Home / รักโบราณ / ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม / ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ (4)

Share

ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ (4)

ต้าเป่าน้อยบุ้ยหน้าไปทางด้านหลัง ทว่ายังไม่ทันได้หันกลับไป เสียงตวาดจากคนเป็นมารดาก็ดังขึ้นเสียก่อน “อย่าขยับ!”

เยว่อวิ๋นจ้องเลยไปยังด้านหลังของเด็กชายเขม็ง ใบหน้าเคร่งขรึมที่ดูจริงจังกว่าเวลาปกติทำให้เด็กชายอดใจหายไม่ได้ หรือว่าข้างหลังเขาจะมีงูตัวอื่นซ่อนอยู่อีก!

หากเยว่อวิ๋นได้ยินความคิดนี้ นางคงได้สบถเป็นคำตอบให้แก่เจ้าไชเท้าน้อยเป็นแน่ นางยอมให้เจ้าสิ่งที่อยู่ด้านหลังอีกฝ่ายเป็นงูอย่างที่คิดเสียยังดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้

สาเหตุที่เยว่อวิ๋นคิดอยากขึ้นภูเขาในครั้งนี้ นอกจากการหาสมุนไพรที่ต้องใช้รักษาเซี่ยฉงอวิ๋นแล้ว อีกเหตุผลก็คือนางต้องการล่าสัตว์เพื่อนำไปขายส่วนหนึ่งในวันพรุ่งนี้ด้วยนั่นเอง

เพราะเยว่อวิ๋นรู้ดีว่าอาหารป่าหายากจากธรรมชาติมักเป็นที่นิยมในหมู่ชนชั้นสูง นางจึงมีความคิดที่จะใช้ความสามารถของตนมาทำเงิน

ทว่าไหนเลยจะคาดคิดว่าโชคของนางจะย่ำแย่ถึงเพียงนี้ เจออะไรไม่เจอ กลับมาเจอเจ้าเหมียวยักษ์ตัวเบ้อเร่อเอาเสียได้!

ดวงตาคมสบกับดวงตาสีเหลืองทอง เยว่อวิ๋นขบริมฝีปากอย่างหงุดหงิด ที่สำคัญนางไม่ใช่แค่เจอตัวยุ่งยากแบบธรรมดาเสียด้วย เพราะที่นางประสบในยามนี้คือ “การเจอตัวยุ่งยากในสถ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ (5)

    ยิ่งคิดเยว่อวิ๋นก็ยิ่งมีโทสะ นึกอยากร้องด่าระบายความไม่เป็นธรรมที่ได้รับสักสองสามประโยค แต่จนใจที่ฝ่ายตรงข้ามดันไม่เข้าใจภาษามนุษย์เสี่ยนี่ คิดพลางได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งหญิงสาวทำได้เพียงใช้ความสงบเข้ากดดัน ทว่าแม่เสือที่บาดเจ็บก็เรียนรู้ที่จะไม่บุ่มบ่ามโจมตี หนึ่งคนหนึ่งสัตว์จดจ้องกันอยู่เนิ่นนาน สองฝ่ายต่างไร้การเคลื่อนไหวทว่ากลับเต็มไปด้วยความระแวดระวังนี่หาใช่เรื่องดีเยว่อวิ๋นรู้ว่าสถานการณ์เช่นนี้ไม่เป็นผลดีกับตนเองนัก เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์เมื่อถึงขีดสุด ไม่ว่าอย่างไรร่างกายก็ต้องมีอาการอ่อนล้า นับประสาอะไรกับนางที่ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดีด้วยซ้ำหรือว่านางจะต้องแลกชีวิตกับเสือตัวนี้จริงๆเยว่อวิ๋นกระชับท่อนไม้ที่เหลือเพียงครึ่งในมือพลางขบคิดหนัก ถึงรู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางเอาชนะเจ้าสัตว์ตัวโตตรงหน้าได้โดยไม่บุบสลาย ทว่าในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมล่าถอยแล้วนางจะทำอะไรได้เล่า ต่อให้นางอยากสงบศึกก็เถอะแต่ถ้าเจ้านี่ไม่ได้ลูกคืนมีหรือมันจะยอมจากไปง่ายๆไม่ยุติธรรมเลย ไม่ใช่นางที่เป็นคนบุกรุกอาณาเขตของมัน และก็ไม่ใช่นางที่คิดจะจับลูกมันเสียหน่อย เหตุใดนางต้องมาลำบากกับมันด้วยเล่า แล

    Last Updated : 2025-04-15
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ในเมื่อแยกบ้านแล้วก็ต้องหาหนทางหาเงินสิ(6)

    จี้จิ่งชวนประสานสายตากับหญิงสาวที่อยู่ด้านบนผ่านช่องว่างอย่างพินิจ นางดูอายุยังน้อยเหมือนที่คิดไว้ ใบหน้าซูบผอมมอมแมมที่เห็นไม่ใช่สตรีงดงามเลยสักนิด ทว่ากลับมีดวงตากลมโตกระจ่างใสราบเรียบดุจผิวน้ำไร้ระลอกคลื่นน่ามองยิ่ง“ขะ...” คำว่าขอบคุณแม่นางยังไม่ทันถูกพูดออกมา เท้าที่ห่อหุ้มด้วยรองเท้าผ้าเก่าๆ ก็กระทืบลงมาบนท่อนไม้เหนือศีรษะอย่างแรง จี้จิ่งชวนกับลู่จิ่วมองการกระทำของหญิงแปลกหน้าด้วยอาการตกตะลึงแม้แต่ปากก็ยังอ้าค้างไปชั่วขณะเยว่อวิ๋นไม่กล่าววาจาเพียงคลี่รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมส่งให้สองนายบ่าว จี้จิ่งชวนกับลู่จิ่วที่มองเห็นรอยยิ้มนั้นพลันสั่นสะท้านทันที“คุณชาย หญิงผู้นี้นาง...” ช่างน่ากลัว ลู่จิ่วไม่อยากยอมรับว่าตัวเองมีความรู้สึกพรั่นพรึงต่อสาวชาวบ้านคนหนึ่งแต่…ใครก็ได้ช่วยบอกเขาที เหตุใดรอยยิ้มกว้างของสตรีตรงหน้าถึงได้ดูน่าขนลุกถึงเพียงนี้กัน!“วันนี้คงขุดหลุมล่าสัตว์ได้ได้แล้ว พวกเราหาเก็บของป่าอย่างอื่นให้มากหน่อยแล้วกัน” นางมือเจ็บคงขุดดินไม่ไหว อีกอย่างดูเหมือนจะไม่จำเป็นต้องขุดแล้วด้วย“ขอรับ” ต้าเป่ารับคำขณะก้าวมาหยุดเคียงข้างมารดา ในเมื่อเยว่อวิ๋นไม่เอ่ยถึงสองคนในหลุมเขาก็ไ

    Last Updated : 2025-04-15
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   สตรีลิ้นยาว (1)

    ร้อยตำลึงเป็นค่ารักษาขา!ประโยคนี้ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจจี้จิ่งชวน เดิมทีหนึ่งคืนที่ติดอยู่ในหลุมดักสัตว์ ได้ลดทอนความคิดที่ว่าจะสามารถรักษาขาไว้ได้ของเขาไปหมดแล้ว ทว่ายามนี้ความคาดหวังที่หายไปพลันปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังได้ฟังคำพูดของสตรีแปลกหน้า“แม่นางหมายความว่าอย่างไร เจ้ารักษาขาของข้าได้จริงน่ะหรือ” ต้องรู้ว่าบาดแผลที่เขาได้รับนั้นไม่ใช่เล็กๆ กับดักล่าสัตว์ไม่เพียงหนีบเข้าเนื้อลึกถึงกระดูก ทว่ามันยังรุนแรงจนทำให้กระดูกเหนือข้อเท้าหักอีกด้วย“แน่นอน ก็ข้าบอกแล้วอย่างไรล่ะ ว่าหนึ่งร้อยตำลึงนั้นเป็นค่ารักษาขาของเจ้า” นางไม่ได้โก่งราคาจริงๆ ดูจากการแต่งตัวของชายตรงหน้าก็รู้ว่ามาจากตระกูลชนชั้นสูง หนึ่งร้อยตำลึงแลกกับการไม่ต้องกลายเป็นคนพิการ เรื่องดีแบบนี้ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าผู้ใดเป็นฝ่ายได้เปรียบ“ตกลง” ขอแค่นางสามารถรักษาขาเขาหายได้จริง อย่าว่าแต่เงินแค่นี้เลย มากกว่านี้สิบเท่าเขาก็ยินดีจ่าย“คุณชาย” ลู่จิ่วทักท้วงผู้เป็นนาย น้ำเสียงแสดงความไม่เห็นด้วยชัดเจน เขามองว่าหญิงสาวตรงหน้าดูอย่างไรก็ไม่เหมือนหมอรักษาคนสักนิด สภาพของนางหากบอกว่าเป็นผู้ประสบภัยอพยพยังจะน่าเชื่อเสียมากกว่าเยว่อ

    Last Updated : 2025-04-16
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   สตรีลิ้นยาว (2)

    เยว่อวิ๋นกับต้าเป่าเดินนำสองนายบ่าวมุ่งลงเขา เนื่องจากระหว่างทางขึ้นเยว่อวิ๋นคิดจะล่าสัตว์ ขามาทั้งคู่จึงไม่เก็บของเล็กน้อยให้เต็มตะกร้า แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว พวกนางแม่ลูกย่อมต้องแวะเก็บของป่าตามรายทางที่ลงเขาเพื่อไม่ให้มาเสียเที่ยวลู่จิ่วต้องแบกจี้จิ่งชวนขึ้นหลังเดินจึงทั้งร้อนทั้งเหนื่อย เมื่อเห็นว่าเยว่อวิ๋นกับต้าเป่ายังมีแก่ใจแวะเก็บของป่าไม่รีบร้อน เขาก็นึกอยากต่อว่าทั้งคู่ที่มัวเถลไถลสักหลายประโยค เสียดายที่ลิ้นแข็งชาไม่เป็นใจทำได้เพียงส่งเสียงร้องอืออาเท่านั้นรอจนตะกร้าบนหลังอัดแน่นไปด้วยผักป่ากับเห็ดเยว่อวิ๋นจึงหันมาตั้งใจเดินนำทาง หญิงสาวจูงมือต้าเป่าสาวเท้าเดินยาวๆ เร่งความเร็วโดยไม่สนใจมู่จิ่วที่หอบแฮ่กอยู่ด้านหลังสักนิดสองแม่ลูกเกาะกุมมือกันเดินมาถึงหน้าบ้าน พอก้าวเท้าเข้าสู่ลานหน้าบ้าน เงาร่างเล็กๆ ก็โผเข้ามากอดขาเยว่อวิ๋นทันที “ท่านแม่ ท่านพี่ พวกท่านกลับมาแล้ว เสี่ยวอวี้คิดถึงพวกท่านมากๆ เลยเจ้าค่ะ”เสียงใสของไชเท้าน้อยอีกหัวเจื้อยแจ้วไม่หยุด เยว่อวิ๋นหัวเราะเบาๆ พลางก้มลงไปอุ้มเจ้าตัวเล็ก “แม่ก็คิดถึงเสี่ยวอวี้ เป็นเด็กดีรึเปล่าเอ่ย”ได้ยินมารดาบอกว่าคิดถึ

    Last Updated : 2025-04-16
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   สตรีลิ้นยาว (3)

    รับเอาตั๋วเงินร้อยตำลึงมายัดใส่แขนเสื้อ ใบหน้าของเยว่อวิ๋นยิ่งเบิกบานกว่าเดิมเป็นเท่าตัว หญิงสาวมอบห้าตำลึงให้แก่หมอจางเป็นค่ายา ก่อนจะปล่อยให้สองนายบ่าวพักผ่อนไปตามอัธยาศัย ส่วนตนเองกับเด็กสองคนก็เข้าครัวเตรียมอาหารสำหรับทุกคนเดิมหมอจางคิดจะขอตัวกลับหลังจากการรักษาเสร็จสิ้น แต่พอคิดถึงคำพูดของเยว่อวิ๋นเมื่อครู่ ในใจหมอชราก็เกิดความคิดไม่อาจปล่อยวางขึ้นมาได้ จึงอาศัยประโยคชักชวนให้อยู่กินข้าวด้วยกันของอีกฝ่ายมารั้งอยู่ต่อเพื่อพูดคุยเยว่อวิ๋นไม่รับรู้ถึงความคิดว้าวุ่นในใจของแต่ละคนเลยแม้แต่น้อย เพราะตัวนางเองยามนี้ก็ว้าวุ่นมากพออยู่แล้ว สาเหตุก็เพราะนางเพิ่งจะนึกขึ้นได้หลังจากบอกให้หมอจางอยู่กินอาหารเย็นที่บ้าน นั่นก็คือ...ดูเหมือนว่านางจะทำอาหารไม่เป็นนี่นามุมปากบางกระตุกเล็กน้อย ในบรรดาคนที่อยู่ก็มีแค่บุรุษกับเด็ก นางไม่อาจขอความช่วยเหลือจากใคร เอาเถอะก็แค่ทำอาหารมิใช่หรือ คิดพลางคว้าเอาวัตถุดิบที่วางทิ้งไว้มาจัดการชำแหละเยว่อวิ๋นทำอาหารไม่เป็น แต่นางเชี่ยวชาญการใช้มีดเรื่องการชำแหละจึงไม่มีปัญหา หญิงสาวกรีดใต้ท้องงูเป็นทางยาว ก่อนจะตวัดมีดรอบคอถลกหนังออกมาในคราวเดียวกับกระต่าย

    Last Updated : 2025-04-16
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   สตรีลิ้นยาว (4)

    ด้านต้าเป่าที่ถือชามวิ่งไปยังบ้านหมอจางตามคำสั่งของเยว่อวิ๋นนั้นกำลังประสบปัญหาลำบากใจอย่างยิ่งเนื่องจากกลิ่นหอมของเนื้อกระต่ายในชามลอยเข้าจมูกไม่หยุด เด็กน้อยที่ไม่ได้กินเนื้อมานานเริ่มรู้สึกทรมานกับการฝืนห้ามใจ ขาเล็กๆ จึงซอยเท้าก้าวถี่ขึ้นทุกที“ต้าเป่า เจ้ากำลังจะไปไหน” จู่ๆ ร่างอ้วนกลมก็โดดเข้ามาขวางหน้า ต้าเป่าผงะตกใจจนเกือบทำชามหลุดมือ เด็กชายพลันขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตากลมจ้องมองเด็กชายร่างอ้วนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ“เสี่ยวเกอ”เซี่ยเสี่ยวเกอเป็นบุตรชายคนเดียวของบ้านใหญ่ ปีนี้อายุเต็มเจ็ดขวบแล้ว เนื่องจากเป็นบุตรชายคนเดียว อู๋ซื่อจึงรักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ มีของอะไรดีๆ ก็แอบเก็บไว้ให้เขากินเสมอ ทำให้ลูกพี่ลูกน้องผู้นี้แม้อายุห่างจากต้าเป่าและเสี่ยวอวี้แค่ปีเศษๆ ทว่าร่างกายกลับอวบอ้วนสูงใหญ่กว่าสองพี่น้องมากนัก“เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย” น้ำเสียงตอบกลับของต้าเป่าไม่ดีนัก เนื่องจากในอดีตลูกพี่ลูกน้องคนนี้มักสรรหาวิธีมากลั่นแกล้งตนกับน้องอยู่ตลอด หากถามว่าไม่ชอบใครในบ้านเซี่ยมากที่สุด สำหรับเขาแล้วเซี่ยเสี่ยวเกอย่อมเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน“เจ้ากล้าพูดแบบนี้กับข้าหรือ คอยดูเถอะข้าจะไปฟ

    Last Updated : 2025-04-16
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   คางคกสาวริอ่านหมายปองห่านฟ้าหนุ่ม (1)

    การแสดงออกของเยว่อวิ๋นหนักแน่นชวนให้มั่นใจอย่างยิ่งต้าเป่าเห็นดังนั้นก็รู้สึกมีความเชื่อมั่นขึ้นมา ใบหน้าเล็กที่เคร่งขรึมราวกับผู้ใหญ่พลันผ่อนคลายลงหลายส่วน จากนั้นสามแม่ลูกก็กินอาหารไปพลางพูดคุยสนทนากันไปพลาง ก่อนที่เยว่อวิ๋นจะไปจัดการต้มน้ำร้อนให้ทั้งคู่อาบ“ท่านแม่ไม่อาบกับเสี่ยวอวี้หรือเจ้าคะ” เห็นมารดาถืออ่างน้ำร้อนทำท่าจะเดินออกไป เสี่ยวอวี้ก็รีบร้องถาม เยว่อวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย ฟ้าใกล้มืดแล้ว เซี่ยฉงอวิ๋นร่างกายอ่อนแอไม่ควรเช็ดตัวตอนดึกไม่อย่างนั้นอาจจับไข้ได้“แม่ไปเช็ดตัวให้ท่านพ่อก่อน เจ้ากับพี่ชายแช่น้ำร้อนรอไป เดี๋ยวแม่ทำอะไรเสร็จแล้วจะรีบมาอาบน้ำให้” ถึงรู้ความอย่างไร ต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้ก็ยังเป็นเด็กเล็ก ให้พวกเขาอาบกันเองนางเกรงว่าจะไม่สะอาด“ท่านแม่อาบให้เสี่ยวอวี้คนเดียวก็พอขอรับ” เดิมได้ยินว่าจะให้แช่น้ำกับน้องสาวต้าเป่าก็ไม่อยากอยู่แล้ว พอรู้ว่ามารดาจะอาบน้ำให้ก็รีบปฏิเสธทันทีเยว่อวิ๋นชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวเดิน นางหันไปเลิกคิ้วถามเสียงเรียบ “ทำไมให้อาบแค่เสี่ยวอวี้เล่า”“เสี่ยวอวี้ยังเด็ก แต่ข้าโตแล้วอาบเองได้ขอรับ”เจ้าตัวเล็กกล่าวน้ำเสียงขึงขัง เยว่อวิ๋นฟังแล้ว

    Last Updated : 2025-04-16
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   คางคกสาวริอ่านหมายปองห่านฟ้าหนุ่ม (2)

    แน่นอนว่าความคิดและคำตัดพ้อของแม่เฒ่าเซี่ยส่งไปไม่ถึงเซี่ยฉงอวิ๋นกับเยว่อวิ๋นเลยสักนิดเมื่อรุ่งสางมาเยือน แสงทองเริ่มจับขอบฟ้า เสียงไก่ตัวผู้โก่งคอขันดังเจื้อยแจ้วไปทั่วหมู่บ้าน เยว่อวิ๋นที่หลับเต็มอิ่มมาทั้งคืนก็ตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี นางมองร่างผ่ายผอมที่มีลมหายใจสม่ำเสมอด้านข้าง พลางก้าวลงจากเตียงด้วยฝีเท้าแผ่วเบาวันนี้นางตั้งใจเข้าตำบลจึงลุกมาตระเตรียมมื้อเช้าไว้ให้สามพ่อลูกไว้ก่อนไปข้าวที่ได้รับแบ่งจากการแยกบ้านมาถุงเล็กๆ หุงไปสองมื้อก็หมดเกลี้ยงแล้ว โชคดีที่เมื่อวานได้ไข่นกมารังหนึ่ง รวมกับไข่ไก่ที่เหลืออยู่นำมาต้มก็น่าจะพอให้กินมื้อเช้าได้อิ่ม อีกทั้งวัตถุดิบจากเมื่อวานยังมีนกกับไก่ป่าที่ถูกชำแหละเก็บไว้ นางเก็บผักจิงจูฉ่ายมาเยอะ ถึงเมื่อวานจะต้มไปไม่น้อยแต่ก็ยังเหลือพอให้กินได้อีกหนึ่งมื้อเยว่อวิ๋นพับแขนเสื้อ คว้าหม้อตั้งน้ำโยนทุกอย่างที่เตรียมเสร็จลงใส่ในนั้นรวดเดียว ไม่นานกลิ่นหอมของน้ำแกงไก่กับนกก็ลอยตลบอบอวลในห้องมองแป้งสีกระดำกระด่างในถุงผ้า เยว่อวิ๋นคิดถึงอาหารจำพวกซาลาเปาหมั่นโถวแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ แม่ครัวมากฝีมือแต่จนใจที่ไร้วัตถุดิบ ส่วนนางดีนักมีวัตถุดิบทว่ากล

    Last Updated : 2025-04-16

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   รักษาขาของเซี่ยฉงอวิ๋น (3)

    ฟังเสียงร้องที่ดังแต่ไร้ความจริงใจ มุมปากเยว่อวิ๋นคล้ายจะกระตุกเล็กน้อยกับความปลอมของอีกฝ่าย นางกับเซี่ยหู่ขึ้นเกวียนไปรอรับร่างสามี ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“ออกเดินทางกันเถอะพี่ต้าจวง”แม่เฒ่าเซี่ยถูกเมินเฉยจนตั้งตัวไม่ติด นางคิดไว้แล้วว่าหากถูกเยว่อวิ๋นด่าทอลงมือ ก็จะร้องร่ำไห้คุกเข่าสำนึกผิดตรงนี้ หรือว่าหากอีกฝ่ายห่วงหน้าตาไม่ทำอะไรตัวเอง ก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ติดตามไปด้วยทว่าคิดเสียเยอะแยะกลับไม่เป็นอย่างใจ ความจริงไหนเลยเยว่อวิ๋นจะหันมาสนใจนาง อีกฝ่ายไม่แม้จะมองดูนางด้วยซ้ำ“หยุดนะ!” เห็นเซี่ยต้าจวงทำท่าจะบังคับเกวียนออก แม่เฒ่าเซี่ยก็รีบโดดไปจับเกวียนไว้ทันที ทว่ายังไม่ทันได้แตะถูก วัตถุสีดำบางอย่างก็พุ่งกระทบถูกมือนางเสียก่อน แม่เฒ่าเซี่ยพลันเจ็บปวดจนกรีดร้องออกมา“โอ๊ย!”เยว่อวิ๋นไม่สนท่าทีเจ็บปวดของแม่เฒ่าเซี่ยสักนิด นางหลุบมองก้อนหินเล็กๆ ในมือตัวเองพลางขมวดคิ้วแน่น หญิงสาวครุ่นคิดอย่างหงุดหงิดว่าหากเซี่ยซื่อยังกล้าสร้างความวุ่นวายอีกนางจะดีดลูกหินใส่ดวงตาแม่สามีให้บอดเสียเลย ต่อไปจะได้ไม่ต้องออกจากบ้านมาสร้างความรำคาญให้นางอีกทว่าคิดยังไม่ทันลงมือ เซี่ยฉงอวิ๋นก็ยื่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   รักษาขาของเซี่ยฉงอวิ๋น (2)

    “ท่านแม่ เรื่องนี้ข้าผิดเองขอรับ เป็นเพราะข้าเปิดประตูให้พวกท่านย่าจึงทำให้เกิดเรื่องขึ้น ข้าผิดไปแล้วขอรับ” ต้าเป่าเอ่ยรับผิด เด็กชายกล่าวต่อ “ท่านแม่ ท่านลงโทษข้าเถอะขอรับ”เยว่อวิ๋นไม่ได้พูดอะไรอีก นางเพียงหรี่เปลือกตาลงต่ำพลางแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง“ดีนี่ ปกป้องความผิดกันเอง แล้วโกหกข้าสีหน้าไม่เปลี่ยน ช่างเถอะ ข้าคงลงโทษพวกเจ้าไม่ไหวหรอก”ต้าเป่าได้ยินก็ตกตะลึงอึ้งไปชั่วขณะ เขาไม่รู้ว่ามารดารู้ได้อย่างไรว่าตนเองโกหก แต่ฟังจากน้ำเสียงเขาสัมผัสได้ว่าคราวนี้ท่านแม่มีโทสะแล้วจริงๆแน่นอนว่าเรื่องนี้ต้าเป่าไม่ได้รู้สึกไปเอง เยว่อวิ๋นโกรธแล้วจริงๆ พี่น้องรักใคร่ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การที่อีกฝ่ายโกหกก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเช่นกันอ่างน้ำที่ยังไม่ได้เทน้ำทิ้งกับเซี่ยฉงอวิ๋นในเสื้อผ้าชุดใหม่ ทำให้เยว่อวิ๋นคาดเดาได้ว่าต้าเป่าน่าจะเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับบิดาอยู่ ส่วนเสี่ยวอวี้ที่ไม่เคยเห็นหมูป่ามาก่อนก็น่าจะออกมาดูมัน จากนั้นคนบ้านใหญ่ที่ได้ยินว่านางจับหมูป่าได้ก็น่าจะมาเพื่อส่วนแบ่งต้าเป่าอยู่ข้างในด้านนอกมีเพียงเสี่ยวอวี้ เด็กหญิงถูกคนบ้านใหญ่ทำร้ายมานาน มีความเกรงกลัวซึมลึกถึง

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   รักษาขาของเซี่ยฉงอวิ๋น (1)

    เยว่อวิ๋นใช้ไม้กระบองในมือส่งบ้านใหญ่ออกไป เซี่ยต้าจวงที่เลี่ยงออกมาเห็นว่าพวกเขาจากไป ก็รีบกลับมาจัดการร่างหมูป่าตามความตั้งใจเดิม โดยไม่สนใจจะถามถึงเรื่องที่นางทุบตีคนสักนิดแม้เซี่ยต้าจวงจะเป็นคนซื่อทว่าเขาไม่ได้โง่ ที่ผ่านมาอาสะใภ้สี่ถือดีว่าพวกเขาทำอะไรนางไม่ได้ เอาเปรียบบิดาเขาสร้างปัญหาให้ไว้เว้นวันมายามนี้ในใจเซี่ยต้าจวงจึงคิดเพียงว่าภรรยาฉงอวิ๋นตีได้ดีนัก เหมาะแล้ว สมควรยิ่งคนอย่างอาสะใภ้สี่ก็สมควรต้องเจอแบบนี้แหละ!“น้องสะใภ้ เจ้าจะให้เก็บส่วนไหนไว้หรือไม่” เซี่ยต้าจวงยกร่างหมูป่ามาล้างน้ำเสร็จก็หันมาถามเยว่อวิ๋นเยว่อวิ๋นคิดเล็กน้อย ก่อนจะบอกให้เซี่ยต้าจวงตัดส่วนที่นางต้องการเก็บไว้ ด้วยความชำนาญของอีกฝ่าย ไม่นานส่วนที่ต้องการก็ถูกชำแหละออกมาตามที่ต้องการเห็นดังนั้นเยว่อวิ๋นจึงเดินไปเปิดประตูรั้วออกกว้าง ให้ชาวบ้านที่ต้องการซื้อเนื้อหมูป่าเข้ามาได้หลายคนที่รอด้านนอกพอเห็นประตูเปิด ก็รีบพากันกรูเข้ามาทันที เนื้อหมูป่าได้มายากกว่าหมูบ้าน อีกทั้งเยว่อวิ๋นก็ยังขายให้ในราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย ทำให้เยว่อวิ๋นถูกรุมล้อมจนหัวหมุน“พี่สะใภ้ พวกข้ามาช่วยแล้วเจ้าค่ะ” ในขณะที่กำลังยุ่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   หนังหน้า-หน้าด้าน (3)

    “หยุดนะ! แข็งข้อแล้ว! สะใภ้รองเจ้าคิดจะก่อกบฏอย่างนั้นหรือ!” แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกหลานตัวเองที่ถูกตีจนดิ้นพล่านกับพื้นพลางกรีดเสียงร้องโหยหวนเยว่อวิ๋นไม่สนใจเสียงสาปแช่งของแม่เฒ่าเซี่ย และยิ่งไม่คิดใส่ใจต่อเสียงก่นด่าของคนที่ถูกนางตี นางเตะพวกเขามานอนเรียงรายกันบนพื้น แม้แต่เซี่ยจินกับอู๋ซื่อที่พยายามลดการมีอยู่ของตัวเองสุดชีวิตแล้ว ก็ยังถูกนางสังเกตเห็นและลากจับมารวมกลุ่มทุบตี“เซี่ยหู่ เจ้าไปตามหมอจางมาที พี่ต้าจวงข้ารบกวนพี่ออกไปเฝ้าประตูไว้ให้ทีนะเจ้าคะ เพราะอีกเดี๋ยวคนที่จะมาซื้อเนื้อหมูป่าคงจะมากันแล้ว”เซี่ยหู่หรือจะกล้าขัดขืน เขาเห็นสภาพบ้านสี่แล้วยังนึกสยดสยองไม่หาย ไม่รอให้เยว่อวิ๋นเอ่ยซ้ำเป็นรอบที่สอง ก็ออกวิ่งสุดฝีเท้าตามคำสั่งแต่โดยดีทันที“เอ่อ… ถ้าอย่างนั้นข้าออกไปดูคนให้นะ” เซี่ยต้าจวงกล่าวอย่างอึกอัก พยายามหลบเลี่ยงสายตาขอความช่วยเหลือของแม่เฒ่าเซี่ยสุดชีวิต พลางก่นว่าน้องชายที่ตัดช่องน้อยเอาตัวรอดคนเดียวในใจไม่หยุด“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ ก่อกบฏงั้นสินะ” เยว่อวิ๋นพลันรู้สึกขันจนพูดไม่ออก ชาติที่แล้วนางก็ตายตกด้วยข้อหานี้มิใช่หรือ “ข้าก่อกบฏอย่างไร พวกเจ้าเป็นเชื้อพร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   หนังหนา-หน้าด้าน (2)

    มุมปากแม่เฒ่าเซี่ยเบี้ยวไปชั่วขณะ คล้ายคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้“จะ เจ้า เจ้าไม่เคารพผู้อาวุโส” กล่าวจบนางก็ทำท่าจะหวีดร้องโวยวาย ทว่ากลับเห็นเยว่อวิ๋นหมุนร่างไปสั่งเซี่ยหูเสียก่อน“ปิดประตูซะ”เซี่ยหู่ที่ตามหลังมาพลันสะดุ้งเฮือก เขาสบสายตาเย็นชาของเยว่อวิ๋นแล้วรีบปิดประตูรั้วเสียงดังโครมโดยไม่ต้องให้เอ่ยย้ำ“สะ… สะใภ้รองเจ้าคิดจะทำอะไร” แม่เฒ่าเซี่ยข่มความหวาดกลัวพลางถามด้วยน้ำเสียงสั่นไหว“ฝีมือใคร” เยว่อวิ๋นไม่ได้ตอบคำถามของแม่เฒ่าเซี่ย ทว่ากลับเดินไปหยุดตรงหน้าเด็กสองคน พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้ากลมเล็กของเสี่ยวอวี้เบาๆ “ใครเป็นคนทำ”เสี่ยวอวี้อยู่ร่วมกับเยว่อวิ๋นจนคุ้นชินแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่สัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่ลึกถึงกระดูก เด็กหญิงพลันบังเกิดความหวาดกลัวในตัวอีกฝ่ายอย่างไร้สาเหตุ“ซะ… เซี่ยเสี่ยวเกอ กะ กับท่านอาเล็กเจ้าค่ะ”พอเปิดประตูให้พวกเขาเข้ามา เซี่ยเสี่ยวเกอก็โวยวายจะเอาขนมในมือนาง พอนางไม่ยอมให้ท่านอาเล็กที่เดินตามมาก็ตบหน้านาง คิดแล้วเสี่ยวอวี้ก็ดวงตาแดงก่ำ น้ำใสๆ ร่วงหล่นราวสายน้ำหลากตั้งแต่แยกครอบครัวมา เสี่ยวอวี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เยว่อวิ๋นอย่าว่าแต

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   หนังหนา-หน้าด้าน (1)

    เกิดเติบโตมายี่สิบกว่าปี ครั้งแรกที่รู้สึกสนใจสตรีนางหนึ่ง ก็พบว่าหนทางเชื่อมหาคนถูกปิดตายหมดเสียแล้ว กู้เหยียนเซียวพลันส่ายหน้าจนใจบนถนนที่ขรุขระมีเสียงฝีเท้าและลมหายใจของม้าดังให้ได้ยินเป็นระยะ จึงไม่มีใครสังเกตถึงเสียงถอนลมหายใจอ่อนเบาของใครบางคนช่างน่าเสียดาย…เยว่อวิ๋นที่กำลังดีใจไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังนึกเสียดายโชคชะตาที่มาช้าไปนี้หญิงสาวกลับเข้าห้องไปบอกเรื่องราวกับเซี่ยฉงอวิ๋น ถึงกำหนดการผ่าตัดขาของเขาในวันพรุ่งนี้อย่างอารมณ์ดีหลังจากพูดคุยกับสามีเรื่องเดินทางไปหงจือหลินวันพรุ่งนี้จบ เยว่อวิ๋นก็เข้าครัวจัดการอาหารมื้อเช้าของครอบครัวอย่างเรียบง่าย ก่อนจะสะพายตะกร้ามุ่งหน้าขึ้นภูเขา โดยทิ้งให้ต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้คอยอยู่ดูแลบิดาช่วงที่ผ่านมาเยว่อวิ๋นฟื้นร่างกายกลับมาจนเกือบเป็นปกติแล้ว การขึ้นภูเขาจึงไม่ใช่เรื่องยากลำบากแต่อย่างใด นางใช้เวลาเดินเท้าเพียงไม่นานก็มาถึงหลุมกับดักสัตว์เพราะที่บ้านไม่ได้ขาดแคลนเนื้อสัตว์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เยว่อวิ๋นที่มีเรื่องให้ต้องจัดการมากมายในแต่ละวัน จึงแวะเวียนมาดูสัตว์ในหลุมสองถึงสามวันต่อครั้งเท่านั้นเสียงกู่ร้องของสัตว์บาดเจ็บดังกั

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้อตกลง (2)

    ต้นยามเหม่า[1] ท้องฟ้ายังมืดสลัวไม่สว่างดี เยว่อวิ๋นที่ตื่นมาล้างหน้าล้างตาแต่เช้า ก็พาสองซาลาเปาน้อยออกมาฝึกร่างกายเหมือนทุกทีหลายวันมานี้ช่วงเช้าเยว่อว๋นจะพาทั้งคู่ออกมาฝึกท่านั่งม้าตลอด จากที่แรกๆ เคยยืนขาสั่นตัวเอียง ยามนี้แม้แต่เสี่ยวอวี้น้อยก็สามารถยืนได้มั่นคงแล้ว“ท่านแม่ ครบชั่วยามหรือยังขอรับ” ต้าเป่าร้องถามมารดา ใบหน้าน้อยๆ ผุดไรเหงื่อชื้นไม่ต่างจากน้องสาวเยว่อวิ๋นมองแขนที่เริ่มตกกับขาที่เริ่มสั่นเพราะความล้าแล้วอมยิ้มเล็กน้อย ความจริงยังขาดไปอีกสองเค่อ แต่หญิงสาวก็พยักหน้าให้บุตรชาย“ต้าเป่ามานี่สิ” เยว่อวิ๋นก้าวมาหยุดยืนหน้าเสาไม้ต้นหนึ่งในลาน ซึ่งเสาไม้เหล่านี้ล้วนเป็นนางที่นำมาปักไว้ทั้งสิ้น“ขอรับ” ต้าเป่าได้ยินก็รีบวิ่งมาตามคำสั่งทันที เสี่ยวอวี้เห็นดังนั้นก็วิ่งตามพี่ชายมาอีกคน“เมื่อวานแม่บอกจะสอนวิชาหมัดให้เจ้า จำได้ไหม”“จำได้ขอรับ” เด็กชายรับคำดวงตาเป็นกายยินดี ต่อให้มีนิสัยสุขุมแค่ไหนอย่างไรเสียก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง เยว่อวิ๋นพาเขาฝึกท่านั่งม้ามาหลายวัน ต้าเป่าที่ไม่เข้าใจว่านี่คือการฝึกพื้นฐานก็อดเบื่อไม่ได้อยู่ดี“วิชานี้ชื่อว่าวิชาหมัดเหล็ก เดิมทีเจ้าของวิชาไ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้อตกลง (1)

    นับว่าเป็นความโชคดีของสวีเหยา ที่เสียงคำรามของนางถูกข่มกลั้นไว้แค่ในลำคอ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเยว่อวิ๋นได้ยินคงหันกลับมาประเคนฝ่าเท้าให้นางอีกทีเป็นแน่เห็นว่าไม่มีละครสนุกๆ ให้ดูแล้ว บรรดาชาวบ้านมุงก็พากันแยกย้ายสลายตัว ในลานบ้านที่เงียบสงัดจึงเหลือเพียงแม่ลูกสกุลจางกับสวีเหยาและเซี่ยหว่านหรูหลัวซื่อคิดถึงเงินห้าตำลึงที่จะต้องเสีย ในใจเจ็บปวดแทบหลั่งเลือด นางนึกก่นด่าตัวเองเป็นร้อยรอบ ว่าทำไมตอนที่เยว่อวิ๋นมาพูดเรื่องบุตรชายรุมทุบตีต้าเป่า ตัวเองถึงได้ไปยั่วโมโหอีกฝ่ายจนเรื่องราวลุกลามใหญ่โตเช่นนี้กันมาถึงตอนนี้ต่อให้ยอมรับผิดก็ไร้ประโยชน์แล้ว คิดถึงใบหน้าสามีหลังรู้ว่านางทำให้ต้องเสียเงินถึงห้าตำลึง หลัวซื่อก็แทบร่ำไห้ออกมาเป็นสายเลือด พอเห็นสวีเหยากับเซี่ยหว่านหรูความขุ่นเคืองก็ยิ่งพุ่งสูงจนไม่มีสีหน้าดีๆ ให้เห็น“เพราะเจ้า…” หลัวซื่อกัดฟันคำรามลั่น นางอยากวิ่งเข้าไปตบคนตรงหน้าสักหลายที ทว่าถึงสวีเหยาจะเป็นลูกของน้องสาวสามี แต่หลัวซื่อก็รู้ดีว่าตนไม่มีสิทธิ์ไปตบตีอีกฝ่าย นางจึงได้แต่หันหน้าหนี ถือคติตามองไม่เห็นใจก็ไม่คิดเสียทว่าพอหันหนีมาอีกด้านสายตาก็พลันสบกับเซี่ยหว่านหรู ในใจ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้นตอของข่าวลือ (4)

    เยว่อวิ๋นไม่รู้ความคิดของคนเหล่านี้ หากนางรู้คงปรบมือให้พวกเขาแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า ‘ยินดีด้วย พวกเจ้าเดาถูกแล้ว’ เป็นแน่ถูกแล้ว นางจงใจพูดทำลายชื่อเสียงเซี่ยหว่านหรู ก็แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่ออีกฝ่ายป่าวประกาศไปทั่วว่านางคบชู้ แล้วทำไมนางจะโยนคำว่าบ้าผู้ชายใส่ศีรษะอีกฝ่ายบ้างไม่ได้ล่ะโดนตบแก้มซ้ายแล้วยังจะให้ยื่นแก้มขวาให้โดยไม่ตีคืนงั้นหรือ เฮอะ! ฝันไปเถอะ นางไม่ใช่พระโพธิสัตว์เสียหน่อย!ผู้ใหญ่บ้านเองก็คิดไม่ต่างจากคนอื่น แต่เขาก็เห็นด้วยกับที่เยว่อวิ๋นบอกเหมือนกัน จึงหันไปถามกับหลัวซื่ออีกครั้ง“หลัวซื่อ ที่เถี่ยตั้นพูดมาทั้งหมด ที่แท้มาจากตัวเจ้าเองที่กล่าวใช่หรือไม่!”หลัวซื่ออ้าปากอึกอัก นางไม่คิดว่านิสัยพูดไม่คิดของเซี่ยหว่านหรูจะเปิดเผยความผิดพลาดของตัวเองออกมาในเวลานี้ ยิ่งเห็นใบหน้าเคร่งขรึมจริงจังของผู้ใหญ่บ้าน คำพูดบอกปัดที่คิดเอาไว้ก็ติดอยู่ที่ริมฝีปาก“ข้า…”“ในฐานะสตรีคนหนึ่ง ชื่อเสียงถือได้ว่าสำคัญยิ่งกว่าชีวิต การปล่อยข่าวลือเช่นนี้ออกมา ก็เหมือนกับคนผู้นั้นต้องการฆ่าข้า หากวันนี้เรื่องราวไม่กระจ่าง ข้าจะไปตีกลองร้องทุกข์ที่ว่าการ” ก่อนที่หลัวซื่อจะพูดต่อ เสียงราบ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status