เมื่อเห็นถึงสายตาเชิงสงสัยของหวังถิงแล้ว สีหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนพลันแข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่ทว่าไม่นานก็ถูกแทนที่ด้วยสีหน้าน่าสงสาร “ถิงถิง ฉันจะโกหกเธอได้ยังไง ทำไมจู่ๆ เธอถึงถามฉันแบบนี้ล่ะ”หวังถิงเห็นว่าดวงตาของซูเฉี่ยนเฉี่ยนแดงก่ำจึงพูดได้แค่ว่า “ฉันแค่ถามไปงั้นน่ะ อย่าคิดมาก”เมื่อเห็นซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะร้องไห้แล้ว หวังถิงจึงจับมือซูเฉี่ยนเฉี่ยน แล้วพูดอย่างสนิทสนมว่า “เราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน เธอห้ามโกหกพวกเราเด็ดขาดล่ะ”“แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่มีทางโกหกพวกเธอแน่นอน”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้าอย่างเรียบร้อย“ไปกันเถอะ เข้าเรียนกัน”หวังถิงจูงมือซูเฉี่ยนเฉี่ยนให้เข้าเรียน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองหวังถิงที่อยู่ข้างหน้า ในใจเต็มไปด้วยความกังวลใจอย่างไรก็ตาม ก่อนเรียนจบต้องห้ามให้หวังถิงกับหลิวจิงจิงรู้ว่าเธอโกหกเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของเธอได้จบเห่แน่นอนชั้นบนบริเวณหน้าห้องเรียนของซูเฉี่ยนเฉี่ยนล้อมรอบไปด้วยผู้คน หลิวจิงจิงเองก็ชะเง้อมองไปทั่วสารทิศ แต่เพราะตัวเล็กจึงไม่สามารถเบียดเข้าไปได้“เกิดอะไรขึ้น?”หวังถิงเข้าไปถามหลิวจิงจิงเม้าท์มอย “ได้ข่าวว่าคณะกรรมการตรวจ
สองคนนี้สมองมีปัญหาหรือไงกัน?“ถ้าพวกเธอสองคนไม่ไป ฉันจะไปแล้วนะ!”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอยากจะหนีไป แต่ใครจะรู้ว่าขาหนึ่งเพิ่งจะก้าวออกไป ก็ได้ยินเสียงนักเรียนคนหนึ่งที่อยู่หน้าห้องตะโกนขึ้น “ซูเฉี่ยนเฉี่ยน! คณะกรรมการตรวจสอบเรียกเธอ!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพลันตกใจวูบทันใดนั้นเอง คณะกรรมการตรวจสอบวินัยก็เดินออกมา แล้วชี้ไปยังแผ่นหลังของซูเฉี่ยนเฉี่ยน กล่าวว่า “เธอ หยุดก่อน”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนตัวแข็งทื่อพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงระมัดระวังขณะหันกลับไป “หนู…หนูเองค่ะ”“เธออยู่หอ 317 หรือเปล่า?”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้า ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายถามเรื่องนี้ทำไม“หลิวจิงจิงอยู่หอเดียวกับพวกเธอไหม?”“…ใช่ ใช่ค่ะ”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองไปยังหลิวจิงจิงที่อยู่ไม่ไกลโดยสัญชาตญาณหลิวจิงจิงตะลึงงัน คณะกรรมการเองก็มองไปที่เธอด้วย“เธอคือหลิวจิงจิงใช่ไหม?”หลิวจิงจิงพยักหน้าตัวแข็งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยก้มมองจดหมายฟ้องร้องในมือ แล้วกล่าวว่า “มีคนฟ้องร้องว่าเธอปล่อยข่าวลือเท็จในมหาวิทยาลัย ทำลายภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก และละเมิดชื่อเสียงของนักศึกษาหญิงคนหนึ่งด้วย”กล่าวจบ คณะกรรมการตรวจส
“ถ้างั้นเป็นฝีมือใคร?”เสิ่นม่านขมวดคิ้วมุ่นถ้าบอกจะจัดการอีกฝ่าย ก็ควรจัดการซูเฉี่ยนเฉี่ยน แต่คนเบื้องหลังกลับจงใจโยนความผิดให้กับหลิวจิงจิง แต่สุดท้ายก็เหมือนไม่ไดทำอะไร เพราะหลิวจิงจิงก็แค่โดนตักเตือน ส่วนซูเฉี่ยนเฉี่ยนกลับไม่โดนอะไรเลยขณะเดียวกัน เสิ่นม่านก็เหลือบมองเห็นฟู่ฉือโจวที่คาบหมั่นโถวรูปดอกไม้พร้อมถือถาดอาหารเดินผ่านไปเสิ่นม่านยื่นมือออกไปดึงชายเสื้อของฟู่ฉือโจวไว้ “หยุด!”ฟู่ฉือโจวหัวกลับไปถามด้วยน้ำเสียงไม่ชัดเจน “ทำไม!”“ฝีมือนายเหรอ?”“ฝีมือฉันอะไร?”ฟู่ฉือโจวมึนงง“คณะกรรมการตรวจสอบวินัย”เสิ่นม่านเข้าประเด็นทันทีฟู่ฉือโจวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฝีมือเซียวตั๋วหรือเปล่า?”“เซียวตั๋วจะยุ่งเรื่องนี้งั้นเหรอ?”เสิ่นม่านนึกถึงเหตุการณ์ใต้ตึกหมู่บ้านที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนทั้งสามคนไปหาวันนั้นไม่แน่อาจจะเป็นฝีมือของเซียวตั๋วจริงๆ ก็ได้แต่ทว่าขณะนี้ความสงสัยทั้งหมดทั้งมวลของเสิ่นม่านกลับถูกอีกคำถามหนึ่งแทนที “นายจนถึงขนาดต้องมีกินข้าวที่นี่แล้วเหรอ?”โรงอาหารทั่วไปของมหาวิทยาลัยเอดูอย่างไรก็ไม่เหมือนสถานที่ที่ฟู่ฉือโจวจะมาได้“ประหยัดได้ก็ประหยัด”ฟู่ฉือโจวตอ
เสิ่นม่านพยักหน้า ก่อนหน้านี้ตอนที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนคุกเข่าต่อเธอก็พูดแบบนั้น“หล่อนไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่?”ฟู่ฉือโจวถามด้วยความสงสัย“ฉันจะรู้ได้ไง?”“ถ้างั้นหล่อนมีแฟนอยู่แล้วยังจะรังควานป๋อซือเหยียนอีก ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดานะเนี่ย!”ฟู่ฉือโจวรู้สึกรังเกียจต่อพฤติกรรมของผู้หญิงแบบนี้มาก“คำพูดของหล่อนเป็นคำพูดที่พูดให้คนอื่นฟังอยู่แล้ว ยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าหล่อนจะคบผู้ชายคนอื่นนอกจากป๋อซือเหยียน”เสิ่นม่านวางตะเกียบลงพร้อมเก็บจานตรงหน้า “ฉันกินเสร็จแล้ว พวกนายตามสบายเลยนะ”กล่าวจบ เสิ่นม่านพลันลุกขึ้นกำลังจะเดินจากไปฮั่วหยุนเซียวเองก็เก็บจาน แล้วกล่าวว่า “ฉันก็เสร็จแล้วเหมือนกัน”ฟู่ฉือโจวยัดหมั่นโถวรูปดอกไม้เข้าปาก “รอฉันด้วยสิ!”พลบค่ำ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองดูผลคะแนนสุ่มสอบในห้องเรียนครั้งล่าสุดอยู่ที่หอพัก หัวใจพลันกระตุกไปทีหนึ่งผลคะแนนของเธอดีมาโดยตลอด แต่กลับลดลงฮวบในการสอบครั้งนี้เพื่อนร่วมหอพักที่เห็นผลคะแนนแล้วก็อดไม่ได้ตะลึงงัน “เฉี่ยนเฉี่ยน เธอ…ทำไมเธอตกไปอยู่อันดับเก้าได้ล่ะ แต่ก่อนเธอได้ที่หนึ่งตลอดไม่เคยตกอันดับขนาดนี้เลยนี่”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเก็บผลคะแนนอย่า
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกำลังจะอธิบาย ทว่าป๋อซือเหยียนกลับพูดขึ้น “คุณมีพรสวรรค์มากก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะละเลยการเรียนแบบนี้ได้”“ขอโทษค่ะ ฉัน…”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว ทว่าครั้งนี้ป๋อซือเหยียนตั้งใจจะไม่ใจอ่อน“คุณน่าจะรู้กฎระเบียบของมหาวิทยาลัยเอดี ถ้าครั้งหน้าผลคะแนนของคุณยังตกเยอะขนาดนี้ แล้วยังต่ำกว่าท็อปสิบอีก คุณจะหลุดจากทุนการศึกษาทันที และคุณจะต้องรับผิดชอบค่าเทอมเองทั้งหมด”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรู้กฎนี้ดี แต่เธอไม่คิดว่าคำพูดนี้จะออกจากปากของป๋อซือเหยียนซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองป๋อซือเหยียนอย่างอ้ำอึ้ง สติหลุดไปชั่วขณะป๋อซือเหยียนพูดชัดเจนมากจนไม่รู้จะชัดเจนอย่างไรแล้ว ถ้าหากผลคะแนนของเธอยังตกฮวบต่อไปอีก เช่นนั้นป๋อซือเหยียนจะไม่สนับสนุนเธออีก และจะไม่ช่วยให้เธอได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเออีกต่อไป ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เธอต้องเป็นคนรับผิดชอบเอง“ประธานป๋อ ฉันสำนึกผิดแล้วค่ะ ต่อไปจะไม่มีอีก”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบยอมจำนนค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เธอใช้สอยในมหาวิทยาลัยเอล้วนคิดบัญชีกับป๋อซือเหยียนทั้งนั้น แถมป๋อซือเหยียนยังให้ค่าขนมเธออีกเดือนละห้าหมื่นบาทด้วย! เพื่อที่เธอจะได้ตั้งใ
“ต้องสงสัยว่าเธอมีชู้ข้างนอกแน่ๆ! ผู้ชายแบบนี้ใจแคบ คบไม่ได้”เจียงฉินเช็ดปาก แล้วกล่าวว่า “เลิกกับเขาเลยดีกว่า แต่งงานกับคนใหม่เถอะ!”“จะแต่งกับใครล่ะ?”“ฉันว่าน้องชายฉันก็ไม่แย่นะ หรือว่าเธอสองคนจะลองคบกันดู?”เจียงฉินพูดจาตรงไปตรงมา ทำเอาเสิ่นม่านแทบจะสำลักชานมออกมา “ช่างเถอะ ไม่เหมาะหรอก”“ไม่เหมาะตรงไหน? น้องฉันไม่หล่อเหรอ? หล่อกว่าป๋อซือเหยียนตั้งเยอะ!”“ฉันไม่ได้บอกว่าไม่หล่อสักหน่อย”“หรือจะเป็นเรื่องเงินเรื่องอำนาจ ก็เทียบเท่าอยู่ดี!”“ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้”เสิ่นม่านส่ายศีรษะ “เรื่องความรู้สึกน่ะ ใช่ว่าจะมีก็มีได้”“จบละ ถ้างั้นน้องฉันคงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ”เจียงฉินทำท่าเสียใจ แล้วถามว่า “ถ้างั้นเธอคิดยังไงกับน้องฉันล่ะ? ชอบ หรือว่าไม่ชอบ?”“ไม่ถึงกับชอบ แต่ก็ไม่เกลียด แถมยังรู้สึกว่าเขาไม่เลวด้วย”เจียงฉินพยักหน้าถ้างั้นก็ยังมีโอกาส!ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ในกระเป๋าของเจียงฉินกะพริบไปทีหนึ่ง บนหน้าจอแสดงว่ากำลังสนทนากับ ‘น้องชาย’ อยู่เซียวตั๋วที่อยู่อีกฝั่งตัดสาย แล้วขมวดคิ้วมุ่นฟู่ฉือโจวกำลังนั่งสูดเส้นบะหมี่หอยหวานอยู่ข้างๆ ถามว่า “ทำหน้าแค้นฝังหุ่นขนาดน
พบว่ามีทุเรียนลูกใหญ่ที่ถูกแกะเป็นรอยแล้ววางเรียงกันในกล่องทั้งหมดหกลูก หลังจากเปิดกล่องก็ได้กลิ่นหอมเจือเหม็นลอยฟุ้งออกมาทันที“แม่เจ้า ใครมันว่างส่งทุเรียนมาให้เธอลังหนึ่งเนี่ย?”เจียงฉินรีบหยิบทุเรียนออกมาลูกหนึ่ง แล้วสูดดมกลิ่นใกล้ๆ จากนั้นก็เอ่ยชื่นชมว่า “ทุเรียนนี้กลิ่นดีจริงๆ!”หลังจากนั้น เจียงฉินก็มองไปยังพนักงานขนส่งพัสดุ แล้วถามว่า “ใครส่งมาเหรอ?”พนักงานส่งของตอบ “คุณผู้ชายคนหนึ่งส่งมาครับ”“คุณผู้ชาย?”เจียงฉินหันกลับไปถามเสิ่นม่าน “ทำไม? มีหนุ่มอื่นตามจีบอีกเหรอ?”เสิ่นม่านส่ายหน้าเธอไม่รู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนส่งทุเรียนนี้มาชาติก่อน ผู้ชายที่ยุ่งเกี่ยวกับเธอมีไม่มากนัก ตั้งแต่ที่แต่งงานกับป๋อซือเหยียน ก็ยิ่งไม่ติดต่อกับเพศตรงข้ามอีกเลยยิ่งไปกว่านั้น ใครอยู่ดีไม่ว่าดีส่งทุเรียนมาให้เยอะขนาดนี้กัน?“จึๆ ส่งทุเรียนมาให้สาว ไม่รู้ผู้ชายนั่นคิดอะไรอยู่ โง่หรือโง่เนี่ย!”เจียงฉินกล่าว “น้องชายฉันดีที่สุดละ น้องฉันไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้แน่!”ไม่ทันรอให้เสิ่นม่านปริปาก ก็มีเสียงเรียกเขาจากเซียวตั๋วทันที“ฮัลโหล?”“ได้รับของหรือยัง?”เสียงเซียวตั๋วฟังดูนิ่งขร
เจียงฉินเสียงดังมาก ฟู่ฉือโจวเกาศีรษะยุ่งเหยิงเป็นรังนกแล้วเปิดประตูถาม “ใครมันมาตะโกนโหวกเหวกแต่เช้าเนี่ย! ยังจะให้คนอื่นเขานอนไหม!”ฟู่ฉือโจวเปิดประตู หลังจากเห็นเจียงฉินแล้ว ฟู่ฉือโจวก็มึนงง เขาคิดว่าตนตาฝาดจึงปิดประตู แล้วเปิดประตูอีกครั้ง เมื่อมั่นใจแล้วว่าเป็นเจียงฉิน ฟู่ฉือโจวถึงได้พูดติดอ่าง “คุณ…คุณมาได้ไง?”เจียงฉินหยิกหูฟู่ฉือโจว แล้วกล่าวว่า “สอนน้องชายฉันจีบสาวแบบนี้ใช่ไหม? ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ ถ้าน้องสะใภ้ฉันหลุดมือไปล่ะก็ นายรอกินหมัดเทวดาฉันได้เลย!”“ฟู่ฉือโจว นายควรจะอธิบายให้ฉันฟังในสถานการณ์แบบนี้หน่อยไหม?”เสิ่นม่านกอดอกพิงกำแพงมองฟู่ฉือโจวฟู่ฉือโจวมองเจียงฉินแวบหนึ่งสลับมองเสิ่นม่าน จากนั้นพลันกลืนน้ำลายลงไปตื่นมาแต่เช้า บรรพบุรุษสองคนนี้คิดจะฆ่าเขาหรือไงกัน?ฟู่ฉือโจวพาเสิ่นม่านและเจียงฉินเข้าไปในบ้านทันทีโดยไม่รอช้า เมื่อเห็นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของฟู่ฉือโจว ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นบ้านใหม่ น่าจะเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน“ทั้งสองเชิญนั่งครับ”ฟู่ฉือโจวพยักหน้าโน้มตัวเชิญทั้งสองให้นั่งบนโซฟา เป็นถึงท่านประธานแห่งฟู่ซื่อกรุป แต่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงทั้งสองคน
เสิ่นม่านไม่ได้ระลึกถึงอุบัติเหตุรถยนต์ในหลายปีก่อนมานานแล้ว อุบัติเหตุที่ทำให้เธอต้องสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย ในตอนนั้นเธอยังเด็ก ต่อให้โตขึ้นมาแล้ว เธอก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา แต่ตอนนี้ฮั่วหยุนเหลียนนั่งอยู่ตรงหน้าเธอและบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นแผนการที่ไตร่ตรองมาอย่างดี!"พ่อแม่ของเซียวตั๋วตายในอุบัติเหตุรถยนต์ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา ในตอนนั้นป้าเซียวที่ตั้งครรภ์อยู่รอดชีวิต เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นค้นพบ และเพื่อให้ป้าเซียวคลอดลูกได้อย่างสบายใจ คุณปู่เซียวได้ส่งป้าเซียวไปต่างประเทศ ไม่นานนัก เซียวตั๋วก็เกิดขึ้น"ตามข่าวลือ แม่ของเซียวตั๋วถูกกล่าวหาว่าเป็นภรรยาลับที่เซียวเป่ยเจิงเลี้ยงดูอยู่นอกบ้าน ซึ่งโกรธแค้นตระกูลเซียวมาโดยตลอด และปลูกฝังความคิดที่ต้องการแก้แค้นตระกูลเซียวให้แก่เซียวตั๋ว ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่คนบ้าแต่อย่างใด ครั้งหนึ่งบนเรือสำราญ เซียวตั๋วก็เคยยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงข่าวลือจากภายนอกแม่ของเซียวตั๋วไม่ใช่ภรรยาลับ แต่เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเซียวเป่ยเจิง เป็นคุณหญิงเซียวตัวจริง"คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่า ใ
เบื้องหน้าคือวิลล่าที่ดูธรรมดา แต่ทำเลที่ตั้งของที่นี่ถือว่าดีที่สุด วิลล่าในย่านนี้มีราคาขั้นต่ำขั้นสูงกว่าล้านล้านบาท คนที่สามารถอาศัยอยู่แถวนี้ได้ต้องเป็นคนร่ำรวยหรือจะต้องรวยหรือมีเกียรติแต่ว่า ที่นี่ดูเหมือนไม่ใช่ที่ที่มีคนอาศัยอยู่เป็นประจำ"ไม่นึกเลยว่าคุณฮั่วจะมีบ้านที่งดงามแบบนี้ที่นี่""นี่ไม่ใช่ของผม"น้ำเสียงของฮั่วหยุนเหลียนเรียบเฉย เสิ่นม่านยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ฮั่วหยุนเหลียนก็หยิบกุญแจออกมา เขาไอเบา ๆ สองครั้ง หน้าตาดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร จากนั้นเขาก็เปิดประตูวิลล่าเสิ่นม่านก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วพูดว่า: "ที่นี่ไม่ใช่บ้านของคุณ แล้วทำไมคุณถึงมีกุญแจล่ะ?""เพื่อนให้ผมมา"คนที่ฮั่วหยุนเหลียนเรียกว่าเพื่อนในเมืองไห่เฉิงนี้ไม่มีมากนัก เสิ่นม่านจึงนึกถึงเซียวตั๋วเป็นคนแรกฮั่วหยุนเหลียนเปิดประตูแล้วเสิ่นม่านก็เดินตามฮั่วหยุนเหลียนเข้าไป แม้วิลล่าจะดูเรียบง่ายจากด้านนอก แต่การตกแต่งภายในก็พิถีพิถันมาก แม้ในยุคนี้ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ล้ำเลิศหลังจากฮั่วหยุนเหลียนเปิดไฟ เสิ่นม่านก็มองไปรอบ ๆ เหมือนที่นี่มีคนมาทำความสะอาดอยู่เสมอ ฮั่วหยุนเหลียนไม่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก
"คุณเคยคิดเรื่องนี้อาจจะเหลือหลักฐานไหม? คุณยังสัญญากับฉันว่า จะไม่ทำเรื่องอันตรายอีกแล้ว"วันนี้เซียวตั๋วพาคนมาทั้งหมดเป็นพวกลุกฮือที่เคยติดตามเขาตลอด ซึ่งเสิ่นม่านก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในชาติก่อน เสิ่นม่านรู้ว่า เซียวตั๋วมาเเมืองไห่เฉิง แท้จริงแล้วก็คือมีเป้าหมายอื่น เป้าหมายหลักของเขาคือป๋อซือเหยียน แม้ว่าตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าเซียวตั๋วมีจุดมุ่งหมายอะไรแต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ เซียวตั๋วต้องการจะเป็นใหญ่ในเมืองไห่เฉิง และอุปสรรคคนแรกก็คือป๋อซือเหยียนแต่เธอไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องราวมากมายขนาดนี้ในชาตินี้ เส้นทางอนาคตได้ถูกปรับเปลี่ยนไป แต่เป้าหมายของเซียวตั๋วกลับไม่เปลี่ยนเลย และยังมีกลุ่มอันตรายเช่นนี้ซ่อนอยู่ด้วยหากมีสักคนที่ถูกจับได้ เซียวตั๋วอาจจะพังพินาศได้เสิ่นม่านไม่กล้าคิดถึงเรื่องในอนาคต เธอมองไปที่เซียวตั๋วตรงหน้า รอให้เซียวตั๋วอธิบายเซียวตั๋วนิ่งเงียบ เสิ่นม่านจึงถามตรงๆ "คุณมีเรื่องอื่นที่ต้องทำในเมืองไห่เฉิง ใช่ไหม?""...ใช่""ก่อนที่คุณมาเมืองนี้แต่อยู่ต่างประเทศก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ได้แล้ว ทำไมถึงต้องมาเมืองไห่เฉิงด้วย หยุนเฟยหานไม่ใช่มาเมืองหลินเฉิงแล้วกำลังรุ่
เสิ่นม่านมองป๋อซือเหยียนที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงแล้วพูดเรียบๆ ว่า: "ไม่ล่ะ รอให้เขาหายดีแล้วฉันค่อยมาอีกทีก็แล้วกัน"เสิ่นม่านเดินออกจากห้องพักคนไข้โดยไม่ลังเลเลย ในตอนนั้นเอง ป๋อซือเหยียนที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นเลขาหลี่เห็นป๋อซือเหยียนลืมตาก็ตกตะลึง"คุณป๋อ? คุณ...""ช่วยพยุงผมลุกหน่อย"เสียงของป๋อซือเหยียนแหบแห้งเลขาหลี่รีบเข้าไปช่วยพยุงป๋อซือเหยียนให้ลุกขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: "คุณป๋อครับ นี่คุณ... ใช้กลอุบายเรียกร้องความสนใจหรือครับ?"ป๋อซือเหยียนไม่พูดอะไรตอนนั้น เขาสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรกแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยส่งสัญญาณเตือนตั้งนานแล้ว เขารู้ว่าคนที่บุกเข้ามาในบ้านตระกูลป๋อในเวลานี้มีเพียงเซียวตั๋วเท่านั้น และมีเพียงเซียวตั๋วเท่านั้นที่มีความสามารถทำเช่นนี้ได้และเมื่อกลุ่มโจรบุกเข้ามา ด้วยรูปร่างของเขาสามารถหลบดาบนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น แต่เลือกที่จะรับดาบนั้นเต็มๆเขาแค่อยากรู้ว่า เสิ่นม่านจะเสียใจหรือกังวลเพราะเขาหรือไม่ป๋อซือเหยียนแสดงสีหน้าอ่อนล้าด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ แล้วพูดว่า: "คุณหลี่ ในใจของเธอ คงยังมีผมอยู่บ้างมั้ง"
"กล่องปฐมพยาบาลมาแล้วค่ะ!"แม่บ้านวางกล่องปฐมพยาบาลลงตรงหน้าเสิ่นม่าน ขณะเดียวกัน เจียงฉินและฟู่ฉือโจวก็มาถึงพอดี เมื่อเห็นความยุ่งเหยิงเต็มพื้น เจียงฉินชะงักไป ทั้งสองคนต่างรู้ชัดว่า 'โจร' ที่ว่านั้นคือใครเจียงฉินขมวดคิ้วและพูดว่า: "นั่งรถฉันไปเถอะ ไม่รู้ว่ารถพยาบาลจะมาถึงเมื่อไหร่""ตกลง"เสิ่นม่านสั่งให้ยามช่วยกันยกป๋อซือเหยียนไปที่รถของเจียงฉินที่อยู่หน้าประตูในโรงพยาบาล แพทย์รีบทำการช่วยชีวิตป๋อซือเหยียนทันที เจียงฉินนั่งอยู่กับเสิ่นม่านบนเก้าอี้ในทางเดิน และพูดว่า: "ไม่ต้องกังวลนะ เมื่อกี้หมอบอกว่าไม่ใช่จุดอันตราย""แต่ถ้าเสียเลือดมากเกินไป ก็อาจเสียชีวิตได้"เสิ่นม่านนวดขมับและถามว่า: "แล้วฟู่ฉือโจวล่ะ?""เขา... เขามีธุระต้องกลับไปก่อน""ไปหาเซียวตั๋วใช่ไหม?"เสิ่นม่านและเจียงฉินต่างรู้ว่าโจรที่บุกเข้าบ้านตระกูลป๋อวันนี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเซียวตั๋วครั้งนี้เซียวตั๋วทำอะไรลงไปอย่างบุ่มบ่ามเกินไป เห็นได้ชัดว่าเป็นการตัดสินใจกะทันหัน แม้ว่าการแทงครั้งนี้จะไม่ถึงกับเอาชีวิตป๋อซือเหยียน แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าในระหว่างนั้นจะเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นหรือไม่"ใครเป็นญาติผู้ป่ว
"ไม่มีเหตุผล ทำไมบ้านตระกูลป๋อจะถูกโจรบุกได้"เสิ่นม่านรู้ดีถึงระบบรักษาความปลอดภัยของบ้านตระกูลป๋อ นอกจากยามรักษาความปลอดภัย 20 คนแล้ว ยังมีแม่บ้านและบอดี้การ์ดอีกหลายคน ภายในบ้านตระกูลป๋อมีศาลบรรพชนของตระกูล ดังนั้นประตูหน้าและหลังจึงใช้ประตูเทคโนโลยีทั้งหมด คนทั่วไปยากที่จะเข้าไปในบ้านตระกูลป๋อได้ แล้วโจรที่ไหนจะมีฝีมือขนาดนี้ สามารถบุกเข้าประตูหลังของบ้านตระกูลป๋อได้อย่างกะทันหัน"ตำรวจคงจะมาถึงเร็วๆ นี้ พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่เพื่อสร้างความวุ่นวาย ม่านม่าน รีบไปกันเถอะ"เจียงฉินดึงแขนของเสิ่นม่านด้วยความกลัว แต่เสิ่นม่านขมวดคิ้วพูดว่า: “อย่าแจ้งตำรวจ ฉันจะเข้าไปข้างใน""คุณหนูเสิ่น คุณบ้าไปแล้วหรือ!"ฟู่ฉือโจวมองเสิ่นม่านที่อยู่ตรงหน้าด้วยความไม่อยากเชื่อ เสิ่นม่านมองประตูใหญ่ของบ้านตระกูลป๋อ หากเธอเดาไม่ผิด โจรที่อยู่ในบ้านตระกูลป๋อตอนนี้ น่าจะเป็นคนที่เธอคิดถึงเสิ่นม่านวิ่งไปที่ประตูใหญ่ของบ้านตระกูลป๋อ ขณะนี้บ้านตระกูลป๋ออยู่ในสภาพยับเยิน และในความมืด เสิ่นม่านก็ถูกจับแขนทั้งสองข้างอย่างรวดเร็ว: “หัวหน้า จับผู้หญิงได้คนหนึ่ง!"เสียงของโจรดึงดูดความสนใจของชายคนหนึ่งในความ
เสิ่นม่านวางสายโทรศัพท์มู่หยุนหานเดินเข้ามาถามว่า :“เกิดอะไรขึ้น?”“คุณและกู้ไป๋รู้จักคนในวงการบันเทิงบางคน ฉันมีธุระต้องไปก่อน”“แต่วันนี้มันเป็นงานสำคัญ คุณจะไปได้เหรอ?”เสิ่นม่านมองไปที่ป๋อซือเหยียนที่ยังคุยอยู่กับกู้ไป๋แล้วพูดว่า :“ฉันจะไปแบบเงียบๆ”พูดจบ เสิ่นม่านก็รีบดื่มไวน์จนหมดแล้วส่งแก้วเปล่าให้มู่หยุนหาน ก่อนจะยกกระโปรงแล้ววิ่งหนีไปในทันที เมื่อไม่มีใครสังเกตมู่หยุนหานพยายามเรียกเสิ่นม่าน แต่เสิ่นม่านวิ่งได้เร็วมาก จนในไม่ช้าเธอก็ออกมาจากประตูบ้านป๋อได้แล้วหลังจากนั้นสิบห้านาที รถสปอร์ตขับมาอย่างรวดเร็ว เสิ่นม่านมายืนที่หน้าบ้านป๋อ เจียงฉินก็ก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็ว: “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงกลับมาคืนดีกันอย่างเฉียบพลัน?”“ใช่ค่ะ เสิ่นม่าน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? หรือว่าป๋อซือเหยียนข่มขู่คุณ? อย่ากลัวนะ มีเซียวตั๋วอยู่ เขาไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก ” ฟู่ฉือโจวพูดสนับสนุนจากข้างๆเสิ่นม่านพูดว่า: “มันไม่ใช่การข่มขู่ แต่เราทำข้อตกลงกัน”“ข้อตกลงอะไร?”“ฉันกับป๋อซือเหยียนได้เซ็นสัญญากันแล้ว เอกสารหย่าก็เซ็นเรียบร้อย เพียงแค่แกล้งทำเป็นคู่รักที่รักกับโลกภายนอกเพื่อช่วยฟื้นฟูภ
ประธานซ่งและซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบออกจากตระกูลป๋อ ขณะที่ป๋อซือเหยียนก็ลงมาจากชั้นสอง เลขาหลี่ก็เดินเข้ามาใกล้ป๋อซือเหยียนและพูดว่า: “ประธานป๋อ ไม่เห็นแม้แต่เงาของเมิ่งจงเซิง”ป๋อซือเหยียนมองไปรอบๆ เขาเคยคิดว่านี่จะเป็นโอกาสดีในการดูตัวตนที่แท้จริงของเมิ่งจงเซิง แต่ไม่คาดคิดว่าเมิ่งจงเซิงจะยังคงไม่ให้เกียรติเลย“แม้ว่าเมิ่งจงเซิงจะไม่มา แต่กู้ไป๋ก็มา”ทันทีที่เลขาหลี่กล่าวเสร็จ กู้ไป๋ก็เดินเข้ามาทางนี้: “ประธานป๋อ ยินดีที่ได้เจอกัน”“ยินดีที่ได้เจอกัน แต่ทำไมประธานเมิ่งไม่มา?”“ประธานเมิ่งไม่มา แต่การที่ผมมาที่นี่ก็เหมือนกัน”คำพูดของกู้ไป๋มีนัยยะ ซึ่งดึงความสนใจของป๋อซือเหยียนก่อนหน้านี้กู้ไป๋เป็นเพียงนักแสดงชั้นนำของบริษัท M กรุ๊ป ในสายตาของกลุ่มนักลงทุนใหญ่ๆ เขาเป็นเพียงแค่คนทำงานในบริษัท M แต่เขากลับพูดอย่างชัดเจนว่าตนอยู่ในระดับสูงสุดของบริษัท M กรุ๊ป“คุณกู้ หมายความว่าอะไรครับ?”กู้ไป๋ยิ้มเล็กน้อย สายตาของเขามีความลึกลับบางอย่างตลอดเวลาที่ผ่านมา ธุรกิจของบริษัท M กรุ๊ป คือเมิ่งจงเซิง ไม่เคยปรากฏตัวเลย มักจะปรากฏตัวแค่ในการเต้นรำที่สวมหน้ากากครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นเข
เธอเข้าข่ายไม่ชอบที่คนอื่นพูดถึงเรื่องที่เธอเคยเป็นมือที่สาม เลขาหลี่ก็พูดอย่างอ้อมๆ แต่ความหมายก็ชัดเจนในช่วงเวลานี้ ตระกูลป๋อไม่สามารถแต่งงานกับผู้หญิงที่เพิ่งสูญเสียลูกไปได้ จึงต้องรักษาชื่อเสียงไว้ด้วยการอยู่คู่กับภรรยาเดิม สร้างภาพลักษณ์ว่าครอบครัวมีความรักกัน เพื่อให้เศรษฐกิจของตระกูลป๋อกลับมาฟื้นตัวเมื่อประธานซ่งได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็เอ่ยห้ามซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่กำลังจะพูด: “เหนี่ยนสือ อย่าทำตัวไม่รู้เรื่องนะ”“พ่อ…”“ผมเข้าใจความกังวลของประธานป๋อ และเข้าใจว่าท่านทำไปเพื่ออนาคตของตระกูลป๋อ ถ้าประธานป๋อกับคุณหนูเสิ่นหย่ากันแล้ว จะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะแต่งงานกับลูกสาวของผม?”ป๋อซือเหยียนไม่ได้พูดอะไร เลขาหลี่ก็ตามมาอธิบายว่า: “หกเดือนครับ สัญญาระหว่างประธานป๋อกับคุณหนูเสิ่นจะสิ้นสุดในหกเดือน ดังนั้นต้องให้คุณซ่งรออีกหกเดือน”“ ไม่ ตำแหน่งคุณหญิงป๋อควรเป็นของฉัน!”“เธอหุบปากซะ!”ประธานซ่งตัดบทพูดของซูเฉี่ยนเฉี่ยนด้วยความโกรธเมื่อเห็นประธานซ่งโกรธ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก กลับถอยไปอยู่ข้างๆประธานซ่งลุกขึ้นพูดว่า: “ดี หกเดือนก็หกเดือน ผมหวังว่าประธานป๋อจะไม่ทำให้ผ