แชร์

บทที่ 286

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“ท่านยาย ท่านคิดจะทำอะไร?”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูยิ้มเยาะจนตัวสั่นเทิ้ม “หรานหร่าน ยายไม่อยากให้เจ้าลำบากตามพวกเราไปยังหมู่บ้านสือหาน มิสู้เจ้าอยู่รับใช้ใต้เท้าสวีดีกว่าไหม?”

ซูหัวหยางรีบกล่าว “ท่านยายอายุมากแล้ว หมู่บ้านสือหานก็ทั้งหนาวทั้งจน ไม่เหมาะที่จะรักษาอาการป่วยของยายเจ้าหรอก หากเจ้าอยากกตัญญู เจ้าจงอยู่รับใช้ใต้เท้าสวีเถิด สำหรับเจ้าแล้วนับว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ?”

ซูหัวหยางคิดเพ้อฝัน ตราบใดที่ส่งซูหรานหร่านไป ไม่เพียงแต่จะประหยัดอาหารเท่านั้น ยังแก้ไขเรื่องที่อยู่ของพวกเขาได้อีกด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

“เรื่องดีอย่างนั้นหรือ? ใต้เท้าสวีผู้นั้นอายุใกล้จะห้าสิบปีแล้วนะ!”

ริมฝีปากสีแดงของซูหรานร่านสั่นระริก

“ใบหน้าของเขาเต็มไปจุดด่างดำที่บอกถึงอายุเช่นนั้น ข้าไม่ไปหรอก หากจะไปก็ให้ท่านยายไปสิ!”

ฮูหยินผู้เฒ่าซูตะลึงงัน ยืนอ้าปากตาค้างชี้ตัวเอง

“เจ้าพูดอะไร เจ้าจะให้ข้าไปอย่างนั้นหรือ?”

“ถูกต้อง ให้ท่านไป ก่อนหน้านั้นท่านยังปีนขึ้นเตียงของหนานหยางอ๋องได้ ตอนนี้จะปีนขึ้นเตียงของใต้เท้าสวีมันต่างกันตรงไหน? ท่านยายอายุมากแล้ว ในเมื่อไม่เหมาะจะกลับหมู่บ้านสือหาน ก็อยู่รับใช
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 287

    จางเอ้อร์ตาแดงก่ำ “แม่นางน้อยกู้ ข้า ข้าไม่อยากทิ้งพวกเจ้า!”“หรือข้าอยู่ต่อที่เจดีย์หนิงกู่!”“เจ้ามีครอบครัวอยู่ที่เมืองหลวง เจ้าไม่ต้องการครอบครัวของเจ้าแล้วหรือ?”กู้หว่านเยว่ยกมือแสดงความจนปัญญา แต่จู่ ๆ นางก็คิดได้จึงกล่าวว่า“เช่นนั้นเจ้ารอให้ข้าสร้างหมู่บ้านสือหานให้กลายเป็นสถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองและงดงามที่สุดก่อน แล้วพวกเจ้าค่อยคิดทบทวนว่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่หรือไม่”หมู่บ้านสือหาน?สถานที่ที่เจริญรุ่งเรืองและงดงามที่สุด?เกรงว่าคงต้องรอถึงชาติหน้า!ทันทีที่คนเหล่านั้นได้ยิน ก็พากันเมินเฉยต่อคำกล่าวของกู้หว่านเยว่“ก็ได้ พวกเราจะรอวันนั้น ถึงตอนนั้นข้าจะย้ายครอบครัวมาที่นี่!”“แม่นางกู้ พวกเราจะเฝ้ารอให้เจ้าสร้างหมู่บ้านสือหานจนกลายเป็นสถานที่ที่มั่งคั่งกว่าเมืองหลวง”“พวกเราไปก่อนนะ หากช้ากว่านี้มืดค่ำจะเดินทางกันลำบาก”ซุนอู่กล่าวเสียงเคร่งขรึม ส่งกันพันลี้ สุดท้ายก็ต้องจากกัน ทุกคนยังคงอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะพากันขึ้นหลังม้า โบกมือให้กู้หว่านเยว่และคนอื่น จากนั้นก็จากเมืองตู้เปียนแห่งนี้ไปซูจิ่นเอ๋อร์มองแผ่นหลังของซุนอู่แล้วน้ำตาคลอเบ้า “ข้าไม่อยากจากท่านนักการซุน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 288

    คนอื่นพากันอ้าปากตาค้าง ต้องรู้ก่อนว่าท่านนักการหวงคือหัวหน้าของพวกเขา ทักษะการต่อสู้สูงกว่าใครแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง เขาดูคล้ายกับลูกเจี๊ยบ ไร้กำลังเขามองออกว่าสองสามีภรรยาคู่นี้มีทักษะการต่อสู้สูงเพียงใด พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาผู้ตรวจการที่เหลือกลืนน้ำลายหลายอึก ไม่มีใครอยากหาเรื่องใส่ตัวกู้หว่านเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ข้าไม่อยากสร้างความลำบากใจให้พวกเจ้า แค่ส่งพวกเราไปถึงหมู่บ้านสือหาน เราสัญญาว่าจะอยู่อย่างสงบ หากใครกล้าสร้างปัญหา ข้าก็ไม่ใช่รูปปั้นที่จะไม่รู้สึก ข้าจะสั่งสอนให้รู้จุดจบของชีวิต!”“มิกล้า มิกล้า” ผู้ตรวจการหลายคนพากันส่ายหน้า ตอนนี้พวกเขาเดินทางกันมาถึงครึ่งทางแล้ว ไม่ได้อยู่ในศาลาว่าการ พวกเขาคงขอกำลังเสริมไม่ได้ ทำได้แค่ยอมตามน้ำไปก่อนในเวลานี้กู้หว่านเยว่ถือโอกาสตอนที่ทุกคนกำลังจัดการกับท่านนักการหวงรีบสั่งให้นายท่านเซิ่งพาตัวฮูหยินผู้เฒ่าเซิ่งขึ้นเกวียนลา“ไม่ได้ ๆ แม่นางกู้ เกวียนลาของเจ้ามีคนเยอะมากพอแล้ว ข้าขึ้นไปมีแต่จะสร้างความยุ่งยากให้เจ้าเสียเปล่า ๆ?”สีหน้าของกู้หว่านเยว่เปลี่ยนไป “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านบาดเจ็

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 289

    หลายครอบครัวต่างสบตากัน น้ำเสียงของผู้ใหญ่บ้านเฉินแสดงอำนาจต่อพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด!ให้ตายเถอะ เหล่านักโทษถูกกดขี่ข่มเหงมาตลอดทางแล้วนะกว่าจะเดินทางมาถึงเจดีย์หนิงกู่ไม่ใช่เรื่องง่าย นี่ยังต้องโดนกดขี่อีกหรือ?นายท่านหลี่กล่าวถามด้วยน้ำเสียงหยาบกระด้าง “ขอถามผู้ใหญ่บ้านหน่อย ที่พักของพวกเราคือที่ไหน?”“รีบทำไม ผู้ใหญ่บ้านพูดอยู่ เจ้ากล้าพูดแทรกได้อย่างไร?”ผู้ใหญ่บ้านเฉินส่งเสียงฮึดฮัดน้ำเสียงเย็นชาออกมา แสดงอำนาจอย่างมากนายท่านหลี่ขมวดคิ้วแน่น “พวกเราไม่ใช่นักโทษ คนที่มาถึงเจดีย์หนิงกู่ล้วนแต่เป็นคนของทางการ ทำไมพวกเราจะพูดแทรกเจ้าไม่ได้?”น้ำเสียงของผู้ใหญ่บ้านเฉินกำลังบอกว่าพวกเขาอยู่ต่ำกว่าอย่างไรอย่างนั้น?“พวกเจ้าคือนักโทษ เป็นคนนอก และเป็นทาสผู้ต่ำต้อย!” ดวงตาของผู้ใหญ่บ้านเฉินฉายแววโหดร้าย มิน่าล่ะใต้เท้าสวีถึงอยากสั่งสอนพวกเขา หัวรั้นกันยิ่งนัก“พวกเจ้าอยากได้บ้านไม่ใช่หรือ” ผู้ใหญ่บ้านเฉินชี้ไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ “ตีนเขามีบ้านที่ไม่มีใครใช้มานานกว่าสิบปีว่างอยู่พอดี พวกเจ้าไปพักที่นั้นละกัน”กู้หว่านเยว่เห็นรอยยิ้มที่แสดงความมุ่งร้ายของผู้ใหญ่บ้านเฉิน ลางสังหรณ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 290

    หวังต้าโก่วแสดงท่าทีโง่เขลาออกมา“หมู่บ้านสือหานของพวกเรามีสิบสองเดือนเข้าสู่ฤดูหนาวไปแล้วแปดเดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมของปีหน้าจะมีหิมะตกหนัก น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง นอกจากพืชที่ทนความหนาวได้เท่านั้นที่จะอยู่รอด พืชที่เหลือตายหมด ข้าวและข้าวสาลีที่พวกเจ้ากล่าวถึง....พวกเราไม่ได้กินมาหลายปีแล้ว”เมื่อโพล่งประโยคนี้ออกไป ทุกคนก็ยิ่งตระหนักได้ถึงความโหดร้ายของสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านสือหานเมื่อเดินทางมาถึงตีนเขา ทุกคนก็พากันสูดลมหายใจเย็นนี่...นี่คือบ้านหรือ?ลักษณะของบ้านมีเพียงเสาบ้านที่กองสุมรวมกัน รอบตัวบ้านเต็มไปด้วยหญ้ากองโต....“กระท่อมหลังนี้เราจะอยู่ได้อย่างไร?”หวังต้าโก่วเลียริมฝีปาก “บ้านในหมู่บ้านมีไม่เยอะ พวกเจ้าดันล่วงเกินผู้ใหญ่บ้านอีก จึงถูกขับไสให้มาอยู่ที่นี่”เรื่องที่เขาไม่ได้บอกก็คือ ที่ตีนเขาแห่งนี้ยังมีสัตว์ป่าอีกไม่น้อย ถัดจากภูเขานี้ไปก็คือแคว้นโจวตะวันออก ทุกครั้งที่ฤดูหนาวมาเยือน จะมีคนของแคว้นโจวตะวันออกมาปล้นสะดมเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดของหมู่บ้านเลยก็ว่าได้“น้องต้าโก่วลำบากเจ้าแล้ว”กู้หว่านเยว่ให้มันเทศสองลูกกับเขาเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 291

    กู้หว่านเยว่แสยะยิ้มมุมปาก แววตาเป็นประกายวิบวับด้วยความตื่นเต้นกำลังเศร้าใจว่าไม่มีของคาวเข้าปากอยู่เลยเนื้อหมาป่า อร่อยจัง!“จื่อชิง จิ่นเอ๋อร์ปลุกพรรคพวกขึ้นมา ไม่ต้องนอนแล้ว เตรียมพร้อมต้อนรับศัตรู”กู้หว่านเยว่ชี้ไปยังบ้านถัดกัน “ขุนพลหวัง ท่านไปดูแลหรานหร่าน”ศึกครั้งแรกของพวกเขาในหมู่บ้านสือหาน กำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้วเสียงพิลาปร่ำไห้ดังเข้ามาในหมู่บ้านสือหานชาวบ้านที่อยู่บนเตียงต่างสั่นสะท้าน ทยอยแง้มประตูเรือนออก“แย่แล้ว กลุ่มนักโทษเนรเทศที่มาวันนี้ถึงคราวแล้ว”“ในเทือกเขาด้านหลังมีหมาป่ากว่าร้อยตัว พรุ่งนี้เช้าเกรงว่าจะไม่ได้เห็นแม้แต่ศพของพวกเขา”“ใครใช้ให้พวกเขาล่วงเกินหัวหน้าหมู่บ้านล่ะ ล่วงเกินหัวหน้าหมู่บ้านก็เลยจบไม่สวย...”หลายปีก่อน ก็มีนักโทษเนรเทศกลุ่มหนึ่งมาที่หมู่บ้านสือหาน แต่ไม่ยอมจ่ายเงินเพื่อเอาใจหัวหน้าหมู่บ้าน ส่งผลให้ถูกหมาป่าฉีกเป็นชิ้น ๆ ที่เชิงเขาในคืนนั้นเลือดนั้นย้อมดินแดนใกล้เคียงกลายเป็นสีแดงเข้มนับจากนั้นเป็นต้นมาก็มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า หมาป่าบนภูเขาจะเชื่อฟังคำสั่งของสกุลเฉิน ทุกคนเลยไม่กล้าขัดใจหัวหน้าหมู่บ้านเฉินอีก“โชคดีที่พว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 292

    ที่เชิงเขาด้านหน้ากระท่อมทรุดโทรมเรียงรายแถวหนึ่ง มีซากหมาป่าแขวนอยู่กว่าสามสิบตัวอย่างน่าประหลาด!หมาป่าตายได้อย่างไร ที่ตายควรเป็นมนุษย์มิใช่หรือ?ประตูเปิดออกดัง “เอี๊ยดอ๊าด” ซูจิ่นเอ๋อร์ถือถังน้ำร้อนถังหนึ่งออกมาด้วยความตกใจ“พวกท่านมาทำอะไรกัน?”“เก็บ เก็บศพให้พวกท่าน” สะใภ้สกุลโจวเอ่ยอย่างอ่อนแรง เมื่อเหลือบเห็นเหล่าหมาป่าที่แขวนอยู่กลางสายลมหนาว ก็สั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัวหมาป่าจำนวนมากเช่นนี้ถูกพวกเขาสังหารอย่างไม่น่าเชื่อ น่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน!ต้องรู้ว่าหมาป่าที่อยู่หลังภูเขาหมู่บ้านสือหานกลุ่มนั้น ดุร้ายยิ่งกว่าหมาป่าที่อยู่ข้างนอกเสียอีก ลำพังขนาดร่างกายก็ยาวถึงสองเมตรแล้ว!คนกลุ่มนี้เก่งกาจถึงเพียงไหน?“พวกท่านมาเก็บศพหรือ? ขอบคุณพวกท่านมาก แต่เมื่อวานนี้พวกข้าไม่มีใครตาย”กู้หว่านเยว่เดินยิ้มแย้มออกมาจากข้างในพลางชักกริชคมกริบออกมา ถลกหนังหมาป่าตัวหนึ่งด้วยมืออย่างคล่องแคล่วเมื่อเห็นหมาป่าที่ไร้ขนภายในชั่วพริบตา กลุ่มชาวบ้านก็กลืนน้ำลายถอยหลังไปหนึ่งก้าวผู้ถูกเนรเทศที่มาใหม่ เห็นทีจะแหย่ไม่ได้กู้หว่านเยว่ตากหนังหมาป่าไว้บนท่อนไม้เพื่อผึ่งลมให้แห้ง รอเอามาท

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 293

    กู้หว่านเยว่เบิกตากว้าง “ช่าง...”“เจ้ารู้สึกว่ามันแพงไหม?”หวังต้าโก่วรีบถามกู้หว่านเยว่จะกล้าพูดได้อย่างไรว่ามันถูก นี่มันเป็นราคาของทาสผิวดำชัด ๆหมู่บ้านสือหานเป็นหมู่บ้านที่ยากจนที่สุดในเจดีย์หนิงกู่ ค่าแรงย่อมต่ำที่สุดเป็นธรรมดา“ไม่อย่างนั้น เก้าแผ่นทองแดงต่อวันก็ได้”กว่าจะมีงานทำได้ไม่ใช่ง่าย ๆ จะปล่อยให้หลุดลอยไปไม่ได้“เอ่อ สิบแผ่นทองแดงแล้วกัน”กู้หว่านเยว่ใจดำทำนาบนหลังคนไม่เป็น“ท่านช่วยไปหาแรงงานประมาณสามสิบคนให้ข้าที ขอที่ซื่อสัตย์และเชื่อใจได้”หวังต้าโก่วสะดุ้งโหยง“ซ่อมแซมเรือนแค่ห้าหรือหกคนก็พอแล้วล่ะมั้ง สามสิบกว่าคนไม่มากเกินไปหรือ?”“ไม่มาก ไม่มาก” กู้หว่านเยว่ส่ายหัว ดูมีเลศนัย “ไม่ใช่แค่ซ่อมแซมเรือนเท่านั้น”หวังต้าโก่วเกาศีรษะ “ตกลง แม่นางกู้ ข้ามั่นใจว่าเจ้าเชื่อถือได้ เดี๋ยวข้าจะเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อสอบถามให้เจ้า”“เรื่องนี้ไม่เร่งด่วน”กู้หว่านเยว่แจกเนื้อหมาป่าให้กับทุกคน ด้วยความคิดที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีหวังต้าโก่วรีบร้อนออกไปกู้หว่านเยว่หยิบสมุดบันทึกที่ลงทะเบียนไว้เมื่อวานออกมาใครก็ตามที่ฆ่าหมาป่า ก็ให้พวกเขาแต่ละครอบครัวลากไป

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 294

    “ทำไมจะไม่สนับสนุนเล่า ข้าชูสองมือสนับสนุนเลย” ที่ซูจิ่งสิงไม่พูดอะไรเลย เป็นเพราะเขากำลังตรึกตรองอยู่ “ถ้าต้องการเปิดโรงงานอิฐกระเบื้อง ก็ต้องขอกำลังคนช่วยเหลือนายท่านเซิ่งและนายท่านหลี่สามารถช่วยเจ้าดูแลคนงาน ทำหน้าที่เป็นผู้รับเหมาได้นายท่านเหยียนมีพื้นเพเป็นข้าราชการพลเรือน ถนัดเรื่องการเขียน สามารถช่วยเจ้าทำบัญชีได้ส่วนเรื่องการขนส่งวัสดุอิฐกระเบื้องในอนาคต ข้าคิดว่าสามารถมอบหมายให้หวังต้าโก่วจัดการได้ เขาเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง”กู้หว่านเยว่อ้าปากกว้าง “ข้าแค่มีความคิดเท่านั้น ท่านพี่คำนวณให้ข้าเสร็จสรรพหมดแล้วแม้แต่เรื่องทำบัญชี สุดยอด!”“เอาล่ะ ทางด้านสกุลหลี่และสกุลเซิ่ง ข้าจะไปคุยให้เจ้าเอง”ซูจิ่งสิงมองกู้หว่านเยว่ด้วยความเอ็นดู เดิมทีคิดอยากจะบีบแก้มนางแต่ก็ไม่กล้า ทำได้เพียงกำมือกระแอมไอกลบเกลื่อนกู้หว่านเยว่เปิดแพลตฟอร์มซื้อขาย เริ่มซื้อแบบแปลนสำหรับโรงงานเผาอิฐนายท่านหลี่ นายท่านเซิ่ง และคนอื่น ๆ กำลังกังวลเรื่องหนทางหาเลี้ยงชีพ เมื่อได้ยินว่ากู้หว่านเยว่จะว่าจ้างพวกเขา ก็ปรบมือด้วยความดีใจพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่ลังเลกู้หว่านเยว่หยิบสัญญาออกมาให้พวกเขาลงนาม ซึ่

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1404

    เมื่อเห็นว่าดวงจันทร์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า รอบกายมืดมิดลมแรง บนพื้นเองก็มองได้ไม่ชัดเจนกู้หว่านเยว่มองเข้าไปในมิติแวบหนึ่ง บัดนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว“หนานหยางอ๋อง ฟ้ามืดเกินไป เหล่าทหารเร่งเดินทางย่อมไม่สะดวกเจ้าค่ะ”เร่งเดินทางยามฟ้ามืดย่อมพลาดพลั้งได้อย่างง่ายดายในเวลานี้ ภายในป่าลึกยังมีอสรพิษมากมายนัก“มิสู้พวกเราหาที่แห่งหนึ่ง พักผ่อนสักสองชั่วยามเถอะ”รอพักผ่อนเอาแรงดีแล้วค่อยเดินทางต่อก็ไม่สายหนานหยางอ๋องพยักหน้าหลังกองทัพใหญ่ออกเดินทางจากแม่น้ำมู่ตานก็ไม่ได้พักผ่อนอีกเลยอาศัยช่วงฟ้ามืด พักผ่อนสองสามชั่วยามก็ไม่เป็นไร“ให้กองทัพใหญ่หยุด พักผ่อนอยู่กับที่ แจกจ่ายเสบียงอาหาร!”หนานหยางอ๋องออกคำสั่งกับขุนพลหลี่เหล่าหลี่ร้องตะโกนเสียงแหบ “ทหารทุกนายพักผ่อนอยู่กับที่ ดื่มน้ำ กินเสบียงอาหาร!”“ขอรับ!”ทุกคนทำตามคำสั่งของหนานหยางอ๋อง นั่งลงพักผ่อนเพื่อความสะดวก ทหารทุกคนล้วนพกอาหารแห้งและถุงน้ำแขวนไว้ข้างเอวหลังนั่งลงไปแล้ว ทุกคนก็หยิบอาหารแห้งออกจากใต้วงแขน เปิดถุงน้ำ เริ่มเพิ่มพลังงานทว่าอาหารแห้งที่พวกเขากิน มิใช่อาหารแห้งแข็งๆ อีกแต่เป็นเปี๊ยะอัดแท่งที่กู้ห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1403

    เดิมทีกองทัพเจดีย์หนิงกู่ก็มีคนไม่มาก ตระหนักถึงปัจจัยรอบด้าน ซูจิ่งสิงจึงให้กองทัพใหญ่อยู่ที่สมรภูมิหลักหนานหยางอ๋องและกู้หว่านเยว่นำทหารชั้นยอดไปเพียงหนึ่งพันนายทหารชั้นยอดหนึ่งพันนายนี้ เป็นกองกำลังเฝ้าระวังอยู่ที่ชายแดนกับหนานหยางอ๋องในปีนั้นกู้หว่านเยว่เปลี่ยนชุดเกราะที่แข็งแกร่งที่สุด หอกดาบไม่ทะลุให้กับพวกเขา จับคู่กับหอกยาวที่แหลมคมที่สุดขี่ม้ากำยำแข็งแรงที่สุดของสกุลกงซุนคนกลุ่มนี้เน้นการโจมตีแบบสายฟ้าแลบ วางแผนทำให้เมืองเหยาไม่ทันตั้งตัวหนานหยางอ๋องหยิบแผนที่ออกมา ชี้ไปยังคูเมืองสองสามแห่งข้างบน“พระชายา เจ้าดูนี่กึ่งกลางระหว่างพวกเราและเมืองเหยา ยังมีคูเมืองสองแห่งอยู่พวกเราสามารถอ้อมเข้าภูเขาเหยา โจมตีเมืองเหยาก่อนได้จากนั้นย้อนกลับมาโจมตีคูเมืองสองด้านพร้อมท่านอ๋อง”แท้จริงแล้ว ต่อให้ไม่ใช่เพื่อสกุลหลินไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็ต้องมาโจมตีเมืองเหยาแห่งนี้เมืองเหยาเป็นจุดยุทธศาสตร์ นับเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างตงเป่ยและหัวเป่ย“หากโจมตีเมืองเหยา ข้ามด่านก็คือที่ราบกว้างใหญ่ของหัวเป่ยแล้ว”หาไม่แล้วเหตุใดกองโจรพเนจรกลุ่มนั้นถึงไม่โจมตีคูเมือง แต่ลงมือกับเม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1402

    “ไม่ได้”ซูจิ่งสิงคัดค้านในทันทีทันใด เขาส่งผู้นำที่เหมาะสมไปแล้ว“เจ้าจงอยู่กับข้าที่นี่”ในสนามรบดาบกระบี่ไม่มีตา ก่อนหน้านี้ไปตามหาองค์หญิงใหญ่ยังไม่เท่าไร แต่หากเป็นแนวหน้าก็อาจได้รับบาดเจ็บทุกเมื่อ“ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถมาก แต่สถานการณ์ในสนามรบเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา หากเจ้าได้รับบาดเจ็บ หลบเข้ามิติไม่ทัน”ซูจิ่งสิงไม่หวังให้กู้หว่านเยว่ได้รับบาดเจ็บ“ไม่เป็นไร ท่านยังไม่รู้ความสามารถของข้าอีกหรือ?”กู้หว่านเยว่จับมือเขาไว้อย่างจริงจัง“ยิ่งไปกว่านั้น ข้ารับปากกท่านตาท่านยายแล้วว่าจะพาญาติผู้พี่กลับมาอย่างปลอดภัยตอนพวกเราถูกเนรเทศ พวกเขาเคยยื่นมือเข้าช่วย มอบความช่วยเหลือยามทุกข์ยากข้าไม่อยากติดค้างพวกเขาเจ้าค่ะ”แต่ไหนแต่ไรมากู้หว่านเยว่เป็นคนมีบุญคุณต้องตอบแทนหากนางติดตามไป ก็ย่อมมีความหวังในการตามหาหลินเพียวเพียวมากยิ่งขึ้นเห็นว่าซูจิ่งสิงยังคิดปฏิเสธ กู้หว่านเยว่จึงปรึกษากับเขาอีกครั้ง“ญาติผู้พี่กำลังตั้งครรภ์ ต่อให้ตามหาเบาะแสของนางพบ แต่การเดินทางลำบากมาก ยากจะรับรองได้ว่านางจะไม่เป็นไรหากข้าติดตามไปด้วย หลังพบนางแล้ว ข้าก็สามารถทำให้นางหมดสติแล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1401

    กู้หว่านเยว่เข้าใจในทันใด มิน่าเล่าคนเหล่านี้ท้องร้องโครกคราก ท่าทางอิดโรย ที่แท้ก็เกิดเรื่องกับสกุลหลินนี่เอง“สกุลหลินเกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ขึ้น ข้ากลับไม่รู้เรื่อง ต้องขออภัยด้วย”“เรื่องนี้จะโทษเจ้าไม่ได้ ฉูโจวและเจดีย์หนิงกู่อยู่ห่างกันมากเพียงนี้ จะส่งจดหมายมาก็เป็นเรื่องยาก”ยิ่งไปกว่านั้น สาเหตุที่เกิดเรื่องกับสกุลหลิน ยังไม่ใช่เพราะราชสำนักโง่เขลาไร้ขอบเขตอีกหรือ ต่อให้บอกกู้หว่านเยว่เรื่องนี้ ยังจะมีประโยชน์อันใดอีกเล่า?“กินข้าวก่อนเถอะเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่าสมควรเริ่มปลอบจากที่ใด ยังดีรับคนสกุลหลินมาแล้ว“ท่านตาท่านยาย แนวหน้าอันตราย รอพวกท่านพักผ่อนสักสองวันแล้ว ข้าจะให้คนพาพวกท่านไปส่งที่เมืองอวี้ไปถึงเมืองอวี้ย่อมมีคนจัดแจงที่พักให้พวกท่านส่วนทางฝั่งญาติผู้พี่ รอข้าได้รับข่าวของนางแล้ว ค่อยให้คนกลับไปแจ้งพวกท่าน”กู้หว่านเยว่บอกความคิดของตนให้คนเหล่านี้ฟังนายท่านผู้เฒ่าหลินในฐานะผู้นำตระกูลใหญ่ เอ่ยปากก่อนเป็นคนแรก “หว่านเยว่ ทั้งหมดล้วนฟังเจ้า ขอเพียงไม่สร้างปัญหาให้เจ้าก็พอ”กู้หว่านเยว่พยักหน้าคนสกุลหลินล้วนคิดเพื่อหลานสาวอย่างนางคนนี้มาโดยตล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1400

    “ดูเจ้าสิ พูดเรื่องนี้กับหว่านเยว่เพื่ออะไร?”หลินรู่ไห่ดึงนางเก๋อไว้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเช่นกัน แต่เขารู้ว่าการบอกเรื่องนี้กับกู้หว่านเยว่นั้นไม่มีประโยชน์เมืองเหยาอยู่ไกลจากที่นี่ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับฮ่องเต้ จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาคนที่เมืองเหยา?พวกเขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่ต้องลำบากใจ“ท่านน้า ต้องขอบคุณน้าสะใภ้ที่บอกข้า เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่พูดทันทีที่เข้ามา?”กู้หว่านเยว่ยังจำหลินเพียวเพียวได้ สาวน้อยที่สงบเสงี่ยมมาก เวลาพูดขึ้นมาก็ดูคงแก่เรียนเมื่อคนสกุลหลินไปที่โรงเตี๊ยมเตียงนอนรวมเพื่อส่งเงินให้นาง หลินเพียวเพียวก็มาด้วย แล้วยังปลอบประโลมนางอย่างนุ่มนวล“หว่านเยว่ พวกเราไม่อยากให้เจ้าเป็นกังวล”ประเด็นคือพวกเขาไม่เคยคิดว่ากู้หว่านเยว่จะสามารถช่วยหลินเพียวเพียวกลับมาได้และพวกเขาก็เป็นห่วงว่าซูจิ่งสิงจะรู้สึกว่าสกุลหลินของพวกเขาเป็นปัญหา ถึงตอนนั้นจะทำให้กู้หว่านเยว่เดือดร้อนไปด้วยกู้หว่านเยว่จำพวกเขาได้ จึงขอให้ซูจิ่งสิงส่งคนไปรับพวกเขาที่ฉูโจว พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว จะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อย่างไร?“พวกท่าน”กู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1399

    “ท่านยาย พวกท่านปลอดภัยดีตลอดเส้นทางไหม?”กู้หว่านเยว่สอบถามพวกเขา แม้ว่าซูจิ่งสิงจะส่งคนไปรับพวกเขาเองก็ตามแต่เวลานี้ทั่วแคว้น ความอดอยากแห้งแล้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โจรร่อนเร่ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกแห่งการเดินทางมาของสกุลหลินครั้งนี้ ก็คงไม่สงบสุขนัก“ระหว่างทาง ได้พบกับโจรสลัด”เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลินพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ“โจรสลัดเหล่านั้นฆ่าทุกคนที่พบเจอ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก น่ากลัวจริง ๆ”สกุลหลินเป็นพลเมืองดีที่ทำการค้า การเข่นฆ่าใด ๆ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนตกใจกลัวจนเหลือทน ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่“ท่านยาย พวกท่านลำบากแย่เลย”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโจรเร่ร่อนข้างนอกนั้นเหิมเกริมเช่นนี้“ไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”นายท่านผู้เฒ่าหลินลูบเครา พลางโบกมือ“โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มที่ท่านอ๋องส่งไปฉลาดเฉลียว รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พาพวกเราหนีไปทางเรือเล็กแต่น่าเสียดายนายท่านผู้เฒ่าหลินเผยแววตาทนไม่ได้ บนเรือใหญ่ยังมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก“พวกเราหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นเรือทั้งลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1398

    “ข้าไม่เป็นอะไร”ลั่วยางชักมือออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?เหล่าทหารทุกคนกำลังเฝ้าดู ตอนนี้ทั้งกองทัพรู้แล้วว่าเขาชอบนางนางไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เกาเจี้ยนถอนหายใจ มองไปทางซูจิ่งสิง ขณะที่กำลังจะโต้แย้งก็เห็นคนที่เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ คว้ามือของกู้หว่านเยว่ไว้โดยไม่ละอาย น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะคั้นเป็นน้ำออกมาได้“น้องหญิงเหนื่อยหรือยัง หิวหรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”เกาเจี้ยนเบิกตากว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้มีความรู้มากกว่าเขาเสียอีก!“ท่านมาที่นี่ทำไม?”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ซูจิ่งสิงแม้ว่าวันนี้จะไม่ร้อนมาก แต่ซูจิ่งสิงก็สวมชุดกราะตลอดเมื่ออยู่ในกองทัพ ถูกแดดตอนเที่ยงวันสาดส่อง จนเหงื่อแตกพลั่ก“เห็นเจ้าไม่กลับมาเสียที ก็เลยเป็นห่วงเจ้า”ซูจิ่งสิงมองเข้าไปในกระโจม กู้หว่านเยว่ก็อธิบายสถานการณ์ของกงซุนฉิงอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะพาคนกลับไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงสกุลกงซุน สั่งให้คนแพร่ข่าวออกไปหลี่กวงถิงถูกจับแล้ว กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ก็ไล่ล่าโจมต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1397

    ลั่วยางก็ไม่ได้โกรธเช่นกันทักษะทางการแพทย์ของกู้หว่านเยว่นั้นเหนือกว่านางอยู่แล้ว ลู่จิงจะทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย ไปเชิญกู้หว่านเยว่มาอีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ“พี่หว่านเยว่”ลั่วยางมีอายุมากกว่ากู้หว่านเยว่ แต่ในด้านทักษะทางการแพทย์ ถือได้ว่ากู้หว่านเยว่อาวุโสกว่านางประโยค “พี่หว่านเยว่” ของลั่วยาง ก็ไม่ได้เรียกผิด“คุณหนูกงซุนไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยจนล้มไปเท่านั้น”ร่างกายของนางเคยถูกทรมานมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่กงซุนฉิงมีทักษะการต่อสู้ จึงปกติเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ก็ไม่อาจทนต่อความยุ่งวุ่นวายในระดับสูงได้“ข้าฝังเข็มให้นางหนึ่งเล่ม แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา”ลั่วยางอธิบาย“แต่ว่า นางนอนหลับ กลับช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเสียด้วยซ้ำไป”“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางหลับต่ออีกนิดเถอะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พลางจับชีพจรของกงซุนฉิงครู่หนึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ลั่วยางพูด“ส่วนทางทหารกล้าตายแนวหน้า”กู้หว่านเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่กงซุนฉิงเหนื่อยจนล้มไป ก็เพราะว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานักรบหมาป่าได้ให้ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status