Share

บทที่ 2

last update Last Updated: 2025-04-28 19:58:23

“มีปัจจัยหลากหลายในการเกิด มีโอกาสสามครั้งเช่นนี้ก็ถือว่าดีถมไปแล้ว”

“หากเลือกได้ ข้าอยากตาย ๆ ไปเสียยังดีกว่า ดื่มน้ำแกงยายเมิ่งกลับชาติมาเกิดใหม่โดยไม่ต้องจดจำสิ่งใด” ใบหน้าของหญิงสาวปรากฎความเศร้า บ่งบอกว่านางคิดดังที่พูดออกมาจริง ๆ

“มนุษย์มีทางเลือกหลากหลาย คราก่อนเจ้าเลือกผิด เมื่อรู้แล้วยังจะเลือกผิดอยู่อีกหรือ”

“เพราะมีทางเลือกหลากหลาย ดังนั้นเมื่อเลือกแล้วก็อยากลืมแล้วเลือกใหม่ มากกว่ายังจดจำแล้วเลือกใหม่อยู่ดี เว้นแต่ว่าข้ากลับไปเพื่อเลือกเส้นทางใหม่ในชีวิตเดิม ก็คงไม่มีทางเลือกเส้นทางเดิมอยู่แล้ว”

“เจ้ามีโอกาสกลับไปเลือกเส้นทางใหม่แล้ว ใช้ชีวิตให้ดี หนิงอัน”

“ข้าย่อมต้องการอย่างนั้นอยู่แล้ว คราวหน้าที่ข้าตายก็จะได้เจอท่านอีกใช่หรือไม่เจ้าคะท่านยมทูต”

“ใช่”

“เช่นนั้น ไว้เจอกันครั้งหน้านะเจ้าคะ ท่านจะส่งข้าไปหรือยัง”

“ยัง”

“อ้าว แล้วก็ไม่บอก”

“จิบชารอก่อน ข้าต้องทำเอกสารสักครู่”

ยมทูตหนุ่มโบกมือ ปรากฎโต๊ะน้ำชาพร้อมของว่างวางอยู่ตรงหน้าอย่างเรียบร้อย หนิงอันไม่เกรงใจนั่งลงเริ่มจิบชาไม่คิดเอ่ยปากขัดขวางการทำงานของยมทูตชุดดำ

ชายหนุ่มกลับมีท่าทางขึงขัง แต่มีหลายคราวที่ขยับมือเป็นระวิง ดูยุ่งยากมากเพียงแค่ส่งหญิงสาวคนหนึ่งย้อนกลับไป กระทั่งเงยหน้าขึ้นเห็นนางยิ้มน้อย ๆ ส่งมา พลันเกิดสงสัย

“เหตุใดเจ้าจึงใจเย็นได้ถึงเพียงนี้”

“เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา”

“แม้เจ้าจะถูกฆ่าตายก็ไม่เคียดแค้นเลยหรือ ร่างของเจ้าถูกโยนเป็นอาหารสัตว์ ไม่แม้แต่มีสุสานบูชาเสียด้วยซ้ำ”

“เมื่อตายแล้วร่างย่อมกลับคืนสู่ดิน ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง จะสัตว์หรือคนหากนำร่างข้าไปใช้ประโยชน์ได้ ถือเป็นการดีแล้วไม่ใช่หรือ”

“เช่นนั้นเจ้าก็…” ยมทูตหนุ่มหยุดปาก

“...”

“สมควรแก่เวลาแล้ว ไปเถอะ ย้อนกลับไปและใช้ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น”

“ข้าจะถือว่าเป็นพรจากท่านนะเจ้าคะ ท่านยมทูต” หนิงอันยิ้มรับนางยังมองโลกในแง่ดี ในที่นี้ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บแค้น แต่แค้นแล้วอย่างไร หากการกลับไปแปลว่าย้อนเวลากลับไปจุดเริ่มต้น เช่นนั้นนางกับเขาก็ยังไม่ได้มีความแค้นใดต่อกัน

“ข้าหวังว่าเจ้าจะใช้ชีวิตอีกสองรอบอย่างดี”

“ข้าจะใช้ชีวิตอย่างดีแน่นอนเจ้าค่ะ” ราวกับหนิงอันมีพลังงานดี ๆ อยู่รอบกายเสมอ ทำให้ยมทูตหนุ่มเบาใจ นางเป็นบุคคลที่คิดดีทำดี สมกับบุญระดับสูงที่เคยกระทำไว้

“ลาก่อน”

“แล้วเจอกันใหม่นะเจ้าคะ” ร่างเงาของหญิงสาวหายวับไปจากสายตา ยมทูตหนุ่มก้มลงมองเอกสารของตนแล้วถอนหายใจ

“ข้าหวังว่าเจ้าจะมีชีวิตที่ยืนยาว และมีความสุขตลอดทั้งสองชีวิตนี้”

เขาคิดว่านางคงใช้ชีวิตได้ดีขึ้น จากบทเรียนครั้งก่อน เรื่องแรกนางย่อมไม่มีทางไปยุ่งกับสามีคนเดิมที่ฆ่าตนเอง เรื่องที่สองนางย่อมหาหนทางที่จะมีชีวิตยืนยาวและมีความสุขได้ง่ายขึ้นจากประสบการณ์ชีวิตในคราวแรก

โดยปกติมนุษย์นั้นหวงแหนชีวิตเป็นธรรมดา และหญิงสาวผู้รู้ว่าตนเองมีอีกหนึ่งชีวิตย่อมหวงแหนชีวิตตนเองมากยิ่งขึ้น

“ย้อนกลับไปตอนสิบหกหนาว ตอนนี้คงมีชีวิตที่ดีไม่น้อย” เงยหน้าขึ้นท้องฟ้าที่ไม่มีสิ่งใดตรงหน้า ยมทูตหนุ่มก็เอ่ยออกมาอีกครา

“คาดว่านางน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกอย่างต่ำก็สี่สิบปี ข้าเองก็จะได้พักชั่วขณะ” ว่าแล้วก็เดินไปดื่มชาโต๊ะเดียวกับที่วิญญาณหญิงสาวเคยนั่ง ยกชาขึ้นจิบถอนหายใจออกมายาวๆด้วยความโล่งใจ

“ชาดี~”

“...”

“...”

“สดชื่นหรือไม่เจ้าคะ ชานี้รสชาติดีไม่น้อยเลย หรือท่านยมทูตคิดยังไง”

“ฮะ!” ยมทูตหนุ่มผงะ ใบหน้าเขาแปรเปลี่ยนเป็นครั้งแรก หลังจากเห็นร่างโปร่งบางของหญิงสาวคนเดิมที่เขาเพิ่งนึกถึงเมื่อครู่

ชายหนุ่มรีบหันไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง

“ห้าปีเท่านั้น ทำไมเจ้าถึงตายเร็วแบบนี้” น้ำเสียงของยมทูตหนุ่มดูแตกตื่นอย่างยิ่ง แต่พอเห็นใบหน้าไร้เดียงสา รอยยิ้มเหมือนไม่คิดมากของนาง เขาก็กลับมาสงบอีกครั้ง

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันเจ้าค่ะ แหะ ๆ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 3

    ยมทูตหนุ่มนั่งจิบชาอย่างใจเย็น นี่เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดจริง ๆ หญิงสาวผู้มีโอกาสถึงสามครั้งให้เลือกใช้ชีวิต กลับจบชีวิตลงอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่คาด นึกสงสัยในตนเอง คิดว่ารู้จักมนุษย์ดีแล้ว ยังมีมนุษย์ผู้หนึ่งที่ทำให้การคำนวนของตนผิดพลาดอยู่ด้วย เหนือฟ้ายังมีฟ้าจริง ๆ“ไหนว่ามาซิ เหตุใดเจ้าจึงกลับมาเร็วนัก รู้ว่ามีเหลืออยู่อีกเพียงสองชีวิต ทำไมไม่ใช่ชีวิตให้คุ้มค่า รีบกลับมาทำไมกัน”“แหะ ๆ ท่านยมทูต ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้หรอก” หนิงอันจิบชาราวกับกระหายน้ำอย่างมาก พอดื่มเสร็จวางจอก ถึงได้เริ่มรำพึงรำพันต่อ“ข้าเองก็อยากมีชีวิตที่ยืนยาวกว่านี้ เพียงแต่มนุษย์ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก อะแฮ่ม ข้าหมายถึง ท่านยมทูต ครั้งนี้ข้าไม่ได้คิดที่จะตายเร็วเลยแม้แต่น้อยจริงๆ นะเจ้าคะ”“เช่นนั้นแล้วเกิดอะไรขึ้น ข้าคิดว่าเจ้าเข้าใจแล้ว ชีวิตนี้เป็นชีวิตสุดท้ายของเจ้าแล้วนะ หากเจ้าเจอเรื่องไม่คาดฝันอีกจะทำอย่างไร ใช้ชีวิตสี่ห้าปีแล้วตายอีกครั้งหรือ”“โถ่~” โอดครวญแล้วก็หยิบน้ำชาขึ้นมากระดกอีกหลายอึก“…”“เป็นใครไม่เสียดายบ้างล่ะเจ้าคะ ข้าเองก็เสียดายเช่นเดียวกัน แต่จะให้ทำอย่างไรล่ะเจ้าคะ มันเป็นเหตุ

    Last Updated : 2025-04-28
  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 4

    “ท่านส่งข้าย้อนกลับไปตอนสิบหกหนาวพอดีใช่หรือไม่ ท่านยายหนิงข้างบ้านก็เพิ่งเสียชีวิต ข้าเองหมดที่พึ่งแล้ว ชีวิตแรกช่วงเวลานั้น สามีน่าตายผู้นั้นของข้าก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับปลุกปลอบ ทำเหมือนข้าเป็นน้องสาวที่เขาเอ็นดูหวงแหนจนข้าตกหลุมพราง”“...” เขาจำสามีคนนั้นของนางจากบันทึกความทรงจำวิญญาณได้ คนไร้คุณธรรมเช่นนั้นจะลืมได้อย่างไร“แต่ชีวิตนี้ข้าไม่ได้ตกหลุมพรางของสามีน่าตายผู้นั้น เขาจึงรามือจากข้าและไปเกี้ยวบุตรสาวของพ่อค้าเขียงหมูแทน ส่วนข้าก็มีความคิดที่จะเปิดร้านขายของป่า ดั่งที่เคยวางแผนไว้ในชาติภพแรก น่าเสียดาย…”“เจ้าโดนพ่อค้าทาสจับไป หรือโดนโจรปล้นล่ะ”“ท่านรู้ได้อย่างไร” หนิงอันอ้าปากค้างมองยมทูตหนุ่ม ซึ่งตอนนี้นางรู้สึกเหมือนเขาใกล้ชิดราวกับสหาย“เพิ่งออกจากหมู่บ้าน หญิงสาวตัวคนเดียวไร้ญาติขาดมิตร ซ้ำยังมีชีวิตต่อมาอีกหลายปี หากไม่กลายเป็นทาส ก็คือกลายเป็นภรรยาโจร”“ท่านเดาผิดแล้วนายท่าน”หนิงอันยิ้มอย่างผู้ชนะ ก่อนจะพึมพำ“แม้จะใกล้เคียงก็ตาม..”“เช่นนั้นแล้วอย่างไร ใยจึงบอกตนเองใช้ชีวิตคุ้มค่า ตอนที่ฝึกฝนเพื่อเป็นภรรยาของขุนนางในชีวิตแรก ก็ถือว่าได้ความรู้มาไม่น้อยมิใช่หรือ” “ก

    Last Updated : 2025-04-28
  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 5

    คราวนี้เมื่อได้ยินคำถาม หนิงอันพลันชะงัก มองเขาอย่างมึนงงไม่ต่างกัน“จะว่าอย่างไรดี ห้าปีที่ผ่านมานี้ ข้าใช้อย่างคุ้มค่ามาก เรียนรู้ทุกสิ่งที่เรียนได้ เพราะคิดว่าน่าจะต้องใช้เมื่อมีชีวิตสุดท้าย เพื่อตนเองจะได้สุขสบาย แต่…”“แต่…”“ห้าปีนั้นสั้นเกินไปจริง ๆ มีหลายเรื่องที่ข้าเสียดายในชีวิตนี้”“ข้าก็ยังไม่เข้าใจ ตกลงว่าเจ้าตายได้อย่างไร”“เหตุสุดวิสัยเจ้าค่ะ”“แล้วเหตุสุดวิสัยที่ว่าคืออะไรกันเล่า”“ท่านกำลังก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของข้าอยู่หรือเปล่า” จู่ ๆ หญิงสาวก็เอ่ยถามขึ้น ทำให้ยมทูตหนุ่มชะงักไป เขาอยากรู้อยากเห็นมากเกินไปจนก้าวก่ายจริง ๆ ดังว่า“ขออภัยด้วย ข้าแค่ผิดคาด…” ว่าแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีดำมืด “เพราะคาดไว้ว่าเจ้าน่าจะมีชีวิตอยู่อีกหลายสิบปี”“ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่เราคาดหวังหรอกเจ้าค่ะ ชีวิตมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ ข้าเองก็หวังว่าตนเองจะมีชีวิตที่ยืนยาวเช่นกัน ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าอยู่ในหอนางโลมได้อย่างมีความสุขเช่นนั้น ก็เพราะอาศัยบารมีของท่านจอมมาร”“...”“หอนางโลมที่อยู่ภายใต้เมืองแห่งนี้ ภายใต้วังมาร ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าที่จะมีปัญหาด้วย ข้าได้ยินพี่น้องนางโลมหลายนาง มาจากเ

    Last Updated : 2025-04-28
  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 6

    ยมทูตหนุ่มส่ายหน้าน้อย ๆ หันไปทำงาน เขาอ่านเอกสารไปก็พยักหน้าไป ชีวิตของนางในชาติที่สองนี้เก็บเกี่ยวมาได้มากจริง ๆ แต่เมื่ออ่านจนกระทั่งถึงบรรทัดสุดท้ายชายหนุ่มก็อ้าปากเหวอ“นายท่านมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า” “ไม่มีอะไร” ยมทูตหนุ่มหุบปากฉับ กลับมาสงบราวไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เขาวางเอกสารลงแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาของวิญญาณสาวตรงหน้า“หนิงอัน”“เจ้าคะ”“ชีวิตที่สองเจ้าเรียนรู้มาเยอะจริง ๆ”“ใช่เจ้าค่ะ ข้าอ่านออกเขียนได้ ศาสตร์ศิลป์ทุกประเภทล้วนทำเป็น หมากรุกก็แกล้งแพ้เก่งมาก ยังไม่นับรวมชาที่ข้าชงนั้นหอมกลุ่นใคร ๆก็ต้องติดใจ ท่านยมทูตลองชิมดูสักหน่อยสิเจ้าคะ”ไม่รู้วิญญาณสาวแอบชงชาไว้ตั้งแต่เมื่อใด แต่กลิ่นหอมกรุ่นทำให้เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ ยกขึ้นจรดจิบเบา ๆ ดวงตาเบิกกว้าง ก่อนกลับมาไร้อารมณ์เช่นเดิม มองหญิงสาวอย่างชื่นชม“ชาดี!”“ข้าคิดว่าคราวนี้ น่าจะเปิดโรงน้ำชาริมทางเล็ก ๆ พอให้เลี้ยงตนเองได้ เปิดโรงเรียนสอนเด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กหญิง แบบนี้น่าจะมีความสุขและสงบจนถึงบั้นปลายชีวิตได้”“ข้าขอให้เจ้ามีชีวิตยืนยาวและมีความสุขดังหวัง”“...” หนึ่งยมทูตหนึ่งวิญญาณ จิบชาร่วมกันเงียบ ๆ กระทั่งในที่สุดก

    Last Updated : 2025-04-28
  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 7

    “เหลือโอกาสอีกเพียงชีวิตเดียวเท่านั้น ข้าจะต้องไม่ตายเร็วเหมือนสองชีวิตที่ผ่านมาเด็ดขาด!” การมีอายุยืนยาวถือเป็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตนี้หญิงสาวรูปร่างอรชรสวมชุดชาวบ้านราวกับผ้าขี้ริ้วเมื่อเทียบกับชุดของนางโลมหรือภรรยาขุนนางในสองชีวิตแรก แต่ทั้งชุดกลับสะอาดสะอ้านบ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นคนรักสะอาด คงมีแต่หน้าตาที่เปรอะเปื้อนฝุ่นและคราบน้ำตา รวมกับผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงทำให้นางดูไม่ได้นัก“แม่นาง เจ้าอยู่บ้านหรือไม่” เสียงเรียกจากหน้ากระท่อมทรุดโทรมของครอบครัวหนิง ทำให้หนิงอันพลันได้สติ‘ที่ควรมาก็มาแล้วสินะ’ สิ่งนี้ยังคงเกิดขึ้นไม่ว่าในชีวิตไหน เดินออกไปหน้ากระท่อม เห็นชายร่างสูงโปร่งใบหน้าท่าทางสุภาพอย่างปัญญาชน แม้เสื้อผ้าจะเก่ามีรอยปะชุนแต่ก็สะอาดเรียบร้อย คนผู้นี้คือสามีเก่าในชีวิตแรก ‘บัณฑิตหาน’“ท่านหานมาหาข้า มีธุระอันใดหรือ” หนิงอันเอียงคอสงสัย มือปาดน้ำตาออกจากหน้าโดยไม่มีท่าทางเหนียมอาย แต่นั่นทำให้ใบหน้าของนางยิ่งเลอะเปรอะเปื้อนมองไม่เห็นเค้าคนงามชายหนุ่มแอบเบะปากหน้าแหยเมื่อเห็นท่าทางสกปรกของหญิงสาว แม้นางจะมีเหตุผลเนื่องจากเพิ่งสูญเสียคนสนิทสุดท้ายไป แต่อย่างไรเขาก็รู้สึกว่าช่างส

    Last Updated : 2025-04-28
  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 8

    เห็นอย่างนั้นบัณฑิตหานก็กลับมามีท่าทางสงบนิ่งดั่งเทพเซียนลงมาเยือนยังพื้นโลก มองและยิ้มน้อย ๆ ให้หนิงอันอย่างอ่อนโยน เฝ้ารอให้นางกล่าวประโยคถัดมา“พี่ชาย ข้าไม่มีความคิดที่จะแต่งงานกับบัณฑิต ข้าเป็นสาวชาวนาถูกเลี้ยงดูมาอย่างชาวนา หากเลือกได้ข้าก็อยากได้สามีชาวนา มากกว่าสามีที่เป็นบัณฑิต หรือแม้จะเป็นเพียงสหาย หรือพี่ชายน้องชาย ข้าก็อยากได้คนในชนชั้นเดียวกัน มากกว่าบัณฑิตที่สูงส่งเช่นท่าน”“...” คราแรกทุกคนจะกล่าวว่านางคิดมากเกินไป บัณฑิตหานย่อมไม่คิดรับนางเป็นภรรยา แต่คำพูดถัดมาของหนิงอันทำให้ไม่มีใครคิดค้านขึ้นมาอีก ในยุคสมัยนี้แม้ชายหญิงไม่ใกล้ชิด แต่ก็มีสหายและพี่น้องที่คบหากันได้ตามประสาคนบ้านใกล้เรือนเคียง“...” บัณฑิตหานอ้าปากเหวอ ก่อนกลายเป็นหน้าเสีย รีบหันหลังเดินจากไปโดยไม่กล้าพูดอะไรออกมาโต้แย้ง อย่างไรเขาเป็นบัณฑิต โต้เถียงกับหญิงสาวมีแต่จะเสียกับเสีย“ขอบคุณท่านลุง ท่านป้า ที่มาเยี่ยมเยียนเสี่ยวหนิง บิดามารดาข้าตายจากไปแล้ว ยามนี้ท่านยายหนิงยังตายตามไปอีก ข้าเองก็หมดกำลังใจไม่น้อย แต่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแน่นอน ขอให้พวกท่านอย่าเป็นกังวล”“ดีแล้วที่เสี่ยวหนิงคิดได้ เช่นนั้นพวก

    Last Updated : 2025-04-28
  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 9

    “ท่านตา ข้าต้องการเข้าเมือง แต่ว่า…ตั้งแต่ท่านพ่อท่านแม่ ท่านยายตาย ออกจากบ้านข้าก็ยังกลัว ข้ารู้สึกว่าหากมีอะไรที่รับรองความปลอดภัยของตนเองได้ จะรู้สึกดีกว่ามาก ท่านตาคิดว่าหากข้าจ้างทหารรับจ้างในหมู่บ้านจะดีหรือไม่เจ้าคะ”“เจ้ามีเงินหรือ ทหารรับจ้างใช้เงินไม่น้อย แม้จะเป็นกลุ่มที่แขนขาพิการแต่เป็นทหารเดนตายชายแดนมาก่อน พวกเขามีความสามารถมากก็ใช้เงินจ้างสูงมากตามไปด้วย ที่ข้ารู้จักก็เจ้าหู่ที่อยู่หลังเนินนู่นไง คิดตั้งห้าตำลึงเงินแน่ะ นี่แค่จะเข้าเมืองนะ”“...” หนิงอันอ้าปากเหวอ นางไม่สามารถใช้เงินได้เยอะขนาดนั้น เพราะวางแผนว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ไม่มีความคิดขายบ้านเดิม เนื่องจากเสียดายสถานที่แห่งความทรงจำ“เอาอย่างนี้ เจ้ารอไปก่อนสักครึ่งเดือน ได้ยินว่ามีคาราวานหนึ่งจะผ่านทางนี้ ท่านพ่อค้าใจดี หากจ่ายสักสองสามร้อยอีแปะก็คงติดตามไปได้”“ขบวนพ่อค้าเร่หรือเจ้าคะ” หนิงอันตาเป็นประกาย เมื่อครั้งอยู่หอนางโลม นางได้มีโอกาสได้รับแขกต่างบ้านต่างเมืองเป็นพ่อค้าเร่ แต่แท้จริงฐานะกลับสูงส่ง จึงพอจะรู้ว่าขบวนพ่อค้าเร่นั้น แม้จะเป็นขบวนเล็ก ๆ แต่ก็ต้องจ้างสำนักคุ้มภัยมาคุ้มกันสินค้า กลุ่มโจรที

    Last Updated : 2025-04-28
  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 10

    หญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นดั่งสาวงามในภาพวาดเซียนกำลังนั่งหย่อนขาอยู่ริมระเบียง บ้านของท่านยายหนิงเป็นเรือนแบบสองห้องนอน มีครัวแยกต่างหาก ดูเหมือนจะพอมีพอใช้ไม่ขาดมือ เพียงแต่ท่านยายนั้นไร้ญาติขาดมิตร สุดท้ายก็รับหนิงอันเป็นทายาทด้วยความเอ็นดูหากพูดแล้วชาวบ้านล้วนอิจฉาที่หนิงอันได้รับมรดกทั้งจากพ่อแม่ และจากท่านยายหนิงโดยไม่มีผู้ใดรู้ว่า สมบัติจากทางบิดามารดานางก็ได้มาไม่น้อยหน้ากัน ไม่เช่นนั้นคงชุบเลี้ยงบัณฑิตยากจนกระทั่งกลายเป็นขุนนางไม่ได้หนิงอันในชีวิตแรกไม่มีความสามารถใด ๆ นอกจากสินเจ้าสาวที่ติดตัวไป แต่ตอนนี้นางมีทั้งเงินและความสามารถ ย่อมต้องอยู่อย่างสุขสบายจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตได้อย่างแน่นอนถึงอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เกิดการผิดแผนขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวจำเป็นต้องวิเคราะห์และวางแผนอย่างรอบคอบ“กองคาราวานจะมาในอีกสามวัน” นับจากวันที่นางไปติดต่อกับท่านตาหวัง ก็ผ่านมานานแล้ว หนิงอันยังเฝ้ารอกองคาราวานทุกวันอย่างใจจดใจจ่อ“สมบัติทุกชิ้นข้าก็เตรียมเอาไว้หมดแล้ว เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เรียบร้อย ยังมีเกราะอ่อนของท่านลุง…” นึกถึงเกราะอ่อนทหารที่ท่านยายมักจะเอามาอวด ทำให้หนิงอันยิ้มน้อ

    Last Updated : 2025-04-28

Latest chapter

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 17

    กระทั่งนางโลมย้ายมาจากเมืองอื่น ยังต้องงดงามและมีความสามารถไม่น้อยจึงจะทำได้ แล้วตัวนางจะกล่าวว่าทำอาชีพอะไรจึงจะเหมาะสม หนิงอันนอนคิดเรื่องนี้มาทั้งคืนเพราะถูกต้าเซ่าเตือนเอาไว้ก่อนแล้ว“ขอบคุณพี่ทหารเจ้าค่ะ ข้าเป็นอาจารย์หญิง ตั้งใจเปิดโรงเรียนสอนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อยู่หมู่บ้านนอกเมืองไม่ไกล หากที่บ้านท่านมีเด็กผู้หญิง ก็สามารถส่งไปเรียนที่ข้าได้”“อาจารย์สอนหญิงงั้นหรือ ดี ดี! เจ้าน่าจะผ่านนะ” ทหารหนุ่มตอบรับ ทำให้หนิงอันมั่นใจมากขึ้นชีวิตที่สองเป็นถึงนางโลมอันดับหนึ่ง ศาสตร์ศิลป์ย่อมไม่มีขาดตกบกพร่อง สามารถยกตนขึ้นเป็นครูได้โดยไม่อาย“ว่าอย่างไร เจ้ามาจากที่ใด แล้วเหตุใดจึงอยากย้ายมาอยู่ในเมือง”เข้าพบผู้ดูแลแล้วหนิงอันไม่กล้าโกหกเพราะรู้ดีว่าการเข้าเมืองแตกต่างจากการสนทนากับต้าเซ่า นางสามารถสร้างเรื่องโกหกได้ แต่อาจมีปัญหาหนักเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นจริง จึงไม่หยิบยกเรื่องท่านลุงขึ้นมาพูดสักคำ และตอบไปตามตรงก่อนจะรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย“ข้ามาจากเมืองทางใต้ห่างไปหนึ่งเมืองเท่านั้น บิดามารดาเสียชีวิตเพราะไข้ป่า ไร้ญาติขา

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 16

    ยามเช้าในเมืองของวังมารอากาศยังคงดีมากเพราะมีป่าทึบล้อมรอบทำให้มีอากาศเย็นสบาย บรรยากาศดีอย่างที่หาในเมืองอื่น ๆไม่ได้ แม้จะมีเสียงจอแจเพราะมีคนมาก แต่ก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยแก่หนิงอันไม่น้อยชีวิตที่สองนางอยู่ในเมืองนี้กระทั่งวันตาย ชีวิตนี้นางเองจะมีอายุยืนยาวและอยู่ในเมืองนี้อย่างมีความสุขได้เช่นเดิม หนิงอันเชื่อมั่นในตนเองมาก“อรุณสวัสดิ์คุณหนูหนิง นายท่านให้มาเรียนว่าหากท่านจะออกไปข้างนอกก็สามารถใช้รถม้าได้”“อรุณสวัสดิ์ท่านพ่อบ้าน ข้าไม่รบกวน วันนี้ข้าคิดจะเดินเท้าเอาเจ้าค่ะ ฝากบอกท่านลุงด้วยนะเจ้าคะว่าข้าคงต้องขอตัวก่อน ไม่ได้อยู่รอลาท่านลุง เพราะวันหน้าข้าย่อมมาหาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรือนนี้บ้างแน่นอน” หนิงอันกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ได้ยินเช่นนั้นผู้น้อยก็ยินดี”พ่อบ้านชรามองส่งหญิงสาวจนลับสายตา เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่า ตุ่มดำแดงบริเวณผิวกายและใบหน้าของนายหายไปหมดแล้ว ตอนนี้หญิงสาวจึงดูงดงามขึ้นผิดหูผิดตา คงมีแค่บรรยากาศเย็นสบายรอบกายที่ยังเหมือนเดิมหนิงอันไม่ได้คิดปิดบังรูปร่างหน้าตาอีกแล้วเมื่อท่านลุงต้าเซ่าเตือนว่ามันเปล่าประโยชน์ อย่างไรคนก

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 15

    มนุษย์ทุกคนย่อมได้รับผลจากการกระทำของตนเอง หนิงอันเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ก็วันนี้ นางยืนอึ้งขณะมองงานเลี้ยงส่งแปลก ๆ ที่อยู่ตรงหน้า“ท่านลุงเซ่า นี่ออกจะเยอะเกินไปหรือไม่”หนิงอันเพิ่งมาถึงทางเหนือได้ไม่นาน นางลืมไปแล้วว่าแถบนี้หนาวเย็นกว่า แม้จะใช้เวลาเดินทางจากเมืองที่เคยอยู่มาไม่ไกล ยิ่งนอกเมืองก็ยิ่งหนาวเย็นเพราะมีต้นไม้เยอะ ดังนั้นพอมาถึงก็ดันหนาวสั่นจนต้าเซ่าทนไม่ได้ มอบเสื้อผ้าให้กองโต“ของเก่าขายไม่ได้แล้ว แม้จะขายก็ได้ไม่มาก เจ้าเอาไปใส่เถอะ”หนิงอันอ้าปากสั่น ๆ เมื่อมือใหญ่พยายามยัดผ้าคลุมขนจิ้งจอกอย่างดีในมือให้นางอย่างไม่ยอมให้ปฏิเสธ รู้สึกว่าไม่น่าบอกเขาเลยจริง ๆก่อนหน้านี้พอเริ่มรู้สึกหนาว หนิงอันก็เพียงเปรยว่า บิดาสัญญากับนางปีนี้จะล่าจิ้งจอกเอาหนังมาทำผ้าคลุมให้ แต่เขากลับตายจากไปก่อน ต้าเซ่าที่คิดว่าตนเป็นญาติผู้ใหญ่ของหนิงอันไปแล้วคงอยากจะชดเชยให้นางจึงทำเช่นนี้ แต่นี่มันมากเกินไป“ไม่มากไปหรอก ต่อไปเจ้ากตัญญูต่อข้าก็เพียงพอ”“ทั้งที่ท่านยังไม่รู้จักข้าดี เหตุใดจึงไว้ใจข้าถึงเพียงนี้” เดินทางมาด้วยกันเพียงสองวัน แต่ต้าเซ่าดีกับนางจริง ๆ“อย่าพูดมากแล้วรับไปเถอะ”“แต

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 14

    แม้จะลังเลแต่การแต่งงานต้องเกิดขึ้นและไม่สามารถถอนตัวได้ เมื่อบัณฑิตหานกลับเป็นคนช่วยนางขณะที่กำลังจะจมน้ำ เนื่องจากเป็นคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้วจึงไม่เป็นข้อครหา แต่ก็เป็นสิ่งที่รัดตัวทำให้จูเอ๋อร์ไม่สามารถบอกยุติการแต่งงานได้ เมื่อเป็นเช่นนี้นางก็ยิ่งสงสัยมากยิ่งขึ้น‘ผู้มีพระคุณ หากทุกอย่างที่ท่านบอกเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นข้าจะตั้งป้ายบูชาท่านเป็นปรมาจารย์ของตระกูลจูเรา’ จูเอ๋อร์อธิษฐานในใจ เนื่องจากคิดว่าผู้ส่งจดหมายปิดผนึกที่ล่วงรู้อนาคตได้ อาจเป็นเทพเซียนองค์ใดเนื่องจากความงดงามของอักษร นางก็ยิ่งปักใจเชื่อในคำเตือนมากขึ้นไปอีก แต่งานแต่งก็จัดแล้วอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่นนั้นมีแต่ต้องระวังและพยายามกอบโกยให้ตระกูลจู ให้คุ้มค่ากับที่ลงทุนไปจูเอ๋อร์ไม่ใช่คนโง่งมในเรื่องความรัก แม้จะหลงบัณฑิตหานมากเพียงใด แต่ตรงนั้นของเขาก็ไม่ได้เลี่ยมทองคำ นางรักเงินมากกว่าผู้ชาย ดังนั้นนอกจากสนุบสนุนสามีให้เป็นขุนนางจนสำเร็จ ยังกอบโกยเงินจำนวนมหาศาลเข้าตระกูลจูของตนอีกด้วย“นายหญิง…” และแล้ววันที่ถูกเตือนก็มาถึง สาวใช้ตัวสั่นงันงกอยู่ตรงหน้า คือสาวใช้ที่จูเอ๋อร์ซื้อตัวไว้ ความจริงด้วยอำนาจ

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 13

    “ว่าแต่เจ้ามีนามว่าอย่างไร”“หนิงอันเจ้าค่ะ ท่านลุงเล่า”“ต้าเซ่า ข้ามีนามว่าต้าเซ่า”“ท่านลุงต้าเซ่า” หนิงอันคำนับให้ ร่างโงนเงนไปมาเพราะอยู่บนเกวียนเทียม เห็นหญิงสาวนั่งลำบาก ด้วยใจที่รู้สึกเอ็นดูนางราวกับลูกหลานเนื่องจากคุยถูกคอ ก็ทำให้ต้าเซ่ารู้สึกเป็นห่วงสุขภาพของหญิงสาวขึ้นมา“นั่งสบายหรือไม่ เฮ้ย เจ้าไปเอาเบาะรองนั่งมาให้นางหน่อย” ต้าเซ่าไม่วายหันไปสั่งลูกน้อง ขบวนจึงต้องหยุดลงชั่วคราว“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านลุง”“ไม่ต้องเกรงใจไป ข้าจะแวะอยู่เมืองทางเหนือสักพัก หากเจ้าหาญาติไม่เจอ หรือมีสิ่งใดให้ช่วยก็ให้ตามหาข้าได้เลย”“ขอบคุณท่านลุงที่เมตตาข้า”“เจ้าเรียกข้าท่านลุง ตอนนี้ข้าก็นับว่าเจ้าเป็นหลานสาวคนหนึ่งแล้ว” ว่าแล้วชายร่างโตก็เริ่มคลำหาของมีค่าในตัว จับเจอถุงเงินก็หยิบออกมามอบให้นาง“...” หนิงอันนิ่งอึ้ง ตามธรรมเนียมของแคว้น มีเพียงภรรยาหรือลูกสาวที่ยุ่งกับถุงเงินพ่อแม่ได้ ตอนนี้เขานับนางเป็นหลานสาวจริง ๆ แล้ว“รับไปเสียสิ ในนี้มีอยู่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่ข้าเก็บเป็นตั๋วเงินฝากไว้ แต่ลุงของเจ้าร่ำรวยไม่น้อย หากมีอะไรก็มาพึ่งพาข้าได้”“ท่านใจดีกับข้าเกินไปแล้ว ทั้งที่เพิ่งพบกันแท้ ๆ”

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 12

    “นะเจ้าคะท่านลุง ข้าเดินทางคนเดียวไม่รู้ว่าจะพบอันตรายใดบ้าง ให้ข้าเดินทางไปด้วยเถอะนะเจ้าคะ” เส้นทางนี้เป็นทางขึ้นเหนือเท่านั้น ไม่มีทางที่จะผ่านไปเมืองอื่น เว้นแต่เลยไป แต่อย่างไรเมืองที่หนิงอันวางแผนว่าจะไปใช้ชีวิตอย่างสงบเรียบง่าย ก็ถึงก่อนจะไปเมืองอื่นอยู่แล้ว เมืองเดียวที่ไม่ได้รับผลของสงคราม เมืองภายใต้การปกครองของวังมาร หรือก็คือเมืองที่นางใช้ชีวิตอยู่ในชาติที่สองนั่นเอง“ไร้สาระ เจ้าขอติดกองคาราวานเพื่อเข้าเมือง นี่ถึงเมืองแล้วก็รีบลงไป”“ท่านลุงเจ้าคะ จริง ๆ ข้าออกจากบ้านครั้งนี้ไม่ได้หนีสิ่งใดมา แต่เพราะบิดามารดารวมถึงท่านยายล้วนเสียชีวิตด้วยไข้ป่า ก่อนตายท่านแม่สั่งเสียว่าข้ามีท่านลุงอยู่ในเมืองทางเหนือ จึงคิดจะออกตามหาท่านลุงด้วยตนเอง ข้าไม่เหลือใครแล้ว ได้โปรดให้ข้าติดตามไปด้วยหากท่านไปทางเดียวกันเถอะเจ้าค่ะ”“เมืองทางเหนือที่เจ้าว่า คือเมืองของวังมาร?” ในสามแคว้นนี้ มีเพียงเมืองเหนือของวังมารที่อยู่นอกเขตพื้นที่สงคราม เจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด อยู่นอกกฎหมายแต่กลับสงบไร้ผู้ก่ออาชญากรรม แน่นอนว่าค่าครองชีพย่อมสูงมาก“ใช่เจ้าค่ะ”“อย่าไปเลย เกรงว่าเจ้าจะถูกจับไปเป็นนางโลม

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 11

    “ท่านตา ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ ฝากบอกต้าหยางด้วยว่าข้าวางค่าจ้างเอาไว้ให้เขาแล้ว”“เอ้อ! เดินทางดี ๆ รีบ ๆ ไปเร็วเข้าเดี๋ยวไม่ทันคาราวาน เจ้าเด็กคนนี้นี่ยังไง ระวังด้วยอย่าวิ่งสิเดี๋ยวล้มนะ เอ๊ะ เสี่ยวหนิงซนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน” ตาเฒ่าหวังโบกมือไล่หญิงสาวที่เอาแต่สั่งลา ไม่ยอมเข้าร่วมคาราวานเสียทีกลุ่มพ่อค้าด้านหลังค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกห่างจากหมู่บ้านมากขึ้นทุกทีทำให้ชายชราเริ่มเป็นกังวล เกรงว่าหญิงสาวจะตามไม่ทัน“ท่านตา ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ รักษาสุขภาพตัวเองด้วย หากมีโอกาสข้าจะแวะมาเยี่ยมเยียนท่านอีกครั้งแน่นอน”“เอ้อ ๆ กระโดดเบา ๆ โอ๊ย หัวใจข้าจะขาดแทนวิญญาณบิดามารดาเจ้าแล้วเสี่ยวหนิงเอ้ย!” เห็นหญิงสาวกระโดดเหยง ๆ ขึ้นเกวียนที่กำลังวิ่งเหยาะก็ใจหล่นวูบไปถึงตาตุ่ม โชคดีเหลือเกินที่เขาไม่มีหลานสาว หลานชายก็กำลังเล็กแต่พอนึกถึงหลานชายตัวน้อยที่ทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆ รับปากทำงานให้เด็กหญิงตาเฒ่าก็อดสงสัยไม่ได้ ไม่รู้เด็กน้อยทั้งสองมีความลับอะไรกัน ไม่รู้เสี่ยวหนิงจ้างวานอะไรเจ้าเด็กหวังอี้หยางหนิงอันถอนหายใจโล่งอกเมื่อขึ้นเกวียนได้ทัน นางหันไปยิ้มให้เพื่อนร่วมทางที่ไม่คิดจะรอแถมยังเร่งเดินทางจน

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 10

    หญิงสาวรูปร่างอรชรอ้อนแอ้นดั่งสาวงามในภาพวาดเซียนกำลังนั่งหย่อนขาอยู่ริมระเบียง บ้านของท่านยายหนิงเป็นเรือนแบบสองห้องนอน มีครัวแยกต่างหาก ดูเหมือนจะพอมีพอใช้ไม่ขาดมือ เพียงแต่ท่านยายนั้นไร้ญาติขาดมิตร สุดท้ายก็รับหนิงอันเป็นทายาทด้วยความเอ็นดูหากพูดแล้วชาวบ้านล้วนอิจฉาที่หนิงอันได้รับมรดกทั้งจากพ่อแม่ และจากท่านยายหนิงโดยไม่มีผู้ใดรู้ว่า สมบัติจากทางบิดามารดานางก็ได้มาไม่น้อยหน้ากัน ไม่เช่นนั้นคงชุบเลี้ยงบัณฑิตยากจนกระทั่งกลายเป็นขุนนางไม่ได้หนิงอันในชีวิตแรกไม่มีความสามารถใด ๆ นอกจากสินเจ้าสาวที่ติดตัวไป แต่ตอนนี้นางมีทั้งเงินและความสามารถ ย่อมต้องอยู่อย่างสุขสบายจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตได้อย่างแน่นอนถึงอย่างนั้นเพื่อไม่ให้เกิดการผิดแผนขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวจำเป็นต้องวิเคราะห์และวางแผนอย่างรอบคอบ“กองคาราวานจะมาในอีกสามวัน” นับจากวันที่นางไปติดต่อกับท่านตาหวัง ก็ผ่านมานานแล้ว หนิงอันยังเฝ้ารอกองคาราวานทุกวันอย่างใจจดใจจ่อ“สมบัติทุกชิ้นข้าก็เตรียมเอาไว้หมดแล้ว เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เรียบร้อย ยังมีเกราะอ่อนของท่านลุง…” นึกถึงเกราะอ่อนทหารที่ท่านยายมักจะเอามาอวด ทำให้หนิงอันยิ้มน้อ

  • ชีวิตที่สามของหนิงอัน   บทที่ 9

    “ท่านตา ข้าต้องการเข้าเมือง แต่ว่า…ตั้งแต่ท่านพ่อท่านแม่ ท่านยายตาย ออกจากบ้านข้าก็ยังกลัว ข้ารู้สึกว่าหากมีอะไรที่รับรองความปลอดภัยของตนเองได้ จะรู้สึกดีกว่ามาก ท่านตาคิดว่าหากข้าจ้างทหารรับจ้างในหมู่บ้านจะดีหรือไม่เจ้าคะ”“เจ้ามีเงินหรือ ทหารรับจ้างใช้เงินไม่น้อย แม้จะเป็นกลุ่มที่แขนขาพิการแต่เป็นทหารเดนตายชายแดนมาก่อน พวกเขามีความสามารถมากก็ใช้เงินจ้างสูงมากตามไปด้วย ที่ข้ารู้จักก็เจ้าหู่ที่อยู่หลังเนินนู่นไง คิดตั้งห้าตำลึงเงินแน่ะ นี่แค่จะเข้าเมืองนะ”“...” หนิงอันอ้าปากเหวอ นางไม่สามารถใช้เงินได้เยอะขนาดนั้น เพราะวางแผนว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ไม่มีความคิดขายบ้านเดิม เนื่องจากเสียดายสถานที่แห่งความทรงจำ“เอาอย่างนี้ เจ้ารอไปก่อนสักครึ่งเดือน ได้ยินว่ามีคาราวานหนึ่งจะผ่านทางนี้ ท่านพ่อค้าใจดี หากจ่ายสักสองสามร้อยอีแปะก็คงติดตามไปได้”“ขบวนพ่อค้าเร่หรือเจ้าคะ” หนิงอันตาเป็นประกาย เมื่อครั้งอยู่หอนางโลม นางได้มีโอกาสได้รับแขกต่างบ้านต่างเมืองเป็นพ่อค้าเร่ แต่แท้จริงฐานะกลับสูงส่ง จึงพอจะรู้ว่าขบวนพ่อค้าเร่นั้น แม้จะเป็นขบวนเล็ก ๆ แต่ก็ต้องจ้างสำนักคุ้มภัยมาคุ้มกันสินค้า กลุ่มโจรที

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status