“อาดาล ไม่ว่าอย่างไรเจ้าจะต้องไปตามหาแลนดรีให้พบเจอ น้องชายของเจ้าหายตัวไปร่วมสามเดือนแล้วจะไม่ให้อาเป็นห่วงได้อย่างไรกัน”อาดาลพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อทันทีที่เขากลับมาถึงเมืองหลวงเขาก็พบเจอกับการถูกบ่นในทันทีเพราะแลนดรีเดินทางกลับมาก่อนเขา แต่หมอนั่นดันยังเดินทางไปไม่ถึงตระกูลกรีน..คนที่บ้าฟันดาบไปวันๆ อย่างแลนดรีหายหัวไปไหนกันนะ?“ท่านอา ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นพี่ชาย แต่ว่าข้าเกิดก่อนแลนดรีไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ เพราะแบบนั้น..ข้าไม่ว่างไปตามหาแลนดรีหรอกครับ เดี๋ยวพอหมอนั่นหาทางกลับบ้านเจอ ท่านก็จะเห็นเขาเองนั่นแหละ..”อดัมมองหน้าของอาดาลด้วยความรู้สึกที่หมดความอดทน เขาเหนื่อยล้ามากทีเดียวกับเจ้าหลานสองคนที่ไม่ได้เรื่องได้ราวเช่นนี้ อาจจะเพราะในช่วงวัยเด็กเขาเลี้ยงหลานทั้งสองคนนี้ตามใจมากเกินไป พอพวกหลานทั้งสองโตขึ้นถึงไม่มีใครพอจะพึ่งพาได้สักคนเดียว“อาดาล..เจ้าไปตามหาแลนดรีเดี๋ยวนี้เลย หากว่าเจ้ายังไม่พบเจอแลนดรีแล้วละก็ ข้าจะจัดการระงับเงินรายเดือนของเจ้าซะ จะไม่ให้พ่อบ้านมอบเงินให้เจ้า ดูซิว่าเซอร์อาดาลเมื่อไม่มีเงินแล้ว จะยินยอมทำตามคำสั่งของอาหรือไม่”อาดาลกลอกตามองบนด้วยอาการหัวเสี
“เอส..”แมเดอลีนเรียกชื่อของเอสเตบันออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่นักที่อยู่ๆ เขาก็เข้ามาโอบกอดที่ด้านหลังของเธออย่างไม่ทันให้ได้ตั้งตัว“ลูกไปแล้วแมดดี้..”ปลายจมูกของเขาฝังลงไปที่ลำคอของแมเดอลีนเบาๆ ก่อนที่ริมฝีปากจะหว่านพรมรอบจูบไปทั่วทั้งลำคอ เขากระชับร่างเธอเข้ามาแนบชิด แผ่นอกของเขาแข็งแกร่งดังหินผา แต่เธอกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แทรกซึมเข้ามาในทุกครั้งที่ฝ่ามือของเขาลูบไล้ที่ตามเอวและสะโพกของเธอ“เอส ข้าต้องจัดการทำงานบ้านก่อนค่ะ..”แมดดี้กล่าวเสียงแข็งพร้อมกับหันหน้ามามองใบหน้าของสามีเขาหัวเราะออกมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกมากมาย แมดดี้ของเขานั้นน่ารักมากกว่าใครทั้งนั้น ในช่วงเวลานี้เขาไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย ที่ถึงแม้ว่าความต้องการของเขานั้นจะพุ่งสูงขึ้นมาแต่ว่าแมดดี้ไม่ยินยอมทำตามใจเขาเอสเตบันคิดว่าในช่วงนี้คือช่วงเวลาสุดแสนจะพิเศษ ที่เราจะได้อยู่ตามลำพังและใช้ชีวิตเหมือนกับสามีภรรยาทั่วๆ ไป เพราะเมื่อเขาพาเธอเดินทางกลับไปที่เมืองหลวงเมื่อไหร่ เราจะไม่ได้ใช้ชีวิตที่แสนเรียบง่ายเช่นนี้อีกเธอจะเป็นดัชเชสและเขาคือท่านดยุค มิก้าคือว่าที่เลดี้ของวีไซร์..แต่หากท่านบารอนไม
ดวงตาของเอสเตบันกำลังลุกโชนขึ้นมาราวกับเปลวไฟที่กำลังเผาไหม้ร่างกายของแมเดอลีนอย่างช้าๆ เธอช้อนสายตามองหน้าเขาก่อนจะลดสายตาลงแล้วมองไปยังส่วนกลางกายที่ตั้งตระหง่านขึ้นมาเมื่อคืนก็พึ่งจะทำไป เขาผละออกจากร่างกายของเธอในยามเช้าอย่างไม่รู้จักถึงความเหน็ดเหนื่อย และนี่..มันจะเริ่มต้นอีกแล้วอย่างนั้นหรือ“แมดดี้..อ้าปากออกสิ ระวังฟันของเจ้าด้วยที่รัก”เธอใช้ริมฝีปากสัมผัสเบาๆ ที่ปลายยอดบวมแดง ทำให้เขารู้สึกถึงความสั่นไหวในทุกสัมผัส ริมฝีปากของเธอค่อยๆ ไล้ผ่านไปตามบนลำแท่งแข็งตึงราวกับเสาหิน ถึงแม้จะเห็นมาหลายครั้งแต่ไม่บ่อยนักที่เธอจะได้เห็นมันในระยะประชิดเช่นนี้ เธอไล้เลียไปตามเส้นเลือดที่ปูดโปนออกมาด้วยความแผ่วเบาราวกับว่ากำลังเลียอยู่บนลูกกวาด แมเดอลีนกดจูบอย่างนุ่มนวลสร้างความรู้สึกท่วมท้นในทุกสัมผัส“อ่า..แบบนั้น ลองเอามันเข้าไปในปากของเจ้าดูสิแมดดี้ อ้าปากออกกว้างๆ ..การเลียที่ด้านนอกทำให้ข้ารู้สึกดีก็จริงอยู่ แต่ข้าปรารถนาที่จะรู้สึกดีมากกว่านั้น..”ริมฝีปากเล็กๆ ของแมเดอลีนอ้าออกเพื่อรับส่วนนั้นของเขาเข้าไปด้านใน เธอค่อยๆ กลืนมันเข้ามาอย่างช้าๆ ในโพรงปาก เธอดูดดึงมันเบาๆ แล้วกดลึกเ
ในจักรวรรดิโอลิวีเย่ร์นั้นจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นมายาวนานหลายเดือนแล้วตั้งแต่ที่ท่านดยุควีไซร์ชนะสงคราม ประชาชนทุกคนของจักรวรรดิต่างสรรเสริญและยินดีกับชัยชนะของท่านดยุค จนที่ด้านหน้าคฤหาสน์วีไซร์มีผู้คนจำนวนมากหอบหิ้วดอกไม้ไปวางเอาไว้เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับท่านดยุคผู้เก่งกาจและกล้าหาญ“นี่คือเรื่องที่น่ายินดีนะคะท่านพี่..”เดวากล่าวกับสามีของเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ในขณะที่โอทีสอ่านหนังสือพิมพ์ของวันนี้อยู่“ข้าก็ไม่ได้บอกว่ามันไม่น่ายินดีสักหน่อย”เดวาเลิกคิ้วขึ้นสูงเล็กน้อย“ท่านหญิงกล่าวว่าดยุคแห่งวีไซร์กำลังเดินทางไปที่แกรนด์ดัชชีการปกครองของ เซอร์เลเซิน และในยามนี้ข้าคิดว่าแมดดี้และเอสเตบันน่าจะพบเจอกันแล้ว”โอทีสลดหนังสือพิมพ์ในมือลงก่อนที่เขาจะมองหน้าภรรยา“แล้วอย่างไรกัน? แมดดี้ของข้าน่ะ ไม่มีทางใจอ่อนกับบุรุษที่ทอดทิ้งนางไปตั้งหลายปีหรอกนะ”เดวาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย“แล้วใครกันคะที่ทำให้ดยุคแห่งวีไซร์ต้องนำทัพไปออกรบ ไม่ใช้ท่านพี่อย่างนั้นหรือ? ท่านสั่งให้เขาไปออกรบเพราะว่าเขาบุกมาหาแมดดี้ในคืนนั้น โอทีสข้าจะไม่ทนแล้วนะคะกับความอคติของท่าน ข้าต้องการให้มิก้าอยู่ที่นี่อ
ดาเนียขมวดคิ้วเล็กน้อยในท่าทางที่สนิทสนมมากกว่าปกติของแลนดรี บอกตามตรงว่าตั้งแต่มาที่นี่ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา แต่ทว่าเขาไม่เคยแตะต้องหรือว่าทำอะไรที่เกินเลยมากกว่าการจับมือเลย แลนดรีให้เหตุผลว่าเขาจะไม่ทำอะไรที่ทำให้เธอไม่สบายใจ อีกทั้งจนกว่าเธอจะยินยอมแต่งงานกับเขา เขาจะไม่ล่วงเกินและทำให้เกียรติของเธอเสื่อมเสียอีกทว่าในยามนี้เขากลับเข้ามากอดเธอเอาไว้แน่น“เหนื่อยใช่ไหมคะ เช่นนั้นไปที่บ้านพักก่อน ข้าจะทำมื้อเที่ยงให้ท่านทานก่อนดีไหม แล้วเราค่อยไปช่วยกันเก็บไข่ในเล้ากันต่อ..”อาดาลพยักหน้า เขาตามน้ำไปราวกับว่าตัวเขานั้นคือแลนดรี ดาเนียจับมือของเขาเอาไว้แน่น นั่นยิ่งตอกย้ำว่าความสัมพันธ์ของดาเนียและน้องชายของเขามันคงจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ทั้งสองคนคงจะตกหลุมรักกันและกัน..แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกไม่ดีด้วยนะ เพราะรู้สึกเหงาที่แลนดรีจะมีคนรักอย่างนั้นหรือดาเนียส่งลูกแอปเปิ้ลให้เขา“ข้าไปเก็บที่สวนด้านหลังมาค่ะ รีบทานสิคะ..ข้าเห็นว่าท่านชอบทานผลไม้มากทีเดียว”นี่คงจะเป็นความรู้สึกพิเศษของคนรักกันอย่างนั้นสินะ การถูกเอาใส่ใจและการถูกมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักเช่นนั้น
มิก้ากำลังวิ่งไปวิ่งมาระหว่างถังเก็บน้ำและแปลงผักของเธอ เด็กน้อยถือถังที่ทำจากไม้ในมือ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่มิก้าตักน้ำจากในอ่างออกไปรดน้ำแปลงมันฝรั่งของเธอเอสเตบันมองดูท่าทีที่คล่องแคล่วของลูกสาว เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มแย้มออกมาอย่างอารมณ์ดี“มิก้าลูกรัก ลูกจะเอามันฝรั่งมากมายพวกนี้ไปทำอะไรกัน?”มิก้าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าท่านพ่อของเธอ“มิก้าจะเอาไปขายค่ะ ท่านแม่สอนให้มิก้าหาเงิน อีกทั้งยังมีเพื่อนมากมายที่ดูถูกว่ามิก้านั้นเกิดในครอบครัวจนๆ ในเมื่อครอบครัวของเราไม่มีเงิน เช่นนั้นมิก้าจะหาเงินมาให้ท่านแม่เอง..”เอสเตบันขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาระเบิดหัวเราะออกมาด้วยความรู้สึกเอ็นดู“แม่ของเจ้าจนอย่างนั้นหรือ? ให้ตายสิไม่ยักรู้ว่าเรเซเดนจะยากจนเช่นนั้น..”“ท่านแม่สอนว่าของท่านตาก็คือของท่านตา ของมิก้าก็คือของมิก้า..เอามาปนกันไม่ได้ค่ะ”เขานั่งลงข้างๆ ลูกสาวแล้วเอื้อมมือไปเช็ดเศษดินที่เปื้อนอยู่บนแก้มของมิก้า“ถึงแม้ว่าแม่เจ้าจะไม่ค่อยมีเงิน แต่ว่า..พ่อรวยมากเลยนะ”“.....”มิก้ามองท่านพ่อของเธออีกครั้งก่อนที่เด็กน้อยจะถอนหายใจออกมา“เป็นผู้ใหญ่ไม่ควรโกหกนะคะท่านป้อ..”ดูจากชุดโทรมๆ ที่ท่านสวมแล้
คำถามที่อาดาลเอ่ยถามออกมานั้น ฟังผิวเผินดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่ทว่าเมื่อดาเนียได้ลองคิดตามคำถามของเขาแล้ว เธอพบว่ามีบางอย่างที่อธิบายไม่ได้อยู่ในคำถามนั้นเช่นกันเธอชอบแลนดรีที่พูดน้อยและเคร่งขรึมแต่ถึงอย่างนั้นแลนดรีที่พูดคุยและยิ้มเก่งก็ทำให้เธอตกหลุมรักเขาได้อย่างง่ายดาย เธอพุ่งความสนใจทั้งหมดไปที่แลนดรีคนแรกหลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับอาดาลที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ในงานเทศกาลคืนนั้น..ที่เธอมีความกล้าเดินเข้าไปหาเขา เพราะเธอคิดว่าเราต่างก็น่าจะรู้จักกันในระดับหนึ่งจากที่วิหาร..แลนดรีมองหน้าของดาเนียและเมื่อเขามองเห็นความลังเลบนสีหน้าของเธอ เขาก็เดินเข้าไปหาดาเนียก่อนจะโอบกอดเธอเอาไว้“ไม่แปลกหรอกที่เจ้าจะสับสน ไม่เป็นไรดาเนียเจ้าจะรู้สึกอย่างไรกับอาดาลก็ได้แต่เจ้าทอดทิ้งข้าไปไม่ได้เข้าใจไหม..”ดาเนียจับมือของแลนดรีเอาไว้แน่น“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การทอดทิ้งท่านคือสิ่งที่ข้าไม่มีวันกระทำอย่างแน่นอน”แลนดรีมองหน้าพี่ชายของเขาสลับกับมองหน้าของดาเนีย“เช่นนั้น..พวกเจ้าลองคุยกันดู..นี่คือโอกาสครั้งแรกและครั้งเดียวที่ข้าจะยินยอม”“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะแย่งนางไปอย่างนั้นหรือแลนดรี”แลนดรีพ่
เซอร์เลเซินเอื้อมมือลูบศีรษะของมิก้าด้วยความรู้สึกเอ็นดู“เดินทางปลอดภัยนะมิก้าของตา..ช่างน่าเศร้าที่ข้าไม่สามารถไปร่วมงานแต่งของท่านดยุคได้ ที่แกรนด์ดัชชีจำเป็นจะต้องมีผู้ดูแล..”เอสเตบันส่งยิ้มให้กับท่านเซอร์เลเซิน“ไม่เป็นไรเลยครับ ข้าเสียอีกที่จะต้องขอบคุณท่านอาจารย์ที่ช่วยดูแลลูกและภรรยาของข้าในช่วงที่ข้าไม่อยู่..ขอบคุณมากๆ นะครับที่เอ็นดูมิก้า”เซอร์เลเซินมองหน้ามิก้าก่อนที่เขาจะส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนให้หลานรัก“มิก้าจะมาหาท่านตาบ่อยๆ นะคะ”“จงเติบโตขึ้นมาด้วยความงดงามและมีความสุขนะหลานรัก..”แมเดอลีนมองเห็นความรักที่ท่านเซอร์มีต่อลูกเธอแล้วก็อดไม่ได้ที่จะอยากให้ดาเนียมีหลานเร็วๆ มาให้ท่านเซอร์คลายความเหงาไปได้บ้างเมื่อวานนี้ดาเนียมาหาเธอพร้อมกับสารภาพเรื่องของบุรุษตระกูลกรีนทั้งสองคน“มันดีมากแมดดี้ ให้ตายเถอะข้าไม่อยากจะเดินออกจากห้องด้วยซ้ำ”น่าตกใจไม่น้อยที่ทั้งแลนดรีและอาดาลยินยอมรับดาเนียเป็นภรรยา อีกทั้งเขาทั้งสองคนกำลังจะพาดาเนียไปที่ตระกูลกรีนเพื่อแต่งงานกับนางอย่างเป็นทางการบางทีเรื่องความรักก็..ซับซ้อนนิดหน่อย แต่ก็พอจะทำความเข้าใจได้“โชคดีนะแมดดี้ ข้าขอแสดงความยินดี
สวัสดีค่ะ มิก้าเองค้า..วันนี้มิก้าอายุ 7 ขวบแล้ว ท่านพ่อได้จัดงานวันเกิดให้มิก้าทุกปี แต่ว่าปีนี้จะยิ่งใหญ่มากกว่าปีที่ผ่านมาหน่อย เพราะท่านพ่อจะประกาศชื่อกลางของมิก้า และชื่อจริงออกมาด้วยค่ะมิก้าใช้เวลาส่วนใหญ่ที่คฤหาสน์เรเซเดนก็จริงแต่ทว่าก็ยังมีไปนอนกับท่านพ่อและท่านแม่ที่คฤหาสน์วีไซร์อยู่บ้างเมื่อ2ปีที่แล้วท่านแม่คลอดน้องชายมาให้มิก้าสองคนค่ะ ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆ กันที่ท่านแม่คลอดน้องชายฝาแฝดออกมา แต่ทว่าที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือคนหนึ่งมีเส้นผมสีเงินเหมือนกับมิก้าแต่อีกคนกลับที่เส้นผมสีแดงเหมือนกับท่านแม่ท่านตาเชื่อว่านั่นคือปาฏิหาริย์ล่ะ มิก้ามาเล่นกับน้องบ่อยมากทีเดียว แต่เพราะว่าน้องพึ่งจะสองขวบก็เลยยังเล่นกับมิก้าได้ไม่มากนัก“มิก้า..นี่คือของขวัญของมิคนเก่งครับ”ท่านลุงเอดิตส่งมอบคทาของคาดินันที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ให้แก่มิก้า ซึ่งมิก้าเองก็ไม่เข้าใจว่าท่านลุงให้สิ่งนี้กับมิก้าทำไมกัน?“เมื่อมิก้าโตขึ้น หลานจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งคาดินันของลุง..หลานจะเป็น..นักบุญหญิงคนแรกของจักรวรรดิแห่งนี้ เป็นเช่นนั้นดีหรือไม่?”มิก้าไม่เข้าใจว่าอะไรดีหรือว่าไม่ดีกันแน่ มิก้าชอบขี่ม้าและ
ผมยาวสีแดงของแมเดอลีนนั้นถูกรวบขึ้นไปไว้ที่ด้านบน สาวใช้สองคนกำลังวุ่นอยู่กับการแต่งหน้า ส่วนอีกคนกำลังปักเครื่องประดับรูปดอกไม้ลงไปบนมวยผม“ท่านดัชเชสช่างงดงามมากเลยค่ะ”ไม่ต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางมากมายบนใบหน้าก็ฉายชัดถึงความงดงามที่ไร้ผู้เปรียบเทียบ“ข้าไม่ชินกับ..ใบหน้าของตัวเองในยามนี้เลย”แมดดี้ประหม่ามากพอสมควร เธอกำลังนั่งอยู่ที่ห้องแต่งตัวของเจ้าสาวในวิหาร และเมื่อจัดการแต่งหน้าและทำผมเสร็จเรียบร้อย ชุดแต่งงานที่ถักด้วยลูกไม้สีขาวก็ถูกสวมลงมาบนร่างกายของเธอ กระโปรงนั้นมีน้ำหนักมากพอสมควร และชุดนี้ก็สง่างามมากทีเดียว ขั้นตอนสุดท้ายคือการสวมผ้าคลุมหน้าลูกไม้ลงมาบนศีรษะของเธอแมเดอลีนมารู้ทีหลังว่าทั้งชุดแต่งงานและผ้าคลุมหน้านี้ท่านหญิงไดอาน่าเป็นผู้ถักมันด้วยตัวเอง ท่านเริ่มต้นถักมันตั้งแต่เอสเตบันไปออกรบ ท่านถักเอาไว้เพื่อรอคอยให้เธอมาสวมใส่สักวันหนึ่งเมื่อได้คิดถึงที่มาของชุดแต่งงานนี้แมเดอลีนก็น้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่ เธอว่าครอบครัวของตัวเองนั้นดีแล้ว มันโชคดียิ่งกว่านั้นเมื่อมาพบเจอครอบครัวของสามีที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก ท่านแม่ของเธอและท่านแม่ของเอสเตบันสนิทสนมกันมากพอสมควรใ
“คงจะดีหากว่าท่านคาดินันไม่หลบหนีออกไปอีก..แบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า..”นักบุญผู้หนึ่งกล่าวออกมาพร้อมกับวางเอกสารมากมายลงเบื้องหน้าของเอดิต“แล้วก็ทางคฤหาสน์วีไซร์ประกาศเรื่องงานแต่งงานของท่านดยุคและท่านดัชเชส มาแล้วนะครับ ท่านดยุคแห่งวีไซร์ต้องการให้ท่านคาดินันเป็นผู้จัดงานแต่งให้ทั้งสองท่านด้วยตัวเอง..เรื่องการจัดเตรียมความพร้อมของวิหาร ทางคฤหาสน์วีไซร์ได้ส่งทหารมาจัดเตรียมสถานที่แล้ว..”เอดิตแค่นหัวเราะออกมา เขาเบนสายตาออกไปมองที่ด้านนอกหน้าต่างของห้องทำงานสายลมพัดมาเบาๆ และนั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ นี่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้วในอีกไม่กี่เดือน ทุกอย่างกำลังเดินทางไปด้านหน้าเรื่อยๆ และตัวเขาเองก็เช่นกัน จะมัวมานั่งเสียใจกับเรื่องความรักที่ไม่สมหวังไม่ได้เพราะฉะนั้น..เขาจะต้องก้าวไปข้างหน้าเสียที“เจ้าช่วยตรวจสอบเรื่องการจัดงานด้วยนะ อย่างให้มีอะไรผิดพลาด..ข้าอยากให้ในวันงานวันนั้นทุกอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด”เจ้าคงจะงดงามมากทีเดียวแมดดี้ ในชุดแต่งงานสีขาวนั้นเจ้าคงจะทั้งงดงามและโดดเด่นจนข้าละสายตาไปจากเจ้าไม่ได้ ในวันที่เจ้ามีความสุขที่สุด ข้าได้ยื
ครั้งที่แล้วเขาพลาดในช่วงเวลาที่แสนสำคัญบางช่วงเวลาที่จะได้ดูแลแมดดี้ในตอนที่นางตั้งครรภ์และช่วงเวลาที่เขาจะได้เห็นหน้าลูกในตอนที่คลอดออกมา ไม่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลาที่ค่อยๆเติบโตของมิก้า ไม่มีโอกาสได้อุ้มนางในตอนที่นางยังเป็นทารก เพราะแบบนั้นในช่วงเวลาหลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมห่างจากภรรยาของเขาอย่างเด็ดขาดไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร“เช่นนั้นเราเดินทางกลับวีไซร์กันเถิด..”แมเดอลีนพยักหน้า เธอเคยไปที่นั่นก็จริงอยู่แต่ทว่าการไปอยู่ที่นั่นในฐานะดัชเชส นั้นยังไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว“ข้าจะพาแมดดี้กลับก่อนนะครับ ข้าไม่อยากจะพานางเดินทางในช่วงเย็นเดี๋ยวนางจะไม่สบาย”โอทีสพยักหน้า“เรื่องมิก้า..”“ข้ารู้ครับว่าท่านพ่อตาอยากจะอยู่กับหลานสาวก่อน ช่วงนี้คงจะต้องฝากท่านพ่อตาเลี้ยงดูมิก้าไปก่อน เพราะแมดดี้พึ่งจะตั้งครรภ์..ข้าอยากทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้แมดดี้”เดวาส่งยิ้มให้กับเอสเตบัน“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาเลย เจ้าทั้งสองคนพึ่งได้ใช้ชีวิตตามลำพังด้วยกันแค่ไม่นาน..ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหลานเดี๋ยวเราจะเลี้ยงดูให้เจ้าเอง”เอสเตบันก้มหน้าลงเพื่อขอบคุณท่านแม่ยาย“ท่านแม่ครับเช่นนั้นเรากลับกัน..”
ดาเนียมองหน้าของแมเดอลีน ราวกับว่าเธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากสหาย และแมดดี้ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาท่านเซอร์อดัมในทันที“ขออภัยที่ข้ามาขัดจังหวะนะคะท่านเซอร์ ดาเนียเติบโตมาในคฤหาสน์เรเซเดนซะส่วนใหญ่ ในความคิดของข้านั้นนางไม่ใช่แค่สหายรักของข้าแต่นางยังเป็นเหมือนกับน้องสาวของข้าอีกด้วย เรื่องที่จะให้ดาเนียไปเป็นผู้นำตระกูล ข้ามองว่ามันอาจจะข้ามขั้นไปหน่อยค่ะ นางไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเช่นนี้เลย..”เซอร์อดัมส่งยิ้มให้แมเดอลีน“นั่นสินะครับ อาจจะเป็นข้าที่ทำข้ามขั้นตอนไปหน่อย เช่นนั้นในช่วงเวลานี้ข้าอยากจะให้ดาเนียเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์กรีนเพื่อศึกษาและจัดการเกี่ยวกับงานมากมายในตระกูลกรีน..พ่อบ้านของเราจะสอนเลดี้ดาเนียเองครับ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวล..”แมดดี้จับมือของดาเนียเอาไว้“ดาเนีย..นั่นใช่ความต้องการของเจ้าจริงๆรึเปล่า เจ้าอยากจะอยู่กับอาดาลและแลนดรีจริงไหม นี่มันไม่ใช่เรื่องของความรักที่เกิดขึ้นในนิยายหรอกนะแมดดี้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลกรีนเจ้าจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด เจ้ายินดีที่จะแบกรับความรับผิดชอบพวกนั้นรึเปล่า”แมเดอลีนเอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงดาเนียเผ
เมื่อโอทีสกลับมาถึงคฤหาสน์เขาก็ได้รับรู้ว่าแมดดี้ของเขาตั้งครรภ์ลูกคนที่สองแล้วดยุคเอสเตบันนั่งยิ้มราวกับคนเสียสติส่วนแมดดี้กำลังตกใจมากกว่าที่จะดีใจชิ..เจ้าเด็กนั่นทรมานลูกสาวของเขาจนนางตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วอย่างนั้นสินะ แต่ทว่าในใจของโอทีสจะโกรธก็โกรธไม่ลง เมื่อเขาเห็นท่าทีตกใจของเอสเตบันในตอนที่ได้รับทราบข่าวว่าแมดดี้ไม่สบายจนต้องไปตามหมอ..ในบางทีไอ้เด็กมั่นหน้าคนนั้นอาจจะรักลูกสาวของเขาจริงๆ ก็เป็นได้“นี่คือใบถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินค่ะ แล้วก็เงินทองอีกจำนวนหนึ่ง”อันที่จริงในการแต่งงาน สตรีต่างหากที่จะต้องจัดเตรียมสินเดิมติดตัวเมื่อแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายชาย แต่ทว่าท่านหญิงอาน่าได้ส่งมอบเงินจำนวนหนึ่งและใบถือกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ท่านบารอนโอทีส“ข้าไม่ต้องการของพวกนี้หรอกครับท่านหญิง..ในเมื่อ..เมื่อเด็กทั้งสองคน..ทั้งสองคนนั้นรักกัน..ข้าก็ไม่อาจขัดขวาง”เดวาหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเธอเห็นสามีพูดไปกัดฟันไป“ข้าไม่คิดจะให้มิก้าเปลี่ยนชื่อตระกูลเป็นวีไซร์ ท่านบารอนมีบุตรีเพียงผู้เดียวก็คือแมดดี้เพราะแบบนั้นข้ายินดีที่จะให้มิก้าใช้ชื่อตระกูลว่าเรเซเดนต่อไปค่ะ”โอทีสก้มหน้าลงเล็กน้
เดวารินน้ำชาใส่แก้วให้ท่านหญิงไดอาน่าที่เดินทางมาที่คฤหาสน์เรเซเดนพร้อมกับขบวนรถม้ามากมายที่จอดเทียบอยู่ด้านหน้า“ข้าได้ยินมาว่าท่านดยุคเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงเรียบร้อยแล้วอย่างนั้นหรือคะท่านหญิง”ไดอาน่าพยักหน้า“ตอนนี้เอสคงจะอยู่ในพระราชวัง และอีกไม่นานเขาน่าจะมาที่นี่เพื่อทำให้เรื่องราวมากมายระหว่างทั้งสองตระกูลเรียบร้อย..”เดวาผ่อนลมหายใจยาวผ่านทางจมูก เธอดีใจที่เรื่องราวต่างๆ กำลังคลี่คลายไปได้ด้วยดี เพราะแบบนั้นแมดดี้ลูกสาวของเธอจะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์เรเซเดนพร้อมกับแมเดอลีนและดาเนียที่กำลังเดินเข้ามา“ท่านป้าคะ ข้าคิดว่าอาจจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ท่านช่วยรีบตามหมอ..”ดาเนียที่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับพยุงแมเดอลีนเข้ามาถึงกับชะงักในทันทีเมื่อเธอมองเห็นท่านหญิงไดอาน่า มารดาของท่าน ดยุคกำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่เดวาลุกขึ้นไปหาแมดดี้ในทันที“เกิดอะไรขึ้นดาเนีย แมดดี้ไม่สบายอย่างนั้นหรือ?”ดาเนียกลืนน้ำลายลงคอ“ยังไม่แน่ชัดว่าแมดดี้เป็นอะไรกันแน่ แต่นางมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้และอาเจียนค่ะ”เดวาอ้าปากค้างในทันที นางหันไปมองหน้าของท่านหญิงไดอาน่าที่ก
“เจ้าทำคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่มากให้จักรวรรดิของเรา มีอะไรอยากจะขอไหมดยุค อย่างเช่นเรื่องการแต่งงานหรือว่าเรื่องความรักอะไรพวกนั้น”องค์จักรพรรดิเอ่ยถามในทันทีที่เอสเตบันเดินเข้าไปในพระราชวัง มีขุนนางมากมายนั่งอยู่รอบๆ และหนึ่งในนั้นคือบารอนเรเซเดนที่กำลังมองหน้าองค์จักรพรรดิตาเขียวปั๊ดจำเป็นที่ต้องถามคำถามที่เป็นการชี้นำเช่นนั้นเลยอย่างนั้นเลยหรือพ่ะย่ะค่ะโอทีสได้แต่กล้ำกลืนความไม่พอใจนั้นเอาไว้ในอก เขาส่งยิ้มให้มิก้าหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเอสเตบัน มันปฏิเสธได้ยากเย็นมากพอสมควรเมื่อเขามองเห็นดยุคอุ้มมิก้าเดินเข้ามา ทั้งสองคนมีความคล้ายที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามิก้าที่แสนน่ารักของเขาคือลูกสาวของใครเอสเตบันมองไปที่บารอนโอทีส ท่านพ่อของแมดดี้ เขาวางมิก้าลงก่อนจะขยิบตาให้ลูกสาว“ทำตามแผนที่วางเอาไว้ได้เลยลูกรัก”มิก้าพยักหน้าก่อนที่เธอจะวิ่งไปหาท่านตา“ท่านตา!!”แน่นอนว่าเมื่อทุกอย่างมันชัดเจนเช่นนี้ เหล่าขุนนางก็ไม่ต้องคาดเดาไปต่างๆนาๆ อีกว่าหลานสาวของท่านบารอนเรเซเดนคือบุตรสาวของใครกันแน่“มิก้าหลานรัก..”มิก้าโผกอดท่านตาเอาไว้แน่น“มิก้ามีท่านป้อแล้วค่ะท่านตา ท่านป้อรักมิก้าแ
การเดินทางล่าช้าลงเล็กน้อยเพราะเม็ดฝนที่ตกลงมา เอสเตบันสั่งให้ขบวนรถม้าของเขาหยุดพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งก่อนถึงเมืองหลวงไม่ไกลมากนัก เขาอุ้มภรรยาลงจากรถม้าในสภาพที่แมเดอลีนกำลังหลับอย่างสบายในอ้อมแขนของท่านดยุคแห่งวีไซร์ และก็แน่นอนว่าไม่มีใครที่อาจหาญกล้าวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของท่านดยุคและว่าที่ดัชเชสหรอกหลังจากที่ส่งภรรยาเข้านอนเรียบร้อย เอสเตบันก็มารับลูกสาวที่ฝากเอาไว้กับดาเนีย เขาพอจะเดาได้ว่าดาเนียและเจ้าแฝดนรกทั้งสองคงจะอยากมีช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัวมากเหมือนกัน“จริงๆ ให้มิก้านอนกับข้าก็ได้นะคะท่านดยุค”ดาเนียกล่าวก่อนจะอุ้มมิก้าที่กำลังหลับส่งให้เอสเตบัน เขาส่งยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณให้กับดาเนีย“ไม่เป็นไร แมดดี้หลับไปแล้วข้าแค่จะพามิก้าไปนอนพักกับแม่ของนางเท่านั้นเอง เจ้าก็รีบพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้จะต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้า”โรงแรมนี้เป็นโรงแรมขนาดเล็กมากพอสมควร มีห้องพักเพียงสามห้องเท่านั้น แต่เพราะว่าเราไม่ได้มีทางเลือกมากมายเท่าไหร่นัก เอสเตบันจึงจำยอมให้ภรรยาและลูกสาวของเขาพักที่โรงแรมแห่งนี้ชั่วคราวไปก่อนเขาไม่ได้นอน เมื่อกล่อมมิก้าให้หลับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอสเตบันก็ถือดา