เสิ่นม่านพยักหน้า ก่อนหน้านี้ตอนที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนคุกเข่าต่อเธอก็พูดแบบนั้น“หล่อนไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่?”ฟู่ฉือโจวถามด้วยความสงสัย“ฉันจะรู้ได้ไง?”“ถ้างั้นหล่อนมีแฟนอยู่แล้วยังจะรังควานป๋อซือเหยียนอีก ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดานะเนี่ย!”ฟู่ฉือโจวรู้สึกรังเกียจต่อพฤติกรรมของผู้หญิงแบบนี้มาก“คำพูดของหล่อนเป็นคำพูดที่พูดให้คนอื่นฟังอยู่แล้ว ยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าหล่อนจะคบผู้ชายคนอื่นนอกจากป๋อซือเหยียน”เสิ่นม่านวางตะเกียบลงพร้อมเก็บจานตรงหน้า “ฉันกินเสร็จแล้ว พวกนายตามสบายเลยนะ”กล่าวจบ เสิ่นม่านพลันลุกขึ้นกำลังจะเดินจากไปฮั่วหยุนเซียวเองก็เก็บจาน แล้วกล่าวว่า “ฉันก็เสร็จแล้วเหมือนกัน”ฟู่ฉือโจวยัดหมั่นโถวรูปดอกไม้เข้าปาก “รอฉันด้วยสิ!”พลบค่ำ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองดูผลคะแนนสุ่มสอบในห้องเรียนครั้งล่าสุดอยู่ที่หอพัก หัวใจพลันกระตุกไปทีหนึ่งผลคะแนนของเธอดีมาโดยตลอด แต่กลับลดลงฮวบในการสอบครั้งนี้เพื่อนร่วมหอพักที่เห็นผลคะแนนแล้วก็อดไม่ได้ตะลึงงัน “เฉี่ยนเฉี่ยน เธอ…ทำไมเธอตกไปอยู่อันดับเก้าได้ล่ะ แต่ก่อนเธอได้ที่หนึ่งตลอดไม่เคยตกอันดับขนาดนี้เลยนี่”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเก็บผลคะแนนอย่า
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกำลังจะอธิบาย ทว่าป๋อซือเหยียนกลับพูดขึ้น “คุณมีพรสวรรค์มากก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะละเลยการเรียนแบบนี้ได้”“ขอโทษค่ะ ฉัน…”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว ทว่าครั้งนี้ป๋อซือเหยียนตั้งใจจะไม่ใจอ่อน“คุณน่าจะรู้กฎระเบียบของมหาวิทยาลัยเอดี ถ้าครั้งหน้าผลคะแนนของคุณยังตกเยอะขนาดนี้ แล้วยังต่ำกว่าท็อปสิบอีก คุณจะหลุดจากทุนการศึกษาทันที และคุณจะต้องรับผิดชอบค่าเทอมเองทั้งหมด”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรู้กฎนี้ดี แต่เธอไม่คิดว่าคำพูดนี้จะออกจากปากของป๋อซือเหยียนซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองป๋อซือเหยียนอย่างอ้ำอึ้ง สติหลุดไปชั่วขณะป๋อซือเหยียนพูดชัดเจนมากจนไม่รู้จะชัดเจนอย่างไรแล้ว ถ้าหากผลคะแนนของเธอยังตกฮวบต่อไปอีก เช่นนั้นป๋อซือเหยียนจะไม่สนับสนุนเธออีก และจะไม่ช่วยให้เธอได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเออีกต่อไป ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เธอต้องเป็นคนรับผิดชอบเอง“ประธานป๋อ ฉันสำนึกผิดแล้วค่ะ ต่อไปจะไม่มีอีก”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนรีบยอมจำนนค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เธอใช้สอยในมหาวิทยาลัยเอล้วนคิดบัญชีกับป๋อซือเหยียนทั้งนั้น แถมป๋อซือเหยียนยังให้ค่าขนมเธออีกเดือนละห้าหมื่นบาทด้วย! เพื่อที่เธอจะได้ตั้งใ
“ต้องสงสัยว่าเธอมีชู้ข้างนอกแน่ๆ! ผู้ชายแบบนี้ใจแคบ คบไม่ได้”เจียงฉินเช็ดปาก แล้วกล่าวว่า “เลิกกับเขาเลยดีกว่า แต่งงานกับคนใหม่เถอะ!”“จะแต่งกับใครล่ะ?”“ฉันว่าน้องชายฉันก็ไม่แย่นะ หรือว่าเธอสองคนจะลองคบกันดู?”เจียงฉินพูดจาตรงไปตรงมา ทำเอาเสิ่นม่านแทบจะสำลักชานมออกมา “ช่างเถอะ ไม่เหมาะหรอก”“ไม่เหมาะตรงไหน? น้องฉันไม่หล่อเหรอ? หล่อกว่าป๋อซือเหยียนตั้งเยอะ!”“ฉันไม่ได้บอกว่าไม่หล่อสักหน่อย”“หรือจะเป็นเรื่องเงินเรื่องอำนาจ ก็เทียบเท่าอยู่ดี!”“ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้”เสิ่นม่านส่ายศีรษะ “เรื่องความรู้สึกน่ะ ใช่ว่าจะมีก็มีได้”“จบละ ถ้างั้นน้องฉันคงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ”เจียงฉินทำท่าเสียใจ แล้วถามว่า “ถ้างั้นเธอคิดยังไงกับน้องฉันล่ะ? ชอบ หรือว่าไม่ชอบ?”“ไม่ถึงกับชอบ แต่ก็ไม่เกลียด แถมยังรู้สึกว่าเขาไม่เลวด้วย”เจียงฉินพยักหน้าถ้างั้นก็ยังมีโอกาส!ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ในกระเป๋าของเจียงฉินกะพริบไปทีหนึ่ง บนหน้าจอแสดงว่ากำลังสนทนากับ ‘น้องชาย’ อยู่เซียวตั๋วที่อยู่อีกฝั่งตัดสาย แล้วขมวดคิ้วมุ่นฟู่ฉือโจวกำลังนั่งสูดเส้นบะหมี่หอยหวานอยู่ข้างๆ ถามว่า “ทำหน้าแค้นฝังหุ่นขนาดน
พบว่ามีทุเรียนลูกใหญ่ที่ถูกแกะเป็นรอยแล้ววางเรียงกันในกล่องทั้งหมดหกลูก หลังจากเปิดกล่องก็ได้กลิ่นหอมเจือเหม็นลอยฟุ้งออกมาทันที“แม่เจ้า ใครมันว่างส่งทุเรียนมาให้เธอลังหนึ่งเนี่ย?”เจียงฉินรีบหยิบทุเรียนออกมาลูกหนึ่ง แล้วสูดดมกลิ่นใกล้ๆ จากนั้นก็เอ่ยชื่นชมว่า “ทุเรียนนี้กลิ่นดีจริงๆ!”หลังจากนั้น เจียงฉินก็มองไปยังพนักงานขนส่งพัสดุ แล้วถามว่า “ใครส่งมาเหรอ?”พนักงานส่งของตอบ “คุณผู้ชายคนหนึ่งส่งมาครับ”“คุณผู้ชาย?”เจียงฉินหันกลับไปถามเสิ่นม่าน “ทำไม? มีหนุ่มอื่นตามจีบอีกเหรอ?”เสิ่นม่านส่ายหน้าเธอไม่รู้จริงๆ ว่าใครเป็นคนส่งทุเรียนนี้มาชาติก่อน ผู้ชายที่ยุ่งเกี่ยวกับเธอมีไม่มากนัก ตั้งแต่ที่แต่งงานกับป๋อซือเหยียน ก็ยิ่งไม่ติดต่อกับเพศตรงข้ามอีกเลยยิ่งไปกว่านั้น ใครอยู่ดีไม่ว่าดีส่งทุเรียนมาให้เยอะขนาดนี้กัน?“จึๆ ส่งทุเรียนมาให้สาว ไม่รู้ผู้ชายนั่นคิดอะไรอยู่ โง่หรือโง่เนี่ย!”เจียงฉินกล่าว “น้องชายฉันดีที่สุดละ น้องฉันไม่มีทางทำเรื่องโง่ๆ แบบนี้แน่!”ไม่ทันรอให้เสิ่นม่านปริปาก ก็มีเสียงเรียกเขาจากเซียวตั๋วทันที“ฮัลโหล?”“ได้รับของหรือยัง?”เสียงเซียวตั๋วฟังดูนิ่งขร
เจียงฉินเสียงดังมาก ฟู่ฉือโจวเกาศีรษะยุ่งเหยิงเป็นรังนกแล้วเปิดประตูถาม “ใครมันมาตะโกนโหวกเหวกแต่เช้าเนี่ย! ยังจะให้คนอื่นเขานอนไหม!”ฟู่ฉือโจวเปิดประตู หลังจากเห็นเจียงฉินแล้ว ฟู่ฉือโจวก็มึนงง เขาคิดว่าตนตาฝาดจึงปิดประตู แล้วเปิดประตูอีกครั้ง เมื่อมั่นใจแล้วว่าเป็นเจียงฉิน ฟู่ฉือโจวถึงได้พูดติดอ่าง “คุณ…คุณมาได้ไง?”เจียงฉินหยิกหูฟู่ฉือโจว แล้วกล่าวว่า “สอนน้องชายฉันจีบสาวแบบนี้ใช่ไหม? ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ ถ้าน้องสะใภ้ฉันหลุดมือไปล่ะก็ นายรอกินหมัดเทวดาฉันได้เลย!”“ฟู่ฉือโจว นายควรจะอธิบายให้ฉันฟังในสถานการณ์แบบนี้หน่อยไหม?”เสิ่นม่านกอดอกพิงกำแพงมองฟู่ฉือโจวฟู่ฉือโจวมองเจียงฉินแวบหนึ่งสลับมองเสิ่นม่าน จากนั้นพลันกลืนน้ำลายลงไปตื่นมาแต่เช้า บรรพบุรุษสองคนนี้คิดจะฆ่าเขาหรือไงกัน?ฟู่ฉือโจวพาเสิ่นม่านและเจียงฉินเข้าไปในบ้านทันทีโดยไม่รอช้า เมื่อเห็นเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของฟู่ฉือโจว ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นบ้านใหม่ น่าจะเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน“ทั้งสองเชิญนั่งครับ”ฟู่ฉือโจวพยักหน้าโน้มตัวเชิญทั้งสองให้นั่งบนโซฟา เป็นถึงท่านประธานแห่งฟู่ซื่อกรุป แต่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงทั้งสองคน
พลบค่ำ งานขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ของเจียงฉินจัดขึ้นที่โรงแรมลี่เจียง เจียงฉินถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเซียวแล้ว ดังนั้นงานขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ครั้งนี้จึงดึงดูดผู้คนมาไม่น้อย เสิ่นม่านได้รับคำเชิญมาด้วย วันนี้เธอสวมชุดเดรสยาวสีฟ้าน้ำทะเลดึงดูดสายตาผู้อื่นเป็นพิเศษ เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็กลายเป็นจุดสนใจของทั้งงานแล้ว“ม่านม่าน!”เจียงฉินใส่ส้นสูงวิ่งเข้ามาหาเสิ่นม่านจากที่ไกล พร้อมสวมกอดแน่นๆ อย่างเล่นใหญ่อลังการงานสร้าง ส่วนฟู่ฉือโจวที่ช่วยเจียงฉินถือชายกระโปรงอยู่ข้างหลังนั้นตามฝีเท้าของเจียงฉินไม่ทัน“นี่เจ๊ ช้าหน่อยสิ! เจ๊ใส่ส้นสูงนะนั่น!”เจียงฉินไม่สนใจ กล่าวว่า “งานเปิดตัวโครงการอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ อย่างน้อยๆ ฉันก็จะทำกำไรได้หลายหมื่นล้านเชียวนะ ขอดีใจล่วงหน้าหน่อยไม่ได้หรือไง?”“จ้าๆๆ”สำหรับเจียงฉินแล้ว ฟู่ฉือโจวไม่เคยพูดคำว่าไม่เลยเสิ่นม่านกวาดมองรอบๆ แต่ไม่เห็นเงาของเซียวตั๋วบางทีหลังจากที่เซียวตั๋วเห็นข้อความนั้น เขาอาจจะล้มเลิกความตั้งใจไปแล้วมั้งล้มเลิกแล้วก็ดีขณะเดียวกัน หางตาของเสิ่นม่านเหลือบมองเห็นเงาคนที่คุ้นเคยคนหนึ่ง เป็นซูเฉี่ยน
ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำที่กำลังกล่าวหาคนที่รังแกเธออยู่หากใช้วิธีนี้ในรั้วมหาวิทยาลัย บางที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอาจได้รับความเห็นใจจากคนอื่นๆ แต่ที่นี่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย คนที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ล้วนแต่เป็นพวกเจ้าเล่ห์ในวงการทั้งนั้น ประสบการณ์แต่ละคนรวมกันคงนับพันปีได้แล้วมั้งมารยาธรรมดาทั่วไปของซูเฉี่ยนเฉี่ยนนี้ไม่ได้ผลหรอก ฝูงชนเพียงแค่มองว่าเป็นเรื่องสนุกขำขันเท่านั้นมีเพียงซูเฉี่ยนเฉี่ยนเท่านั้นที่คิดว่าคนพวกนั้นจะเชื่อคำพูดของเธออย่างง่ายดาย“หน้าไม่อายจริงๆ”เจียงฉินหัวเราะแห้ง เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่เห็นผู้หญิงหน้าไม่อายขนาดนี้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนถูกเจียงฉินว่าจนน้ำตาไหลพรากพลางกล่าวว่า “คุณหนูเจียง ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน แต่ฉันไม่ใช่คนอย่างที่คุณคิดจริงๆ วันนั้นฉันจำคนผิด คิดว่าเป็นคุณ ตอนนี้ฉันรู้สึกผิดมาก ขอคุณหนูเจียงยกโทษให้ฉันด้วย ฉันขอแค่คุณยกโทษให้ฉันก็พอ”ซูเฉี่ยนเฉี่ยนแลดูน่าสงสารมากผู้จัดการเจิ้งที่คอยประจบซูเฉี่ยนเฉี่ยนตลอดก็ทำหน้าทำตาพูดกับเจียงฉินว่า “ประธานเจียงครับ คุณซูเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ประธานป๋อให้ความสำคัญมาก อุปนิสัยนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
“ป๋อซือเหยียนมีฉันเป็นตัวแทนแค่คนเดียวก็พอแล้ว คนอื่นไม่ต้องมาก็ได้” เสิ่นม่านที่เงียบอยู่นานพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ประทานเจียงจะไล่หล่อนออกไป หากเกิดเรื่องฉันจะรับผิดชอบเอง ผู้จัดการเจิ้งไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นหรอก”ผู้จัดการเจิ้งหัวเราะเยาะ “คุณเนี่ยนะ? คุณคิดว่าคุณเป็นใครถึงจะมาเป็นตัวแทนประทานป๋อได้?”เสิ่นม่านเลิกคิ้ว แม้แต่เจียงฉินเองก็หัวเราะกับคำพูดนี้ด้วย “เป็นใครงั้นเหรอ? คำถามโง่ๆ แบบนี้ก็ถามออกมาได้เนอะ? นี่คุณทำงานให้ป๋อซื่อกรุปจริงหรือเปล่าเนี่ย? แม้แต่ภรรยาประธานป๋อของพวกคุณ ก็ไม่รู้จักเหรอ?”พอได้ยินเจียงฉินพูดดังนั้น สีหน้าของผู้จัดการเจิ้งก็เปลี่ยนไป พูดอะไรไม่ออกราวกับมีก้างปลาติดคออย่างไรอย่างนั้น“อ้อ จริงสิ คุณซูไม่เคยบอกคุณหรอกเหรอว่าคนนี้คือเสิ่นม่านภรรยาของประธานป๋อ และเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเสิ่น ดูจากการกระทำของคุณเมื่อกี้นี้ ฉันคิดว่าคิดตั้งใจบาดหมางกับคุณหญิงป๋อแล้วไปปกป้องหล่อนซะอีก”เจียงฉินไม่ชอบพูดอ้อมค้อม เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาตลอดสีหน้าของผู้จัดการเจิ้งราวกับเป็นจานผสมสี เพียงเวลาครู่เดียวสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปไม่รู้กี่รอบแล้วเสิ่นม่านพูดอย่า