แชร์

บทที่ 505

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
มองไข่มุกเรืองแสงราตรีฝังเรียงรายทั้งสองฝั่ง กู้หว่านเยว่เอ่ยชื่นชม

“ไข่มุกเรืองแสงราตรีใหญ่ยิ่งนัก”

เฉินจิ่งเส้ากำหมัดกระแอม “ไข่มุกเรืองแสงราตรีเหล่านี้ใช้ส่องสว่าง”

อย่าคิดว่าเขามองไม่เห็นสีหน้าหวั่นไหวของกู้หว่านเยว่ เขากังวลอีกฝ่ายเก็บไข่มุกเรืองแสงราตรีไปจริงๆ

กู้หว่านเยว่เองก็คิดๆ ดู สุภาพชนล้วนชอบความร่ำรวย กระนั้นต้องได้มาอย่างถูกต้อง

ไม่มีวันทำตัวเลวทรามเพียงนั้น

ขบวนคนเดินๆ หยุดๆ ระหว่างทางผ่านกลไกห้าถึงหกแห่ง

“แม้ทางใต้ดินนี้ลึก ข้างล่างกลับไม่ชื้น”

กู้หว่านเยว่พูดไป ก็มองเห็นแนวสายตาขยายกว้างมากขึ้นทางด้านหน้า

จากนั้นกระท่อมไม้ก็ปรากฏต่อหน้าพวกเขา

“แสงจันทร์ถึงขั้นส่องเข้ามาได้!”

กู้หว่านเยว่แหงนหน้าอย่างตกตะลึง

มองโดมด้านบน เชื่อว่าฝนน้ำค้างแสงแดดก็ล้วนสามารถลอดผ่านรอยแยกเข้ามาได้

เฉินจิ่งเส้าพูดอย่างภาคภูมิใจ “ทางใต้ดินนี้เป็นข้าพบโดยบังเอิญ”

“หลังข้าเข้ามาแล้ว พบว่าพื้นที่ข้างใต้กว้างมาก ทิวทัศน์เองก็งดงาม สั่งให้คนปลูกดอกไม้แปลกหญ้าประหลาดไว้มากมาย

เขาชี้ไปที่ธารน้ำห่างออกไปไม่ไกล

“ธารน้ำนั้นเป็นข้าสั่งให้คนเปิดทางเข้ามา”

“พวกท่านวางใจได้ ที่แห่งนี้ลึก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 506

    อาการบาดเจ็บของกงซุนฉิงพูดว่าหนักกลับไม่หนัก พูดว่าไม่หนัก กลับต้องมีคนดูแล“เรื่องดูแลนางก็รบกวนคุณหนูสามแล้ว”กงซุนเสว่ปาดน้ำตา รีบเอ่ยตอบ “แน่นอนอยู่แล้ว น้องหญิงสี่ได้รับบาดเจ็บ พี่สาวอย่างข้าต้องดูแลนางดีๆ ฮูหยินมีอะไร โปรดสั่งมาก็พอ”จากนั้นกู้หว่านเยว่สำทับเรื่องที่ต้องระวังบางส่วน“บัดนี้สถานการณ์ภายนอกอันตรายมาก พวกท่านอย่าออกไปเลย ข้าสองสามีภรรยาจะไปสืบข่าว ช่วยตามหาคนสกุลกงซุนแทนพวกท่าน”กู้หว่านเยว่เอ่ยสำทับ นางไม่อยากให้คนที่ตนเองช่วยมาได้ต้องไปติดกับ“เสว่เอ๋อร์ ฟังพวกเขาเถอะ”เฉินจิ่งเส้าพยักหน้าลงอย่างอดไม่ได้ สองคนนี้วรยุทธ์สูง ฟังพวกเขาต้องไม่ผิดพลาดแน่“ได้ ข้าฟังพวกท่าน”กงซุนเสว่ไม่ฉลาดมากพอ แต่ยังเชื่อฟังเห็นสีหน้าทั้งสองคนอ่อนล้า นางรีบพูด“ข้างหลังกระท่อมไม้ยังมีอีกสองห้อง ข้าไปเก็บให้พวกท่านอยู่ พวกท่านพักผ่อนก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่รู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างจริงๆ ยืดเอวทีหนึ่ง“นำทางเถอะ”นางไม่พักผ่อน ลูกในท้องนางยังต้องพักผ่อนนอนหลับหนึ่งตื่น พรุ่งนี้ถึงจะมีสมาธิรับมือกับเรื่องมากมาย“ท่านพี่ ท่านว่าสตรีลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่”กู้หว่านเยว่นอนบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 507

    “ตัวไร้ประโยชน์ ไม่สมควรอยู่บนโลกนี้”ฝ่ายหญิงลงมืออย่างโหดเหี้ยม ฆ่าองครักษ์ทั้งหมดในคราวเดียว สามารถมองเห็นวรยุทธ์เข้าขั้นสูงได้ขณะเดียวกัน สีท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้วแสงอ่อนยามรุ่งอรุณสาดส่องทางทิศบูรพาองครักษ์ภายนอกวิ่งพรวดพราดเข้ามา“แย่แล้ว แย่แล้ว ใต้เท้าฉินเขา...”องครักษ์คุกเข่าต่อหน้าฝ่ายหญิง“นายหญิง หัวของใต้เท้าฉิน หัวของเขาถูกแขวนบนกำแพงเมืองขอรับ”เช้าวันนี้ทหารลาดตระเวนพบน้ำหยดลงบนหน้ายกมือขึ้นเช็ด ถึงขั้นพบว่าคือเลือดแหงนหน้าขึ้น ศีรษะของฉินทงถึงขั้นแขวนอยู่บนกำแพง ทำเสียจนทุกคนตกใจกรีดเสียงร้อง“เมื่อคืนหน่วยลาดตระเวนของพวกเราล้วนอยู่ข้างล่าง ถึงขั้นไม่รู้ว่าหัวของใต้เท้าแขวนอยู่ข้างบน”สีหน้าเทียนอวี๋ไม่สบอารมณ์มากยามเพิ่งพบห้องลับ นางอยากฆ่าฉินทงจริงนั่นล่ะทว่านี่มิได้หมายความว่านางอยากให้ฉินทงตายในมือของผู้อื่น“สามารถแขวนหัวของฉินทงไว้บนกำแพงเมืองได้ วรยุทธ์จะต้องสูงมากแน่”เทียนอวี๋ขมวดคิ้วแน่น ใคร่ครวญภายในใจการรับกลิ่นของนักรบหมาป่าอ่อนไหวมาก เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถผ่านพวกมัน เหินบินขึ้นกำแพงเมืองได้นับประสาอะไรกับแขวนศีรษะเพียงพอให้มอง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 508

    “อืม เช่นนั้นข้าไปก่อนแล้ว”ซูจิ่งสิงลูบมือน้อยของกู้หว่านเยว่ ลุกขึ้นจากไปเขาทักทายปราศรัยเฉินจิ่งเส้าก่อนถึงเริ่มเคลื่อนไหวพวกเฉินจิ่งเส้ารู้ว่ากงซุนจางเย่มาถึงหลินซีโข่วแล้ว แต่ละคนตื่นเต้นมาก“น้องเจ็ดบาดเจ็บสาหัส ยังเดินทางไกลมาอย่างยากลำบาก หวังว่าเขาจะไม่เป็นไร” กงซุนเสว่ถอนหายใจ“เจ้าเด็กตัวเหม็นคนนี้ เฮ้อ”“น้องเจ็ดโตแล้ว” สายตากงซุนฉิงกลับทอประกาย “ไม่ใช่เด็กเหมือนในอดีตอีก รู้จักมีความรับผิดชอบแล้ว”เพียงแต่ราคาสำหรับการเติบโตเจ็บปวดอยู่บ้างนึกถึงความตายของบิดาและพี่สาวทั้งสอง สีหน้าทั้งคู่เกร็งเครียด“เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเราเจ็บปวดไปก็ไร้ประโยชน์”กงซุนฉิงเอ่ยปากเสียงเย็น “บัดนี้สำคัญที่สุดก็คือหาคนที่เหลืออยู่ พี่น้องหญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ แย่งซีเป่ยกลับคืนมา ล้างแค้นให้คนในครอบครัว”กงซุนเสว่ไม่มีความเห็นอื่น ได้ยินก็พยักหน้า“น้องหญิงสี่พูดถูก”ทั้งสองเงยหน้าขึ้น มองกู้หว่านเยว่ที่กำลังเตรียมยาสมุนไพรนอกเรือน ครรภ์กลมมาก สีหน้าผ่อนคลายกงซุนฉิงรู้สึกคุ้นตากับภาพนี้อย่างกะทันหัน“น้องหญิงสี่ เจ้ายังจำภาพวาดนั้นในหอบรรพบุรุษของพวกเราได้หรือไม่?”“ท่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 509

    เฉินจิ่งเส้าตื่นเต้น รีบลุกขึ้น “ข้าไปรับ”ทางเข้ามีกลไกมากมาย เขาต้องไปนำทาง“ข้าเองก็ไปด้วย” กงซุนเสว่รีบเอ่ยปาก“เฮ้อ ข้าไม่มีแรงเดิน ไม่ไปแล้ว”กงซุนฉิงมองพวกเขาจากไปตาละห้อย นางเองก็อยากไป น่าเสียดายร่างกายไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย“มาถึงทางเข้าแล้ว ไม่มีวันเกิดเรื่อง”กู้หว่านเยว่เอ่ยปลอบ “พวกเรารออยู่ที่นี่เถอะ”“แม่นางกู้พูดถูกแล้ว” กงซุนฉิงพยักหน้า สายตากลับยังทอดมองไปภายนอกอย่างสุดระงับ“เหตุใดยังไม่มา?”เวลาหนึ่งถ้วยชาเพิ่งผ่านไป นางก็ร้อนใจขึ้นมาแล้ว“นี่ทรมานเกินไปแล้ว”“น้องหญิงสี่ พวกเขามาแล้ว!” กงซุนเสว่วิ่งกลับเข้ามาก่อนก็มองเห็นเฉิงจิ่งเส้าแบกกงซุนจ่างเย่เข้ามา ข้างหลังยังมีหมิงจู เมิ่งเหยียนและลั่วยางเหล่านั้น“น้องหญิง”ซูจิ่งสิงเดินมาหยุดข้างกายกู้หว่านเยว่ นิ้วมือแตะท้องของนางเบาๆ“ข้ากลับมาแล้ว”“กลับมาก็ดีแล้ว”เห็นฝ่ายชายปลอดภัยดี กู้หว่านเยว่ถอนหายใจโล่งอกนางเองก็ไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไรไป ทั้งๆ ที่รู้ว่าวรยุทธ์ของซูจิ่งสิงแข็งแกร่ง ยังกังวลอย่างอดไม่ได้“น้องเจ็ด! ตาของเจ้า เหตุใดกลายเป็นเช่นนี้?”กงซุนฉิงเห็นดวงตาของกงซุนจ่างเย่ถูกผ้าพันไว้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 510

    ชายคนนี้ลำบากอยู่ภายนอกมาหนึ่งวันแล้ว แม้ไม่พูด แต่ต้องเหนื่อยมากแน่กู้หว่านเยว่ไฉนเลยจะใช้งานอีกฝ่ายได้ คิดเพียงให้เขาไปพักผ่อนดีๆ“ไม่เป็นไร”ซูจิ่งสิงพูดหนึ่งประโยคก็ค้อมเอวจุดไฟให้นางกู้หว่านเยว่เห็นเหตุการณ์แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกทั้งสองคนช่วยกัน อาหารก็ทำเสร็จอย่างว่องไวทางด้านนั้น กงซุนจ่างเย่และพี่สาวทั้งสองเองก็ระบายอารมณ์เสร็จดีแล้วต่างฝ่ายต่างบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระยะนี้ออกมาหนึ่งรอบได้ยินกู้หว่านเยว่เรียกไปกินข้าว กงซุนเสว่รีบไปช่วยเหลือผ่านไปครู่หนึ่ง สองสามคนก็นั่งล้อมวงบนโต๊ะไม้ฝีมือกู้หว่านเยว่ไม่เลว อาหารก็ทำได้เลิศรสทุกคนได้มีเวลาผ่อนคลายอย่างหาได้ยากหลังกินข้าวอิ่มแล้ว กู้หว่านเยว่เช็ดปาก “มีแผนที่หมู่บ้านโซ่วหวางหรือไม่? ให้พวกเราพิจารณาสักเล็กน้อย”ความคิดของกู้หว่านเยว่คือหมู่บ้านโซ่วหวางใหญ่เพียงนั้นจะต้องมีกลไกและเส้นทางลับอย่างแน่นอนหากสามารถถือแผนที่ไว้ในมือได้ ทำเรื่องใดก็สะดวกมากนางคือผู้ช่วยชีวิตคนสกุลกงซุน สองสามคนย่อมไม่ปฏิเสธกงซุนเสว่รีบเอ่ยปาก “ข้าไม่มีแผนที่ติดตัว แต่ข้าสามารถวาดออกมาให้ท่านได้หนึ่งแผ่น”นางคำนวณเวลา “

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 511

    “แผนที่นี้ข้ารับไว้แล้ว ขอบคุณคุณหนูสาม”กู้หว่านเยว่กอดแผนที่ไว้ในอ้อมแขนกงซุนเสว่ได้ยินก็ยิ้มอย่างขมขื่น “คำนี้ ทำข้าไม่พอใจแล้ว”“ท่านทั้งสองเป็นผู้กอบกู้ตระกูลกงซุน หากจะขอบคุณ ก็ควรเป็นพวกเราที่ขอบคุณ”“ถ้าเช่นนั้น พวกเราก็ขอตัวก่อนแล้ว”กู้หว่านเยว่คำนึงถึงเวลา จึงหยุดสนทนากับกงซุนเสว่ กล่าวคำอำลาอีกครั้ง“พวกท่านต้องระวังให้มาก” กงซุนเสว่พูดอย่างรวดเร็ว“วางใจเถอะ พวกเรารู้ว่าอะไรเหมาะสม”กงซุนเสว่อยากพูดอีกสักหน่อย แต่เมื่อเห็นว่าทั้งสองมั่นใจอย่างยิ่ง ทั้งยังรู้ว่ากู้หว่านเยว่มากความสามารถ นางจะไม่พูดอะไรออกไปอีกกู้หว่านเยว่ไม่ชักช้ารีรอ เมื่อได้แผนที่มาแล้วก็รีบเดินไปทางซูจิ่งสิงทันที“เสว่เอ๋อร์ เจ้าบอกเรื่องหมู่บ้านโซว่หวางไปหมดเช่นนั้น ไม่กลัวหรือ?...”เฉินจิ่งเส้ากังวลเล็กน้อยบนแผนที่ มีบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความลับของตระกูลกงซุนกงซุนเสว่ดูเฉยเมย “ตอนนี้ตระกูลกงซุนถึงจุดวิกฤตแล้ว ยังจะสนใจเรื่องพวกนี้อีกทำไม?”“อีกอย่าง ข้าเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนดี”สัญชาตญาณบอกนางว่า กู้หว่านเยว่เป็นคนที่นางไว้ใจได้เฉินจิ่งเส้าแค่อยากเตือน สำหรับหมู่บ้านโซว่หวางที่ใหญ่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 512

    มีเพียงหมู่บ้านโซ่วหวางเท่านั้นที่สืบทอดมายาวนาน ได้ยินมาว่าหมู่บ้านนี้สร้างขึ้นที่นี่ ตั้งรกรากมาหลายร้อยปีแล้ว”“ถึงแม้จะเก่า แต่ก็ไม่ได้ทรุดโทรม เห็นได้ถึงความยิ่งใหญ่”กู้หว่านเยว่เดาะลิ้นเบาๆเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ดึงดูดองครักษ์ ทั้งสองไม่กล้าพูดอะไรกันมากมาย หลังจากเข้าไปได้แล้ว พวกเขาก็ตามหาที่ที่ปลอดภัยแล้วซ่อนตัวเอาไว้ก่อน“หมู่บ้านโซ่วหวังใหญ่โตมโหฬาร หากคิดจะรวบเก็บสัตว์ร้ายทั้งหมดในครั้งเดียว คงตายเหนื่อยตายก่อน ไม่รู้ลองหาจากสถานที่ที่สำคัญสักสองสามที่ดูก่อน”กู้หว่านเยว่แนะนำซูจิ่งสิงเองก็คิดเช่นนี้ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม “พวกเราไปที่คุกใต้ดินกันก่อน”“ไปกันเถอะ” หลังจากหาทางไปคุกใต้ดินพบแล้ว กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงเคลื่อนย้ายไปที่นั่นทันทีภายในคุกใต้ดินมีองครักษ์ไม่มากนัก กู้หว่านเยว่หยิบยาผงจำนวนหนึ่งออกมา คิดจะทำให้เหล่าองครักษ์หมดสติ จากนั้นจึงถอดเสื้อผ้าของพวกเขา แล้วค้นหาในพื้นที่ทั่วบริเวณแต่สิ่งที่ทำให้นางผิดหวังก็คือ คุกใต้ดินนี้ล้วนเป็นทาสจากอดีตหมู่บ้านโซ่วหวาง ไม่มีคุณหนูจากตระกูลกงซุนเลย“เดี๋ยวนะ”ในขณะที่ทั้งสองกำลังจะจากไป กู้หว่านเยว่ก็เหลือบไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 513

    เจียงหลินหันศีรษะไปมองแล้วพูดว่า “ร่างกายนี้ต่ำต้อย ไม่รบกวนให้พระชายาหนานหยางอ๋องมากังวล”เขาหัวเราะหยัน ก่อนจะนั่งลงบนพื้นโดยไม่สนใจบาดแผลตามร่างกาย“เจ้านี่มัน ดื้อรั้นจริงๆ”กู้หว่านเยว่ไม่มีความอดทนมากนัก อาศัยจังหวะที่เจียงหลินไม่ทันระวัง ใช้สันดาปสับคอ ทำให้อีกฝ่ายหมดสติทันที“เจ้า……”เจียงหลินไม่คิดเลยว่า ทั้งคู่จะลงมือเฉียบพลันเช่นนี้ ร่างกายล้มลงกับพื้นในทันทีกู้หว่านเยว่หยิบเข็มเงินออกมา แทงเข้าร่างกายของเจียงหลินเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ตื่นขึ้นมากลางทางจากนั้น นางโบกมือเบาๆ พาคนคนนี้เข้าไปในพื้นที่มิติทันทีเดิมที กู้หว่านเยว่วางแผนที่จะเดินทางกลับเลย แต่เมื่อคิดได้ว่าทาสทั้งหมดในคุกใต้ดินนี้ ล้วนเป็นทาสของหมู่บ้านโซ่วหวางหากคนที่อยู่เบื้องหลังได้รู้ว่าเจียงหลินถูกช่วยออกไปแล้ว อาจสงสัยว่าทาสเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องหลังจากคิดเรื่องนี้แล้ว นางก็โปรยยาพิษกำมือหนึ่ง ทำให้ทาสทั้งหมดหมดสติไปทันทีจากนั้น ก็พาพวกเขาไปรวมกันในพื้นที่มิติอีกครั้ง“ยานี้มีฤทธิ์เพียงหนึ่งวัน พวกเรารีบตามหาเบาะแสของคุณหนูห้ากับคุณหนูหกกันเถอะเจ้าค่ะ”ทาสเหล่านี้รวมกันแล้วอย่างน้อยก็มี

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1180

    ปรากฏว่าทันทีที่ทั้งสองคนมาถึงชั้นสอง ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาของเหยลวี่หมิงดังขยายออกมาจากในห้องทั้งสองคน ‘ยิ่งเกลียดยิ่งเจอจริง ๆ สินะ’ครั้นเสี่ยวเอ้อร์เห็นสองคนมีท่าทีแข็งทื่อ ก็รีบกล่าวขึ้นมา “มิต้องแปลกใจขอรับ คนที่อยู่ห้องตรงข้ามกำลังจัดกระดูก อาจารย์ด้านกระดูกกำลังจัดกระดูกให้เขา เสียงร้องจึงดังไปสักหน่อย หากท่านทั้งสองไม่สบายใจ ข้าเปลี่ยนห้องให้พวกท่านได้ขอรับ”“ไม่ต้อง”อยู่ในโรงเตี๊ยมเดียวกับเหยลวี่หมิง นับว่าโชคร้ายไปสักหน่อยแต่ครั้นกู้หว่านเยว่ได้คิดไตร่ตรองแล้ว พวกเขาสามารถเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของเหยลวี่หมิงได้ตลอดเวลา หากมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล พวกเขาจะได้ไหวตัวทันในทันที นับว่าเป็นเรื่องที่ดีอีกอย่างไม่แน่ว่าทั้งสองคนอาจจะได้ยินข่าวคราวของซูจิ่นเอ๋อร์จากปากของเหยลวี่หมิงก็ได้“ไม่ต้องวุ่นวาย เราพักในห้องนี้ได้”สองสามีภรรยาส่งสายตากันและกันจนเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย ซูจิ่งสิงโบกมือเล็กน้อยส่งให้เด็กในโรงเตี๊ยมออกไปหลังจากที่กู้หว่านเยว่เข้ามาในห้องก็ทำการสำรวจหนึ่งรอบ จึงได้เห็นเสี่ยวถ่านที่เดินตามเข้ามา“ข้าเปิดไว้สองห้อง เจ้าไปพักห้องที่อยู่ถัดไป

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1179

    “ไม่ต้องร้อนใจ เรายังต้องพักในเมืองชิงซานหนึ่งคืน ยังมีเวลา”หลังจากที่ทหารที่ด้านนอกทยอยกันจากไป กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงออกจากห้วงมิติทั้งสองคนลอยตัวไปยังร้านขายเสื้อผ้า เวลานี้เสี่ยวถ่านกำลังเลือกเสื้อผ้าชุดใหม่อยู่พอดี เขารอกู้หว่านเยว่มาจ่ายเงินอย่างกระวนกระวายใจเขากลัวว่ากู้หว่านเยว่จะทิ้งเขาไว้ที่นี่ แล้วจากไปเพราะความกังวลมากเกินไป แม้แต่กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงที่ปลอมตัวเดินมาถึงหน้าเขา ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง“นี่!”กู้หว่านเยว่ตบศีรษะของเสี่ยวถ่าน “มัวอึ้งอะไร ยังเลือกเสื้อผ้าไม่ได้หรือ?”“พี่หญิงกู้?”เสี่ยวถ่านจำเสียงของนางได้ ครั้นเห็นทั้งสองคนแต่งกายต่างจากก่อนหน้านั้น แม้แต่ใบหน้าก็เปลี่ยนไป จึงอดตื่นตกใจไม่ได้“พวก...พวกท่าน?”“เราสองคนเจอกับปัญหาเล็กน้อย จึงต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า”กู้หว่านเยว่ไม่ได้ปิดบัง ต่อไปเสี่ยวถ่านต้องติดตามพวกเขาไป บอกเขาไว้จะสะดวกมากกว่าในขณะเดียวกัน นางก็แอบตัดสินใจอยู่เงียบ ๆ หากเสี่ยวถ่านกล้าหักหลังนาง นางสามารถโยนเขากลับเข้าไปในกลุ่มทาสอีกครั้งได้อย่างไม่ปรานี“เช่นนั้นเรารีบออกไปจากตลาดกันเถอะ”เสี่ยวถ่านไม่ได้มีความค

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1178

    “อ๊าก เจ็บ เจ็บยิ่งนัก”เหยลวี่หมิงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาคล้ายกับหมูโดนเชือด สีหน้าบิดเบี้ยวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ในขณะเดียวกันนัยน์ตาก็ได้ฉายแววตื่นตระหนกอย่างรุนแรง เขาคาดไม่ถึงว่าบุรุษหน้าตาขี้เหร่ผู้นี้จะมีวิทยายุทธ์ อีกทั้งวิทยายุทธ์ยังสูงมากอีกด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ได้โดดเด่นเหมือนพี่ใหญ่ แต่ก็เหนือชั้นกว่าคนทั่วไป“พวกเจ้ามัวอึ้งทำไม? รีบเข้ามาช่วยข้าสิ”เหยลวี่หมิงช่างไร้ยางอายยิ่งนัก หลังจากพบว่าตัวเองสู้บุรุษผู้นั้นไม่ได้ จึงรีบออกคำสั่งขอกำลังเสริมทันทีครั้นเห็นทหารม้าทั้งสองฝ่ายกำลังจะต่อสู้กัน กลุ่มคนที่มุงดูเรื่องชาวบ้านก็พากันถอยออก และล้อมเอาไว้เป็นวงกว้าง คอยมุงดูอยู่ไกล ๆ ไม่กล้าเข้ามาใกล้“เจ้ากล้าลงมือกับข้า ตายเสียเถอะ”นัยน์ตาของเหยลวี่หมิงฉายแววโหดร้าย พี่ใหญ่ปวดใจกับเขามาโดยตลอด คนรับใช้ข้างกายของเขาก็คือองครักษ์ลับข้างกายพี่ใหญ่คนเหล่านี้ต่างก็มีฝีมือไม่เป็นสองรองใคร โดยปกติแล้วจะไม่ลงมือง่าย ๆ หากลงมือแล้วพวกเขาจะเล่นกันถึงตายบุรุษผู้นี้จะต้องตายสถานเดียว!นัยน์ตาของเขาฉายแววโหดเหี้ยม วินาทีต่อมาก็ต้องตกตะลึงอย่างมากคนรับใช้เหล่านั้นยังไม่ทันได้เข้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1177

    “พวกเจ้าว่าชายหญิงคู่นั้นเป็นใครกัน?”“ไม่รู้สิ”ทุกคนพากันรวมตัว ทยอยกันคาดเดาไปต่าง ๆ นานา ส่วนใหญ่ล้วนแต่ฟังมาจากข่าวลือที่ไม่มีมูลในเวลานี้ เสียงอันภาคภูมิใจเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้น“ข้ารู้ว่าชายหญิงคู่นั้นเป็นใคร ชายหญิงคู่นั้นคือเจิ้นเป่ยอ๋องและพระชายาเจิ้นเป่ย”ทุกคนมองไปตามเสียง กระทั่งเห็นบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาภายใต้การรายล้อมของคนรับใช้ครั้นเห็นเสื้อผ้าอันหรูหราของอีกฝ่าย คนในฝูงชนก็ตอบสนองในทันที“นี่คงไม่ใช่น้องชายของท่านแม่ทัพเหยลวี่เจิง เหยลวี่หมิงหรอกนะ? คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเจอเขาที่นี่ ว่าแต่เจิ้นเป่ยอ๋องและพระชายาเจิ้นเป่ยที่เขาเอ่ยถึงเป็นใครกันแน่?”เสียงกระซิบกระซาบในกลุ่มดังขึ้น เนื่องจากเหยลวี่เจิงนั้นมีอำนาจเหนือกว่าทูเจวี๋ย ดังนั้นในตอนที่ทุกคนเห็นเหยลวี่หมิง ทุกคนก็อดแสดงสีหน้าหวาดกลัวไม่ได้“เหอะ ๆ ก็แค่คนน่ารังเกียจสองคนเท่านั้น”สีหน้าของเหยลวี่หมิงฉายแววโหดเหี้ยม เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่อย่างมากไม่แปลกใจเลย เขาเป็นน้องชายของเหยลวี่เจิง จะชอบซูจิ่งสิงได้อย่างไร?“แต่ท่านรู้ได้อย่างไรว่าสองคนนั้นคือเจิ้นเป่ยอ๋องและพระชายาเจิ้น

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1176

    “คนในครอบครัวของเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ?”กู้หว่านเยว่ปวดใจกับเด็กคนนี้มาก จึงยื่นขนมอีกชิ้นให้เขา“ทุกคนตายหมดแล้วขอรับ เหลือเพียงข้าผู้เดียว”ครั้นนึกถึงเรื่องเสียใจ เสี่ยวถ่านก็มักจะก้มหน้าลง จากนั้นหยดน้ำตาก็ได้หลั่งรินออกมาจากดวงตาของเขาเขาคิดถึงท่านแม่“เอาละ หยุดร้องได้แล้ว แม้ว่าคนในครอบครัวของเจ้าจะตายกันหมดแล้ว แต่เจ้าก็ต้องใช้ชีวิตให้ดี”กู้หว่านเยว่ตักน้ำแกงไก่ให้เขา นางมักจะรู้สึกว่าสถานะของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดากิริยามารยาของเขาดูไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา จู่ ๆ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว“ประตูเมืองเปิดแล้ว!”ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้นเสียงตะโกนระลอกหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอก จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นขึ้นในฝูงชนที่ล้อมรอบ ทุกคนต่างทยอยกันเข้ามารวมตัวกันหน้าประตูเมือง“น้องหญิง เราเองก็เข้าเมืองกันเถอะ”ซูจิ่งสิงเปิดผ้าม่าน ก่อนจะกล่าวทักทายกู้หว่านเยว่ ไหน ๆก็จะเข้าเมืองแล้ว พวกเขาคงนั่งอยู่บนรถม้าไม่ได้อีก ต้องลงจากรถม้ามาตรวจสอบถึงจะถูก “เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่คว้ามือของเสี่ยวถ่านลงมาจากรถม้า และเดินมาต่อแถวอยู่ด้านหลังของกล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1175

    ไม่สู้สละตัวปัญหานี้ออกไปโดยเร็ว เขาจึงเริ่มร้อนใจ“เอาอย่างไร ข้าเสนอให้เจ้ายี่สิบตำลึง ตกลงเจ้าจะเอาหรือไม่เอา?”“ข้าเอา”ซูจิ่งสิงรับเงินมาจากมือของกู้หว่านเยว่ หลังจากนับจนครบยี่สิบตำลึงแล้วก็โยนให้บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นรับเงินไปด้วยความดีใจ เขาทำการตรวจสอบครู่หนึ่งจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว ก็ไม่ได้สนใจทาสตัวน้อยนั้นอีก สะบัดก้นเดินจากไปทันที“ขอบคุณพวกท่านมาก” ทาสตัวน้อยมองไปทางซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง แต่นัยน์ตายังคงหวาดกลัวลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่าซูจิ่งสิงอันตรายมาก เขาไม่กล้าเข้าใกล้ซูจิ่งสิงเลยแม้แต่น้อย“เจ้าขึ้นรถม้าเถอะ”กู้หว่านเยว่กวักมือเรียกทาสตัวน้อย สองวันมานี้เวลาว่างนางก็มักจะเรียนรู้ภาษาของชาวทูเจวี๋ยจากซูจิ่งสิงอยู่เสมอ แม้ว่าจะยังออกเสียงได้เล็กน้อย แต่พอถูไถได้ไม่มีปัญหาทาสตัวน้อยเกิดความลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ยังปีนขึ้นรถม้า เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยความประหลาดใจ“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ใช่คนชั่ว”กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นทำไม บางทีอาจเพราะเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากทาสตัวน้อยผู้นั้น จึงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองก่อนหน้านั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1174

    นางรีบลืมตา ก็พบว่าพวกเขามาถึงคูเมืองแห่งหนึ่งแล้ว เมืองชิงซานประตูเมืองของเมืองชิงซานจะเปิดในเวลาแปดโมงเช้า ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ ดังนั้นซูจิ่งสิงจึงจอดรถม้าอยู่หน้าประตูเมืองชั่วคราวแต่เวลานี้บริเวณประตูเมืองชิงซาน ยังมีคนที่เดินทางมาถึงเช้าตรู่เหมือนกับพวกเขาอีกเป็นจำนวนมาก กำลังพักผ่อนอยู่บนพื้นที่โล่งรอบ ๆ หน้าประตู เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ดังมาจากด้านหลังของรถม้าพวกเขา กู้หว่านเยว่เบนสายตามองตาม กระทั่งเห็นเด็กน้อยหน้าตามอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิงคนหนึ่ง เกาะล้อรถของนางไม่ยอมปล่อย แต่ด้านหลังของเขา มีบุรุษวัยกลางคนฟาดเขาด้วยแส้อย่างโหดเหี้ยม“เกิดอะไรขึ้น?”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เมื่อครู่นางอยู่แต่ในห้วงมิติตลอด จึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้านนอก“เด็กหนุ่มผู้นี้วิ่งลงมาจากรถม้าของบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น”ซูจิ่งสิงมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระซิบข้างหูของนางเบา ๆ“ท่าทางจะเป็นทาสที่ซื้อตัวมา คงอยากหนี”“ได้โปรดพวกท่าน ช่วยข้าด้วย”ครั้นทาสตัวน้อยเห็นกู้หว่านเยว่ชะโงกหน้าออกมา จึงมองนางด้วยความตกใจ แต่นัยน์ตาแฝงไปด้วยการอ้อนวอนเดิมทีกู้หว่านเยว่ไม่อยากเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1173

    เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า รูม่านตาของเจ้าเมืองแห่งเมืองสือโม่เบิกกว้าง พลางส่งเสียงกรีดร้องคล้ายกับสตรีชั้นสูงที่กำลังถูกกระทำชำเราอย่างไรอย่างนั้น“รนหาที่ตายแท้ ๆ บุรุษและสตรีคู่นี้เป็นผู้ใดกัน?!”“เจ้าเมือง บัดนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”ทหารที่ดูโง่เขลาบางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว เพียงครู่เดียว จวนของเจ้าเมืองก็ถูกกู้หว่านเยว่ถล่มจนไม่เหลือชิ้นดีทั้งเมืองสือโม่ตกอยู่ในความโกลาหลยิ่งกว่าเดิม!ซึ่งพอจะจินตนาการได้ว่าเรื่องของเมืองสือโม่ที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะต้องแพร่กระจายไปทั่วเมืองทูเจวี๋ยอย่างแน่นอน ไม่สิ อาจจะแพร่กระจายไปยังฝั่งของต้าฉีด้วย“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าควรทำอย่างไร รีบจับพวกเขาให้ได้ก่อนเถอะ!”เจ้าเมืองโกรธที่ตัวเองไร้ความสามารถ ส่วนทหารคนอื่นได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาไม่มีปีก ดังนั้นจึงทำได้แค่มองนกหงส์เพลิงบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ “จูเชวี่ย เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่มองไปยังเสบียงอาหารที่ถูกปล้นมาไว้ในห้วงมิติ ก่อนจะคลี่ยิ้มตาหยี นางลูบหัวของจูเชวี่ยเบา ๆ และออกคำสั่งให้จูเชวี่ยเร่งความเร็ว จากนั้นก็บินออกจากเมืองสือโม่ไปเจ้าเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status