แชร์

บทที่ 485

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
กู้หว่านเยว่ต้องการถามเรื่องนี้จากนางพอดี

เมื่อได้ยินดังนั้น ก็ตั้งใจฟังทันที

“หนึ่งเดือนก่อน กงซุนจ่างเย่พาข้าไปส่งที่เมืองเหยียนสุ่ย

อยู่ที่นั่นเพียงไม่กี่วัน จู่ ๆ ก็ได้รับข่าวลับจากหมู่บ้านโซว่หวาง

ขอให้เขารีบกลับไปที่หมู่บ้านโซว่หวาง”

หมิงจูจมดิ่งสู่ห้วงความทรงจำ

“เพราะตอนที่ล้อมปราบสกุลฮั่ว เขาได้ช่วยเหลือเอาไว้

เพื่อเป็นการตอบแทน ข้าจึงตัดสินใจเดินทางไปยังเขตซีเป่ยกับเขา กงซุนรีบร้อนมาก จึงเร่งเดินทางมาถึงเขตซีเป่ย”

อาจเป็นเพราะรู้ว่าหมู่บ้านโซว่หวางเกิดเรื่อง กงซุนจ่างเย่จึงไม่ได้พาหมิงจูเข้าไปในเขตซีเป่ยพร้อมกับเขา

แต่ให้หมิงจูรออยู่ที่เมืองชายแดนเล็ก ๆ ในเขตซีเป่ย ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยตามปกติ เขาก็จะมารับนางแล้วออกไป

ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ ก็จะส่งจดหมายทางนกพิราบ ให้นางรีบจากไปทันที

“ข้ารออยู่ที่เมืองเล็ก ๆ นั่นเป็นเวลาห้าวัน ก็ไม่ได้รับข่าวอะไรเลย” หมิงจูกล่าวต่อ

“ข้าเดาว่ากงซุนน่าจะเจอเรื่องใหญ่ จึงปลอมตัวแล้วแอบเข้าไปในเขตซีเป่ย” พูดถึงตรงนี้ จู่ ๆ สีหน้าของนางก็กลายเป็นดูเจ็บปวดอย่างมาก

น้ำตาคลอ “อาจเป็นเพราะสวรรค์คุ้มครอง ข้าบังเอิญเจอกงซุนที่บาดเจ็บสาหัส เขาเกือ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 486

    “ต้องไม่ปล่อยให้ฮ่องเต้ทำแบบนี้อีกต่อไป”หนานหยางอ๋องดูตื่นเต้นเล็กน้อย“แบบนี้ จะทำให้โชคชะตาของแคว้นต้าฉีเสียหาย ประชาชนต้องเดือดร้อน”พูดจบ เขาก็รีบเงยหน้ามองซูจิ่งสิง ซูจิ่งสิงเข้าใจความหมายของหนานหยางอ๋องทันที“หว่านเยว่ พวกเราไปที่หมู่บ้านโซว่หวางกันเถอะ”กู้หว่านเยว่คิดคำนวณ เวลานี้การก่อสร้างในเจดีย์หนิงกู่เกือบจะเข้าที่เข้าทางแล้ว น้ำมันก๊าดก็ถูกขนส่งมาถึงแล้วถึงพวกเขาจะจากไป เจดีย์หนิงกู่ก็จะไม่ได้รับความเสียหายในเร็ว ๆ นี้หนานหยางอ๋องรีบเอ่ยขึ้น “ข้ามีลูกน้องเก่าจำนวนมาก พวกเขากำลังทยอยเดินทางมาที่นี่รอให้พวกเขามาถึง เจดีย์หนิงกู่ก็จะกลายเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง พวกเขาทุกคนจะปกป้องเจดีย์หนิงกู่”กู้หว่านเยว่สูดหายใจเข้าลึก ๆ วางใจได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว“ขอบพระทัยหนานหยางอ๋อง”หนานหยางอ๋องรู้สึกตื้นตันใจ รีบกล่าวขึ้น “พวกเจ้าเป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป พวกเจ้าคือนายของข้ายิ่งไปกว่านั้น การไปที่หมู่บ้านโซว่หวางครั้งนี้ ข้าก็จะสนับสนุนพวกเจ้า”หนานหยางอ๋องปรารถนาเพียงสิ่งเดียวคือ แคว้นต้าฉีเจริญรุ่งเรือง ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข“รอให้กงซุนจ่างเย่ฟ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 487

    ความคิดนี้อยู่ในใจเพียงชั่วครู่เท่านั้น ในเมื่อกู้หว่านเยว่แต่งงานมีสามีแล้ว ต่อให้อวิ๋นมู่ปรารถนาในใจมากแค่ไหน เขาก็จะยับยั้งชั่งใจเอาไว้“เฮ้อ เจ้านี่นะ ข้าควรจะหาภรรยาให้เจ้าตั้งแต่เนิ่น ๆ ”นายท่านผู้เฒ่าอวิ๋นมองทะลุความในใจของอวิ๋นมู่ จากนั้นส่ายหัวอย่างจนปัญญาเจ้าเด็กไม่เอาไหนนี่ เหตุใดถึงไม่รู้จักควบคุมหัวใจตัวเอง?“ลูกไม่ขออะไรมาก ขอแค่ให้นางปลอดภัยราบรื่น มีความสุข สุขภาพแข็งแรง”อวิ๋นมู่ดูสดใส รอยยิ้มเปี่ยมไปด้วยความสุขนายท่านผู้เฒ่าอวิ๋นสีหน้าหม่นหมอง หากนายหญิงกู้ยังไม่แต่งงานหรือหย่าร้างแล้ว เขาคงจะสนับสนุนเต็มที่แต่เห็นได้ชัดว่านางและซูจิ่งสิงรักกันมาก“แย่แล้ว ๆ สายเลือดสกุลอวิ๋นของข้าคงไม่ได้สิ้นสุดตรงนี้หรอกนะ?” นายท่านผู้เฒ่าอวิ๋นคิดวางแผนในใจ ต้องหาภรรยาดี ๆ ให้กับอวิ๋นมู่ให้ได้ภายในห้อง กู้หว่านเยว่เปลี่ยนใจ “ท่านพี่ ข้าว่าจะให้คนสร้างถังเหล็กขึ้นมา เพื่อใส่น้ำมันก๊าด”เดิมทีนางคิดจะซื้อถังเหล็กจำนวนมาก แล้วโยนไปให้พวกชาวหู บอกทุกคนว่าซื้อถังเหล็กพวกนั้นมาจากชาวหูแต่พอคิดดูดี ๆ แบบนี้เหมือนปล่อยให้ชาวหูได้ประโยชน์มากเกินไปการสร้างเครื่องมือเหล็กไม่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 488

    จี้ฮั่นโม่หายใจถี่ “หนังสือเล่มนี้มาจากที่ใด?”“ใต้เท้าจี้แค่บอกว่าอยากจะรับงานนี้หรือไม่”ระหว่างทาง ทั้งสองคนได้พูดคุยเกี่ยวกับความสามารถของจี้ฮั่นโม่ ซูจิ่งสิงค่อนข้างเห็นด้วยดังนั้น กู้หว่านเยว่จึงกล้ามอบหมายเรื่องนี้ให้เขาในขณะเดียวกัน ก็เพราะกู้หว่านเยว่อยากจะขี้เกียจบ้าง ถ้าทำเองทุกอย่าง นางจะไม่เหนื่อยตายหรอกหรือยิ่งถึงช่วงหลัง ๆ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการลูกน้อง“อยาก ข้าอยากรับแน่นอน!”จี้ฮั่นโม่ก็มีความมุ่งมั่นเช่นกัน“แต่ว่า ภรรยาและลูกของข้า...”จี้ฮั่นโม่รู้สึกละอายใจเล็กน้อยตอนนี้เขาไม่มีเบี้ยหวัดแล้ว เงินที่พกมาตอนหลบหนีก็ใช้ไปจนเกือบหมดกู้หว่านเยว่มองเห็นถึงความลำบากของเขา จึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะจ่ายเงินเดือนให้ท่านถ้าท่านกังวลว่าภรรยาและลูกของท่านจะไม่มีใครดูแล ก็จ้างคนรับใช้ให้พวกเขา”“นี่ จริงหรือ?”จี้ฮั่นโม่ดีใจอย่างยิ่งสิ่งเดียวที่เขากังวลก็คือเรื่องนี้ กู้หว่านเยว่ก็นึกถึงเช่นกัน เขาจึงไม่ลังเลอีกต่อไป“เรื่องนี้ มอบหมายให้ข้า ข้าจะทำให้ดีที่สุด!”ทั้งสองคนคุยกันเรื่องเงินเดือนอีกสักหน่อย กู้หว่านเย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 489

    “แม้แต่แขนของข้า ก็ถูกพวกเขาฟันขาดความแค้นอันใหญ่หลวงนี้ ข้าจะไม่มีวันลืม!”ดวงตาของมู่หรงอวี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ราวกับปีศาจที่ปีนขึ้นมาจากนรกหลังจากที่หนีออกมาจากภูเขาหิมะ เขาก็ไม่กล้าหยุดพักแม้แต่วินาทีเดียวหนีออกมาจากเจดีย์หนิงกู่เหมือนหมาจรจัด กลัวว่าจะถูกกู้หว่านเยว่ไล่ตามทันเมื่อนึกถึงการหลบซ่อนตัวตลอดในสองวันนี้ มู่หรงอวี้ก็รู้สึกอับอายขายหน้าอย่างมาก“ท่านอ๋อง ต่อไปพวกเราจะทำอย่างไรดี?” ลูกน้องหลายคนมองด้วยความความเศร้าโศกพี่น้องมากมาย เหลือเพียงแค่พวกเขา“ไปที่หมู่บ้านโซว่หวาง”มู่หรงอวี้ยิ้มเยาะ “ข้าจะรอพวกเขาที่หมู่บ้านโซว่หวาง แล้วจัดการพวกเขาให้หมดในคราวเดียว!”คิดว่าตัดแขนเขาไปข้างหนึ่ง แล้วเขาจะเป็นง่อยแล้วหรือ?เขายังมีไพ่ตายใบสุดท้าย!มู่หรงอวี้พาลูกน้องขี่ม้าออกไป โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีคนชุดดำคนหนึ่งแอบสะกดรอยตามเขาอยู่ข้างหลัง“...”“กงซุนจ่างเย่ใกล้ฟื้นแล้ว”สองวันมานี้ กู้หว่านเยว่คอยสังเกตความเคลื่อนไหวอยู่ในหอแห่งโอสถมาตลอดหลังจากที่พบว่ากงซุนจ่างเย่ใกล้ฟื้นแล้ว ก็รีบย้ายเขากลับมาภายในห้องในขณะเดียวกัน ก็ดึงเข็มทั้งหมดออกจากตัวเขาด้วย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 490

    ความคิดของกู้หว่านเยว่ล่องลอยไปไกลนางสนใจนกวิเศษที่หนานหยางอ๋องพูดถึงมาก ในโลกนี้มีนกวิเศษอย่างนกหงส์เพลิงจริง ๆ หรือ? ถ้านกหงส์เพลิงมีอยู่จริง ใครได้มันไปก็คงสามารถบัญชาสรรพสัตว์ กลายเป็นราชาแห่งสรรพสัตว์จริง ๆ สินะ?กู้หว่านเยว่ตั้งสติ ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็เป็นแค่ข่าวลือ ภารกิจหลักตอนนี้คือไปที่เขตซีเป่ยเพื่อขัดขวางแผนการของฮ่องเต้ชั่วกู้หว่านเยว่คำนวณวันเวลาครู่หนึ่ง ตอนนี้ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องที่หมู่บ้านโซว่หวางยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร โอกาสรอดชีวิตของคนในหมู่บ้านโซว่หวางก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้นนางจึงเอ่ยขึ้นว่า “เรื่องนี้จะรอช้าไม่ได้ ข้าไม่คิดจะรออีกแล้ว คืนนี้กลับไปเก็บของ พรุ่งนี้ไปที่หมู่บ้านโซว่หวางกันเถอะ”“ให้ข้าไปด้วย” กงซุนจ่างเย่ขอร้อง “ข้าจะไม่เป็นภาระให้พวกท่าน”ตั้งแต่เด็กจนโต เขาเป็นลูกชายคนเล็กที่ได้รับความรักมากที่สุดในครอบครัวครั้งนี้ เขาจะเป็นผู้แบกรับความรุ่งเรืองและความตกต่ำของหมู่บ้านโซว่หวางเขาต้องกลับไปช่วยท่านพ่อและพวกพี่สาวด้วยตัวเอง“ได้”กู้หว่านเยว่พยักหน้า“เจ้าเดินไม่ได้ แต่สามารถนั่งรถม้าได้ ถึงตอนนั้นพวกเราจะแยกกันไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 491

    “เคลื่อนพลผู้พิทักษ์แห่งจันทรา มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านโซว่หวาง”ผู้พิทักษ์แห่งจันทราเป็นองครักษ์ลับที่ซูจิ่งสิงสร้างให้กู้หว่านเยว่เป็นการส่วนตัวออกเดินทางไปยังหมู่บ้านโซว่หวางครั้งนี้ เขาไม่อยากเห็นกู้หว่านเยว่ได้รับอันตรายใด ๆดังนั้นจึงตัดสินใจออกคำสั่งผู้พิทักษ์แห่งจันทราล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย“นายท่านโปรดวางใจ พวกข้าจะคุ้มครองฮูหยินอย่างเต็มที่”คนสิบกว่าคนที่นำโดยชิงเหลียนคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพหลังจากจัดเตรียมทุกอย่างแล้ว ซูจิ่งสิงก็กลับไปที่เตียง กอดกู้หว่านเยว่ไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะผล็อยหลับไปเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากทั้งสองรับประทานอาหารที่นางหยางทำให้เรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจออกเดินทางไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือทันทีเนื่องจากกงซุนจ่างเย่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมิ่งเหยียนก็เพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน ไม่ควรเร่งการเดินทางทั้งวันทั้งคืนดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจแบ่งกองกำลังออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มหนึ่งมีหมิงจูพร้อมด้วยกงซุนจ่างเย่และเมิ่งเหยียน โดยมีลั่วหยางคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ นั่งรถม้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีกกลุ่มหนึ่ง กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงออกเดินทางตามลำพัง เพื่อไปให้ถึงโ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 492

    “น้องหญิง พวกเราบินอยู่บนท้องฟ้า หากมีคนเห็นเข้า จะไม่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์ประหลาดหรือ”หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว ซูจิ่งสิงก็ถามด้วยความกังวลกู้หว่านเยว่หัวเราะขึ้นมาทันที “อย่ากังวล พวกเรากำลังบินสูงมาก ผู้คนบนพื้นดินจะมองเห็นเพียงจุดสีดำเล็ก ๆ ลอยผ่านไป อีกอย่างเมื่อคืนนี้ข้าได้วางแผนเส้นทางไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือเอาไว้เรียบร้อยแล้ว”เส้นทางนี้จะไม่ผ่านเมือง แต่ตรงไปยังเขตภูเขาที่มีประชากรเบาบางโดยเฉพาะเช่นนี้จะขจัดความเป็นไปได้ที่จะถูกผู้คนสังเกตเห็นไปโดยปริยาย“แผนที่อยู่ตรงกลางระหว่างเรา ท่านลองเปิดมันดูสิ”ซูจิ่งสิงได้ยินเช่นนี้ก็หยิบแผนที่ขึ้นมา สังเกตดูสักครู่ก็พบว่า เส้นทางนี้ของกู้หว่านเยว่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบบ้านเรือนผู้คนเขาวางแผนที่ลง เมื่อมองลงไปก็เห็นภูเขาแม่น้ำและมหาสมุทรอยู่ใต้ฝ่าเท้า เพียงชั่วขณะหนึ่งภายในใจก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่างไร้ขอบเขต“น้องหญิง เจ้าสอนข้าขับเฮลิคอปเตอร์ได้ไหม? เวลาเจ้าเหนื่อย ข้าจะได้ทำแทนเจ้าได้”ซูจิ่งสิงไม่คุ้นเคยกับการนั่งที่นั่งผู้โดยสารโดยที่ไม่ทำอะไรเลย“ไม่ต้องรีบร้อน ต่อไปยังมีเวลาอีกมาก”ทั้งสองทำเหมือนไม่ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 493

    เนื่องจากภัยตั๊กแตนนั้นรุนแรงเหลือเกิน ตั๊กแตนฝูงใหญ่บินเข้ามา ถึงขั้นโจมตีมนุษย์ทั้งสองต้องหาที่หลบภัยในหมู่บ้านก่อน“ภัยตั๊กแตนครั้งนี้ร้ายแรงมาก มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?” กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วบาง ๆจิตสำนึกเข้าสู่มิติทันที เปิดภาพกลุ่มเมฆดู“เราขับมาทั้งคืน ที่แห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของฉีหลู่แล้ว”“ดูสภาพอากาศสิ” ซูจิ่งสิงเอ่ยเตือน “โดยทั่วไปภัยตั๊กแตนจะเกิดขึ้นเฉพาะในฤดูแล้งเท่านั้น”กู้หว่านเยว่รีบเปิดบันทึกสภาพอากาศ “ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า ในเขตฉีหลู่มีวันท้องฟ้าแจ่มใสติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งเดือน”เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่าไม่มีวันที่ฝนตกเลย“ยิ่งไปกว่านั้นอุณหภูมิก็สูงขึ้นอย่างฉับพลัน สภาพอากาศเลวร้ายมาก”กู้หว่านเยว่เช็ดเหงื่อบนหน้าผาก หลังลงจากเฮลิคอปเตอร์ นางก็รู้สึกถึงความแห้งแล้งในอากาศ“ไม่แปลกใจที่จะกระตุ้นให้เกิดภัยตั๊กแตน”กู้หว่านเยว่นึกถึงภัยน้ำท่วมและพายุหิมะที่รุนแรงในระหว่างเส้นทางเนรเทศตอนนี้เกิดภัยแล้งขึ้นอีกครั้ง อุณหภูมิสูงมาก“ภัยแล้งมาแทนที่อุทกภัย ส่งผลให้บริเวณน้ำตื้นในแม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่งโผล่ออกมา ตั๊กแตนแพร่พันธุ์ลุกลาม”ในใจซูจิ่งสิงยัง

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1424

    จากเนื้อหาที่ซูจิ่งสิงเขียนไว้ในจดหมาย บอกไว้ว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่ได้ข้ามแม่น้ำมู่ตันโดยสมบูรณ์แล้ว บัดนี้กำลังมุ่งหน้าสู่ชายฝั่งของกองทัพจากราชสำนักที่อยู่ตรงข้ามกับแม่น้ำมู่ตันกองทัพของทั้งสองฝ่ายต่างก็ร่วมบรรเลงเพลงรบด้วยกัน เพราะฝั่งของเรามีดินปืน ทำให้ศัตรูพ่ายแพ้สงครามถึงสองครั้งสงครามยืดเยื้ออย่างน้อยครึ่งเดือน ในที่สุดกองทัพที่มีทหารนับแสนคนของราชสำนักก็ได้ต้องถอยทัพออกจากแม่น้ำมู่ตันหลังจากที่กู้หว่านเยว่อ่านจบแล้ว มุมปากก็ได้กระตุกยิ้มอย่างชื่นชมนางรายงานสถานการณ์ของเมืองเหยาให้ซูจิ่งสิงรับรู้แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องการบอกอีกฝ่ายว่าตอนนี้ตัวเองปลอดภัยดี เขาไม่ต้องเป็นห่วง รับมือกับศึกอย่างสบายใจได้เลยเมืองเหยาเกิดหายนะอย่างรุนแรง นางต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยฟื้นฟูเหตุการณ์หลังสงครามหลังจากเขียนจดหมายเสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ก็นำม้วนกระดาษผูกติดกับขาของนกพิราบทองคำ“ไปเถอะ ไปหาเจ้าของของเจ้า”นกพิราบทองคำกางปีกโผบินออกไป“ฮูหยินคิดถึงท่านอ๋องใช่หรือไม่เจ้าคะ?”ชิงเหลียนเห็นกู้หว่านเยว่ที่กำลังเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วปิดปากแอบหัวเราะกู้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1423

    “พี่สาม?”เซวียฉิงเบิกตากว้างด้วยแววตาหม่นหมอง “ที่พี่สามห่างเหินต่อข้า เป็นเพราะข้าและท่านพ่อท่านแม่หนีออกจากเมืองใช่หรือไม่เจ้าคะ?”ฮั่วจี๋หยุดชะงักฉับพลัน “เหตุใดถึงพูดเช่นนี้?”“ไม่อย่างนั้นชิงเอ๋อร์คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าตนเองทำอะไรถึงทำให้พี่สามไม่สนใจชิงเอ๋อร์ ทั้งที่ก่อนหน้านั้น....”เซวียฉิงยังพยายามจะอธิบาย ฮั่วจี๋จึงหันไปมองนางแวบหนึ่ง“เซวียฉิง เรื่องบางเรื่องข้าไม่อยากพูดถึง”สายตาที่เฉียบคมนั้นทำให้หัวใจของเซวียฉิงเต้นตึกตัก หรือว่าพี่สามจะรู้เรื่องในวันนั้น?เป็น...เป็นไปไม่ได้ท่านแม่กำชับอย่างหนักแน่น ห้ามใครพูดเรื่องนั้นออกมา“พี่สาม คนในตระกูลฮั่วล้วนตายในสงคราม ข้ารู้ว่าสภาพจิตใจของท่านแย่เพียงใด เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าค่อยมาหาท่านใหม่นะเจ้าคะ”เซวียฉิงไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา จึงหมุนตัวเตรียมกลับ“อย่าลืมรับโทษ”ฮั่วจี๋กล่าวเตือนเพียงสั้น ๆ เซวียฉิงพยายามอดกลั้นเพื่อไม่ให้ทะเลาะกัน จากนั้นก็เดินมาคุกเข่าตรงโถงทางเดินอย่างไม่เต็มใจแต่หลังจากที่ฮั่วจี๋ไล่เซวียฉิงออกไปแล้ว เขาก็พยายามอดกลั้นความเจ็บปวดจากบาดแผล และลงจากเตียง“ท่านอ๋อง ท่านจะไปไหนขอรับ?” เด็กรั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1422

    นางกล่าวเพียงไม่กี่ประโยค จากนั้นหยดน้ำตาก็หลั่งรินออกมาท่าทางของนางดูเสแสร้งแต่เจ็บจริง“หากข้าทำตรงไหนไม่ถูกต้อง ข้าขอโทษเจ้าด้วย เราคุยกันดี ๆ ก็ได้ เหตุใดจะต้องลงไม้ลงมือกันด้วยเล่า?”เซวียฉิงคิดว่ากู้หว่านเยว่คือเจียงม่านที่ช่วยฮั่วจี๋ จึงตั้งใจจะใส่ร้ายนาง ให้นางรู้สึกอับอายกู้หว่านเยว่มองนางด้วยความเอือมระอา โดยไม่กล่าวสิ่งใดชิงเหลียนจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ถึงได้กล้ารุดหน้าเข้ามาทักทายฮูหยินของข้า?”นางย่อกายทำความเคารพกู้หว่านเยว่อย่างนอบน้อม“ฮูหยินของข้าคือพระชายาเจิ้นเป่ย แล้วเจ้าเป็นใคร?”“พระชายาเจิ้นเป่ย?”เซวียฉิงมองไปทางกู้หว่านเยว่ด้วยความตกใจ นางจำผิดคนอย่างนั้นหรือ?“ข้า...ข้าไม่รู้”นางตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้ากู้หว่านเยว่“พระชายาทรงระงับความโกรธด้วยเถิด ข้าน้อยไม่รู้ฐานะของท่านถึงได้ล่วงเกินท่านเช่นนี้”ในตอนที่นางเข้ามานั้น เดิมทีคิดว่ากู่เหว่านเยว่คือสตรีที่ล่อลวงฮั่วจี๋นางคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้คือพระชายาเจิ้นเป่ยที่เลื่องลือไปทั่วเมืองพระชายาที่ไหนจะแต่งกายเรียบ ๆ เช่นนี้ล่ะ?“ข้าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1421

    จู่ ๆ ชิงเหลียนก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ จึงรีบกล่าวเตือน เมื่อวานนางเห็นเจียงม่านเดินออกมา ยามนั้นนางกำลังช่วยฮูหยินจัดหาที่ทางให้คุณหนูหวัง จึงทำได้แค่ระแวดระวัง ไม่ได้เข้าไปขวางแต่อย่างใดเจียงม่านไม่ใช่คนของพวกเขา นางเองก็คงเข้าไปขวางไม่ได้ “นางมุ่งหน้าไปทางไหน?”ฮั่วจี๋มองไปทางชิงเหลียนด้วยความร้อนใจจนแทบจะกลิ้งลงมาจากเตียง“เรื่องนี้ ข้าน้อยเองก็ไม่รู้เจ้าค่ะ”ชิงเหลียนส่ายหน้า “แค่เห็นเจียงม่านออกมาจากจวน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ส่วนจะไปที่ไหนนั้น ข้าน้อยกำลังยุ่งกับงานของตัวเอง จึงไม่ได้เก็บมาใส่ใจเจ้าค่ะ”“มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกอย่างนั้นหรือ?”สีหน้าของฮั่วจี๋ฉายแววตื่นตระหนก ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดถึงสถานที่ทิศตะวันตกที่นางพอจะไปได้แต่หลังจากผ่านไปครึ่งค่อนวัน ก็ยังคิดหาคำตอบไม่ได้กระทั่งตอนนี้ เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองนั้นแทบไม่รู้จักเจียงม่านเลยนอกจากชื่อของนางแล้ว บ้านของนาง อายุของนาง แต่งงานแล้วหรือไม่นั้นก็แทบไม่รู้อะไรเลยเขามีสีหน้าละอายใจ“ในเมื่อพระชายาไม่รู้ว่าเจียงม่านอยู่ที่ไหน เช่นนั้นข้าน้อยก็ไม่ขอรบกวนพระชายาแล้วขอรับ”ทันทีที่ฮั่วจี๋ไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1420

    อาวุธของพวกโจรถูกริบไปจนหมด แต่ละคนจึงมือเปล่าพลธนูบนกำแพงเมืองที่ต้านทานการบุกเมือง ไม่มีธนูแล้ว เหลือเพียงถุงธนูที่ว่างเปล่า“แย่แล้ว มีไส้ศึก!”มีคนตะโกนเสียงดัง ประตูเมืองถูกเปิดแล้วนอกเมืองมีทหารกล้าหนึ่งพันนายของหนานหยางอ๋องที่ซุ่มอยู่แต่แรกบุกเข้ามา“บุก!”“ยึดเมืองเหยา!”“บุกเข้าไป!”ภายในเมืองเต็มไปด้วยแสงไฟ เสียงร้องดังตะโกนไปทั่วฟ้าสางแล้วสงครามก็จบลงแล้วเมืองเหยาหลังสงคราม นองเลือดเละเทะพวกโจรแพ้แล้ว กู้หว่านเยว่กับหนานหยางอ๋องพาทหารกล้าบุกเข้าไป อีกทั้งยังมีสวีซื่อฉวนร่วมมืออยู่ด้านในทำให้พวกโจรแพ้อย่างรวดเร็วทหารเจดีย์หนิงกู่ยึดเมืองเหยาได้แล้วบนกำแพงเมืองเปลี่ยนเป็นธงของเจิ้นเป่ยอ๋องคนชราเด็กสตรีถูกกู้หว่านเยว่ปล่อยตัวออกมาเหล่าหญิงสาวที่ถูกย่ำยี คุมขังอยู่ในจวนเจ้าเมือง ล้วนถูกปล่อยตัวกลับบ้านเมืองเหยาหลังสงครามต้องสร้างขึ้นใหม่กู้หว่านเยว่สั่งให้เปิดยุ้งฉาง แจกจ่ายเสบียงแก่ชาวบ้านในเมืองให้ทางการรวบรวมจำนวนคนตายและบาดเจ็บ จ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวที่ประสบภัยว่าจ้างชาวบ้านให้เข้าร่วมการก่อสร้าง ซ่อมแซมกำแพงเมือง จวน และสิ่งปลูกสร้าง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1419

    อาจเพราะเห็นกู้หว่านเยว่เป็นสตรีเช่นกัน พวกหญิงสาวจึงไม่ได้กลัวมากนัก“จอมยุทธ์หญิง ท่าน ท่านมาช่วยพวกเราจริงหรือ?”มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ค่อนข้างใจกล้า เอ่ยถามอย่างระวัง“ถูกต้อง”กู้หว่านเยว่ปลอบประโลม“องครักษ์ข้างนอกถูกข้าฆ่าตายหมดแล้ว อีกเดี๋ยวหลังจากพวกเจ้าออกไป จงไปหาห้องมิดชิดซ่อนตัวซะจำไว้ให้ดี ห้ามออกมาเด็ดขาด รอให้ข้างนอกปลอดภัยแล้วค่อยออกมา”กู้หว่านเยว่นึกถึงบางอย่าง“ใช่สิ พวกเจ้ารู้จักหญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อหวังหรานเอ๋อร์หรือไม่?”จู่ๆ นางนึกขึ้นได้ว่าจางเอ้อร์ไหว้วานให้ช่วยตามหาคนหญิงสาวที่เอ่ยขึ้นเมื่อครู่ดวงตาฉายแววแปลกใจ มองกู้หว่านเยว่อย่างตะลึง“ท่านตามหาหวังหรานเอ๋อร์ทำไมหรือ?”กู้หว่านเยว่นำป้ายหยกออกมา“ได้รับการไหว้วานจากสหาย ให้พานางกลับบ้าน”“ป้ายหยกของท่านพ่อ!”หวังหรานเอ๋อร์ทำหน้าดีใจ แล้วคว้าเอาป้ายหยกไปนางพลิกไปพลิกมาในมือ หลังจากแน่ใจว่าเป็นป้ายหยกของบิดา จึงรีบหันมองกู้หว่านเยว่“ข้าคือหวังหรานเอ๋อร์ นี่เป็นป้ายหยกของบิดาข้า ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”กู้หว่านเยว่สีหน้าประหลาดใจช่างบังเอิญเสียจริงนึกไม่ถึงว่าหญิงสาวที่ดูองอาจตรงหน้าก็คือห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1418

    หลังเวลาผ่านไปหนึ่งถ้วยชา ทั้งหกคนเดินออกมา แล้วคารวะกู้หว่านเยว่“พวกข้าน้อยคารวะพระชายา!”“ดี!”กู้หว่านเยว่ไม่แปลกใจกับบทสรุปเช่นนี้ นางเพียงโบกมือ“รีบลุกขึ้นเถอะ ข้ายังมีธุระสำคัญต้องหารือกับพวกเจ้า”สวีซื่อฉวนรีบพาทุกคนลุกขึ้นยืนกู้หว่นเยว่สั่งงานสวีซื่อฉวนสองเรื่องเรื่องที่หนึ่ง อีกเดี๋ยว นางจะฆ่าซ่งฉิน“ข้าอยากให้เจ้าอาศัยช่วงชุลมุนควบคุมเมืองเหยา แล้วสั่งให้คนเปิดประตูเมือง”เรื่องที่สอง ห้ามทำร้ายคนชรา เด็ก สตรีภายในเมือง“หากทำร้ายคนชรา เด็ก สตรี ให้ฆ่าได้ไม่ละเว้น!”“ขอรับ!”แต่เดิมสวีซื่อฉวนไม่ใช่คนที่ทำร้ายประชาชนอยู่แล้ว คำสั่งที่สองของกู้หว่านเยว่ ตรงกับเขาพอดีเพียงแต่“ข้างกายซ่งฉินมีองครักษ์ไม่น้อย จะสังหารเขาได้อย่างไร?”“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสนใจ”กู้หว่านเยว่มองหวังปี้ “เจ้ากลับไปส่งข่าวให้หนานหยางอ๋องเถอะ ยามจื่อให้เขาพาคนมาบุกยึดเมือง”“ขอรับ”สำหรับคำพูดของกู้หว่านเยว่ หวังปี้ไม่แคลงใจแม้แต่น้อยหลังได้รับคำสั่ง รีบจากไปทันที“พวกเจ้าเองก็รีบไปเตรียมการ ประมาณอีกหนึ่งชั่วยามให้หลัง เมื่อได้ข่าวการตายของซ่งฉิน ให้ลงมือทันที”เวลาที่กู้หว่าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1417

    ในเมื่อนับถือเจิ้นเป่ยอ๋อง ย่อมต้องรู้จักพระชายาของพวกเขาเป็นไปตามคาด สายตาของสวีซื่อฉวนหันมองกู้หว่านเยว่“ท่านคือพระชายาเจิ้นเป่ย?”สายตาของสวีซื่อฉวนเปลี่ยนเป็นเลื่อมใส ทำให้กู้หว่านเยว่แปลกใจไม่น้อย“หรือเจ้าเคยได้ยินชื่อข้ามาก่อน?”“ชื่อเสียงเรียงนามของพระชายาใครจะไม่เคยได้ยิน ท่านกับท่านอ๋องฝ่าฝันด้วยความรัก ไม่ทอดทิ้งท่านอ๋อง”กู้หว่านเยว่ยิ้ม แต่ไม่ตอบชื่อเสียงของสตรีในภายนอก อย่างไรก็เกิดขึ้นจากบุรุษ“สิ่งที่พระชายาของพวกเราทำได้ ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ชุดเกราะของสามเหล่าทัพ เสบียงของเจดีย์หนิงกู่ ล้วนเป็นฝีมือของพระชายา”หวังปี้ทำหน้าภาคภูมิใจ ทำให้สวีซื่อฉวนต้องหันมอง“ข้าน้อยละเลยเอง”คำพูดกู้หว่านเยว่เปลี่ยนทันใด “ในเมื่อเจ้านับถือเจิ้นเป่ยอ๋องขนาดนี้ เหตุใดไม่พาลูกน้องไปเข้าร่วมกับเขา กลับเข่นฆ่าพวกชาวบ้านในเมืองเหยา?”ใบหน้าสวีซื่อฉวนฉายแววละอายใจ“เพราะข้ามีคดีติดตัว”เดิมทีสวีซื่อฉวนก็เป็นชาวนาที่ขยันทำมาหากินเนื่องด้วยร่างกายแข็งแรงกำยำ ฝีมือไม่เลว เคยไปเป็นบ่าวในครอบครัวใหญ่อยู่ช่วงหนึ่งสรุปคุณชายใหญ่ครอบครัวนั้นเป็นคนเกกมะเหรกเกเร“มีครั้งหนึ่ง เข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1416

    เดิมทีหญิงสาวนึกว่าตัวเองจะได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่คิดว่ากลับเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน“เจ้า”สวีซื่อฉวนอยากก้าวไปข้างหน้า แต่ถูกคนของถูเอ้อร์ขวางไว้“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”คนข้างหลังเขาก็ร้อนใจเช่นกัน เมื่อเห็นว่ากำลังจะตีกับถูเอ้อร์ จู่ๆ สวีซื่อฉวนเอ่ยขึ้น “ถอยให้หมด พวกเราไป”“หัวหน้ารอง...” หลายคนไม่พอใจ“ไป”สวีซื่อฉวนหันมองใบหน้าคนชั่วได้ใจของถูเอ้อร์แวบหนึ่ง แล้วกำหมัดแน่น พาคนของตัวเองจากไปอย่างเงียบเชียบ“ถุย คิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้ารองจริงๆ หรือ”ถูเอ้อร์ถุยน้ำลายใส่แผ่นหลังเขาที่จากไป แล้วลากหญิงสาวที่เหลือออกไปหลังจากพวกเขาไปหมดแล้ว บนหลังคามีคนกระโดดลงมาสองคนซึ่งก็คือกู้หว่านเยว่กับหวังปี้ที่ดูอยู่เมื่อครู่“ดูท่าภายในของโจรพวกนี้ ก็ไม่ได้สามัคคีกันมากนัก”หวังปี้กล่าวพร้อมถอนหายใจ“ก่อนหน้านี้ทุกคนอยู่บนเขา เรียกท่านพี่ใหญ่ เรียกข้าพี่รอง เรียกขานกันดุจพี่น้องตอนนี้ยึดเมืองเหยาได้แล้ว จึงคิดอยากเป็นใหญ่ จะยอมแบ่งอำนาจได้หรือ”หวังปี้บ่นพร้อมส่ายหน้า กู้หว่านเยว่เพียงเม้มปากยิ้ม“นี่ก็พอดีเลยไม่ใช่หรือ จะได้ยุยงให้พวกเขาแตกคอกัน”นางดึงหวังปี้ “ไป พวกเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status