ประโยคที่กู้ชูหน่วนพูดว่าอีกไม่นานเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ทำให้แววตาของเซียวอวี่เชียนและหัวหน้าเผ่าหมอเป็นประกาย พวกเขาอดรู้สึกยินดีอย่างลับๆ ไม่ได้ดูเหมือนว่ากู้ชูหน่วนจะชอบเขาจริงๆ"เสี่ยวเชียนเชียน ยากมากนะที่เจ้ากับข้าจะถูกใจกันตั้งแต่แรกเห็น เมื่อครู่ได้ยินพวกเจ้าพูดว่าจะไปดื่มสุราที่ร้านจุ้ยชุนเฟิงในเมืองอวี๋ วันนี้ข้าขอเป็นเจ้าภาพเอง ข้าเลี้ยงพวกเจ้าดื่มสุรา"หัวหน้าเผ่าหมอมีท่าทีเป็นกันเอง ในดวงตาสีแปลกของเขาปรากฏรอยยิ้มในใจเขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะตีสนิทกับเซียวอวี่เชียนให้ดี เพื่อที่จะได้แต่งงานกับกู้ชูหน่วนในอนาคตนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่พูดจาไพเราะกับคนอื่นนอกจากกู้ชูหน่วนเซียวอวี่เชียนถูกกู้ชูหน่วนเรียกว่าเสี่ยวเชียนเชียน คำแล้วคำเล่าก็ช่างแล้วแต่หัวหน้าเผ่าหมอก็เรียกเขาว่าเสี่ยวเชียนเชียนเหมือนกัน ทำให้เขารู้สึกแปลกๆแต่เขาก็ไม่อยากขุ่นเคืองกับน้องชายภรรยาในอนาคต จึงทำได้เพียงพูดอย่างอ้อมๆ ว่า "เอ่อ......หรือว่าเจ้าจะเรียกชื่อข้าก็ได้ คำว่าเสี่ยวเชียนเชียน มัน......อืม......ค่อนข้าง......""ข้าเข้าใจ ข้าเข้าใจ ต้องเรียกว่าน้องชาย น้องชายสินะ ไม่รู้ว่าข
ดวงตาของกู้ชูหน่วนไม่เป็นมิตร และน้ำเสียงของนางก็เย็นชาลงเซียวอวี่เชียนนึกไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะโกรธมากขนาดนี้แม้หัวหน้าเผ่าหมอจะเป็นน้องชายแท้ๆ ของนาง แต่เขาก็คือหัวหน้าเผ่าหมอ หากเขาโกรธขึ้นมา โบกมือเบาๆ ก็ทำลายนางได้แล้วเซียวอวี่เชียนแนะนำว่า "ยัยขี้เหร่ ทำไมเจ้าถึงพูดกับน้องชายแบบนั้นล่ะ ทุกอย่างสามารถพูดคุยกันได้"หัวใจของหัวหน้าเผ่าหมออบอุ่นขึ้นทันทีเขาคือน้องภรรยาของเขา จึงเข้าข้างเขา"พี่สาวไม่ชอบกลิ่นของอาโม่อยู่บนตัวพี่หรือ?""ไร้สาระ หากข้าติดตั้งจีพีเอสบนตัวเจ้าและติดตามเจ้าตลอดเวลา เจ้าจะมีความสุขหรือไม่""จวี่พีเอ๋อร์ซือ คือวิธีการตายแบบไหนหรือ? พี่สาววางใจได้ ข้าอยู่ที่นี่ ใครก็ทำร้ายพี่ไม่ได้""……"กู้ชูหน่วนสงสัยว่าคนทั้งสองสมรู้ร่วมคิดกันเพื่อทำให้นางโกรธ โดยเฉพาะหัวหน้าเผ่าหมอ"กำจัดกลิ่นบนตัวข้าเดี๋ยวนี้""ก็ได้ๆ ๆ แล้วพี่กำจัดลูกบอลในท้องของเจ้าได้หรือไม่?"หัวหน้าเผ่าหมอโบกมือใหญ่ กลิ่นหอมดอกลำโพงจางๆ บนร่างกายของ กู้ชูหน่วนหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันทีเพียงแต่ดวงตาอันน่าขนลุกของหัวหน้าเผ่าหมอจ้องมองไปที่ท้องแบนราบของกู้ชูหน่วนตลอดเวลา ดวงตาของเขาดูเ
กู้ชูหน่วนเอ่ยอย่างเย็นชาว่า "พวกเจ้าคนไหนกล้าหาเรื่องกับเย่จิ่งหาน อย่าหาว่าข้าไม่นับพวกเจ้าเป็นน้อง""ยัยขี้เหร่ เย่จิ่งหานทำกับเจ้าขนาดนั้น ทำไมเจ้ายังพูดแทนเขาอีก? หรือว่าเขาขู่เข็ญเจ้า?""เขากล้า" หัวหน้าเผ่าหมอในชั่วพริบตาทรงอำนาจและองอาจมาก ร่างกายทั้งหมดแผ่รัศมีของการล้มล้างทุกสิ่งภายใต้สวรรค์ และความรู้สึกของการเป็นหนึ่งเดียวที่เหนือกว่าทุกสิ่งปรากฏขึ้น"เขาไม่ได้ขู่เข็ญอะไรข้า ข้าขอร้องให้พวกเจ้ามีสมองที่ปกติหน่อยได้หรือไม่ อยู่กับพวกพวกเจ้า ข้าอับอายจริงๆ"นับตั้งแต่รู้จักกันมา เย่จิ่งหานแม้บางครั้งจะขู่เข็ญนาง แต่ทุกครั้งก็เป็นแค่เสียงดัง ฟ้าผ่าแต่ฝนไม่ตก เขาไม่ได้ทำอะไรนางเลยเห็นพวกเขายังอยากจะพูดต่อ กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว จ้องหัวหน้าเผ่าหมออย่างโกรธเคือง "โดยเฉพาะเจ้า ห้ามหาเรื่องเย่จิ่งหานอีก""เย่จิ่งหานไม่ใช่คนดี""ข้าว่าเจ้าไม่ใช่คนดีมากกว่า ลองดูสิว่าลูกน้องของสิบสองกองธง แต่ละคนล้วนเป็นคนเลว โดยเฉพาะนายท่านหลัน พูดว่าเขาเป็นคนเลวยังยกย่องเขาเกินไป"หัวหน้าเผ่าหมอแก้ไข "ยามนี้เหลือนายท่านเจ็ดคนแล้ว ข้าก็ไม่คิดจะแต่งตั้งนายท่านที่ข้าลบไปห้าคนอีก"กู้ชูหน่วนขมวดค
นางรวบรวมลูกแก้วมังกรได้สามลูกแล้ว ก็ไม่ธรรมดาแล้วนางเป็นเจ้าสำนักซิวหลัว นั่นหมายความว่าสำนักซิวหลัวมีลูกแก้วมังกรสี่ลูกอย่างนั้นหรือ?หากนางต้องการลูกแก้วมังกร นางแค่ไปขโมยที่สำนักซิวหลัวก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?กู้ชูหน่วนทุบหยกจันทร์เสี้ยวจนแตก ดวงตาสวยงามราวกับน้ำนิ่งจ้องมองอักขระบนหยกจันทร์เสี้ยวที่สลักอยู่บนกระดิ่งภินวิญญาณอย่างเงียบๆ กระดิ่งภินวิญญาณปรากฏเป็นแผนที่ภูมิประเทศอย่างรวดเร็วด้วยตาเปล่าแผนที่นี้ซับซ้อนมากและยังขาดไปบางส่วน พวกกู้ชูหน่วนมองดูอยู่นานมากก็ยังดูไม่ออกว่าคือที่ไหน"ข่าวของเจ้าแม่นยำหรือไม่? เศษหยกชิ้นสุดท้ายอยู่ที่เขาสวินหลงจริงหรือ?""น่าจะใช่ ข้าก็ลืมไปแล้วว่าเคยเห็นหรือได้ยินที่ไหนมา พี่สาว ลูกแก้วมังกรไม่ใช่ของดีอะไร เป็นของอัปมงคล คนที่เกี่ยวข้องกับลูกแก้วมังกรไม่มีจุดจบที่ดี อาโม่ไม่อยากให้พี่สาวรวบรวมลูกแก้วมังกร"อัปมงคล?นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินกู้ชูหน่วนลากเสียงยาว "อ่อ......อัปมงคลอย่างไร?""บอกไม่ถูกเหมือนกัน อย่างไรเสียข้าก็รู้สึกว่ามันไม่ดี เคยมีคนจำนวนมากแย่งชิงลูกแก้วมังกร แต่ละคนไม่เหลือแม้แต่กระดูก หายตัวไปจากโลกนี้ ข้างนอกไม่รู้
กู้ชูหน่วนกล่อมแล้วกล่อมอีก กว่าจะหลอกล่อให้หัวหน้าเผ่าหมอกลับไปได้ ก่อนจากไปยังคงสาบานซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าจะต้องไปหาเขาที่เผ่าหมอให้ได้ ถึงได้ส่งหัวหน้าเผ่าหมอองค์นี้ไปจนได้เซียวอวี่เชียนเอ่ย "ยัยขี้เหร่ เราจะไปจุ้ยชุนเฟิงหรือไปสำนักบัณฑิตหลวงดี?"กู้ชูหน่วนจ้องมองไปข้างหน้า ถอนหายใจ "ข้ารู้สึกว่าไม่ว่าไปที่ไหน จุดจบของข้าคงจะดูไม่ดีแน่"ไม่รอให้เซียวอวี่เชียนตอบโต้ ประตูใหญ่ก็ถูกคนเตะออก เสียงดังสนั่น ลูกน้องของเย่จิ่งหานวิ่งกรูเข้ามา จัดแถวสองข้าง ล้อมพวกเขาไว้ทั้งหมดจากนั้นชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยก็เข็นเย่จิ่งหานเข้ามา สีหน้าของเขาดูมืดมนทั่วทั้งร่างกายของเย่จิ่งหานรายล้อมไปด้วยจิตสังหาร สีหน้าของเขาไม่สู้ดี และร่างกายก็เย็นเยือกจนฆ่าคนได้ภายใต้หน้ากากผี ดวงตาของเขาก็เขียวช้ำข้างหนึ่ง จมูกก็เบี้ยวไปด้านหนึ่ง เพียงแต่ตาที่เขียวช้ำจากการถูกต่อยนั้น ดันเป็นข้างตรงข้ามกับของหัวหน้าเผ่าหมอพอดีกู้ชูหน่วนก่ายหน้าผากนางแทบไม่อยากมองสายตาของเย่จิ่งหานที่ราวกับจะฆ่าคน และไม่อยากคิดว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นเซียวอวี่เชียนยืนอยู่ตรงหน้ากู้ชูหน่วนและตวาดว่า "เจ้าคิดทำอะไร?""ปัง......"
กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างพึงพอใจในที่ที่เย่จิ่งหานมองไม่เห็นนางรู้ว่าเย่จิ่งหานปากร้ายใจดีเย่จิ่งหานทั้งโกรธ ทั้งร้อนใจในใจของเขามีไฟอยู่เต็มท้อง เขาอยากบีบคอนางให้ตาย แต่เมื่อเห็นใบหน้าเล็กๆ ที่บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดของนาง ความโกรธทั้งหมดก็กลายเป็นความกังวล เขาทำอะไรนางไม่ได้จริงๆ ทำได้เพียงสั่งให้คนยกนางกลับณ จวนหานอ๋องมีหมอหลวงยืนอยู่ทั้งภายในและภายนอกกว่าสิบคน ผลัดกันจับชีพจรให้กู้ชูหน่วน แต่พวกเขาก็ดูไม่ออกว่าชีพจรของนางมีปัญหาอะไร ในเมื่อกู้ชูหน่วนร้องโอดครวญอย่างน่าอนาถ พวกหมอหลวงกลัวจะทำให้เย่จิ่งหานขุ่นเคือง จึงทำได้เพียงโกหกว่าทารกในครรภ์เคลื่อน พักผ่อนสักสองสามวันก็จะดีขึ้นในห้องหอ กู้ชูหน่วนนอนอยู่ แต่เย่จิ่งหานนั่งอยู่ นอกจากเสียงประทัดที่ดังเป็นครั้งคราวแล้ว ก็ไม่มีเสียงอื่นตัวอักษรงานมงคลสีแดงที่เขียนเป็นคู่ ดูเหมือนจะไม่เข้ากับบรรยากาศในยามนี้กู้ชูหน่วนรออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงของเย่จิ่งหาน จึงทำได้เพียงยอมอ่อนข้อลง "เลิกทำหน้าบึ้งได้หรือไม่ ลูกในท้องถูกท่านทำให้ตกใจหมดแล้ว"สีหน้าของเย่จิ่งหานเย็นชา มุมปากของเขาปราฏรอยยิ้มเย้ยหยันเด็กเพิ่งอายุได้เดือน
บางทีอาจเป็นเพราะเห็นแววตาหวาดกลัวของกู้ชูหน่วน และร่างกายที่สั่นเทาของนาง ทำให้ความเย็นชาของเย่จิ่งหานลดลงไปบ้าง และเจตนาฆ่าก็หายไปจนหมดสิ้นชื่อเสียงของเขาไม่ค่อยดีนัก ในแคว้นเย่ที่กว้างใหญ่ มีไม่กี่คนที่ไม่กลัวเขาแม้ว่ากู้ชูหน่วนจะหยิ่งผยองและอวดดีไปบ้าง อย่างไรเสียนางก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งเย่จิ่งหานเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ในเมื่อเจ้าเป็นผู้หญิงของข้า ตราบใดที่เจ้าไม่ทำอะไรที่เกินเลย ข้าก็จะไม่ทำอะไรเจ้า แต่หากข้ารู้ว่าเจ้ายังคงไปพัวพันกับชายอื่นอย่างคลุมเครืออีก อย่าโทษข้าที่โหดร้าย"โหดร้าย?เสือร้ายกินลูกตัวเอง?เหอ......เห็นนางกู้ชูหน่วนถูกข่มจนโตหรืออย่างไรกู้ชูหน่วนเงยหน้าเล็กๆ อันงดงามราวกับล่มเมืองขึ้น มองด้วยแววตาที่ดูเหมือนจะเศร้าสร้อย "รู้แล้ว แม้เราจะเป็นสามีภรรยากันในนาม ข้าก็จะทำตัวให้ดีที่สุด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับชายอื่นอีกแน่นอน"มือของเย่จิ่งหานกำแน่นจนเกิดเสียงดัง"มีแต่ในนามไม่ใช่ความจริง? อย่างแรก เรามีทั้งนามและมีทั้งความจริง อย่างที่สอง ในท้องของเจ้ามีลูกของข้า จากนี้ไป เจ้าจะเป็นพระชายาเอกของข้า เข้าใจหรือไม่?"กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะไม่ใช่ตกลงแล้วหรือว่
"เจ้าอยากทำอะไรอีก?" เย่จิ่งหานถาม"สำนักบัณฑิตหลวงกำลังจะเปิดงานประชุมสวินหลง ข้าก็อยากเข้าร่วมด้วย""ไม่ได้ การประชุมสวินหลงอันตรายมาก การที่จะหาของวิเศษได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน แค่ค่ายกลและอสูรร้ายข้างในก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะรับมือได้"กู้ชูหน่วนมองเขาอย่างน่าสงสารเย่จิ่งหานหันหน้าไปอีกทาง ไม่อยากมองสายตาของกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากใจอ่อนอีกครั้งก็จะตอบตกลงอีก"เจ้าอยากได้สมบัติอะไร ข้าจะมอบให้เจ้าเอง ไม่จำเป็นต้องไปผจญภัย""ท่านอ๋อง ท่านไม่เข้าใจ ข้าไปเข้าร่วมงานประชุมสวินหลงไม่ใช่เพื่อแย่งชิงสมบัติ แต่เพื่อเพิ่มศักรภาพกลางแจ้งให้กับลูกของเรา ท่านลองคิดดูสิว่าการอยู่ในบ้านทั้งวันมันน่าเบื่อแค่ไหน ผู้ใหญ่ยังต้องเบื่อตาย นับประสาอะไรกับเด็ก การออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างก็เป็นเรื่องดี""……""อีกอย่าง ท่านก็คงไม่อยากให้ลูกของเราเกิดมาเหมือนเยี่ยเฟิงที่ขี้อายใช่หรือไม่ อยากให้ลูกไม่ขี้อาย ก็ต้องออกไปเดินเล่นข้างนอกมากๆ ลูกในท้องก็ต้องเข้าสังคมเหมือนกัน ข้าพาลูกของเราออกไปเพิ่มพูนประสบการณ์""……"เย่จิ่งหานไม่รู้ว่าในสมองเล็กๆ ของกู้ชูหน่วนนั้นมีอะไรอยู่ ทำไมถึงพ
"เจ้าคิดว่าอย่างไรเล่า"เซียวอวี่เชียนถอนหายใจยาวเหยียดตอนนั้นเทพสงครามฉุนเฉียวเช่นนั้น เขาคิดว่ายัยขี้เหร่จะต้องไม่ได้มีจุดจบที่ดีแน่หลายวันที่ผ่านมานี้ เขาพยามคิดหาหนทางหนีออกไปจากจวนแม่ทัพเพื่อไปเยี่ยมยัยขี้เหร่ที่จวนหานอ๋อง แต่ช่วยไม่ได้ที่ถูกปิดตายอยู่ในห้อง ไม่ว่าเขาจะคิดหาทนทางเพียงไรก็หนีออกไปไม่ได้"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว"เขาพูดพลางเหลือบไปมองหน้าท้องของนางปราดหนึ่งนี่ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว เหตุใดท้องของนางยังแบนราบเช่นนี้ หรือสารอาหารจะไม่เพียงพอแต่สีหน้าของนางดูเหมือนจะดีกว่าแต่ก่อนเยอะ แม้แต่ราศีที่เปล่งออกมาก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนที่ใช้ชีวิตอย่างตรอมตรมเลยสักนิด"เหลือเวลาอีกเท่าไหร่กว่าจะถึงพิธีแต่งงานของเจ้า""งานประชุมสวินหลงเสร็จสิ้นก็ต้องจัดแล้ว แต่เจ้าวางใจ ข้าไม่มีทางแต่งกับนางเด็ดขาด"กู้ชูหน่วนแค่นหัวเราะ "แน่นอนว่าแต่งกับนางไม่ได้"ผู้ที่มารยาร้อยเล่มเกวียน ประพฤติไม่ชอบอย่างกู้ชูอวิ๋น จะแต่งมาทำอะไร"ยัยขี้เหร่ เจ้าไม่อยากให้ข้าแต่งกับนางจริงๆ ใช่หรือไม่"เอิ่ม......เซียวอวี่เชียนจะตื่นเต้นขนาดนี้ไปทำไมในฐานะเพื่อน นางย่อมไม่อยากให้เซียวอวี่เชียนแต
"ทูลพระชายา นายท่านไปพำนักที่เรือนชิวเฟิงชั่วคราว อีกสองสามวันก็จะกลับมาแล้ว"เรือนชิวเฟิง ?ไปที่นั่นทำไม"เขาได้รับบาดเจ็บหรือ" กู้ชูหน่วนถามอย่างระแวดระวัง"หามิได้ นายท่านไม่ได้ไปที่เรือนชิวเฟิงมาระยะหนึ่งแล้ว จึงอาจอยากอยู่ที่นั่นสักสองสามวัน ข้าน้อยก็ไม่ทราบแน่ชัด หน้าที่ของข้าน้อยคือปกป้องคุ้มครองพระชายา"กู้ชูหน่วนกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย รู้สึกอยู่ตลอดว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นงานประชุมสวินหลงที่สำนักบัณฑิตหลวงจะจัดผลัดออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งผลัดมาจนถึงวันนี้นางเงยหน้าขึ้นไปมองฟ้าเจ็ดวันก่อน นางรับปากเสี่ยวลู่ ลานประมูลเฟิงเซียงไว้แล้วว่าวันนี้จะไปตามเวลาที่นัด แต่หากไปลานประมูลเฟิงเซียง เช่นนั้นก็ไปร่วมงานประชุมสวินหลงไม่ได้ระหว่างที่นางกำลังลังเลว่าจะไปร่วมงานประมูลเฟิงเซียงหรืองานประชุมสวินหลงดี บ่าวรับใช้ก็เข้ามารายงานกะทันหัน"พระชายา ลานประมูลเฟิงเซียงส่งข่าวมาว่า ยกเลิกงานประมูลวันนี้ เลื่อนไปจัดในอีกสิบวันให้หลัง ลานประมูลขอเชิญท่านไปเข้าร่วมในอีกสิบวันข้างหน้า"บังเอิญเพียงนี้เลยรึหรือลานประมูลเฟิงเซียงจะรู้ว่าวันนี้นางอยากไปร่วมงานประชุมสวินหลง
ครั้งนี้ นางใช้โชคเข้าปะทะชีพจรยุทธ ทุกครั้งที่ใกล้จะทะลวงชีพจรยุทธได้สำเร็จ นางจะคว้ายาชำระไขกระดูกจำนวนมากมากินเพื่อเพิ่มพลังงานเช่นเดียวกับครั้งก่อนๆ ทุกครั้งที่นางเพิ่งจะเปิดรอยแยกได้ ก็จะปิดลงทันที กู้ชูหน่วนไม่ยอมแพ้ นางทะลวงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ในที่สุดนางก็เปิดชีพจรยุทธได้สำเร็จ"เฮือก......"เลือดสดอีกคำไหลหยดออกมา คนอื่นทะลวงชีพจรยุทธแล้วจะรู้สึกสบายไปทั้งตัว มีพลังงานเต็มเปี่ยม แต่นางกลับเหมือนหนีความตายมาได้ และเกือบเอาชีวิตนางไปกู้ชูหน่วนคราบเลือดติดมุมปาก แต่นางก็แย้มรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมานางพยายามใช้โชคหมุนเวียนพลังงานภายในร่างกาย เปลวไฟกลุ่มหนึ่งในตันเถียนของนางกำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และร่างกายของนางก็เบาขึ้นกว่าเดิมมากนางมีพลังภายในแล้ว...... แม้ว่าพลังภายในจะอ่อนแอมากก็ตาม......การเปิดชีพจรยุทธบ่งชี้ว่านางสามารถฝึกวิชายุทธได้แล้วกู้ชูหน่วนหายใจออกมายาวและเปิดตำรารวมสูตรปรุงยาอีกครั้งยายกระดับเป็นยาที่ช่วยเพิ่มพลังภายในอย่างรวดเร็วและทะลวงผ่านหนึ่งขั้นได้กู้ชูหน่วนรู้สึกสนใจขึ้นมา"ชิงเฟิง"ชิงเฟิงทำหน้าบูดบึ้ง "พระชาย
บ่าวรับใช้ในจวนอ๋องกำลังช่วยกันดับไฟ ผมของกู้ชูหน่วนถูกระเบิดจนยุ่งเหยิง ราวกับรังไก่ ชิงเฟิงจัดให้นางไปอยู่ในห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงามอีกห้องหนึ่งภายในห้อง กู้ชูหน่วนมองกล่องยาชำระไขกระดูกขนาดใหญ่ตรงหน้า ทั้งกังวลและโล่งใจกังวลคือยาชำระไขกระดูกยังห่างไกลจากผลลัพธ์ที่นางต้องการโล่งใจคือในที่สุดก็ทำสำเร็จแล้ว"ชิวเอ๋อร์ ไปเฝ้าหน้าประตู ห้ามให้ใครเข้ามา รวมถึงท่านอ๋องด้วย""คุณหนู ท่านจะทำอะไรอีกแล้วหรือเจ้าคะ?"ชิวเอ๋อร์กลัวจนตัวสั่น ชีวิตของคุณหนูเกือบจะจบสิ้นแล้ว นางคงไม่คิดที่จะปรุงยาอีกแล้วใช่หรือไม่"เจ้ารู้อะไร รีบออกไปเถิด""แต่ว่า......"ก่อนที่ชิวเอ๋อร์จะพูดจบ กู้ชูหน่วนก็ผลักนางออกไป แล้วนั่งขัดสมาธิบนเตียง หยิบยาชำระไขกระดูกในกล่องตรงหน้ามากินหนึ่งเม็ดความร้อนไหลขึ้นมาจากตันเถียน แต่ชีพจรยุทธไม่เปิดออกเสียทีกู้ชูหน่วนกินอีกหลายเม็ด ความร้อนในตันเถียนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เส้นลมปราณทั้งเจ็ดและแปดเส้นรู้สึกสบาย แต่ชีพจรยุทธยังคงไม่เปิดออกนางขมวดคิ้ว "ใช้สมุนไพรที่คล้ายกันมาทดแทน ผลลัพธ์ก็ยังแตกต่างกันมาก ยาชำระไขกระดูกนี้แย่เกินไป"กู้ชูหน่วนกัดฟัน กลืนยาชำระไขกระ
"พระชายา โปรดอย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจเลย ข้าน้อยก็แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น"เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนตั้งใจจะออกไป ชิงเฟิงก็ตกใจและเอ่ยว่า "พระชายา ท่านต้องการไปหายาใช่หรือไม่? หรือว่าท่านจะให้ใบสั่งยาแก่ข้าน้อย แล้วให้ข้าน้อยปหายามาให้""ก็ได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี""ขอรับ"ความเร็วของชิงเฟิงและคนอื่นๆ นั้นรวดเร็วมาก แต่หลังจากกลับมา คำตอบของพวกเขาก็เหมือนกับที่ชิวเอ๋อร์พูดไม่มีผิดเพี้ยน"พระชายา ข้าน้อยได้ไปหาหมอหลวงทุกคนในสำนักหมอหลวงแล้ว พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อสมุนไพรในใบสั่งยาของท่านเลย และไม่สามารถหายาเหล่านั้นมาให้ท่านได้"ด้วยความกลัวว่ากู้ชูหน่วนจะโกรธ ชิงเฟิงจึงหยุดชะงักแล้วเอ่ยต่อทันทีว่า "ข้าน้อยได้พาหมอหลวงจากสำนักหมอหลวง รวมถึงหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาด้วย พระชายาสามารถสอบถามพวกเขาได้โดยตรงเลย"เมื่อโบกมือ หมอจำนวนมากก็เดินเข้ามาทีละคน และทำความเคารพนาง "คารวะพระชายา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พันปี พันๆ ปี""พอเถอะ ข้าขอถามพวกท่าน พวกท่านไม่เคยได้ยินชื่อซานหลิง ซูเหอเซียง การบูร จริงๆ หรือ?""ทูลพระชายา พวกข้าประกอบอาชีพหมอมาหลายสิบปี บรรพบุรุษของพวกข้าก็เป็นหมอเช่นกัน พวกข้าไ
นิ้วเรียวสวยของกู้ชูหน่วนพลิกดูตำรารวมสูตรปรุงยาที่ขาดวิ่นอย่างต่อเนื่อง นางมองอย่างตั้งใจจนลืมตัว และไม่รู้ว่าตัวเองกลับมาที่จวนหานอ๋องตั้งแต่เมื่อใด"เย่จิ่งหานล่ะ?" กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นถามทันทีชิงเฟิงเม้มปาก การต่อสู้ดุเดือดขนาดนั้น พระชายาของเขาไม่รู้จริงๆ หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่?"นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินมาชิงแผนที่ไข่มุกสีเขียว นายท่านต่อสู้กับเขา และยามนี้ยังอยู่ในป่าไผ่ นายท่านให้ข้าพาพระชายากลับจวนก่อน""อย่างนั้นหรือ สามหมื่นล้านตำลึง ล่อตาล่อใจโจรจริง ๆ แผนที่ไข่มุกสีเขียวต้องได้รับการปกป้องอย่างดี อาจจะเป็นทรัพย์สมบัติทั้งหมดของจวนหานอ๋องก็ได้นะ" นายน้อยแห่งเผ่าเทียนเฝินบาดเจ็บไม่ใช่หรือ? เย่จิ่งหานน่าจะรับมือได้เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนพูดเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจัง คิ้วเข้มของชิงเฟิงก็ขมวดแน่นสิ่งที่นางควรเป็นห่วงไม่ใช่นายท่านหรอกหรือ?"ข้าจะกลับไปศึกษาตำรารวมสูตรปรุงยา บอกบ่าวรับใช้ว่าห้ามใครรบกวนหากไม่มีคำสั่งจากข้า""ขอรับ"ภายในห้อง กู้ชูหน่วนจรดพู่กันเขียนตำรับยาหลายแผ่นอย่างคล่องแคล่ว แล้วส่งให้ชิวเอ๋อร์ "ไปร้านขายยา ซื้อยาตามตำรับที่ข้าให้มา กลับมามากหน่อย"
กู้ชูหน่วนรับจดหมายเชิญ แล้วเกี่ยวคางของนางอย่างเย้าแหย่ "เมื่อมีสาวงามมาเชิญ เราจะกล้าไม่มาได้อย่างไร วางใจได้ งานประมูลเฟิงเซียงสิ้นเดือนนี้ พวกเราจะไปให้ตรงเวลาแน่นอน""เช่นนั้น เสี่ยวลู่จะรอแขกผู้มีเกียรติทั้งสองท่านอยู่ที่งานประมูลเฟิงเซียง"หลังออกจากงานประมูลเฟิงเซียง เย่จิ่งหานก็ยังคงทำหน้าเย็นชาตลอดเวลาระหว่างทางกลับ พวกเขานั่งรถม้าประจำตัวของเย่จิ่งหาน กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่ารถม้าทำจากวัสดุอะไร ภายนอกดูธรรมดา แต่ภายในกลับมีพื้นที่กว้างขวางมาก สามารถดื่มชา เล่นหมากรุก หรือนอนพักผ่อนได้ อีกทั้งยังป้องกันลูกธนูพิษและอาวุธทุกชนิดได้ เมื่อสัมผัสกับรถม้า จะมีเพียงเสียงโลหะกระทบกันเท่านั้นตลอดทาง เสียงการต่อสู้ดังขึ้นเป็นระยะๆ ไม่ขาดสาย พร้อมกับเสียงร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดพื้นดินสั่นสะเทือนเป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่าข้างนอกต่อสู้กันดุเดือดเพียงใดกู้ชูหน่วนรู้ว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่มาเพื่อแย่งชิงแผนที่ไข่มุกสีเขียวของเย่จิ่งหานแต่เมื่อมองไปที่เย่จิ่งหาน เขานั่งจิบชาอ่านหนังสืออย่างสง่างามริมหน้าต่างรถม้า ราวกับไม่รับรู้ถึงการต่อสู้ภายนอกกู้ชูหน่วนเปิดม่านรถม้าดู ข้างนอกมีแต่แ
อี้เฉินเฟยพิจารณาความหมายในคำพูดของกู้ชูหน่วนอย่างถี่ถ้วนครู่หนึ่งเขาก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง ยิ้มอย่างอ่อนโยน "สุภาพบุรุษไม่แย่งชิงสิ่งที่ผู้อื่นชื่นชอบ ในเมื่อแขกชั้นล่างชื่นชอบแผนที่ไข่มุกสีเขียวขนาดนี้ ข้าก็จะไม่แย่งแล้ว"กู้ชูหน่วนลูบปลายคาง คำพูดนี้ฟังดูคุ้นหูเหลือเกิน?แต่อี้เฉินเฟยก็มีสมองขึ้นมาบ้างแล้วสามพันล้าน......จุ จุ จุทรัพย์สมบัติของเย่จิ่งหานถูกสูบไปหมดแล้วใช่หรือไม่"สามพันล้านครั้งที่หนึ่ง สามพันล้านครั้งที่สอง สามพันล้านครั้งที่สาม ขอแสดงความยินดีกับแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบเก้า ได้รับแผนที่ไข่มุกสีเขียวไปครอง"ทุกคนต่างมองเย่จิ่งหานด้วยความอิจฉาในหมู่พวกเขาบางคนเคยคิดที่จะแย่งชิง แต่ฝ่ายตรงข้ามคือเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ พวกเขาจะแย่งชิงได้อย่างไร?เด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยเสียดายแล้วเสียดายอีกสามพันล้านสูงเกินไป......น่าเสียดายที่อาจารย์อี้เตรียมการมานาน สุดท้ายก็ยังพลาดการประมูลเจ๋ออ๋องขมขื่นในใจ เดินออกงานประมูลอย่างอ้างว้างหางตาของซ่างกวานฉู่ฉายแววเย็นเยือก มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ายวนคนของเผ่าเทียนเฝินเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ "ดำเนินการตามแผนเดิม ต้อง
"อะไรนะ เขาคือเทพสงคราม"ทุกคนต่างถอยหลังด้วยความหวาดกลัว พยายามรักษาระยะห่าง เพราะกลัวว่าเย่จิ่งหานจะลงมือกับพวกเขาหากเป็นคนอื่นที่เสนอราคานี้ พวกเขาคงจะประหลาดใจมาก แต่หากเป็นเทพสงครามที่เสนอราคา ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกใจเพราะเทพสงครามคือบุคคลสำคัญของแคว้นเย่ ทั้งศักยภาพ ความมั่งคั่ง และอิทธิพลของเขายิ่งใหญ่กว่าฮ่องเต้เสียอีกเด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยเอ่ยว่า "อาจารย์อี้ เราจะเพิ่มราคาอีกหรือไม่?"อี้เฉินเฟยเงียบไป ราวกับกำลังชั่งน้ำหนักมูลค่าอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงยกป้ายขึ้น "หนึ่งพันเจ็ดร้อยล้าน"อะไรนะ......คนในห้องหมายเลขเจ็ดเป็นใครกัน?เพิ่มราคาครั้งละสองร้อยล้านเงินในสายตาพวกเขาเป็นเพียงตัวเลขหรืออย่างไร?เจ๋ออ๋องโยนป้ายทิ้งอย่างหมดแรงจะประมูลไปทำไม ประมูลไปก็เปล่าประโยชน์เขาไม่สามารถประมูลได้แม้แต่เศษเสี้ยวของพวกเขาในชั่วพริบตา เจ๋ออ๋องรู้สึกว่าตนแตกต่างจากพวกเขาอย่างมาก"สองพันล้าน" เย่จิ่งหานเอ่ยชิงเฟิงเหงื่อออกที่ฝ่ามือแม้นายท่านจะมีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก แต่การสูญเสียสองพันล้านในคราวเดียวก็ต้องทำให้บาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอนซ่างกวานฉู่หน้าตายไร้อารมณ์ มองไม่ออ