทำเรื่องเสียมารยาทไป หวังว่าคุณชายจะไม่ถือสา” กล่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   คางคกสาวริอ่านหมายปองห่านฟ้าหนุ่ม (3)

    อู๋ซื่อได้ยินถ้อยคำที่กล่าวพลันตาเหลือก หลบเลี่ยงสายตาที่จ้องมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อตนของน้องสามีด้วยใจหวาดหวั่น ตนก็แค่อยากใช้สถานะสะใภ้ใหญ่ของตัวเองมาข่มเยว่ซื่อระบายโทสะในใจ ไหนเลยจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เดินตามบทบาทเหมือนคนปกติทั่วไปแบบนี้เยว่อวิ๋นไม่รอให้น้องสามีกับพี่สะใภ้ส่งสายตากันจบ นางก็เริ่มกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงอันดัง“น้องสามเจ้าอย่าได้นึกขุ่นเคืองไปเลย วาจาจริงใจก็มักไม่น่าฟังแบบนี้แหละ เจ้าลองคิดดูสิพี่สะใภ้ใหญ่พูดแบบนี้ ตัวข้าเป็นเพียงสตรีบ้านนอกที่ไร้การศึกษา ละเลยมารยาทไปบ้างก็ยังพอพูดได้ว่าเป็นเพราะไม่รู้หนังสือ แต่กับเจ้าที่ร่ำเรียนเขียนอ่านมา คนอื่นจะพูดเอาได้ว่าเจ้าจงใจ พี่รองทำงานหนักส่งเสียเจ้า แต่เจ้ากลับไม่เคารพภรรยาเขา เห็นแล้วยังไม่แสดงความเคารพ ไม่รู้จักขนบธรรมเนียม ไม่มีความกตัญญูรู้คุณคน เป็นมนุษย์แต่เทียบไม่ได้แม้แต่เดรัจฉานเช่นสุนัขที่ยังจดจำบุญคุณผู้ให้ข้าวให้น้ำมันได้”เซี่ยหยวนชางฟังแล้วแทบทรุดตัวลงนอนหมดแรง รีบกล่าว “พี่สะใภ้รองท่านจริงจังเกินไปแล้ว บ้านพวกเราไหนเลยจะมีกฎเกณฑ์ธรรมเนียมไร้สาระเหล่านั้น พี่สะใภ้ใหญ่ก็แค่หยอกล้อท่านเล่นเท่านั้นเอง”ล้อเ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   คางคกสาวริอ่านหมายปองห่านฟ้าหนุ่ม (2)

    แน่นอนว่าความคิดและคำตัดพ้อของแม่เฒ่าเซี่ยส่งไปไม่ถึงเซี่ยฉงอวิ๋นกับเยว่อวิ๋นเลยสักนิดเมื่อรุ่งสางมาเยือน แสงทองเริ่มจับขอบฟ้า เสียงไก่ตัวผู้โก่งคอขันดังเจื้อยแจ้วไปทั่วหมู่บ้าน เยว่อวิ๋นที่หลับเต็มอิ่มมาทั้งคืนก็ตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี นางมองร่างผ่ายผอมที่มีลมหายใจสม่ำเสมอด้านข้าง พลางก้าวลงจากเตียงด้วยฝีเท้าแผ่วเบาวันนี้นางตั้งใจเข้าตำบลจึงลุกมาตระเตรียมมื้อเช้าไว้ให้สามพ่อลูกไว้ก่อนไปข้าวที่ได้รับแบ่งจากการแยกบ้านมาถุงเล็กๆ หุงไปสองมื้อก็หมดเกลี้ยงแล้ว โชคดีที่เมื่อวานได้ไข่นกมารังหนึ่ง รวมกับไข่ไก่ที่เหลืออยู่นำมาต้มก็น่าจะพอให้กินมื้อเช้าได้อิ่ม อีกทั้งวัตถุดิบจากเมื่อวานยังมีนกกับไก่ป่าที่ถูกชำแหละเก็บไว้ นางเก็บผักจิงจูฉ่ายมาเยอะ ถึงเมื่อวานจะต้มไปไม่น้อยแต่ก็ยังเหลือพอให้กินได้อีกหนึ่งมื้อเยว่อวิ๋นพับแขนเสื้อ คว้าหม้อตั้งน้ำโยนทุกอย่างที่เตรียมเสร็จลงใส่ในนั้นรวดเดียว ไม่นานกลิ่นหอมของน้ำแกงไก่กับนกก็ลอยตลบอบอวลในห้องมองแป้งสีกระดำกระด่างในถุงผ้า เยว่อวิ๋นคิดถึงอาหารจำพวกซาลาเปาหมั่นโถวแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม่ครัวมากฝีมือแต่จนใจที่ไร้วัตถุดิบ ส่วนนางดีนักมีวัตถุดิบทว่ากล

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   คางคกสาวริอ่านหมายปองห่านฟ้าหนุ่ม (1)

    การแสดงออกของเยว่อวิ๋นหนักแน่นชวนให้มั่นใจอย่างยิ่งต้าเป่าเห็นดังนั้นก็รู้สึกมีความเชื่อมั่นขึ้นมา ใบหน้าเล็กที่เคร่งขรึมราวกับผู้ใหญ่พลันผ่อนคลายลงหลายส่วน จากนั้นสามแม่ลูกก็กินอาหารไปพลางพูดคุยสนทนากันไปพลาง ก่อนที่เยว่อวิ๋นจะไปจัดการต้มน้ำร้อนให้ทั้งคู่อาบ“ท่านแม่ไม่อาบกับเสี่ยวอวี้หรือเจ้าคะ” เห็นมารดาถืออ่างน้ำร้อนทำท่าจะเดินออกไป เสี่ยวอวี้ก็รีบร้องถาม เยว่อวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟ้าใกล้มืดแล้ว เซี่ยฉงอวิ๋นร่างกายอ่อนแอไม่ควรเช็ดตัวตอนดึกไม่อย่างนั้นอาจจับไข้ได้“แม่ไปเช็ดตัวให้ท่านพ่อก่อน เจ้ากับพี่ชายแช่น้ำร้อนรอไป เดี๋ยวแม่ทำอะไรเสร็จแล้วจะรีบมาอาบน้ำให้” ถึงรู้ความอย่างไร ต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ก็ยังเป็นเด็กเล็ก ให้พวกเขาอาบกันเองนางเกรงว่าจะไม่สะอาด“ท่านแม่อาบให้เสี่ยวอวี้คนเดียวก็พอขอรับ” เดิมได้ยินว่าจะให้แช่น้ำกับน้องสาวต้าเป่าก็ไม่อยากอยู่แล้ว พอรู้ว่ามารดาจะอาบน้ำให้ก็รีบปฏิเสธทันทีเยว่อวิ๋นชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเดิน นางหันไปเลิกคิ้วถามเสียงเรียบ “ทำไมให้อาบแค่เสี่ยวอวี้เล่า”“เสี่ยวอวี้ยังเด็ก แต่ข้าโตแล้วอาบเองได้ขอรับ”เจ้าตัวเล็กกล่าวน้ำเสียงขึงขัง เยว่อวิ๋นฟังแล้ว

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   สตรีลิ้นยาว (4)

    ด้านต้าเป่าที่ถือชามวิ่งไปยังบ้านหมอจางตามคำสั่งของเยว่อวิ๋นนั้นกำลังประสบปัญหาลำบากใจอย่างยิ่งเนื่องจากกลิ่นหอมของเนื้อกระต่ายในชามลอยเข้าจมูกไม่หยุด เด็กน้อยที่ไม่ได้กินเนื้อมานานเริ่มรู้สึกทรมานกับการฝืนห้ามใจ ขาเล็กๆ จึงซอยเท้าก้าวถี่ขึ้นทุกที“ต้าเป่า เจ้ากำลังจะไปไหน” จู่ๆ ร่างอ้วนกลมก็โดดเข้ามาขวางหน้า ต้าเป่าผงะตกใจจนเกือบทำชามหลุดมือ เด็กชายพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตากลมจ้องมองเด็กชายร่างอ้วนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ“เสี่ยวเกอ”เซี่ยเสี่ยวเกอเป็นบุตรชายคนเดียวของบ้านใหญ่ ปีนี้อายุเต็มเจ็ดขวบแล้ว เนื่องจากเป็นบุตรชายคนเดียว อู๋ซื่อจึงรักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ มีของอะไรดีๆ ก็แอบเก็บไว้ให้เขากินเสมอ ทำให้ลูกพี่ลูกน้องผู้นี้แม้อายุห่างจากต้าเป่าและเสี่ยวอวี้แค่ปีเศษๆ ทว่าร่างกายกลับอวบอ้วนสูงใหญ่กว่าสองพี่น้องมากนัก“เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย” น้ำเสียงตอบกลับของต้าเป่าไม่ดีนัก เนื่องจากในอดีตลูกพี่ลูกน้องคนนี้มักสรรหาวิธีมากลั่นแกล้งตนกับน้องอยู่ตลอด หากถามว่าไม่ชอบใครในบ้านเซี่ยมากที่สุด สำหรับเขาแล้วเซี่ยเสี่ยวเกอย่อมเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน“เจ้ากล้าพูดแบบนี้กับข้าหรือ คอยดูเถอะข้าจะไปฟ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   สตรีลิ้นยาว (3)

    รับเอาตั๋วเงินร้อยตำลึงมายัดใส่แขนเสื้อ ใบหน้าของเยว่อวิ๋นยิ่งเบิกบานกว่าเดิมเป็นเท่าตัว หญิงสาวมอบห้าตำลึงให้แก่หมอจางเป็นค่ายา ก่อนจะปล่อยให้สองนายบ่าวพักผ่อนไปตามอัธยาศัย ส่วนตนเองกับเด็กสองคนก็เข้าครัวเตรียมอาหารสำหรับทุกคนเดิมหมอจางคิดจะขอตัวกลับหลังจากการรักษาเสร็จสิ้น แต่พอคิดถึงคำพูดของเยว่อวิ๋นเมื่อครู่ ในใจหมอชราก็เกิดความคิดไม่อาจปล่อยวางขึ้นมาได้ จึงอาศัยประโยคชักชวนให้อยู่กินข้าวด้วยกันของอีกฝ่ายมารั้งอยู่ต่อเพื่อพูดคุยเยว่อวิ๋นไม่รับรู้ถึงความคิดว้าวุ่นในใจของแต่ละคนเลยแม้แต่น้อย เพราะตัวนางเองยามนี้ก็ว้าวุ่นมากพออยู่แล้ว สาเหตุก็เพราะนางเพิ่งจะนึกขึ้นได้หลังจากบอกให้หมอจางอยู่กินอาหารเย็นที่บ้าน นั่นก็คือ...ดูเหมือนว่านางจะทำอาหารไม่เป็นนี่นามุมปากบางกระตุกเล็กน้อย ในบรรดาคนที่อยู่ก็มีแค่บุรุษกับเด็ก นางไม่อาจขอความช่วยเหลือจากใคร เอาเถอะก็แค่ทำอาหารมิใช่หรือ คิดพลางคว้าเอาวัตถุดิบที่วางทิ้งไว้มาจัดการชำแหละเยว่อวิ๋นทำอาหารไม่เป็น แต่นางเชี่ยวชาญการใช้มีดเรื่องการชำแหละจึงไม่มีปัญหา หญิงสาวกรีดใต้ท้องงูเป็นทางยาว ก่อนจะตวัดมีดรอบคอถลกหนังออกมาในคราวเดียวกับกระต่าย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status