Share

บทที่ 111

Author: เย่ชิงขวง
กู้ชูหน่วนลูบหม้อสามขา สัมผัสเย็นเฉียบจนมือนางแทบเแข็ง

"เหอะๆ ไม่รู้ว่าที่ผ่านมา เหตุใดเจ้าถึงไม่แข็งตาย"

"คุณหนูสามกู้" ชิงเฟิงเอ็ด

"ตะโกนเสียงดังทำไม ข้าไม่ได้หูหนวกเสียหน่อย โรยผงยานี่ให้รอบหม้อสามขา แล้วเทงูพิษกับแมงป่องพิษลงไปให้หมด"

"ว่าไง... ไม่ฆ่าเอามาทำยารึ? ยังเป็นๆอยู่เลยนะ?" เกิดกัดนายท่านขึ้นมาจะทำอย่างไร?

"ถ้าไม่เป็นข้าไม่ใช้หรอก เร็วเข้า ประเดี๋ยวแข็งขึ้นมาแล้ว ต่อให้พวกเจ้าจับงูพิษมาอีกกี่ตัวก็ไม่มีประโยชน์"

"นายท่าน..."

เรื่องผิดศีลธรรมเช่นนี้ พวกเขาสองคนกล้าทำได้อย่างไร เขาเหลียวไปมองเย่จิ่งหาน รอคำสั่ง

แววตาล้ำลึกของเย่จิ่งหานสว่างวาบ ก่อนจะเอ่ยประโยคหนึ่งออกมา "ทำตามที่นางบอก"

ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยปาดเหงื่ออีกครั้ง

ทว่าเหงื่อครั้งนี้นั่นเย็นเฉียบ

ขณะเทตะขาบ แมงมุม และอสรพิษอื่นลงไป ปากพวกเขาสั่นผับๆ หัวใจเต้นรัวสุดขีด

เมื่อเหล่าอสรพิษถูกเทลงไป พวกมันวิ่งพล่านตะเกียกตะกากอยู่ในหม้อสามขา แต่ไม่ยักกัดเย่จิ่งหาน แถมยังดูท่ากลัวเย่จิ่งหานด้วยซ้ำ

พวกมันอยากหนีออกจากหม้อสามขา แต่ก็เหมือนกลัวผงยาที่โรยอยู่รอบหม้อ จึงทำได้เพียงวิ่งไปมาอย่างทุรนทุราย

ชิงเฟิงและ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 112

    ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยคุกเข่าลงในทันใด ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายตัวเอง กู้ชูหน่วนรีบร้อนอธิบาย "ขอโทษที ข้าไม่รู้จริงๆว่าเจ้างูน้อยพวกนี้จะกัดตรง... ตรง... ตรงนั้นของเจ้า เจ้าพวกนี้ไม่มีลูกตารึไง ประเดี๋ยวข้าจะสับพวกมันเป็นชิ้นๆเอง"เย่จิ่งหานเดือดดาลเดือดจนลุกเป็นไฟที่น่าโมโหยิ่งกว่าก็คือ ทุกครั้งที่ถูกกู้ชูหน่วนแกล้ง เขามักจะไร้ทางสู้เสทอครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาอ่อนแอจนไม่แม้แต่แขนยังยกไม่ขึ้นงูน้อยงั้นรึ?นี่คืองูน้อยหรือ?นั่นมันคืองูยักษ์ชัดๆ เจ้าเคยเห็นงูยาวสองเมตรรึ?"ดูสิ มันนาเรื่องเอง กลับไปเจอยมบาลแล้ว"กู้ชูหน่วนชี้ไปที่งูตัวนั้น สีหน้าประหนึ่งผู้ผดุงคุณธรรม จงเกลียดจงชังเจ้างูตัวนั้นเหลือเกินตายไปแล้วตัวหนึ่ง แต่ยังเหลืออีกไม่รู้กี่ตัว แถมยังมีทั้งตะขาบ แมงป่อง ร่างทั้งร่างของเย่จิ่งหานถูกอสรพิษไต่ต่อม แต่ละตัวจ้องจะกัดกินร่างกายเขาเจ็บปวดไม่รู้จักจบสิ้น เจ็บจนเขาจะขาดใจกู้ชูหน่วนคว้าถ้วยยาที่เขาดื่มเมื่อครู่ยื่นให้เขาด้วยความหวังดี ก่อนจะชะโงกมองไปที่ก้นหม้อสามขา พลางเอ่ยเสียงจริงจัง "อ๋อ ปิดฝาก็สิ้นเรื่อง""…"เสียง "โครม..." ดังขึ้นนิ้วมือของเย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 113

    ชิงเฟิงกลืนน้ำลาย เขารู้ว่าพิษในกายนายท่านนั้นร้ายแรงแค่ไหน แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เพียงแค่อสรพิษร้ายกัดนายท่านเพียงครั้งเดียวจะทนพิษไม่ไหวจนตายกันทั้งหมู่ แถม...น้ำยาในหม้อสามขาที่นายท่านแช่อยู่เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำทมิฬ ดำเหมือนน้ำหมึกอย่างไรอย่างนั้นนี่มัน...นี่เรียกว่าถอนพิษออกร่างนายท่านจนหมดตัวแล้วใช่หรือไม่?เขาเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกัก "แล้วจะทำอย่างไรกับศพของอสรพิษพวกนั้น?""ทำอย่างไรรึ เจ้าจะเก็บไว้กินหม้อไฟหรือไร ก็ตักออกไปทิ้งสิ""ขอรับ..."ชิงเฟิงรับคำสั่ง ตักเหล่าอสรพิษที่ลอยละล่องไปทิ้ง"เช่นนั้นนายท่านขึ้นได้หรือยัง?""แช่ต่อไป อีกหนึ่งชั่วยามค่อยมาครอบแก้ว ดูดเลือดพิษออกมา""ครอบแก้ว? คืออะไรรึ?" คือวิธีการรักษาอย่างหนึ่งหรือ? เหตุใดพวกเขาถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน"ไปตัดไม้ไผ่มากสักท่อนสองท่อน แล้วผ่าให้เป็นแก้ว ด้านหนึ่งเป็นปาก ด้านหนึ่งเป็นก้อน" การแพทย์ในยุคนี้ช่างล้าหลัง ไม่รู้จักแม้แต่ครอบแก้ว"ขอรับ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้" ชิงเฟิงคำนับเย่จิ่งหาน ก่อนจะออกไปกู้ชูหน่วนมองฟ้า ใกล้ฟ้าสางแล้ว มิน่าเล่านางถึงได้ง่วงนักเมื่อหาท่าสบายตัวเจอ กู้ชูหน่วนกำลังจะผล็อยหลับไ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 114

    เย่จิ่งหานหัวเราะ สิบแปดเชียวรึดูท่าคนที่อยากได้กระดิ่งภินวิญญาณคงไม่น้อยทีเดียวเจี้ยงเสวี่ยเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่กลับยั้งไว้"ว่ามา""นายท่านขอรับ ข้าน้อยรู้มาว่า มีคนอีกกลุ่มหนึ่งคอยเฝ้าคุ้มครองคุณหนูสามกู้อยู่ห่างๆ พวกนั้นแต่ละคนฝีมือสุดยอดไม่แพ้พวกเรา ข้าน้อยตามสืบมานานแล้วแต่ก็ยังไม่พบเบาะแส ข้าน้อยออกไปถามถึงเรือนชาลฟ้า"เย่จิ่งหานหรี่ตาลง มองไปยังถ้วยหยกขาวราวกับมันน่าสนใจเหลือเกินเรือนชาลฟ้าโด่งดังไม่เป็นรองหอเลิศหล้า ไม่ว่าข่าวเล็กข่าวหรือข่าวใหญ๋ก็ไม่อาจรอดพ้นพวกเขาไปได้ จึงได้ฉายาว่าจะเรือนหรือหอ ผีสางต่างร้องขอชีวิตคนที่แม้แต้เรือนชาลฟ้ายังไม่รู้ว่าเป็นใคร ก็ย่อมต้องเป็นคนของหอเลิศหล้า หรือไม่ก็คนที่หอเลิศหล้าคุ้มกะลาหัวอยู่กู้ชูหน่วนคืออย่างแรกหรืออย่างหลักกันจวนอัครเสนาบดีไม่รักคุณหนูสามมิใช่รึ?เหอะ...หากเป็นเช่นนั้น แล้วเหตุใดถึงมีคนคอยแอบปกป้องนาง?คนไม่เอาไหนอย่างนั้นรึ?เขาเฝ้าสังเกตการณ์การประลองศิลปะอยู่ในมุมมืดเย่จิ่งหานนึกถึงยามประลองศิลปะ กู้ชูหน่วนหลอกให้คู่แข่งตายใจ ชนะเดิมพันได้เงินมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทารุณเจ๋ออ๋องแสนสาหัส จู่ๆ มุมปากขอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 115

    อยากกินข้าวกับนางมากใช่ไหม? นางจะทำให้เขาสะอินสะเอียดไปข้างกู้ชูหน่วนปลดผ้าคลุมหน้า เผยให้เห็นใบหน้าอันน่าสะพรึงกลัว"อาหารเช้ามากมายเต็มไปหมด เจ้ากินสักหน่อยสิ" กู้ชูหน่วนพูดพลางตะกละตะกลาม พลางคีบเนื้อให้เขาชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยหรี่ตาลง แทบไม่เชื่อสายตาเมื่อได้เห็นใบหน้าของนางเย่จิ่งหานเองก็ตัวกระตุก หัวใจพลันเจ็บแปลบขึ้นมานั่นคือใบหน้าเช่นไรก็นะ มีแต่ตุ่มหนองเป็นหลุมเป็นบ่อ กระจัดกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ หน้าทั้งหน้าแทบหาที่ว่างไม่ได้ น่าเกลียดน่ากลัวจนแทบอยากอาเจียนด้วยใบหน้านี้ เย่จิ่งหานไม่รู้ว่านางต้องรับแรงกดดันมากมายเพียงใด มิน่าเล่าทุกคนถึงพูดว่านางอัปลักษณ์ไม่มีใครเทียบได้มุมปากของเย่จิ่งหานกระตุก ลังเลที่จะพูดปลอบใจนางกู้ชูหน่วนเช็ดแก้มขรุขระ เพราะเมื่อนางเช็ด ตุ่มหนองบนใบหน้าก็จะแตก น้ำหนองไหลหยดลงในอาหารบนโต๊ะนางเงยหน้าขึ้นอย่างรู้สึกผิด เอ่ยเสียงพึมพำ"ขอโทษที น้ำหนองใบหน้าข้าไหลตลอด ข้าเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร น้ำหนองไม่มีพิษ พวกนี้เจ้ายังกินได้อีก ถึงเวลาเรียนแล้ว ข้าไปเรียนที่สำนักบัณฑิตก่อนนะ""…"กู้ชูหน่วนยกเท้าวิ่งออกไป วิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็วิ่งกล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 116

    เมื่อถูกพูดแทงใจดำ สีหน้าขององค์หญิงตังตังก็พลันไม่สู้ดีนักเงินห้าล้านตำลึงนั้นมหาศาล เดิมทีนางไม่อยากให้กู้ชูหน่วนสักแดงเดียวด้วยซ้ำแต่เสด็จพ่อดันส่งคนมาบอกว่า ให้นางใช้เงินกู้ชูหน่วนให้ครบทุกตำลึง ทำเอานางต้องขนของมีค่าในจวนองค์หญิงทั้งหมดมาขาย ทั้งยังต้องเอาเรือนของเสด็จแม่ไปจำนองอีก ถึงจะรวบรวมเงินได้สี่ล้านตำลึงอีกหนึ่งล้านตำลึงที่เหลือ นางยังหามาได้ไม่ครบนางเป็นถึงองค์หญิง คงไม่ให้นางแบกหน้าไปยืมเงินคนเขาหรอกกระมังองค์หญิงตังตังโมโห "พูดเป็นเล่น ข้าน่ะหรือจะขอเลื่อนจ่าย? เงินแค่หนึ่งล้านตำลึง เจ้ารีบร้อนอะไร ประเดี๋ยวข้าย่อมจ่ายเจ้าอยู่แล้ว""ประเดี๋ยวนี่นานเท่าใด? หนึ่งถ้วยชา? หนึ่งก้านธูป? หรือว่าหนึ่งวัน หรือว่าหนึ่งปี?""หนึ่งวัน อีกหนึ่งวัน ข้าจะเอาเงินล้านตำลึงมาให้เจ้า""องค์หญิงเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ ชาติกำเนิดสูงศักดิ์ ย่อมไม่มีทางหนีหนี้อยู่แล้ว แต่เวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวัน ก็ยังต้องคิดดอกเบี้ยนะเพคะ""ดอกเบี้ยอะไรกัน" องค์หญิงตังตังประเดี๋ยวหน้าเขียวประเดี๋ยวหน้าซีด อยากจะกัดกู้ชูหน่วนให้ตายแค่วันเดียว นางยังจะคิดดอกเบี้ยอีกหรือ?"เสด็จพี่ของเจ้าติดเงินข้าส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 117

    "ว่าแต่ เมื่อคืนที่หออู๋โยวเกิดเรื่องใหญ่โตปานนั้น เหตุใดวันนี้ถึงไม่มีข่าวเลย?"กู้ชูหน่วนโพล่งถามขึ้น "ยังต้องเดาอีกหรือ? แน่นอนว่าเพราะเทพสงครามปิดข่าวน่ะสิ สำหรับพวกเขาแล้วมิใช่เรื่องเชิดหน้าชูตาสักเท่าไรอยู่แล้ว""ลูกพี่ เจ้าดู นั่นเยี่ยเฟิงมิใช่รึ?" อวี๋ฮุยเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจกู้ชูหน่วนช้อนตาขึ้นมอง ชายหนุ่มตรงหน้าแม้จะสวมชุดหน้าผ้าเนื้อหยาบ แต่ใบหน้าของเขานั้นหล่อเหลา รูปร่างสูงโปร่ง กลิ่นอายบัณฑิตคงแค่เรียนแผ่ซ่านทั้งยังให้ความรู้สึกเย็นชาสันโดษเครื่องหน้าของเขาชัดเจน รูปงามยิ่งนัก ทว่าใบหน้านั้นขาวซีดเพราะอาการป่วยเซียวอวี่เชียนเอ่ยพึมพำกับตัว "แปลกนัก เมื่อวานเยี่ยเฟิงยังดีๆ อยู่เลย หรือว่าเป็นเพราะเจ้าโถมตัวล้มใส่เขา เขาถึงเสียขวัญจนล้มป่วยเอาน่ะ"กู้ชูหน่วนมุมปากกระตุกนางสะดุดขาโต๊ะแล้วล้มทับเขาโดยไม่ทันระวังไหมเล่าอีกอย่าง ถึงเยี่ยเฟิงจะพยายามทำตัวเหมือนคนธรรมดา แต่ลมหายใจของเขานั้นไม่สม่ำเสมอ เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัสหลังจากพวกนางกลับไปเมื่อวานนี้ ใครทำร้ายเยี่ยเฟิงกัน?กู้ชูหน่วนพลันนึกถึงตอนที่นางล้มทับเยี่ยเฟิงเมื่อคืนวาน ความหวาดกลัวและรังสีอาฆาตฉายวาบ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 118

    "คุณหนูสามกู้ ข้าให้คนตุ๋นน้ำแกงลูกบัว ล้างตับดับร้อนใน เจ้าลองชิมดู"องค์หญิงตังตังยกน้ำแกงลูกบัวถ้วยหนึ่งยื่นให้กู้ชูหน่วนด้วยท่าทีแสนเย่อหยิ่ง แต่ใบหน้ากลับฉีกยิ้มกว้างสดใสทุกคนตกตะลึงเมื่อครู่องค์หญิงตังตังกับคุณหนูสามกู้แทบจะชักกระบี่ออกมาแทงกันอยู่แล้ว ยามนี้เหตุใดถึงยกน้ำแกงมาให้นาง เปลี่ยนสีเร็วเกินไปแล้วกระมังเซียวอวี่เชียนนี่นั่งข้างกู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว ใช้พัดขวางน้ำแกงของนางเอาไว้ "องค์หญิง ในน้ำแกงลูกบัวนี้ ได้ใส่เครื่องปรุงแปลกปลอมอะไรไปหรอกใช่ไหม""เรื่องก่อนหน้านี้ ข้าผิดเอง ไม่ควรระรานเจ้า ดังนั้นข้าถึงได้ให้คนเคี่ยวน้ำแกงถ้วยนี้มาให้ ข้าอยากสานสัมพันธ์อีกครั้ง คุณหนูสามกู้ เจ้าเป็นคนดีมีเมตตา คงไม่ถือโทษโกรธข้าใช่ไหม"องค์หญิงตังตังหน้าตาน่ารัก ยู่ปากออดอ้อนเช่นนี้ยิ่งดูใสซื่อไร้พิษภัย หากไม่รู้นิสัยชอบรังแกคนของนาง ทุกคนคงถูกภาพลักษณ์ภายนอกของนางล่อลวงเอาได้กู้ชูหน่วนมองไปที่น้ำแกงในมือของนาง สายตาเย็นชาหรี่ลง หันไปมองกู้ชูอวิ๋นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนจะยกยิ้มร้ายมีเลศนัยนางรับน้ำแกงลูกบัวมาด้วยความยินดี ก่อนจะยิ้มเอ่ย "องค์หญิงช่างจิตใจดีมีเมตตา ข้าจะถื

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 119

    เยี่ยเฟิงพูดน้อยเหลือเกิน กู้ชูหน่วนชักรู้สึกเบื่อ นางยืดเอวบิดขี้เกียจ ความง่วงมาเยือน "ข้าของีบแป๊บหนึ่ง เริ่มเรียนแล้วปลุกข้าด้วย"นางว่าจบก็ขยับตาหาท่าสบาย ก่อนจะผล็อยหลับไปทุกคนต่างนิ่งอึ้งหลับอีกแล้ว?เหตุใดนางถึงได้หลับในคาบเรียนได้ทุกวี่ทุกวัน?หรือว่าคนเรียนเก่งจะเรียนตอนอยู่ในฝันด้วยเมื่อกู้ชูหน่วนสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา อาจารย์สวีกำลังสอนหนังสือไม่หยุดปากนางถูกปลุกขึ้นมาจากความง่วงไม่ได้ให้เซียวอวี่เชียนปลุกนางแล้วหรอกหรือ?ไม่รู้ว่าคราวนี้ตาแก่สวีจะหากเรื่องอะไรนางอีก"บัณฑิตเล่าเรียน ฟังด้วยหู รู้ด้วยใจ กายใจสอดประสาน กลายเป็นจริยวัตรงดงาม..."กู้ชูหน่วนขยี้ดวงตาปรือให้ตื่น ยังไม่ทันตั้งสติได้ว่าเกิดอะไรขึ้น กลับได้ยินอาจารย์สวีเอ่ยเสียงดีอกดีใจ"คุณหนูสามกู้ตื่นแล้ว เช่นนั้นให้คุณหนูสามกู้อธิบายต่อ"อธิบาย?อธิบายอะไร?กู้ชูหน่วนหันไปมองเซียวอวี่เชียนกะพริบตาปริบๆเซียวอวี่เชียนยกหนังสือขึ้นบังหน้า เบือนหน้าไปทางอื่นเสียอย่างนั้นอาจารย์สวีพูดพล่ามยาวเหยียด เขาจะรู้ได้ยังไงว่าอาจารย์สวีพูดเรื่องอะไรกู้ชูหน่วนหันไปทางเยี่ยเฟิง ส่งสายตาให้เขาไม่หยุด แต่

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 262

    เยี่ยเฟิงจัดใหม่อีกรอบ เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น มุมปากยกขึ้นเบาๆ "ข้าก็คิดว่างามเช่นกัน""ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าผู้นี้นั้นเลี้ยงง่ายนัก ผัดกับข้าวอะไรก็ได้มาอย่างสองอย่างก็พอแล้ว เจ้า..."กู้ชูหน่วนยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยเฟิงเหลือบมองดูฟ้า ก่อนจะปิดฝาตระกร้าสำรับ ริมปีากแดงระเรื่องขยับเบาๆ "พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะไม่ทันกาลแล้ว รบกวนเจ้าหลีกทางหน่อย""ห้ะ..."กู้ชูหน่วนตะลึงงันกับข้าวพวกนี้ไม่ได้ให้นางหรอกหรือหรือว่าเขิน จึงจะส่งไปให้ที่ห้องนางอย่างนั้นหรือท่ามกลางความสงสัย เยี่ยเฟิงกลับมาอีกรอบ ก่อนจะปลดผ้าคลุมบนใบหน้าของตนเอง แล้วเอ่ยถาม "แม่นางกู้ สีหน้าข้าดูแย่หรือไม่""ไม่...ไม่หรอก" ก็แค่ตาบวมไปหน่อยก็เท่านั้น"ขอบใจ"เยี่ยเฟิงกล่าวขอบคุณ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงเจไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและฝูกวงที่กำลังมองหน้ากันตาปริบๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือเยี่ยเฟิงไม่เห็นว่านายหญิงอยู่ที่นี่หรอกหรือกู้ชูหน่วนกระแอมสองสามที "เยี่ยเฟิงหน้าบาง พวกเราต้องเข้าใจ ไป กลับห้องไปกินกับข้าวเจที่เยี่ยเฟิงทำกันเถอะ""ขอรับ"ทั้งสองคนเดินตามกันออกไปจากโรงเจ แต่พวกเข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 261

    "ไม่ใช่ปัญหา จากที่นี่ไปเสี่ยวเหอชุน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ไม่พอ ไม่สู้อยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันสองวัน"เอ๊ะ...ไม่ใช่ว่าเยี่ยเฟิงรีบอยากจะกลับไปที่สุดหรอกหรือเหตุใดถึงจะไม่กลับอีกแล้วล่ะต้องมีลับลมคมในเป็นแน่อีกทั้งต้องเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย"เจ้า...คงจะไม่ได้คิดสั้นหรอกนะ..." กู้ชูหน่วนหยั่งเชิงเยี่ยเฟิงชะงัก จากนั้นเมื่อรู้ถึงความเป็นห่วงของกู้ชูหน่วน เขาก็เผยยิ้มอ่อนโยนที่เห็นได้ไม่บ่อยนักออกมา"วางใจเถอะ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น อีกอย่าง...ข้ายังมีคนในครอบครัวให้ต้องดูเล" นอกจากท่านยาย ยังมีท่านพ่อท่านแม่ที่ล้วนแต่ต้องการการดูแลจากเขาทั้งสิ้นแม้เขาจะไม่สามารถเปิดเผยตัวคนกับท่านพ่อท่านแม่ได้ แต่เขาจะคอยอธิษฐานให้พวกเขาลับหลังอยู่เงียบๆกู้ชูหน่วนโล่งใจ "รีบบอกแต่แรกสิ เจ้าจะซื้อกับข้าวอะไรบ้าง ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่""ไม่ต้อง ข้าไปคนเดียวก็พอ อย่างไรก็ชินแล้ว""ได้ มีสิ่งใดต้องการให้ช่วยก็บอกได้เลย""อืม"แผ่นหลังผอมบางของเยี่ยเฟิงหายไปจากในวัด กู้ชูหน่วนลูบปลายคางพลางพึมพำกับตัวเอง "เสี่ยวฝูกวง เจ้ารู้สึกบ้างไหมว่าเยี่ยเฟิงมีบางอย่างไม่ปกติ""มีด้วยหรือ ข้าน้อย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 260

    กู้ชูหน่วนถือหญ้าตี้อวี้ไว้ในมือ แต่กลับไม่มีอารมณ์ที่จะฟื้นฟูใบหน้าเลยแม้แต่น้อย จึงโยนหญ้าตี้อวี้กลับเข้าไปในแหวนปริภูมิ แล้วไปที่ศาลาในวัดเพื่อปล่อยใจให้ว่างเปล่าเพียงลำพังฝูกวงไม่รู้ว่าปรากฏตัวข้างกายนางเมื่อใดและปลอบโยนว่า "นายหญิง คุณชายเยี่ยเฟิงจิตใจดี สวรรค์จะไม่ทอดทิ้งเขาแน่นอน"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะข้ากำหนดชะตาของข้าเอง ไม่ใช่สวรรค์นางไม่เคยเชื่อสวรรค์หากสวรรค์มีตา ก็คงส่งคนที่รังแกเขาลงนรกไปนานแล้ว จะลอยหน้าลอยตาเช่นนี้ได้อย่างไร"ฝูกวง ช่วยข้าทำอะไรสักหน่อยได้หรือไม่""นายหญิงเชิญสั่ง ข้าจะทำทุกอย่าง""ช่วยข้าสืบประวัติของเยี่ยเฟิง ข้าอยากรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาคือใคร" บางทีการพบพ่อแม่ที่แท้จริงอาจช่วยบรรเทาใจที่ปวดร้าวลงได้บ้าง"ขอรับ ข้าน้อยจะสืบหาประวัติของคุณชายเยี่ยให้ได้ และจะรีบมารายงานข่าวดีให้นายหญิงทราบ""ได้"เวลาผ่านไปหลายถ้วยน้ำชา ประตูห้องของเยี่ยเฟิงก็เปิดออกกู้ชูหน่วนส่งสายตาให้ฝูกวง เป็นสัญญาณให้ตามนางไปโดยเร็ว เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้เยี่ยเฟิงบังเอิญเจอพวกเขา ทำให้ศักดิ์ศรีของเขาถูกทำลายลงไปอีก เพราะตาของเขาบวมแดงมาก พวกเขาพยายามจะทำเป็นไม่ส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 259

    เยี่ยเฟิงในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่ร้องเรียกให้เขาไปปรากฏตัวแม้เขาจะกลัว ก็อยากเปิดเผยตัวตนแต่คำพูดของซิ่งเอ๋อร์ทำให้ขาที่ยกขึ้นมาแล้วก้าวออกไปไม่ได้อีกต่อไปองค์ชาย......องค์ชายแห่งแคว้นฉู่?แล้วนางก็คือ......ฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่?ฮองเฮาฉู่เอ็ดว่า "ระวังจะมีคนได้ยิน""เหนียงเหนียงทรงระแวงมากเกินไป ที่นี่ไม่มีใครหรอก พวกเรามาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋นทุกปีก็ไม่เคยเห็นคนร้ายเลยสักคน ที่นี่ดูแลดีมากเพคะ""ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรพูดจาไร้สาระ""เพคะๆ ๆ บ่าวพูดผิดไป แต่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งพระสนมนับสามพันคนไว้ประดับบารมี แต่ก็ไม่เคยทรงโปรดปรานพระสนมองค์ใดนอกจากพระองค์เลย พระองค์กับฮ่องเต้ทรงมีองค์ชายเพียงองค์เดียว พระองค์มีสถานะสูงส่งมาก สวรรค์จะไม่คุ้มครองพระองค์แล้วจะคุ้มครองใครเล่าเพคะ""ข้าเพียงเขาปลอดภัยและมีสุขภาพดีก็พอแล้ว ส่วนเขาจะเป็นองค์ชายที่สูงส่งที่สุดในแคว้นฉู่หรือไม่ ไม่สำคัญแล้ว" ฮองเฮาฉู่ปักธูปลงกระถาง แล้วถอนหายใจด้วยความโศกเศร้าเยี่ยเฟิงพิงประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้มใบหน้าของเขาซีดเผือกทันทีองค์ชาย......สูงส่งมาก......แต่เขา......เขาก็แค่ของเล่นของนาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 258

    ขณะที่เยี่ยเฟิงเดินมาถึงประตูวิหารใหญ่ ซิ่งเอ๋อร์และฮองเฮาฉู่ได้พูดคุยกัน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ม่านตาหดเล็กลง ราวกับว่าเท้าของเขามีน้ำหนักเป็นพันชั่ง เขาจึงก้าวต่อไปไม่ได้"ฮูหยิน ท่านชายน้อยหายตัวไปนานหลายปีแล้ว แม้ว่ายามนี้เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านก็อาจจะจำเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?""ยามนั้นที่ข้าคลอดบุตรยากและสลบไป ข้าเห็นดอกเหมยที่บริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา ดอกเหมยที่กำลังเบ่งบาน ข้ายังคิดว่าทำไมเด็กชายถึงมีปานรูปดอกเหมยที่ไหล่ได้"ปาน......ดอกเหมย?เยี่ยเฟิงหายใจเร็วขึ้นเขาใช้ความพยายามอย่างมากจึงสามารถยืนอยู่หลังประตูได้ร่างกายเย็นเฉียบแนบชิดประตู ราวกับว่าหากไม่แนบชิดประตู เขาก็จะยืนไม่ไหวไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา......ก็มีปานเป็นรูปดอกเหมยเช่นกัน และยังเป็นดอกที่กำลังเบ่งบาน......แม่เฒ่าบอกว่า ตั้งแต่เขาเกิดก็......มี......"แค่ปานรูปดอกท้อ จะสามารถระบุตัวท่านชายน้อยได้อย่างไร? แล้วหากมีคนปลอมตัวล่ะเจ้าคะ?""เป็นไปไม่ได้ ดอกเหมยดอกนั้นแตกต่างจากดอกเหมยอื่นๆ กลีบดอกน้อยกว่าดอกเหมยทั่วไปหนึ่งกลีบ นอกจากข้าและแม่นมแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 257

    เมื่อได้ยินคำพูดของสาวใช้ เยี่ยเฟิงหันมองเล็กน้อยฮูหยินผู้นั้นกับลูกชายแท้ๆ ถูกพรากจากกันมานานถึงสิบแปดปี และเขาก็พลัดพรากจากพ่อแม่แท้ๆ มาสิบแปดปี นางอาจเป็นแม่ของเขาใช่หรือไม่?เมื่อมองดูฮูหยินอีกครั้ง ท่าทางสง่างาม พูดจาไพเราะ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ดูแลอย่างดี ไม่เหมือนคนยากจนเลยฮูหยินสูงศักดิ์เช่นนี้ จะเป็นแม่แท้ๆ ของเขาได้อย่างไรกันเยี่ยเฟิงหัวเราะเสียงเบาเขาคงคิดถึงพ่อแม่จนเพี้ยนไปแล้วฮองเฮาฉู่ตาแดงก่ำ ความเศร้าโศกแวบผ่านไป "ยามนั้น ลูกชายคนเล็กของข้าหลินเอ๋อร์ถูกขโมยไปที่นอกเมืองชิงหง ราชครูบอกว่า หากอยากจะตามลูกชายคนเล็กกลับมา ก็ต้องมาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋น ราชครูชำชองวิชาห้าธาตุแปดทิศ สามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้ เขาไม่โกหกข้าแน่นอน""แต่ท่านมาไหว้พระที่นี่ทุกปี และเมื่อก่อนก็มาสวดมนต์ที่วัดไป๋อวิ๋นทุกวัน ไม่ใช่ว่ายังหาเด็กชายคนนั้นไม่เจอหรอกหรือ"พอนึกถึงเรื่องในอดีต ซิ่งเอ๋อร์ก็ร้องไห้เมื่อเด็กน้อยถูกขโมยไป ฮองเฮาก็คิดถึงทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ในช่วงสิบปีแรก อยู่ที่วัดไป๋อวิ๋นสวดมนต์ทุกวัน เพื่อเพิ่มบุญให้กับท่านชายน้อย หวังว่าจะได้กลับมาเป็นครอบครัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 256

    กู้ชูหน่วนพยักหน้าเบาๆ “เช่นนั้นไปพักที่วัดไป๋อวิ๋นก่อนก็แล้วกัน”กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้จะปลอบเยี่ยเฟิงอย่างไรเรื่องแบบนี้ต้องให้เขาคิดเองนางก็ไม่ได้ตั้งใจจะเห็นฉากนั้น เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆเยี่ยเฟิงแม้จะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่นางก็รู้สึกได้เขามองนางเป็นเพื่อน และเพราะว่ามองนางเป็นเพื่อน จึงไม่อยากให้นางเห็นฉากที่น่าอับอายที่สุดของเขา“ร่างกายยังไหวหรือไม่? ห่กไม่ไหว เราพักที่นี่ก่อนก็ได้”“ไหว ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวเหล่าทหารจะไล่ตามมา”เยี่ยเฟิงเดินนำไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ปรากฏสีหน้าใดๆฝูกวงอธิบาย “วันนั้นในป่าไผ่ที่พลัดหลงกับนายหญิง พวกข้าเจอกับนายท่านของเผ่าหมอหลายคน พวกข้ายืนหยัดต่อสู้ไม่ไหว เยี่ยเฟิงขาช้าก็เลยถูกจับไป ข้าน้อยหานายหญิงไม่เจอ จึงแอบแฝงตัวเข้าไปในเผ่าหมอเพื่อไปช่วยเยี่ยเฟิง แต่ไม่นึกว่าจะเจอนายหญิงในเผ่าหมอ เรื่องต่อจากนั้น นายหญิงก็รู้แล้ว”“อืม ไปกันเถอะ”วัดไป๋อวิ๋น ที่นี่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของวัดชิงหง มีผู้มาทำกราบไหว้ไม่ขาดสาย ภายในวัดมีสามเณรน้อยเดินไปมาให้เห็นกู้ชูหน่วนประนมมือด้วยท่าทางนอบน้อม "ท่านเณรน้อย ได้ยินมาว่าวัดไป๋อวิ๋นศักดิ์สิทธิ์มาก พ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 255

    เมื่อพลังของค่ายกลลดลง กู้ชูหน่วนจึงพบทางลับเข้าไปได้แต่ทางลับนี้กลับไม่ใช่ทางลับที่เพิ่งแยกจากหัวหน้าเผ่าหมอมานางรู้สึกสงสัยค่ายกลนี้แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้?เมื่อครู่ยังป้องกันได้อย่างแน่นหนา ไม่มีที่ให้โจมตี แต่ยามนี้กลับกลายเป็นค่ายกลที่พุพังไปได้?มีใครมาช่วยนางทลายค่ายกลไปครึ่งหนึ่งหรือไม่?มีใครในเผ่าหมอช่วยนางทลายค่ายกลหรือไม่?หรือว่าจะเป็นอาโม่?"นายหญิง เราพบทางลับเข้าไปแล้ว ทำไมยังไม่รีบออกไป หรือว่าจะต้องตามหาอะไรอีกหรือ" ฝูกวงถามด้วยความมึนงงไม่ไกลนัก หัวหน้าเผ่าหมอยกมุมปากด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งยโส แล้วยกมือขาวขึ้นเบาๆ ดมกลิ่นดอกไม้ในมือด้วยท่าทางกระหาย และเปล่งเสียงออกมาจากมุมปาก"โง่นัก นางกำลังตามหาข้าอยู่แน่นอน หากหาข้าไม่เจอ นางจะหนีไปได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีเงาของใครเลย แต่ไกลออกไปมีแสงไฟลุกโชน ไม่รู้ว่ามีทหารจำนวนเท่าใดกำลังตามล่าพวกนางอยู่นางเหลือบมองทางลับ แล้วมองไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลออกไป กัดฟันแน่น "ไป"อาโม่เดินเล่นในเขาดูดวิญญาณราวกับเดินเล่นในสวนของตัวเอง คงจะรอนางไม่ไหวแล้วน่าจะจากไปแล้วแล้วนางก็รู้ทางลับหลาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 254

    กู้ชูหน่วนเดินวนกลับมาอีกรอบนางเอามือลูบขมับที่ปวดตุบ แล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาว่า "พวกเราติดอยู่ในค่ายกลแล้ว และเป้นค่ายกลที่ทรงพลังมากๆ ด้วย""นายหญิง ท่านมีวิธีทลายค่ายกลนี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะนางไม่เคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อนในชีวิต หากจะให้ทลายคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี"หากทางลับออกไปไม่ได้ ข้าขออาสาคุ้มกันให้พวกเจ้าออกทางประตูใหญ่""ข้าจำได้ว่ามีทางลับหลายทาง ไปทางนี้กันก่อนดีกว่า แล้วค่อยออกทางประตูใหญ่""ได้"หัวหน้าเผ่าหมอถูกตบหน้าเข้าอย่างจังเซวี่ยซาก้มศีรษะลงต่ำ แทบอยากหายตัวไปเลยเสียประเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะโกรธ แต่กลับได้ยินเสียงของหัวหน้าเผ่าหมอที่เรียบเฉยดังขึ้น"ถูกต้องแล้ว ไปทางนี้แหละ เมื่อครู่ข้ารอนางอยู่ที่ทางลับนั่นเอง"เซวี่ยซา "เอิ่ม......""เซวี่ยซา ไปดูกันดีกว่า""ขอรับ"เซวี่ยซาเดินตามหัวหน้าเผ่าหมอ และตามพวกกู้ชูหน่วนติดๆทว่าพวกกู้ชูหน่วนเดินวนไปวนมา ราวกับอยู่ในเขาวงกตขนาดใหญ่ นางทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง แต่ก็ยังวนกลับมาอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเปิดทางให้ คงปะทะกับยามเฝ้าเวรไปแล้วเขาเตือนด้วยความระมัดร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status