แชร์

บทที่ 383

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ในขณะที่รถม้าค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปข้างหน้า ทันใดนั้นเสียงตะโกนด้วยความร้อนใจก็ดังมาจากด้านหลัง

“น้องหญิง น้องหญิงเจ้าอดทนไว้นะ!”

“เกิดอะไรขึ้น?”

กู้หว่านเยว่ออกมาจากห้วงมิติ เมื่อครู่นางแอบงีบหลับอยู่ในห้วงมิติ และอาบน้ำจากในนั้น

“ดูเหมือนภรรยาของใต้เท้าจี้จะเกิดเรื่องเสียแล้ว”

ทันทีที่ซูจิ่งสิงกล่าวจบ จี้ฮั่นโม่ก็วิ่งมาจากด้านหลัง ขวางรถม้าไว้

“คุณชายซู ซูฮูหยิน ขอข้ายืมม้าของท่านไปหาหมอในเมืองได้หรือไม่ ภรรยาของข้ามีเลือดออก”

กู้หว่านเยว่เปิดม่านจากข้างใน ท่ามกลางแสงตะวันในตอนรุ่งสาง นางเห็นจี้ฮั่นโม่ที่กำลังอุ้มทารกน้อยไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็แบกฮูหยินไว้บนหลัง โดยมีเลือดสีแดงฉานจากตัวจี้ฮูหยินหยดลงบนหิมะมาตลอดทาง

“ฮูหยินของเจ้าเป็นอะไร?”

จี้ฮั่นโม่รีบกล่าว “นางเพิ่งคลอดลูกขอรับ แต่ร่างกายของนางยังไม่ฟื้นตัวดี นางติดตามข้ามาตลอดทาง วันนี้อาจเพราะตื่นตระหนก จึงทำให้นางเสียเลือดไม่หยุด”

เขาหันกลับไปมองจี้ฮูหยินด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ เมื่อเห็นว่ากู้หว่านเยว่ไม่กล่าวสิ่งใด จึงคิดว่านางคงไม่ให้ยืมม้าแน่ จึงรีบกล่าวว่า

“ขอร้องฮูหยินโปรดช่วยข้าด้วย ข้ายอมรับใช้ฮูหยินไปตลอดชีวิต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
วิภาลักษณ์ ทองชมภูนุช
ช่วยลงบทให้อ่านยาวกว่านี้หน่อยได้มั้ยคะ
goodnovel comment avatar
วิภาลักษณ์ ทองชมภูนุช
เขียนเรื่องได้สนุกมากค่ะ แต่ลงบทให้อ่านสั้นมาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 384

    “น้องหญิง เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”“น้องหญิงของข้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”ซูจิ่งสิงและจี้ฮั่นโม่กล่าวถามพร้อมกัน ทั้งสองคนต่างก็เป็นห่วงภรรยาของตน กู้หว่านเยว่ขบขันเล็กน้อย“วางใจเถิด ข้าไม่เป็นไร ภรรยาของเจ้าก็ไม่เป็นไรเช่นกัน”ซูจิ่งสิงกรอกตามองจี้ฮั่นโม่อย่างหมดคำพูด จี้ฮั่นโม่เกาศีรษะแก้เขิน“เป็นเรื่องปกติที่คนในครอบครัวจะเป็นห่วงคนของตน ภรรยาของเจ้าไม่เป็นไรแล้ว” กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นจี้ฮั่นโม่สบตาที่เย็นยะเลือกของซูจิ่งสิงครู่หนึ่ง จากนั้นก็รุดหน้าเข้าไปหาจี้ฮูหยิน เวลานี้สีหน้าภรรยาของตนเริ่มมีเลือดฝาดเล็กน้อย อีกทั้งเสื้อผ้าบนตัวของนางก็ได้รับการเปลี่ยนเป็นชุดที่สะอาดเรียบร้อยเขาถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะเดียวกันก็รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด“ซูฮูหยิน บุญคุณของท่านตอบแทนอย่างไรก็ไม่หมด นับแต่วันนี้ไป ชีวิตของจี้ฮั่นโม่เป็นของท่าน” กู้หว่านเยว่หรี่ตามอง ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงขบขัน “ดี เช่นนั้นเจ้าต้องกลับเจดีย์หนิงกู่กับข้า ข้าขาดกำลังคนพอดี”“ข้าน้อยจะทำสุดความสามารถ!” จี้ฮั่นโม่คุกเข่าอย่างไม่ลังเลกู้หว่านเยว่กระตุกมุมปาก โชคดีจริง ๆ นางออก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 385

    นัยน์ตาสีดำทมิฬคู่นั้นจ้องมองพวกเขาอย่างประหลาดใจและไร้เดียงสา“เด็กคนนี้มีวาสนากับพวกเรา”กู้หว่านเยว่ได้กลิ่นเกี๊ยวจากตัวของนาง โรคกลัวความสกปรกอย่างนางจึงทนไม่ได้หยิบผ้าห่มสะอาด ๆ ผืนหนึ่งออกมาจากห้วงมิติ จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าตัวเดิมของนางออกแล้วโยนลงไปในเครื่องซักผ้าเพื่อซักและอบแห้ง จากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนให้นางทุกขั้นตอนของการเปลี่ยนเสื้อผ้า เสี่ยวเยว่เอ๋อร์ไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ ปล่อยให้กู้หว่านเยว่พลิกตัวของนางไปมาหลังจากที่กู้หว่านเยว่ป้อนนมแพะให้เสี่ยวเยว่เอ๋อร์แล้ว นางก็อุ้มเด็กน้อยไปวางไว้ข้างกายของจี้ฮูหยินที่กำลังหลับ เพื่อให้สองแม่ลูกได้นอนด้วยกัน“น้องหญิง เจ้าเองก็พักเสียเถิด” ซูจิ่งสิงเป็นห่วงกู้หว่านเยว่มาก เพราะเขาเห็นนัยน์ตาที่เหนื่อยล้าของนาง“อื้อ”กู้หว่านเยว่เอนกายและหลับอยู่บนรถม้าเช้าตรู่วันที่สอง หลังจากที่จี้ฮูหยินตื่นขึ้น นางก็ได้รู้ว่ากู้หว่านเยว่คือคนที่ช่วยชีวิตนางไว้ ทั้งยังป้อนนมให้เสี่ยวเยว่เอ๋อร์ จึงรีบอุ้มเด็กน้อยคำนับหัวโขกดินให้กู้หว่านเยว่ทันที“ขอบคุณฮูหยิน ชีวิตนี้ของข้าเป็นหนี้พระคุณของฮูหยินยิ่งนัก”“รีบลุกขึ้นเถิด ร่างกายของเจ้ายั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 386

    “ท่านอ๋อง ครอบครัวของเราเล่า?”ฮูหยินกลุ่มหนึ่งอุ้มลูกน้อยเดินรุดหน้าเข้ามา และกล่าวถามด้วยน้ำเสียงสะอื้น แม้ว่าความจริงแล้วจะพอคาดเดาอะไรได้บ้างแล้วก็ตามหยางหนานอ๋องทอดถอนใจ “ข้าปกป้องพวกเขาได้ไม่ดี”“ท่านพี่ ทำไมท่านถึงทิ้งข้า? ในท้องของข้ายังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอยู่นะ....”“ท่านพ่อ ต่อไปข้ากับท่านแม่จะทำอย่างไร?”เสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดดังระงมออกมาจากกลุ่มฮูหยิน หนานหยางอ๋องได้ยินแล้วก็พลันตาแดงก่ำ“ขอโทษ ข้าต้องขอโทษพวกเจ้าจริง ๆ”“ท่านอ๋อง ท่านอย่างกล่าวเช่นนี้ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของท่าน”ทุกคนไม่ได้จมปลักอยู่ในความโศกเศร้านัก หนานหยางอ๋องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาเสมือนพวกเขาเป็นพระโอรสของตนเสมอ ทั้งยังส่งคนไปช่วยพวกเขาออกมาจากค่าย หากจะโทษก็คงต้องโทษฮ่องเต้น้อยผู้นั้น!ฮ่องเต้น้อยผู้นั้นมีจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต“ท่านอ๋องท่านต้องแก้แค้นให้ท่านพี่ของข้า”“ใช่ สังหารฮ่องเต้น้อย สังหารฮ่องเต้น้อย!”ทุกคนตะโกนด้วยความฮึกเหิม ความเกลียดชังที่มีต่อฮ่องเต้น้อยพุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดครั้นนึกถึงพวกเขา ทุกคนล้วนแต่เป็นครอบครัวของผู้ที่เสียสละปกป้องประเทศชาติ บุรุษต้องออก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 387

    หวังปี้ตัดสินใจว่าจะลองขอเจรจาดูก่อน หากไม่ใช่อาวุธก็จะดีมาก“เจ้ามีเงินใช่หรือไม่?”เมื่อเห็นหวังปี้ส่ายหน้า กู้หว่านเยว่จึงกล่าวถามอย่างรังเกียจและไม่พอใจว่า“แล้วเจ้ายังจะกล้าขอต่อรองอีกหรือ? ขอสันติกับพวกโจร เจ้าใสซื่อเกินไปหรือเปล่า?”“ก็ข้าคิดไม่ออก” หวังปี้เกาศีรษะ พวกเขาชินกับการใช้กำลัง ก่อนเปิดศึกก็ต้องเจรจาสักหน่อยโจรที่อยู่ตรงข้ามถ่มน้ำลายอย่างหมดความอดทน “ให้ตายเถอะ เจ้ากล้าเล่นลูกไม้กับข้านะ จับพวกเขาไว้!”สิ้นสุดเสียงของโจรผู้นั้น ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังก็พากันกวัดแกว่งมีดเล่มใหญ่และเดินล้อมเข้ามา“ช่วยด้วย!” สตรีและเด็ก ๆ ต่างกรีดร้องเสียงแหลม “สตรีและเด็กที่ไร้ทักษะการต่อสู้ไปซ่อนตัวข้างใน ส่วนคนที่มีทักษะการต่อสู้เตรียมรับศึก ห้ามวุ่นวายเด็ดขาด!”เสียงที่ค่อนข้างดุดันดึงดูดความสนใจของกู้หว่านเยว่ ทันทีที่หันไปก็พบว่าเป็นพระชายาหนานหยาง นางสั่งให้สาวใช้ซ่อนตัวอยู่ข้างใน ส่วนที่เหลือก็หยิบอาวุธจากรถม้า จากนั้นก็เข้าสู้กับพวกโจรเหล่านั้น“ท่านพี่ รับหอกไป”กล่าวได้ว่าเป็นหอกพิฆาต ที่เสียงทะลุใครเป็นต้องตายสิ้น!กู้หว่านเยว่หยิบหอกพิฆาตด้ามหนึ่งออกมาจากห้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 388

    “ข้าไม่เป็นไร” เมี่ยชิงหว่านส่ายหน้า แต่สีหน้ากลับซีดเผือดลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางเสียเลือดมากซูจื่อชิงเดินไปเดินมา เขาร้อนใจจนกระทั่งมีเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผาก “พี่สะใภ้ ท่านช่วยดูแผลให้ชิงหว่านหน่อยขอรับ”กู้หว่านเยว่สาวเท้าก้าวใหญ่เข้าไปหา โน้มตัวลงดูบาดแผลของเมี่ยชิงหว่าน“เส้นเลือดบนข้อมือของนางถูกตัด ทำให้เลือดไหลไม่หยุด ต้องรีบพันแผลเดี๋ยวนี้”ลูกน้องของหลิวจ้งชางคนนี้ร้ายกาจยิ่งนัก ยังดีที่เป็นเส้นเลือดบนข้อมือ หากหลิวจ้งชานคนนี้เชือดเข้าที่คอของนาง ป่านี้นางคงได้ไปเฝ้าท่านยมราชไปแล้ว“ใช้มือกดแผลของนางไว้!”แขนของเมี่ยชิงหว่านมีเลือดไหลไม่หยุด พระชายาหนานหยางรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา จากนั้นก็กดแผลของนางไว้“ซูฮูหยิน ข้าจะช่วยเจ้าเอง!”น้ำเสียงนั้นฟังดูร้อนใจอยู่ไม่น้อย สายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลคู่นั้นได้จ้องมองที่เมี่ยชิงหว่านตลอดเวลากู้หว่านเยว่เห็นท่าทางชำนาญของพระชายาหนานหยาง ก็พยักหน้า แล้วขึ้นไปหยิบผ้าก๊อซและผ้าพันแผลรวมถึงยาห้ามเลือดจากบนรถม้า“ช่วยทำความสะอาดแผลของนางให้ข้าหน่อย”“เจ้าค่ะ”พระชายาหนานหยางรีบรับผ้าก๊อซมาพันแผลให้เมี่ยชิงหว่านทันที จากน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 389

    ทางฝั่งของกู้หว่านเยว่เห็นโจรเหล่านั้นถูกเก็บกวาดของมีค่าจนเกลี้ยงแล้ว ก็เริ่มเปิดระบบติดตามตัว หาที่อยู่ของหลิวจ้งชางเมื่อเห็นไฟสีแดงกะพริบบริเวณยอดเขาชิงเฟิง กู้หว่านเยว่ก็แทบจะยิ้มไม่ออก“บุรุษผู้นี้ตั้งใจจะพาเราไปกวาดล้างกองบัญชาการใหญ่เลยหรือ น่าแปลกใจยิ่งนัก ”ทันทีที่ซูจิ่งสิงเห็นสีหน้าของภรรยาตน ก็รู้ทันใดว่านางกำลังคิดจะทำสิ่งใด นางคงอยากกวาดล้างค่ายชิงหลงอย่างแน่นอน"เจียงเฟิ่ง ลู่จิงพวกเจ้าปิดงาน”หลังจากที่ซูจิ่งสิงออกคำสั่งแล้ว เขาก็พาตัวกู้หว่านเยว่ลอยออกไปทันทีเจียงเฟิ่งและลู่จิงติดตามพวกเขามาเนิ่นนาน เรื่องเก็บกวาดพวกโจรเหล่านี้เป็นเรื่องเล็กสำหรับพวกเขา เขาไม่ต้องกังวลว่าจะผิดพลาดแต่อย่างใด“ท่านพี่ บินไปทางขวาของภูเขา!”กู้หว่านเยว่อยากจะใช้วิธีทะลุมิติ แต่การที่ปลายเท้าได้สัมผัสกับผืนป่า รับรู้ถึงสายลมที่ปะทะหน้าก็นับว่าไม่เลวซูจิ่งสิงบินไปตามปลายนิ้วของกู้หว่านเยว่ หลังจากบินไปจนสุดปลายทาง ไม่นานพวกเขาก็เห็นค่ายโจรกลุ่มหนึ่งที่ซ่อนเร้นอยู่บนภูเขาค่ายโจรแห่งนี้สร้างขึ้นจากไม้ไผ่ บริเวณรอบนอกถูกล้อมด้วยก้อนหิน ดูแข็งแรงทนทานมากทีเดียว“หัวหน้าของค่ายชิง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 390

    กู้หว่านเยว่กล่าวเสนอ นัยน์ตาของซูจิ่งสิงเปล่งประกาย รู้สึกว่าความคิดนี้ไม่เลวเลยทั้งสองคนลงจากเขาทันที จากนั้นก็ตามหาหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง เพื่อบอกให้ชาวบ้านไปรายงานจวนขุนนางชาวบ้านที่อยู่บริเวณตีนเขาแห่งนี้มักจะได้รับการก่อกวนจากค่ายชิงหลงอยู่บ่อยครั้ง จึงเกลียดชังพวกเขาเข้ากระดูกดำ เมื่อได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็รีบนำข่าวนี้ไปรายงานจวนขุนนางทันที“พวกเราไปกันเถอะ”เมื่อเห็นชาวบ้านไปรายงานแล้ว กู้หว่านเยว่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม รีบพาซูจิ่งสิงกลับมารวมกลุ่มกับทุกคนอีกครั้งเวลานี้ทุกคนเพิ่งจะทำแผลเสร็จ กลุ่มโจรก่อนหน้านั้นถูกเจียงเฟิ่งพาไปจัดการเรียบร้อยแล้ว“ไป พวกเราออกเดินทางกันต่อเถอะ”ทลายค่ายโจรได้ก็นับว่าแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ ในใจของกู้หว่านเยว่ดีใจยิ่งนักแต่เรื่องที่นางไม่รู้คือ หลังจากที่พวกนางจากไปได้ไม่นาน หลิวจ้งชางที่สลบไสลก็ค่อย ๆ ได้สติเขาศึกษาพวกวิชานอกรีตมาจากเจียงหู การต่อต้านยาแฝดจึงค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ยาแฝดมีฤทธิ์ต่อเขาเพียงชั่วคราวเท่านั้นหลิวจ้งชางที่ฟื้นตัวแล้วรีบก้มมองเสื้อผ้าที่ถูกปลดเปลื้อง กระทั่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 391

    เมื่อรู้ว่าสูญเสียผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองไปอีกชุดหนึ่ง มู่หรงอวี้ก็ไม่สบอารมณ์“คนต่ำช้า เจ้าคนต่ำช้าผู้นี้!”“ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้น?”เถาเอ๋อร์มองไข่มุกแม่น้ำแมนจูเรียนที่เปล่งประกายระยิบระยับอยู่หน้าร้าน แววตาจ้องเขม็ง ในยุคปัจจุบันนางเป็นเพียงคนยากจนคนหนึ่ง ไม่สามารถจ่ายเงินซื้อไข่มุกแม่น้ำแมนจูเรียนขนาดใหญ่เช่นนี้ได้มู่หรงอวี้ฉีกจดหมายออก เหมือนกำลังจะขาดสติ“กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง พวกเขาทั้งสองรุดไปที่ภูเขาชิงเฟิงอย่างไม่ทราบสาเหตุยกเค้าสถานที่ที่ข้าซ่อนอาวุธไว้จนไม่เหลือหลอ!”นั่นคือกองกำลังที่เขาเพียรสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก กู้หว่านเยว่มีเจตนาเป็นแน่ เป็นดาวมฤตยูของเขาอย่างแท้จริง!ไม่เช่นนั้นเหตุใดนางถึงไม่ไปกวาดล้างค่ายกองโจรอื่น ๆ เจาะจงต้องมาจับจ้องของเขาด้วย?ยิ่งไปกว่านั้นจากการบรรยายในจดหมาย ค่ายชิงหลงก็เหมือนกับคลังสินค้าทั้งหลายของเขาก่อนหน้านี้ ไม่เหลืออะไรไว้ให้แม้แต่ผมเส้นเดียว “กู้หว่านเยว่ต้องมีกลุ่มลูกน้องที่ชำนาญในการปล้น ปล้นคลังสินค้าของข้าไปให้นางจนหมด!”เถาเอ๋อร์ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงเช่นกัน “พวกเขาไม่ได้อยู่ในเจดีย์หนิงกู่หรือ? เหตุใดวิ่ง

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1412

    เขาโกรธจนกำหมัดแน่นเพื่อให้ทหารระบายความแค้น ก่อนและหลังโจมตีเมือง บางกองทัพจะฆ่าล้างบางชาวบ้านหนึ่งเพื่อข่มขวัญผู้คนที่อยู่ในเมืองสองเพื่อให้เหล่าทหารผ่อนคลายเพียงแต่หนางหยางอ๋องและซูจิ่งสิงปกครองอย่างเข้มงวด ไม่เคยปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น“พวกเราไปก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่ทนดูไม่ได้อีกต่อไป จึงเก็บสายตากลับมาเงียบๆตั้งแต่โบราณผู้ที่ทุกข์ร้อนในศึกสงครามก็คือชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ขณะที่ทั้งสองเตรียมจากไป จู่ๆ ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังแผ่วเบามาจากถนนสายเล็กด้านข้าง“ทางนั้นเหมือนจะมีคน”หวังปี้รีบหันมองทันที“ไป พวกเราไปดูสักหน่อย” กู้หว่านเยว่ลากหวังปี้เข้าไปตรวจดูด้วยกัน ปรากฏว่าเห็นคนสองคนล้มอยู่ในพงหญ้าบนตัวทั้งสองคนเต็มไปด้วยเลือด บนตัวมีบาดแผลจากดาบไม่น้อย“น้องเล็ก ดูจากเสื้อผ้าของพวกเขาน่าจะเป็นคนของสำนักคุ้มภัย”หวังปี้เปลี่ยนสรรพนามอย่างระวัง กู้หว่านเยว่พยักหน้า เดินไปหาคนที่ขอความช่วยเหลือนางรู้สึกว่าเสียงของคนผู้นี้คุ้นหูอยู่บ้างพอดีกับที่ชายผู้นั้นเห็นว่ามีคนเข้ามา จึงรีบมองไปทางพวกกู้หว่านเยว่เมื่อทั้งสองสบตากัน ต่างชะงักไปทันใด กู้หว่าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1411

    “พี่น้องสกุลฮั่ว เจ้าไม่เป็นไรนะ?” กู้หว่านเยว่เดินมาตรงหน้าฮั่วจี๋ แต่อีกฝ่ายยังอยู่บนหลังของหวังปี้ ไม่มีแรงลงมา“คารวะพระชายา”ฮั่วจี๋ใช้หางตาเหลือบมองกู้หว่านเยว่แวบหนึ่งท้องฟ้ามืดสลัว เขาเองก็มองไม่ชัดว่าหน้าตากู้หว่านเยว่เป็นอย่างไรแต่ว่าเขาเพิ่งเคยเห็นหญิงสาวลอบโจมตีสนามรบพร้อมกองทัพยามวิกาลเป็นครั้งแรก ในใจจึงรู้สึกนับถือมาก คำพูดที่พูดกับกู้หว่านเยว่จึงเคารพมาก“พระชายาโปรดอภัย ข้าน้อยไม่อาจลงไปคารวะด้วยตัวเอง”“แค่พิธีเท่านั้น รักษาตัวสำคัญกว่า”กู้หว่านเยว่เป็นคนในยุคปัจจุบัน จึงไม่ใส่ใจพิธีรีตองมากนักอีกอย่างพวกนางกำลังเร่งเดินทาง ไม่จำเป็นต้องให้ฮั่วจี๋ลงจากหลังหวังปี้ เพียงเพื่อทำความเคารพเท่านั้นฮั่วจี๋คุยกับกู้หว่านเยว่เพียงไม่กี่คำ พลันหลับตาลงอย่างอึดอัดบิดาและพี่ชายเพิ่งเสียชีวิต ประชาชนชาวเมืองเหยาตกอยู่ในอันตราย เขาเป็นแม่ทัพน้อยแห่งเมืองเหยา จึงไม่มีแก่ใจพูดคุยกับใครเมื่อนึกถึงกลุ่มโจรเหล่านั้นในเมืองเหยา ที่เข้ามาปล้นชิงฉุดคร่าทำให้หมัดของฮั่วจี๋ กำแน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิมเขาโกรธมาก!สกุลฮั่วเฝ้ารักษาเมืองเหยามาตลอดชีวิตราษฎรเมืองเหยาคือครอบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1410

    ฮั่วจี๋รู้สึกแค้นเคืองภายในใจเพียงเขาหลับตาลงหนึ่งข้าง เบื้องหน้าก็ปรากฏภาพศีรษะของบิดาและพี่ชายถูกห้อยอยู่หน้าประตูเมืองหากมิใช่เพราะฮ่องเต้ชั่วตัดสินใจผิดพลาด ไฉนเลยสกุลฮั่วของเขาจะตกลำบากมาถึงขั้นนี้ได้?“ก่อนกองโจรโจมตียึดครองเมืองสองสามวัน ท่านพ่อและพี่ชายได้รับข่าวมาแล้ว ตั้งใจเขียนจดหมายหนึ่งฉบับ ขอความเมตตาจากฝ่าบาทเคลื่อนย้ายกำลังพลจากคูเมืองละแวกใกล้เคียงมาเพียงน่าเสียดาย ฝ่าบาทไม่สนใจพวกเราเลยแม้แต่น้อย”ฮั่วจี๋ย้อนนึกถึงความทรงจำทีละน้อย ภายในสายตาเปี่ยมไอแค้น“บิดาและพี่ชายไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงย้ายข้าออกมาก่อนเป็นอันดับแรก”ที่แท้ฮั่วจี๋ไปเลือกกำลังพลในวันนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่สกุลฮั่วสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรก ตั้งใจส่งเขาออกไป“ข้าไม่เต็มใจจากไป ท่านพ่อและท่านพี่สั่งให้คนตีข้าจนหมดสติตอนข้าฟื้นขึ้นมา ทั้งหมดก็สายไปแล้ว”อาจเพราะคนของสกุลฮั่วรู้ว่าไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้อีก ดังนั้นจึงต้องการเก็บสายเลือดสุดท้ายไว้ นี่ถึงส่งฮั่วจี๋ออกไป“หลานชาย”หนานหยางอ๋องถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ไม่รู้สมควรปลอบเยี่ยงไรนึกถึงตอนแรก เขาและเหล่าฮั่วสองคนต่อสู้เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1409

    “ข้ารู้แล้ว ขอบคุณเจ้าที่ยอมเล่าให้พวกเราฟัง”กู้หว่านเยว่มองเจียงม่านมากอีกทีหนึ่ง กลับไม่ดูเบาเพียงเพราะนางเป็นสตรีในโลกีย์“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เล่าความจริงให้พวกท่านฟัง นั่นเพราะข้าไม่สามารถแยกออกว่าพวกท่านเป็นมิตรหรือศัตรูกังวลพูดฐานะของคุณชายฮั่วออกไป จะนำมาซึ่งหายนะ”เจียงม่านคำนับกู้หว่านเยว่“ล่วงเกินไปที่ใด หวังว่าแม่นางจะให้อภัย”บัดนี้ได้เห็นกู้หว่านเยว่ออกมือช่วยเหลือฮั่วจี๋ด้วยตนเอง นางก็คือผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตฮั่วจี๋ปัดเศษดูแล้ว ภายภาคหน้าก็เป็นผู้มีบุญคุณของเจียงม่านนางเฉกเดียวกัน“ไม่ต้องเกรงใจถึงเพียงนี้”กู้หว่านเยว่ยื่นอาหารแห้งให้นาง“ยังไม่ได้กินข้าวกระมัง รองท้องก่อนเถอะ”เจียงม่านเลียริมฝีปาก นับตั้งแต่หนีออกจากเมืองเหยา เพื่อป้องกันถูกคนพบเห็น นางเองก็ไม่กล้าพาฮั่วจี๋ไปยังที่ที่มีคนมากนางไม่กล้าไปแม้แต่โรงน้ำชาเพื่อจิบชา กลัวถูกคนรู้ฐานะนางไม่ได้กินข้าวมาสองวันแล้ว ได้เห็นอาหารแห้งตาก็ลุกวาว รีบรับอาหารแห้งไปด้วยสองมือ ขอบคุณกู้หว่านเยว่นับพันนับหมื่นครั้งทุกคนเดินไปราวระยะหนึ่ง ฮั่วจี๋ก็ฟื้นขึ้นมาหลังเขาฟื้นแล้ว หนานหยางอ๋องก็แสดงตัว พูดคุย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1408

    นางอยากเปิดบาดแผลของฮั่วจี๋ให้พวกเขาดู แต่มือสองข้างถูกมัดไว้“คุณชายถูกยิงที่อก ลูกธนูยังอยู่ข้างในเจ้าค่ะ!”หนานหยางอ๋องเลื่อนคบเพลิงเข้าใกล้อกของฮั่วจี๋ได้เห็นลูกธนูที่บาดแผลบนอกของเขาไม่ผิดไปดังคาด ถูกเกราะบังไว้ เห็นได้ไม่ชัดนัก“พระชายา ต้องรบกวนเจ้าแล้ว”หนานหยางอ๋องมองทางกู้หว่านเยว่ ครั้งนี้พวกเขาออกมาเป็นหน่วยจู่โจมสายฟ้าแลบ ข้างกายมิได้พาหมอทหารมาด้วย“ไม่เป็นไร”กู้หว่านเยว่พกกระเป๋ายาติดมาด้วย ก็เพื่อรับมือในยามจำเป็นแผลถูกธนูยิงนี้สำหรับนางกลับเป็นเรื่องเล็ก“วางคนนอนราบก่อน ข้าจะดูอาการของเขา”หวังปี้รีบขยับขึ้นไป “ข้าเอง”เขามือเท้าคล่องแคล่วว่องไว แก้มัดเชือกบนตัวฮั่วจี๋ออก จากนั้นจับคนนอนราบ“เอาคบเพลิงมาอีกสองอัน ส่องสว่างให้ข้า”เพื่อป้องกันมิให้มีแสงไฟ ทำให้คนสังเกตเห็นเบาะแสดังนั้นภายในหน่วยจึงจุดคบเพลิงเพียงหนึ่งถึงสองอันหนานหยางอ๋องนำคบเพลิงสองอันมา สั่งให้คนย่อตัวถือคบเพลิงข้างกายกู้หว่านเยว่ ส่องแสงให้นางขั้นตอนการดึงธนูออกมีเลือดเล็กน้อยกู้หว่านเยว่สวมถุงมือ การกระทำเป็นขั้นเป็นตอน คีบลูกธนูที่หักออกมาก่อน ล้างแผลด้วยแอลกอฮอล์ โรยผงยาแก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1407

    หากชายคนนี้เป็นทหารเมืองเหยาจริง เช่นนั้นพวกเขาก็สามารถทำความเข้าใจสถานการณ์เมืองเหยาได้ว่าตกลงเป็นเช่นไรกันแน่“พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ พานางกลับไปก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วมุ่น หญิงคนนี้ปากแข็งมากต้องการถามอะไรจากปากนางให้ได้ในทันที เกรงว่าคงยากนักเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกหนานหยางอ๋องรอจนร้อนใจ มิสู้พาคนทั้งสองกลับไป จากนั้นค่อยถามอย่างละเอียด“ได้!”หวังปี้พยักหน้า หยิบเชือกป่านจากทางด้านหลัง ขยับขึ้นไปมัดทั้งสองคนไว้แล้ว“ปล่อย ปล่อยพวกเรานะ!”เพราะฝ่ายชายได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติไป หวังปี้จึงมัดเขาได้อย่างง่ายดายส่วนเจียงม่าน นางไม่รู้วิทยายุทธ์ ย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวังปี้“ปล่อยเขา”เจียงม่านดิ้น“ข้าจะให้เงินพวกเจ้า บนตัวข้ามีเครื่องประดับ”นางเป็นห่วงชายคนนี้มาก ไม่อาจหักใจให้เขาได้รับบาดเจ็บหวังปี้ชี้เข้าที่เกราะบนตัว “เจ้าดูข้าคล้ายคนมาปล้นเงินหรือ? ข้ามาออกรบ หุบปากก่อนเถอะ รอพบแม่ทัพผู้เฒ่าของข้าเจ้าค่อยพูด”พูดจบ หันหลังมองทางกู้หว่านเยว่อย่างเคารพนบอบ“พระชายา พวกเราไป?”“ไปเถอะ”กู้หว่านเยว่กวาดตามองรอบด้าน ในละแวกนี้นอกจากสองคนนี้ ก็ไม่มีคนอื่น

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1406

    หากเกิดอะไรขึ้นกับกู้หว่านเยว่ หลังกลับไปแล้วซูจิ่งสิงจะยังไม่แล่เนื้อเถือหนังเขาอีกหรือ?“ใช่ ข้าจะส่งคนสองสามคนไปดู”แม่ทัพหลี่เองก็ทำตามคำพูดของหนานหยางอ๋องกู้หว่านเยว่ส่ายหน้า แต่ไหนแต่ไรมานางไม่ชอบรอคนอยู่ที่เดิม ยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็แปลกใจมากว่า เหตุใดในป่าทึบถึงมีเสียงร้องไห้ดังออกมาได้?“หวังปี้ ท่านไปกับข้าเถอะ”กู้หว่านเยว่มองทางหวังปี้ สุ้มเสียงหนักแน่นคนอื่นเห็นสถานการณ์แล้วก็หันหน้าสบตากันแวบหนึ่ง พากันพยักหน้าอย่างจนใจ“ไป”หวังปี้พยักหน้า รีบตามหลังกู้หว่านเยว่ไปหนานหยางอ๋องกลับยกมือให้กองทัพใหญ่หยุดรอฟังคำสั่งอยู่กับที่ ดูว่าตกลงสถานการณ์ข้างหน้าเป็นเช่นไรกู้หว่านเยว่พาหวังปี้เดินผ่านป่าไป ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เสียงร้องไห้ดังขึ้นมา“ระบบเจ้าเองก็อย่าอยู่เฉย ช่วยข้าดูว่าสถานการณ์ข้างหน้าเป็นเช่นไรกันแน่”กู้หว่านเยว่พูดกับระบบภายในมิติระบบอ้าปากหาว “สแกนพบว่าข้างหน้าคล้ายมีหญิงคนหนึ่งกำลังกอดชายคนหนึ่งร้องไห้”กู้หว่านเยว่พยักหน้า ถัดจากเสียงของระบบ ภาพด้านหน้าก็ปรากฏต่อหน้าทั้งคู่เป็นอย่างที่ระบบพูดไม่มีผิดใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปไม่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1405

    “ได้”กู้หว่านเยว่พยักหน้าแล้วเดินจากไปเปี๊ยะอัดแท่งนี้ พวกทหารที่ไม่เคยกินมาก่อน ได้กินแล้วก็รู้สึกเอร็ดอร่อย แต่กู้หว่านเยว่กลับกินไม่ลงนางหยิบช็อคโกแลตออกจากมิติใส่เข้าปากไปหนึ่งชิ้นเพื่อเพิ่มพลังงานอย่างไรเสียก็มืดแล้ว ไม่มีใครมองเห็นหลังกินช็อคโกแลตแล้ว กู้หว่านเยว่ก็หาที่พักผ่อนแห่งหนึ่งย่อมไม่สามารถนอนหลับจนฟ้าสว่างได้กองทัพเร่งเดินทางโดยอาศัยความเร็ว หาไม่แล้วจะเรียกว่าโจมตีสายฟ้าแลบได้เยี่ยงไร?หลังพักผ่อนไปแล้วสองชั่วยาม เห็นแสงที่ขอบฟ้า กองทัพใหญ่ก็ออกเดินทางอีกครั้งเพื่อป้องกันมิให้ดึงดูดความสนใจของผู้อื่น ทุกคนจึงไม่กล้าจุดไฟระหว่างเดินทางทั้งหมดล้วนอาศัยไม้เท้าเดินขึ้นไปข้างหน้ากู้หว่านเยว่และหนานหยางอ๋องเดินอยู่ด้านหน้าสุด“ระบบ ช่วยข้าระวังด้วยว่าพุ่มไม้รอบข้างมีงูหรือไม่”กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง“หากมีงู จัดการในทันที”“นายหญิง ระบบก็ต้องพักผ่อนนะ”ระบบร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา เหตุใดให้คนทำงานทั้งวันทั้งคืนกันเล่า?“ข้าผู้ซึ่งเป็นนายหญิงของเจ้ายังไม่ได้พักผ่อน เจ้าจะพักผ่อนอะไรกัน? เร็วๆ ลุกขึ้นมาทำงาน”กู้หว่านเยว่เร่ง ระบบซับน้ำตาให้ตนเอง เปิดเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1404

    เมื่อเห็นว่าดวงจันทร์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า รอบกายมืดมิดลมแรง บนพื้นเองก็มองได้ไม่ชัดเจนกู้หว่านเยว่มองเข้าไปในมิติแวบหนึ่ง บัดนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว“หนานหยางอ๋อง ฟ้ามืดเกินไป เหล่าทหารเร่งเดินทางย่อมไม่สะดวกเจ้าค่ะ”เร่งเดินทางยามฟ้ามืดย่อมพลาดพลั้งได้อย่างง่ายดายในเวลานี้ ภายในป่าลึกยังมีอสรพิษมากมายนัก“มิสู้พวกเราหาที่แห่งหนึ่ง พักผ่อนสักสองชั่วยามเถอะ”รอพักผ่อนเอาแรงดีแล้วค่อยเดินทางต่อก็ไม่สายหนานหยางอ๋องพยักหน้าหลังกองทัพใหญ่ออกเดินทางจากแม่น้ำมู่ตานก็ไม่ได้พักผ่อนอีกเลยอาศัยช่วงฟ้ามืด พักผ่อนสองสามชั่วยามก็ไม่เป็นไร“ให้กองทัพใหญ่หยุด พักผ่อนอยู่กับที่ แจกจ่ายเสบียงอาหาร!”หนานหยางอ๋องออกคำสั่งกับขุนพลหลี่เหล่าหลี่ร้องตะโกนเสียงแหบ “ทหารทุกนายพักผ่อนอยู่กับที่ ดื่มน้ำ กินเสบียงอาหาร!”“ขอรับ!”ทุกคนทำตามคำสั่งของหนานหยางอ๋อง นั่งลงพักผ่อนเพื่อความสะดวก ทหารทุกคนล้วนพกอาหารแห้งและถุงน้ำแขวนไว้ข้างเอวหลังนั่งลงไปแล้ว ทุกคนก็หยิบอาหารแห้งออกจากใต้วงแขน เปิดถุงน้ำ เริ่มเพิ่มพลังงานทว่าอาหารแห้งที่พวกเขากิน มิใช่อาหารแห้งแข็งๆ อีกแต่เป็นเปี๊ยะอัดแท่งที่กู้ห

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status