แชร์

บทที่ 1303

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
กัวเสี่ยวม่านตะโกนเสียงดัง ดีใจน้ำตาไหล “ทางฝั่งนั้นมีประตูหิน พวกเรารอดแล้ว!”

“มีประตูหินๆ พวกเรารีบหนีเข้าไปเถอะ”

เถียนหมั่งอุ้มกัวเสี่ยวม่าน หลบเข้าไปภายในประตูหินอย่างทุลักทุเล

“ช่วยพวกเราด้วย”

“ให้พวกเราเข้าไปด้วยเถอะ”

ผู้อยู่ใต้อาณัติยังมีชีวิตรอดอีกสองคนร้องตะโกน กัวเสี่ยวม่านเห็นอสรพิษมีเขาทะเลทรายเลื้อยมาทางนี้แล้ว ร้องตะโกนด้วยความตกใจ

“เร็วเข้า ปิดประตูหิน”

เถียนหมั่งไม่ใส่ใจความเป็นตายของผู้อื่นอยู่แล้ว เขายังจงใจดันหินหลายก้อนไว้ข้างหลังประตูหิน

“ซือซือ”

เสียงของอสรพิษขนาดมหึมาดังขึ้นนอกประตู ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงร้องโอดครวญของผู้อยู่ใต้อาณัติก็ดังขึ้น

เถียนหมั่งจับจ้องร่างอรชรของกัวเสี่ยวม่าน ทันใดนั้นกอดนางไว้

“ไม่เป็นไรแล้ว พี่สะใภ้”

เขาฉวยโอกาสนี้จุมพิตบนใบหูของกัวเสี่ยวม่าน

“พวกเราปลอดภัยแล้ว”

“อย่าทำเช่นนี้” กัวเสี่ยวม่านผลักออกอย่างอึดอัด “ข้าเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของท่าน”

“พี่ใหญ่ตายไปแล้ว”

เถียนหมั่งจับจ้องเรือนร่างของกัวเสี่ยวม่าน สวรรค์รู้ดี เขารอวันนี้มานานมากเพียงใด

“เสี่ยวม่าน พี่ใหญ่ไม่มีค่าพอให้ท่านรักษาตัวดุจหยกเพื่อเขา ภายภาคหน้าให้ข้าดูแลท่านดี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1304

    เถียนหมั่งพูดขู่เสียงเรียบ กัวเสี่ยวม่านเห็นจิตสังหารภายในก้นบึ้งของสายตาเขา หัวใจก็สั่นสะท้านสมเป็นพี่น้องกัน ล้วนพึ่งพาอาศัยไม่ได้นางคลี่ยิ้มออกมา“ข้าย่อมต้องไปกับท่าน”ฉวยโอกาสตอนที่เถียนหมั่งไม่สนใจ กัวเสี่ยวม่านดึงปิ่นปักผมลงมา แทงเข้าทางหลังศีรษะของเขาเมื่อครู่ทั้งสองคนเพิ่งโอบกอดกัน ครั้นได้เห็นสมบัติกองนี้ จากแสดงละครกลับกลายเป็นต่อสู้แล้วกู้หว่านเยว่รับชมสถานการณ์ภายนอกผ่านหน้าจอภายในมิติ จูงซูจิ่งสิงมารับชมละครฉากสนุกด้วยกัน“ท่านพี่ ท่านว่าใครจะชนะ?”กู้หว่านเยว่กัดแตงโม ดูอย่างสนอกสนใจซูจิ่งสิงมองอยู่สองหน นิ้วชี้ไปที่กัวเสี่ยวม่าน“นาง บนตัวนางมีความอำมหิตแฝงอยู่”เพิ่งพูดถ้อยคำนี้จบ ปิ่นปักผมในมือกัวเสี่ยวม่านก็แทงเข้าที่อกของเถียนหมั่ง“ท่าน...”เถียนหมั่งคิดไม่ถึงเลยว่านางจะกล้าลงมือ“สมบัติเหล่านี้เป็นของข้าแล้ว” กัวเสี่ยวม่านลำพองใจมาก ดึงปิ่นปักผมออกอย่างไร้เยื่อใยเถียนหมั่งเจ็บปวดล้มลงกับพื้น “ท่าน อำมหิตยิ่งนัก ข้าเพียงล้อท่านเล่นเท่านั้น”“ข้ามิได้ล้อเจ้าเล่น”กัวเสี่ยวม่านเลื่อนสายตา เดิมทีนางก็ไม่ชอบเถียนหมั่งอยู่แล้ว ย่อมลงมือโดยไร้แรงกด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1305

    กัวเสี่ยวม่านล้มลงบนพื้น ตายตาไม่หลับกู้หว่านเยว่หมุนตัวไปทางขวาหันปากกระบอกปืนดำมืด เล็งเข้าที่เถียนหมั่ง ยิงเขาทีหนึ่งมั่นใจว่าทั้งคู่ตายแล้ว นางจึงเลื่อนสายตามองกองสมบัติเบื้องหน้า“นี่คล้ายสมบัติที่หญิงคนหนึ่งนำมาวางไว้ที่นี่”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิด มองเครื่องประดับเต็มตู้ ก็รู้ได้ว่าเจ้าของถ้ำนี้รักความงามมากเพียงใด“หีบและตู้ล้วนเต็มไปด้วยฝุ่น มองออกว่าไม่มีคนมาอย่างน้อยหลายสิบปีแล้ว”ซูจิ่งสิงวิเคราะห์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน“ดังนั้น สมบัติเหล่านี้น่าจะไม่มีเจ้าของน้องหญิงสามารถเอาไปอย่างสบายใจได้”“พรืด!”กู้หว่านเยว่หัวเราะเบาๆ ค้นพบอย่างกะทันหัน“ท่านพี่ ข้าพบว่าทุกครั้งยามท่านพบสมบัติ ล้วนไม่เกิดความคิดอยากได้”ดวงตานางใกล้จะเปล่งประกายอยู่รอมร่อดีหรือไม่ ชายคนนี้กลับสุขุมถึงเพียงนี้ซูจิ่งสิงพูดยิ้มๆ “เงินเป็นของนอกกาย”ดีดีดีหากคนอื่นพูดถ้อยคำนี้ กู้หว่านเยว่ย่อมไม่เชื่อ แต่นี่กลับหลุดออกจากปากซูจิ่งสิงทันใดนั้นนางเชื่อแล้วสามีของนางไม่ชอบทั้งเงินทั้งอำนาจ เป็นสุภาพบุรุษผู้เที่ยงธรรมคนหนึ่ง“เอ๋ ที่นี่มีหนังสือหนึ่งเล่มด้วยล่ะ”กู้หว่านเยว่พบบันทึกหนึ่ง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1306

    มิติอัปเกรดอีกครั้งแล้ว“เอ๋?”จู่ๆ กู้หว่านเยว่ก็พบความชุลมุนวุ่นวายที่มุมหนึ่ง คล้ายเสี่ยวไป๋กำลังก่อความวุ่นวาย“ท่านพี่ ข้าเข้าไปดูก่อน”นางบอกกล่าวซูจิ่งสิงหลังเสี่ยวไป๋ถูกรับเข้ามิติก็เชื่อฟังมาโดยตลอด ไม่เคยมีช่วงเวลากระวนกระวายเช่นนี้มาก่อน“ได้ ข้ารอเจ้าข้างนอก”ซูจิ่งสิงพยักหน้า กู้หว่านเยว่รีบเข้ามิติ“เสี่ยวไป๋ เจ้าเป็นอะไรไป พบเรื่องอะไรงั้นหรือ?”เสี่ยวไป๋บิดตัวไปมาบนพื้น สายตาหันมองไปยังทิศทางหนึ่งกู้หว่านเยว่สังเกตเห็นว่าเสี่ยวไป๋คล้ายอยากออกไป“เจ้าอยากไปจากที่นี่หรือ?”นางถามหยั่งเชิง ดวงตาเสี่ยวไป๋ทอประกายดูท่าแล้วงูยักษ์สีขาวตัวนี้อยากไปจากมิติจริงเสียด้วย กู้หว่านเยว่เอ็นดูสัตว์เลี้ยงภายในมิติมาโดยตลอด โบกมือพาเสี่ยวไป๋ออกมาปรากฏว่าเพียงเสี่ยวไป๋ออกมาก็เลื้อยออกไปภายนอกอย่างบ้าคลั่ง ความเร็วนั้นทำให้กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงตกตะลึงพรึงเพริด“นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”ซูจิ่งสิงเอ่ยถามอย่างตกตะลึงเขาเข้ามิติของกู้หว่านเยว่อยู่บ่อยครั้ง ย่อมรู้ว่าเสี่ยวไป๋คืองูยักษ์ที่กู้หว่านเยว่เลี้ยงไว้ภายในมิติ“ข้าเองก็ไม่รู้ เมื่อครู่ข้าพบว่ามันมีท่าทีกระวนกร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1307

    “เจ้าเด็กคนนี้ ใช่อสรพิษมีเขาทะเลทรายยักษ์ที่เพิ่งผ่านศึกใหญ่มากระนั้น?”กู้หว่านเยว่จิ้มศีรษะเสี่ยวไป๋เบาๆ ทีหนึ่ง เจ้าเด็กคนนี้เผยท่าทีไร้พิษสงออกมาอีกครั้ง“ไป ไปพักในมิติดีๆ เถอะ”กู้หว่านเยว่ให้เสี่ยวไป๋เข้าไปพักผ่อนภายในมิติ จากนั้นมาหยุดต่อหน้าอสรพิษมีเขาทะเลทรายอสรพิษมีเขาตัวนี้ยาวราวห้าถึงหกเมตร“เป็นอสรพิษมีเขาที่ใหญ่มากตัวหนึ่ง”แววตากู้หว่านเยว่สั่นไหว หยิบกริชเล่มหนึ่งออกจากมิติ“น้องหญิง จะทำอันใดหรือ?”“ถุงน้ำดีและหนังของอสรพิษมีเขาล้วนเป็นยาชั้นดียังมีพิษภายในฟันของมันนั้นอีก รีดออกมาแล้วสามารถทำเป็นยาพิษได้”กู้หว่านเยว่อธิบายยิ้มๆ“งูใหญ่ถึงเพียงนี้อายุน่าจะราวร้อยปี จะพลาดไปไม่ได้”ซูจิ่งสิงพยักหน้า เขาเองก็เคยได้ยินมาก่อนว่าอสรพิษสามารถนำมาทำยาได้“เช่นนั้นให้ข้าช่วยเจ้าเถอะ”อสรพิษตัวใหญ่ถึงเพียงนี้ อาศัยเพียงกู้หว่านเยว่จัดการคนเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการถึงยามใด ซูจิ่งสิงเป็นฝ่ายหยิบกริชออกมา ช่วยอยู่ที่ฝั่งหนึ่งทั้งสองคนทำเสียจนเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพราวเต็มศีรษะถลกหนังงู ขูดถุงน้ำดี ถอดฟันใช้เวลาราวหนึ่งกว่าชั่วยาม นี่ถึงจัดการอสรพิษมีเขาเรีย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1308

    เพียงประโยคเดียวก็ปลุกคนตื่นจากฝันถ้อยวาจานี้ของลั่วยางทำให้เกาเจี้ยนใจเย็นลง“เจ้าพูดได้ไม่ผิด แต่หรือจะให้ข้านิ่งดูดายกระนั้น?”ลั่วยางใคร่ครวญเล็กน้อย“ท่านเข้าไปเพียงคนเดียวย่อมไม่ได้ เอาเช่นนี้เถอะ ตอนนี้ท่านกลับเมืองไปขอกำลังเสริมก่อน ข้าจะรอท่านที่นี่”แววตานางสุขุมเยือกเย็น ความประหลาดใจภายในสายตาเกาเจี้ยนชัดเจนมากยิ่งขึ้น“เจ้าพูดถูก ถึงตอนนั้นพวกเราใช้พลุสัญญาณสื่อสารกัน หากพวกเขาออกมาแล้ว เจ้าก็ปล่อยพลุสัญญาณ”ทั้งสองปรึกษากันจบ เกาเจี้ยนเตรียมออกเดินทาง ทันใดนั้นสายตาชิงเหลียนทอประกาย“พวกท่านรีบดู นั่นใช่นายท่านและฮูหยินหรือไม่?”เมื่อครู่ขณะทั้งสองคนปรึกษากัน ชิงเหลียนมิได้เอ่ยปากอยู่ตลอดนางเชื่อว่ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจะต้องกลับออกมา“นายท่านและฮูหยินกลับมาได้ไม่ผิดไปดังคาด”ชิงเหลียนยิ้มพลางเข้าไปต้อนรับ สายตาเกาเจี้ยนและลั่วยางทอประกาย“ดีดีดี พวกเจ้านับว่ากลับมาแล้ว”“บังเอิญพบเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย จึงเสียเวลาไปบ้าง โชคดีฟ้ายังไม่มืด”กู้หว่านเยว่อธิบายยิ้มๆ สายตาตกลงบนตัวเกาเจี้ยน“ตอนอยู่ไกลๆ ได้ยินพวกเจ้าคล้ายกำลังเถียงกัน”เกาเจี้ยนลูบศีรษะอย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1309

    หลังเกาเจี้ยนผ่านความตกตะลึงไปแล้ว นึกได้ว่าอสรพิษมีเขาทะเลทรายถูกสองสามีภรรยาจัดการไปแล้ว ภายภาคหน้าคนเข้าไปจะไม่ถูกทำร้ายอีก ถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง“ใช้ได้นี่ พวกเจ้าสองสามีภรรยา ทำความดียิ่งใหญ่ให้ราษฎร์ด่านซานไห่ไปหนึ่งเรื่อง”“สถานการณ์พาไปเท่านั้น”กู้หว่านเยว่ลูบจมูกอย่างถ่อมตน ปล้นสมบัติจำนวนมากถึงเพียงนั้นภายในถ้ำไป นางยังรู้สึกเก้อกระดากอยู่บ้างขณะเดียวกันตะวันตกลงทิศประจิมแล้ว เรื่องที่ทุกคนสมควรทำล้วนทำเรียบร้อยแล้ว นี่จึงเดินทางกลับทางเดิมขากลับกู้หว่านเยว่อารมณ์ดีไม่เลว ทางหนึ่งขี่ม้า ทางหนึ่งครวญเพลงหลังกลับถึงด่านซานไห่แล้ว ลั่วยางโบกมือลาสองคน“ข้ากลับไปพักก่อน จัดการผลพุทราทรายเหล่านี้”นางมองทางกู้หว่านเยว่“รอพวกท่านจะออกเดินทาง ข้าค่อยไปพร้อมพวกท่าน”กู้หว่านเยว่เหลือบมองสีท้องฟ้าแวบหนึ่ง ไม่วางใจลั่วยางแม่นางในห้องหอคนหนึ่ง ขณะเตรียมจะให้ชิงเหลียนพานางไปส่งนั้นเกาเจี้ยนกลับชิงสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว“ดึกแล้ว เจ้ากลับไปคนเดียวไม่ปลอดภัย ข้าไปส่งเจ้าเถอะ”เขากระชับบังเหียนแน่น แววตาทอประกายระยับตกลงบนตัวลั่วยางลั่วยางนึกได้ว่าวันนี้นางวางแผนอยู่ด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1310

    เช่นนี้นางก็สามารถสอดแนมการวางกำลังของศัตรูและความอันตรายล่วงหน้าได้แล้ว นี่คือข้อได้เปรียบยิ่งใหญ่มากทีเดียวกู้หว่านเยว่พึงพอใจพลังวิเศษนี้มากอาจเพราะเพิ่งได้รับพลังวิเศษ นางยังมิได้คิดวิธีใช้ประโยชน์ให้ดี สายตาตกลงบนตัวซูจิ่งสิง ก็ได้เห็นเรือนร่างไร้สิ่งใดปกปิดของอีกฝ่าย“ของใหญ่” บางแห่ง นางมองแล้วก็หน้าแดงไปถึงหู รีบเลื่อนสายตาหนี“ข้าไปตรวจนับสมบัติก่อน”กู้หว่านเยว่กระแอมแล้วเดินจากไปเสียงพูดของระบบอยู่ภายในสมองของกู้หว่านเยว่ ดังนั้นซูจิ่งสิงจึงไม่พบความผิดปกติ“เก็บสิ่งเหล่านี้เข้าคลังเก็บของตรวจนับให้เรียบร้อยก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่โบกมือ เก็บสมบัติที่ได้มาครั้งนี้เข้าคลังเก็บของแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในมิติ จากนั้นบนหน้าต่างขนาดใหญ่ของนาง ก็ปรากฏสิ่งของที่ปล้นมาได้ในครั้งนี้จำแนกและปรากฏบนหน้าจอแล้ว“ของไม่น้อยเลยจริงๆ”กู้หว่านเยว่ถอนใจ ทันใดนั้นนางนึกถึงบันทึกที่เก็บมาได้ภายในถ้ำขึ้นได้นางรีบหยิบบันทึกออกมาเปิดอ่านปรากฏว่ายิ่งอ่านก็ยิ่งตกตะลึง“ดีนักนะ ถ้ำนั้นคล้ายเป็นของเถาเอ๋อร์จริงเสียด้วย”บันทึกนี้ยุ่งเหยิงเป็นพิเศษ กู้หว่านเยว่พบเบาะแสแล้วนางคลี่ยิ้ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1311  

    “จิ่งสิง!” คนผู้นั้นควบม้าเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นเต้น เมื่อเข้ามาใกล้ ซูจิ่งสิงจึงพบว่าเป็นเกาเจี้ยน “เหตุใดเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่ได้?” เขาคิดเพียงครู่เดียวก็เดาถึงวัตถุประสงค์ของเกาเจี้ยนได้ “เจ้าคงไม่ได้คิดจะกลับเจดีย์หนิงกู่กับพวกเราหรอกนะ?” “ไม่เสียทีที่เป็นเพื่อนรักของข้า ฉลาดจริงๆ” เกาเจี้ยนหัวเราะออกมาอย่างเบิกบาน เสียงหัวเราะได้ยินไปถึงกู้หว่านเยว่และลั่วยางที่อยู่ในรถม้า คนทั้งสองยังคิดว่าหูฝาดไป รีบเลิกม่านรถขึ้น กระทั่งเห็นเงาร่างที่ทั้งดำทั้งใหญ่โตของเกาเจี้ยน คนทั้งสองจึงได้กล้าเชื่อ “แม่ทัพเกา ท่านมาได้อย่างไร?” กู้หว่านเยว่เหลือบมองลั่วยางทีหนึ่ง คิดไปในทางเดียวกับซูจิ่งสิงแล้ว คนผู้นี้คงไม่ได้วางแผนจะกลับเจดีย์หนิงกู่กับพวกนางเพื่อลั่วยางกระมัง “ข้าวางแผนจะกลับไปที่เจดีย์หนิงกู่กับพวกเจ้าด้วย” เกาเจี้ยนหัวเราะร่า หางตาของเขาเหลือบมองลั่วยางอย่างเขินอาย “ยังไงข้าอยู่ที่ด่านซานไห่ก็ไม่มีเรื่องอะไรอีก” “ทูเจวี๋ยก็ถูกพวกเจ้าสยบไปแล้ว ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ ด่านซานไห่ย่อมไม่มีสงครามอะไร ข้าไม่สู้ตามไปช่วยพวกเจ้าที่เจดีย์หนิงกู่ดีกว่า” เขาพูดอย่างจริงจ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1400

    “ดูเจ้าสิ พูดเรื่องนี้กับหว่านเยว่เพื่ออะไร?”หลินรู่ไห่ดึงนางเก๋อไว้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเช่นกัน แต่เขารู้ว่าการบอกเรื่องนี้กับกู้หว่านเยว่นั้นไม่มีประโยชน์เมืองเหยาอยู่ไกลจากที่นี่ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับฮ่องเต้ จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาคนที่เมืองเหยา?พวกเขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่ต้องลำบากใจ“ท่านน้า ต้องขอบคุณน้าสะใภ้ที่บอกข้า เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่พูดทันทีที่เข้ามา?”กู้หว่านเยว่ยังจำหลินเพียวเพียวได้ สาวน้อยที่สงบเสงี่ยมมาก เวลาพูดขึ้นมาก็ดูคงแก่เรียนเมื่อคนสกุลหลินไปที่โรงเตี๊ยมเตียงนอนรวมเพื่อส่งเงินให้นาง หลินเพียวเพียวก็มาด้วย แล้วยังปลอบประโลมนางอย่างนุ่มนวล“หว่านเยว่ พวกเราไม่อยากให้เจ้าเป็นกังวล”ประเด็นคือพวกเขาไม่เคยคิดว่ากู้หว่านเยว่จะสามารถช่วยหลินเพียวเพียวกลับมาได้และพวกเขาก็เป็นห่วงว่าซูจิ่งสิงจะรู้สึกว่าสกุลหลินของพวกเขาเป็นปัญหา ถึงตอนนั้นจะทำให้กู้หว่านเยว่เดือดร้อนไปด้วยกู้หว่านเยว่จำพวกเขาได้ จึงขอให้ซูจิ่งสิงส่งคนไปรับพวกเขาที่ฉูโจว พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว จะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อย่างไร?“พวกท่าน”กู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1399

    “ท่านยาย พวกท่านปลอดภัยดีตลอดเส้นทางไหม?”กู้หว่านเยว่สอบถามพวกเขา แม้ว่าซูจิ่งสิงจะส่งคนไปรับพวกเขาเองก็ตามแต่เวลานี้ทั่วแคว้น ความอดอยากแห้งแล้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โจรร่อนเร่ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกแห่งการเดินทางมาของสกุลหลินครั้งนี้ ก็คงไม่สงบสุขนัก“ระหว่างทาง ได้พบกับโจรสลัด”เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลินพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ“โจรสลัดเหล่านั้นฆ่าทุกคนที่พบเจอ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก น่ากลัวจริง ๆ”สกุลหลินเป็นพลเมืองดีที่ทำการค้า การเข่นฆ่าใด ๆ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนตกใจกลัวจนเหลือทน ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่“ท่านยาย พวกท่านลำบากแย่เลย”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโจรเร่ร่อนข้างนอกนั้นเหิมเกริมเช่นนี้“ไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”นายท่านผู้เฒ่าหลินลูบเครา พลางโบกมือ“โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มที่ท่านอ๋องส่งไปฉลาดเฉลียว รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พาพวกเราหนีไปทางเรือเล็กแต่น่าเสียดายนายท่านผู้เฒ่าหลินเผยแววตาทนไม่ได้ บนเรือใหญ่ยังมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก“พวกเราหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นเรือทั้งลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1398

    “ข้าไม่เป็นอะไร”ลั่วยางชักมือออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?เหล่าทหารทุกคนกำลังเฝ้าดู ตอนนี้ทั้งกองทัพรู้แล้วว่าเขาชอบนางนางไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เกาเจี้ยนถอนหายใจ มองไปทางซูจิ่งสิง ขณะที่กำลังจะโต้แย้งก็เห็นคนที่เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ คว้ามือของกู้หว่านเยว่ไว้โดยไม่ละอาย น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะคั้นเป็นน้ำออกมาได้“น้องหญิงเหนื่อยหรือยัง หิวหรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”เกาเจี้ยนเบิกตากว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้มีความรู้มากกว่าเขาเสียอีก!“ท่านมาที่นี่ทำไม?”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ซูจิ่งสิงแม้ว่าวันนี้จะไม่ร้อนมาก แต่ซูจิ่งสิงก็สวมชุดกราะตลอดเมื่ออยู่ในกองทัพ ถูกแดดตอนเที่ยงวันสาดส่อง จนเหงื่อแตกพลั่ก“เห็นเจ้าไม่กลับมาเสียที ก็เลยเป็นห่วงเจ้า”ซูจิ่งสิงมองเข้าไปในกระโจม กู้หว่านเยว่ก็อธิบายสถานการณ์ของกงซุนฉิงอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะพาคนกลับไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงสกุลกงซุน สั่งให้คนแพร่ข่าวออกไปหลี่กวงถิงถูกจับแล้ว กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ก็ไล่ล่าโจมต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1397

    ลั่วยางก็ไม่ได้โกรธเช่นกันทักษะทางการแพทย์ของกู้หว่านเยว่นั้นเหนือกว่านางอยู่แล้ว ลู่จิงจะทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย ไปเชิญกู้หว่านเยว่มาอีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ“พี่หว่านเยว่”ลั่วยางมีอายุมากกว่ากู้หว่านเยว่ แต่ในด้านทักษะทางการแพทย์ ถือได้ว่ากู้หว่านเยว่อาวุโสกว่านางประโยค “พี่หว่านเยว่” ของลั่วยาง ก็ไม่ได้เรียกผิด“คุณหนูกงซุนไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยจนล้มไปเท่านั้น”ร่างกายของนางเคยถูกทรมานมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่กงซุนฉิงมีทักษะการต่อสู้ จึงปกติเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ก็ไม่อาจทนต่อความยุ่งวุ่นวายในระดับสูงได้“ข้าฝังเข็มให้นางหนึ่งเล่ม แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา”ลั่วยางอธิบาย“แต่ว่า นางนอนหลับ กลับช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเสียด้วยซ้ำไป”“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางหลับต่ออีกนิดเถอะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พลางจับชีพจรของกงซุนฉิงครู่หนึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ลั่วยางพูด“ส่วนทางทหารกล้าตายแนวหน้า”กู้หว่านเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่กงซุนฉิงเหนื่อยจนล้มไป ก็เพราะว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานักรบหมาป่าได้ให้ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status