แชร์

บทที่ 488

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
จี้ฮั่นโม่หายใจถี่ “หนังสือเล่มนี้มาจากที่ใด?”

“ใต้เท้าจี้แค่บอกว่าอยากจะรับงานนี้หรือไม่”

ระหว่างทาง ทั้งสองคนได้พูดคุยเกี่ยวกับความสามารถของจี้ฮั่นโม่ ซูจิ่งสิงค่อนข้างเห็นด้วย

ดังนั้น กู้หว่านเยว่จึงกล้ามอบหมายเรื่องนี้ให้เขา

ในขณะเดียวกัน ก็เพราะกู้หว่านเยว่อยากจะขี้เกียจบ้าง ถ้าทำเองทุกอย่าง นางจะไม่เหนื่อยตายหรอกหรือ

ยิ่งถึงช่วงหลัง ๆ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการลูกน้อง

“อยาก ข้าอยากรับแน่นอน!”

จี้ฮั่นโม่ก็มีความมุ่งมั่นเช่นกัน

“แต่ว่า ภรรยาและลูกของข้า...”

จี้ฮั่นโม่รู้สึกละอายใจเล็กน้อย

ตอนนี้เขาไม่มีเบี้ยหวัดแล้ว เงินที่พกมาตอนหลบหนีก็ใช้ไปจนเกือบหมด

กู้หว่านเยว่มองเห็นถึงความลำบากของเขา จึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะจ่ายเงินเดือนให้ท่าน

ถ้าท่านกังวลว่าภรรยาและลูกของท่านจะไม่มีใครดูแล ก็จ้างคนรับใช้ให้พวกเขา”

“นี่ จริงหรือ?”

จี้ฮั่นโม่ดีใจอย่างยิ่ง

สิ่งเดียวที่เขากังวลก็คือเรื่องนี้ กู้หว่านเยว่ก็นึกถึงเช่นกัน เขาจึงไม่ลังเลอีกต่อไป

“เรื่องนี้ มอบหมายให้ข้า ข้าจะทำให้ดีที่สุด!”

ทั้งสองคนคุยกันเรื่องเงินเดือนอีกสักหน่อย กู้หว่านเย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 489

    “แม้แต่แขนของข้า ก็ถูกพวกเขาฟันขาดความแค้นอันใหญ่หลวงนี้ ข้าจะไม่มีวันลืม!”ดวงตาของมู่หรงอวี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ราวกับปีศาจที่ปีนขึ้นมาจากนรกหลังจากที่หนีออกมาจากภูเขาหิมะ เขาก็ไม่กล้าหยุดพักแม้แต่วินาทีเดียวหนีออกมาจากเจดีย์หนิงกู่เหมือนหมาจรจัด กลัวว่าจะถูกกู้หว่านเยว่ไล่ตามทันเมื่อนึกถึงการหลบซ่อนตัวตลอดในสองวันนี้ มู่หรงอวี้ก็รู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก“ท่านอ๋อง ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี?” ลูกน้องหลายคนมองด้วยความความเศร้าโศกพี่น้องมากมาย เหลือเพียงแค่พวกเขา“ไปที่หมู่บ้านโซว่หวาง”มู่หรงอวี้ยิ้มเยาะ “ข้าจะรอพวกเขาที่หมู่บ้านโซว่หวาง แล้วจัดการพวกเขาให้หมดในคราวเดียว!”คิดว่าตัดแขนเขาไปข้างหนึ่ง แล้วเขาจะเป็นง่อยแล้วหรือ?เขายังมีไพ่ตายใบสุดท้าย!มู่หรงอวี้พาลูกน้องขี่ม้าออกไป โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีคนชุดดำคนหนึ่งแอบสะกดรอยตามเขาอยู่ข้างหลัง“...”“กงซุนจ่างเย่ใกล้ฟื้นแล้ว”สองวันมานี้ กู้หว่านเยว่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวอยู่ในหอแห่งโอสถมาตลอดหลังจากที่พบว่ากงซุนจ่างเย่ใกล้ฟื้นแล้ว ก็รีบย้ายเขากลับมาภายในห้องในขณะเดียวกัน ก็ดึงเข็มทั้งหมดออกจากตัวเขาด้วย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 490

    ความคิดของกู้หว่านเยว่ล่องลอยไปไกลนางสนใจนกวิเศษที่หนานหยางอ๋องพูดถึงมาก ในโลกนี้มีนกวิเศษอย่างนกหงส์เพลิงจริง ๆ หรือ? ถ้านกหงส์เพลิงมีอยู่จริง ใครได้มันไปก็คงสามารถบัญชาสรรพสัตว์ กลายเป็นราชาแห่งสรรพสัตว์จริง ๆ สินะ?กู้หว่านเยว่ตั้งสติ ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นแค่ข่าวลือ ภารกิจหลักตอนนี้คือไปที่เขตซีเป่ยเพื่อขัดขวางแผนการของฮ่องเต้ชั่วกู้หว่านเยว่คำนวณวันเวลาครู่หนึ่ง ตอนนี้ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องที่หมู่บ้านโซว่หวางยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร โอกาสรอดชีวิตของคนในหมู่บ้านโซว่หวางก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้นนางจึงเอ่ยขึ้นว่า “เรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้ ข้าไม่คิดจะรออีกแล้ว คืนนี้กลับไปเก็บของ พรุ่งนี้ไปที่หมู่บ้านโซว่หวางกันเถอะ”“ให้ข้าไปด้วย” กงซุนจ่างเย่ขอร้อง “ข้าจะไม่เป็นภาระให้พวกท่าน”ตั้งแต่เด็กจนโต เขาเป็นลูกชายคนเล็กที่ได้รับความรักมากที่สุดในครอบครัวครั้งนี้ เขาจะเป็นผู้แบกรับความรุ่งเรืองและความตกต่ำของหมู่บ้านโซว่หวางเขาต้องกลับไปช่วยท่านพ่อและพวกพี่สาวด้วยตัวเอง“ได้”กู้หว่านเยว่พยักหน้า“เจ้าเดินไม่ได้ แต่สามารถนั่งรถม้าได้ ถึงตอนนั้นพวกเราจะแยกกันไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 491

    “เคลื่อนพลผู้พิทักษ์แห่งจันทรา มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านโซว่หวาง”ผู้พิทักษ์แห่งจันทราเป็นองครักษ์ลับที่ซูจิ่งสิงสร้างให้กู้หว่านเยว่เป็นการส่วนตัวออกเดินทางไปยังหมู่บ้านโซว่หวางครั้งนี้ เขาไม่อยากเห็นกู้หว่านเยว่ได้รับอันตรายใด ๆดังนั้นจึงตัดสินใจออกคำสั่งผู้พิทักษ์แห่งจันทราล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย“นายท่านโปรดวางใจ พวกข้าจะคุ้มครองฮูหยินอย่างเต็มที่”คนสิบกว่าคนที่นำโดยชิงเหลียนคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพหลังจากจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว ซูจิ่งสิงก็กลับไปที่เตียง กอดกู้หว่านเยว่ไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะผล็อยหลับไปเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากทั้งสองรับประทานอาหารที่นางหยางทำให้เรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือทันทีเนื่องจากกงซุนจ่างเย่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมิ่งเหยียนก็เพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน ไม่ควรเร่งการเดินทางทั้งวันทั้งคืนดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจแบ่งกองกำลังออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มหนึ่งมีหมิงจูพร้อมด้วยกงซุนจ่างเย่และเมิ่งเหยียน โดยมีลั่วหยางคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ นั่งรถม้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีกกลุ่มหนึ่ง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงออกเดินทางตามลำพัง เพื่อไปให้ถึงโ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 492

    “น้องหญิง พวกเราบินอยู่บนท้องฟ้า หากมีคนเห็นเข้า จะไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประหลาดหรือ”หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ซูจิ่งสิงก็ถามด้วยความกังวลกู้หว่านเยว่หัวเราะขึ้นมาทันที “อย่ากังวล พวกเรากำลังบินสูงมาก ผู้คนบนพื้นดินจะมองเห็นเพียงจุดสีดำเล็ก ๆ ลอยผ่านไป อีกอย่างเมื่อคืนนี้ข้าได้วางแผนเส้นทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว”เส้นทางนี้จะไม่ผ่านเมือง แต่ตรงไปยังเขตภูเขาที่มีประชากรเบาบางโดยเฉพาะเช่นนี้จะขจัดความเป็นไปได้ที่จะถูกผู้คนสังเกตเห็นไปโดยปริยาย“แผนที่อยู่ตรงกลางระหว่างเรา ท่านลองเปิดมันดูสิ”ซูจิ่งสิงได้ยินเช่นนี้ก็หยิบแผนที่ขึ้นมา สังเกตดูสักครู่ก็พบว่า เส้นทางนี้ของกู้หว่านเยว่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบบ้านเรือนผู้คนเขาวางแผนที่ลง เมื่อมองลงไปก็เห็นภูเขาแม่น้ำและมหาสมุทรอยู่ใต้ฝ่าเท้า เพียงชั่วขณะหนึ่งภายในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างไร้ขอบเขต“น้องหญิง เจ้าสอนข้าขับเฮลิคอปเตอร์ได้ไหม? เวลาเจ้าเหนื่อย ข้าจะได้ทำแทนเจ้าได้”ซูจิ่งสิงไม่คุ้นเคยกับการนั่งที่นั่งผู้โดยสารโดยที่ไม่ทำอะไรเลย“ไม่ต้องรีบร้อน ต่อไปยังมีเวลาอีกมาก”ทั้งสองทำเหมือนไม่ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 493

    เนื่องจากภัยตั๊กแตนนั้นรุนแรงเหลือเกิน ตั๊กแตนฝูงใหญ่บินเข้ามา ถึงขั้นโจมตีมนุษย์ทั้งสองต้องหาที่หลบภัยในหมู่บ้านก่อน“ภัยตั๊กแตนครั้งนี้ร้ายแรงมาก มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?” กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วบาง ๆจิตสำนึกเข้าสู่มิติทันที เปิดภาพกลุ่มเมฆดู“เราขับมาทั้งคืน ที่แห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของฉีหลู่แล้ว”“ดูสภาพอากาศสิ” ซูจิ่งสิงเอ่ยเตือน “โดยทั่วไปภัยตั๊กแตนจะเกิดขึ้นเฉพาะในฤดูแล้งเท่านั้น”กู้หว่านเยว่รีบเปิดบันทึกสภาพอากาศ “ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ในเขตฉีหลู่มีวันท้องฟ้าแจ่มใสติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน”เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่าไม่มีวันที่ฝนตกเลย“ยิ่งไปกว่านั้นอุณหภูมิก็สูงขึ้นอย่างฉับพลัน สภาพอากาศเลวร้ายมาก”กู้หว่านเยว่เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก หลังลงจากเฮลิคอปเตอร์ นางก็รู้สึกถึงความแห้งแล้งในอากาศ“ไม่แปลกใจที่จะกระตุ้นให้เกิดภัยตั๊กแตน”กู้หว่านเยว่นึกถึงภัยน้ำท่วมและพายุหิมะที่รุนแรงในระหว่างเส้นทางเนรเทศตอนนี้เกิดภัยแล้งขึ้นอีกครั้ง อุณหภูมิสูงมาก“ภัยแล้งมาแทนที่อุทกภัย ส่งผลให้บริเวณน้ำตื้นในแม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่งโผล่ออกมา ตั๊กแตนแพร่พันธุ์ลุกลาม”ในใจซูจิ่งสิงยัง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 494

    พวกเขาเคยลองใช้มาหลายวิธีเหลือเกิน ทั้งหมดจบลงด้วยความล้มเหลวน่าเป็นห่วงจริง ๆ!แต่กลับเห็นกู้หว่านเยว่ยังนิ่งเฉย ก็เลยหยิบแอปเปิลผลหนึ่งออกมากัด“อย่ากังวล ถ้าไม่ได้ผล ข้าจะตัดหัวตัวเองมาเป็นลูกบอลให้ท่านเตะ”“เมียข้าบอกว่าได้ ก็ต้องได้สิ” ซูจิ่งสิงเชื่อมั่นในตัวกู้หว่านเยว่อย่างไม่มีเงื่อนไขหัวหน้าหมู่บ้านกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่นางน้อยล้อเล่นแล้ว เจ้าพยายามช่วยพวกเรา แม้ว่ามันจะไม่ได้ผล ข้าก็ไม่สามารถตัดหัวเจ้าได้!”และหลังจากที่กู้หว่านเยว่บอกหลักการของการกำจัดตั๊กแตนกับเขา เขาก็รู้สึกว่าวิธีนี้เข้าท่าดี“ดูสิ มีฝูงตั๊กแตนมาอีกแล้ว!”จู่ ๆ ชาวบ้านก็ตะโกนเสียงดังทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง เห็นตั๊กแตนฝูงใหญ่บินมาจากทุกทิศทุกทางสำหรับตั๊กแตนพวกนี้ ทุกคนล้วนเกลียดเข้ากระดูกดำแต่ละคนหยิบไม้กวาดและมีดตัดฟืนขึ้นมา วาดท่าทางใส่ตั๊กแตน บางคนถึงกับสาดน้ำใส่ตั๊กแตก พยายามทำให้พวกมันจมน้ำตายน่าเสียดายที่มันไม่มีผลกระทบต่อฝูงตั๊กแตนเลยยิ่งไปกว่านั้น ฝูงตั๊กแตนยังมีแนวโน้มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ“จบแล้ว จบเห่แล้ว...”“ตั๊กแตนมากมายเช่นนี้ไม่ถูกกำจัด เมื่อตั๊กแตนกัดกินพืชผลหมดแล้ว ก็

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 495

    ภัยธรรมชาติรุนแรงเช่นนี้ นางแอบคิดจะดึงผู้คนมาสู่เจดีย์หนิงกู่“หากพวกท่านไม่มีเสบียงอาหาร หรือไม่สามารถอยู่รอดได้ ฉีหลู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากเจดีย์หนิงกู่ พวกท่านสามารถไปขอพึ่งพิงที่เจดีย์หนิงกู่ได้”ก่อนที่นางจะจากไป ได้ทักทายผู้ว่าการอำเภอหลายคนในเจดีย์หนิงกู่แต่ผู้ประสบภัยทั้งหมดที่เข้ามาขอพึ่งพิง ไม่อนุญาตให้ขับไล่ออกไปจัดการให้อยู่ในศูนย์ผู้ประสบภัยในเมือง ให้พวกเขาไปซ่อมแซมถนนและเปิดเหมืองหัวหน้าหมู่บ้านครุ่นคิดในใจว่าเจดีย์หนิงกู่นั้นยากจนมากมิใช่หรือ?แต่เขาก็เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ“คำพูดของแม่นางน้อย ข้าจดจำไว้แล้ว”กู้หว่านเยว่เหลือบมองท้องฟ้า เวลานี้ดึกมากแล้ว พวกเขาไม่เหมาะที่จะอยู่ต่ออาศัยจังหวะที่หัวหน้าหมู่บ้านไปจัดระเบียบผู้คนและก่อกองไฟ นางจึงบินจากไปพร้อมกับซูจิ่งสิงอย่างเงียบ ๆหลังจากทั้งสองมาถึงที่ว่างแห่งหนึ่ง กู้หว่านเยว่ก็เอาเฮลิคอปเตอร์ออกมาอีกครั้งหลังจากนั้น ในหมู่บ้านก็มีแสงไฟทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากู้หว่านเยว่ประเมินขอบเขตของภัยตั๊กแตนระบาดในครั้งนี้ พืชผลส่วนใหญ่ถูกกัดกินหมด แม้แต่ใบของพืชในป่าก็ถูกจิกถอนจนหมดนั่นก็หมายความว่า แม้ว่าในช่วงเวลาข้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 496

    หมาป่านักรบเหล่านี้ ตอนนี้น่าจะถูกควบคุมโดยฮ่องเต้แล้ว“ไม่ต้องกลัว พวกเราหายตัวไปก็ได้”กู้หว่านเยว่ประเมินระยะทางด้วยสายตา การหายตัวของนางน่าจะสามารถไปถึงในเมืองได้สองสามีภรรยาสบตากัน กู้หว่านเยว่ใช้การหายตัวพาซูจิ่งสิงเข้ามาในเมืองโดยตรงทั้งสองลงสู่พื้นอย่างราบรื่นภายในตรอกเล็ก ๆ กู้หว่านเยว่สังเกตการแต่งตัวของนางและซูจิ่งสิง“เพื่อความสะดวกในการทำงาน เรามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูเหมือนคนภาคตะวันตกเฉียงเหนือกันเถอะ ไม่เช่นนั้นทันทีที่ก้าวออกไป จะถูกคนอื่นจับได้”“น้องหญิงพูดมีเหตุผล” ซูจิ่งสิงรีบอธิบายการแต่งกายของคนภาคตะวันตกเฉียงเหนือให้ฟัง“ข้าเคยมาอยู่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือพักหนึ่ง พอจะคุ้นเคยกับที่นี่อยู่บ้าง สำเนียงที่นี่แตกต่างจากพวกเรา ดังนั้นน้องหญิง เจ้าพยายามอย่าพูดดีกว่า”“ตกลง”กู้หว่านเยว่รีบพยักหน้า ในขณะเดียวกันก็ค้นหาเสื้อผ้าของภาคตะวันตกเฉียงเหนือออกมาจากมิติ ทั้งสองเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเมื่อมองดูกันและกันอีกครั้ง บนศีรษะของทั้งคู่ก็คาดผ้าสีเงิน สง่าผ่าเผย กลายเป็นชาวภาคตะวันตกเฉียงเหนือท้องถิ่นสองคน“พวกเราออกไปกันเถอะ”เชื่อว่าในเวลานี้แม้แต่ทหารลา

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1424

    จากเนื้อหาที่ซูจิ่งสิงเขียนไว้ในจดหมาย บอกไว้ว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่ได้ข้ามแม่น้ำมู่ตันโดยสมบูรณ์แล้ว บัดนี้กำลังมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งของกองทัพจากราชสำนักที่อยู่ตรงข้ามกับแม่น้ำมู่ตันกองทัพของทั้งสองฝ่ายต่างก็ร่วมบรรเลงเพลงรบด้วยกัน เพราะฝั่งของเรามีดินปืน ทำให้ศัตรูพ่ายแพ้สงครามถึงสองครั้งสงครามยืดเยื้ออย่างน้อยครึ่งเดือน ในที่สุดกองทัพที่มีทหารนับแสนคนของราชสำนักก็ได้ต้องถอยทัพออกจากแม่น้ำมู่ตันหลังจากที่กู้หว่านเยว่อ่านจบแล้ว มุมปากก็ได้กระตุกยิ้มอย่างชื่นชมนางรายงานสถานการณ์ของเมืองเหยาให้ซูจิ่งสิงรับรู้แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องการบอกอีกฝ่ายว่าตอนนี้ตัวเองปลอดภัยดี เขาไม่ต้องเป็นห่วง รับมือกับศึกอย่างสบายใจได้เลยเมืองเหยาเกิดหายนะอย่างรุนแรง นางต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยฟื้นฟูเหตุการณ์หลังสงครามหลังจากเขียนจดหมายเสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ก็นำม้วนกระดาษผูกติดกับขาของนกพิราบทองคำ“ไปเถอะ ไปหาเจ้าของของเจ้า”นกพิราบทองคำกางปีกโผบินออกไป“ฮูหยินคิดถึงท่านอ๋องใช่หรือไม่เจ้าคะ?”ชิงเหลียนเห็นกู้หว่านเยว่ที่กำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วปิดปากแอบหัวเราะกู้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1423

    “พี่สาม?”เซวียฉิงเบิกตากว้างด้วยแววตาหม่นหมอง “ที่พี่สามห่างเหินต่อข้า เป็นเพราะข้าและท่านพ่อท่านแม่หนีออกจากเมืองใช่หรือไม่เจ้าคะ?”ฮั่วจี๋หยุดชะงักฉับพลัน “เหตุใดถึงพูดเช่นนี้?”“ไม่อย่างนั้นชิงเอ๋อร์คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าตนเองทำอะไรถึงทำให้พี่สามไม่สนใจชิงเอ๋อร์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น....”เซวียฉิงยังพยายามจะอธิบาย ฮั่วจี๋จึงหันไปมองนางแวบหนึ่ง“เซวียฉิง เรื่องบางเรื่องข้าไม่อยากพูดถึง”สายตาที่เฉียบคมนั้นทำให้หัวใจของเซวียฉิงเต้นตึกตัก หรือว่าพี่สามจะรู้เรื่องในวันนั้น?เป็น...เป็นไปไม่ได้ท่านแม่กำชับอย่างหนักแน่น ห้ามใครพูดเรื่องนั้นออกมา“พี่สาม คนในตระกูลฮั่วล้วนตายในสงคราม ข้ารู้ว่าสภาพจิตใจของท่านแย่เพียงใด เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าค่อยมาหาท่านใหม่นะเจ้าคะ”เซวียฉิงไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา จึงหมุนตัวเตรียมกลับ“อย่าลืมรับโทษ”ฮั่วจี๋กล่าวเตือนเพียงสั้น ๆ เซวียฉิงพยายามอดกลั้นเพื่อไม่ให้ทะเลาะกัน จากนั้นก็เดินมาคุกเข่าตรงโถงทางเดินอย่างไม่เต็มใจแต่หลังจากที่ฮั่วจี๋ไล่เซวียฉิงออกไปแล้ว เขาก็พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดจากบาดแผล และลงจากเตียง“ท่านอ๋อง ท่านจะไปไหนขอรับ?” เด็กรั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1422

    นางกล่าวเพียงไม่กี่ประโยค จากนั้นหยดน้ำตาก็หลั่งรินออกมาท่าทางของนางดูเสแสร้งแต่เจ็บจริง“หากข้าทำตรงไหนไม่ถูกต้อง ข้าขอโทษเจ้าด้วย เราคุยกันดี ๆ ก็ได้ เหตุใดจะต้องลงไม้ลงมือกันด้วยเล่า?”เซวียฉิงคิดว่ากู้หว่านเยว่คือเจียงม่านที่ช่วยฮั่วจี๋ จึงตั้งใจจะใส่ร้ายนาง ให้นางรู้สึกอับอายกู้หว่านเยว่มองนางด้วยความเอือมระอา โดยไม่กล่าวสิ่งใดชิงเหลียนจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้ารุดหน้าเข้ามาทักทายฮูหยินของข้า?”นางย่อกายทำความเคารพกู้หว่านเยว่อย่างนอบน้อม“ฮูหยินของข้าคือพระชายาเจิ้นเป่ย แล้วเจ้าเป็นใคร?”“พระชายาเจิ้นเป่ย?”เซวียฉิงมองไปทางกู้หว่านเยว่ด้วยความตกใจ นางจำผิดคนอย่างนั้นหรือ?“ข้า...ข้าไม่รู้”นางตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้ากู้หว่านเยว่“พระชายาทรงระงับความโกรธด้วยเถิด ข้าน้อยไม่รู้ฐานะของท่านถึงได้ล่วงเกินท่านเช่นนี้”ในตอนที่นางเข้ามานั้น เดิมทีคิดว่ากู่เหว่านเยว่คือสตรีที่ล่อลวงฮั่วจี๋นางคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้คือพระชายาเจิ้นเป่ยที่เลื่องลือไปทั่วเมืองพระชายาที่ไหนจะแต่งกายเรียบ ๆ เช่นนี้ล่ะ?“ข้าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1421

    จู่ ๆ ชิงเหลียนก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จึงรีบกล่าวเตือน เมื่อวานนางเห็นเจียงม่านเดินออกมา ยามนั้นนางกำลังช่วยฮูหยินจัดหาที่ทางให้คุณหนูหวัง จึงทำได้แค่ระแวดระวัง ไม่ได้เข้าไปขวางแต่อย่างใดเจียงม่านไม่ใช่คนของพวกเขา นางเองก็คงเข้าไปขวางไม่ได้ “นางมุ่งหน้าไปทางไหน?”ฮั่วจี๋มองไปทางชิงเหลียนด้วยความร้อนใจจนแทบจะกลิ้งลงมาจากเตียง“เรื่องนี้ ข้าน้อยเองก็ไม่รู้เจ้าค่ะ”ชิงเหลียนส่ายหน้า “แค่เห็นเจียงม่านออกมาจากจวน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ส่วนจะไปที่ไหนนั้น ข้าน้อยกำลังยุ่งกับงานของตัวเอง จึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจเจ้าค่ะ”“มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกอย่างนั้นหรือ?”สีหน้าของฮั่วจี๋ฉายแววตื่นตระหนก ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดถึงสถานที่ทิศตะวันตกที่นางพอจะไปได้แต่หลังจากผ่านไปครึ่งค่อนวัน ก็ยังคิดหาคำตอบไม่ได้กระทั่งตอนนี้ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองนั้นแทบไม่รู้จักเจียงม่านเลยนอกจากชื่อของนางแล้ว บ้านของนาง อายุของนาง แต่งงานแล้วหรือไม่นั้นก็แทบไม่รู้อะไรเลยเขามีสีหน้าละอายใจ“ในเมื่อพระชายาไม่รู้ว่าเจียงม่านอยู่ที่ไหน เช่นนั้นข้าน้อยก็ไม่ขอรบกวนพระชายาแล้วขอรับ”ทันทีที่ฮั่วจี๋ไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1420

    อาวุธของพวกโจรถูกริบไปจนหมด แต่ละคนจึงมือเปล่าพลธนูบนกำแพงเมืองที่ต้านทานการบุกเมือง ไม่มีธนูแล้ว เหลือเพียงถุงธนูที่ว่างเปล่า“แย่แล้ว มีไส้ศึก!”มีคนตะโกนเสียงดัง ประตูเมืองถูกเปิดแล้วนอกเมืองมีทหารกล้าหนึ่งพันนายของหนานหยางอ๋องที่ซุ่มอยู่แต่แรกบุกเข้ามา“บุก!”“ยึดเมืองเหยา!”“บุกเข้าไป!”ภายในเมืองเต็มไปด้วยแสงไฟ เสียงร้องดังตะโกนไปทั่วฟ้าสางแล้วสงครามก็จบลงแล้วเมืองเหยาหลังสงคราม นองเลือดเละเทะพวกโจรแพ้แล้ว กู้หว่านเยว่กับหนานหยางอ๋องพาทหารกล้าบุกเข้าไป อีกทั้งยังมีสวีซื่อฉวนร่วมมืออยู่ด้านในทำให้พวกโจรแพ้อย่างรวดเร็วทหารเจดีย์หนิงกู่ยึดเมืองเหยาได้แล้วบนกำแพงเมืองเปลี่ยนเป็นธงของเจิ้นเป่ยอ๋องคนชราเด็กสตรีถูกกู้หว่านเยว่ปล่อยตัวออกมาเหล่าหญิงสาวที่ถูกย่ำยี คุมขังอยู่ในจวนเจ้าเมือง ล้วนถูกปล่อยตัวกลับบ้านเมืองเหยาหลังสงครามต้องสร้างขึ้นใหม่กู้หว่านเยว่สั่งให้เปิดยุ้งฉาง แจกจ่ายเสบียงแก่ชาวบ้านในเมืองให้ทางการรวบรวมจำนวนคนตายและบาดเจ็บ จ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวที่ประสบภัยว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าร่วมการก่อสร้าง ซ่อมแซมกำแพงเมือง จวน และสิ่งปลูกสร้าง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1419

    อาจเพราะเห็นกู้หว่านเยว่เป็นสตรีเช่นกัน พวกหญิงสาวจึงไม่ได้กลัวมากนัก“จอมยุทธ์หญิง ท่าน ท่านมาช่วยพวกเราจริงหรือ?”มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ค่อนข้างใจกล้า เอ่ยถามอย่างระวัง“ถูกต้อง”กู้หว่านเยว่ปลอบประโลม“องครักษ์ข้างนอกถูกข้าฆ่าตายหมดแล้ว อีกเดี๋ยวหลังจากพวกเจ้าออกไป จงไปหาห้องมิดชิดซ่อนตัวซะจำไว้ให้ดี ห้ามออกมาเด็ดขาด รอให้ข้างนอกปลอดภัยแล้วค่อยออกมา”กู้หว่านเยว่นึกถึงบางอย่าง“ใช่สิ พวกเจ้ารู้จักหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อหวังหรานเอ๋อร์หรือไม่?”จู่ๆ นางนึกขึ้นได้ว่าจางเอ้อร์ไหว้วานให้ช่วยตามหาคนหญิงสาวที่เอ่ยขึ้นเมื่อครู่ดวงตาฉายแววแปลกใจ มองกู้หว่านเยว่อย่างตะลึง“ท่านตามหาหวังหรานเอ๋อร์ทำไมหรือ?”กู้หว่านเยว่นำป้ายหยกออกมา“ได้รับการไหว้วานจากสหาย ให้พานางกลับบ้าน”“ป้ายหยกของท่านพ่อ!”หวังหรานเอ๋อร์ทำหน้าดีใจ แล้วคว้าเอาป้ายหยกไปนางพลิกไปพลิกมาในมือ หลังจากแน่ใจว่าเป็นป้ายหยกของบิดา จึงรีบหันมองกู้หว่านเยว่“ข้าคือหวังหรานเอ๋อร์ นี่เป็นป้ายหยกของบิดาข้า ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”กู้หว่านเยว่สีหน้าประหลาดใจช่างบังเอิญเสียจริงนึกไม่ถึงว่าหญิงสาวที่ดูองอาจตรงหน้าก็คือห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1418

    หลังเวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยชา ทั้งหกคนเดินออกมา แล้วคารวะกู้หว่านเยว่“พวกข้าน้อยคารวะพระชายา!”“ดี!”กู้หว่านเยว่ไม่แปลกใจกับบทสรุปเช่นนี้ นางเพียงโบกมือ“รีบลุกขึ้นเถอะ ข้ายังมีธุระสำคัญต้องหารือกับพวกเจ้า”สวีซื่อฉวนรีบพาทุกคนลุกขึ้นยืนกู้หว่นเยว่สั่งงานสวีซื่อฉวนสองเรื่องเรื่องที่หนึ่ง อีกเดี๋ยว นางจะฆ่าซ่งฉิน“ข้าอยากให้เจ้าอาศัยช่วงชุลมุนควบคุมเมืองเหยา แล้วสั่งให้คนเปิดประตูเมือง”เรื่องที่สอง ห้ามทำร้ายคนชรา เด็ก สตรีภายในเมือง“หากทำร้ายคนชรา เด็ก สตรี ให้ฆ่าได้ไม่ละเว้น!”“ขอรับ!”แต่เดิมสวีซื่อฉวนไม่ใช่คนที่ทำร้ายประชาชนอยู่แล้ว คำสั่งที่สองของกู้หว่านเยว่ ตรงกับเขาพอดีเพียงแต่“ข้างกายซ่งฉินมีองครักษ์ไม่น้อย จะสังหารเขาได้อย่างไร?”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจ”กู้หว่านเยว่มองหวังปี้ “เจ้ากลับไปส่งข่าวให้หนานหยางอ๋องเถอะ ยามจื่อให้เขาพาคนมาบุกยึดเมือง”“ขอรับ”สำหรับคำพูดของกู้หว่านเยว่ หวังปี้ไม่แคลงใจแม้แต่น้อยหลังได้รับคำสั่ง รีบจากไปทันที“พวกเจ้าเองก็รีบไปเตรียมการ ประมาณอีกหนึ่งชั่วยามให้หลัง เมื่อได้ข่าวการตายของซ่งฉิน ให้ลงมือทันที”เวลาที่กู้หว่าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1417

    ในเมื่อนับถือเจิ้นเป่ยอ๋อง ย่อมต้องรู้จักพระชายาของพวกเขาเป็นไปตามคาด สายตาของสวีซื่อฉวนหันมองกู้หว่านเยว่“ท่านคือพระชายาเจิ้นเป่ย?”สายตาของสวีซื่อฉวนเปลี่ยนเป็นเลื่อมใส ทำให้กู้หว่านเยว่แปลกใจไม่น้อย“หรือเจ้าเคยได้ยินชื่อข้ามาก่อน?”“ชื่อเสียงเรียงนามของพระชายาใครจะไม่เคยได้ยิน ท่านกับท่านอ๋องฝ่าฝันด้วยความรัก ไม่ทอดทิ้งท่านอ๋อง”กู้หว่านเยว่ยิ้ม แต่ไม่ตอบชื่อเสียงของสตรีในภายนอก อย่างไรก็เกิดขึ้นจากบุรุษ“สิ่งที่พระชายาของพวกเราทำได้ ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ชุดเกราะของสามเหล่าทัพ เสบียงของเจดีย์หนิงกู่ ล้วนเป็นฝีมือของพระชายา”หวังปี้ทำหน้าภาคภูมิใจ ทำให้สวีซื่อฉวนต้องหันมอง“ข้าน้อยละเลยเอง”คำพูดกู้หว่านเยว่เปลี่ยนทันใด “ในเมื่อเจ้านับถือเจิ้นเป่ยอ๋องขนาดนี้ เหตุใดไม่พาลูกน้องไปเข้าร่วมกับเขา กลับเข่นฆ่าพวกชาวบ้านในเมืองเหยา?”ใบหน้าสวีซื่อฉวนฉายแววละอายใจ“เพราะข้ามีคดีติดตัว”เดิมทีสวีซื่อฉวนก็เป็นชาวนาที่ขยันทำมาหากินเนื่องด้วยร่างกายแข็งแรงกำยำ ฝีมือไม่เลว เคยไปเป็นบ่าวในครอบครัวใหญ่อยู่ช่วงหนึ่งสรุปคุณชายใหญ่ครอบครัวนั้นเป็นคนเกกมะเหรกเกเร“มีครั้งหนึ่ง เข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1416

    เดิมทีหญิงสาวนึกว่าตัวเองจะได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่ากลับเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน“เจ้า”สวีซื่อฉวนอยากก้าวไปข้างหน้า แต่ถูกคนของถูเอ้อร์ขวางไว้“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”คนข้างหลังเขาก็ร้อนใจเช่นกัน เมื่อเห็นว่ากำลังจะตีกับถูเอ้อร์ จู่ๆ สวีซื่อฉวนเอ่ยขึ้น “ถอยให้หมด พวกเราไป”“หัวหน้ารอง...” หลายคนไม่พอใจ“ไป”สวีซื่อฉวนหันมองใบหน้าคนชั่วได้ใจของถูเอ้อร์แวบหนึ่ง แล้วกำหมัดแน่น พาคนของตัวเองจากไปอย่างเงียบเชียบ“ถุย คิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้ารองจริงๆ หรือ”ถูเอ้อร์ถุยน้ำลายใส่แผ่นหลังเขาที่จากไป แล้วลากหญิงสาวที่เหลือออกไปหลังจากพวกเขาไปหมดแล้ว บนหลังคามีคนกระโดดลงมาสองคนซึ่งก็คือกู้หว่านเยว่กับหวังปี้ที่ดูอยู่เมื่อครู่“ดูท่าภายในของโจรพวกนี้ ก็ไม่ได้สามัคคีกันมากนัก”หวังปี้กล่าวพร้อมถอนหายใจ“ก่อนหน้านี้ทุกคนอยู่บนเขา เรียกท่านพี่ใหญ่ เรียกข้าพี่รอง เรียกขานกันดุจพี่น้องตอนนี้ยึดเมืองเหยาได้แล้ว จึงคิดอยากเป็นใหญ่ จะยอมแบ่งอำนาจได้หรือ”หวังปี้บ่นพร้อมส่ายหน้า กู้หว่านเยว่เพียงเม้มปากยิ้ม“นี่ก็พอดีเลยไม่ใช่หรือ จะได้ยุยงให้พวกเขาแตกคอกัน”นางดึงหวังปี้ “ไป พวกเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status