แชร์

บทที่ 487

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ความคิดนี้อยู่ในใจเพียงชั่วครู่เท่านั้น ในเมื่อกู้หว่านเยว่แต่งงานมีสามีแล้ว ต่อให้อวิ๋นมู่ปรารถนาในใจมากแค่ไหน เขาก็จะยับยั้งชั่งใจเอาไว้

“เฮ้อ เจ้านี่นะ ข้าควรจะหาภรรยาให้เจ้าตั้งแต่เนิ่น ๆ ”

นายท่านผู้เฒ่าอวิ๋นมองทะลุความในใจของอวิ๋นมู่ จากนั้นส่ายหัวอย่างจนปัญญา

เจ้าเด็กไม่เอาไหนนี่ เหตุใดถึงไม่รู้จักควบคุมหัวใจตัวเอง?

“ลูกไม่ขออะไรมาก ขอแค่ให้นางปลอดภัยราบรื่น มีความสุข สุขภาพแข็งแรง”

อวิ๋นมู่ดูสดใส รอยยิ้มเปี่ยมไปด้วยความสุข

นายท่านผู้เฒ่าอวิ๋นสีหน้าหม่นหมอง หากนายหญิงกู้ยังไม่แต่งงานหรือหย่าร้างแล้ว เขาคงจะสนับสนุนเต็มที่

แต่เห็นได้ชัดว่านางและซูจิ่งสิงรักกันมาก

“แย่แล้ว ๆ สายเลือดสกุลอวิ๋นของข้าคงไม่ได้สิ้นสุดตรงนี้หรอกนะ?” นายท่านผู้เฒ่าอวิ๋นคิดวางแผนในใจ ต้องหาภรรยาดี ๆ ให้กับอวิ๋นมู่ให้ได้

ภายในห้อง กู้หว่านเยว่เปลี่ยนใจ “ท่านพี่ ข้าว่าจะให้คนสร้างถังเหล็กขึ้นมา เพื่อใส่น้ำมันก๊าด”

เดิมทีนางคิดจะซื้อถังเหล็กจำนวนมาก แล้วโยนไปให้พวกชาวหู บอกทุกคนว่าซื้อถังเหล็กพวกนั้นมาจากชาวหู

แต่พอคิดดูดี ๆ แบบนี้เหมือนปล่อยให้ชาวหูได้ประโยชน์มากเกินไป

การสร้างเครื่องมือเหล็กไม่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 488

    จี้ฮั่นโม่หายใจถี่ “หนังสือเล่มนี้มาจากที่ใด?”“ใต้เท้าจี้แค่บอกว่าอยากจะรับงานนี้หรือไม่”ระหว่างทาง ทั้งสองคนได้พูดคุยเกี่ยวกับความสามารถของจี้ฮั่นโม่ ซูจิ่งสิงค่อนข้างเห็นด้วยดังนั้น กู้หว่านเยว่จึงกล้ามอบหมายเรื่องนี้ให้เขาในขณะเดียวกัน ก็เพราะกู้หว่านเยว่อยากจะขี้เกียจบ้าง ถ้าทำเองทุกอย่าง นางจะไม่เหนื่อยตายหรอกหรือยิ่งถึงช่วงหลัง ๆ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการลูกน้อง“อยาก ข้าอยากรับแน่นอน!”จี้ฮั่นโม่ก็มีความมุ่งมั่นเช่นกัน“แต่ว่า ภรรยาและลูกของข้า...”จี้ฮั่นโม่รู้สึกละอายใจเล็กน้อยตอนนี้เขาไม่มีเบี้ยหวัดแล้ว เงินที่พกมาตอนหลบหนีก็ใช้ไปจนเกือบหมดกู้หว่านเยว่มองเห็นถึงความลำบากของเขา จึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะจ่ายเงินเดือนให้ท่านถ้าท่านกังวลว่าภรรยาและลูกของท่านจะไม่มีใครดูแล ก็จ้างคนรับใช้ให้พวกเขา”“นี่ จริงหรือ?”จี้ฮั่นโม่ดีใจอย่างยิ่งสิ่งเดียวที่เขากังวลก็คือเรื่องนี้ กู้หว่านเยว่ก็นึกถึงเช่นกัน เขาจึงไม่ลังเลอีกต่อไป“เรื่องนี้ มอบหมายให้ข้า ข้าจะทำให้ดีที่สุด!”ทั้งสองคนคุยกันเรื่องเงินเดือนอีกสักหน่อย กู้หว่านเย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 489

    “แม้แต่แขนของข้า ก็ถูกพวกเขาฟันขาดความแค้นอันใหญ่หลวงนี้ ข้าจะไม่มีวันลืม!”ดวงตาของมู่หรงอวี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ราวกับปีศาจที่ปีนขึ้นมาจากนรกหลังจากที่หนีออกมาจากภูเขาหิมะ เขาก็ไม่กล้าหยุดพักแม้แต่วินาทีเดียวหนีออกมาจากเจดีย์หนิงกู่เหมือนหมาจรจัด กลัวว่าจะถูกกู้หว่านเยว่ไล่ตามทันเมื่อนึกถึงการหลบซ่อนตัวตลอดในสองวันนี้ มู่หรงอวี้ก็รู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก“ท่านอ๋อง ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี?” ลูกน้องหลายคนมองด้วยความความเศร้าโศกพี่น้องมากมาย เหลือเพียงแค่พวกเขา“ไปที่หมู่บ้านโซว่หวาง”มู่หรงอวี้ยิ้มเยาะ “ข้าจะรอพวกเขาที่หมู่บ้านโซว่หวาง แล้วจัดการพวกเขาให้หมดในคราวเดียว!”คิดว่าตัดแขนเขาไปข้างหนึ่ง แล้วเขาจะเป็นง่อยแล้วหรือ?เขายังมีไพ่ตายใบสุดท้าย!มู่หรงอวี้พาลูกน้องขี่ม้าออกไป โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีคนชุดดำคนหนึ่งแอบสะกดรอยตามเขาอยู่ข้างหลัง“...”“กงซุนจ่างเย่ใกล้ฟื้นแล้ว”สองวันมานี้ กู้หว่านเยว่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวอยู่ในหอแห่งโอสถมาตลอดหลังจากที่พบว่ากงซุนจ่างเย่ใกล้ฟื้นแล้ว ก็รีบย้ายเขากลับมาภายในห้องในขณะเดียวกัน ก็ดึงเข็มทั้งหมดออกจากตัวเขาด้วย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 490

    ความคิดของกู้หว่านเยว่ล่องลอยไปไกลนางสนใจนกวิเศษที่หนานหยางอ๋องพูดถึงมาก ในโลกนี้มีนกวิเศษอย่างนกหงส์เพลิงจริง ๆ หรือ? ถ้านกหงส์เพลิงมีอยู่จริง ใครได้มันไปก็คงสามารถบัญชาสรรพสัตว์ กลายเป็นราชาแห่งสรรพสัตว์จริง ๆ สินะ?กู้หว่านเยว่ตั้งสติ ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นแค่ข่าวลือ ภารกิจหลักตอนนี้คือไปที่เขตซีเป่ยเพื่อขัดขวางแผนการของฮ่องเต้ชั่วกู้หว่านเยว่คำนวณวันเวลาครู่หนึ่ง ตอนนี้ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องที่หมู่บ้านโซว่หวางยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร โอกาสรอดชีวิตของคนในหมู่บ้านโซว่หวางก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้นนางจึงเอ่ยขึ้นว่า “เรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้ ข้าไม่คิดจะรออีกแล้ว คืนนี้กลับไปเก็บของ พรุ่งนี้ไปที่หมู่บ้านโซว่หวางกันเถอะ”“ให้ข้าไปด้วย” กงซุนจ่างเย่ขอร้อง “ข้าจะไม่เป็นภาระให้พวกท่าน”ตั้งแต่เด็กจนโต เขาเป็นลูกชายคนเล็กที่ได้รับความรักมากที่สุดในครอบครัวครั้งนี้ เขาจะเป็นผู้แบกรับความรุ่งเรืองและความตกต่ำของหมู่บ้านโซว่หวางเขาต้องกลับไปช่วยท่านพ่อและพวกพี่สาวด้วยตัวเอง“ได้”กู้หว่านเยว่พยักหน้า“เจ้าเดินไม่ได้ แต่สามารถนั่งรถม้าได้ ถึงตอนนั้นพวกเราจะแยกกันไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 491

    “เคลื่อนพลผู้พิทักษ์แห่งจันทรา มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านโซว่หวาง”ผู้พิทักษ์แห่งจันทราเป็นองครักษ์ลับที่ซูจิ่งสิงสร้างให้กู้หว่านเยว่เป็นการส่วนตัวออกเดินทางไปยังหมู่บ้านโซว่หวางครั้งนี้ เขาไม่อยากเห็นกู้หว่านเยว่ได้รับอันตรายใด ๆดังนั้นจึงตัดสินใจออกคำสั่งผู้พิทักษ์แห่งจันทราล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย“นายท่านโปรดวางใจ พวกข้าจะคุ้มครองฮูหยินอย่างเต็มที่”คนสิบกว่าคนที่นำโดยชิงเหลียนคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพหลังจากจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว ซูจิ่งสิงก็กลับไปที่เตียง กอดกู้หว่านเยว่ไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะผล็อยหลับไปเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากทั้งสองรับประทานอาหารที่นางหยางทำให้เรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือทันทีเนื่องจากกงซุนจ่างเย่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมิ่งเหยียนก็เพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน ไม่ควรเร่งการเดินทางทั้งวันทั้งคืนดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจแบ่งกองกำลังออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มหนึ่งมีหมิงจูพร้อมด้วยกงซุนจ่างเย่และเมิ่งเหยียน โดยมีลั่วหยางคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ นั่งรถม้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีกกลุ่มหนึ่ง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงออกเดินทางตามลำพัง เพื่อไปให้ถึงโ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 492

    “น้องหญิง พวกเราบินอยู่บนท้องฟ้า หากมีคนเห็นเข้า จะไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประหลาดหรือ”หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ซูจิ่งสิงก็ถามด้วยความกังวลกู้หว่านเยว่หัวเราะขึ้นมาทันที “อย่ากังวล พวกเรากำลังบินสูงมาก ผู้คนบนพื้นดินจะมองเห็นเพียงจุดสีดำเล็ก ๆ ลอยผ่านไป อีกอย่างเมื่อคืนนี้ข้าได้วางแผนเส้นทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว”เส้นทางนี้จะไม่ผ่านเมือง แต่ตรงไปยังเขตภูเขาที่มีประชากรเบาบางโดยเฉพาะเช่นนี้จะขจัดความเป็นไปได้ที่จะถูกผู้คนสังเกตเห็นไปโดยปริยาย“แผนที่อยู่ตรงกลางระหว่างเรา ท่านลองเปิดมันดูสิ”ซูจิ่งสิงได้ยินเช่นนี้ก็หยิบแผนที่ขึ้นมา สังเกตดูสักครู่ก็พบว่า เส้นทางนี้ของกู้หว่านเยว่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบบ้านเรือนผู้คนเขาวางแผนที่ลง เมื่อมองลงไปก็เห็นภูเขาแม่น้ำและมหาสมุทรอยู่ใต้ฝ่าเท้า เพียงชั่วขณะหนึ่งภายในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างไร้ขอบเขต“น้องหญิง เจ้าสอนข้าขับเฮลิคอปเตอร์ได้ไหม? เวลาเจ้าเหนื่อย ข้าจะได้ทำแทนเจ้าได้”ซูจิ่งสิงไม่คุ้นเคยกับการนั่งที่นั่งผู้โดยสารโดยที่ไม่ทำอะไรเลย“ไม่ต้องรีบร้อน ต่อไปยังมีเวลาอีกมาก”ทั้งสองทำเหมือนไม่ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 493

    เนื่องจากภัยตั๊กแตนนั้นรุนแรงเหลือเกิน ตั๊กแตนฝูงใหญ่บินเข้ามา ถึงขั้นโจมตีมนุษย์ทั้งสองต้องหาที่หลบภัยในหมู่บ้านก่อน“ภัยตั๊กแตนครั้งนี้ร้ายแรงมาก มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?” กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วบาง ๆจิตสำนึกเข้าสู่มิติทันที เปิดภาพกลุ่มเมฆดู“เราขับมาทั้งคืน ที่แห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของฉีหลู่แล้ว”“ดูสภาพอากาศสิ” ซูจิ่งสิงเอ่ยเตือน “โดยทั่วไปภัยตั๊กแตนจะเกิดขึ้นเฉพาะในฤดูแล้งเท่านั้น”กู้หว่านเยว่รีบเปิดบันทึกสภาพอากาศ “ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ในเขตฉีหลู่มีวันท้องฟ้าแจ่มใสติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน”เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่าไม่มีวันที่ฝนตกเลย“ยิ่งไปกว่านั้นอุณหภูมิก็สูงขึ้นอย่างฉับพลัน สภาพอากาศเลวร้ายมาก”กู้หว่านเยว่เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก หลังลงจากเฮลิคอปเตอร์ นางก็รู้สึกถึงความแห้งแล้งในอากาศ“ไม่แปลกใจที่จะกระตุ้นให้เกิดภัยตั๊กแตน”กู้หว่านเยว่นึกถึงภัยน้ำท่วมและพายุหิมะที่รุนแรงในระหว่างเส้นทางเนรเทศตอนนี้เกิดภัยแล้งขึ้นอีกครั้ง อุณหภูมิสูงมาก“ภัยแล้งมาแทนที่อุทกภัย ส่งผลให้บริเวณน้ำตื้นในแม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่งโผล่ออกมา ตั๊กแตนแพร่พันธุ์ลุกลาม”ในใจซูจิ่งสิงยัง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 494

    พวกเขาเคยลองใช้มาหลายวิธีเหลือเกิน ทั้งหมดจบลงด้วยความล้มเหลวน่าเป็นห่วงจริง ๆ!แต่กลับเห็นกู้หว่านเยว่ยังนิ่งเฉย ก็เลยหยิบแอปเปิลผลหนึ่งออกมากัด“อย่ากังวล ถ้าไม่ได้ผล ข้าจะตัดหัวตัวเองมาเป็นลูกบอลให้ท่านเตะ”“เมียข้าบอกว่าได้ ก็ต้องได้สิ” ซูจิ่งสิงเชื่อมั่นในตัวกู้หว่านเยว่อย่างไม่มีเงื่อนไขหัวหน้าหมู่บ้านกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่นางน้อยล้อเล่นแล้ว เจ้าพยายามช่วยพวกเรา แม้ว่ามันจะไม่ได้ผล ข้าก็ไม่สามารถตัดหัวเจ้าได้!”และหลังจากที่กู้หว่านเยว่บอกหลักการของการกำจัดตั๊กแตนกับเขา เขาก็รู้สึกว่าวิธีนี้เข้าท่าดี“ดูสิ มีฝูงตั๊กแตนมาอีกแล้ว!”จู่ ๆ ชาวบ้านก็ตะโกนเสียงดังทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง เห็นตั๊กแตนฝูงใหญ่บินมาจากทุกทิศทุกทางสำหรับตั๊กแตนพวกนี้ ทุกคนล้วนเกลียดเข้ากระดูกดำแต่ละคนหยิบไม้กวาดและมีดตัดฟืนขึ้นมา วาดท่าทางใส่ตั๊กแตน บางคนถึงกับสาดน้ำใส่ตั๊กแตก พยายามทำให้พวกมันจมน้ำตายน่าเสียดายที่มันไม่มีผลกระทบต่อฝูงตั๊กแตนเลยยิ่งไปกว่านั้น ฝูงตั๊กแตนยังมีแนวโน้มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ“จบแล้ว จบเห่แล้ว...”“ตั๊กแตนมากมายเช่นนี้ไม่ถูกกำจัด เมื่อตั๊กแตนกัดกินพืชผลหมดแล้ว ก็

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 495

    ภัยธรรมชาติรุนแรงเช่นนี้ นางแอบคิดจะดึงผู้คนมาสู่เจดีย์หนิงกู่“หากพวกท่านไม่มีเสบียงอาหาร หรือไม่สามารถอยู่รอดได้ ฉีหลู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากเจดีย์หนิงกู่ พวกท่านสามารถไปขอพึ่งพิงที่เจดีย์หนิงกู่ได้”ก่อนที่นางจะจากไป ได้ทักทายผู้ว่าการอำเภอหลายคนในเจดีย์หนิงกู่แต่ผู้ประสบภัยทั้งหมดที่เข้ามาขอพึ่งพิง ไม่อนุญาตให้ขับไล่ออกไปจัดการให้อยู่ในศูนย์ผู้ประสบภัยในเมือง ให้พวกเขาไปซ่อมแซมถนนและเปิดเหมืองหัวหน้าหมู่บ้านครุ่นคิดในใจว่าเจดีย์หนิงกู่นั้นยากจนมากมิใช่หรือ?แต่เขาก็เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ“คำพูดของแม่นางน้อย ข้าจดจำไว้แล้ว”กู้หว่านเยว่เหลือบมองท้องฟ้า เวลานี้ดึกมากแล้ว พวกเขาไม่เหมาะที่จะอยู่ต่ออาศัยจังหวะที่หัวหน้าหมู่บ้านไปจัดระเบียบผู้คนและก่อกองไฟ นางจึงบินจากไปพร้อมกับซูจิ่งสิงอย่างเงียบ ๆหลังจากทั้งสองมาถึงที่ว่างแห่งหนึ่ง กู้หว่านเยว่ก็เอาเฮลิคอปเตอร์ออกมาอีกครั้งหลังจากนั้น ในหมู่บ้านก็มีแสงไฟทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากู้หว่านเยว่ประเมินขอบเขตของภัยตั๊กแตนระบาดในครั้งนี้ พืชผลส่วนใหญ่ถูกกัดกินหมด แม้แต่ใบของพืชในป่าก็ถูกจิกถอนจนหมดนั่นก็หมายความว่า แม้ว่าในช่วงเวลาข้

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1176

    “คนในครอบครัวของเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ?”กู้หว่านเยว่ปวดใจกับเด็กคนนี้มาก จึงยื่นขนมอีกชิ้นให้เขา“ทุกคนตายหมดแล้วขอรับ เหลือเพียงข้าผู้เดียว”ครั้นนึกถึงเรื่องเสียใจ เสี่ยวถ่านก็มักจะก้มหน้าลง จากนั้นหยดน้ำตาก็ได้หลั่งรินออกมาจากดวงตาของเขาเขาคิดถึงท่านแม่“เอาละ หยุดร้องได้แล้ว แม้ว่าคนในครอบครัวของเจ้าจะตายกันหมดแล้ว แต่เจ้าก็ต้องใช้ชีวิตให้ดี”กู้หว่านเยว่ตักน้ำแกงไก่ให้เขา นางมักจะรู้สึกว่าสถานะของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดากิริยามารยาของเขาดูไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา จู่ ๆ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว“ประตูเมืองเปิดแล้ว!”ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้นเสียงตะโกนระลอกหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอก จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นขึ้นในฝูงชนที่ล้อมรอบ ทุกคนต่างทยอยกันเข้ามารวมตัวกันหน้าประตูเมือง“น้องหญิง เราเองก็เข้าเมืองกันเถอะ”ซูจิ่งสิงเปิดผ้าม่าน ก่อนจะกล่าวทักทายกู้หว่านเยว่ ไหน ๆก็จะเข้าเมืองแล้ว พวกเขาคงนั่งอยู่บนรถม้าไม่ได้อีก ต้องลงจากรถม้ามาตรวจสอบถึงจะถูก “เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่คว้ามือของเสี่ยวถ่านลงมาจากรถม้า และเดินมาต่อแถวอยู่ด้านหลังของกล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1175

    ไม่สู้สละตัวปัญหานี้ออกไปโดยเร็ว เขาจึงเริ่มร้อนใจ“เอาอย่างไร ข้าเสนอให้เจ้ายี่สิบตำลึง ตกลงเจ้าจะเอาหรือไม่เอา?”“ข้าเอา”ซูจิ่งสิงรับเงินมาจากมือของกู้หว่านเยว่ หลังจากนับจนครบยี่สิบตำลึงแล้วก็โยนให้บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นรับเงินไปด้วยความดีใจ เขาทำการตรวจสอบครู่หนึ่งจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว ก็ไม่ได้สนใจทาสตัวน้อยนั้นอีก สะบัดก้นเดินจากไปทันที“ขอบคุณพวกท่านมาก” ทาสตัวน้อยมองไปทางซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง แต่นัยน์ตายังคงหวาดกลัวลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่าซูจิ่งสิงอันตรายมาก เขาไม่กล้าเข้าใกล้ซูจิ่งสิงเลยแม้แต่น้อย“เจ้าขึ้นรถม้าเถอะ”กู้หว่านเยว่กวักมือเรียกทาสตัวน้อย สองวันมานี้เวลาว่างนางก็มักจะเรียนรู้ภาษาของชาวทูเจวี๋ยจากซูจิ่งสิงอยู่เสมอ แม้ว่าจะยังออกเสียงได้เล็กน้อย แต่พอถูไถได้ไม่มีปัญหาทาสตัวน้อยเกิดความลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ยังปีนขึ้นรถม้า เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยความประหลาดใจ“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ใช่คนชั่ว”กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นทำไม บางทีอาจเพราะเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากทาสตัวน้อยผู้นั้น จึงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองก่อนหน้านั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1174

    นางรีบลืมตา ก็พบว่าพวกเขามาถึงคูเมืองแห่งหนึ่งแล้ว เมืองชิงซานประตูเมืองของเมืองชิงซานจะเปิดในเวลาแปดโมงเช้า ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ ดังนั้นซูจิ่งสิงจึงจอดรถม้าอยู่หน้าประตูเมืองชั่วคราวแต่เวลานี้บริเวณประตูเมืองชิงซาน ยังมีคนที่เดินทางมาถึงเช้าตรู่เหมือนกับพวกเขาอีกเป็นจำนวนมาก กำลังพักผ่อนอยู่บนพื้นที่โล่งรอบ ๆ หน้าประตู เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ดังมาจากด้านหลังของรถม้าพวกเขา กู้หว่านเยว่เบนสายตามองตาม กระทั่งเห็นเด็กน้อยหน้าตามอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิงคนหนึ่ง เกาะล้อรถของนางไม่ยอมปล่อย แต่ด้านหลังของเขา มีบุรุษวัยกลางคนฟาดเขาด้วยแส้อย่างโหดเหี้ยม“เกิดอะไรขึ้น?”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เมื่อครู่นางอยู่แต่ในห้วงมิติตลอด จึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้านนอก“เด็กหนุ่มผู้นี้วิ่งลงมาจากรถม้าของบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น”ซูจิ่งสิงมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระซิบข้างหูของนางเบา ๆ“ท่าทางจะเป็นทาสที่ซื้อตัวมา คงอยากหนี”“ได้โปรดพวกท่าน ช่วยข้าด้วย”ครั้นทาสตัวน้อยเห็นกู้หว่านเยว่ชะโงกหน้าออกมา จึงมองนางด้วยความตกใจ แต่นัยน์ตาแฝงไปด้วยการอ้อนวอนเดิมทีกู้หว่านเยว่ไม่อยากเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1173

    เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า รูม่านตาของเจ้าเมืองแห่งเมืองสือโม่เบิกกว้าง พลางส่งเสียงกรีดร้องคล้ายกับสตรีชั้นสูงที่กำลังถูกกระทำชำเราอย่างไรอย่างนั้น“รนหาที่ตายแท้ ๆ บุรุษและสตรีคู่นี้เป็นผู้ใดกัน?!”“เจ้าเมือง บัดนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”ทหารที่ดูโง่เขลาบางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว เพียงครู่เดียว จวนของเจ้าเมืองก็ถูกกู้หว่านเยว่ถล่มจนไม่เหลือชิ้นดีทั้งเมืองสือโม่ตกอยู่ในความโกลาหลยิ่งกว่าเดิม!ซึ่งพอจะจินตนาการได้ว่าเรื่องของเมืองสือโม่ที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะต้องแพร่กระจายไปทั่วเมืองทูเจวี๋ยอย่างแน่นอน ไม่สิ อาจจะแพร่กระจายไปยังฝั่งของต้าฉีด้วย“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าควรทำอย่างไร รีบจับพวกเขาให้ได้ก่อนเถอะ!”เจ้าเมืองโกรธที่ตัวเองไร้ความสามารถ ส่วนทหารคนอื่นได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาไม่มีปีก ดังนั้นจึงทำได้แค่มองนกหงส์เพลิงบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ “จูเชวี่ย เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่มองไปยังเสบียงอาหารที่ถูกปล้นมาไว้ในห้วงมิติ ก่อนจะคลี่ยิ้มตาหยี นางลูบหัวของจูเชวี่ยเบา ๆ และออกคำสั่งให้จูเชวี่ยเร่งความเร็ว จากนั้นก็บินออกจากเมืองสือโม่ไปเจ้าเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status