Share

ชีวิตคู่ที่แหลกสลาย
ชีวิตคู่ที่แหลกสลาย
ผู้แต่ง: อรุณอำไพ

บทที่ 1

ในที่สุดก็ได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว

อดทนลำบากมาตั้งหลายปี ในที่สุดวันนี้ก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการแผนกแล้ว

ได้หลุดพ้นจากงานจุกจิกที่น่าเหนื่อยหน่ายเหล่านั้นเสียที

ทีนี้ผมก็สามารถมีเวลาอยู่กับลูกชายมากขึ้น และแบ่งเบาความกดดันจากการดูแลครอบครัวของภรรยาได้ด้วย

หลังจากที่ส่งรับงานก่อนหน้านี้เสร็จ วันนี้ก็ได้เลิกงานเร็วบ้าง

เมื่อคิดถถึงภรรยาที่คอยดูแลลูกชายที่บ้านคนเดียว มุมปากของผมก็เผยรอยยิ้มแห่งความสุขออกมา

ตอนที่กลับบ้าน ผมแวะที่ซื้อดอกไม้ที่ภรรยาชอบมากที่สุดจากร้านขายดอกไม้มาด้วยหนึ่งช่อ

และตั้งใจจะแบ่งปันความยินดีที่ได้เลื่อนตำแหน่งงานกับเธอ

เมื่อกลับถึงบ้าน ก็พบว่าภรรยากำลังหลับอยู่ข้างเตียงของลูกชาย หน้าตาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า

ส่วนลูกชายนั่งอยู่ในเตียงเด็กอย่างเชื่อฟัง และกำลังเล่นไถรถของเล่นอย่างเงียบๆ

ผมวางดอกไม้ไว้ด้านข้าง

ขณะที่เดินไปด้วยความระวัง และเตรียมยื่นมือไปอุ้มภรรยาไปไว้ในห้องนอน

ทันใดนั้นหน้าจอของโทรศัพท์ที่ภรรยาวางเอาไว้ข้างตัวก็สว่างขึ้น

ข้อความหนึ่งแจ้งเตือนขึ้นมา

ผมรู้รหัสโทรศัพท์ขของภรรยา แต่หลายปีมานี้พวกเราต่างก็เชื่อใจซึ่งกันและกันมากพอ

เราต่างไม่เคยตรวจเช็คโทรศัพท์ของอีกฝ่ายเลย

แต่วินาทีนั้นก็ไม่รู้อะไรดลใจ ผมปลดล็อดโทรศัพท์ของเธอ

"ชิงชิง ลูกของเรากำลังทำอะไรอยู่ครับ?"

ทันทีที่เห็นข้อความนั้น ผมก็ยืนนิ่งอยู่กับที่

กระทั่งสงสัยว่านี่ตัวผมส่งข้อความหาภรรยาไปตอนไหน และโทรศัพท์ของภรรยาได้รับข้อความล่าช้าไป

แต่รูปโปรไฟล์กับชื่อที่ระบุต่างกับของผมโดสิ้นเชิง รวมถึงบทสนทนาหวานเลี่ยนที่ทิ่มแทงสายตาเต็มหน้าจอนั้น

ได้ทำลายความคิดไร้สาระของผมจนสิ้น

ผมรู้จักกับเสิ่นชิงในมหาวิทยาลัย

เราคบหากัน 5 ปี หลังเรียนจบก็เข้าสู่ประตูวิวาห์อย่างถูกทำนองครองธรรม

ผมเป็นเด็กกำพร้า แต่เสิ่นชิงบอกว่าเธอไม่สนใจภูมิหลังของผม และไม่แคร์ว่าผมมีเงินหรือไม่

สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะแต่งงานกับผมโดยไม่สนใจการคัดค้านของครอบครัว

ผมรู้สึกติดค้างเธอ จึงสาบานว่าจะตั้งใจทำงานเพื่อให้เสิ่นชิงมีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

และปีนั้นเอง ผมที่เหนื่อยล้าจากงานเลี้ยงเข้าสังคม และละเลยเสิ่นชิง ทำให้พวกเราสูญเสียลูกคนแรกไป

ซึ่งนั่นเป็นลูกผู้หญิง

หลังจากนั้น 3 ปีเต็มๆ พวกเราถึงได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยกันอีกครั้ง

เป็นลูกชายที่แสบและซุกซน ชื่อว่าคังคัง

เพราะเห็นใจภรรยาที่ตั้งท้องต้องลำบาก ผมจึงยิ่งก้มหน้าก้มตาทำงานหนัก

ไม่ว่าจะงานหนักงานยากผมก็ทำหมด ไม่เคยบ่น ทั้งเป็นแพะแทนเพื่อร่วมงาน ช่วยดื่มแทนหัวหน้า

หลายครั้งเพื่อให้ได้โปรเจ็ค ผมต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลเพราะดื่มจนเลือดออกในกระเพาะ

ถึงแลกโบนัสจำนวนมากมาได้

และเนื่องจากงานเลี้ยงเข้าสังคมติดต่อกันหลายปี หุ่นของผมก็เริ่มเสียรูปทรง

ยังจำได้ว่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ยังเรียกผมว่าดาวประจำห้องอยู่เลย

แต่พอส่องกระจกตอนนี้ ผมก็แทบจะกลายเป็นตาลุงอ้วนลงพุงวัยกลางคนเสียแล้ว

มองดูภรรยาที่กำลังนอนหลับสนิท ผมพยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็น

และฝืนมือที่สั่นเทาเลื่อนดูโทรศัพท์

นั่นเป็นบัญชีที่ผมไม่เคยเห็นภรรยาใช้มาก่อน ในนั้นมีผู้ติดต่อเพียงคนเดียว

ซึ่งถูกระบุว่าสามีที่รัก

หึ สามีที่รัก น่าเสียดแทงใจอะไรแบบนี้

อยู่ด้วยกันมา 8 ปี เธอเรียกผมว่าพี่เซิงตลอด เคยเรียกผมว่าสามีอยู่เพียงแค่สองครั้งได้ ซึ่งผมยังจำได้จนทุกวันนี้

ครั้งหนึ่งคือหลังจากที่พวกเราหมั้นกัน

ในที่สุดผมก็เก็บเงินมากพอสำหรับเงินดาวน์ก้อนแรก ที่กำลังจะใช้ซื้อบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทเพื่อเป็นเรือนหอ

แต่ภรรยาไม่เห็นด้วย เธอกับครอบครัวสลับกันมาช่วยผมวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย

จนในที่สุดผมก็มาซื้อบ้านเก่าหลังเล็กที่พ่อแม่ของเธออยู่อาศัยมา 20 ปี

แต่พ่อแม่ของเธอเอาเงินที่ขายบ้านให้ผมกับสินสอดที่ผมให้ไปซื้อบ้านใหม่หลังใหญ่วิวแม่น้ำที่เพิ่งสร้างใหม่

ตอนนั้นภรรยาซบอยู่ในอ้อมอกของผม และเรียกผมว่าที่รักด้วยน้ำเสียงหวานเลี่ยน

เธอบอกว่าบ้านหลังนี้อยู่ใกล้กับเขตการศึกษาที่ดีที่สุด อนาคตลูกของพวกเราจะได้รับการศึกษาที่ดีมากๆ

พร้อมทั้งวางแผนอนาคตร่วมกับผม

ตอนนั้นในใจผมเต็มไปด้วยความหวานฉ่ำ และภาพฝันของชีวิตในอนาคต

คิดว่าถึงเก่าและเล็กก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มีชีวิตชีวา

ก็แค่ไกลจากบริษัทไปหน่อย ผมพยายามอีกสักหน่อยเพื่อซื้อรถ เวลาไปทำงานก็จะสะดวกขึ้น

อีกครั้งหนึ่งคือหลังจากที่เธอแท้งลูกไม่นาน

น้องชายแท้ๆ ของเธอจะแต่งงาน แต่ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดหกแสนหกหมื่นหยวน

แต่เงินของพ่อแม่เธอเอาไปซื้อบ้านหมดแล้ว

จึงมาขอให้ผมช่วยน้องชายเธอสำรองจ่ายไปก่อน

ตอนนั้นเธอยังอยู่ในช่วงพักฟื้น เธอนอนอยู่บนเตียง สีหน้าขาวซีด

ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยการอ้อนวอนมองมาที่ผม

เธอใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมา เรียกผมเบาๆ ว่าที่รัก

เพราะความรู้สึกผิดและความรักใคร่ที่มีต่อภรรยา

ผมจึงปิดเรื่องที่ตัวเองดื่มจนอาเจียนเป็นเลือดจากงานเข้าสังคมไว้

และนำเงินโบนัสทั้งหมดที่ได้จากโปรจ็คครั้งนั้นออกมา

รวมทั้งเงินที่ผมเก็บออมไว้เพื่อซื้อรถโปะเข้าไปถึงพอ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status