แชร์

บทที่ 503

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ดวงตาซูจิ่งสิงทอประกาย ของสิ่งนี้มีประโยชน์ดังคาด

อาศัยช่วงนักรบหมาป่าเดินห่างไปไกล ทั้งสองสบโอกาสเหินลงบนหญ้า จากนั้นเหินขึ้นกำแพงเมือง

ซูจิ่งสิงมาที่ตำแหน่งใจกลางกำแพงเมือง แขวนศีรษะฉินทงไว้บนกำแพงเมืองโดยตรง

จากนั้นเหินบินจากไปก่อนถูกทหารพบเห็น

เชื่อว่าหลังฟ้าสว่างในวันพรุ่งนี้ ทหารลาดตระเวนเหล่านั้นมองเห็นศีรษะของฉินทงแล้ว จะต้องเกิดคลื่นลูกใหญ่อย่างแน่นอน

“คาดหวังขึ้นมาบ้างแล้ว”

กู้หว่านเยว่ลูบคาง ยิ้มอย่างมีเจตนาร้าย

ทั้งสองคนกลับเข้าเรือน

ขณะเดียวกัน เฉินจิ่งเส้าคอยอยู่ภายในนานมากแล้ว เห็นทั้งคู่กลับมา ถลันขึ้นมาเร็วรี่

“พวกท่านนับว่ากลับมาแล้ว กงซุนฉิงฟื้นแล้ว”

“พาข้าไปดูหน่อย”

ได้ยินว่ากงซุนฉิงฟื้นแล้ว กู้หว่านเยว่รีบเข้าเรือน

บัดนี้กงซุนฉิงกำลังนั่งพิงหัวเตียง เหลือบเห็นว่ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเข้ามาแล้ว รีบเอ่ยปากขอบคุณทั้งคู่

กู้หว่านเยว่หยั่งเดา เป็นเฉินจิ่งเส้าเล่าต้นสายปลายเหตุให้นางฟัง

“น้องเจ็ดของข้ายังดีอยู่หรือไม่?”

“ไม่ดี”

กู้หว่านเยว่ตอบตามสัตย์จริง “ถูกควักดวงตาสองข้าง กระดูกมือและขาหัก ตายเสียดีกว่าอยู่”

“แควก!”

ผ้าปูเตียงในมือกงซุนฉิงขาดเป็
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 504

    “วิชาแมวสามขา [1] เท่านั้น น่าเกลียดเกินไป”สีหน้าเฉินจิ่งเส้าเปี่ยมความเก้อกระดาก วรยุทธ์เพียงแค่นั้นของเขายามอยู่ต่อหน้าซูจิ่งสิง ไม่พอให้ชายตาแล “แต่พวกเราพาไปคนหนึ่ง ใช้วิชาตัวเบาเชื่องช้าเกินไป มิสู้ใช้สัตว์ของข้า”พูดจบ เขาผิวปากเสือเงินสีขาวดุจหิมะทั่วทั้งสรรพางค์กายตัวหนึ่งกระโจนออกจากความมืดมิดยามราตรีจากนั้นหมอบหลงต่อหน้าเฉินจิ่งเส้า ลดหลังลงต่ำแม้แต่คนพบเห็นมามากอย่างกู้หว่านเยว่ยังตกตะลึงเหม่อลอย“เสือเงินนี้ถึงขั้นฟังคำสั่งท่าน นี่คือสัตว์เลี้ยงหรือ?”กู้หว่านเยว่เอ่ยถามอย่างตกตะลึงพรึงเพริดพวกเขาสองสามีภรรยานับตั้งแต่ปรากฏตัวจนถึงตอนนี้ ก็คล้ายปรมาจารย์ลึกลับสองท่านอยู่ตลอดครั้นเผยสีหน้าตกตะลึง นับว่าน่ารักใสซื่อมากเฉินจิ่งเส้าหัวเราะฮาๆ พูดอย่างไม่ปกปิด“แท้จริงแล้ววมิได้ลึกลับเหมือนข่าวลือ พวกเราใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เหล่านี้ตั้งแต่เด็ก ย่อมเกิดความผูกพัน เสือเงินตัวนี้เป็นของขวัญที่ท่านพ่อมอบให้ข้าตอนอายุครบสิบขวบ”สายตาเฉินจิ่งเส้าสะท้อนความภาคภูมิใจ“หลังเลี้ยงดูแล้ว มันก็นับข้าเป็นเจ้านาย เชื่อฟังคำสั่งของข้า ไม่ทำร้ายคนรอบกายข้าตามใจ แต่ข้านี่คือวิ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 505

    มองไข่มุกเรืองแสงราตรีฝังเรียงรายทั้งสองฝั่ง กู้หว่านเยว่เอ่ยชื่นชม“ไข่มุกเรืองแสงราตรีใหญ่ยิ่งนัก”เฉินจิ่งเส้ากำหมัดกระแอม “ไข่มุกเรืองแสงราตรีเหล่านี้ใช้ส่องสว่าง”อย่าคิดว่าเขามองไม่เห็นสีหน้าหวั่นไหวของกู้หว่านเยว่ เขากังวลอีกฝ่ายเก็บไข่มุกเรืองแสงราตรีไปจริงๆกู้หว่านเยว่เองก็คิดๆ ดู สุภาพชนล้วนชอบความร่ำรวย กระนั้นต้องได้มาอย่างถูกต้องไม่มีวันทำตัวเลวทรามเพียงนั้นขบวนคนเดินๆ หยุดๆ ระหว่างทางผ่านกลไกห้าถึงหกแห่ง“แม้ทางใต้ดินนี้ลึก ข้างล่างกลับไม่ชื้น”กู้หว่านเยว่พูดไป ก็มองเห็นแนวสายตาขยายกว้างมากขึ้นทางด้านหน้าจากนั้นกระท่อมไม้ก็ปรากฏต่อหน้าพวกเขา“แสงจันทร์ถึงขั้นส่องเข้ามาได้!”กู้หว่านเยว่แหงนหน้าอย่างตกตะลึงมองโดมด้านบน เชื่อว่าฝนน้ำค้างแสงแดดก็ล้วนสามารถลอดผ่านรอยแยกเข้ามาได้เฉินจิ่งเส้าพูดอย่างภาคภูมิใจ “ทางใต้ดินนี้เป็นข้าพบโดยบังเอิญ”“หลังข้าเข้ามาแล้ว พบว่าพื้นที่ข้างใต้กว้างมาก ทิวทัศน์เองก็งดงาม สั่งให้คนปลูกดอกไม้แปลกหญ้าประหลาดไว้มากมายเขาชี้ไปที่ธารน้ำห่างออกไปไม่ไกล“ธารน้ำนั้นเป็นข้าสั่งให้คนเปิดทางเข้ามา”“พวกท่านวางใจได้ ที่แห่งนี้ลึก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 506

    อาการบาดเจ็บของกงซุนฉิงพูดว่าหนักกลับไม่หนัก พูดว่าไม่หนัก กลับต้องมีคนดูแล“เรื่องดูแลนางก็รบกวนคุณหนูสามแล้ว”กงซุนเสว่ปาดน้ำตา รีบเอ่ยตอบ “แน่นอนอยู่แล้ว น้องหญิงสี่ได้รับบาดเจ็บ พี่สาวอย่างข้าต้องดูแลนางดีๆ ฮูหยินมีอะไร โปรดสั่งมาก็พอ”จากนั้นกู้หว่านเยว่สำทับเรื่องที่ต้องระวังบางส่วน“บัดนี้สถานการณ์ภายนอกอันตรายมาก พวกท่านอย่าออกไปเลย ข้าสองสามีภรรยาจะไปสืบข่าว ช่วยตามหาคนสกุลกงซุนแทนพวกท่าน”กู้หว่านเยว่เอ่ยสำทับ นางไม่อยากให้คนที่ตนเองช่วยมาได้ต้องไปติดกับ“เสว่เอ๋อร์ ฟังพวกเขาเถอะ”เฉินจิ่งเส้าพยักหน้าลงอย่างอดไม่ได้ สองคนนี้วรยุทธ์สูง ฟังพวกเขาต้องไม่ผิดพลาดแน่“ได้ ข้าฟังพวกท่าน”กงซุนเสว่ไม่ฉลาดมากพอ แต่ยังเชื่อฟังเห็นสีหน้าทั้งสองคนอ่อนล้า นางรีบพูด“ข้างหลังกระท่อมไม้ยังมีอีกสองห้อง ข้าไปเก็บให้พวกท่านอยู่ พวกท่านพักผ่อนก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่รู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างจริงๆ ยืดเอวทีหนึ่ง“นำทางเถอะ”นางไม่พักผ่อน ลูกในท้องนางยังต้องพักผ่อนนอนหลับหนึ่งตื่น พรุ่งนี้ถึงจะมีสมาธิรับมือกับเรื่องมากมาย“ท่านพี่ ท่านว่าสตรีลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่”กู้หว่านเยว่นอนบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 507

    “ตัวไร้ประโยชน์ ไม่สมควรอยู่บนโลกนี้”ฝ่ายหญิงลงมืออย่างโหดเหี้ยม ฆ่าองครักษ์ทั้งหมดในคราวเดียว สามารถมองเห็นวรยุทธ์เข้าขั้นสูงได้ขณะเดียวกัน สีท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้วแสงอ่อนยามรุ่งอรุณสาดส่องทางทิศบูรพาองครักษ์ภายนอกวิ่งพรวดพราดเข้ามา“แย่แล้ว แย่แล้ว ใต้เท้าฉินเขา...”องครักษ์คุกเข่าต่อหน้าฝ่ายหญิง“นายหญิง หัวของใต้เท้าฉิน หัวของเขาถูกแขวนบนกำแพงเมืองขอรับ”เช้าวันนี้ทหารลาดตระเวนพบน้ำหยดลงบนหน้ายกมือขึ้นเช็ด ถึงขั้นพบว่าคือเลือดแหงนหน้าขึ้น ศีรษะของฉินทงถึงขั้นแขวนอยู่บนกำแพง ทำเสียจนทุกคนตกใจกรีดเสียงร้อง“เมื่อคืนหน่วยลาดตระเวนของพวกเราล้วนอยู่ข้างล่าง ถึงขั้นไม่รู้ว่าหัวของใต้เท้าแขวนอยู่ข้างบน”สีหน้าเทียนอวี๋ไม่สบอารมณ์มากยามเพิ่งพบห้องลับ นางอยากฆ่าฉินทงจริงนั่นล่ะทว่านี่มิได้หมายความว่านางอยากให้ฉินทงตายในมือของผู้อื่น“สามารถแขวนหัวของฉินทงไว้บนกำแพงเมืองได้ วรยุทธ์จะต้องสูงมากแน่”เทียนอวี๋ขมวดคิ้วแน่น ใคร่ครวญภายในใจการรับกลิ่นของนักรบหมาป่าอ่อนไหวมาก เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถผ่านพวกมัน เหินบินขึ้นกำแพงเมืองได้นับประสาอะไรกับแขวนศีรษะเพียงพอให้มอง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 508

    “อืม เช่นนั้นข้าไปก่อนแล้ว”ซูจิ่งสิงลูบมือน้อยของกู้หว่านเยว่ ลุกขึ้นจากไปเขาทักทายปราศรัยเฉินจิ่งเส้าก่อนถึงเริ่มเคลื่อนไหวพวกเฉินจิ่งเส้ารู้ว่ากงซุนจางเย่มาถึงหลินซีโข่วแล้ว แต่ละคนตื่นเต้นมาก“น้องเจ็ดบาดเจ็บสาหัส ยังเดินทางไกลมาอย่างยากลำบาก หวังว่าเขาจะไม่เป็นไร” กงซุนเสว่ถอนหายใจ“เจ้าเด็กตัวเหม็นคนนี้ เฮ้อ”“น้องเจ็ดโตแล้ว” สายตากงซุนฉิงกลับทอประกาย “ไม่ใช่เด็กเหมือนในอดีตอีก รู้จักมีความรับผิดชอบแล้ว”เพียงแต่ราคาสำหรับการเติบโตเจ็บปวดอยู่บ้างนึกถึงความตายของบิดาและพี่สาวทั้งสอง สีหน้าทั้งคู่เกร็งเครียด“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเราเจ็บปวดไปก็ไร้ประโยชน์”กงซุนฉิงเอ่ยปากเสียงเย็น “บัดนี้สำคัญที่สุดก็คือหาคนที่เหลืออยู่ พี่น้องหญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ แย่งซีเป่ยกลับคืนมา ล้างแค้นให้คนในครอบครัว”กงซุนเสว่ไม่มีความเห็นอื่น ได้ยินก็พยักหน้า“น้องหญิงสี่พูดถูก”ทั้งสองเงยหน้าขึ้น มองกู้หว่านเยว่ที่กำลังเตรียมยาสมุนไพรนอกเรือน ครรภ์กลมมาก สีหน้าผ่อนคลายกงซุนฉิงรู้สึกคุ้นตากับภาพนี้อย่างกะทันหัน“น้องหญิงสี่ เจ้ายังจำภาพวาดนั้นในหอบรรพบุรุษของพวกเราได้หรือไม่?”“ท่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 509

    เฉินจิ่งเส้าตื่นเต้น รีบลุกขึ้น “ข้าไปรับ”ทางเข้ามีกลไกมากมาย เขาต้องไปนำทาง“ข้าเองก็ไปด้วย” กงซุนเสว่รีบเอ่ยปาก“เฮ้อ ข้าไม่มีแรงเดิน ไม่ไปแล้ว”กงซุนฉิงมองพวกเขาจากไปตาละห้อย นางเองก็อยากไป น่าเสียดายร่างกายไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย“มาถึงทางเข้าแล้ว ไม่มีวันเกิดเรื่อง”กู้หว่านเยว่เอ่ยปลอบ “พวกเรารออยู่ที่นี่เถอะ”“แม่นางกู้พูดถูกแล้ว” กงซุนฉิงพยักหน้า สายตากลับยังทอดมองไปภายนอกอย่างสุดระงับ“เหตุใดยังไม่มา?”เวลาหนึ่งถ้วยชาเพิ่งผ่านไป นางก็ร้อนใจขึ้นมาแล้ว“นี่ทรมานเกินไปแล้ว”“น้องหญิงสี่ พวกเขามาแล้ว!” กงซุนเสว่วิ่งกลับเข้ามาก่อนก็มองเห็นเฉิงจิ่งเส้าแบกกงซุนจ่างเย่เข้ามา ข้างหลังยังมีหมิงจู เมิ่งเหยียนและลั่วยางเหล่านั้น“น้องหญิง”ซูจิ่งสิงเดินมาหยุดข้างกายกู้หว่านเยว่ นิ้วมือแตะท้องของนางเบาๆ“ข้ากลับมาแล้ว”“กลับมาก็ดีแล้ว”เห็นฝ่ายชายปลอดภัยดี กู้หว่านเยว่ถอนหายใจโล่งอกนางเองก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไรไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าวรยุทธ์ของซูจิ่งสิงแข็งแกร่ง ยังกังวลอย่างอดไม่ได้“น้องเจ็ด! ตาของเจ้า เหตุใดกลายเป็นเช่นนี้?”กงซุนฉิงเห็นดวงตาของกงซุนจ่างเย่ถูกผ้าพันไว้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 510

    ชายคนนี้ลำบากอยู่ภายนอกมาหนึ่งวันแล้ว แม้ไม่พูด แต่ต้องเหนื่อยมากแน่กู้หว่านเยว่ไฉนเลยจะใช้งานอีกฝ่ายได้ คิดเพียงให้เขาไปพักผ่อนดีๆ“ไม่เป็นไร”ซูจิ่งสิงพูดหนึ่งประโยคก็ค้อมเอวจุดไฟให้นางกู้หว่านเยว่เห็นเหตุการณ์แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกทั้งสองคนช่วยกัน อาหารก็ทำเสร็จอย่างว่องไวทางด้านนั้น กงซุนจ่างเย่และพี่สาวทั้งสองเองก็ระบายอารมณ์เสร็จดีแล้วต่างฝ่ายต่างบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระยะนี้ออกมาหนึ่งรอบได้ยินกู้หว่านเยว่เรียกไปกินข้าว กงซุนเสว่รีบไปช่วยเหลือผ่านไปครู่หนึ่ง สองสามคนก็นั่งล้อมวงบนโต๊ะไม้ฝีมือกู้หว่านเยว่ไม่เลว อาหารก็ทำได้เลิศรสทุกคนได้มีเวลาผ่อนคลายอย่างหาได้ยากหลังกินข้าวอิ่มแล้ว กู้หว่านเยว่เช็ดปาก “มีแผนที่หมู่บ้านโซ่วหวางหรือไม่? ให้พวกเราพิจารณาสักเล็กน้อย”ความคิดของกู้หว่านเยว่คือหมู่บ้านโซ่วหวางใหญ่เพียงนั้นจะต้องมีกลไกและเส้นทางลับอย่างแน่นอนหากสามารถถือแผนที่ไว้ในมือได้ ทำเรื่องใดก็สะดวกมากนางคือผู้ช่วยชีวิตคนสกุลกงซุน สองสามคนย่อมไม่ปฏิเสธกงซุนเสว่รีบเอ่ยปาก “ข้าไม่มีแผนที่ติดตัว แต่ข้าสามารถวาดออกมาให้ท่านได้หนึ่งแผ่น”นางคำนวณเวลา “

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 511

    “แผนที่นี้ข้ารับไว้แล้ว ขอบคุณคุณหนูสาม”กู้หว่านเยว่กอดแผนที่ไว้ในอ้อมแขนกงซุนเสว่ได้ยินก็ยิ้มอย่างขมขื่น “คำนี้ ทำข้าไม่พอใจแล้ว”“ท่านทั้งสองเป็นผู้กอบกู้ตระกูลกงซุน หากจะขอบคุณ ก็ควรเป็นพวกเราที่ขอบคุณ”“ถ้าเช่นนั้น พวกเราก็ขอตัวก่อนแล้ว”กู้หว่านเยว่คำนึงถึงเวลา จึงหยุดสนทนากับกงซุนเสว่ กล่าวคำอำลาอีกครั้ง“พวกท่านต้องระวังให้มาก” กงซุนเสว่พูดอย่างรวดเร็ว“วางใจเถอะ พวกเรารู้ว่าอะไรเหมาะสม”กงซุนเสว่อยากพูดอีกสักหน่อย แต่เมื่อเห็นว่าทั้งสองมั่นใจอย่างยิ่ง ทั้งยังรู้ว่ากู้หว่านเยว่มากความสามารถ นางจะไม่พูดอะไรออกไปอีกกู้หว่านเยว่ไม่ชักช้ารีรอ เมื่อได้แผนที่มาแล้วก็รีบเดินไปทางซูจิ่งสิงทันที“เสว่เอ๋อร์ เจ้าบอกเรื่องหมู่บ้านโซว่หวางไปหมดเช่นนั้น ไม่กลัวหรือ?...”เฉินจิ่งเส้ากังวลเล็กน้อยบนแผนที่ มีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความลับของตระกูลกงซุนกงซุนเสว่ดูเฉยเมย “ตอนนี้ตระกูลกงซุนถึงจุดวิกฤตแล้ว ยังจะสนใจเรื่องพวกนี้อีกทำไม?”“อีกอย่าง ข้าเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนดี”สัญชาตญาณบอกนางว่า กู้หว่านเยว่เป็นคนที่นางไว้ใจได้เฉินจิ่งเส้าแค่อยากเตือน สำหรับหมู่บ้านโซว่หวางที่ใหญ่

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1176

    “คนในครอบครัวของเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ?”กู้หว่านเยว่ปวดใจกับเด็กคนนี้มาก จึงยื่นขนมอีกชิ้นให้เขา“ทุกคนตายหมดแล้วขอรับ เหลือเพียงข้าผู้เดียว”ครั้นนึกถึงเรื่องเสียใจ เสี่ยวถ่านก็มักจะก้มหน้าลง จากนั้นหยดน้ำตาก็ได้หลั่งรินออกมาจากดวงตาของเขาเขาคิดถึงท่านแม่“เอาละ หยุดร้องได้แล้ว แม้ว่าคนในครอบครัวของเจ้าจะตายกันหมดแล้ว แต่เจ้าก็ต้องใช้ชีวิตให้ดี”กู้หว่านเยว่ตักน้ำแกงไก่ให้เขา นางมักจะรู้สึกว่าสถานะของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดากิริยามารยาของเขาดูไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา จู่ ๆ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว“ประตูเมืองเปิดแล้ว!”ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้นเสียงตะโกนระลอกหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอก จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นขึ้นในฝูงชนที่ล้อมรอบ ทุกคนต่างทยอยกันเข้ามารวมตัวกันหน้าประตูเมือง“น้องหญิง เราเองก็เข้าเมืองกันเถอะ”ซูจิ่งสิงเปิดผ้าม่าน ก่อนจะกล่าวทักทายกู้หว่านเยว่ ไหน ๆก็จะเข้าเมืองแล้ว พวกเขาคงนั่งอยู่บนรถม้าไม่ได้อีก ต้องลงจากรถม้ามาตรวจสอบถึงจะถูก “เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่คว้ามือของเสี่ยวถ่านลงมาจากรถม้า และเดินมาต่อแถวอยู่ด้านหลังของกล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1175

    ไม่สู้สละตัวปัญหานี้ออกไปโดยเร็ว เขาจึงเริ่มร้อนใจ“เอาอย่างไร ข้าเสนอให้เจ้ายี่สิบตำลึง ตกลงเจ้าจะเอาหรือไม่เอา?”“ข้าเอา”ซูจิ่งสิงรับเงินมาจากมือของกู้หว่านเยว่ หลังจากนับจนครบยี่สิบตำลึงแล้วก็โยนให้บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นรับเงินไปด้วยความดีใจ เขาทำการตรวจสอบครู่หนึ่งจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว ก็ไม่ได้สนใจทาสตัวน้อยนั้นอีก สะบัดก้นเดินจากไปทันที“ขอบคุณพวกท่านมาก” ทาสตัวน้อยมองไปทางซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง แต่นัยน์ตายังคงหวาดกลัวลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่าซูจิ่งสิงอันตรายมาก เขาไม่กล้าเข้าใกล้ซูจิ่งสิงเลยแม้แต่น้อย“เจ้าขึ้นรถม้าเถอะ”กู้หว่านเยว่กวักมือเรียกทาสตัวน้อย สองวันมานี้เวลาว่างนางก็มักจะเรียนรู้ภาษาของชาวทูเจวี๋ยจากซูจิ่งสิงอยู่เสมอ แม้ว่าจะยังออกเสียงได้เล็กน้อย แต่พอถูไถได้ไม่มีปัญหาทาสตัวน้อยเกิดความลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ยังปีนขึ้นรถม้า เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยความประหลาดใจ“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ใช่คนชั่ว”กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นทำไม บางทีอาจเพราะเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากทาสตัวน้อยผู้นั้น จึงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองก่อนหน้านั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1174

    นางรีบลืมตา ก็พบว่าพวกเขามาถึงคูเมืองแห่งหนึ่งแล้ว เมืองชิงซานประตูเมืองของเมืองชิงซานจะเปิดในเวลาแปดโมงเช้า ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ ดังนั้นซูจิ่งสิงจึงจอดรถม้าอยู่หน้าประตูเมืองชั่วคราวแต่เวลานี้บริเวณประตูเมืองชิงซาน ยังมีคนที่เดินทางมาถึงเช้าตรู่เหมือนกับพวกเขาอีกเป็นจำนวนมาก กำลังพักผ่อนอยู่บนพื้นที่โล่งรอบ ๆ หน้าประตู เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ดังมาจากด้านหลังของรถม้าพวกเขา กู้หว่านเยว่เบนสายตามองตาม กระทั่งเห็นเด็กน้อยหน้าตามอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิงคนหนึ่ง เกาะล้อรถของนางไม่ยอมปล่อย แต่ด้านหลังของเขา มีบุรุษวัยกลางคนฟาดเขาด้วยแส้อย่างโหดเหี้ยม“เกิดอะไรขึ้น?”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เมื่อครู่นางอยู่แต่ในห้วงมิติตลอด จึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้านนอก“เด็กหนุ่มผู้นี้วิ่งลงมาจากรถม้าของบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น”ซูจิ่งสิงมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระซิบข้างหูของนางเบา ๆ“ท่าทางจะเป็นทาสที่ซื้อตัวมา คงอยากหนี”“ได้โปรดพวกท่าน ช่วยข้าด้วย”ครั้นทาสตัวน้อยเห็นกู้หว่านเยว่ชะโงกหน้าออกมา จึงมองนางด้วยความตกใจ แต่นัยน์ตาแฝงไปด้วยการอ้อนวอนเดิมทีกู้หว่านเยว่ไม่อยากเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1173

    เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า รูม่านตาของเจ้าเมืองแห่งเมืองสือโม่เบิกกว้าง พลางส่งเสียงกรีดร้องคล้ายกับสตรีชั้นสูงที่กำลังถูกกระทำชำเราอย่างไรอย่างนั้น“รนหาที่ตายแท้ ๆ บุรุษและสตรีคู่นี้เป็นผู้ใดกัน?!”“เจ้าเมือง บัดนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”ทหารที่ดูโง่เขลาบางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว เพียงครู่เดียว จวนของเจ้าเมืองก็ถูกกู้หว่านเยว่ถล่มจนไม่เหลือชิ้นดีทั้งเมืองสือโม่ตกอยู่ในความโกลาหลยิ่งกว่าเดิม!ซึ่งพอจะจินตนาการได้ว่าเรื่องของเมืองสือโม่ที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะต้องแพร่กระจายไปทั่วเมืองทูเจวี๋ยอย่างแน่นอน ไม่สิ อาจจะแพร่กระจายไปยังฝั่งของต้าฉีด้วย“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าควรทำอย่างไร รีบจับพวกเขาให้ได้ก่อนเถอะ!”เจ้าเมืองโกรธที่ตัวเองไร้ความสามารถ ส่วนทหารคนอื่นได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาไม่มีปีก ดังนั้นจึงทำได้แค่มองนกหงส์เพลิงบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ “จูเชวี่ย เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่มองไปยังเสบียงอาหารที่ถูกปล้นมาไว้ในห้วงมิติ ก่อนจะคลี่ยิ้มตาหยี นางลูบหัวของจูเชวี่ยเบา ๆ และออกคำสั่งให้จูเชวี่ยเร่งความเร็ว จากนั้นก็บินออกจากเมืองสือโม่ไปเจ้าเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status