แชร์

บทที่ 185

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
หลังสิ้นสุดเสียงร้องด้วยความตกใจของนางหลิว ทุกคนก็ทยอยกันหันกลับไปมอง

เวลานี้ทุกคนเห็นฮูหยินผู้เฒ่าซูนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ก็พากันตื่นตระหนกไม่ได้ หรือว่านางจะสิ้นใจแล้ว?

“นี่ ตายแล้วจริง ๆ หรือ?”

นักการเดินเข้าไป จากนั้นก็ใช้แส้สะกิดสองครั้ง

โชคดีที่ฮูหยินผู้เฒ่าซูยังไม่ตาย เมื่อได้ยินนางส่งเสียงร้อง “ไอหยา” ออกมา ซูหัวหยางก็รีบเดินรุดหน้าเข้าไปทันที

“ท่านแม่ ท่านแม่ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”

“เจ้าหวังให้ข้าตายหรือไร? ข้าหนาวจนจะแข็งตายอยู่แล้ว....” ฮูหยินผู้เฒ่าซูยกแขนที่สั่นระริกขึ้นมา จึงได้เห็นว่าแขนทั้งสองข้างของนางถูกแช่แข็งจนมีลักษณ์คล้ายกับเปลือกไม้ไปแล้ว

“ท่านแม่ ทุกคนก็หนาวกันทั้งนั้น ไม่มีเสื้อผ้ามากพอ ท่านอดทนหน่อยนะ....”

ทันใดนั้นซูหัวหยางก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงหันไปกล่าวกับนางจินและซูหรานหร่าน

“พวกเจ้าสองคนรีบถอดเสื้อผ้าออก เอามาให้ท่านแม่ของข้าใส่คลายความหนาว”

“ว่าอย่างไรนะ?” ซูหรานหร่านเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พวกเขาทุกคนสวมเสื้อผ้าทั้งหมดสามชั้น “ยกเสื้อตัวนอกให้ท่านย่า แล้วข้ากับท่านแม่จะทำอย่างไร?”

“เจ้ามันคนอกตัญญู ท่านย่าของเจ้าเลี้ยงดูเจ้าจนเติบใหญ่มาอย่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 186

    “ระวัง!”นักโทษคนอื่นพากันหลบหลีกด้วยความตกใจ ในช่วงเวลาที่หน้าสิ่วหน้าขวานนั้น กู้หว่านเยว่ได้ทำการหักเลี้ยวเพื่อหลบเลี่ยงรถม้าคันนั้นซูจิ่นเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังไม่ได้โชคดีนัก ถูกกระแทกจนล้มหน้าคว่ำไปกับพื้น“ไอหยา!”รถม้าได้พลิกคว่ำไปบนพื้น ก่อนจะมีชายหนุ่มสวมเสื้อคลุมยาวคนนั้นกลิ้งตกลงมาจากรถม้าหลังจากกลิ้งตกลงมากระแทกพื้นเขาก็เริ่มกอดแขนด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็ชี้หน้าด่าทอซูจิ่นเอ๋อร์“ไม่มีตาหรือไร ถึงได้กล้าชนรถม้าของข้า เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”ซูจิ่นเอ๋อร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เห็น ๆ อยู่ว่าเจ้าเป็นคนพุ่งเข้ามา เกี่ยวอะไรกับข้าเล่า ข้ายังไม่โทษเรื่องที่เข้าทำมือข้าบาดเจ็บเลยนะ”“นังคนชั้นต่ำ บาดเจ็บแล้วอย่างไร? เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”ชายหนุ่มชุดคลุมหัวเราะด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก ท่าทางของเขาหยิ่งยโสมาก“เขาคือคุณชายเล็กหมู่บ้านโซว่หวาง มีชื่อว่า กงซุนจ่างเย่” ซูจิ่งสิงกระซิบอยู่ข้างหูของกู้หว่านเยว่เบา ๆ หมู่บ้านโซว่หวาง เป็นหมู่บ้านที่มีความหมายคล้องจองตามชื่อ ทุกคนในหมู่บ้านล้วนเชี่ยวชาญด้านการฝึกฝนสัตว์ร้าย ม้าหลวงและม้าศึกในราชสำนักต่างถูกจัดหาโดยฝีมือของคนในหม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 187

    แต่กว่าเขาจะได้สติกลับมาก็สายเกินไปเสียแล้ว ผิวน้ำแข็งที่อยู่ใต้เท้าของกงซุนจ่างเย่เกิดเสียง ‘แกรก’ ดังขึ้น ตามมาด้วยรอยแตกร้าวที่ทอดเป็นทางยาว“เกิดอะไรขึ้น?”เขาที่เมื่อครู่ทำตัวหยิ่งยโสมาก จู่ ๆ ก็ตัวแข็งทื่อคล้ายกับก้อนหินไปโดยปริยาย ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเขากลัวว่าผิวน้ำแข็งจะแยกจากกันโดยสมบูรณ์ ทำให้เขาร่วงตกลงไป“แกรก แกรก....”เขายังคงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ผิวน้ำแข็งเริ่มแตกร้าวอีกครั้ง กงซุนจ่างเย่ตกใจจนเกือบจะร้องไห้ ในเสี้ยววินาทีที่แผ่นน้ำแข็งกำลังจะแยกออกจากกันนั้น กู้หว่านเยว่ก็ได้ตะโกนด้วยเจตนามุ่งร้าย“หากข้าเป็นท่าน ข้าจะยืนนิ่ง ๆ ไม่ขยับ!”“ยืนนิ่งไม่ขยับอย่างนั้นหรือ?”กงซุนจ่างเย่หยุดวิ่งด้วยความตื่นตระหนก ผลปรากฏว่าผิวน้ำแข็งผืนนี้หยุดแตกร้าวในทันที แต่เขาไม่สามารถขยับตัวได้“แล้วตอนนี้ต้องทำอย่างไร?”เขาไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองทรมานเช่นนี้มาก่อน“ไม่รู้สิ”กู้หว่านเยว่ยกมือแสดงท่าทีอย่างจนปัญญา พลางกล่าวด้วยสีหน้าไร้เดียงสาว่า “ใครใช้ให้ท่านกระโดดโลดเต้นจนทำให้ผิวน้ำแตกเล่า ไม่เช่นนั้นท่านก็ต้องยืนอยู่ที่นี่ตลอด รอจนกว่าน้ำจะแข็งตัวเป็นน้ำแข็งอีกครั้ง”แบบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 188

    เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกว่าความโหดร้ายของอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่เหมือนกับที่มู่หรงอวี้ว่าไว้?อย่างมากก็แค่ชอบยั่วโมโหจนน่าหงุดหงิดไปหน่อย?“คุณชาย เมื่อครู่เจ้าขอร้องกู้หว่านเยว่แล้ว หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ท่านจะต้องถูกพี่สาวทั้งห้าหัวเราะเยาะอย่างแน่นอน”“.....หุบปากไปเลย เจ้าจะไปรู้อะไร เขาเรียกว่าผู้รู้สถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด ข้าจะรีบตามไปแก้แค้นอย่างแน่นอน!”ทางฝั่งของกู้หว่านเยว่ หลังจากข้ามแม่น้ำมาได้แล้วก็ไม่หยุดพักแต่อย่างใด เพื่อป้องกันไม่ให้กงซุนจ่างเย่กลับมาอีก นางจึงให้ซุนอู่เร่งเดินทางจนกระทั่งหันกลับไปไม่เห็นทิศทางของแม่น้ำมู่ตันแล้ว ทุกคนถึงได้โล่งใจ และแวะพักกลางทาง“ท้องฟ้าใกล้จะมืดแล้ว รีบกางกระโจมและพักผ่อนกันเถอะ”กู้หว่านเยว่หยิบเสื่อน้ำมันออกมาสร้างกระโจม ซูจิ่นเอ๋อร์และคนอื่นพากันก่อกองไฟอย่างรู้งานทุกคนต่างสัมผัสได้ว่าเวลากลางคืนในป่าลึกเช่นนี้จะหนาวเหน็บถึงระดับไหน ความหนาวนั้นอาจจะถึงระดับที่ทำให้คนตัวแข็งตายได้ ทุกคนจึงทยอยล้อมกันเข้ามาผิงไฟให้ร่างกายอบอุ่นกู้หว่านเยว่แอบหยิบขิงสดออกมาจากในห้วงมิติ จากนั้นก็ต้มเป็นน้ำขิงหม้อใหญ่อากาศแบบนี้ไม่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 189

    กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่ามู่หรงอวี้กำลังวางแผนลับหลังตน ทันทีที่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้า ทุกคนก็เดินทางกันต่อเมื่อเห็นเสบียงอาหารบนเกวียนใกล้หมดแล้ว นางก็รีบกระโดดลงจากเกวียน ถือจอบไปขุดผักป่ากลางทางเนื่องจากมีผู้ถูกเนรเทศจำนวนมาก ทำให้ผักป่าทั้งสองข้างทางถูกขุดไปจนหมด กู้หว่านเยว่ออกตามหาทั่วสารทิศ กระทั่งเจอขิงฝรั่งในดินที่ยังไม่มีใครขุดเจอนัยน์ตาของนางเปล่งประกาย ถึงขั้นตะโกนบอกซูจิ่นเอ๋อร์“จิ่นเอ๋อร์ ตรงนี้มีขิงฝรั่งด้วย เอาตะกร้ามาเก็บเร็วเข้า!”“มาแล้ว!”ซูจิ่นเอ๋อร์เชื่อฟังนางมาก นางยกงานบังคับเกวียนให้กับซูจื่อชิง ส่วนตัวเองรีบหยิบตะกร้าเดินมาข้างกายของกู้หว่านเยว่“พี่สะใภ้ใหญ่ ขิงฝรั่งเหล่านี้ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?”“ฮ่า ๆ แม้ว่ามันจะขึ้นชื่อว่าเป็นขิง แต่มันไม่ใช่ขิงหรอกนะ ขิงฝรั่งเป็นพืชชนิดหนึ่ง ใช้ทำเป็นยำและโจ๊กรสชาติไม่เลวเลย”กู้หว่านเยว่กล่าวพลางกวาดตามองไปรอบ ๆ ด้าน นางรู้สึกเหมือนมีคนแอบซุ่มอยู่ ในใจของนางเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ชอบมาพากลบางอย่าง“เรารีบขุดกันเถอะ ขุดเสร็จแล้วก็รีบกลับไปรวมตัวกับขบวน”“เจ้าค่ะ” ซูจิ่นเอ๋อร์เร่งมือขุดทันที สองมือช่วยกัน นางในต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 190

    ชายวัยกลางคนที่อยู่หน้าสุดแต่งกลายด้วยชุดเกราะทั้งตัวตะโกนด้วยเสียงที่ทรงพลังและแข็งแกร่งเขาชักมีดออกมา จากนั้นก็สังหารผู้อพยพที่สร้างปัญหาที่โหดร้ายที่สุดภายในฉับเดียวผู้อพยพรอบตัวพากันตื่นตกใจ เพื่ออาหารคำเดียวถึงกับทำให้พวกเขาเสียสติได้ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ยังไม่อยากตาย“อ๊าก! มีคนตาย มีคนตาย หนีเร็วเข้า!”เมื่อกู้หว่านเยว่เห็นผู้อพยพกลุ่มนี้สลายตัวไป นางก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะเดียวกันก็มองไปทางชายวัยกลางคนด้วยสายตาซาบซึ้ง“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยเหลือ ขอถามหน่อยท่านคือใคร?”ซุนอู่รีบรุดหน้าเข้าไปกล่าวขอบคุณ นายทหารที่อยู่ด้านหลังคนหนึ่งกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพของเราคือหนานหยางอ๋องผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง เจ้าเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่?”หนานหยางอ๋อง?กู้หว่านเยว่ใจเต้นแรง เมื่อเห็นหนานหยางอ๋องที่นั่งอยู่บนหลังม้าก็นึกเห็นใจขึ้นมาฉับพลันนี่คงไม่ใช่บุรุษผู้โง่เขลาที่ยอมทุ่มเทให้กับการเป็นทหารทั้งชีวิตทำงานเพื่อคนอื่นตามในต้นฉบับหรอกนะ?!คิดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่เขาไม่ได้อยู่ในหนานหยางตลอดหรือ?จริงสิ เขาตายอย่างไรกันนะ?ในต้นฉบับเขียนไว้อย่างคลุมเครือ บอกแค่ว่าฟู่เยียนหรา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 191

    แล้วซุนอู่ก็ยิ้มออกมา มีแม่นางกู้เดินไปดู เรียบร้อยแล้ว!“หว่านเยว่” ซูจิ่งสิงเผยสีหน้ากังวลใจหนานหยางอ๋องผู้นี้ไม่ใช่คนที่จะไปยั่วยุได้ มีทหารอันธพาลภายใต้บังคับบัญชาเป็นจำนวนมากทำการปกป้องบ้านเมือง แต่ก็โหดร้ายมากเช่นกัน“วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นอะไร พวกเขาไม่มีทางลงไม้ลงมือกับหมอหรอก ท่านรอข้าอยู่ที่นี่ก่อน”พอกู้หว่านเยว่ออกไป ทหารเหล่านั้นก็เข้ามาพอดีเมื่อเห็นกู้หว่านเยว่ หลายคนก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ทหารหนุ่มนายหนึ่งในนั้นกวาดสายตามองกู้หว่านเยว่สักพักอย่างคลุมเครือ จากนั้นก็ส่ายหน้า“ยังเด็กเกินไป...”เด็กขนาดนี้ หากเกิดอะไรขึ้นกับท่านอ๋อง แล้วใครจะรับผิดชอบ?“รู้สึกว่าข้าเด็กหรือ? เช่นนั้นข้าจะไป” เดิมทีนางก็ไม่อยากเข้าไปพัวพันกับเรื่องยุ่งยากนี้อยู่แล้วซุนอู่พูดไม่ออก กว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมแม่นางกู้ได้ไม่ใช่ง่าย ๆ เลย เด็กแล้วเป็นอย่างไร ทักษะทางการแพทย์ของแม่นางกู้นั้นแม้แต่อาการขาหักของซูจิ่งสิงยังรักษาจนหายได้!“ช้าก่อน!”หวังปี้ก็มึนงงเช่นกัน เขาพูดไปอย่างนั้นเอง เหตุใดถึงจะไปจริง ๆ เล่า หมอคนนี้ขี้โมโหขนาดนั้นเชียวหรือ?“เอ่อ ถึงเจ้าจะยังเด็ก แต่ที่นี่ก็ไม่มีหมอคนอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 192

    “พิ้ว!” ฝูงชนแตกตื่นโดยพลัน “น้ำเสียงแม่นางน้อยมั่นใจมาก พิษนี้ถูกคิดค้นโดยชาวต่างแคว้น แม้แต่หมอหลวงก็รักษาไม่ได้ เจ้ารักษาได้หรือ?”กู้หว่านเยว่ถอนหายใจ “ถึงเวลาปรับเปลี่ยนหมอหลวงในวังทั้งชุดแล้ว”นางไม่ได้พูดเกินจริงเลย ยิ่งไปกว่านั้นพิษกระดูกข้อเท้าเป็นเพียงพิษธรรมดาเท่านั้นเป็นหมอหลวงยังคลายไม่ได้ ไม่สมควรจริง ๆหนานหยางอ๋องอดลืมตาขึ้นมาไม่ได้ พลางถามด้วยเสียงแหบพร่า“แม่นางน้อย เจ้าช่วยคลายพิษให้ข้าได้จริงหรือ?”เขาทรมานด้วยพิษนี้มานานกว่าสิบปี ในฤดูหนาวทุกปีต้องอยู่แบบตายทั้งเป็นหลายวัน หากแม่นางน้อยคนนี้สามารถช่วยคลายพิษนี้ให้เขาได้ ในอนาคตเขาจะได้หลุดพ้นจากวันเวลาเช่นนี้ไปได้!กู้หว่านเยว่มองไปที่รอยแผลเป็นบนใบหน้าของหนานหยางอ๋อง ตกอยู่ในภวังค์แม้ว่าหนานหยางอ๋องผู้นี้จะเป็นบิดาของฟู่เยียนหราน แต่ก็เป็นวีรบุรุษที่ปกป้องประชาชนของต้าฉีเช่นกันเหรียญตราคุณงามความดีมีอยู่ทั่วใบหน้าและในมือเขาแม้ว่านางจะเกลียดชังฟู่เยียนหราน แต่ก็ยังตัดสินใจคลายพิษให้หนานหยางอ๋องพลางถอนหายใจทันที “ใช่แล้ว ข้าสามารถคลายพิษให้ท่านได้”“แต่ข้าไม่มียาถอนพิษสำเร็จรูปอยู่ในมือ ต้องใช้เวลา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 193

    “เรื่องอะไรหรือ?” กู้หว่านเยว่มองหวังปี้ด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้มหวังปี้ขนหัวลุกจากสายตาของนางสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหนไม่ควรล่วงเกินบทสะอื้นของดาวร้ายนางนี้ตั้งแต่แรก“มันไม่เหมาะที่จะพูดที่นี่ หาสถานที่ที่คนน้อยกว่านี้ได้หรือไม่?”สายตาเหมือนเสือจ้องเขมือบเหยื่อของซูจิ่นเอ๋อร์ เขาเห็นแล้วรู้สึกขนหัวลุก“ตกลง” กู้หว่านเยว่ลุกขึ้นเดินออกไปอีกด้านหนึ่งกับเขา ความจริงก็พอจะรู้ว่าที่หวังปี้อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ นั้นต้องการพูดอะไร แต่ว่า เฮ้? นางแค่ไม่พูดขึ้นมาก่อนหวังปี้ประดิดประดอยในใจอยู่นาน ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปาก“เอ่อ แม่นางน้อยกู้ ข้ามีภาวะไตพร่องจริงหรือ เจ้าช่วยตรวจหรือเขียนใบสั่งยาให้ข้าด้วยได้ไหม?”กู้หว่านเยว่ทำหน้าใสซื่อ “เมื่อครู่ขุนพลหวังยังรู้สึกว่าข้ายังเด็กอยู่มิใช่หรือ?”หวังปี้: ต้องผูกใจเจ็บเช่นนี้เลยหรือ!“ข้าผิดไปแล้ว ข้ามีตาหามีแววไม่ แม่นางกู้ได้โปรดอย่าถือสาคนที่มีความคิดตื้นเขินอย่างข้าเลย ฮือฮือ เจ้าช่วยข้าด้วยเถอะ ข้ายังไม่ได้แต่งงาน ข้าไม่อยากกลายเป็นคนไร้สมรรถภาพ...”หวังปี้ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตามป่ารกร้างผืนนี้ก็ไม่มีหมออีกแล้วเขากลัวมาก

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1400

    “ดูเจ้าสิ พูดเรื่องนี้กับหว่านเยว่เพื่ออะไร?”หลินรู่ไห่ดึงนางเก๋อไว้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเช่นกัน แต่เขารู้ว่าการบอกเรื่องนี้กับกู้หว่านเยว่นั้นไม่มีประโยชน์เมืองเหยาอยู่ไกลจากที่นี่ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับฮ่องเต้ จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาคนที่เมืองเหยา?พวกเขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่ต้องลำบากใจ“ท่านน้า ต้องขอบคุณน้าสะใภ้ที่บอกข้า เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่พูดทันทีที่เข้ามา?”กู้หว่านเยว่ยังจำหลินเพียวเพียวได้ สาวน้อยที่สงบเสงี่ยมมาก เวลาพูดขึ้นมาก็ดูคงแก่เรียนเมื่อคนสกุลหลินไปที่โรงเตี๊ยมเตียงนอนรวมเพื่อส่งเงินให้นาง หลินเพียวเพียวก็มาด้วย แล้วยังปลอบประโลมนางอย่างนุ่มนวล“หว่านเยว่ พวกเราไม่อยากให้เจ้าเป็นกังวล”ประเด็นคือพวกเขาไม่เคยคิดว่ากู้หว่านเยว่จะสามารถช่วยหลินเพียวเพียวกลับมาได้และพวกเขาก็เป็นห่วงว่าซูจิ่งสิงจะรู้สึกว่าสกุลหลินของพวกเขาเป็นปัญหา ถึงตอนนั้นจะทำให้กู้หว่านเยว่เดือดร้อนไปด้วยกู้หว่านเยว่จำพวกเขาได้ จึงขอให้ซูจิ่งสิงส่งคนไปรับพวกเขาที่ฉูโจว พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว จะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อย่างไร?“พวกท่าน”กู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1399

    “ท่านยาย พวกท่านปลอดภัยดีตลอดเส้นทางไหม?”กู้หว่านเยว่สอบถามพวกเขา แม้ว่าซูจิ่งสิงจะส่งคนไปรับพวกเขาเองก็ตามแต่เวลานี้ทั่วแคว้น ความอดอยากแห้งแล้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โจรร่อนเร่ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกแห่งการเดินทางมาของสกุลหลินครั้งนี้ ก็คงไม่สงบสุขนัก“ระหว่างทาง ได้พบกับโจรสลัด”เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลินพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ“โจรสลัดเหล่านั้นฆ่าทุกคนที่พบเจอ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก น่ากลัวจริง ๆ”สกุลหลินเป็นพลเมืองดีที่ทำการค้า การเข่นฆ่าใด ๆ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนตกใจกลัวจนเหลือทน ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่“ท่านยาย พวกท่านลำบากแย่เลย”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโจรเร่ร่อนข้างนอกนั้นเหิมเกริมเช่นนี้“ไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”นายท่านผู้เฒ่าหลินลูบเครา พลางโบกมือ“โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มที่ท่านอ๋องส่งไปฉลาดเฉลียว รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พาพวกเราหนีไปทางเรือเล็กแต่น่าเสียดายนายท่านผู้เฒ่าหลินเผยแววตาทนไม่ได้ บนเรือใหญ่ยังมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก“พวกเราหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นเรือทั้งลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1398

    “ข้าไม่เป็นอะไร”ลั่วยางชักมือออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?เหล่าทหารทุกคนกำลังเฝ้าดู ตอนนี้ทั้งกองทัพรู้แล้วว่าเขาชอบนางนางไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เกาเจี้ยนถอนหายใจ มองไปทางซูจิ่งสิง ขณะที่กำลังจะโต้แย้งก็เห็นคนที่เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ คว้ามือของกู้หว่านเยว่ไว้โดยไม่ละอาย น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะคั้นเป็นน้ำออกมาได้“น้องหญิงเหนื่อยหรือยัง หิวหรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”เกาเจี้ยนเบิกตากว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้มีความรู้มากกว่าเขาเสียอีก!“ท่านมาที่นี่ทำไม?”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ซูจิ่งสิงแม้ว่าวันนี้จะไม่ร้อนมาก แต่ซูจิ่งสิงก็สวมชุดกราะตลอดเมื่ออยู่ในกองทัพ ถูกแดดตอนเที่ยงวันสาดส่อง จนเหงื่อแตกพลั่ก“เห็นเจ้าไม่กลับมาเสียที ก็เลยเป็นห่วงเจ้า”ซูจิ่งสิงมองเข้าไปในกระโจม กู้หว่านเยว่ก็อธิบายสถานการณ์ของกงซุนฉิงอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะพาคนกลับไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงสกุลกงซุน สั่งให้คนแพร่ข่าวออกไปหลี่กวงถิงถูกจับแล้ว กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ก็ไล่ล่าโจมต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1397

    ลั่วยางก็ไม่ได้โกรธเช่นกันทักษะทางการแพทย์ของกู้หว่านเยว่นั้นเหนือกว่านางอยู่แล้ว ลู่จิงจะทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย ไปเชิญกู้หว่านเยว่มาอีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ“พี่หว่านเยว่”ลั่วยางมีอายุมากกว่ากู้หว่านเยว่ แต่ในด้านทักษะทางการแพทย์ ถือได้ว่ากู้หว่านเยว่อาวุโสกว่านางประโยค “พี่หว่านเยว่” ของลั่วยาง ก็ไม่ได้เรียกผิด“คุณหนูกงซุนไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยจนล้มไปเท่านั้น”ร่างกายของนางเคยถูกทรมานมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่กงซุนฉิงมีทักษะการต่อสู้ จึงปกติเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ก็ไม่อาจทนต่อความยุ่งวุ่นวายในระดับสูงได้“ข้าฝังเข็มให้นางหนึ่งเล่ม แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา”ลั่วยางอธิบาย“แต่ว่า นางนอนหลับ กลับช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเสียด้วยซ้ำไป”“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางหลับต่ออีกนิดเถอะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พลางจับชีพจรของกงซุนฉิงครู่หนึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ลั่วยางพูด“ส่วนทางทหารกล้าตายแนวหน้า”กู้หว่านเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่กงซุนฉิงเหนื่อยจนล้มไป ก็เพราะว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานักรบหมาป่าได้ให้ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status