Home / รักโบราณ / ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม / ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (1)

Share

ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (1)

“ในเมื่อรู้ตัวว่าเสียมารยาท แล้วเจ้าจะยังยืนอยู่ต่อทำไมอีก ไม่รีบไสหัวไปให้พ้นหน้าคุณชายข้าเล่า”

รอยยิ้มบนใบหน้าเซี่ยหว่านหรูยังไม่ทันจางหาย เสียงเข้มๆ ของลู่จิ่วก็ดังขึ้น

“มาเยือนเรือนผู้อื่น ไม่ทันกล่าววาจาเรียกเจ้าของบ้าน ก็แล่นเข้ามาในห้องของคนอื่น นี่ไม่ถือว่าเสียมารยาทหรอก แต่เจ้าก็แค่ไม่มีมารยาทเท่านั้นเอง”

คุณชายเขาเป็นใคร หมาแมวคางคกที่ไหนก็นึกหมายปองได้อย่างนั้นหรือ

“จะ เจ้า” เซี่ยหว่านหรูใบหน้าแดงเถือกพูดอะไรไม่ออก “ข้ามีธุระกับหมอจางต่างหาก” นางรีบกล่าวอ้าง

“มีธุระกับข้า” หมอจางงงงวยเล็กน้อย ร้อยวันพันปีบุตรสาวคนเล็กของแม่เฒ่าเซี่ยผู้นี้ หากไม่ปรายตามองดูถูกคนอื่น ก็แหงนหน้าเดินเอาจมูกชี้ฟ้าตลอดนั่นแหละ มีหรือจะมาหาพูดคุยกับเขาแบบนี้

“ก็ใช่น่ะสิ เจ้าเป็นหมอรักษาพี่ชายข้ามิใช่หรือ ขะ ข้ามาสอบถามอาการเขา” นางกล่าวด้วยท่าทางน่าสงสาร ใบหน้าที่มีริ้วรอยของความอับอายประหนึ่งจะร่ำไห้ ทว่าในใจนั้นก่นด่าลู่จิ่วไม่มีชิ้นดี บ่าวสมควรตายนี่กล้าดีอย่างไรมาพูดกับนางแบบนี้ รอให้นางได้แต่งให้เจ้านายเขาก่อนเถอะ

“เพราะข้าเป็นห่วงพี่ชาย ถึงได้ทำเรื่องเสียมารยาทไป หวังว่าคุณชายจะไม่ถือสา” กล่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (2)

    “น่ะ…นี่” คนจัดยาแสดงความลังเล มองเยว่อวิ๋นที มองท่านหมอของร้านที ตั้งแต่แม่นางผู้นี้เข้ามา ก็สั่งให้เขาจัดยาเป็นรายการยาว แต่ละชื่อที่เอ่ยออกมาล้วนไม่มีผิดเพี้ยน แสดงให้เห็นชัดเจนว่านางมีความรู้และเชี่ยวชาญในด้านนี้“ผู้หญิงคนนี้เจ้าพูดอะไรของเจ้า” คนจัดยายังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ เสียงตะคอกดุดันของหมอที่ถูกพูดถึงก็ดังขึ้นเสียก่อน“ท่านหมอจู” เฉียนซานถอนลมหายใจ เขามองท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของหมอจูด้วยสีหน้าไม่สู้ดี ในบรรดาหมอของร้านหงจือหลินทั้งหมดจูจ้งผู้นี้นิสัยแย่น่ารำคาญสุดๆ แล้ว แม่นางน้อยพูดจาล่วงเกินเขาย่อมไม่ปล่อยผ่านเป็นแน่“นางเป็นเพียงเด็กสาวอ่อนด้อยประสบการณ์จะไปรู้เรื่องอะไร ท่านหมอจูเป็นผู้อาวุโสย่อมไม่ถือสาผู้น้อย อย่าไปอารมณ์เสียกับเด็กไม่รู้ความเลยขอรับ”พอเขาพูดจบก็หันมาตะคอกเยว่อวิ๋น “ท่านหมอจู้เป็นผู้ใหญ่ไม่เอาความเจ้ายังไม่รีบขอบคุณอีกรึ”เยว่อวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเคร่งขรึมไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก นางเห็นเด็กที่ถูกอุ้มเข้าไปตรวจแล้วว่าอาการไม่สู้ดีนัก ตอนที่เด็กถูกอุ้มออกมาจึงลอบเดินผ่านอาศัยช่วงคนอุ้มไม่ระวังจับชีพจรดูนางเคยเห็นคนอาการแบบนี้มาก่อน พอได้ยินคนจั

    Last Updated : 2025-04-17
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (3)

    เยว่อวิ๋นที่ไม่รู้ความคิดในใจชิงหลัว ยังคงเดินซื้อของอย่างบ้าคลั่ง ทุกร้านที่นางไปเยือนล้วนมีข้าวของกองโตกองอยู่หน้าร้านไม่ต่างกัน โชคดีที่แต่ละร้านมีน้ำใจให้คนช่วยยกไปส่งยังที่จอดเกวียนของเซี่ยต้าจวง หญิงสาวจึงไม่ต้องแบกของเหล่านั้นจนหลังแอ่น“พี่สะใภ้ ยังต้องการจะซื้ออะไรเพิ่มอีกหรือไม่” ชิงหลัวหันมาถามเมื่อเยว่อวิ๋นจ่ายเงินค่าผ้าให้กับทางร้านเสร็จ นางมองดูเสื้อผ้าสำเร็จที่เยว่อวิ๋นซื้อให้สามพ่อลูกคนด้วยความปวดใจพี่สะใภ้รองบ้านสี่ใช้จ่ายได้ฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว เสื้อผ้าสำเร็จพวกนี้ราคาแพงกว่าซื้อผ้าเปล่าไปตัดเองเกือบเท่าตัว หากเป็นนางต่อให้มีเงินก็คงตัดใจซื้อไม่ลงเป็นแน่เยว่อวิ๋นมีหรือจะล่วงรู้ถึงความปวดใจของชิงหลัว ในบ้านนางเวลานี้มีเพียงคนป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้กับไชเท้าน้อยที่แคระแกร็นอีกสองหัว หากซื้อผ้าไปตัดเย็บเองก็ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน คิดถึงความเร่งด่วนในการใช้ กับงานบ้านที่แทบจะล้นมือ สามารถจ่ายเงินเพื่อแก้ปัญหาได้นับเป็นเรื่องดีสุดแล้วหญิงสาวสั่งชุดสำเร็จสีน้ำเงินกับดำมาให้เซี่ยฉงอวิ๋นสองชุด แม้เนื้อผ้าจะไม่ดีมากนัก ทว่าเทียบกับชุดที่เขาใส่อยู่ตอนนี้ย่อมดีกว่าอ

    Last Updated : 2025-04-17
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าดูเป็นคนมีเมตตาขนาดนั้นเลยหรือ (4)

    เยว่อวิ๋นไม่สนใจท่าทางโศกเศร้าอันไม่รู้ที่มาของชิงหลัว นางสอดส่ายสายตามองหาร้านของกิน ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับแผงขายเกี๊ยวน้ำด้านข้าง“ไปเถอะน้องสะใภ้ ข้าจะเลี้ยงอาหารเช้าเจ้า” พูดจบไม่รอให้ชิงหลัวตอบ ก็เดินนำหน้าไปยังเก้าอี้ตัวเตี้ยด้านหน้าร้านทันที“เถ้าแก่ เกี๊ยวน้ำสองชาม” เยว่อวิ๋นร้องสั่ง เถ้าแก่วัยกลางคนเงยหน้ารับคำด้วยรอยยิ้ม “ได้เลย นั่งรอก่อนนะ”“พี่สะใภ้ หากท่านหิวก็สั่งมาชามหนึ่งเถอะ ขะ ข้ากินมาแล้วเจ้าค่ะ” พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ดวงตาเหลือบมองไปทางหม้อลวกเกี๊ยวอย่างอาลัยอันที่จริงนางยังไม่ทันกินอาหารอย่างที่บอก เพราะพอตื่นลุกจากที่นอน พ่อสามีก็มาบอกสามีให้ไปดูครอบครัวพี่รองบ้านสี่ นางที่ติดตามพี่สะใภ้มาตลาดจึงไม่มีโอกาสได้กลับไปกินข้าวเช้าเพียงแต่เกี๊ยวน้ำนี่ราคาชามละตั้งสองอีแปะต่อให้หิวแค่ไหนนางก็ไม่กล้ากินหรอก“น้องสะใภ้เจ้าอย่าเกรงใจไปเลย ข้ารบกวนเจ้าตั้งแต่เช้า เลี้ยงเกี๊ยวน้ำหนึ่งชามนับว่าเอาเปรียบเจ้าแล้ว”“เอาเปรียบอะไร พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ข้าช่วยเหลือพี่สะใภ้นี่ถือเป็นเรื่องปกติ” ชิงหลัวเป็นเพียงหญิงสาวชนบทนิสัยซื่อสัตย์ ได้ยินแบบนั้นก็

    Last Updated : 2025-04-17
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าสามารถรับคำขอบคุณเป็นเงินได้ (1)

    “เจ้า!นางหญิงบ้านี่” จูจ้งสบถเสียงลั่น อยากลุกมาทุบตีคนที่ลงมือทำร้ายตนเองใจแทบขาดทว่าความเจ็บปวดจากกระดูกนิ้วที่บิดเบี้ยวทำให้เขาทรมานแทบตาย ไม่ต้องให้เยว่อวิ๋นลงมือซ้ำ เขาก็ร่ำไห้กรีดร้องขอความเมตตาไม่หยุดปากแล้ว“แม่นาง ท่านหมอจูเสียมารยาทจึงถูกสั่งสอนก็สมควรแล้ว แต่เรื่องของคุณหนูพวกเรานั้นหมดหนทางแล้วจริงๆ ขอร้องท่านโปรดให้ความช่วยเหลือด้วยเถอะขอรับ” เฉียนซานไม่สนใจหมอจู เขาก้าวเข้ามาประสานมือขอร้องหญิงสาวตรงหน้าอย่างนอบน้อมเยว่อวิ๋นมีความสงสารเด็กน้อยอยู่เป็นทุนเดิม ไม่อย่างนั้นนางคงไม่ออกปากเตือนจูจ้งแต่แรก อีกทั้งยังลงมือทำบางอย่างลงไปด้วย“นำทางสิ” หากไม่เพราะนางจงใจสั่งสมุนไพรเฉ่าเย่ที่สามารถออกฤทธิ์ทางกลิ่นออกมาในยามนั้น อาการของเด็กน้อยมีหรือแสดงออกให้เห็นเร็วเพียงนี้เพราะกลิ่นของเฉ่าเย่ไปกระตุ้นตัวยาที่ถูกสั่งจ่ายให้ออกฤทธิ์เร็วขึ้น ต่อให้พวกเขาไม่มาตามหานาง ก็ต้องพาเด็กไปหาหมอคนอื่น เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เจ้าหมอเถื่อนนี่สั่งยาไม่เหมาะกับอาการของเด็กก็จะถูกเปิดเผยออกมาเพียงแต่คาดไม่ถึงว่าความเจ้าคิดเจ้าแค้นของเจ้าหมอเถื่อนนี่จะมีมากนัก จนทำให้อีกฝ่ายถึงกับเกือบจะคาดเดา

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าสามารถรับคำขอบคุณเป็นเงินได้ (2)

    เยว่อวิ๋นชะงักไปเล็กน้อย ฟังจากคำพูดพอเดาได้ว่าคงเป็นเจ้านายของหงจือหลิน ทว่าเสียงของผู้มาใหม่นั้นฟังดูอ่อนเยาว์จนคาดไม่ถึง นางจึงอดหันมองไปยังต้นเสียงมิได้ครั้นหันไปมองสายตาก็เห็นเห็นบุรุษหนุ่มวัยประมาณยี่สิบปีผู้หนึ่ง คนผู้นั้นก้าวเข้ามายืนนิ่งอยู่หน้าประตู ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเรียบเฉย ทว่าความเย็นชาและความน่าเกรงขามที่สะท้อนออกมานั้นทำให้คนมิอาจมองข้าม“ถ้าหากนางรักษาเยี่ยนเยี่ยนได้ ก็แสดงว่าเจ้าวินิจฉัยผิดพลาด ถึงตอนนั้นหมอจูเจ้าจะต้องยอมรับผลที่ตามมา”“นายท่าน!” จูจ้งอุทาน ใบหน้าซีดขาว “เรื่องนี้…”กู้เหยียนเซียวไม่รอให้หมอจูพูดต่อก็ยกมือห้าม ชายหนุ่มหันไปทางเยว่อวิ๋นแล้วก่อนจะเอ่ยเนิบๆ “รบกวนแม่นางแล้ว”“นายท่าน อย่าหลงเชื่อนางนะขอรับ นางก็แค่พวกสิบแปดมงกุฏที่หวังคิดจะมาหลอกเอาเงิน ไม่ใช่หมอมีฝีมืออะไร” จูจ้งตะโกนค้านเสียงดังเพื่ออนาคตของตัวเอง จูจ้งรู้ดีว่าไม่ควรให้มีการรักษาเกิดขึ้น เพราะหากพิสูจน์ได้ว่าความผิดพลาดเกิดจากการที่เขาตรวจโรคผิด จนทำให้อาการคุณหนูทรุดมานานขนาดนี้ เขาต้องถูกขับออกจากหงจือหลินเป็นแน่เห็นเยว่อวิ๋นขมวดคิ้วชะงักมือที่กำลังจะลงเข็มค้างไว้ ความเย็นชาในแ

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้าสามารถรับคำขอบคุณเป็นเงินได้ (3)

    นางเอ่ยคำพูดเรียบง่ายทว่าตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่เฉียนซานกับหลันอีจะตกตะลึงพูดไม่ออก กู้เหยียนเซียวที่มีท่าทีสุขุมมาตลอดเองยังนิ่งอึ้งอยู่เป็นนานที่แท้บุญคุณของพวกเขาก็สามารถทดแทนได้ด้วยเงิน กู้เหยียนเซียวหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก อำนาจความมั่งคั่งที่พวกตนยึดติด ในใจสตรีชาวบ้านคนหนึ่งยังมิสู้เงินตำลึงเสียด้วยซ้ำคิดพลางเผยรอยยิ้มอ่อนจางสายหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว”เยว่อวิ๋นไม่มองท่าทีประดักประเดิดของเขา นางไม่มีความคิดอยากประจบประแจงผู้อื่นอยู่แล้ว ทำไมต้องสนใจว่าอีกฝ่ายจะมองตนอย่างไรด้วยเล่าความเงียบก่อตัวขึ้นในห้อง หลันอีไม่เข้าใจถึงคลื่นใต้น้ำระหว่างน้องสามีกับเยว่อวิ๋น ทว่านางมองออกถึงท่าทีขีดเส้นแบ่งแยกของหญิงสาวตรงหน้า จึงไม่กล่าวคำพูดอะไรออกมาอีก“เยี่ยนเยี่ยน เป็นอย่างไรบ้างลูก” เห็นร่างเล็กบนเตียงมีการเคลื่อนไหว หลันอีส่งเสียงขึ้นมาอย่างยินดี เยว่อวิ๋นเดินเข้าไปคว้าข้อมือเด็กหญิงมาตรวจดูชีพจรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผงกศีรษะกล่าว“ที่ไข้ไม่ยอมลดเพราะในตัวเด็กมีพิษร้อนสะสมอยู่ ข้าได้ฝังเข็มขับความร้อนออกมาแล้ว ให้กินยาตามที่เขียนไว้ต่ออีกห้าวัน ในช่วงนี้หากมีอาการตัวร้อนก็ให้ใ

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   เจ้ายอมรับได้หรือไม่ (1)

    “พี่สะใภ้ พวกเขาไม่ได้สร้างความลำบากให้ท่านใช่หรือไม่”เห็นเยว่อวิ๋นเดินออกมา ชิงหลัวที่รออยู่ก็รีบเข้ามาไต่ถามด้วยความเป็นห่วงทันที สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าตอนเห็นหมอจูถูกลากออกมา ในใจนางหวาดกลัวแค่ไหน“ไม่นี่ จบเรื่องแล้วพวกเราไปซื้อขนมแล้วกลับกันเถอะ” เยว่อวิ๋นกล่าวยิ้มๆ ในใจยิ่งรู้สึกดีกับสาวน้อยตรงหน้าขึ้นมาอีกโข ทั้งที่หวาดกลัวแต่อีกฝ่ายก็ยังยืนหยัดรอนางออกมาไม่ยอมจากไปก่อนโดยไม่รอฟังคำตอบ เยว่อวิ๋นก็ลากชิงหลัวมุ่งหน้าไปยังร้านขนมฝั่งตรงข้ามหงจือหลินทันที นางใช้จ่ายดุจพายุไปอีกเกือบสองตำลึง จากนั้นจึงค่อยพากันเร่งฝีเท้ากลับยังจุดจอดเกวียนที่นัดไว้กับเซี่ยต้าจินตอนที่พวกนางมาถึงที่เกวียนวัวจอด ก็เห็นเซี่ยต้าจินกำลังคอยอยู่ด้วยสีหน้าเป็นกังวล เยว่อวิ๋นรู้ว่าตนเองทำให้ผู้อื่นต้องเสียเวลาแล้ว จึงเข้าไปกล่าวขออภัยอย่างตรงไปตรงมา“ข้าทำธุระนานไปหน่อย ทำให้พี่ต้าจินต้องรอแล้ว”เซี่ยต้าจินเป็นคนเรียบง่าย เดิมเขาเห็นชิงหลัวกับเยว่อวิ๋นถึงเวลาแล้วยังไม่มา ในใจก็นึกร้อนรนเกรงว่าพวกนางจะมีอันตราย สีหน้าที่แสดงออกจึงไม่ค่อยดีนัก ยามนี้เห็นคนกลับมาไม่มีปัญหาอะไร รอยยิ้มอารมณ์ดีพลันค่อยกลับคื

    Last Updated : 2025-04-21
  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   เจ้ายอมรับได้หรือไม่ (2)

    อู๋ซื่อเสแสร้งเสียจนเคยชิน ยามนี้ถูกเยว่อวิ๋นเอาความจริงมาพูดแบบตรงไปตรงมา นางพลันพูดไม่ออกได้แต่ยืนบื้อใบ้ไร้คำกล่าว ใบหน้าเห่อร้อนราวกับถูกคนตบก็ไม่ปานแน่นอนว่าอู๋ซื่อย่อมนึกอยากโต้แย้งเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง ว่าสิ่งที่เยว่อวิ๋นเอ่ยมานั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทว่านางกลับคิดไม่ออกว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดีทางด้านหลัวซื่อเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร นางไม่เข้าใจจริงๆ ยามปกติเวลาผู้หญิงในหมู่บ้านทะเลาะกัน ใครบ้างเล่าไม่ก่นด่าร่ำไห้โวยวายหาข้อให้ตนเองได้เปรียบนางไม่เคยเห็นผู้ใดเป็นเหมือนคนตรงหน้า ที่แค่เอ่ยปากไม่กี่คำก็จะลงมือตบตีคนเสียแล้ว“สะใภ้รองเซี่ย เจ้ารังแกคนเกินไปแล้ว” หลัวซื่อกล่าว นางโกรธจนแทบพูดไม่เป็นคำพูด เยว่อวิ๋นเลิกคิ้วสูง เอ่ยประโยคสั้นๆ คล้ายไม่ใส่ใจ “เจ้าจะลองดูก็ได้นะ”ไม่ใช่ว่าหลัวซื่อไม่อยากลอง แต่พอคิดถึงภาพเซี่ยหยวนชางเมื่อตอนเช้า นางก็ไม่กล้าเสี่ยงหาเรื่องเจ็บตัว“ฮึ! ถือว่าข้าตาบอดไปเองแล้วกัน” เซี่ยหยวนชางเป็นบุรุษยังถูกอีกฝ่ายฟาดจนศีรษะแทบทิ่มนางหรือจะรอดเมื่อหลัวซื่อกับอู๋ซื่อยอมถอย จ้าวซื่อกับหญิงสาวที่ชื่อสวีเหยาก็ไม่กล้าสอดปากวุ่นวายอีก เยว่อวิ๋นก

    Last Updated : 2025-04-21

Latest chapter

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   รักษาขาของเซี่ยฉงอวิ๋น (3)

    ฟังเสียงร้องที่ดังแต่ไร้ความจริงใจ มุมปากเยว่อวิ๋นคล้ายจะกระตุกเล็กน้อยกับความปลอมของอีกฝ่าย นางกับเซี่ยหู่ขึ้นเกวียนไปรอรับร่างสามี ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“ออกเดินทางกันเถอะพี่ต้าจวง”แม่เฒ่าเซี่ยถูกเมินเฉยจนตั้งตัวไม่ติด นางคิดไว้แล้วว่าหากถูกเยว่อวิ๋นด่าทอลงมือ ก็จะร้องร่ำไห้คุกเข่าสำนึกผิดตรงนี้ หรือว่าหากอีกฝ่ายห่วงหน้าตาไม่ทำอะไรตัวเอง ก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ติดตามไปด้วยทว่าคิดเสียเยอะแยะกลับไม่เป็นอย่างใจ ความจริงไหนเลยเยว่อวิ๋นจะหันมาสนใจนาง อีกฝ่ายไม่แม้จะมองดูนางด้วยซ้ำ“หยุดนะ!” เห็นเซี่ยต้าจวงทำท่าจะบังคับเกวียนออก แม่เฒ่าเซี่ยก็รีบโดดไปจับเกวียนไว้ทันที ทว่ายังไม่ทันได้แตะถูก วัตถุสีดำบางอย่างก็พุ่งกระทบถูกมือนางเสียก่อน แม่เฒ่าเซี่ยพลันเจ็บปวดจนกรีดร้องออกมา“โอ๊ย!”เยว่อวิ๋นไม่สนท่าทีเจ็บปวดของแม่เฒ่าเซี่ยสักนิด นางหลุบมองก้อนหินเล็กๆ ในมือตัวเองพลางขมวดคิ้วแน่น หญิงสาวครุ่นคิดอย่างหงุดหงิดว่าหากเซี่ยซื่อยังกล้าสร้างความวุ่นวายอีกนางจะดีดลูกหินใส่ดวงตาแม่สามีให้บอดเสียเลย ต่อไปจะได้ไม่ต้องออกจากบ้านมาสร้างความรำคาญให้นางอีกทว่าคิดยังไม่ทันลงมือ เซี่ยฉงอวิ๋นก็ยื่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   รักษาขาของเซี่ยฉงอวิ๋น (2)

    “ท่านแม่ เรื่องนี้ข้าผิดเองขอรับ เป็นเพราะข้าเปิดประตูให้พวกท่านย่าจึงทำให้เกิดเรื่องขึ้น ข้าผิดไปแล้วขอรับ” ต้าเป่าเอ่ยรับผิด เด็กชายกล่าวต่อ “ท่านแม่ ท่านลงโทษข้าเถอะขอรับ”เยว่อวิ๋นไม่ได้พูดอะไรอีก นางเพียงหรี่เปลือกตาลงต่ำพลางแค่นเสียงออกมาคำหนึ่ง“ดีนี่ ปกป้องความผิดกันเอง แล้วโกหกข้าสีหน้าไม่เปลี่ยน ช่างเถอะ ข้าคงลงโทษพวกเจ้าไม่ไหวหรอก”ต้าเป่าได้ยินก็ตกตะลึงอึ้งไปชั่วขณะ เขาไม่รู้ว่ามารดารู้ได้อย่างไรว่าตนเองโกหก แต่ฟังจากน้ำเสียงเขาสัมผัสได้ว่าคราวนี้ท่านแม่มีโทสะแล้วจริงๆแน่นอนว่าเรื่องนี้ต้าเป่าไม่ได้รู้สึกไปเอง เยว่อวิ๋นโกรธแล้วจริงๆ พี่น้องรักใคร่ย่อมไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การที่อีกฝ่ายโกหกก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเช่นกันอ่างน้ำที่ยังไม่ได้เทน้ำทิ้งกับเซี่ยฉงอวิ๋นในเสื้อผ้าชุดใหม่ ทำให้เยว่อวิ๋นคาดเดาได้ว่าต้าเป่าน่าจะเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับบิดาอยู่ ส่วนเสี่ยวอวี้ที่ไม่เคยเห็นหมูป่ามาก่อนก็น่าจะออกมาดูมัน จากนั้นคนบ้านใหญ่ที่ได้ยินว่านางจับหมูป่าได้ก็น่าจะมาเพื่อส่วนแบ่งต้าเป่าอยู่ข้างในด้านนอกมีเพียงเสี่ยวอวี้ เด็กหญิงถูกคนบ้านใหญ่ทำร้ายมานาน มีความเกรงกลัวซึมลึกถึง

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   รักษาขาของเซี่ยฉงอวิ๋น (1)

    เยว่อวิ๋นใช้ไม้กระบองในมือส่งบ้านใหญ่ออกไป เซี่ยต้าจวงที่เลี่ยงออกมาเห็นว่าพวกเขาจากไป ก็รีบกลับมาจัดการร่างหมูป่าตามความตั้งใจเดิม โดยไม่สนใจจะถามถึงเรื่องที่นางทุบตีคนสักนิดแม้เซี่ยต้าจวงจะเป็นคนซื่อทว่าเขาไม่ได้โง่ ที่ผ่านมาอาสะใภ้สี่ถือดีว่าพวกเขาทำอะไรนางไม่ได้ เอาเปรียบบิดาเขาสร้างปัญหาให้ไว้เว้นวันมายามนี้ในใจเซี่ยต้าจวงจึงคิดเพียงว่าภรรยาฉงอวิ๋นตีได้ดีนัก เหมาะแล้ว สมควรยิ่งคนอย่างอาสะใภ้สี่ก็สมควรต้องเจอแบบนี้แหละ!“น้องสะใภ้ เจ้าจะให้เก็บส่วนไหนไว้หรือไม่” เซี่ยต้าจวงยกร่างหมูป่ามาล้างน้ำเสร็จก็หันมาถามเยว่อวิ๋นเยว่อวิ๋นคิดเล็กน้อย ก่อนจะบอกให้เซี่ยต้าจวงตัดส่วนที่นางต้องการเก็บไว้ ด้วยความชำนาญของอีกฝ่าย ไม่นานส่วนที่ต้องการก็ถูกชำแหละออกมาตามที่ต้องการเห็นดังนั้นเยว่อวิ๋นจึงเดินไปเปิดประตูรั้วออกกว้าง ให้ชาวบ้านที่ต้องการซื้อเนื้อหมูป่าเข้ามาได้หลายคนที่รอด้านนอกพอเห็นประตูเปิด ก็รีบพากันกรูเข้ามาทันที เนื้อหมูป่าได้มายากกว่าหมูบ้าน อีกทั้งเยว่อวิ๋นก็ยังขายให้ในราคาที่ถูกกว่าอีกด้วย ทำให้เยว่อวิ๋นถูกรุมล้อมจนหัวหมุน“พี่สะใภ้ พวกข้ามาช่วยแล้วเจ้าค่ะ” ในขณะที่กำลังยุ่

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   หนังหน้า-หน้าด้าน (3)

    “หยุดนะ! แข็งข้อแล้ว! สะใภ้รองเจ้าคิดจะก่อกบฏอย่างนั้นหรือ!” แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกหลานตัวเองที่ถูกตีจนดิ้นพล่านกับพื้นพลางกรีดเสียงร้องโหยหวนเยว่อวิ๋นไม่สนใจเสียงสาปแช่งของแม่เฒ่าเซี่ย และยิ่งไม่คิดใส่ใจต่อเสียงก่นด่าของคนที่ถูกนางตี นางเตะพวกเขามานอนเรียงรายกันบนพื้น แม้แต่เซี่ยจินกับอู๋ซื่อที่พยายามลดการมีอยู่ของตัวเองสุดชีวิตแล้ว ก็ยังถูกนางสังเกตเห็นและลากจับมารวมกลุ่มทุบตี“เซี่ยหู่ เจ้าไปตามหมอจางมาที พี่ต้าจวงข้ารบกวนพี่ออกไปเฝ้าประตูไว้ให้ทีนะเจ้าคะ เพราะอีกเดี๋ยวคนที่จะมาซื้อเนื้อหมูป่าคงจะมากันแล้ว”เซี่ยหู่หรือจะกล้าขัดขืน เขาเห็นสภาพบ้านสี่แล้วยังนึกสยดสยองไม่หาย ไม่รอให้เยว่อวิ๋นเอ่ยซ้ำเป็นรอบที่สอง ก็ออกวิ่งสุดฝีเท้าตามคำสั่งแต่โดยดีทันที“เอ่อ… ถ้าอย่างนั้นข้าออกไปดูคนให้นะ” เซี่ยต้าจวงกล่าวอย่างอึกอัก พยายามหลบเลี่ยงสายตาขอความช่วยเหลือของแม่เฒ่าเซี่ยสุดชีวิต พลางก่นว่าน้องชายที่ตัดช่องน้อยเอาตัวรอดคนเดียวในใจไม่หยุด“เมื่อครู่เจ้าพูดว่าอะไรนะ ก่อกบฏงั้นสินะ” เยว่อวิ๋นพลันรู้สึกขันจนพูดไม่ออก ชาติที่แล้วนางก็ตายตกด้วยข้อหานี้มิใช่หรือ “ข้าก่อกบฏอย่างไร พวกเจ้าเป็นเชื้อพร

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   หนังหนา-หน้าด้าน (2)

    มุมปากแม่เฒ่าเซี่ยเบี้ยวไปชั่วขณะ คล้ายคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบแบบนี้“จะ เจ้า เจ้าไม่เคารพผู้อาวุโส” กล่าวจบนางก็ทำท่าจะหวีดร้องโวยวาย ทว่ากลับเห็นเยว่อวิ๋นหมุนร่างไปสั่งเซี่ยหูเสียก่อน“ปิดประตูซะ”เซี่ยหู่ที่ตามหลังมาพลันสะดุ้งเฮือก เขาสบสายตาเย็นชาของเยว่อวิ๋นแล้วรีบปิดประตูรั้วเสียงดังโครมโดยไม่ต้องให้เอ่ยย้ำ“สะ… สะใภ้รองเจ้าคิดจะทำอะไร” แม่เฒ่าเซี่ยข่มความหวาดกลัวพลางถามด้วยน้ำเสียงสั่นไหว“ฝีมือใคร” เยว่อวิ๋นไม่ได้ตอบคำถามของแม่เฒ่าเซี่ย ทว่ากลับเดินไปหยุดตรงหน้าเด็กสองคน พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้ากลมเล็กของเสี่ยวอวี้เบาๆ “ใครเป็นคนทำ”เสี่ยวอวี้อยู่ร่วมกับเยว่อวิ๋นจนคุ้นชินแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่สัมผัสได้ถึงความเย็นชาที่ลึกถึงกระดูก เด็กหญิงพลันบังเกิดความหวาดกลัวในตัวอีกฝ่ายอย่างไร้สาเหตุ“ซะ… เซี่ยเสี่ยวเกอ กะ กับท่านอาเล็กเจ้าค่ะ”พอเปิดประตูให้พวกเขาเข้ามา เซี่ยเสี่ยวเกอก็โวยวายจะเอาขนมในมือนาง พอนางไม่ยอมให้ท่านอาเล็กที่เดินตามมาก็ตบหน้านาง คิดแล้วเสี่ยวอวี้ก็ดวงตาแดงก่ำ น้ำใสๆ ร่วงหล่นราวสายน้ำหลากตั้งแต่แยกครอบครัวมา เสี่ยวอวี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เยว่อวิ๋นอย่าว่าแต

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   หนังหนา-หน้าด้าน (1)

    เกิดเติบโตมายี่สิบกว่าปี ครั้งแรกที่รู้สึกสนใจสตรีนางหนึ่ง ก็พบว่าหนทางเชื่อมหาคนถูกปิดตายหมดเสียแล้ว กู้เหยียนเซียวพลันส่ายหน้าจนใจบนถนนที่ขรุขระมีเสียงฝีเท้าและลมหายใจของม้าดังให้ได้ยินเป็นระยะ จึงไม่มีใครสังเกตถึงเสียงถอนลมหายใจอ่อนเบาของใครบางคนช่างน่าเสียดาย…เยว่อวิ๋นที่กำลังดีใจไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังนึกเสียดายโชคชะตาที่มาช้าไปนี้หญิงสาวกลับเข้าห้องไปบอกเรื่องราวกับเซี่ยฉงอวิ๋น ถึงกำหนดการผ่าตัดขาของเขาในวันพรุ่งนี้อย่างอารมณ์ดีหลังจากพูดคุยกับสามีเรื่องเดินทางไปหงจือหลินวันพรุ่งนี้จบ เยว่อวิ๋นก็เข้าครัวจัดการอาหารมื้อเช้าของครอบครัวอย่างเรียบง่าย ก่อนจะสะพายตะกร้ามุ่งหน้าขึ้นภูเขา โดยทิ้งให้ต้าเป่ากับเสี่ยวอวี้คอยอยู่ดูแลบิดาช่วงที่ผ่านมาเยว่อวิ๋นฟื้นร่างกายกลับมาจนเกือบเป็นปกติแล้ว การขึ้นภูเขาจึงไม่ใช่เรื่องยากลำบากแต่อย่างใด นางใช้เวลาเดินเท้าเพียงไม่นานก็มาถึงหลุมกับดักสัตว์เพราะที่บ้านไม่ได้ขาดแคลนเนื้อสัตว์เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เยว่อวิ๋นที่มีเรื่องให้ต้องจัดการมากมายในแต่ละวัน จึงแวะเวียนมาดูสัตว์ในหลุมสองถึงสามวันต่อครั้งเท่านั้นเสียงกู่ร้องของสัตว์บาดเจ็บดังกั

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้อตกลง (2)

    ต้นยามเหม่า[1] ท้องฟ้ายังมืดสลัวไม่สว่างดี เยว่อวิ๋นที่ตื่นมาล้างหน้าล้างตาแต่เช้า ก็พาสองซาลาเปาน้อยออกมาฝึกร่างกายเหมือนทุกทีหลายวันมานี้ช่วงเช้าเยว่อว๋นจะพาทั้งคู่ออกมาฝึกท่านั่งม้าตลอด จากที่แรกๆ เคยยืนขาสั่นตัวเอียง ยามนี้แม้แต่เสี่ยวอวี้น้อยก็สามารถยืนได้มั่นคงแล้ว“ท่านแม่ ครบชั่วยามหรือยังขอรับ” ต้าเป่าร้องถามมารดา ใบหน้าน้อยๆ ผุดไรเหงื่อชื้นไม่ต่างจากน้องสาวเยว่อวิ๋นมองแขนที่เริ่มตกกับขาที่เริ่มสั่นเพราะความล้าแล้วอมยิ้มเล็กน้อย ความจริงยังขาดไปอีกสองเค่อ แต่หญิงสาวก็พยักหน้าให้บุตรชาย“ต้าเป่ามานี่สิ” เยว่อวิ๋นก้าวมาหยุดยืนหน้าเสาไม้ต้นหนึ่งในลาน ซึ่งเสาไม้เหล่านี้ล้วนเป็นนางที่นำมาปักไว้ทั้งสิ้น“ขอรับ” ต้าเป่าได้ยินก็รีบวิ่งมาตามคำสั่งทันที เสี่ยวอวี้เห็นดังนั้นก็วิ่งตามพี่ชายมาอีกคน“เมื่อวานแม่บอกจะสอนวิชาหมัดให้เจ้า จำได้ไหม”“จำได้ขอรับ” เด็กชายรับคำดวงตาเป็นกายยินดี ต่อให้มีนิสัยสุขุมแค่ไหนอย่างไรเสียก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง เยว่อวิ๋นพาเขาฝึกท่านั่งม้ามาหลายวัน ต้าเป่าที่ไม่เข้าใจว่านี่คือการฝึกพื้นฐานก็อดเบื่อไม่ได้อยู่ดี“วิชานี้ชื่อว่าวิชาหมัดเหล็ก เดิมทีเจ้าของวิชาไ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ข้อตกลง (1)

    นับว่าเป็นความโชคดีของสวีเหยา ที่เสียงคำรามของนางถูกข่มกลั้นไว้แค่ในลำคอ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเยว่อวิ๋นได้ยินคงหันกลับมาประเคนฝ่าเท้าให้นางอีกทีเป็นแน่เห็นว่าไม่มีละครสนุกๆ ให้ดูแล้ว บรรดาชาวบ้านมุงก็พากันแยกย้ายสลายตัว ในลานบ้านที่เงียบสงัดจึงเหลือเพียงแม่ลูกสกุลจางกับสวีเหยาและเซี่ยหว่านหรูหลัวซื่อคิดถึงเงินห้าตำลึงที่จะต้องเสีย ในใจเจ็บปวดแทบหลั่งเลือด นางนึกก่นด่าตัวเองเป็นร้อยรอบ ว่าทำไมตอนที่เยว่อวิ๋นมาพูดเรื่องบุตรชายรุมทุบตีต้าเป่า ตัวเองถึงได้ไปยั่วโมโหอีกฝ่ายจนเรื่องราวลุกลามใหญ่โตเช่นนี้กันมาถึงตอนนี้ต่อให้ยอมรับผิดก็ไร้ประโยชน์แล้ว คิดถึงใบหน้าสามีหลังรู้ว่านางทำให้ต้องเสียเงินถึงห้าตำลึง หลัวซื่อก็แทบร่ำไห้ออกมาเป็นสายเลือด พอเห็นสวีเหยากับเซี่ยหว่านหรูความขุ่นเคืองก็ยิ่งพุ่งสูงจนไม่มีสีหน้าดีๆ ให้เห็น“เพราะเจ้า…” หลัวซื่อกัดฟันคำรามลั่น นางอยากวิ่งเข้าไปตบคนตรงหน้าสักหลายที ทว่าถึงสวีเหยาจะเป็นลูกของน้องสาวสามี แต่หลัวซื่อก็รู้ดีว่าตนไม่มีสิทธิ์ไปตบตีอีกฝ่าย นางจึงได้แต่หันหน้าหนี ถือคติตามองไม่เห็นใจก็ไม่คิดเสียทว่าพอหันหนีมาอีกด้านสายตาก็พลันสบกับเซี่ยหว่านหรู ในใจ

  • ซาลาเปาบ้านข้านั้นทั้งขาวทั้งนุ่ม   ต้นตอของข่าวลือ (4)

    เยว่อวิ๋นไม่รู้ความคิดของคนเหล่านี้ หากนางรู้คงปรบมือให้พวกเขาแล้วเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า ‘ยินดีด้วย พวกเจ้าเดาถูกแล้ว’ เป็นแน่ถูกแล้ว นางจงใจพูดทำลายชื่อเสียงเซี่ยหว่านหรู ก็แล้วอย่างไรเล่า ในเมื่ออีกฝ่ายป่าวประกาศไปทั่วว่านางคบชู้ แล้วทำไมนางจะโยนคำว่าบ้าผู้ชายใส่ศีรษะอีกฝ่ายบ้างไม่ได้ล่ะโดนตบแก้มซ้ายแล้วยังจะให้ยื่นแก้มขวาให้โดยไม่ตีคืนงั้นหรือ เฮอะ! ฝันไปเถอะ นางไม่ใช่พระโพธิสัตว์เสียหน่อย!ผู้ใหญ่บ้านเองก็คิดไม่ต่างจากคนอื่น แต่เขาก็เห็นด้วยกับที่เยว่อวิ๋นบอกเหมือนกัน จึงหันไปถามกับหลัวซื่ออีกครั้ง“หลัวซื่อ ที่เถี่ยตั้นพูดมาทั้งหมด ที่แท้มาจากตัวเจ้าเองที่กล่าวใช่หรือไม่!”หลัวซื่ออ้าปากอึกอัก นางไม่คิดว่านิสัยพูดไม่คิดของเซี่ยหว่านหรูจะเปิดเผยความผิดพลาดของตัวเองออกมาในเวลานี้ ยิ่งเห็นใบหน้าเคร่งขรึมจริงจังของผู้ใหญ่บ้าน คำพูดบอกปัดที่คิดเอาไว้ก็ติดอยู่ที่ริมฝีปาก“ข้า…”“ในฐานะสตรีคนหนึ่ง ชื่อเสียงถือได้ว่าสำคัญยิ่งกว่าชีวิต การปล่อยข่าวลือเช่นนี้ออกมา ก็เหมือนกับคนผู้นั้นต้องการฆ่าข้า หากวันนี้เรื่องราวไม่กระจ่าง ข้าจะไปตีกลองร้องทุกข์ที่ว่าการ” ก่อนที่หลัวซื่อจะพูดต่อ เสียงราบ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status