แชร์

บทที่ 489

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“แม้แต่แขนของข้า ก็ถูกพวกเขาฟันขาด

ความแค้นอันใหญ่หลวงนี้ ข้าจะไม่มีวันลืม!”

ดวงตาของมู่หรงอวี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ราวกับปีศาจที่ปีนขึ้นมาจากนรก

หลังจากที่หนีออกมาจากภูเขาหิมะ เขาก็ไม่กล้าหยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว

หนีออกมาจากเจดีย์หนิงกู่เหมือนหมาจรจัด กลัวว่าจะถูกกู้หว่านเยว่ไล่ตามทัน

เมื่อนึกถึงการหลบซ่อนตัวตลอดในสองวันนี้ มู่หรงอวี้ก็รู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก

“ท่านอ๋อง ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี?” ลูกน้องหลายคนมองด้วยความความเศร้าโศก

พี่น้องมากมาย เหลือเพียงแค่พวกเขา

“ไปที่หมู่บ้านโซว่หวาง”

มู่หรงอวี้ยิ้มเยาะ “ข้าจะรอพวกเขาที่หมู่บ้านโซว่หวาง แล้วจัดการพวกเขาให้หมดในคราวเดียว!”

คิดว่าตัดแขนเขาไปข้างหนึ่ง แล้วเขาจะเป็นง่อยแล้วหรือ?

เขายังมีไพ่ตายใบสุดท้าย!

มู่หรงอวี้พาลูกน้องขี่ม้าออกไป โดยที่ไม่รู้เลยว่า

มีคนชุดดำคนหนึ่งแอบสะกดรอยตามเขาอยู่ข้างหลัง

“...”

“กงซุนจ่างเย่ใกล้ฟื้นแล้ว”

สองวันมานี้ กู้หว่านเยว่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวอยู่ในหอแห่งโอสถมาตลอด

หลังจากที่พบว่ากงซุนจ่างเย่ใกล้ฟื้นแล้ว ก็รีบย้ายเขากลับมาภายในห้อง

ในขณะเดียวกัน ก็ดึงเข็มทั้งหมดออกจากตัวเขาด้วย

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 490

    ความคิดของกู้หว่านเยว่ล่องลอยไปไกลนางสนใจนกวิเศษที่หนานหยางอ๋องพูดถึงมาก ในโลกนี้มีนกวิเศษอย่างนกหงส์เพลิงจริง ๆ หรือ? ถ้านกหงส์เพลิงมีอยู่จริง ใครได้มันไปก็คงสามารถบัญชาสรรพสัตว์ กลายเป็นราชาแห่งสรรพสัตว์จริง ๆ สินะ?กู้หว่านเยว่ตั้งสติ ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นแค่ข่าวลือ ภารกิจหลักตอนนี้คือไปที่เขตซีเป่ยเพื่อขัดขวางแผนการของฮ่องเต้ชั่วกู้หว่านเยว่คำนวณวันเวลาครู่หนึ่ง ตอนนี้ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องที่หมู่บ้านโซว่หวางยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร โอกาสรอดชีวิตของคนในหมู่บ้านโซว่หวางก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้นนางจึงเอ่ยขึ้นว่า “เรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้ ข้าไม่คิดจะรออีกแล้ว คืนนี้กลับไปเก็บของ พรุ่งนี้ไปที่หมู่บ้านโซว่หวางกันเถอะ”“ให้ข้าไปด้วย” กงซุนจ่างเย่ขอร้อง “ข้าจะไม่เป็นภาระให้พวกท่าน”ตั้งแต่เด็กจนโต เขาเป็นลูกชายคนเล็กที่ได้รับความรักมากที่สุดในครอบครัวครั้งนี้ เขาจะเป็นผู้แบกรับความรุ่งเรืองและความตกต่ำของหมู่บ้านโซว่หวางเขาต้องกลับไปช่วยท่านพ่อและพวกพี่สาวด้วยตัวเอง“ได้”กู้หว่านเยว่พยักหน้า“เจ้าเดินไม่ได้ แต่สามารถนั่งรถม้าได้ ถึงตอนนั้นพวกเราจะแยกกันไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 491

    “เคลื่อนพลผู้พิทักษ์แห่งจันทรา มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านโซว่หวาง”ผู้พิทักษ์แห่งจันทราเป็นองครักษ์ลับที่ซูจิ่งสิงสร้างให้กู้หว่านเยว่เป็นการส่วนตัวออกเดินทางไปยังหมู่บ้านโซว่หวางครั้งนี้ เขาไม่อยากเห็นกู้หว่านเยว่ได้รับอันตรายใด ๆดังนั้นจึงตัดสินใจออกคำสั่งผู้พิทักษ์แห่งจันทราล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย“นายท่านโปรดวางใจ พวกข้าจะคุ้มครองฮูหยินอย่างเต็มที่”คนสิบกว่าคนที่นำโดยชิงเหลียนคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพหลังจากจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว ซูจิ่งสิงก็กลับไปที่เตียง กอดกู้หว่านเยว่ไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะผล็อยหลับไปเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากทั้งสองรับประทานอาหารที่นางหยางทำให้เรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือทันทีเนื่องจากกงซุนจ่างเย่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมิ่งเหยียนก็เพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน ไม่ควรเร่งการเดินทางทั้งวันทั้งคืนดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจแบ่งกองกำลังออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มหนึ่งมีหมิงจูพร้อมด้วยกงซุนจ่างเย่และเมิ่งเหยียน โดยมีลั่วหยางคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ นั่งรถม้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีกกลุ่มหนึ่ง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงออกเดินทางตามลำพัง เพื่อไปให้ถึงโ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 492

    “น้องหญิง พวกเราบินอยู่บนท้องฟ้า หากมีคนเห็นเข้า จะไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประหลาดหรือ”หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ซูจิ่งสิงก็ถามด้วยความกังวลกู้หว่านเยว่หัวเราะขึ้นมาทันที “อย่ากังวล พวกเรากำลังบินสูงมาก ผู้คนบนพื้นดินจะมองเห็นเพียงจุดสีดำเล็ก ๆ ลอยผ่านไป อีกอย่างเมื่อคืนนี้ข้าได้วางแผนเส้นทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว”เส้นทางนี้จะไม่ผ่านเมือง แต่ตรงไปยังเขตภูเขาที่มีประชากรเบาบางโดยเฉพาะเช่นนี้จะขจัดความเป็นไปได้ที่จะถูกผู้คนสังเกตเห็นไปโดยปริยาย“แผนที่อยู่ตรงกลางระหว่างเรา ท่านลองเปิดมันดูสิ”ซูจิ่งสิงได้ยินเช่นนี้ก็หยิบแผนที่ขึ้นมา สังเกตดูสักครู่ก็พบว่า เส้นทางนี้ของกู้หว่านเยว่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบบ้านเรือนผู้คนเขาวางแผนที่ลง เมื่อมองลงไปก็เห็นภูเขาแม่น้ำและมหาสมุทรอยู่ใต้ฝ่าเท้า เพียงชั่วขณะหนึ่งภายในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างไร้ขอบเขต“น้องหญิง เจ้าสอนข้าขับเฮลิคอปเตอร์ได้ไหม? เวลาเจ้าเหนื่อย ข้าจะได้ทำแทนเจ้าได้”ซูจิ่งสิงไม่คุ้นเคยกับการนั่งที่นั่งผู้โดยสารโดยที่ไม่ทำอะไรเลย“ไม่ต้องรีบร้อน ต่อไปยังมีเวลาอีกมาก”ทั้งสองทำเหมือนไม่ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 493

    เนื่องจากภัยตั๊กแตนนั้นรุนแรงเหลือเกิน ตั๊กแตนฝูงใหญ่บินเข้ามา ถึงขั้นโจมตีมนุษย์ทั้งสองต้องหาที่หลบภัยในหมู่บ้านก่อน“ภัยตั๊กแตนครั้งนี้ร้ายแรงมาก มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?” กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วบาง ๆจิตสำนึกเข้าสู่มิติทันที เปิดภาพกลุ่มเมฆดู“เราขับมาทั้งคืน ที่แห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของฉีหลู่แล้ว”“ดูสภาพอากาศสิ” ซูจิ่งสิงเอ่ยเตือน “โดยทั่วไปภัยตั๊กแตนจะเกิดขึ้นเฉพาะในฤดูแล้งเท่านั้น”กู้หว่านเยว่รีบเปิดบันทึกสภาพอากาศ “ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ในเขตฉีหลู่มีวันท้องฟ้าแจ่มใสติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน”เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่าไม่มีวันที่ฝนตกเลย“ยิ่งไปกว่านั้นอุณหภูมิก็สูงขึ้นอย่างฉับพลัน สภาพอากาศเลวร้ายมาก”กู้หว่านเยว่เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก หลังลงจากเฮลิคอปเตอร์ นางก็รู้สึกถึงความแห้งแล้งในอากาศ“ไม่แปลกใจที่จะกระตุ้นให้เกิดภัยตั๊กแตน”กู้หว่านเยว่นึกถึงภัยน้ำท่วมและพายุหิมะที่รุนแรงในระหว่างเส้นทางเนรเทศตอนนี้เกิดภัยแล้งขึ้นอีกครั้ง อุณหภูมิสูงมาก“ภัยแล้งมาแทนที่อุทกภัย ส่งผลให้บริเวณน้ำตื้นในแม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่งโผล่ออกมา ตั๊กแตนแพร่พันธุ์ลุกลาม”ในใจซูจิ่งสิงยัง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 494

    พวกเขาเคยลองใช้มาหลายวิธีเหลือเกิน ทั้งหมดจบลงด้วยความล้มเหลวน่าเป็นห่วงจริง ๆ!แต่กลับเห็นกู้หว่านเยว่ยังนิ่งเฉย ก็เลยหยิบแอปเปิลผลหนึ่งออกมากัด“อย่ากังวล ถ้าไม่ได้ผล ข้าจะตัดหัวตัวเองมาเป็นลูกบอลให้ท่านเตะ”“เมียข้าบอกว่าได้ ก็ต้องได้สิ” ซูจิ่งสิงเชื่อมั่นในตัวกู้หว่านเยว่อย่างไม่มีเงื่อนไขหัวหน้าหมู่บ้านกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “แม่นางน้อยล้อเล่นแล้ว เจ้าพยายามช่วยพวกเรา แม้ว่ามันจะไม่ได้ผล ข้าก็ไม่สามารถตัดหัวเจ้าได้!”และหลังจากที่กู้หว่านเยว่บอกหลักการของการกำจัดตั๊กแตนกับเขา เขาก็รู้สึกว่าวิธีนี้เข้าท่าดี“ดูสิ มีฝูงตั๊กแตนมาอีกแล้ว!”จู่ ๆ ชาวบ้านก็ตะโกนเสียงดังทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง เห็นตั๊กแตนฝูงใหญ่บินมาจากทุกทิศทุกทางสำหรับตั๊กแตนพวกนี้ ทุกคนล้วนเกลียดเข้ากระดูกดำแต่ละคนหยิบไม้กวาดและมีดตัดฟืนขึ้นมา วาดท่าทางใส่ตั๊กแตน บางคนถึงกับสาดน้ำใส่ตั๊กแตก พยายามทำให้พวกมันจมน้ำตายน่าเสียดายที่มันไม่มีผลกระทบต่อฝูงตั๊กแตนเลยยิ่งไปกว่านั้น ฝูงตั๊กแตนยังมีแนวโน้มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ“จบแล้ว จบเห่แล้ว...”“ตั๊กแตนมากมายเช่นนี้ไม่ถูกกำจัด เมื่อตั๊กแตนกัดกินพืชผลหมดแล้ว ก็

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 495

    ภัยธรรมชาติรุนแรงเช่นนี้ นางแอบคิดจะดึงผู้คนมาสู่เจดีย์หนิงกู่“หากพวกท่านไม่มีเสบียงอาหาร หรือไม่สามารถอยู่รอดได้ ฉีหลู่นั้นอยู่ไม่ไกลจากเจดีย์หนิงกู่ พวกท่านสามารถไปขอพึ่งพิงที่เจดีย์หนิงกู่ได้”ก่อนที่นางจะจากไป ได้ทักทายผู้ว่าการอำเภอหลายคนในเจดีย์หนิงกู่แต่ผู้ประสบภัยทั้งหมดที่เข้ามาขอพึ่งพิง ไม่อนุญาตให้ขับไล่ออกไปจัดการให้อยู่ในศูนย์ผู้ประสบภัยในเมือง ให้พวกเขาไปซ่อมแซมถนนและเปิดเหมืองหัวหน้าหมู่บ้านครุ่นคิดในใจว่าเจดีย์หนิงกู่นั้นยากจนมากมิใช่หรือ?แต่เขาก็เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ“คำพูดของแม่นางน้อย ข้าจดจำไว้แล้ว”กู้หว่านเยว่เหลือบมองท้องฟ้า เวลานี้ดึกมากแล้ว พวกเขาไม่เหมาะที่จะอยู่ต่ออาศัยจังหวะที่หัวหน้าหมู่บ้านไปจัดระเบียบผู้คนและก่อกองไฟ นางจึงบินจากไปพร้อมกับซูจิ่งสิงอย่างเงียบ ๆหลังจากทั้งสองมาถึงที่ว่างแห่งหนึ่ง กู้หว่านเยว่ก็เอาเฮลิคอปเตอร์ออกมาอีกครั้งหลังจากนั้น ในหมู่บ้านก็มีแสงไฟทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากู้หว่านเยว่ประเมินขอบเขตของภัยตั๊กแตนระบาดในครั้งนี้ พืชผลส่วนใหญ่ถูกกัดกินหมด แม้แต่ใบของพืชในป่าก็ถูกจิกถอนจนหมดนั่นก็หมายความว่า แม้ว่าในช่วงเวลาข้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 496

    หมาป่านักรบเหล่านี้ ตอนนี้น่าจะถูกควบคุมโดยฮ่องเต้แล้ว“ไม่ต้องกลัว พวกเราหายตัวไปก็ได้”กู้หว่านเยว่ประเมินระยะทางด้วยสายตา การหายตัวของนางน่าจะสามารถไปถึงในเมืองได้สองสามีภรรยาสบตากัน กู้หว่านเยว่ใช้การหายตัวพาซูจิ่งสิงเข้ามาในเมืองโดยตรงทั้งสองลงสู่พื้นอย่างราบรื่นภายในตรอกเล็ก ๆ กู้หว่านเยว่สังเกตการแต่งตัวของนางและซูจิ่งสิง“เพื่อความสะดวกในการทำงาน เรามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูเหมือนคนภาคตะวันตกเฉียงเหนือกันเถอะ ไม่เช่นนั้นทันทีที่ก้าวออกไป จะถูกคนอื่นจับได้”“น้องหญิงพูดมีเหตุผล” ซูจิ่งสิงรีบอธิบายการแต่งกายของคนภาคตะวันตกเฉียงเหนือให้ฟัง“ข้าเคยมาอยู่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือพักหนึ่ง พอจะคุ้นเคยกับที่นี่อยู่บ้าง สำเนียงที่นี่แตกต่างจากพวกเรา ดังนั้นน้องหญิง เจ้าพยายามอย่าพูดดีกว่า”“ตกลง”กู้หว่านเยว่รีบพยักหน้า ในขณะเดียวกันก็ค้นหาเสื้อผ้าของภาคตะวันตกเฉียงเหนือออกมาจากมิติ ทั้งสองเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วเมื่อมองดูกันและกันอีกครั้ง บนศีรษะของทั้งคู่ก็คาดผ้าสีเงิน สง่าผ่าเผย กลายเป็นชาวภาคตะวันตกเฉียงเหนือท้องถิ่นสองคน“พวกเราออกไปกันเถอะ”เชื่อว่าในเวลานี้แม้แต่ทหารลา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 497

    กู้หว่านเยว่จับมือซูจิ่งสิง เหาะเหินไปอย่างรวดเร็วทั้งสองสวมหน้ากากป้องกันแก๊สพิษ เผชิญหน้ากับผู้พิทักษ์ตลอดทาง จึงสาดผงพิษให้ผู้พิทักษ์หมดสติไปในส่วนลึกของห้องขัง มีชายร่างผอมคนหนึ่งถูกกักขังไว้“พวกท่าน?”ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ นี่เป็นเรือนจำใหญ่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่สุดในหลินซีโข่ว สองคนนี้บุกเข้ามาได้อย่างไร?“ท่านคือเฉินจิ่งเส้าใช่ไหม?”กู้หว่านเยว่พลิกดูหนังสือต้นฉบับ พบคำพูดไม่กี่คำที่กล่าวถึงสกุลเฉินในมุมหนึ่งสกุลเฉินและสกุลกงซุนคบหากันมาหลายชั่วอายุคน แต่เมื่อสกุลกงซุนเติบโตขึ้น สกุลเฉินก็ตกต่ำลงไปนับร้อยปีแล้วแต่สกุลกงซุนก็ไม่ได้รังเกียจคนจนชอบคนรวย ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงกับสกุลเฉินลูกหลานเกี่ยวดองกัน สนับสนุนซึ่งกันและกัน“ถูกต้อง”เฉินจิ่งเส้าพยักหน้า เมื่อเห็นใบหน้าของทั้งสองดูไม่มีเจตนาร้าย แทนที่จะตะโกนขอความช่วยเหลือ กลับถามว่า “พวกท่านเป็นใครมาจากไหน?”“พวกข้าเป็นมิตรกับสกุลกงซุน มาที่นี่เพื่อช่วยท่าน”ในเรือนจำใหญ่ไม่สะดวกจะพูดอะไร กู้หว่านเยว่เอากุญแจที่ได้มาจากตัวผู้คุมนักโทษมาเปิดประตูห้องขัง“ออกไปจากที่นี่แล้วค่อยว่

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1176

    “คนในครอบครัวของเจ้าตายกันหมดแล้วหรือ?”กู้หว่านเยว่ปวดใจกับเด็กคนนี้มาก จึงยื่นขนมอีกชิ้นให้เขา“ทุกคนตายหมดแล้วขอรับ เหลือเพียงข้าผู้เดียว”ครั้นนึกถึงเรื่องเสียใจ เสี่ยวถ่านก็มักจะก้มหน้าลง จากนั้นหยดน้ำตาก็ได้หลั่งรินออกมาจากดวงตาของเขาเขาคิดถึงท่านแม่“เอาละ หยุดร้องได้แล้ว แม้ว่าคนในครอบครัวของเจ้าจะตายกันหมดแล้ว แต่เจ้าก็ต้องใช้ชีวิตให้ดี”กู้หว่านเยว่ตักน้ำแกงไก่ให้เขา นางมักจะรู้สึกว่าสถานะของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่ธรรมดากิริยามารยาของเขาดูไม่เหมือนชาวบ้านธรรมดา จู่ ๆ ความคิดนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว“ประตูเมืองเปิดแล้ว!”ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ทันใดนั้นเสียงตะโกนระลอกหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอก จากนั้นความโกลาหลก็เกิดขึ้นขึ้นในฝูงชนที่ล้อมรอบ ทุกคนต่างทยอยกันเข้ามารวมตัวกันหน้าประตูเมือง“น้องหญิง เราเองก็เข้าเมืองกันเถอะ”ซูจิ่งสิงเปิดผ้าม่าน ก่อนจะกล่าวทักทายกู้หว่านเยว่ ไหน ๆก็จะเข้าเมืองแล้ว พวกเขาคงนั่งอยู่บนรถม้าไม่ได้อีก ต้องลงจากรถม้ามาตรวจสอบถึงจะถูก “เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่คว้ามือของเสี่ยวถ่านลงมาจากรถม้า และเดินมาต่อแถวอยู่ด้านหลังของกล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1175

    ไม่สู้สละตัวปัญหานี้ออกไปโดยเร็ว เขาจึงเริ่มร้อนใจ“เอาอย่างไร ข้าเสนอให้เจ้ายี่สิบตำลึง ตกลงเจ้าจะเอาหรือไม่เอา?”“ข้าเอา”ซูจิ่งสิงรับเงินมาจากมือของกู้หว่านเยว่ หลังจากนับจนครบยี่สิบตำลึงแล้วก็โยนให้บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นบุรุษวัยกลางคนผู้นั้นรับเงินไปด้วยความดีใจ เขาทำการตรวจสอบครู่หนึ่งจนมั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้ว ก็ไม่ได้สนใจทาสตัวน้อยนั้นอีก สะบัดก้นเดินจากไปทันที“ขอบคุณพวกท่านมาก” ทาสตัวน้อยมองไปทางซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง แต่นัยน์ตายังคงหวาดกลัวลางสังหรณ์กำลังบอกเขาว่าซูจิ่งสิงอันตรายมาก เขาไม่กล้าเข้าใกล้ซูจิ่งสิงเลยแม้แต่น้อย“เจ้าขึ้นรถม้าเถอะ”กู้หว่านเยว่กวักมือเรียกทาสตัวน้อย สองวันมานี้เวลาว่างนางก็มักจะเรียนรู้ภาษาของชาวทูเจวี๋ยจากซูจิ่งสิงอยู่เสมอ แม้ว่าจะยังออกเสียงได้เล็กน้อย แต่พอถูไถได้ไม่มีปัญหาทาสตัวน้อยเกิดความลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ยังปีนขึ้นรถม้า เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยความประหลาดใจ“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ใช่คนชั่ว”กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่าตัวเองเข้าไปยุ่งเรื่องของผู้อื่นทำไม บางทีอาจเพราะเห็นสายตาขอความช่วยเหลือจากทาสตัวน้อยผู้นั้น จึงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองก่อนหน้านั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1174

    นางรีบลืมตา ก็พบว่าพวกเขามาถึงคูเมืองแห่งหนึ่งแล้ว เมืองชิงซานประตูเมืองของเมืองชิงซานจะเปิดในเวลาแปดโมงเช้า ตอนนี้ยังเป็นเวลาเช้าตรู่ ดังนั้นซูจิ่งสิงจึงจอดรถม้าอยู่หน้าประตูเมืองชั่วคราวแต่เวลานี้บริเวณประตูเมืองชิงซาน ยังมีคนที่เดินทางมาถึงเช้าตรู่เหมือนกับพวกเขาอีกเป็นจำนวนมาก กำลังพักผ่อนอยู่บนพื้นที่โล่งรอบ ๆ หน้าประตู เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ดังมาจากด้านหลังของรถม้าพวกเขา กู้หว่านเยว่เบนสายตามองตาม กระทั่งเห็นเด็กน้อยหน้าตามอมแมมผมเผ้ายุ่งเหยิงคนหนึ่ง เกาะล้อรถของนางไม่ยอมปล่อย แต่ด้านหลังของเขา มีบุรุษวัยกลางคนฟาดเขาด้วยแส้อย่างโหดเหี้ยม“เกิดอะไรขึ้น?”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เมื่อครู่นางอยู่แต่ในห้วงมิติตลอด จึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นด้านนอก“เด็กหนุ่มผู้นี้วิ่งลงมาจากรถม้าของบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น”ซูจิ่งสิงมองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกระซิบข้างหูของนางเบา ๆ“ท่าทางจะเป็นทาสที่ซื้อตัวมา คงอยากหนี”“ได้โปรดพวกท่าน ช่วยข้าด้วย”ครั้นทาสตัวน้อยเห็นกู้หว่านเยว่ชะโงกหน้าออกมา จึงมองนางด้วยความตกใจ แต่นัยน์ตาแฝงไปด้วยการอ้อนวอนเดิมทีกู้หว่านเยว่ไม่อยากเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1173

    เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า รูม่านตาของเจ้าเมืองแห่งเมืองสือโม่เบิกกว้าง พลางส่งเสียงกรีดร้องคล้ายกับสตรีชั้นสูงที่กำลังถูกกระทำชำเราอย่างไรอย่างนั้น“รนหาที่ตายแท้ ๆ บุรุษและสตรีคู่นี้เป็นผู้ใดกัน?!”“เจ้าเมือง บัดนี้เราจะทำอย่างไรกันดี?”ทหารที่ดูโง่เขลาบางคนกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นกลัว เพียงครู่เดียว จวนของเจ้าเมืองก็ถูกกู้หว่านเยว่ถล่มจนไม่เหลือชิ้นดีทั้งเมืองสือโม่ตกอยู่ในความโกลาหลยิ่งกว่าเดิม!ซึ่งพอจะจินตนาการได้ว่าเรื่องของเมืองสือโม่ที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะต้องแพร่กระจายไปทั่วเมืองทูเจวี๋ยอย่างแน่นอน ไม่สิ อาจจะแพร่กระจายไปยังฝั่งของต้าฉีด้วย“ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าควรทำอย่างไร รีบจับพวกเขาให้ได้ก่อนเถอะ!”เจ้าเมืองโกรธที่ตัวเองไร้ความสามารถ ส่วนทหารคนอื่นได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น พวกเขาไม่มีปีก ดังนั้นจึงทำได้แค่มองนกหงส์เพลิงบินสูงขึ้นเรื่อย ๆ “จูเชวี่ย เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่มองไปยังเสบียงอาหารที่ถูกปล้นมาไว้ในห้วงมิติ ก่อนจะคลี่ยิ้มตาหยี นางลูบหัวของจูเชวี่ยเบา ๆ และออกคำสั่งให้จูเชวี่ยเร่งความเร็ว จากนั้นก็บินออกจากเมืองสือโม่ไปเจ้าเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status