ซีหรูกุมใบหน้าข้างซ้ายไว้แน่นไม่ยอมปล่อยมือเสี่ยเต่อต๋องรอด้วยใจจดจ่อแต่อีกคนก็ยังลังเลไม่กล้าเปิดเผยใบห้าที่บัดนี้แผ่นหนังอัปลักษณ์ยังติดเรียบร้อยดี“ฮะฮะฮะฮ่าาาาาาข้าแค่ล้อเล่นข้าหาใช่คนที่ใจดำเพียงนั้นคมกระบี่ไม่ถูกจุดสำคัญเพียงตอนนี้ซือซือก็คงกำลังช่วยเสี่ยวไป๋ มือสังหารล่าถอยแล้ว ไม่ต้องกังวลขบวนของเรามีหมอดีเพราะข้าออกตามหาคุณหนูเสิ่นอาจได้รับบาดเจ็บจึงได้นำตัวท่านหมอติดขบวนมาด้วย” ซีหรูผ่อนลมหายใจช้าๆ“ไม่ได้กดดันเจ้าเสียหน่อยไม่ให้ดูก็ไม่ดูเสวี่ยเต๋ออ๋องหาใช่คนที่บังคับ ขืนใจหญิงใดยิ่งหญิงที่งดงามเช่นเจ้าเสวี่ยเต่ออ๋องไม่มีทางจะบังคับใจโรงเตี๊ยม“ลงมือรุนแรงเกินไปไหม”อ้ายหลัวปิงเอ่อถอนหายใจ “เจ้านั่นตั้งใจจะฆ่าหลานข้าจำต้องเข้าแทรกแซง”“เปิดหน้าหลานสาวเพื่อให้ เสวี่ยเต๋ออ๋องได้เห็นแบบนี้เสวี่ยเต๋ออ๋องก็ได้เปรียบสินะ อย่างไรกัดไม่ปล่อย คนที่ไม่เคยเห็นใบหน้างงดงามของซีหรูอย่างชินหวางอ๋องจำต้องถอดใจใช่ไหม นี่ข้าพลาดอะไรไปใช่ไหม”“ฮะฮะฮะฮ่าาาา วางเดิมพันเข้าข้างชินหวางอ๋องก็ต้องหาทางช่วยให้เขาตาสว่างเหมือนข้าสิข้าใช้กระบี่ช่วยเปิดแผ่นหนังให้เสวี่ยเต่ออ๋องได้เห็นใบหน้าที่แท้จร
มืดค่ำแล้วซีหรูยังคงนั่งมองเสี่ยวไป่ที่บาดเจ็บเพราะปกป้องซีหรู“พระชายารองเจ้าขานอนเถิดเจ้าค่ะ” เสี่ยวไป๋พูดด้วยน้ำเสียงเกรงใจ“ขอบใจเจ้าที่ช่วยข้าไม่อย่างนั้น คนที่นอนตรงนี้อาจเป็นข้าหรือข้าอาจตายไปแล้วก็ได้”เสี่ยวไป๋ยิ้ม“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะเสี่ยวไป๋ยินดี หากช่วยพระชายารองไม่ได้นั่นต่างหากที่เสี่ยวไป๋จะเสียใจไปตลอดชีวิต พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะพรุ่งนี้จะได้เดินทางกันต่อไปถึงวังหลวงเร็วเท่าไหร่พระชายารองยิ่งปลอดภัยเท่านั้น”ทัพของชินหวางอ๋อง ที่เดินทางทั้งกลางวันกลางคืนตั้งใจให้ทันขบวนของซีหรู“อีกไม่นานขอรับเชื่อว่าทางนั้นจะต้องพักค้างแรมแล้วเราอาจตามทันแต่คงจะดึกสักหน่อย ท่านอ๋องจะให้ตั้งกระโจมที่นี่เลยไหมขอรับ”“ไม่ต้องให้ทันขบวนของชายารองของข้าช้าไปหน่อยดึกไปหน่อยก็ค่อยพัก” นายกองประสานมือรับคำสั่ง“ท่านอ๋อง ว่าที่พระชายาเอกบ่นว่าเหนื่อยแล้วอยากจะลงไปเดินบ้างนั่งเกี้ยวมาทั้งวัน” ชินหวางอ๋องส่ายหน้าไปมา“จอดพักเกี้ยวววววว”“เฟี้ยววววววววว” ลูกดอกพุ่งเข้าใส่ชินหวางอ๋องแต่ทว่าไม่ได้ระคายผิว ร่างสูงพลิกตัวหลบจับลูกดอกไว้อย่างรวดเร็ว“ท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” เสี่ยวอูวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้า
ซีหรูดิ้นรนฮึดฮัดแต่อีกคนกอดไว้แน่นแทบไม่ให้ขยับตัว“เสี่ยวอู เสี่ยวอู” เสี่ยวอูวิ่งเหยาะเข้ามา“เอาเครื่องนอนมาคืนนี้ข้าง่วงแล้วและจะนอนกับพระชายาของข้า เสี่ยวเต๋ออ๋องเชิญ” สั่งเสี่ยวอูไล่เสวี่ยเต๋ออ๋อง แล้วดึงมือซีหรูที่ยังพยายามจะแกะมือเหนียวนั้นออกไปที่แท่นนอน เสวี่ยเต๋ออ๋องกลืนน้ำลายลงคอยากเย็นก่อนจะสะบัดชายเสื้อก้าวเดินจากไป“โครมมมมม"เสวี่ยเต๋ออ๋องกวาดมือไปบนโต๊ะที่วางทั้งกาน้ำชาและขนมก้อนอารมณ์โกรธพุ่งสูงปรี๊ด“ชินหวางอ๋องข้ากับท่านคงต้องตายกันไปข้างหนึ่ง”“ท่านอ๋อง” ฉีก้านก้มหน้ารับผิด“อย่าทรงโมโหมากไปกว่านี้เลย”“เชอะกล้าพูดแบบนี้กับข้าหรือ หาทางกำจัดชินหวางอ๋องเสียท่าทีโอหังของเขาทำทีเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทั้งที่ข้าเป็นคนที่พบซีหรูก่อน” เสวี่ยอ๋องนิ่งงัน เกือบลืมไปว่าซีหรูกับใบหน้างดงามที่เขาเห็นเพียงแวบเดียวนั่นคืออะไรกันแน่ เขาแน่ใจว่านางต้องการปกปิดอน่เพราะแผ่นหนังที่ถุกคมกระบี่ดึงให้เผยอออกนั้นไม่มีร่องรอยของโลหิตแม้แต่น้อย“ฉีก้าน ทำเรื่องหนึ่งให้ข้า” ฉีก้านประสานมือ เสวี่ยเต๋ออ๋องถอนหายใจยาวกระโจมกลาง“ปล่อยข้านะ”“หืออให้ปล่อยอย่านั้นหรือ เดิมก็หนีมาแล้วถูกคนปองร้ายบิด
ฉุดมือบางให้ลุกขึ้น โน้มตัวกดริมฝีปากกับปากบางบดเบียดอ่อนหวานเว้าวอน ซีหรูตัวชารับรู้ถึงสัมผัสอ่อนโยนนั้นรสจูบหวานฉ่ำจนแทบจะกลืนกิน ชินหวางอ๋องเองกลับรู้สึกว่าตัวเขามองข้ามเรื่องใบหน้าอัปลักษณ์ของซีหรูไปเสียแล้วในตอนนี้เขาหนาวๆ ร้อนๆ ราวกับบุรุษหนุ่มที่จูบครั้งแรกกับหญิงที่รัก ดวงตากลมโตที่ส่งมาราวกับจะขอร้องว่า ปล่อยข้าไปเถิด กระนั้นร่างอ่อนระทวยของซีหรูในอ้อมแขนของเขาก็อุ่นนุ่มกลิ่นกายหอมละมุนนั้นอีกเขาจะไม่อาจตัดใจคลายอ้อมกอดถอนริมฝีปากออกช้าๆ จ้องมองใบหน้าที่มีรอยแผ่นหนังอัปลักษณ์ปิดทับไว้ แล้วหยุดที่ดวงตากลม“ข้าจูบเจ้าอีกได้ไหม” เสียงที่พยายามปรับให้นิ่งทว่ากลับสั่นกระเส่า “ท่านอ๋องปล่อยซีหรูเถิด” เสียงหวานใสทำเอาใจแกว่งชินหวางอ๋องยิ่งกระชับอ้อมกอดไว้แน่นกว่าเดิม จวนตระกูลเสิ่น“เหตุใดต้องจัดงานต้อนรับ”“ท่านพี่การมาการไปของคุณหนู ใครๆ ก็รู้เรื่องนี้เราเชิญชินหวางอ๋องกับเสวียเต๋ออ๋องมาเท่ากับขอบคุณที่ทั้งสองคนช่วยกันตามคุณหนูกลับมาแล้วยังเท่ากับเป็นการป่าวประกาศว่าคุณหนูแม้จะมีใบหน้าไม่พึงประสงค์ทว่าก็มีท่านอ๋องถึงสองคนที่ห่วงใย นั่นเท่ากับทำให้ชาวบ้านที่เอาแต่พูดไปในทางที่เส
จวนอ๋องไร้พ่ายเกี้ยวจอดลงพร้อมกับขบวนทัพของชินหวางอ๋องใต้เท้าเสิ่นที่ยืนรีรอสีหน้าบ่งบอกอารมณ์ขุ่นมัว“ชินหวางอ๋องลงจากหลังม้าตรงเข้าไปรับซีหรูลงจากเกี้ยว ใต้เท้าเสิ่นยิ้มหยัน“ท่านพ่อตา ท่านพ่อ” ทั้งสองรีบมาคารวะใต้เท้าเสิ่นที่ยืนรีรอหน้าจวนอ๋องไร้พ่าย“ได้ยินว่าถูกมือสังหารลอบทำร้ายระหว่างทาง” พูดกับซีหรูแต่เหลือบตามองชินหวางอ๋อง“ค่ะ แต่ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร มีเพียงสาวใช้ของจวนอ๋องที่เข้าขวางคมกระบี่จึงทำให้นางบาดเจ็บ”“การป้องกันหละหลวมสินะ ฮึฮึไม่สมกับเป็นอ๋องไร้พ่ายปล่อยให้มือสังหารเข้าถึงตัวชายารองก่อนนั้นก็ลักพาตัวบุตรีของข้าจากจวนอ๋องได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นวันนี้พ่อจึงมารับเจ้ากลับบ้านเรา” ชินหวางอ๋องเหลือบตามองพ่อตาที่ก่อนนั้นฝ่าบาทเคยบอกว่าอ่อนน้อมถ่อมตนวันนี้มาพบเขาที่เป็นถึงชินหวางอ๋องกลับมีท่าทีชวนให้“ข้ายังเป็นสามีและนางคือชายารองของข้า”“เชอะก็แค่ชายารอง ท่านมีใจหมายมาดแต่งตั้งชายาเอกอยู่แล้วเงื่อนไขอะไรของฝ่าบาทไม่น่าจูงใจสักนิดสินะอุ่นเตียงกับชายารองใบหน้าอัปลักษณ์ให้ตั้งครรภ์แล้วค่อยแต่งกับชายาเอกลำบากเสียจริงมิสู้ให้ลูกข้าหายไปหรือหาเรื่องจนนางอยู่ไม่ได้ซีหรูกล
“เสิ่นกงกลิวกลับไปพร้อมกับความผิดหวัง“ฝ่าบาทหากว่าเราจะช่วยเสิ่นซีหรูเรื่องนี้”“ฮองเฮาเจ้าคิดว่าจะเข้าแทรกแซงอย่างนั้นหรือ”“อ๋องน้อยไร้พ่ายของเราก็ไมไ่ด้มีอุปนิสัยที่เลวร้ายอะไรด้วยความเป็นชินหวางอ๋องหากว่าา….หากว่าเขาจะได้ครอบครองร่างกายของซีหรูฝ่าบาทคิดว่า เขาจะตัดใจทิ้งชายาได้ลงคอหรือในเมื่อทุกคนในเรื่องนี้คิดถึงแต่การหย่า แล้วทำไมเราสองคนที่มองมาจากที่สูงไม่คิดถึงการที่เขาสองคนจะรักใคร่ปรองดอง “อี้หรานฮองเฮาพูดยิ้มๆ“จริงด้วยสิทำไมข้าลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทแย่จริงเชียว เรื่องสนุกๆ แบบนี้ข้าลืมไปได้อย่างไรกัน”งานเลี้ยงที่บ้านเสิ่น“คุณหนูวันนี้จะต้องสวยที่สุดเพื่อให้ผู้คนที่มาร่วมงานรวมทั้งเหล่าขุนนางได้เห็นว่า…”“ฮูหยินรอง ท่านกล่าวเกินไปแล้วซีหรูไม่เคยงดงามในสายตาผู้ใดอยู่แล้ว ความจริงไม่จำเป็นต้องจัดงานต้อนรับอะไรนี้ให้วุ่นวาย แต่ในเมื่อจัดขึ้นมาแบบนี้ข้าต้องยอมตามใจท่านพ่อ”“ท่านพ่อของคุณหนู ไม่อยากให้ใครมาพูดติฉินลับหลังว่าคุณหนูหายไปเสียตั้งนาน ไม่รู้ว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัยโดยที่ท่านอ๋องทั้งสองนำทัพไปรับที่บ้านท่านตา”ซีหรูถอนหายใจอาภรณ์สีม่วงหวาน ถูกสวมไปในร่างอรชรหากมอง
อาหารและเครื่องดื่มถูกลำเลียงมาวางตรงหน้าแขกในงานเป็นอาหารที่เหมือนๆ กันแต่ข้างหน้าซีหรูนั้นกลับมีจานขนมเปี๊ยะสีเหลืองสวยวางอยู่ตรงหน้าถึงสี่ชิ้น มองไปน่ารับประทานไม่น้อย “แขกในงานลงมือดื่มกินการสนทนาออกรสด้วยสุรารสดี “อืออออหอมจัง” ซีหรูถอนหายใจส่ายหน้าเมื่อชินหวางอ๋องเอื้อมมือยกจานขนมไปสูดดมราวกับเด็กๆ“ท่านพ่อตานี่ร้ายไม่เบาเอาใจลูกสาวเฉพาะเจ้าสินะถึงได้รับขนมอร่อยเช่นนี้”ยกจานขึ้นสูดดมอีกครั้งแล้วเอื้อมมือวางจานลงกับโต๊ะแต่มือเจ้ากรรมดันยาวไม่ถึงวางจนาลงหมิ่นเหม่“เพล้งงงงง” จานขนมทั้งจานร่วงหล่นลงพื้น ฮูหยินรองถอนหายใจยาว“คุณหนูเจ้าขาเสียดายจริงๆ เจ้าค่ะฮูหยินรองทำขนมที่คุณหนูชอบมาในโอกาสพิเศษ” สาวใช้ทำท่าทีเสียดายขนมที่ร่วงหล่นลงพื้นเสียหาย ชินหวางอ๋องขมวดคิ้ว“ไปยกมาใหม่สิ ข้าไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย ไปยกมาเพิ่มให้คุณหนูเจ้าใหม่เร็วเข้าคุณหนูเจ้าจะโกรธข้าแล้ว” สาวใช้ยิ้มเจื่อนๆ“ไม่มีแล้วเจ้าค่ะของสำคัญมีแค่เท่านี่เห็น” ซีหรูยิ้มบางๆ“ช่างเถอะไว้คราวหน้าละกันฝากบอกฮูหยินรองด้วยว่าข้าขอบคุณจริงๆ ที่อุตส่าห์ทำขนมมาให้ข้าด้วยตัวเอง” เหลือบตามองชินหวางอ๋องที่ยิ้มยียวน เหมือนจะบอกว่
“ห่วงข้าทำไมในเมื่อเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย” ยังพูดย้ำๆ คำเดิม ชินหวางอ๋อง รู้สึกว่าตัวเขาร้อนผะผ่าวกับคำพูดของซีหรูคำพูดปฏิเสธธรรมดากลับมองเหมือนคำพูดยั่วยวนว่าให้รีบเป็นอะไรกันเสีย“อย่างนั้นหรือเจ้าอยากเป็นมากกว่านี้ใช่ไหม” ใบหน้าอัปลักษณ์ไม่ได้เป็นผลอะไรแล้วรวบร่างบางไว้ในอ้อมแขนจากด้านหลังซีหรูเองตอนนี้กลับรู้สึกว่าร่างกายร้อนผ่าวแค่เพียงอ้อมกอดเหตุใดจึงรู้สึกวาบหวามเพียงนี้“ไม่นะท่านอย่าทำแบบนี้ไหนบอกว่าเราสองคนจะหย่ากัน ไหนบอกว่าจะหย่าให้ข้าซีหรูขัดขืนตามความรู้สึกผิดชอบชั่วดี“ตั้งใจหย่าข้าแล้วไปญาติดีกับเสวี่ยเต๋อฮ่องหรือไรไม่มีทาง ทั้งลากทั้งดึงซีหรูเข้าไปในห้อง ยาปลุกกำกำหนัดกำลังออกฤทธิ์ กระนั้นก็ทำให้ชินหวางอ๋องตอนนี้ขาดสติสิ่งเดียวที่ต้องการคือบทรักแสนจะสุขสมกับซีหรู“ปะปะปล่อยข้านะ” เสียงแหบพร่าขาดหายไปในลำคอชินหวางอ๋องพลิกร่างเล็กมากดริมฝีปากบดเบียดอ่อนหวานกระนั้นความเสียวซ่านก็แผ่ไปทั่วร่างกาย“ข้า ต้องการเจ้าซีหรู” เสียงสั่นสะท้านกระสันจนถึงที่สุดแทบจะลืมหายใจ อุ้มร่างบางไม่แม้ดิ้นรนก็แค่พองามเข้าไปในห้องนอนอย่างง่ายดาย“ท่านอ๋องอย่าทำแบบนี้” สะบัดหัวไล่ค
เสียงกีบม้าเกือบยี่สิบตัว กระทบพื้นดังสนั่น พร้อมเสียงร้องตะโกนระงม"โครมๆๆๆ!" เกี๊ยวหรูหราที่เคลื่อนตัวอยู่กลางทางระเบิดพังลงแทบในพริบตา เศษไม้ปลิวว่อนกลางอากาศ กลุ่มมือสังหารราวยี่สิบคนในชุดดำทะยานพุ่งเข้าล้อมกรอบอย่างรวดเร็ว ดวงตาแต่ละคู่ฉายแววสังหารเยียบเย็นไร้ปรานี“ฆ่า…เสิ่นซีหรู”ชินหวางอ๋องเบี่ยงตัวออกจากเศษซากเกี๊ยวที่กำลังถล่ม มือหนึ่งฉวยคว้าข้อมือบางของซีหรูมากำไว้แน่น เสียงคำรามต่ำหลุดออกจากลำคอเขา"อารักขาชายาข้า! ไฉ่หาน ไม่ต้องห่วงข้า อารักขาพระชายา!!"คำสั่งเปี่ยมด้วยอำนาจและเด็ดขาดโดยไม่ลังเล ชินหวางอ๋องใช้ร่างสูงใหญ่ของตนเองโอบล้อมร่างบางไว้เต็มที่ แผ่นหลังกว้างตั้งตรงรับคมมีดที่ฟาดมาโดยตรงแทนซีหรู เขาขยับตัวอย่างรวดเร็วราวกับเสือโคร่งที่กำลังปกป้องลูกน้อยเสียงใบมีดเสียดแทงผิวเนื้อดัง “ฉึบ!” เลือดสดพุ่งซึมออกจากบาดแผลลึกบนบ่ากว้างของเขาทันที แต่เขากลับไม่แม้แต่จะร้องครวญสักคำ เพียงยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น"ท่านอ๋อง!" ไฉ่หานร้องด้วยความตกใจ ทะยานเข้าต่อสู้กับมือสังหารอีกทาง เสี่ยวอูที่รีบวิ่งเข้ามาขวางมือสังหารที่ตั้งใจพุ่งเข้าหาซีหรูชินหวางอ๋องเบี่ยงตัวหลบการโจ
“ไปเถิด ไปในที่ที่เจ้าจะมีความสุข...ท่านอ๋องจะดูแลเจ้าและลูกของเขาข้าเชื่อเช่นนั้น” เขากระซิบด้วยน้ำเสียง จริงจัง ซีหรูเงยหน้าขึ้นมองดวงตาอบอุ่นของผู้เป็นบิดาน้ำตาไหลรินเงียบๆ ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่นั้นอย่างแนบแน่นชินหวางอ๋องยืนนิ่งปล่อยให้นางได้กล่าวลาไม่มีคำเร่งเร้า ไม่มีการเร่งรัดเมื่อซีหรูปล่อยมือออกในที่สุด ชินหวางอ๋องจึงโอบรัดเอวบางของนางอย่างอ่อนโยน พาขึ้นเกี๊ยวที่เตรียมไว้ก่อนจาก เสิ่นกวงหลิวตะโกนตามหลังมาเสียงหนักแน่นว่า “ดูแลตัวเองให้ดีนะ เจ้าตัวน้อยในท้องนั่นก็ด้วย!”ซีหรูหันกลับไปส่งยิ้มทั้งน้ำตา ขณะที่ชินหวางอ๋องโอบไหล่นางแน่นขึ้นอย่างให้กำลังใจเกี๊ยวค่อยๆ เคลื่อนออกจากประตูบ้านเสิ่นอย่างเงียบงัน มีเพียงเสียงสายลมอ่อนๆ พัดผ่าน และดวงใจสองดวงที่ค่อยๆ เริ่มผูกพันกันลึกซึ้งยิ่งขึ้น"ตั้งแต่นี้ไป... ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องเสียน้ำตาเพียงลำพังอีก" เสียงกระซิบของชินหวางอ๋องดังอยู่ข้างหูนาง แผ่วเบาแต่หนักแน่นราวกับคำสัตย์สาบานซีหรูกัดริมฝีปากน้อยๆ พยักหน้าช้าๆ ซบใบหน้าไว้กับอกกว้างที่แสนอบอุ่น รู้แน่แล้วว่าต่อจากนี้ ไม่ว่าจะมีพายุลูกใดในชีวิต ซีหรูก็จะไม่ต้องเผชิญมันเพียง
ข่าวคราวจากคุกหลวงถูกนำมาส่งถึงมืออย่างรวดเร็ว ฮูหยินรองเสิ่นสวี่เหยียน...เสียชีวิตแล้วชินหวางอ๋องยืนนิ่งงันอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ในเรือนพัก ลมเย็นพัดชายเสื้อคลุมยาวของเขาไหวสะบัด แต่ชินหวางอ๋องกลับนิ่งเหมือนรูปสลัก ดวงตาคมลึกนั้นจ้องมองไปยังความว่างเปล่าอย่างครุ่นคิด"นางเลือกทางนี้เอง...หรือว่ามีใครทำให้นางต้องสิ้นชื่อกันแน่" เสียงทุ้มต่ำพึมพำแผ่วเบา“ท่านอ๋องเราจะทำอย่างไรต่อไปดี” เสี่ยวอูถามขึ้นสีหน้าเป็นกังวลไม่น้อย“พรุ่งนี้ข้าจะพาซีหรูเข้าถวายพระพรฝ่าบาทบอกเล่าเรื่องใบหน้าที่งดามและการที่ชายาของข้ากำลังตั้งครรภ์ส่วนเรื่องไฟไหม้บ้านเสิ่นเมื่อหลายปีที่แล้วคงต้องให้ฝ่าบาทตัดสินใจว่าจะจัดการอย่างไร”เขาแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างปิดปกติกับความตายของสวี่เหยียน หากแต่รู้ดีว่าความเคลื่อนไหวต่อจากนี้จะซับซ้อนกว่าที่เคย เงามืดเบื้องหลังคงไม่ยอมปล่อยมือ แต่เหนือสิ่งอื่นใด...สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือซีหรู กับเด็กในครรภ์น้อยๆ ที่กำลังเติบโตในกายของนางตอนนี้เขาเองไม่อาจวางใจใครให้ปกป้องซีหรูและลูกในท้องได้นอกจากตัวเขาเอง"เสี่ยวอูเตรียมเกี๊ยว!" เขาออกคำสั่งเสียงหนักแน่น องครักษ์ที่คอยเฝ้าอ
สวี่เหยียนถูกล่ามโซ่ไว้ในความมืด…นั่งอยู่มุมห้องขัง ใบหน้าซูบซีด มีเพียงเปลวแสงจากโคมเล็กหน้าห้องที่ส่องผ่านช่องไม้พาดมาให้เห็นดวงตาของนางยังเปล่งแสงแห่งความหวังแม้เพียงเล็กน้อย“พี่สาวท่านช้าอยู่ใยข้ารออยู่ข้าเชื่อว่ามีท่านเพียงคนเดียวที่จะไม่มีทางปล่อยให้ข้าต้องตาย”เสียงประตูเหล็กดังแกรกกรากนางสะดุ้งน้อยๆ พลางรีบยกมือขึ้นลูบผมที่ยุ่งเหยิงเพื่อแต่งกายให้ดูดีที่สุดด้วยความดีใจทหารยามสองคนพาร่างเล็กๆ ของขันทีคนหนึ่งเดินนำหน้าเข้ามา หัวใจของนางเต้นแรง เมื่อเขาแสดงตราสัญลักษณ์เล็กๆ ที่ซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อ เป็นตราฝังหยกแกะสลักลายบุปผาโบกไหว สัญลักษณ์เฉพาะของ “ฮองเฮาอี้หราน”"ฮองเฮาทรงหวงใย ท่านไม่น้อยขอรับ" ขันทีคุกเข่าลง เสียงแผ่วเบาแต่อบอุ่นดั่งน้ำซึมในผืนดินแห้งแล้ง“ทรงฝากข้ามาบอกว่า… ทรงจะส่ง ยาจำศีล มาให้…คืนนี้… ก่อนยามซวี (ประมาณสามทุ่ม) ” เขากระซิบเบาๆ อี้หรานลิงโลดในใจ"หลังดื่มยานั้นแล้ว ท่านจะดูเหมือนสิ้นใจจริง ไม่มีชีพจร ไม่มีลมหายใจ จะไม่มีใครกล้าแตะร่างท่านจนกว่าจะถึงยามเฉินของวันถัดไป (เช้าตรู่) เราจะพาท่านออกมาแล้วทุกอย่างก็จะเป็นความลับ"สวี่เหยียนเบิกตากว้าง น้ำตาเอ่อขึ
หยางฟางหรานยืนอยู่กลางห้อง ท่ามกลางความเงียบ มีเพียงแววตาของบิดาหยางซูซิน ผู้เป็นขุนนางใหญ่ที่ทอดมองมาอย่างเคร่งเครียด“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าผู้ใดถูกคุมตัวไปในวันนี้ฟางหราน”เสียงของเขาเย็นเฉียบ คล้ายกำลังสอบถาม…แต่แท้จริงแล้วคือคำกล่าวหาอ้อม ๆฟางหรานกัดริมฝีปากแน่น ปรายตามองบิดาก่อนตอบเสียงแผ่ว“ฮูหยินรองสวี่เหยียน…”“และเจ้าเอง” น้ำเสียงของหยางซูซินทุ้มต่ำ “เจ้าก็รู้ดีว่าถ้านางเปิดปากขึ้นมาเมื่อไร ชื่อของเจ้าจะเป็นชื่อถัดไปที่ถูกเรียกและถูดคุมขัง”ฟางหรานเม้มริมฝีปาก สะบัดชายแขนเสื้อแล้วนั่งลงบนเบาะอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ ใบหน้าที่เคยงดงามอ่อนหวานบัดนี้กลับมีดวงตาแข็งกร้าว“แล้วท่านพ่อคิดจะปล่อยให้ข้าถูกลากไปเหรอ ปล่อยให้ท่านอ๋องจองจำข้าหรือ” “ปล่อยให้ซีหรูหญิงอัปลักษณ์คนนั้นได้หัวเราะเยาะข้า ทั้งๆ ที่ข้าต่างหากที่ควรอยู่เคียงข้างท่านอ๋องในตอนนี้เป็นชายาเอกอย่างที่ตั้งใจไว้เพราะนางแพศยาคนนั้นคนเดียว”แววตาของบิดาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็นประกายบางอย่างระหว่างความห่วงใยและไม่พอใจ“เจ้าลืมสิ่งที่พ่อเคยพูดไปแล้วหรือ บิดาของนางเป็นฝ่าบาทที่ส่งเสริม และยังตั้งใจที่จะกีดกันเจ้า เป็นพ่อที่วางรากฐ
เสียงดาบปะทะหอกดังสนั่นทั่วแนวรบ เลือดร้อนสาดกระเซ็นบนผืนหิมะขาวจนแดงฉาน ซุนเจอหนี่ในชุดเกราะสีเข้มเปรอะเลือด ยืนหยัดอยู่กลางสมรภูมิ ท่ามกลางลูกธนูที่ยังโหมใส่ไม่หยุด"แม่ทัพ! เราเสียแนวรบตะวันตกแล้ว ขอรับ!" เสียงเหยียนชารีบรายงาน ใบหน้าของเขานั้นทั้งห่วงใยและตื่นตระหนกซุนเจอหนี่กัดฟันแน่น มือที่กำดาบสั่นเล็กน้อยเพราะเสียเลือดมากเกินไป กำลังจนหมดแรงลงเช่นกัน"พวกจะตายก็ควรตายเพราะปกป้อง"เค้นเสียงพูดเบาๆ ปลายเสียงขาดห้วง แต่แววตายังไม่ยอมแพ้“ท่านแม่ทัพ องค์หญิงอถอยก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เหยียนชาเตือนด้วยความหวังดี”“ไม่มีทางข้าจะไม่ทิ้งด่านหน้าแห่งนี้เด็ดขาด”“แต่ท่านแม่ทัพเราพ่ายแล้ว” เหยียนชาพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่นทันใดนั้นเสียงฝีเท้าม้านับร้อยดังขึ้นจากแนวป่าด้านหลังกองทหารที่บาดเจ็บล้มตายภายใต้การนำของซุนเจอหนี่ ซุนเจอหนี่หันขวับความรู้สึกตึงเครียดกับความคิดว่านั่นอาจเป็นทัพเสริมของศัตรู แม่ทัพหม่าเซินเลิกคิ้วสูงธงรบที่ชักขึ้นสูงบ่งบอกว่าเป็นธงของต้าเซี่ยด้านซุนเจอหนี่"ทัพนั่นของใครกัน!" หนึ่งในแม่ทัพรองตะโกนถาม สีหน้าเต็มไปด้วยความหวั่นเกรงซุนเจอหนี่เบิกตากว้างเล็กน้อย ธงมังกรเงิ
เสียงกลองรบของข้าศึกดังกระหน่ำอย่างไม่มีหยุดพัก ควันดำลอยอ้อยอิ่งเหนือแนวกำแพงด่านหน้าที่แตกพัง เศษซากของโรงสีที่ถูกไฟเผาไหม้ยังคงส่งเสียงปะทุเบา ๆ ข้างฝั่งน้ำแข็งแตกกระเทาะทหารของแคว้นเป่ยในชุดเกราะเก่าโทรมมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนทั่วร่าง บางคนขาดอาวุธ บางคนแขนขาได้รับบาดเจ็บจนไม่อาจขยับกานและยังคงคลานกลับค่ายด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว เสียงร้องไห้ของหญิงชราที่วิ่งตามร่างบุตรชายบนรถเข็นไม้ กรีดหัวใจของผู้ได้ยินให้ปวดหนึบบนหอคอยบัญชาการ องค์หญิงใหญ่ซุนเจอหนี่ ในชุดแม่ทัพเกราะเงิน ยืนนิ่งทอดสายตาออกไปยังขอบฟ้าที่ยังไม่รู้ว่าเป็นศัตรูหรือหายนะใหม่"ด่านหน้าพังราบไปแล้วขอรับท่านแม่ทัพ ตอนนี้เหลือเพียงที่นี่แต่ทหารของเราบาดเจ็บไม่น้อยเมื่อที่นี่ไม่อาจยันทัพของแคว้นไต้ไว้ได้และแตกลง พวกมันจะล้อมเมืองหลวง..." เสียงรองแม่ทัพที่หนึ่งกล่าวแผ่วเบา ซุนเจอหนี่เพียงพยักหน้า สั่งการอย่างสงบนิ่ง แม้ดวงตาจะคลอไปด้วยหยาดน้ำใส"ส่งสารน์ไปยังต้าเซี่ย ขอพันธมิตร... ป่านนี้ทัพจากแคว้นฉียังมาไม่ถึงหรือไร"ทอดอาลัยด้วยความรู้สึกกดดันในฐานะผู้นำคนสนิทของนาง เหยียนซา รีบก้าวเข้ามากระซิบ "แต่แคว้นต้าเซี่ยยังมิได้ตอบร
ค่ำคืนมืดมิดชินหวางอ๋องในชุดคลุมดำไร้ลวดลาย ก้าวย่างเงียบเชียบเข้าสู่หลังบ้านเสิ่นอย่างเงียบๆองครักษ์ไฉ่หานรออยู่ก่อนแล้ว“ท่านอ๋อง” ไฉ่หานประสานมือนอบน้อม“ท่านพ่อตารอข้าอยู่ใช่หรือไม่” น้ำเสียงเรียบเฉย“พ่ะย่ะค่ะ สาวใช้นางหนึ่งรับหน้าที่เป็นคนล้างภาชนะในครัว ได้กลิ่นหญ้าหลัวซินจื่อจากชาที่นางเคี่ยว นางเห็นชัดว่าสาวใช้คนหนึ่งของฮูหยินรองนำออกไปก่อนจะนำชามาให้พระชายารอง” ชินหวางอ๋องถอนหายใจ“ดีมาก ท่านพ่อตาคงไม่ได้แหวกหญ้าให้งูตื่นใช่ไหม ข้าตั้งใจพบท่านพ่อตาในทันทีเพื่อกล่าวโทษฮูหยินรองสวี่เหยียน” ริมฝีปากคมขยับช้า ๆ ดวงตาคมวาวเยือกเย็นดุจจิ้งจอกกลางหิมะ“ส่งสาวใช้คนนั้นกลับบ้านนางเสียข้าไม่รู้ว่าขอบเขตของเรื่องนี้ขยายวงกว้างแค่ไหนจำต้องปกป้องพยานของเรา”“พ่ะย่ะค่ะ…” ไฉ่หานประสานมืออีกครั้ง ชินหวางอ๋องเร้นกายยังห้องพักด้านในของเสิ่นกวงหลิวชินหวางอ๋องก้าวเท้าผ่านก่อนจะหยุดที่หน้าต่างทอดมองไปยังห้องมืดมิดของซีหรูในบ้านเสิ่นแม้จะอยู่ห่าง แต่เขาก็รู้ดีว่าซีหรูนอนอยู่ในห้องนั้นแอบอมยิ้มเมื่อคิดถึงเรื่องราวต่อจากที่เขากำลังจะบงการให้เป็นช่วงเวลาดีดีสำหรับเขา“ซีหรู...หากไม่ใช่ข้าแอบมองเจ
ในห้องลับใต้เรือนเก่าคร่ำคร่า ริมกำแพงตะวันตกของเมืองหลวง หยางฟางหรานยืนนิ่งอยู่หน้าตู้ไม้ดำ มีลิ้นชักนับสิบที่บรรจุสมุนไพรและผงแปลกประหลาดสารพัดชนิด ในมือเธอมีถุงผ้าสีแดงกำแน่น ดวงตาวาววับแม้จะอยู่ในความมืด“นี่คือยาพิษที่เจ้าต้องการ” หมอหญิงชราผู้หนึ่งกล่าวขณะค่อย ๆ วางขวดยาเล็กจิ๋วลงบนถาด“ท่านหมอยาชนิดนี้ใช้ได้ดีเพียงใด”“เพียงผงเท่าปลายเล็บก็สามารถทำให้หัวใจของคนหยุดเต้นภายในครึ่งชั่วยาม…”ฟางหรานก้มลงหยิบขวดยา สีหน้าไม่ไหวติง“ข้าอยากให้หัวใจของนางหยุดเต้นในทันทีเช่นนั้นข้าจะต้องเพิ่มขนาดยาใช่หรือไม่” หมอหญิงชราพยักหน้ายิ้มๆ“แน่นอน ท่านใช้ได้เท่าที่ต้องการเพื่อให้แน่ใจว่าคนคนนนั้นจะต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา”“และจะไม่เหลือร่องรอยให้ตรวจพบใช่หรือไม่” หยางฟางหรานทำสีหน้าสงสัย“แม้แต่หมอหลวงก็ตรวจไม่เจอ หากใส่ลงในของเหลวที่มีรสเข้มข้น เช่น น้ำแกง หรือชา…ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเป็นยาพิษ”รอยยิ้มเยียบเย็นแย้มขึ้นบนมุมปากของฟางหรานเป็นครั้งแรก“ดี...นางจะต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาอย่างที่ท่านหมอพูด ข้าเกลียดนาง”ค่ำวันถัดมา ภายในห้องรับรองของบ้านตระกูลเสิ่นหยางฟางหรานในชุดคลุมแพรสีคราม เดินอย