ก่อนหน้านั้นสวี่เหยียนยืนหลบมุมเมียงมองเสิ่นกวงกลิวที่ผึ่งผายและรูปงามไม่น้อยเดินเอามือไพล่หลังมาหรารือเรื่องในราชสำนักกับชินเตอหลางฮ่องเต้“สวี่เหยียน สวี่เหยียน” ฮองเฮาอี้หรานส่งเสียงเรีกน้องสาวดังๆ“อะพี่สาวท่าน เรียกข้าหรือ” สวี่เหยียนหันมามองอี้หรานที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง“เจ้ากำลังแอบมองท่านเสิ่นอยู่หรือไร”“อะข้าเปล่านะ”“จริงหรือ เสิ่นกวงหลิวยังไม่มีฮูหยิน เจ้าไม่อยากจะเป็นฮูหยินบ้านเสิ่นหรอกหรือ ขุนนางอนาคตไกลคนนั้นอีกทั้งยังไร้คนหมายปองข้ายินดีทูลฝ่าบาทเพื่อส่งเสริมเจ้าดีไหมฝ่าบาทเองก็สนิทชิดเชื้อกับเสิ่นกวงหลิวไม่น้อย เจ้ากับข้าอย่างไรเสียก็เป็นพี่น้องเดิมข้าตั้งใจให้เจ้าเข้ามาในวังหลวงเพื่อถวายตัวแต่ หากเป็นไปได้เจ้าก็คงไม่อยากแย่งชิงกับพี่สาวใช่ไหม” หลงสวี่เหยียนยิ้มอายๆ“พี่สาวช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก แต่ ท่านแน่ใจหรือว่า ว่าเสิ่นกวงหลิวเขาจะไม่มีใจให้หญิงใดมาก่อน หากว่าข้าแต่งเข้าบ้านเสิ่นแล้วเขาจะมีข้าเพียงคนเดียว ไม่มีหญิงใดนอกจากข้าอีกแล้ว” ฮองเฮาอี้หรานยิ้ม“เจ้ายินดีแต่งกับเขาไหมเล่าความจริงแล้วเสิ่นกวงกลิวคนนี้นิสัยมุทะลุไปหน่อยจึงอาจไม่เคยชมชอบหญิงใดเช่นนั้นการประทานง
“ไม่ เราจะไม่รักกัน” ชินหวางอ๋องอมยิ้ม“ยังอยากจะหย่าข้าอยู่สินะก่อนหน้านั้นเจ้าพูดเรื่องหย่าข้าจนท่องได้” กอดรวบร่างบางไว้แนบกาย“ท่านอ๋องเองก็พูดว่าจะแต่งชายเอกจนท่องได้เช่นกัน” ใครกันนะช่างยอกย้อนหากว่าข้าจะปิดปากนางด้วยปากข้าไม่ให้นางยอกย้อนนางจะยอมไหม” ปากนุ่มบดเบียดอ่อนหวาน ลิ้นอุ่นซอกซอนเข้าไปควานหาความหวาน มือเรียวนั้นเล่ากอดประคองไม่ห่างถอนริมฝีปากออกแสนเสียดายก้มลงขบเม้มที่ริมฝีปากอีกครั้ง มือเรียวยกขึ้นลูบที่แผ่นหนังอัปลักษณ์นั่นเบาๆ“ข้าจะหาหมอที่ดีที่สุดเพื่อเจ้า...ดีไหม” ซีหรูเม้มปาก“ท่านอ๋องยังกังวลกับใบหน้านี้ใช่หรือไม่กลัวว่าจะต้องอับอายผู้คนที่มีชายาอัปลักษณ์เช่นข้าใช่ไหม” ชินหวางอ๋องนิ่งงัน เขาเพียงแค่ไม่อยากให้นางต้องรู้สึกเจียมตัวและรู้สึกสำนึกอยู่เสมอว่าตัวเองมีใบหน้าอัปลักษณ์“ข้า ๆๆ” ซีหรูผลักร่างสูงให้ถอยห่างสวมอาภรณ์ชั้นนอก แล้วเดินลงน้ำไปแช่น้ำอุ่น“ฟังข้าก่อน เจ้าอย่าเพิ่งโกรธข้าก็แค่ไม่อยากให้เจ้า ต้องกังวลกับมัน” ซีหรูไม่สนใจชินหวางอ๋องที่ยืนหันรีหันขวางพูดอยู่ตรงนั้นเดินลงน้ำพุร้อนลึกลงไปเรื่อยๆ“ในใจท่านยังยึดติดกับหน้าตาข้าที่ยอมมอบกายท่านก็ยังมองแค
ซุนเจอหนี่สวมชุดแม่ทัพ ก้าวเดินด้วยท่าทีองอาจ ราวกับบุรุษ หนุ่มผู้กุมบังเหียนกองทัพท้องพระโรงของแคว้นฉีที่เหล่าขุนนางต่างเข้ามาประชุมหารือข้อราชการและแก้ไขปัญหาต่างๆ ของแคว้นในขณะนี้ทุกคนล้วนแต่ทำหน้าที่แข็งขัน พร้อมเพรียง ซุนเจอหนี่ที่ด้านหลังตามาด้วยเหยียนชาที่นำขบวนของบรรณาการมากมายเพื่อมอบให้กับชินเตอหลางและแคว้นฉี อดที่จะชื่นชมเสียไม่ได้ว่าแคว้นฉีช่างยิ่งใหญ่กระนั้น“ข้าน้อยซุนเจอหนี่พร้อมขบวนเครื่องบรรณาการจากแคว้นเป่ย ประกอบด้วยผ้าไหม ชาเลื่องชื่อ และเครื่องเทศชั้นยอด อัญมณีและน้ำอบมาถวายแด่แคว้นฉีเพื่อสานสัมพันธ์” ชินเตอหลางโบกมือให้ลุกขึ้น เหลือบตามองขบวนเครื่องบรรณาการที่ยาวออกไปถึงด้านนอกท้องพระโรงเกือบถึงบันไดทางขึ้นลง“คิดไม่ถึงแคว้นเป่ยจะมีแม่ทัพเป็นหญิงที่มีใบหน้างดงามทว่าองอาจราวบุรุษ ครั้งนี้กลับมองว่าแคว้นเป่ยเองคงเชี่ยวชาญเรื่องการรบไม่น้อย”“ฝ่าบาท แคว้นเป่ยเชี่ยวชาญการรบบนหลังม้าแต่การรบแบบกองทัพเรายังไม่อาจพูดได้ว่าเก่งกาจครั้งนี้แคว้นใต้ส่งกองกำลังประชิดชายแดนแคว้นเป่ยทั้งปล้นฆ่าและรุกคืบเข้ามาข้าฐานะองค์หญิงใหญ่ของแคว้นเป่ยจึงไม่อาจนิ่งดูดายฝ่าบาท ข้าน้อยซุนเ
“เฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ๋องไร้พ่ายกลับมาแล้วอ๋องไร้พ่ายกลับมาแล้ว” เสียงชาวบ้านร้านตลาดของแคว้นฉีที่พร้อมใจกันมาต้อนรับทัพของชินหวางอ๋องที่ยกทัพกลับวังหหลวงกับการรับที่ยืดเยื้อยาวนานถึงสามปี ลูกเมียของเหล่าทหารหาญต่างมารอรับสามีกลับจากการรบ ชินหวางอ๋องบนหลังม้าข้างๆ กันนั้นเสี่ยวอูและไฉ่หาน ที่ยิ้มแก้มปริ “ท่านอ๋องชาวบ้านดีใจที่ท่านอ๋องกลับมาอย่างปลอดภัย” ไฉ่หานชักม้าเดินเคียงข้างเหล่าทหารต่างโห่ร้องแสดงความดีใจเมื่อถึงวังหลวงนั่นเท่ากับที่เหนื่ยอมากำลังจะได้รับผลตอบแทนในเร็ววัน ข้างหน้านั่นชินเติอหลางฮ่องเต้และฮองเฮาอี้หรานยืนมองจากซุ้มประตูทางเข้าโบกไม่โบกมือให้กับชินหวางอ๋องด้วยความยินดี “ท่านอ๋อง ฝ่าบาทมีบัญชาให้ท่านอ๋องเข้าวังหลวงรับมอบของกำนัลและรับการปูนบำเหน็จที่ยกทัพกลับมาพร้อมกับชัยชนะครั้งนี้” เสียงขันทีที่เดินเข้ามาขวางหน้าไว้พูดขึ้นอย่างเป็นพิธีการพร้อมกับการประสานมือตรงหน้าอย่างนอบน้อม “น้อมบัญชาฝ่าบาท” ชินเตอหลางที่อยู่ด้านบนยิ้มบาง มองชินหวางอ๋องที่กระโดดลงจากหลังม้าก้าวขาเข้ามายังวังหลวงประตูวัง หลวงเปิดอ้าออกเหล่าชาวบ้านและขุนนางต่างยืนรอรับส่งเสียงโห่ร้องเกรียวกราว ตำหน
“ฝ่าบาทขาน้อยเสิ่นกวงหลิวไม่ยินดี จะให้บุตรีตรีของข้าแต่งกับชินหวางอ๋องผู้ยโสคนนี้” ชินเตอหลางถอนหายใจยาว“บัญชาของข้า เสิ่นกวงหลิวกล้าขัดบัญชาข้าหรือ” ชินหวางอ๋องยิ้มมุมปาก“ข้าเองก็มีหญิงหนึ่งในดวงใจเช่นกันรบกลับมาครั้งนี้สัญญาว่าจะแต่งนาง”“ข้าได้ยินว่าบ้านหยางนั่น เป็นบุตรีบ้านหยางสินะ ช่างเข้าใจเลือกจริงๆ บุตรีบ้านหยางงดงามอ่อนหวานเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของแคว้นฉีสินะ ข้าได้ยินมาอย่างนั้น” เสิ่นกวงหลิวพูดขึ้นดังๆ ชินเตอหลางขมวดคิ้ว“บ้านหยางอย่างนั้นหรือ ข้าไม่อนุญาตให้แต่งหากจะแต่งจะต้องแต่งกับบุตรีบ้านเสิ่น เสิ่นซีหรูก่อน”“แต่ฝ่าบาท ชินหวางอ๋องสัญญากับหยางฟางหรานแล้วว่าจะต้องแต่งนางในตำแหน่งชายเอกเช่นนั้นข้าเท่ากับผิดสัญญาบุรุษเช่นไรจึงรักษาสัญญากับคนที่หมายปองไม่ได้” ชินเตอหลางถอนหายใจ“ดีดี เช่นนั้นก็ไม่ต้องแต่งซีหรูของข้าท่านก็ไปแต่งชายาเอกที่ท่านหมายปองเสียแต่งนางมอบตำแหน่งชายเอกให้คุณหนูบ้านหยางเสีย”“ไม่ได้” ชินเตอหลางเลือดขึ้นหน้า “ฝ่าบาทในเมื่อ ข้ากับท่านเสิ่นยินดีให้เป็นแบบนี้ทั้งสองฝ่าบาทฝ่าบาทเหตุใดต้อง ทรงกริ้วด้วย” เสิ่นกวงหลิวพยักหน้ารัวเร็ว“จะแต่งชายาเอกจะต้องแ
“ท่านพ่อท่านหมายความว่าอย่างไร” ซีหรูถามขึ้นทันที“ซีหรูพ่ออับจนหนทางเรื่องนี้เป็นบัญชาของฝ่าบาทที่ไม่อาจขัดได้ ซีหรูเจ้าเห็นแก่พ่อเถิดแต่งกับอ๋องไร้พ่ายคนนั้นเสีย แล้วพ่อจะไม่ขออะไรเจ้าอีกเลย”ใต้เท้าเสิ่นหลังจากที่หารือกับชินเตอหลางแล้วก็กลับมาพูดกับซีหรูในเรื่องนี้ทันที“ท่านพ่อซีหรูอยู่แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ได้หวังอะไรพออายุ18ปีท่านแม่สั่งเสียให้ไปใช้ชีวิตกับท่านตาที่ตระกูลอ้ายหลัว ท่านพ่อไม่ต้องกลัวว่าจะต้องอับอายใครเรื่องที่ข้าไม่แต่งออกไป”“ไม่ใช่เรื่องนั้น พ่อไม่ได้กังวลเรื่องนั้นใครจะพูดอย่างไรก็ช่างเขาเจ้าอยู่ที่นี่กับพ่อได้ตราบที่เจ้าต้องการสมบัติทุกชิ้นของบ้านเสิ่นเป็นของเจ้าคนเดียว ที่ข้าไม่ยอมให้อนุหรือท่านแม่รองของเจ้ามีลูกก็เพราะว่าห่วงว่าเจ้าจะใช้ชีวิตลำบากและอยู่โดยต้องแย่งชิงกับพี่น้องซีหรูแต่ที่พ่อห่วงนั่นคือเจ้าจะไม่มีคนคอยดูแลหากว่าวันหนึ่งพ่อจะไม่อยู่แล้วเจ้าเองก็ไม่มีมารดาจะต้องลำบากแค่ไหน ที่ต้องใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีพ่อเช่นนั้นจะต้องหาคนที่ดูแลเจ้าชั่วชีวิตซึ่งฝ่าบาทและไทเฮาทรงลงความเห็นว่าคนที่จะดูแลเจ้าได้ดีที่สุดก็คือชินวางอ๋องคนนั้น” ซีหรูถอนหายใจยาว“อ๋องไร้พ่า
บ้านเสิ่น“คุณหนู เจ้าขาขนมอร่อยพวกนั้นคุณหนูก็ไม่ได้กินทุกวันเสียหน่อย นานนานจึงได้กล้าออกไปที ทำไมถึงยอมให้เขาไปง่ายดายเจ้าคะ” สาวใช้อดถามไม่ได้“เขาอยากได้ก็ควรให้เขาไปข้าเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนที่เขาหมายปองโกรธเขาข้าก็ควรมีส่วนรับผิดชอบ เจ้ารู้ไหมบุรุษที่จำใจต้องผิดคำสัญญาเพราะ ต้องยอมทำตามพระบัญชาของฝ่าบาทนี่น่าเห็นใจไม่น้อยสามปีที่เขาไปรบหวังนำทัพชนะเพื่อกลับมาจะขอประทานงานแต่งงานให้กับคนที่เขารักทว่า เขากลับต้องมาแต่งกับข้า เจ้าคิดว่าหญิงคนนั้นจะเจ็บปวดเพียงใดที่บุรุษอันเป็นที่รักไม่อาจฝืนบัญชาฝ่าบาทได้” สาวใช้พยักหน้าขึ้นลง“คุณหนูเจ้าขาแล้วหากท่านยืนยันว่าจะไม่แต่งเล่าเจ้าค่ะ ฝ่าบาทคงไม่กดดันคุณหนูเพราะเกรงใจนายท่าน” สาวใช้ยังหาทองออกให้“เจ้าคิดว่าคนอย่างท่านพ่อจะยอมขัดบัญชาฝ่าบาทหรือไรแต่ไหนแต่ไรมาฝ่าบาทชี้นกเป็นไม้มาตลอด” สาวใช้ถอนหายใจ“คุณหนูเจ้าขาแต่ ท่านอ๋องหล่อเหลาจริงๆ นะเจ้าค่ะรูปงามราวกับเทพสวรรค์คุณหนูโชคดีที่ได้แต่งกับท่านอ๋อง แต่อย่างไรเสียก็เกรงว่า…ชินหวางอ๋องจะอาศัยว่าใบหน้าของคุณหนูที่….แล้วจะอ้างไม่ทำหน้าที่สามีอย่างที่ควรจะเป็น” ซีหรูถอนหายใจ ในเมื่อตัดสินใจแ
“ป้ายหยกนี่เป็นของแม่นางข้าไม่อาจรับคืนไปได้” ซีหรูนิ่งงัน “คุณหนูเก็บมันไว้เสียข้าไร้สิ่งตอบแทนป้ายหยกนี่หากว่าวันไหนที่คุณหนูมีเรื่องขอร้องข้าค่อยนำมันมามอบให้กับข้าชินหวางอ๋อง ดีไหม” รวบมือบางของซีหรูที่ยื่นป้ายหยกมาให้ซีหรูถอนหายใจ“ท่านจะแต่งชายาเอกทันทีที่ชายารองตั้งครรภ์อย่างนั้นหรือ” ชินหวางอ๋องยิ้มใบหน้าสดใส“ข้ารอเวลานี้มานานและข้าเองก็ไม่อยากเป็นคนที่ผิดคำสัญญา” ซีหรูยิ้มเศร้าๆ ก้าวเดินจากมา“คุณหนู อย่าเพิ่งไปข้าได้มอบเหรียญทองให้กับพ่อค้าขนมไหว้พระจันทร์ร้านนี้เพื่อจ่ายค่าขนมให้กับคุณหนูไม่ว่าคุณหนูอยากมากินเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องจ่ายเงิน”“ขอบคุณท่านอ๋อง” ซีหรูก้าวเดินจากไปพระราชวังฤดูหนาว“ความจริงแล้วเจ้าเสี่ยวอูเจ้าก้ทำเครื่องเสวยรสชาติดีเหมือนกันนะ” ไฉ่หานเอ่ยปากชม คีบอาหารใส่ปาก “เครื่องปรุงรสที่ดีที่สุดคือความหิวตอนนี้มืดค่ำแล้วเราเพิ่งจะได้กินอาหารเย็นนั่นย่อมไม่แปลกที่เราจะรู้สึกเอร็ดอร่อย ท่านอ๋องกับพระชายารอง ไม่เห็นจะชมข้าสักคำ”“จะชมได้อย่างไรในเมื่อ เฮอะชายารองงดงามที่สุดในสามโลก เจ้าคิดว่ายังมีแก่ใจชื่นชมสิ่งใดอีกหรือ”ไฉ่หานพยักหน้าไปทางชินหวางอ๋องที่นั่งจ้
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าในจวนอ๋องไร้พ่ายข้างนอกนั่นองครักษ์เดินตรวจตราเข้มแข็ง ร่างสูงใหญ่ของชินหวางอ๋องนอนนิ่งอยู่บนแท่นนอน ใบหน้าซีดเผือด เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดเต็มหน้าผาก ร่างกายที่เคยแข็งแกร่งบัดนี้อ่อนแรงจนแทบไม่หลงเหลือเค้าเดิม ดวงตาปิดสนิทริมฝีปากซีดเซียวไร้สีเลือดซีหรูนั่งอยู่ข้างแท่นนอนทั้งวันทั้งคืน ไม่กล้าแม้แต่จะหลับตาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าผากให้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า มือบางลูบแขนหนาที่มีผ้าพันแผลหนาแน่นด้วยความสงสาร“นายหญิงพระชายารองเจ้าขา เสี่ยวไป๋ยกอาหารคาวหวานมาถึงนี่เพราะชายากินอะไรเสียหน่อยหากขืนยังไม่ดื่มกินอะไรเช่นนี้จะทำให้ท่านอ๋องน้อย…เอ่อเสี่ยวไป๋หมายถึงเจ้าก้อนแป้งของพระชายารองจะ พลอยหิวไปด้วยเจ้าค่ะ”“ข้ากินอะไรไม่ลง”“เจ้าค่ะต้องฝืนใจกินอะไรเสียหน่อยหากพระชายารองทำแบบนี้ท่านอ๋องรู้เข้าจะไม่สบายใจ” เสี่ยวไป๋พยุงซีหรูยังโต๊ะกลางห้องที่วางถาดอาหารไว้“ก็ได้กินเสียหน่อยข้าจะได้มีแรงคอยดูแลและเฝ้าไข้ท่านอ๋องได้ ใช่ไหมเสี่ยวไป๋”“แน่นอนเจ้าค่ะ” เสี่ยวไป๋ตักข้าวยิ้มๆ ซีหรูรีบใช้ตะเกียบในมือคีบเอาอาหารใส่ปากเคี้ยวงับๆ“กินเยอะๆ เจ้าค่ะ” เสี่ยวไป่คีบเอาหมูไก่วางในถ้วยข้าว
เสียงกีบม้าเกือบยี่สิบตัว กระทบพื้นดังสนั่น พร้อมเสียงร้องตะโกนระงม"โครมๆๆๆ!" เกี๊ยวหรูหราที่เคลื่อนตัวอยู่กลางทางระเบิดพังลงแทบในพริบตา เศษไม้ปลิวว่อนกลางอากาศ กลุ่มมือสังหารราวยี่สิบคนในชุดดำทะยานพุ่งเข้าล้อมกรอบอย่างรวดเร็ว ดวงตาแต่ละคู่ฉายแววสังหารเยียบเย็นไร้ปรานี“ฆ่า…เสิ่นซีหรู”ชินหวางอ๋องเบี่ยงตัวออกจากเศษซากเกี๊ยวที่กำลังถล่ม มือหนึ่งฉวยคว้าข้อมือบางของซีหรูมากำไว้แน่น เสียงคำรามต่ำหลุดออกจากลำคอเขา"อารักขาชายาข้า! ไฉ่หาน ไม่ต้องห่วงข้า อารักขาพระชายา!!"คำสั่งเปี่ยมด้วยอำนาจและเด็ดขาดโดยไม่ลังเล ชินหวางอ๋องใช้ร่างสูงใหญ่ของตนเองโอบล้อมร่างบางไว้เต็มที่ แผ่นหลังกว้างตั้งตรงรับคมมีดที่ฟาดมาโดยตรงแทนซีหรู เขาขยับตัวอย่างรวดเร็วราวกับเสือโคร่งที่กำลังปกป้องลูกน้อยเสียงใบมีดเสียดแทงผิวเนื้อดัง “ฉึบ!” เลือดสดพุ่งซึมออกจากบาดแผลลึกบนบ่ากว้างของเขาทันที แต่เขากลับไม่แม้แต่จะร้องครวญสักคำ เพียงยิ่งกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น"ท่านอ๋อง!" ไฉ่หานร้องด้วยความตกใจ ทะยานเข้าต่อสู้กับมือสังหารอีกทาง เสี่ยวอูที่รีบวิ่งเข้ามาขวางมือสังหารที่ตั้งใจพุ่งเข้าหาซีหรูชินหวางอ๋องเบี่ยงตัวหลบการโจ
“ไปเถิด ไปในที่ที่เจ้าจะมีความสุข...ท่านอ๋องจะดูแลเจ้าและลูกของเขาข้าเชื่อเช่นนั้น” เขากระซิบด้วยน้ำเสียง จริงจัง ซีหรูเงยหน้าขึ้นมองดวงตาอบอุ่นของผู้เป็นบิดาน้ำตาไหลรินเงียบๆ ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่นั้นอย่างแนบแน่นชินหวางอ๋องยืนนิ่งปล่อยให้นางได้กล่าวลาไม่มีคำเร่งเร้า ไม่มีการเร่งรัดเมื่อซีหรูปล่อยมือออกในที่สุด ชินหวางอ๋องจึงโอบรัดเอวบางของนางอย่างอ่อนโยน พาขึ้นเกี๊ยวที่เตรียมไว้ก่อนจาก เสิ่นกวงหลิวตะโกนตามหลังมาเสียงหนักแน่นว่า “ดูแลตัวเองให้ดีนะ เจ้าตัวน้อยในท้องนั่นก็ด้วย!”ซีหรูหันกลับไปส่งยิ้มทั้งน้ำตา ขณะที่ชินหวางอ๋องโอบไหล่นางแน่นขึ้นอย่างให้กำลังใจเกี๊ยวค่อยๆ เคลื่อนออกจากประตูบ้านเสิ่นอย่างเงียบงัน มีเพียงเสียงสายลมอ่อนๆ พัดผ่าน และดวงใจสองดวงที่ค่อยๆ เริ่มผูกพันกันลึกซึ้งยิ่งขึ้น"ตั้งแต่นี้ไป... ข้าจะไม่ให้เจ้าต้องเสียน้ำตาเพียงลำพังอีก" เสียงกระซิบของชินหวางอ๋องดังอยู่ข้างหูนาง แผ่วเบาแต่หนักแน่นราวกับคำสัตย์สาบานซีหรูกัดริมฝีปากน้อยๆ พยักหน้าช้าๆ ซบใบหน้าไว้กับอกกว้างที่แสนอบอุ่น รู้แน่แล้วว่าต่อจากนี้ ไม่ว่าจะมีพายุลูกใดในชีวิต ซีหรูก็จะไม่ต้องเผชิญมันเพียง
ข่าวคราวจากคุกหลวงถูกนำมาส่งถึงมืออย่างรวดเร็ว ฮูหยินรองเสิ่นสวี่เหยียน...เสียชีวิตแล้วชินหวางอ๋องยืนนิ่งงันอยู่หน้าหน้าต่างบานใหญ่ในเรือนพัก ลมเย็นพัดชายเสื้อคลุมยาวของเขาไหวสะบัด แต่ชินหวางอ๋องกลับนิ่งเหมือนรูปสลัก ดวงตาคมลึกนั้นจ้องมองไปยังความว่างเปล่าอย่างครุ่นคิด"นางเลือกทางนี้เอง...หรือว่ามีใครทำให้นางต้องสิ้นชื่อกันแน่" เสียงทุ้มต่ำพึมพำแผ่วเบา“ท่านอ๋องเราจะทำอย่างไรต่อไปดี” เสี่ยวอูถามขึ้นสีหน้าเป็นกังวลไม่น้อย“พรุ่งนี้ข้าจะพาซีหรูเข้าถวายพระพรฝ่าบาทบอกเล่าเรื่องใบหน้าที่งดามและการที่ชายาของข้ากำลังตั้งครรภ์ส่วนเรื่องไฟไหม้บ้านเสิ่นเมื่อหลายปีที่แล้วคงต้องให้ฝ่าบาทตัดสินใจว่าจะจัดการอย่างไร”เขาแค่รู้สึกว่ามีบางอย่างปิดปกติกับความตายของสวี่เหยียน หากแต่รู้ดีว่าความเคลื่อนไหวต่อจากนี้จะซับซ้อนกว่าที่เคย เงามืดเบื้องหลังคงไม่ยอมปล่อยมือ แต่เหนือสิ่งอื่นใด...สิ่งที่เขาเป็นห่วงที่สุดคือซีหรู กับเด็กในครรภ์น้อยๆ ที่กำลังเติบโตในกายของนางตอนนี้เขาเองไม่อาจวางใจใครให้ปกป้องซีหรูและลูกในท้องได้นอกจากตัวเขาเอง"เสี่ยวอูเตรียมเกี๊ยว!" เขาออกคำสั่งเสียงหนักแน่น องครักษ์ที่คอยเฝ้าอ
สวี่เหยียนถูกล่ามโซ่ไว้ในความมืด…นั่งอยู่มุมห้องขัง ใบหน้าซูบซีด มีเพียงเปลวแสงจากโคมเล็กหน้าห้องที่ส่องผ่านช่องไม้พาดมาให้เห็นดวงตาของนางยังเปล่งแสงแห่งความหวังแม้เพียงเล็กน้อย“พี่สาวท่านช้าอยู่ใยข้ารออยู่ข้าเชื่อว่ามีท่านเพียงคนเดียวที่จะไม่มีทางปล่อยให้ข้าต้องตาย”เสียงประตูเหล็กดังแกรกกรากนางสะดุ้งน้อยๆ พลางรีบยกมือขึ้นลูบผมที่ยุ่งเหยิงเพื่อแต่งกายให้ดูดีที่สุดด้วยความดีใจทหารยามสองคนพาร่างเล็กๆ ของขันทีคนหนึ่งเดินนำหน้าเข้ามา หัวใจของนางเต้นแรง เมื่อเขาแสดงตราสัญลักษณ์เล็กๆ ที่ซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อ เป็นตราฝังหยกแกะสลักลายบุปผาโบกไหว สัญลักษณ์เฉพาะของ “ฮองเฮาอี้หราน”"ฮองเฮาทรงหวงใย ท่านไม่น้อยขอรับ" ขันทีคุกเข่าลง เสียงแผ่วเบาแต่อบอุ่นดั่งน้ำซึมในผืนดินแห้งแล้ง“ทรงฝากข้ามาบอกว่า… ทรงจะส่ง ยาจำศีล มาให้…คืนนี้… ก่อนยามซวี (ประมาณสามทุ่ม) ” เขากระซิบเบาๆ อี้หรานลิงโลดในใจ"หลังดื่มยานั้นแล้ว ท่านจะดูเหมือนสิ้นใจจริง ไม่มีชีพจร ไม่มีลมหายใจ จะไม่มีใครกล้าแตะร่างท่านจนกว่าจะถึงยามเฉินของวันถัดไป (เช้าตรู่) เราจะพาท่านออกมาแล้วทุกอย่างก็จะเป็นความลับ"สวี่เหยียนเบิกตากว้าง น้ำตาเอ่อขึ
หยางฟางหรานยืนอยู่กลางห้อง ท่ามกลางความเงียบ มีเพียงแววตาของบิดาหยางซูซิน ผู้เป็นขุนนางใหญ่ที่ทอดมองมาอย่างเคร่งเครียด“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าผู้ใดถูกคุมตัวไปในวันนี้ฟางหราน”เสียงของเขาเย็นเฉียบ คล้ายกำลังสอบถาม…แต่แท้จริงแล้วคือคำกล่าวหาอ้อม ๆฟางหรานกัดริมฝีปากแน่น ปรายตามองบิดาก่อนตอบเสียงแผ่ว“ฮูหยินรองสวี่เหยียน…”“และเจ้าเอง” น้ำเสียงของหยางซูซินทุ้มต่ำ “เจ้าก็รู้ดีว่าถ้านางเปิดปากขึ้นมาเมื่อไร ชื่อของเจ้าจะเป็นชื่อถัดไปที่ถูกเรียกและถูดคุมขัง”ฟางหรานเม้มริมฝีปาก สะบัดชายแขนเสื้อแล้วนั่งลงบนเบาะอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ ใบหน้าที่เคยงดงามอ่อนหวานบัดนี้กลับมีดวงตาแข็งกร้าว“แล้วท่านพ่อคิดจะปล่อยให้ข้าถูกลากไปเหรอ ปล่อยให้ท่านอ๋องจองจำข้าหรือ” “ปล่อยให้ซีหรูหญิงอัปลักษณ์คนนั้นได้หัวเราะเยาะข้า ทั้งๆ ที่ข้าต่างหากที่ควรอยู่เคียงข้างท่านอ๋องในตอนนี้เป็นชายาเอกอย่างที่ตั้งใจไว้เพราะนางแพศยาคนนั้นคนเดียว”แววตาของบิดาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เป็นประกายบางอย่างระหว่างความห่วงใยและไม่พอใจ“เจ้าลืมสิ่งที่พ่อเคยพูดไปแล้วหรือ บิดาของนางเป็นฝ่าบาทที่ส่งเสริม และยังตั้งใจที่จะกีดกันเจ้า เป็นพ่อที่วางรากฐ
เสียงดาบปะทะหอกดังสนั่นทั่วแนวรบ เลือดร้อนสาดกระเซ็นบนผืนหิมะขาวจนแดงฉาน ซุนเจอหนี่ในชุดเกราะสีเข้มเปรอะเลือด ยืนหยัดอยู่กลางสมรภูมิ ท่ามกลางลูกธนูที่ยังโหมใส่ไม่หยุด"แม่ทัพ! เราเสียแนวรบตะวันตกแล้ว ขอรับ!" เสียงเหยียนชารีบรายงาน ใบหน้าของเขานั้นทั้งห่วงใยและตื่นตระหนกซุนเจอหนี่กัดฟันแน่น มือที่กำดาบสั่นเล็กน้อยเพราะเสียเลือดมากเกินไป กำลังจนหมดแรงลงเช่นกัน"พวกจะตายก็ควรตายเพราะปกป้อง"เค้นเสียงพูดเบาๆ ปลายเสียงขาดห้วง แต่แววตายังไม่ยอมแพ้“ท่านแม่ทัพ องค์หญิงอถอยก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เหยียนชาเตือนด้วยความหวังดี”“ไม่มีทางข้าจะไม่ทิ้งด่านหน้าแห่งนี้เด็ดขาด”“แต่ท่านแม่ทัพเราพ่ายแล้ว” เหยียนชาพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่นทันใดนั้นเสียงฝีเท้าม้านับร้อยดังขึ้นจากแนวป่าด้านหลังกองทหารที่บาดเจ็บล้มตายภายใต้การนำของซุนเจอหนี่ ซุนเจอหนี่หันขวับความรู้สึกตึงเครียดกับความคิดว่านั่นอาจเป็นทัพเสริมของศัตรู แม่ทัพหม่าเซินเลิกคิ้วสูงธงรบที่ชักขึ้นสูงบ่งบอกว่าเป็นธงของต้าเซี่ยด้านซุนเจอหนี่"ทัพนั่นของใครกัน!" หนึ่งในแม่ทัพรองตะโกนถาม สีหน้าเต็มไปด้วยความหวั่นเกรงซุนเจอหนี่เบิกตากว้างเล็กน้อย ธงมังกรเงิ
เสียงกลองรบของข้าศึกดังกระหน่ำอย่างไม่มีหยุดพัก ควันดำลอยอ้อยอิ่งเหนือแนวกำแพงด่านหน้าที่แตกพัง เศษซากของโรงสีที่ถูกไฟเผาไหม้ยังคงส่งเสียงปะทุเบา ๆ ข้างฝั่งน้ำแข็งแตกกระเทาะทหารของแคว้นเป่ยในชุดเกราะเก่าโทรมมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนทั่วร่าง บางคนขาดอาวุธ บางคนแขนขาได้รับบาดเจ็บจนไม่อาจขยับกานและยังคงคลานกลับค่ายด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว เสียงร้องไห้ของหญิงชราที่วิ่งตามร่างบุตรชายบนรถเข็นไม้ กรีดหัวใจของผู้ได้ยินให้ปวดหนึบบนหอคอยบัญชาการ องค์หญิงใหญ่ซุนเจอหนี่ ในชุดแม่ทัพเกราะเงิน ยืนนิ่งทอดสายตาออกไปยังขอบฟ้าที่ยังไม่รู้ว่าเป็นศัตรูหรือหายนะใหม่"ด่านหน้าพังราบไปแล้วขอรับท่านแม่ทัพ ตอนนี้เหลือเพียงที่นี่แต่ทหารของเราบาดเจ็บไม่น้อยเมื่อที่นี่ไม่อาจยันทัพของแคว้นไต้ไว้ได้และแตกลง พวกมันจะล้อมเมืองหลวง..." เสียงรองแม่ทัพที่หนึ่งกล่าวแผ่วเบา ซุนเจอหนี่เพียงพยักหน้า สั่งการอย่างสงบนิ่ง แม้ดวงตาจะคลอไปด้วยหยาดน้ำใส"ส่งสารน์ไปยังต้าเซี่ย ขอพันธมิตร... ป่านนี้ทัพจากแคว้นฉียังมาไม่ถึงหรือไร"ทอดอาลัยด้วยความรู้สึกกดดันในฐานะผู้นำคนสนิทของนาง เหยียนซา รีบก้าวเข้ามากระซิบ "แต่แคว้นต้าเซี่ยยังมิได้ตอบร
ค่ำคืนมืดมิดชินหวางอ๋องในชุดคลุมดำไร้ลวดลาย ก้าวย่างเงียบเชียบเข้าสู่หลังบ้านเสิ่นอย่างเงียบๆองครักษ์ไฉ่หานรออยู่ก่อนแล้ว“ท่านอ๋อง” ไฉ่หานประสานมือนอบน้อม“ท่านพ่อตารอข้าอยู่ใช่หรือไม่” น้ำเสียงเรียบเฉย“พ่ะย่ะค่ะ สาวใช้นางหนึ่งรับหน้าที่เป็นคนล้างภาชนะในครัว ได้กลิ่นหญ้าหลัวซินจื่อจากชาที่นางเคี่ยว นางเห็นชัดว่าสาวใช้คนหนึ่งของฮูหยินรองนำออกไปก่อนจะนำชามาให้พระชายารอง” ชินหวางอ๋องถอนหายใจ“ดีมาก ท่านพ่อตาคงไม่ได้แหวกหญ้าให้งูตื่นใช่ไหม ข้าตั้งใจพบท่านพ่อตาในทันทีเพื่อกล่าวโทษฮูหยินรองสวี่เหยียน” ริมฝีปากคมขยับช้า ๆ ดวงตาคมวาวเยือกเย็นดุจจิ้งจอกกลางหิมะ“ส่งสาวใช้คนนั้นกลับบ้านนางเสียข้าไม่รู้ว่าขอบเขตของเรื่องนี้ขยายวงกว้างแค่ไหนจำต้องปกป้องพยานของเรา”“พ่ะย่ะค่ะ…” ไฉ่หานประสานมืออีกครั้ง ชินหวางอ๋องเร้นกายยังห้องพักด้านในของเสิ่นกวงหลิวชินหวางอ๋องก้าวเท้าผ่านก่อนจะหยุดที่หน้าต่างทอดมองไปยังห้องมืดมิดของซีหรูในบ้านเสิ่นแม้จะอยู่ห่าง แต่เขาก็รู้ดีว่าซีหรูนอนอยู่ในห้องนั้นแอบอมยิ้มเมื่อคิดถึงเรื่องราวต่อจากที่เขากำลังจะบงการให้เป็นช่วงเวลาดีดีสำหรับเขา“ซีหรู...หากไม่ใช่ข้าแอบมองเจ