Share

บทที่ 159

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เหล่าองครักษ์แต่ละคนเองก็หิว ยังถูกเขาทุบตีไปทั้งตัวอีก

“ท่านอ๋องนับวันยิ่งวิปริต ข้าทนไม่ไหวแล้ว!”

“ซวยจริงเชียว ติดตามเจ้านายเช่นนี้...”

องครักษ์บ่นตำหนิเบาๆ เป็นการส่วนตัว

“ชู่ว์ เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้ว ท่านอ๋องได้ยินต้องฆ่าเจ้าเป็นแน่”

องครักษ์อีกคนเอ่ยเตือน คนอื่นอีกสองสามคนหุบปากลงในทันใด กลับรู้สึกอึดอัดคับข้องใจภายในใจ

รุ่งอรุณวันต่อมา มู่หรงอวี้หิวกระหายมากเกินไป เบ้าตาลึกอิดโรยเป็นพิเศษ

กอปรกับทั้งตัวล้วนคือทรายเหลืองและฝุ่น พูดว่าเขาเป็นขอทานก็ไม่เกินจริง

ตรงข้ามกับพวกกู้หว่านเยว่ เพราะกินกระบองเพชรอิ่มไปหนึ่งมือ มีชีวิตชีวาอย่างมาก เปล่งเสียงหัวเราะมีความสุข

“ข้าโมโหยิ่งนัก!”

มู่หรงอวี้นอนบนลาเทียมเกวียน หิวจนไม่มีแรงด่าแล้ว

เขาลืมตาขึ้น มองท้องฟ้า “ท่านย่าทวด ข้าคล้ายมองเห็นท่านย่าทวดของข้าแล้ว...”

องครักษ์ “....”

ทันใดนั้น จางเอ้อร์ร้องตะโกนเสียงดัง “พวกเจ้าดู ข้างหน้ามีป่ามะกอกทะเลทรายผืนหนึ่ง!”

ป่ามะกอกทะเลทรายนี้ เพียงมองดูก็รู้ว่ามีคนปลูกไว้ เห็นทีพวกเขาอยู่ห่างจากหมู่บ้านและเมืองไม่ไกลแล้ว

“ดียิ่งนัก ในที่สุดพวกเราก็ออกจากทะเลทรายแล้ว” ทุกคนเดินทางมาอย่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sompong Wongmak
ชอบมากๆ สนุก ใครเหงาวอยากมีความสุขแนะนำให้อ่านค่ะครายเครียดใด้ดีมากๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 160

    “ช้าก่อน พวกเจ้าบ่าวชั่วเหล่านี้ ข้ายังอยู่ข้างหลังนะ!”มู่หรงอวี้บนลาเทียมเกวียนว้าวุ่นลนลานองครักษ์สองสามคนสบตากันแวบหนึ่ง ย้อนคิดถึงวันที่ถูกมู่หรงอวี้ด่าว่าทุบตี ถึงขั้นไม่มีใครกลับไปแม้คนเดียวมู่หรงอวี้ขยับเขยื้อนไม่ได้อยู่แล้ว เห็นสุนัขเหล่านั้นปรี่ถลามาทางตนเอง ตกใจร้องตะโกน“โอ๊ย ๆ ช่วยด้วย ช่วยข้าด้วย!”สุนัขเหล่านั้นฟังไม่เข้าใจภาษามนุษย์ พวกมันรู้เพียงว่าต้องลงโทษหัวขโมย ต่างพากันกระโดดขึ้นลาเทียมเกวียน กัดตัวมู่หรงอวี้ชนิดที่ว่ากางเกงมู่หรงอวี้ถูกดึงลงมาแล้ว เผยบั้นท้ายขาวๆ สองก้อนพวกกู้หว่านเยว่ที่อยู่ภายนอกป่ามะกอกทะเลทรายเกือบหัวเราะตายไปแล้ว“เห็นหรือไม่จิ่นเอ๋อร์ นี่ก็คือจุดจบของการลักขโมยของ”“เห็นแล้วๆ” ซูจิ่นเอ๋อร์ผลิยิ้ม “มู่หรงอวี้คนนี้แปลกมากจริงๆ ใกล้ถูกสุนัขกัดตายแล้ว”“ท่านอ๋อง!”ตอนนี้เอง ร่างอรชรแบบบางของฟู่เยียนหรานปีนขึ้นเกวียนภาพนี้ตกอยู่ในสายตาของกู้หว่านเยว่ กลับทำให้นางเลิกคิ้วอย่างแปลกใจฟู่เยียนหรานเป็นตัวโง่งม แต่กลับมีความเด็ดเดี่ยว นี่ก็ไม่หนีไป“ท่านอ๋อง ข้ามาช่วยท่านแล้ว ข้าไม่มีวันทอดทิ้งท่าน!”ฟู่เยียนหรานมองมู่หรงอวี้อย่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 161

    เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย กู้หว่านเยว่ก็รีบเงยหน้าขึ้นมองซ่งเสวี่ยกำลังเปิดม่านรถม้า มองนางด้วยรอยยิ้มเทียบกับเมื่อไม่กี่วันก่อน กำลังกายของนางฟื้นตัวขึ้นมามากแล้ว ดูเหมือนว่าช่วงไม่กี่วันนี้ นางจะดูแลตัวเองอย่างดี ปฏิบัติตามเทียบยาที่นางทิ้งไว้ให้ซุนอู่เหลือบมองมาทางนี้ เมื่อเห็นว่าซ่งเสวี่ยปลอดภัยดีก็รีบหันกลับไป“พี่หญิงซ่ง ฝีเท้าของพวกท่านเร็วดีนะเจ้าคะ” กู้หว่านเยว่ถอนหายใจซ่งเสวี่ยยิ้มและพูดว่า “ต้องรีบกลับบ้าน ระหว่างทางเลยไม่ได้หยุดพัก พวกเจ้าจะเข้าเมืองหรือ?”“อืม” กู้หว่านเยว่พยักหน้า “เสียงที่มีพวกข้ากินหมดระหว่างทางแล้ว จึงคิดจะเข้าเมืองไปซื้อเสบียงมาเติมสักหน่อย ถือโอกาสพักสักคืนแล้วค่อยออกเดินทาง”“เช่นนั้นก็ดียิ่ง”ซ่งเสวี่ยปรบมือแล้วพูดว่า“ครอบครัวแม่สามีของข้าอยู่ที่เมืองปิงโจว ไม่สู้พวกเจ้าไปพักที่บ้านข้า ให้ข้าตอบแทนให้ดีสักหน่อย?”กู้หว่านเยว่ลังเล อย่างไรเสีย เรื่องนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางสามารถตัดสินใจได้แต่หากพวกเขาสามารถเข้าไปในตระกูลโจวได้จริง ย่อมต้องได้พบโจวเหล่าแน่ ขอเพียงแค่ได้พบโจวเหล่า ความลับของประสบการณ์ที่ซูจิ่งสิงต้องเผชิญก็จะได้รับการค

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 162

    “เสวี่ยเอ๋อร์กับหลานสาวข้ากลับมาแล้ว!”เมื่อพูดเช่นนั้น ทั้งสองคนก็วางเรื่องมู่หรงอวี้เอาไว้ รีบเดินมาทักทายคนถึงรถม้าซ่งเสวี่ยสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ อุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนโดยมีแม่นมฉินช่วยประคอง เมื่อได้เห็นหน้าโจวเหล่าและฮูหยินผู้เฒ่าโจว นางก็ร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่“ท่านพ่อ ท่านแม่”“เด็กดี เด็กดี” ฮูหยินผู้เฒ่าโจวรับเด็กในอ้อมแขนของซ่งเสวี่ยมาอุ้ม รู้สึกสงสารอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็จับมือของซ่งเสวี่ย พูดด้วยตาสีแดงก่ำว่า “ได้ยินว่าเจ้าคลอดลูกในทะเลทราย รอดตายมาได้หวุดหวิด ข้าขอบคุณเจ้าแทนทั้งตระกูลโจว ที่มีรุ่นหลังไว้ให้เยี่ยนเอ๋อร์”เมื่อพูดถึงโจวเยี่ยน ซ่งเสวี่ยก็ดูเศร้าเล็กน้อยแต่นางก็รีบปลุกใจ ตอนนี้นางมีเหนี่ยวเหนี่ยวแล้ว จะต้องกลัวอะไรอีก?“ใช่แล้ว ท่านพ่อท่านแม่ นี่คือแม่นางน้อยกู้ เป็นนางที่ทำคลอดให้ข้า ช่วยข้ากับลูกเอาไว้เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าอย่างสง่างาม รับความเอ็นดูจากโจวเหล่าและฮูหยินผู้เฒ่าโจวซ่งเสวี่ยไม่ต้องพูดอะไร ฮูหยินผู้เฒ่าโจวก็เสนอให้นางพักอาศัยอยู่ในบ้านก่อน รับรองนางอย่างดี ไม่มีท่าทางรังเกียจนางในฐานะนักโทษแต่อย่างใดหลังจากได้พูดคุ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 163

    ฉากนี้ทำให้กู้หว่านเยว่ไม่ทันตั้งตัว ฮูหยินผู้เฒ่าโจวเป็นโรคหัวใจหรือ?“ฮูหยิน?”โจวเหล่าก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เรียกฮูหยินผู้เฒ่าโจวไม่หยุด เมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เขาจึงรีบสั่งให้คนมาประคอง ย้ายนางไปที่สวนหลังบ้าน“ตามหมอมา!”ทุกคนในตระกูลโจวต่างตกตะลึงมู่หรงอวี้แสดงรอยยิ้มอย่างชอบใจจากด้านหลัง “ดี ดียิ่ง ถึงตาเขาลงมือแล้ว”“ลั่วยางมาหรือยัง?”“หมอเซียนน้อยรออยู่ข้างนอกแล้วเจ้าค่ะ”“เรียกนางเข้ามา ตามข้าไปหาฮูหยินผู้เฒ่าโจว”มู่หรงอวี้รีบเดินไปในทิศทางที่โจวเหล่าจากไป“ท่านอ๋อง รอข้าด้วยเจ้าค่ะ”ฟู่เยียนหรานยกมือปิดแขน สุดแสนเสียใจ นางถูกสุนัขกัดทั้งยังไม่ได้ทำแผล ทำไมไม่มีใครสนใจนางเลย?เดิมทีซ่งเสวี่ยกำลังจะพักผ่อน แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ย่อมไร้กะจิตกะใจจะนอน จึงรีบเดินไปที่สวนหลังบ้านพร้อมกับทุกคนอย่างรวดเร็ว“น้องหญิงกู้ แม่สามีข้าล้มป่วยกะทันหัน ข้าต้องไปดูนางสักหน่อย ประเดี๋ยวจะให้แม่นมฉินพาเจ้าไปที่ห้องรับแขก ต้องขอโทษที่ต้อนรับบกพร่องด้วย”ซูจิ่นเอ๋อร์พูดอย่างไม่ใส่ใจ “พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าเป็นหมอเทวดา ให้นางลองดูสิเจ้าคะ”“จิ่นเอ๋อร์!”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 164

    ฮูหยินผู้เฒ่าโจวเป็นโรคอะไรกันแน่?“แม่นางน้อยกู้ไม่ต้องแปลกใจไปเจ้าค่ะ ฮูหยินผู้เฒ่าเราป่วยเช่นนี้ก็ไม่ใช่ครั้งสองครั้งแล้ว ก่อนหน้าหน้า ท่านหมอยังรักษาอาการของนางให้ทรงตัวอยู่ได้แต่ครั้งนี้ ท่านหมอที่ตามมา กลับบอกให้พวกเราเตรียมจัดงานไว้ทุกข์”ไม่ต้องพูดถึงว่าแม่นมฉินตื่นตระหนก กู้หว่านเยว่เองก็ตกใจเช่นกันแต่นางก็ประคองสติได้อย่างรวดเร็ว ดูจากอาการของฮูหยินผู้เฒ่าโจวแล้ว ดูเหมือนว่านางจะมีอาการหัวใจวายโรคหัวใจก็เป็นเช่นนี้ เมื่อไม่เป็นก็ไม่เป็นไรกู้หว่านเยว่ไม่ได้ตามนางไปทันที แต่พูดว่า “ไม่ใช่ว่าข้าจะไม่ไป แต่หากฮูหยินผู้เฒ่าของพวกท่านเป็นโรคร้ายแรง ต่อให้ข้าไปแล้วก็ไร้ประโยชน์”แม่นมฉินรีบพูดว่า “แม่นางกู้ไม่ต้องกลัวไปเจ้าค่ะ ฮูหยินน้อยเองก็คิดว่าทักษะการแพทย์ของท่านเยี่ยมยอด ไม่แน่ว่าอาจจะช่วยฮูหยินผู้เฒ่าได้ แต่หากไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ถือเสียว่าไปดูนางสักหน่อย พวกเราย่อมไม่มีทางเอาเรื่องนี้มาโทษท่านแน่”ซ่งเสวี่ยมีความคิดที่ว่า แมวตาบอดเจอหนูที่ตายแล้ว[footnoteRef:1] [1: เป็นสำนวนที่หมายถึงความบังเอิญ หรือโชคดีขั้นสุด] “เช่นนั้นท่านก็นำทางเถอะ ระหว่างทางก็เล่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 165

    “ท่านอ๋อง?”ลั่วยางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่น“อย่าหาว่าข้าใจร้ายเลย เพราะข้าฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เจ้าแล้ว”มู่หรงอวี้มองนางอย่างเย็นชา ท่าทางเช่นนี้ทำให้ลั่วยางรู้สึกอับอาย“ท่านอ๋อง ข้าพยายามเต็มที่แล้วจริงๆ เจ้าค่ะ...”ในฐานะศิษย์คนเดียวของปรมาจารย์แพทย์ นางมั่นใจในทักษะการแพทย์ของตนเองมาก เรียกได้ว่าไม่มีโรคใดในโลกที่จะทำให้นางสะดุดได้แต่นางไม่เข้าใจในชีพจรและอาการของฮูหยินผู้เฒ่าโจวจริงๆ“บางทีอาจารย์ เขาสามารถ...”“น่าชังนัก! ถ้าข้าหาปรมาจารย์แพทย์เจอ ยังใช้งานเจ้าอยู่อีกหรือ?”มู่หรงอวี้โกรธมาก ถ้าลั่วยางไม่สามารถรักษาฮูหยินผู้เฒ่าโจวได้ แล้วเขาจะถ่อมาลำบากถึงปิงโจวไปทำไม?ยิ่งไปกว่านั้น เขาอวดดีต่อหน้าโจวเหล่าไปมากแล้ว หากทำไม่ได้ คงได้อับอายกับทั้งโคตร“ท่านอ๋อง ภรรยาข้าเป็นอะไรหรือ?” เห็นทั้งสองพึมพำกัน ทำให้โจวเหล่ารู้สึกใจไม่ดี“โจวเหล่า”มู่หรงอวี้ยังอยากยื้อต่อไปสักพักฟู่เยียนหรานกลับปากมากสอดขึ้นมา “โจวเหล่า ลั่วอีหนี่ว์บอกว่านางไม่สามารถรักษากโรคนี้ของฮูหยินผู้เฒ่าได้เจ้าค่ะ”“ฟู่เยียนหราน!” มู่หรงอวี้โกรธมาก อยากจะบีบคอนางให้ตาย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 166

    “เป็นไปไม่ได้ โรคที่ข้ารักษาไม่ได้ นางไม่มีทางรักษาได้”ลั่วยางเป็นคนยโส เชื่อว่าไม่มีใครที่อายุเท่านางในโลกนี้ สามารถเอาชนะนางได้นางเป็นถึงศิษย์ของปรมาจารย์แพทย์เชียวนะนางมองดูมู่หรงอวี้ที่กำลังโกรธ “ท่านอ๋อง วางใจเถอะเจ้าค่ะ นางก็แค่พยายามทำให้คนอื่นพอใจ”มู่หรงอวี้สงบลงเล็กน้อย มองดูกู้หว่านเยว่ราวกับว่านางไม่มีความสามารถนั้นจริงๆ“กู้หว่านเยว่ เจ้าไม่ควรเอาเรื่องฮูหยินผู้เฒ่าโจวมาล้อเล่น ไม่เช่นนั้น ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่ายๆ แน่”เขาจงใจแสดงเกียรติว่าสูงส่ง เพราะเห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการให้กู้หว่านเยว่รักษาฮูหยินผู้เฒ่าโจวกู้หว่านเยว่ยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ท่านอ๋องดูเหมือนจะไม่อยากให้ข้ารักษาฮูหยินผู้เฒ่าโจวนะเจ้าคะ?”“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” การแสดงออกของมู่หรงอวี้เปลี่ยนไปได้อย่างมาก เขาจะยอมให้กู้หว่านเยว่ขุดหลุมให้เขากระโดดเข้าไปได้อย่างไร?“เอาล่ะ ให้หมอกู้ดูก่อนอาการก่อนเถอะ” โจวเหล่าขัดจังหวะพวกเขาด้วยเสียงทุ้มลึก ตราบใดที่ยังมีความหวัง แม้จะริบหรี่ เขาก็จะไม่ยอมแพ้“ตอนที่ข้าตรวจชีพจร กรุณาอย่าส่งเสียงรบกวน”กู้หว่านเยว่ยิ้ม เหลือบมองไปทางมู่หรงอวี้อย่างอารมณ์ดี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 167

    “พิษ?”ทันทีที่พูดจบ การแสดงออกของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันทีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โจวเหล่าที่ขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนใจร้ายถึงขนาดวางยาพิษภรรยาของเขา“ไม่มีทางเป็นพิษแน่”ลั่วยางพูดอย่างรวดเร็ว“ถ้ามันเป็นพิษ เข็มเงินจะตรวจไม่พบได้อย่างไร?”กู้หว่านเยว่กล่าวประชดเบาๆ ว่า “บนโลกใบนี้มีพิษมากมายที่เข็มเงินตรวจไม่พบ ท่านหมอลั่วน่าจะรู้ดีกว่าข้ากระมัง?”หน้าของลั่วยางเห่อร้อน พิษที่นางให้มู่หรงอวี้ไปทำร้ายซูจิ่งสิง เข็มเงินก็ไม่อาจตรวจพบเช่นกันกู้หว่านเยว่พบมันแล้วจริงๆแต่นางก็ยังคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ “ถ้าเป็นพิษ ไม่มีทางที่ข้าจะตรวจไม่พบ”กู้หว่านเยว่เสียอารมณ์ในทันที“ถ้าเช่นนั้นเจ้าว่ามันคืออะไร?”“ข้า...” เมื่อเผชิญหน้ากับการจ้องมองที่เฉียบคมของกู้หว่านเยว่ ลั่วยางก็เริ่มอับอายมากขึ้นเรื่อยๆ “ข้าไม่รู้”“ในเมื่อเจ้าบอกไม่ได้ ก็อย่าตั้งคำถามกับการวินิจฉัยของข้า”กู้หว่านเยว่ไม่มีปัญหากับทักษะการแพทย์ของคนอื่น แต่กับลั่วยางที่หยิ่งผยอง นางดูถูกสุดใจ“ก็ได้” ลั่วยางหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าเจ้ามีความสามารถ เช่นนั้นก็บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าโจวถูกพิษชนิดใด?”นี่คือสิ่งที่โจวเหล่า

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1391

    “หลี่กวงถิงต้องการควบคุมข่าวลือในกองทัพ แต่ก็ต้องดูว่านายทหารเหล่านั้นจะเชื่อเขาหรือไม่”ในกระโจมฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำมู่ตัน กู้หว่านเยว่กำลังแกว่งเอกสารราชการในมือเล่น ใบหน้าเผยแววเจ้าเล่ห์ออกมาซูจิ่งสิงถูปลายนิ้ว “เป็นอย่างที่เจ้าคาดไว้ไม่ผิด ทันทีที่หลี่กวงถิงได้ยินข่าวนี้ ก็เรียกประชุมทั้งกองทัพทันทีและบอกว่าข่าวนี้ เป็นเท็จ”“เขามีวิธี และเราก็มีวิธีเช่นกัน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเก็บไพ่ใบสำคัญนี้ไว้ตลอดโดยเปล่าประโยชน์ ย่อมไม่ยอมปล่อยให้หลี่กวงถิงปกปิดเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ“ถึงเวลาที่โจวเหล่าต้องออกหน้าแล้ว”นางเอ่ยเบา ๆหลี่กวงถิงเรียกประชุมทั้งกองทัพ พยายามปลอบขวัญทหารทว่าเขาเพิ่งพูดจบในตอนเช้า ตอนบ่ายก็มีข่าวส่งมาถึงบอกว่าโจวเหล่าออกหน้าด้วยตัวเอง เขียนเอกสารฉบับหนึ่งด้วยมือ“โจวเหล่าได้ยอมรับสถานะบุตรที่เป็นกำพร้าของอดีตรัชทายาทแล้ว”ใบหน้าของรองแม่ทัพอมทุกข์“โจวเหล่าเคยเป็นอาจารย์ของอดีตรัชทายาท เขายังเป็นนักปราชญ์แห่งยุคอีกด้วย มีลูกศิษย์ในมือนับไม่ถ้วน เขาเชี่ยวชาญในการชี้นำการพัฒนาคำวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนบัดนี้เขาพูดออกมาเช่นนี้ ยังมีใครที่ไม่เชื่ออีก?”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1390

    กู้หว่านเยว่ซื้อโล่และชุดเกราะมาอย่างละสองหมื่นชุดนอกจากธนูและหน้าไม้แล้ว กู้หว่านเยว่ยังซื้อลูกปืนใหญ่มาอีกชุดหนึ่งลูกปืนใหญ่เหล่านี้ถือเป็นของสำรอง จะไม่นำออกมาใช้อย่างเด็ดขาด เว้นแต่จะเป็นสถานการณ์พิเศษพลังทำลายล้างของลูกปืนใหญ่นั้นรุนแรงเกินไป หากไม่จำเป็น ก็อย่าเพิ่งนำออกมาใช้หลังจากเตรียมสิ่งของพร้อมแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ดูยอดเงินคงเหลือในบัตรอืม แทบจะไม่ขยับเลยการมีเงินใช้ไม่หมดนี่มันรู้สึกดีจริง ๆ !นอกจากสิ่งเหล่านี้ นางยังซื้อผงห้ามเลือดและยาจินชวงมาจำนวนมาก ล้วนมีประโยชน์สำหรับใช้พันแผลให้ทหารหลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ย้ายสิ่งของทั้งหมดนี้เข้าไปไว้ในคลังเก็บของในเมืองผิงโจวเมืองผิงโจวมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่ต้องกลัวว่าของข้างในจะสูญหายหลังจากนำของเข้าไปไว้ในคลังเก็บของแล้ว ค่อยให้ทหารขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดไปยังค่ายเวลาผ่านไปรวดเร็วสิบวันต่อมา กองทัพของฮ่องเต้เดินทางมาถึงแม่น้ำมู่ตันหลี่กวงถิงมองไปยังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำมู่ตัน ก็รู้สึกมึนงงมิน่าล่ะ ก่อนหน้านี้เจียงเต๋อจื้อนำกองทัพห้าหมื่นนายมา ผลปรากฏว่าพ่ายแพ้ย่อยยับ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1389

    นางสั่งให้คนสร้างคลังเก็บของขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำมู่ตันในเมืองผิงโจวเมื่อนานมาแล้ว แต่ก่อนเอาไว้ใช้เก็บเสบียงอาหารยังมีคลังเก็บของอีกหลายแห่งที่ยังใช้ไม่หมดกู้หว่านเยว่ตั้งใจจะใช้กักตุนอาวุธทั้งหมดสามวันต่อมา กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงนำกองทัพใหญ่มาถึงแม่น้ำมู่ตันกองทัพใหญ่ตั้งค่ายอยู่ริมแม่น้ำกางเต็นท์อย่างเป็นระเบียบ ตามแบบแปลนที่กู้หว่านเยว่มอบให้เต็นท์เล็ก ๆ ถูกกางขึ้นริมแม่น้ำควันไฟค่อย ๆ ลอยขึ้นไปเหล่าทหารไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่ละคนดูเหมือนมาพักผ่อนจะทำอย่างไรได้ ก็เบี้ยหวัดทหารเยอะมากเกินไป!คนอื่นเวลาเดินทัพก็กินแต่อาหารแห้ง ซาลาเปากับหมั่นโถว แต่พวกเขากินกับข้าวสามอย่าง พร้อมน้ำแกงหนึ่งอย่างทุกมื้อ แถมยังมีทั้งเนื้อและผักอีกต่างหาก!แบบนี้จะเรียกว่าออกรบได้อย่างไร?เหมือนกับเทศกาลตรุษจีนชัด ๆ !เมื่อเห็นเหล่าทหารมีขวัญกำลังใจ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็ดีใจ ทั้งสองคนปรึกษาแผนการในค่ายทหารซูจิ่งสิงไม่เป็นสองรองใครในเรื่องการรบอยู่แล้ว แต่เขาพบว่ากู้หว่านเยว่ก็มีพรสวรรค์ในด้านการทหารเช่นกันความคิดที่ผุดขึ้นมาเป็นครั้งคราว ทำให้เขา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1388

    “ไม่ต้อง ๆ ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้น ยาพิษของพวกนี้ ใช้ให้น้อยจะดีกว่า”แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็แค่แสร้งทำเท่านั้น เฟิ่งอู๋ชีไม่ได้กลัวพิษเลยสักนิด เพราะร่างกายเขามีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิด“ไปแล้วนะ”เขาโบกมือ แล้วหันหลังเดินจากไป“รักษาชีวิตของท่านเอาไว้”กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของเฟิ่งอู๋ชี แต่เป็นเพราะคนที่ร่างกายมีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิดนั้นหาได้ยากเผื่อในอนาคตทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน นางก็อาจจะได้ศึกษาดู“ไม่ต้องห่วง สิ่งที่แข็งที่สุดของข้าก็คือชีวิตนี่แหละ”เฟิ่งอู๋ชีนหลังเดินจากไป เดินไปได้สองก้าวก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่ใช่ ๆ จุดแข็งที่สุดของเขาไม่ใช่ชีวิตเสียหน่อย!“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ นี่เป็นถึงองค์ชายหนานเจียงเชียวนะ จะไม่ฉวยโอกาสจับเขาไว้หรือ จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้หรือ?”ซูจื่อชิงรีบเข้ามา เห็นเฟิ่งอู๋ชีกำลังเดินจากไปพอดี ใบหน้าของเขาเผยความเสียดายออกมาเล็กน้อยปล่อยศัตรูไปแบบนี้ ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรอกหรือ?จากมุมมองของเขา ก็ควรจะจับองค์ชายหนานเจียงไว้ เพื่อใช้ข่มขู่หนานเจียงสิ“ฆ่าองค์ชายหนานเจียงก็ไร้ประโยช

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status