แชร์

บทที่ 8 ตามง้อขอคืนดี

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-21 15:05:52

ขณะนั้นเฟยฮวากินอาหารอิ่มแล้ว นางจึงอยากจะไปเข้าห้องน้ำและเดินย่อยอาหารเสียหน่อย เพราะนั่งมานานมากแล้ว จึงเอ่ยบอกบิดา เขาพยักหน้าอนุญาติ นางจึงลุกขึ้นแล้วค่อยๆเดินออกไปจากห้องโถงนั้น ทุกการเคลื่อนไหวของนางมิรอดพ้นสายตาคมดุจเหยี่ยวของท่านอ๋องรุ่ยหยางไปได้

เขารีบลุกขึ้นตามนางทันที แล้วเร่งก้าวออกไปจากห้องโถงเพื่อจะหาทางคุยกับนางให้รู้เรื่อง เมื่อเดินออกมาจากห้องโถงเขาเห็นนางเดินลัดเลาะไปตามทางเดินในสวนที่บริเวณด้านหน้าซึ่งเป็นสวนที่กว้างใหญ่งดงามเชื่อมต่อกันหลายๆสวน จนถึงสวนในตำหนักหลัง แต่มีอาณาเขตกั้นเป็นกำแพงเพื่อมิให้ผู้อื่นล่วงล้ำเข้าไปในตำหนักหลังง่ายๆ แต่แค่เพียงสวนด้านหน้าสถานที่จัดงานนี้ก็กว้างใหญ่มาจนเดินแทบจะไม่ทั่วด้วยซ้ำ 

ท่านอ๋องหนุ่มเร่งฝีเท้าตามนางไปจนทันที่บริเวณใกล้ศาลาเล็กๆที่อยู่กลางสวนนั่น “ ฮวาเอ๋อ เจ้ารอเปิ่นหวางก่อน เปิ่นหวางมีเรื่องจะพูดกันเจ้า ” เขาเดินไปแล้วพยายามคว้าแขนเรียวของนางไว้ เฟยฮวาหันมามองเห็นท่านอ๋องผู้นั้นที่นางพยายามหลีกเลี่ยงเขาเดินตามนางมาจนทัน “ ฟังเปิ่นหวางก่อนได้ไหม วันนั้นเจ้าออกมาจากโรงเตี้ยมมิได้ปลุกเปิ่นหวางจึงมิได้พูดกันให้รู้เรื่อง แล้วเจ้าก็เก็บตัวเงียบอยู่ในจวน แม้เปิ่นหวางจะลอบเข้าไปก็ได้ แต่ยังมิอยากจะทำเช่นนั้น อยากจะรอพบเจ้ามากกว่า ” เขาเดินมาทันนางแล้วรีบเอ่ยคำพูดที่เขาคิดไว้นานแล้วแต่ยังมิมีโอกาสพูดกับนาง 

“ ถวายบังคมท่านอ๋องเพคะ ท่านมีเรื่องอะไรจะพูดกับหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันจะรีบไปห้องน้ำ คงมิมีเวลาที่จะสนทนานานนัก ” เฟยฮวาแสดงความเคารพเขาแล้วเอ่ยขึ้นนางมิได้มองใบหน้าของเขาแต่มองเลยไปทางอื่น “ เปิ่นหวาง อยากจะขอโทษเจ้าเรื่องที่เกิดขึ้น เปิ่นหวางมิได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นเช่นนั้น เปิ่นหวางยินดีจะรับผิดชอบเจ้านะ หากเจ้าต้องการจะตบแต่งกับเปิ่นหวางก็ได้ จะส่งคนไปสู่ขอเจ้าให้เร็วที่สุด ”

ใบหน้างามของเฟยฮวานิ่งเฉยนางมิอยากยุ่งเกี่ยวกับบุรุษผู้นี้ แม้เขาจะพูดเช่นใดก็ตาม “ หม่อมฉันมิต้องการให้พระองค์ทรงรับผิดชอบใดๆ  ด้วยหม่อมฉันลืมเรื่องเหล่านั้นไปหมดแล้ว และไม่ต้องการแต่งงานกับพระองค์  ท่านได้โปรดลืมมันไป  เสียคิดเสียว่าเรามิเคยพบกันมากก่อน ”

จากนั้นนางก็เดินออกไป  ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดขึ้นทันที นางลืมมันไปแล้ว และมิรักใคร่เขา ไม่ได้อยากแต่งงานกับเขาเช่นนั้นหรือ แล้วที่นางเคยมองเขาด้วยดวงตาหลงไหลใฝ่ฝันเมื่อก่อนเล่านางลืมมันไปแล้วใช่หรือไม่  หรือเป็นเพราะตอนนี้นางงดงามแล้ว จะเลือกบุรุษเช่นใดก็ได้อย่างนั้นหรือ ถึงไม่ได้อยากจะตบแต่งกับเขา เลิกรักเขาแล้ว ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยเป็นเมียเขา อยู่กับเขาถึงสองวันเต็ม นางคิดจะชุบตัวเป็นสาวใหม่ ดังเช่นหญิงมิเคยออกเรือน จะไปหลอกบุรุษอื่นว่ายังบริสุทธิ์ผุดผ่องเช่นนั้นหรือ มันไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก เพราะเขาจะไม่ยอม 

“ เปิ่นหวางมิยอมให้เจ้าไปหลอกผู้ใดว่าเป็นหญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องหรอกนะ ในเมื่อเจ้าตกเป็นของเปิ่นหวางแล้ว เจ้าก็ต้องแต่งเข้าจวนของเปิ่นหวาง จะไม่ให้เจ้ามีทางเลือกใดนอกจากนี้หรอก ” เฟยฮวาหันมามองเขา สีหน้างงงัน เขาต้องการสิ่งใดกันแน่  นางก็ไม่ได้ไปยุ่งวุ่นวายกับเขา นางพยายามลืมเรื่องที่พวกเขาทำด้วยซ้ำไป และจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขายังมาวุ่นวายกับนางทำไมอีกกันนะ 

“ พูดตามตรงหม่อมฉันไม่อยากเห็นหน้าพระองค์ ไม่อยากแต่งงานกันพระองค์ หม่อมฉันยังเยาว์นัก ยังมีบุรุษอื่นอีกมากมายให้เลือก  ต่อไปโปรดอย่ามายุ่งกับหม่อมฉันอีก ต่างคนต่างอยู่ หม่อมฉันจะคบหาบุรุษใดก็มิเกี่ยวอะไรกับพระองค์” นางพยายามหาทางเดินหนีไปเพราะเขาขวางทางเดินของนาง ไว้  ขณะนั้นมีคุณหนูเจียฟางหรงเดินตรงมาพอดี “ มีอะไรกันหรือไม่เพคะ ” นางเอ่ยกับท่านอ๋องรุ่ยหยาง แล้วหันมาพิศมองสตรีตรงหน้า “ เจ้าคือเฟยฮวาใช่หรือไม่ ข้าจำเจ้าแทบไม่ได้ ไม่ได้เจอกันเสียนาน เจ้าเปลี่ยนไปมากเลย เมื่อก่อนแทบจะดูไม่ได้ ตอนนี้ค่อยดูดีขึ้นมาก ”

นางเอ่ยทักท่ายเฟยฮวาอย่างแปลกใจ เฟยฮวายิ้มให้นางน้อยๆ “ ท่านอ๋องมีเพื่อนสนทนาแล้ว เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน ” เอ่ยรวบรัดแล้วนางก็เดินจากไปทันที ทิ้งท่านอ๋องรุ่ยหยางมองตามนางไปอย่างตั้งตัวไม่ทันที่นางหาเรื่องเดินหนีเขาไป  ฝ่ายคุณหนูเจียฟางหรงพยายามชวนท่านอ๋องพูดคุย แต่เขามิอยู่ในอารมณ์อยากสนทนากับนาง จึงตอบคำถามนางอย่างเสียไม่ได้แล้วรีบเอ่ยลานางอ้างว่ามีธุระต้องไปทำ จากนั้นเขาก็รีบเดินตามหลงฮวาเอ๋อไป แต่นางเดินหายลับไปทางใดแล้วก็ไม่รู้ได้ เขาจึงหงุดหงิดกรุ่นที่ยังหาทางคืนดีกับนางไม่ได้ และยังไม่รู้จะทำประการใดดี 

ผ่านไปพักใหญ่ท่านอ๋องนั่งมองที่นั่งที่ข้างท่านเสนาบดีเฟยที่มันว่างอยู่ ป่านนี้นางไปที่ใดกันยังไม่กลับมา ขณะที่เขาหันมองไปมาเพื่อหานางนั้น ก็เห็นนางยืนสนทนากับแม่ทัพภาคตะวันออกที่มีนามว่าฉีเจียอีอยู่พอดี ยิ่งทั้งสองสนทนากันนานเท่าใดท่านอ๋องหนุ่มก็ยิ่งฮึดฮัดขัดใจเหลือแสน จะทำเช่นไรดี เขาก็ยังนึกไม่ออก นางไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของเขากับนาง และบอกว่าได้ลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ แถมตอนนี้นางยังยืนสนทนากับบุรุษอื่นอย่างออกรส  เหล่าองค์ชายทั้งหลายสะกิดกันมองท่านอ๋องรุ่ยหยางกันเป็นตาเดียว เจ้าหมอนั่นเหมือนหึงหวงบุตรสาวเสนาบดีเฟยอย่างนั้นแหละ มองนางไม่ละสายตาเลย องค์ชายห้าจึงสะกิดเขาและเอ่ยถามขึ้นอย่างอดรนทนไม่ได้ “ 

เจ้าเจ็ด เจ้าจ้องบุตรสาวเสนาบดีเฟยอย่างกับเจ้าหึงหวงนางเช่นนั้นแหละ นางตกเป็นของเจ้าแค่ครั้งเดียว เจ้าดูหลงไหลนางยิ่งนัก แต่นางมิได้แม้แต่จะหันมาสนใจเจ้าเลยด้วยซ้ำ นางมิเรียกร้องให้เจ้ารับผิดชอบก็ดีแล้ว เจ้าจะร้อนรนทำไมกัน ” ท่านอ๋องรุ่ยหยาเอ่ยขึ้น “ นางบอกว่าให้ข้าลืมมันไปเสีย เพราะนางลืมเรื่องนั้นไปหมดแล้ว แต่ข้ามิยอมหรอกนะ ข้าคิดว่าหลงรักนางเข้าเสียแล้ว จะต้องหาทางให้นางแต่งเข้าตำหนักของข้าให้ได้ ”

เหล่าองค์ชายหันมามองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็พอจะเข้าใจได้ขึ้นมาบ้าง เพราะหญิงขี้เหร่เมื่อก่อน ตอนนี้กลายเป็นนางหงส์ไปเสียแล้ว มีบุรุษเข้าหาเรื่องที่ที่จะเข้ามาสนทนากับนางไม่ขาดสาย  โดยเฉพาะคู่แข่งที่น่ากลัวของอ๋องรุ่ยหยางตอนนี้ก็คือ แม่ทัพภาคตะวันออกที่มีนามว่า ฉีเจียอี 

ฝ่ายแม่ทัพฉีเจียอีกับเฟยฮวาก็คุยกันออกรส แม่ทัพพูดคุยกับนางเรื่องแคว้นที่เขาไปเดินทางผ่านเวลาไปออกรบ และชี้ชวนดูเครื่องแต่งกายของชนเผ่าที่มาทำการแสดงในวันนี้ และคุุยเรื่องสัพเพเหระกันหลายเรื่อง เฟยฮวาคิดว่าเขาก็สนทนาได้น่าสนใจและพูดคุยอย่างเป็นกันเอง จึงยืนคุยกับเขาอย่างถูกคอ เขาเอ่ยขอนางเป็นสหายและขอไปเยี่ยมนางที่จวนบ้าง นางตอบตกลงเขาไป เพราะนางคิดว่าเขาก็เป็นบุรุษที่ดูน่าสนใจยิ่งนัก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 9 ใช้แผนการณ์บีบบังคับ

    เหล่าองค์ชายทั้งหลายจึงได้คิดแผนการณ์ช่วยเหลือท่านอ๋องรุ่ยหยางขึ้น เพราะองค์ชายสามรู้มาว่า ขุนนางในบังคับบัญชาของท่านเสนาบดีเฟยมีขุนนางกังฉินอยู่จำนวนหนึ่ง ได้รับงานสร้างเขื่อนขนาดกลางขึ้นที่หัวเมืองและได้ทุจริตงบประมาณที่ส่วนกลางส่งไปเพื่อให้ทำการก่อสร้างเขื่อนนั้น แต่พวกเขาเฉือนงบที่ใช้ในการก่อสร้างเข้าพกเข้าห่อของตนเอง ทำให้เขื่อนนั้นไม่ได้มาตราฐานตามที่ส่วนกลางต้องการ แต่ท่านเสนาบดีไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาจึงจะใช้เรื่องนี้บีบบังคับท่านเสนาบดีและคุณหนูเฟยฮวาให้ยอมตบแต่งกับท่านอ๋องรุ่ยหยาง แล้วจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหานี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ท่านเสนาบดีจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้ เมื่อวางแผนการณ์ทั้งหลายจนรัดกุมคิดว่าคงจะได้ไม่มีช่องโหว่ให้ท่านเสนาบดีแก้ไขได้ทัน ท่านอ๋องรุ่ยหยางและองค์ชายสามจึงได้เดินทางไปที่จวนเสนาบดีเฟยในอีกสามวันต่อมา เมื่อมาถึงได้พากันเข้าไปสนทนากับท่านเสนาบดีเฟยและพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ท่านเสนาบดีเฟยวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง เขาเสนอจะใช้สมบัติของตนเองทดแทนเงินส่วนกลางที่หายไป แล้วจะไปจัดการไต่สวนเรื่องนี้ในภายหลัง แต่องค์ชายสามค้านว่าเรื่องมันได้เกิดขึ้นแล้วและมี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 10 หญิงอุ่นเตียงในตำหนัก

    ยามซื่อ (เก้าโมงเช้า ) วันต่อมา รถม้าของตำหนักอ๋องรุ่ยหยางก็มารอรับคุณหนูเฟยฮวาที่หน้าประตูจวนเสนาบดี เผยอันและสาวใช้สองสามคนช่วยกันขนข้าวของๆเฟยฮวาที่เก็บเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานมาใส่รถม้าที่จอดรออยู่นั้น เฟยฮวานางกอดบิดาร่ำไห้เล็กน้อย แต่ก็อดกลั้นไว้เพราะไม่อยากให้บิดาเป็นห่วงนาง นางบอกว่านางจะอดทนไว้ กำหนดเพียงหนึ่งปีมินานเลย เราก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้หากนางสามารถมาเยี่ยมท่านพ่อได้นางจะมาให้บ่อยที่สุดเท่าที่นางจะมาได้ จากนั้นนางก็กอดลาบิดาอีกครั้งแล้วก็ขึ้นรถม้าจากไป พร้อมกับเผยอัน บิดาของนางและพ่อบ้านยืนมองรถม้านั้นจนลับตา เฝ้าภาวนาให้นางอยู่ในตำหนักแห่งนั้นได้อย่างราบรื่น เมื่อรถม้ามาจอดที่หน้าตำหนักท่านอ๋องรุ่ยหยาง เฟยฮวากับเผยอันก็ก้าวลงจากรถม้าช้าๆ พ่อบ้านซื่อถังยืนรอรับอยู่ที่หน้าตำหนัก เขาทักทายเฟยฮวาอย่างอัธยาศัยดี เฟยฮวายิ้มตอบเขา แล้วพ่อบ้านซื่อถังก็เรียกสาวใช้สามคนมาช่วยกันขนข้าวของๆคุณหนูเฟยฮวาเข้าไปในตำหนักแล้วตรงไปที่เรือนเล็กในสุดด้านซ้ายของตำหนักที่ต้องเดินผ่านตำหนักใหญ่ของท่านอ๋องไปทางด้านซ้ายมือเดินลัดเลาะผ่านสวนสวยงามไปเรื่อยๆจนพบเรือนเล็ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 11 ข้าเกลียดท่าน nc

    ค่ำคืนนั้นเมื่อรับประทานอาหารเย็นกันแล้ว เฟยฮวาก็เข้าไปอาบน้ำชำระกาย และมานั่งบำรุงผิวพรรณตนเองทั้งผิวหน้าและผิวกาย เครื่องประทินผิวที่นางได้มาใหม่นั้นมีกลิ่นหอมยิ่งนัก เมื่อทาแล้วสบายผิวดีกว่าที่นางเคยใช้มา และก็ยกหวีขึ้นมานั่งสางผมที่นุ่มสลวยยาวถึงกลางหลังจากนั้นก็บอกให้เผยอันไปอาบน้ำและเข้านอนได้เลยมิต้องคอยอยู่รับใช้นางแล้ว นางจะนั่งเล่นอยู่เพียงครู่ก็จะเข้านอนแล้ว จากนั้นนางก็เดินไปที่เตียงนอนใหญ่นั้น มันเป็นเตียงที่ใหญ่กว่าที่นางใช้ที่จวนเสนาบดีด้วยซ้ำ และนางชอบที่มันมีเสาสูงทั้งสี่เสาและมีผ้าม่านสีขาวโปร่งผูกไว้ทั้งสี่ด้าน กลางคืนหากปล่อยม่านลงมาแล้วมีลมพัดเข้ามามันพริ้วไหวไปมาทำให้บรรยากาศในห้องนอนนั้นดีมาก เฟยฮวานั่งลงที่บนฟูกใหญ่นั้น มันใหญ่และหนามานุ่มสบายยิ่งนักเวลานอน เฟยฮวาเอนกายลงนอนบนฟูกหนานั้น มีลมพัดเข้ามาเป็นระลอกเย็นสบายยิ่งนัก เพียงไม่นานนางก็เคลิ้มหลับไป กลางดึกคืนนั้น ร่างหนาของท่านอ๋องรุ่ยหยางก็เข้ามาทางหน้าต่างบานยาวที่เปิดกว้างไว้รับลมนั้น เขาเดินอ้อมระเบียงมา เพราะทั้งสองสาวได้ปิดประตูหน้าเรือนไว้ทำให้เขาเข้ามาในเรือนไม่ได้ เขาเพิ่งกลับมาจากหัวเมืองเพราะไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 12 กับข้าวมื้อเช้าในตอนบ่าย

    หลังเที่ยงวันนั้นทั้งสองลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมๆกัน เฟยฮวากระพริบตาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืน เมื่อนึกขึ้นได้หน้าของนางแดงก่ำขึ้นทันที หันไปมองด้้านหลังก็สบเข้ากับตาคมของอ๋องหนุ่ม ทั้งสองมองกันและกันอย่างเก้อเขินกันเล็กน้อย เฟยฮวามิเอ่ยอะไรได้แต่พยายามลุกขึ้นนั่ง “ โอ้ย !! ” นางร้องขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อขยับกายจะลงจากเตียงนั้น ตรงกลางกายก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อ๋องหนุ่มผุดลุกขึ้น “ เจ้าเจ็บมากหรือไม่ ไม่ต้องลุก เปิ่นหวางจะอุ้มเจ้าไปแช่น้ำอุ่นก่อนนะ สักพักมันน่าจะบรรเทาความเจ็บลงได้ ”จากนั้นเขาก็ผุดลุกขึ้น กายแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างผู้ฝึกร่างกายเป็นประจำนั้น ยืนตรงหน้าของเฟยฮวา นางเงยหน้าขึ้นมองร่างแกร่งนั้นแล้ว ใบหน้ายิ่งแดงยิ่งขึ้น อ๋องหนุ่มก้มลงช้อนตัวนางขึ้นแนบอก แล้วพาเดินเข้าไปหลังฉากกั้น เขาวางนางลงในถังไม้ขนาดใหญ่นั้น ในนั้นมีไอลอยกรุ่นขึ้นมา แสดงว่าเผยอันเพิ่งเตรียมน้ำอุ่นไว้ได้ไม่นานนี้เอง นางช่างรู้ใจจริงๆ เฟยฮวานั่งลงในถังไม้นั้นได้สักพัก นางรู้สึกสบายตัวขึ้นมา ร่างกายที่ปวดระบมนั้นเรื่องดีขึ้น ตัวของนางที่ปวดเมื่อยไปหมดก็บรรเทาลง จากนั้นอ๋องหนุ่มก็ก้าวลงมาแช่ตัวในถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 1 ลงขันพิชิตหญิงขี้เหร่

    วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งขุนนางใหม่ เหล่าขุนนางทั้งหลายรวมถึงขุนนางใหม่ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งรวมถึงครอบครัวของเขาเหล่านั้น ต่างก็มาร่วมงานเลี้ยงในวังหลวงกันคับคั่ง งานนี้มีองค์รัชทายาทมาเป็นประธานในพิธีแทนองค์ฮ่องเต้ และเมื่อเสร็จพิธีที่เป็นทางการและฟังโอวาทจากองค์รัชทายาทแล้ว แขกเหรื่อก็ต่างพากันชมการแสดงต่างๆและรับประทานอาหารและดื่มสุรากันตามอัธยาศัย เหล่าองค์ชายและท่านอ๋องก็นั่งอยู่ใกล้ๆกันในตำแหน่งที่นั่งของตนเอง ขณะนั้นองค์ชายห้ามองตรงไปเห็นคุณหนูเฟยฮวานั่งอยู่ข้างๆบิดาของนางที่ฝั่งตรงข้าม ดวงตาของนางคล้ายกับจ้องมองมาที่อ๋องรุ่ยหยางเขม็งเช่นเคย เขาจึงเกิดความคิดสนุกๆขึ้นทันทีหลังจากที่นั่งมองไปมาด้วยความเบื่อหน่าย เขาหันไปกระซิบเรื่องราวที่เขาเพิ่งคิดขึ้นมาได้นั้นให้แก่องค์ชายสามที่นั่งข้างๆกันจากนั้นทั้งสองก็หันไปสะกิดองค์ชายหกและท่านอ๋องรุ่ยหยางรวมถึงองค์ชายสองที่อยู่ถัดไป หลังจากถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดให้เหล่าพี่น้องทั้งหลายฟังแล้ว ท่านอ๋องรุ่ยหยางส่ายหัวทันควัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเขาไม่ยอมหรอก จะให้เขาไปพิชิตคุณหนูอวบอ้วนนั่น แถมแต่งตัวยังกับฮูหยินของบิดาตนเองทำให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 2 นัดพบบุรุษที่พึงใจ nc

    เมื่อแต่งกายเรียบร้อยแล้ว นางก็แต่งเติมใบหน้าเล็กน้อย อย่างพิถีพิถันแต่มันก็ดูเหมือนใช้สีมาป้ายใบหน้าแบบคนที่มิเคยแต่งเติมใบหน้าตนเองมาก่อน แม้ผิวพรรณเดิมของนางจะดีมาก ผุดผาดไม่แพ้ผู้ใดแต่มันก็ถูกกลบด้วยหุ่นที่อวบอวนใหญ่กว่าคุณหนูอื่นๆ และการแต่งกายที่แก่เกินวัยไปมาก แต่งเติมใบหน้าก็มิเป็นจึงทำให้ดูงดงามน้อยไปกว่าที่ควรจะเป็นมาก แต่นางก็เคยชินกับตัวเองที่เป็นเช่นนี้มานานแล้วจึงมิได้มองเห็นข้อบกพร่องนี้ จากนั้นเมื่อแต่งกายตนเองจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรอเวลาเพียงครู่ จิบชาและกินขนมรองท้องไปเพียงเล็กน้อยเพราะนางตื่นเต้นมากที่จะได้ออกไปพบกับบุรุษที่นางพึงใจหนักหนา เมื่อใกล้เวลานัดหมายเฟยฮวาก็เดินออกไปที่ขึ้นรถม้าที่หน้าจวนเสนาบดี กับเผยอันสาวใช้ของนาง จากนั้นนางขึ้นไปบนรถม้าอย่างอารมณ์เบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุข เมื่อรถม้าเดินทางไปถึงหน้าโรงเตี้ยมชั้นดีที่เป็นโรงเตี้ยมสำหรับผู้มีอันจะกินเท่านั้นเพราะมันเป็นโรงเตี้ยมอันดับหนึ่งในเมืองหลวงชาวบ้านทั่วไปมิอาจเข้าไปใช้บริการได้เพราะว่าราคาห้องพักแพงหูฉี่ และอาหารเลิศรสที่มีให้บริการก็แพงมากกว่าโรงเตี้ยมเท่าไปหลายเท่า แม้มันจะอร่อยล้ำเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 3 ตกเป็นของอ๋องหนุ่ม nc

    ปากหนาก็ดูดผลอิงเถาอย่างเมามัน ส่วนมือหนาก็คลำหาจนพบเนินอวบใหญ่เต็มมือของนาง เขาขยำมันอย่างเมามัน แล้วก็ค่อยสอดนิ้วแกร่งเข้าไปแล้วเขี่ยเมล็ดดอกไม้งามนั้นไปมา เฟยฮวาครางกระเส่าทันทีอย่างเสียวซ่าน สะโพกอวบของนางโยกน้อยๆเข้าหามือหนาของเขาทันทีจากนั้นอ๋องหนุ่มสอดนิ้วแกร่งเข้าไปค่อยๆจนมันมิดด้าม เฟยฮวา กรีดร้องด้วยความเจ็บขึ้นทันที ใบหน้าคมคายจึงประกบจูบนางอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง จากนั้นเมื่อนางเคลิบเคลิ้มเขาก็ค่อยขยับนิ้วแกร่งเข้าสุดออกสุดช้าๆ เพื่อให้นางปรับตัวก่อน เขารู้ว่านางมิเคยชายมาก่อน เขาไม่อยากให้นางเจ็บตัวมากเกินไป เขามิรู้มาก่อนว่าเขาอยากจะถนอมนางมากเพียงนี้ จากนั้นนิ้วแกร่งก็ค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นจนกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง จนสะโพกอวบกระตุกเกร็งเสร็จสมไปทันที มือหนาเปื้อนน้ำรักของนางจนเต็มมือ นางหอบหายใจเร็วๆ อย่างเหน็ดเหนื่อย จากนั้นอ๋องหนุ่มก็ก้มลงไล้เลียร่องอวบนั้นไปมาอย่างเมามัน เขาดูดดึงเมล็ดดอกไม้เล็กๆนั้น ดูดจนมันบวมเป่ง เฟยฮวาร่อนสะโพกเข้าหาใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป จากนั้นอ๋องหนุ่มผุดลุกขึ้น ถอดเครื่องแต่งกายของตนที่เหลือจนหมดแล้ว ปลดปล่อยลำกายแกร่งออ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 4 ตกเป็นของเขาอีกครั้งจนได้ nc

    เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้นอีกครั้ง เขาก็ตกใจจนหน้าซีด เฟยฮวายืนตะลึงอยู่หน้าประตู น้ำตาของนางไหลรินลงมาช้าๆ นางห่อกายด้วยผ้าผวยผืนที่เขาเอาคลุมกายนางนั่นเอง เพราะนางไม่มีเวลาสวมอาภรณ์เพราะเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยหน้าห้องเป็นเสียงของชายหลายๆคนนางจึงเอาหูไปแนบประตูห้องนั้น ฟังตั้งแต่ต้นจนจบจึงเข้าใจเรื่องราวโดยละเอียดว่าสาเหตุที่ท่านอ๋องรุ่ยหยางมาพูดคุยตีสนิทกับนาง หลอกนางว่าจะคบหากับนาง และนัดนางมาเพื่อกินอาหารกันนั้น มันเป็นแผนการณ์ที่จะเผด็จศึกนางเพื่อของเดิมพันเป็นม้าชั้นดี จำนวนห้าตัว ที่เหล่าองค์ชายจะให้ท่านอ๋องรุ่ยหยางเมื่อทำภารกิจสำเร็จ นางอึ้งงันไปพักใหญ่เมื่อรู้ความจริงทั้งหมด น้ำตาของนางไหลพรากลงมาทันที นางสะอื้นไห้เสียงดัง เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางกลับเข้าห้องมาแล้ว นางก็ตรงเข้าทุบตีเขาไม่ยั้งด้วยความเจ็บใจเหลือแสนที่เขาเห็นความรู้สึกนางเป็นเพียงการพนันขันต่ออย่างสนุกสนานกับเหล่าพี่น้องของเขาเท่านั้น ท่านอ๋องเจ็บกายไปหมดเพราะนางทุบตีเต็มแรงของนาง เขาตกใจจึงสะบัดนางจนล้มลงกับพื้นห้อง “ เจ้าบ้า กล้าที่จะหลอกลวงข้าขนาดนี้ เห็นความรักของข้าเป็นเรื่องตลกในหมู่พี่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17

บทล่าสุด

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 12 กับข้าวมื้อเช้าในตอนบ่าย

    หลังเที่ยงวันนั้นทั้งสองลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมๆกัน เฟยฮวากระพริบตาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืน เมื่อนึกขึ้นได้หน้าของนางแดงก่ำขึ้นทันที หันไปมองด้้านหลังก็สบเข้ากับตาคมของอ๋องหนุ่ม ทั้งสองมองกันและกันอย่างเก้อเขินกันเล็กน้อย เฟยฮวามิเอ่ยอะไรได้แต่พยายามลุกขึ้นนั่ง “ โอ้ย !! ” นางร้องขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อขยับกายจะลงจากเตียงนั้น ตรงกลางกายก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อ๋องหนุ่มผุดลุกขึ้น “ เจ้าเจ็บมากหรือไม่ ไม่ต้องลุก เปิ่นหวางจะอุ้มเจ้าไปแช่น้ำอุ่นก่อนนะ สักพักมันน่าจะบรรเทาความเจ็บลงได้ ”จากนั้นเขาก็ผุดลุกขึ้น กายแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างผู้ฝึกร่างกายเป็นประจำนั้น ยืนตรงหน้าของเฟยฮวา นางเงยหน้าขึ้นมองร่างแกร่งนั้นแล้ว ใบหน้ายิ่งแดงยิ่งขึ้น อ๋องหนุ่มก้มลงช้อนตัวนางขึ้นแนบอก แล้วพาเดินเข้าไปหลังฉากกั้น เขาวางนางลงในถังไม้ขนาดใหญ่นั้น ในนั้นมีไอลอยกรุ่นขึ้นมา แสดงว่าเผยอันเพิ่งเตรียมน้ำอุ่นไว้ได้ไม่นานนี้เอง นางช่างรู้ใจจริงๆ เฟยฮวานั่งลงในถังไม้นั้นได้สักพัก นางรู้สึกสบายตัวขึ้นมา ร่างกายที่ปวดระบมนั้นเรื่องดีขึ้น ตัวของนางที่ปวดเมื่อยไปหมดก็บรรเทาลง จากนั้นอ๋องหนุ่มก็ก้าวลงมาแช่ตัวในถ

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 11 ข้าเกลียดท่าน nc

    ค่ำคืนนั้นเมื่อรับประทานอาหารเย็นกันแล้ว เฟยฮวาก็เข้าไปอาบน้ำชำระกาย และมานั่งบำรุงผิวพรรณตนเองทั้งผิวหน้าและผิวกาย เครื่องประทินผิวที่นางได้มาใหม่นั้นมีกลิ่นหอมยิ่งนัก เมื่อทาแล้วสบายผิวดีกว่าที่นางเคยใช้มา และก็ยกหวีขึ้นมานั่งสางผมที่นุ่มสลวยยาวถึงกลางหลังจากนั้นก็บอกให้เผยอันไปอาบน้ำและเข้านอนได้เลยมิต้องคอยอยู่รับใช้นางแล้ว นางจะนั่งเล่นอยู่เพียงครู่ก็จะเข้านอนแล้ว จากนั้นนางก็เดินไปที่เตียงนอนใหญ่นั้น มันเป็นเตียงที่ใหญ่กว่าที่นางใช้ที่จวนเสนาบดีด้วยซ้ำ และนางชอบที่มันมีเสาสูงทั้งสี่เสาและมีผ้าม่านสีขาวโปร่งผูกไว้ทั้งสี่ด้าน กลางคืนหากปล่อยม่านลงมาแล้วมีลมพัดเข้ามามันพริ้วไหวไปมาทำให้บรรยากาศในห้องนอนนั้นดีมาก เฟยฮวานั่งลงที่บนฟูกใหญ่นั้น มันใหญ่และหนามานุ่มสบายยิ่งนักเวลานอน เฟยฮวาเอนกายลงนอนบนฟูกหนานั้น มีลมพัดเข้ามาเป็นระลอกเย็นสบายยิ่งนัก เพียงไม่นานนางก็เคลิ้มหลับไป กลางดึกคืนนั้น ร่างหนาของท่านอ๋องรุ่ยหยางก็เข้ามาทางหน้าต่างบานยาวที่เปิดกว้างไว้รับลมนั้น เขาเดินอ้อมระเบียงมา เพราะทั้งสองสาวได้ปิดประตูหน้าเรือนไว้ทำให้เขาเข้ามาในเรือนไม่ได้ เขาเพิ่งกลับมาจากหัวเมืองเพราะไป

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 10 หญิงอุ่นเตียงในตำหนัก

    ยามซื่อ (เก้าโมงเช้า ) วันต่อมา รถม้าของตำหนักอ๋องรุ่ยหยางก็มารอรับคุณหนูเฟยฮวาที่หน้าประตูจวนเสนาบดี เผยอันและสาวใช้สองสามคนช่วยกันขนข้าวของๆเฟยฮวาที่เก็บเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานมาใส่รถม้าที่จอดรออยู่นั้น เฟยฮวานางกอดบิดาร่ำไห้เล็กน้อย แต่ก็อดกลั้นไว้เพราะไม่อยากให้บิดาเป็นห่วงนาง นางบอกว่านางจะอดทนไว้ กำหนดเพียงหนึ่งปีมินานเลย เราก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้หากนางสามารถมาเยี่ยมท่านพ่อได้นางจะมาให้บ่อยที่สุดเท่าที่นางจะมาได้ จากนั้นนางก็กอดลาบิดาอีกครั้งแล้วก็ขึ้นรถม้าจากไป พร้อมกับเผยอัน บิดาของนางและพ่อบ้านยืนมองรถม้านั้นจนลับตา เฝ้าภาวนาให้นางอยู่ในตำหนักแห่งนั้นได้อย่างราบรื่น เมื่อรถม้ามาจอดที่หน้าตำหนักท่านอ๋องรุ่ยหยาง เฟยฮวากับเผยอันก็ก้าวลงจากรถม้าช้าๆ พ่อบ้านซื่อถังยืนรอรับอยู่ที่หน้าตำหนัก เขาทักทายเฟยฮวาอย่างอัธยาศัยดี เฟยฮวายิ้มตอบเขา แล้วพ่อบ้านซื่อถังก็เรียกสาวใช้สามคนมาช่วยกันขนข้าวของๆคุณหนูเฟยฮวาเข้าไปในตำหนักแล้วตรงไปที่เรือนเล็กในสุดด้านซ้ายของตำหนักที่ต้องเดินผ่านตำหนักใหญ่ของท่านอ๋องไปทางด้านซ้ายมือเดินลัดเลาะผ่านสวนสวยงามไปเรื่อยๆจนพบเรือนเล็ก

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 9 ใช้แผนการณ์บีบบังคับ

    เหล่าองค์ชายทั้งหลายจึงได้คิดแผนการณ์ช่วยเหลือท่านอ๋องรุ่ยหยางขึ้น เพราะองค์ชายสามรู้มาว่า ขุนนางในบังคับบัญชาของท่านเสนาบดีเฟยมีขุนนางกังฉินอยู่จำนวนหนึ่ง ได้รับงานสร้างเขื่อนขนาดกลางขึ้นที่หัวเมืองและได้ทุจริตงบประมาณที่ส่วนกลางส่งไปเพื่อให้ทำการก่อสร้างเขื่อนนั้น แต่พวกเขาเฉือนงบที่ใช้ในการก่อสร้างเข้าพกเข้าห่อของตนเอง ทำให้เขื่อนนั้นไม่ได้มาตราฐานตามที่ส่วนกลางต้องการ แต่ท่านเสนาบดีไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาจึงจะใช้เรื่องนี้บีบบังคับท่านเสนาบดีและคุณหนูเฟยฮวาให้ยอมตบแต่งกับท่านอ๋องรุ่ยหยาง แล้วจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหานี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ท่านเสนาบดีจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้ เมื่อวางแผนการณ์ทั้งหลายจนรัดกุมคิดว่าคงจะได้ไม่มีช่องโหว่ให้ท่านเสนาบดีแก้ไขได้ทัน ท่านอ๋องรุ่ยหยางและองค์ชายสามจึงได้เดินทางไปที่จวนเสนาบดีเฟยในอีกสามวันต่อมา เมื่อมาถึงได้พากันเข้าไปสนทนากับท่านเสนาบดีเฟยและพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ท่านเสนาบดีเฟยวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง เขาเสนอจะใช้สมบัติของตนเองทดแทนเงินส่วนกลางที่หายไป แล้วจะไปจัดการไต่สวนเรื่องนี้ในภายหลัง แต่องค์ชายสามค้านว่าเรื่องมันได้เกิดขึ้นแล้วและมี

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 8 ตามง้อขอคืนดี

    ขณะนั้นเฟยฮวากินอาหารอิ่มแล้ว นางจึงอยากจะไปเข้าห้องน้ำและเดินย่อยอาหารเสียหน่อย เพราะนั่งมานานมากแล้ว จึงเอ่ยบอกบิดา เขาพยักหน้าอนุญาติ นางจึงลุกขึ้นแล้วค่อยๆเดินออกไปจากห้องโถงนั้น ทุกการเคลื่อนไหวของนางมิรอดพ้นสายตาคมดุจเหยี่ยวของท่านอ๋องรุ่ยหยางไปได้เขารีบลุกขึ้นตามนางทันที แล้วเร่งก้าวออกไปจากห้องโถงเพื่อจะหาทางคุยกับนางให้รู้เรื่อง เมื่อเดินออกมาจากห้องโถงเขาเห็นนางเดินลัดเลาะไปตามทางเดินในสวนที่บริเวณด้านหน้าซึ่งเป็นสวนที่กว้างใหญ่งดงามเชื่อมต่อกันหลายๆสวน จนถึงสวนในตำหนักหลัง แต่มีอาณาเขตกั้นเป็นกำแพงเพื่อมิให้ผู้อื่นล่วงล้ำเข้าไปในตำหนักหลังง่ายๆ แต่แค่เพียงสวนด้านหน้าสถานที่จัดงานนี้ก็กว้างใหญ่มาจนเดินแทบจะไม่ทั่วด้วยซ้ำ ท่านอ๋องหนุ่มเร่งฝีเท้าตามนางไปจนทันที่บริเวณใกล้ศาลาเล็กๆที่อยู่กลางสวนนั่น “ ฮวาเอ๋อ เจ้ารอเปิ่นหวางก่อน เปิ่นหวางมีเรื่องจะพูดกันเจ้า ” เขาเดินไปแล้วพยายามคว้าแขนเรียวของนางไว้ เฟยฮวาหันมามองเห็นท่านอ๋องผู้นั้นที่นางพยายามหลีกเลี่ยงเขาเดินตามนางมาจนทัน “ ฟังเปิ่นหวางก่อนได้ไหม วันนั้นเจ้าออกมาจากโรงเตี้ยมมิได้ปลุกเปิ่นหวางจึงมิได้พูดกันให้รู้เรื่อง แล้ว

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 7 ออกงาน

    เช้าวันงานเลี้ยงในวัง เฟยฮวาตื่นขึ้นแต่เช้าแล้วจัดการทำธุระส่วนตัวจนเรียบร้อยแล้ว แล้วก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่เตรียมไว้แล้วนั้น จากนั้นก็มานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งของนางเพื่อแต่งเติมใบหน้าสวยหวานนั้นให้เข้มขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย ลงมือวาดคิ้วโก่งนั้นให้ได้รูปยิ่งขึ้นแต่งเติมให้มันเข้มขึ้นเล็กน้อย แต้มใฝเม็ดเล็กๆที่ปลายคิ้วข้างหนึ่งเติมสีสันที่เปลือกตาให้ดูสว่างขึ้น เติมสีสันให้แก้มนวลทั้งสองข้างให้ขึ้นสีแดงกว่าเดิมเล็กน้อย เติมสีให้เรียวปากอิ่มนั้นให้แดงเข้มขึ้น นางมีปากที่อวบอิ่มได้รูปยิ่งเติมสีเข้าไปมันดูอวบอิ่มน่าจุมพิตอย่างมาก แล้วเรียกให้เผยอันมาช่วยทำผมและประดับปิ่นและติดกิ๊บรูปผีเสื้อและดอกไม้เล็กๆที่เป็นพลอยสีเขียวเข้ากับชุดของนาง จากนั้นก็ใส่ตุ้มหูที่เข้ากัน เมื่อเสร็จเรียบร้อยนางก็เดินออกไปจากเรือนเล็กของนางเพื่อออกไปรอท่านพ่อที่หน้าเรือนใหญ่ เมื่อเดินไปถึงได้เพียงครู่ท่านเสนาบดีเฟยก็เดินออกมาในชุดขุนนางเต็มยศของท่าน แล้วก็พากันเดินออกไปขึ้นรถม้าที่จอดรออยู่แล้วที่หน้าประตูจวน รถม้าวิ่งผ่่านตลาดที่่ยังวุ่นวายแม้เป็นเวลาที่สายมากแล้ว เพราะเป็นเวลาที่ผู้คนต่่างก็ออกมาซื้อหาข้า

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 6 เตรียมตัวออกงานในวัง

    วันนี้เสนาบดีเฟยกลับมาถึงจวนแล้ว ก็ตรงไปที่เรือนใหญ่ของตนเอง เขานั่งลงจิบชาที่ห้องโถงกลางของเขาเพื่อพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า ขณะที่นั่งจิบชาอยู่นั้น เฟยฮวาก็เดินเข้ามาในห้องโถงนั้น ท่านเสนาบดียกยิ้มน้อยๆให้นางหมู่นี้เขาสังเกตุเห็นว่าบุตรสาวงดงามขึ้นมากมาย นางตัวเล็กลงมาก รูปร่างอวบอิ่มกำลังดี ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใย ใบหน้าก็งดงามยิ่งนัก การแต่งกายก็งดงามดังเช่นคุณหนูในห้องหอทั่วไป มองดูเป็นหญิงงามผู้หนึ่งเลยทีเดียวเขาคิดว่าอีกไม่นาน หากพานางออกงานไม่กี่ครั้งรับรองว่าจวนของเขาจะมีแม่สื่อเดินเข้าออกอย่างไม่ขาดสายเป็นแน่ เขาคิดแล้วก็ยกยิ้มกับตนเอง“ ท่านพ่อยิ้มอารมณ์ดีจริงนะเจ้าคะ วันนี้ไปราชการมาเหนื่อยหรือไม่ เจ้าคะ ลูกต้มขนมหยวนเซียวใส่น้ำขิง (ขนมบัวลอยใส่น้ำขิง) ให้ท่านพ่อเจ้าคะ กินแล้วเลือดลมจะได้เดินดีๆ เผยอันยกมันมาให้ท่านพ่อเลย ” นางหันไปมองเผยอันที่ยกถาดใส่ถ้วยขนมหยวนเซียวเดินตามนางมา ขณะที่บิดานั่งกินขนมหยวนเซียวที่นางทำมาให้เขา แล้วก็ชมเชยไม่ขาดปากว่ามันเหนียวหนึบอร่อยยิ่งนัก เฟยฮวายิ้มน้อยๆที่บิดาชอบขนมที่นางทำ นางอยากจะทำอะไรก็ได้ให้บิดามีความสุข สองพ่อลูกนั่งคุยกันด้วยเรื

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 5 เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่

    เมื่อท่านอ๋องหนุ่มตกใจตื่นขั้นมาในยามซื่อ(ก่อนสิบโมงเช้า ) เขาผุดลุกขึ้นทันทีเมื่อในอ้อมกอดของเขามันว่างเปล่า เขาเหลียวมองไปรอบๆห้องนั้น มิมีวี่แววของนาง เหลียวมองบนพื้นห้องก็เห็นเพียงอาภรณ์ของเขาที่มันหล่นกราดเกลื่อนอยู่ทั่วไป แต่มิมีของนางเลยสักชิ้นเดียวนางกลับไปแล้วเช่นนั้นหรือ มิได้ปลุกเขาขึ้นมาเรียกร้องความรับผิดชอบที่เขาได้ย่ำยีนางไปแล้ว นางไปง่ายๆเช่นนี้เลยหรือ เขารีบลุกขึ้นคว้าเครื่องแต่งกายที่่มันหล่่นอยู่ไปตามพื้นขึ้นมาสวมใส่อย่างเร่งรีบ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบก้าวออกไปจากห้องนั้น เปิดประตูออกไปพบองครักษ์ของเขายืนอยู่ที่นั่งรออยู่ที่หน้าห้องนั้น “ นางล่ะ นางไปแล้วเช่นนั้นหรือ ” เขาเอ่ยถามทันทีอย่างร้อนรน “ องครักษ์ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ นางไปแล้วพะยะคะ ไปตั้งแต่ชั่วยามก่อนแล้ว ” เขาเอ่ยถามอีกว่า ” นางมิได้สั่งอะไรไว้เลยหรือ นางมีท่าทางเช่นใดบ้าง “ องครักษ์เอ่ยขึ้นว่า ” นางมิได้พูดอะไรเลยพะยะคะ นางเดินไปเรียกสาวใช้ของนางแล้วก็เดินออกไปด้วยกัน มิได้โวยวายหรือร้องไห้แต่อย่างใดพะยะคะ " ท่านอ๋องหนุ่มอึ้งงันไป นางมิได้โวยวายร้องไห้อยากจะให้เขารับผิดชอบนางเลยเช่นนั้นหรือ นา

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 4 ตกเป็นของเขาอีกครั้งจนได้ nc

    เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้นอีกครั้ง เขาก็ตกใจจนหน้าซีด เฟยฮวายืนตะลึงอยู่หน้าประตู น้ำตาของนางไหลรินลงมาช้าๆ นางห่อกายด้วยผ้าผวยผืนที่เขาเอาคลุมกายนางนั่นเอง เพราะนางไม่มีเวลาสวมอาภรณ์เพราะเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยหน้าห้องเป็นเสียงของชายหลายๆคนนางจึงเอาหูไปแนบประตูห้องนั้น ฟังตั้งแต่ต้นจนจบจึงเข้าใจเรื่องราวโดยละเอียดว่าสาเหตุที่ท่านอ๋องรุ่ยหยางมาพูดคุยตีสนิทกับนาง หลอกนางว่าจะคบหากับนาง และนัดนางมาเพื่อกินอาหารกันนั้น มันเป็นแผนการณ์ที่จะเผด็จศึกนางเพื่อของเดิมพันเป็นม้าชั้นดี จำนวนห้าตัว ที่เหล่าองค์ชายจะให้ท่านอ๋องรุ่ยหยางเมื่อทำภารกิจสำเร็จ นางอึ้งงันไปพักใหญ่เมื่อรู้ความจริงทั้งหมด น้ำตาของนางไหลพรากลงมาทันที นางสะอื้นไห้เสียงดัง เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางกลับเข้าห้องมาแล้ว นางก็ตรงเข้าทุบตีเขาไม่ยั้งด้วยความเจ็บใจเหลือแสนที่เขาเห็นความรู้สึกนางเป็นเพียงการพนันขันต่ออย่างสนุกสนานกับเหล่าพี่น้องของเขาเท่านั้น ท่านอ๋องเจ็บกายไปหมดเพราะนางทุบตีเต็มแรงของนาง เขาตกใจจึงสะบัดนางจนล้มลงกับพื้นห้อง “ เจ้าบ้า กล้าที่จะหลอกลวงข้าขนาดนี้ เห็นความรักของข้าเป็นเรื่องตลกในหมู่พี่น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status