แชร์

บทที่ 10 หญิงอุ่นเตียงในตำหนัก

ผู้เขียน: Lovedee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-22 16:13:26

ยามซื่อ (เก้าโมงเช้า ) วันต่อมา รถม้าของตำหนักอ๋องรุ่ยหยางก็มารอรับคุณหนูเฟยฮวาที่หน้าประตูจวนเสนาบดี เผยอันและสาวใช้สองสามคนช่วยกันขนข้าวของๆเฟยฮวาที่เก็บเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานมาใส่รถม้าที่จอดรออยู่นั้น เฟยฮวานางกอดบิดาร่ำไห้เล็กน้อย แต่ก็อดกลั้นไว้เพราะไม่อยากให้บิดาเป็นห่วงนาง นางบอกว่านางจะอดทนไว้ กำหนดเพียงหนึ่งปีมินานเลย เราก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้หากนางสามารถมาเยี่ยมท่านพ่อได้นางจะมาให้บ่อยที่สุดเท่าที่นางจะมาได้ จากนั้นนางก็กอดลาบิดาอีกครั้งแล้วก็ขึ้นรถม้าจากไป พร้อมกับเผยอัน บิดาของนางและพ่อบ้านยืนมองรถม้านั้นจนลับตา เฝ้าภาวนาให้นางอยู่ในตำหนักแห่งนั้นได้อย่างราบรื่น 

เมื่อรถม้ามาจอดที่หน้าตำหนักท่านอ๋องรุ่ยหยาง เฟยฮวากับเผยอันก็ก้าวลงจากรถม้าช้าๆ พ่อบ้านซื่อถังยืนรอรับอยู่ที่หน้าตำหนัก เขาทักทายเฟยฮวาอย่างอัธยาศัยดี เฟยฮวายิ้มตอบเขา แล้วพ่อบ้านซื่อถังก็เรียกสาวใช้สามคนมาช่วยกันขนข้าวของๆคุณหนูเฟยฮวาเข้าไปในตำหนักแล้วตรงไปที่เรือนเล็กในสุดด้านซ้ายของตำหนักที่ต้องเดินผ่านตำหนักใหญ่ของท่านอ๋องไปทางด้านซ้ายมือเดินลัดเลาะผ่านสวนสวยงามไปเรื่อยๆจนพบเรือนเล็กน่ารักติดลำธารสายเล็กๆที่ไหลผ่านด้านซ้ายมือของเรือนนั้น  

เฟยฮวาและเผยอันเดินเข้าไปสำรวจเรือนเล็กๆหลังนั้นพบว่ามันมีสองห้องนอน ห้องใหญ่ด้านหน้าหนึ่งห้องและห้องเล็กด้านหลังหนึ่งห้อง ถัดออกไปหน้าสุดเป็นห้องโถงเล็กๆ มีโต๊ะรับรองแขกเป็นชุดมุกเล็กๆ มีตั่งนอนขนาดกลางตั้งอยู่ชิดระเบียงที่เปิดออกไปมองเห็นลำธารสายเล็กๆนั่น มีต้นไม้ปลูกไว้เป็นร่มเงา มีดอกไม้ปลูกใส่กระถางไว้หลากสีสันเรียงรายบนระเบียงนั้น บนระเบียงมีอ่างบัวเล็กๆสองอ่าง มีดอกบัวที่ออกดอกสลับสีชมพูกับเหลือง มีกระดิ่งลมรูปเก๋งจีนเป็นชั้นๆ ห้อยไว้ที่ชายคาสองอันน่ารักยิ่ง 

มองไปรอบๆห้องนั้นมีเครื่องเรือนขนาดเล็กที่เหมาะกับเรือนเล็กนี้ และเมื่อเดินเข้าไปในห้องนอนก็พบว่ามีเตียงขนาดใหญ่มีเสาทัั้งสี่ด้าน มีผ้าม่านโปร่งสีขาวที่รวบมัดไว้กับเสาทั้งสี่ของเตียง มีหมอนหนุนใบใหญ่วางไว้สองอัน มีโต๊ะเครื่องแป้ง และมีชุดโต๊ะกลมตั้งไว้ริมหน้าต่างมีเก้าอี้สองตัว มีตู้ใส่หนังสือ และมีโต๊ะเล็กวางอ่างล้างหน้าและมีเหยือกใบใหญ่วางอยู่ในอ่างนั้น

ห้องนอนเปิดหน้าต่างบานใหญ่โล่งมีลมโกรกเข้ามาเป็นระยะ ห้องนอนใหญ่นี้ติดกับลำธารด้านซ้ายมือ ทำให้มีลมพัดเอาละอองน้ำเข้ามาเย็นสดชื่นนัก สาวใช้ทั้งสามคนขนข้าวของๆเฟยฮวาเข้ามาในเรือนนี้แล้วก็ช่วยกันจัดอาภรณ์ของนางใส่ในตู้ที่อยู่หลังฉากกั้น เฟยฮวาจึงเดินเข้าไปดูหลังฉากกันมีอ่างน้ำใบใหญ่ที่คนสามารถเข้าไปแช่ได้สามคนพร้อมกัน มีราวแขวนเสื้อผ้าอยู่ด้านข้าง มีชั้นวางเครื่องประทินผิวต่างๆวางข้างๆ  พ่อบ้านบอกว่าท่านอ๋องเพิ่งสั่งเปลี่ยนเครื่องเรือนใหม่ทั้งหมดเมื่อวานนี้ เพื่อต้อนรับการเข้ามาของคุณหนูเฟยฮวา นางพยักหน้าให้พ่อบ้านน้อยๆ แต่มิได้เอ่ยอะไร 

จากนั้นเผยอันก็ขนข้าวของๆนางเข้าไปเก็บในห้องนอนเล็กด้านหลัง และเข้าไปสำรวจครัวเล็กๆด้านหลัง มันมีเครื่องครัวครบครันก็เหมาะกับคุณหนูที่ชอบทำขนมกินเล่น และถัดไปเป็นห้องน้ำ ห้องครัวเปิดประตูด้านข้างไปก็พบลำธารสายน้อยๆนั้น  เมื่อสำรวจจนพอใจแล้วเฟยฮวาก็ขอเก้าอี้โยกหนึ่งตัวเอาตั้งไว้ที่ด้านหน้าเรือนตรงระเบียงเล็กๆนั่น เพราะนางชอบนั่งเล่นเวลาแดดร่ม ที่ตรงนั้นน่าจะบรรยากาศดีมากเพราะมองออกไปเห็นสวนที่สวยงามมาก นางคิดว่าเมื่อต้องฝืนทนอยู่ที่นี่จนครบหนึ่งปีก็ควรจะทำให้ตนเองสะดวกสบายที่สุด อย่างน้อยก็ชดเชยความรู้สึกคิดถึงจวนเสนาบดีได้บ้าง 

นางมิได้ถามถึงอ๋องผู้นั้นที่เมื่อเข้ามาในตำหนักของเขาก็มิเห็นเขาเลย แต่ก็ดีแล้วนางก็ไม่ได้อยากเจอเขานัก  จากนั้นพ่อบ้านเมื่อตรวจความเรียบร้อยแล้วก็บอกว่าถึงเวลาอาหารจะมีสาวใช้ยกมาให้ที่นี่ทั้งสามเวลา หากนางต้องการสิ่งใดหรืออยากจะกินอะไรเป็นพิเศษให้สั่งความไปกับสาวใช้หรือให้เผยอันไปบอกพ่อครัวได้ จากนั้นเขาก็ลากลับไปพร้อมสาวใช้ที่มาช่วยจัดข้าวของและเก็บกวาดทำความสะอาดเล็กๆน้อยๆจนเรียบร้อยดี จึงได้ลากลับไป เฟยฮวาจึงได้นั่งลงที่ตั่งที่ติดริมระเบียงห้องโถงหน้าเรือนนั้น

บ่ายคล้อยมีหญิงชราผู้หนึ่งผมของนางมีสีดอกเลาประปราย ดวงตาเฉี่ยวคม แม้ใบหน้ามีร่องรอยเหี่ยวย่นไปตามวัย แต่ก็ยังดูมีสง่าราศรี แต่งกายดี ใส่เครื่องประดับมีราคา น่าจะมิใช่หญิงรับใช้แต่ก็น่าจะเป็นคนสำคัญพอสมควรในตำหนักแห่งนี้ก็เดินเข้ามาในเรือนหลังน้อยนั้นพร้อมกับหญิงผู้หนึ่ง ที่รูปร่างอ้อนแอ้นอรชร ใบหน้าจิ้มลิ้มขาวนวล นางแต่งกายคล้ายคุณหนูในห้องหอผู้หนึ่ง ใส่เครื่องประดับดูมีราคาเช่นกัน นางเดินเข้ามาในห้องโถงที่เฟยฮวากำลังนอนเอนกายพักผ่อนอยู่นั้น “ เจ้าคงเป็นคุณหนูเฟยฮวาที่ได้ยินว่าท่านอ๋องให้เข้ามาอยู่ใหม่ในฐานะหญิงอุ่นเตียงใช่หรือไม่ ” หญิงชราผู้นั้นเอ่ยขึ้น “ เฟยฮวาค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วเอ่ยว่า ” ใช่เจ้าคะ ข้าคือเฟยฮวาบุตรีเสนาบดีเฟย “ 

หญิงชรามองดูเฟยฮวาทั่วทั้งตัวแล้วเอ่ยว่า ” ข้าคือแม่นมฟาง แม่นมของท่านอ๋องรุ่ยหยาง ที่ได้เลี้ยงดูท่านอ๋องมาตั้งแต่เล็กตั้งแต่พระมารดาของท่านอ๋องยังอยู่ เมื่อพระมารดาของท่านอ๋องสิ้นไปข้าก็รับหน้าที่ดูแลท่านอ๋องจนเติบใหญ่ และนี่ ฟางอี้เหนียงหลานสาวของข้าเอง “ เฟยฮวาได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นคารวะแม่นมของท่านอ๋อง ”ฮวาเอ๋อ คารวะแม่นมฟางเจ้าคะ “  แม่นมพยักหน้ารับแล้วเอ่ยว่า ” ข้าได้ยินว่าท่านอ๋องพึงใจคุณหนูจึงได้ให้คุณหนูมาปรนนิบัติ แต่ข้าขอบอกก่อนว่า หลานสาวของข้าอี้เหนียงผู้นี้ แต่เดิมข้าก็หมายมาดจะให้นางได้เป็นพระชายาของท่านอ๋อง ซึ่งก็คงอีกไม่นานนี้ หวังว่าเจ้าคงจะรู้ตัวนะว่าเจ้าอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร “ เฟยฮวาพยักหน้าน้อย 

” ข้าทราบดีเจ้าคะ ข้ามาที่นี่ด้วยมีเหตุผลบางอย่างที่มิอาจบอกให้ทราบได้ แต่ข้าคิดว่าเพียงไม่นานท่านอ๋องคงจะให้ข้าออกไปจากที่นี่ "  ทั้งแม่นมและฟางอี้เหนียงมีสีหน้าที่ดีขึ้น เมื่อแรกที่รู้ข่าวว่าท่านอ๋องรับหญิงอุ่นเตียงที่มีฐานะเป็นถึงบุตรสาวเสนาบดีเฟย ทั้งสองเป็นกังวลอย่างยิ่ง และไม่กล้าสอบถามท่านอ๋องถึงเหตุผลที่รับนางเข้ามาอยู่ในตำหนักแห่งนี้ ทั้งๆที่นางมีฐานะเป็นถึงบุตรีของเสนาบดีใหญ่ทำไมจึงเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะหญิงอุ่นเตียง แต่เมื่อได้ยินนางบอกว่าคงจะอยู่ที่นี่เพียงไม่นาน ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะที่ผ่านมาแม้แม่นมฟางต้องการให้หลานสาวได้เป็นพระชายาของท่านอ๋อง แต่ตัวของท่านอ๋องรุ่ยหยางมิได้ให้ความสนใจนางนัก แม้ในฐานะอนุก็มิเคยเอ่ยปาก แต่ทั้งสองก็ยังมีความหวังเพราะท่านอ๋องมิเคยรับหญิงใดเข้ามาในจวน มีเพียงนางโลมอันดับหนึ่งที่มาปรนนิบัติเพียงบางครั้งเท่านั้น 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 11 ข้าเกลียดท่าน nc

    ค่ำคืนนั้นเมื่อรับประทานอาหารเย็นกันแล้ว เฟยฮวาก็เข้าไปอาบน้ำชำระกาย และมานั่งบำรุงผิวพรรณตนเองทั้งผิวหน้าและผิวกาย เครื่องประทินผิวที่นางได้มาใหม่นั้นมีกลิ่นหอมยิ่งนัก เมื่อทาแล้วสบายผิวดีกว่าที่นางเคยใช้มา และก็ยกหวีขึ้นมานั่งสางผมที่นุ่มสลวยยาวถึงกลางหลังจากนั้นก็บอกให้เผยอันไปอาบน้ำและเข้านอนได้เลยมิต้องคอยอยู่รับใช้นางแล้ว นางจะนั่งเล่นอยู่เพียงครู่ก็จะเข้านอนแล้ว จากนั้นนางก็เดินไปที่เตียงนอนใหญ่นั้น มันเป็นเตียงที่ใหญ่กว่าที่นางใช้ที่จวนเสนาบดีด้วยซ้ำ และนางชอบที่มันมีเสาสูงทั้งสี่เสาและมีผ้าม่านสีขาวโปร่งผูกไว้ทั้งสี่ด้าน กลางคืนหากปล่อยม่านลงมาแล้วมีลมพัดเข้ามามันพริ้วไหวไปมาทำให้บรรยากาศในห้องนอนนั้นดีมาก เฟยฮวานั่งลงที่บนฟูกใหญ่นั้น มันใหญ่และหนามานุ่มสบายยิ่งนักเวลานอน เฟยฮวาเอนกายลงนอนบนฟูกหนานั้น มีลมพัดเข้ามาเป็นระลอกเย็นสบายยิ่งนัก เพียงไม่นานนางก็เคลิ้มหลับไป กลางดึกคืนนั้น ร่างหนาของท่านอ๋องรุ่ยหยางก็เข้ามาทางหน้าต่างบานยาวที่เปิดกว้างไว้รับลมนั้น เขาเดินอ้อมระเบียงมา เพราะทั้งสองสาวได้ปิดประตูหน้าเรือนไว้ทำให้เขาเข้ามาในเรือนไม่ได้ เขาเพิ่งกลับมาจากหัวเมืองเพราะไป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 12 กับข้าวมื้อเช้าในตอนบ่าย

    หลังเที่ยงวันนั้นทั้งสองลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมๆกัน เฟยฮวากระพริบตาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืน เมื่อนึกขึ้นได้หน้าของนางแดงก่ำขึ้นทันที หันไปมองด้้านหลังก็สบเข้ากับตาคมของอ๋องหนุ่ม ทั้งสองมองกันและกันอย่างเก้อเขินกันเล็กน้อย เฟยฮวามิเอ่ยอะไรได้แต่พยายามลุกขึ้นนั่ง “ โอ้ย !! ” นางร้องขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อขยับกายจะลงจากเตียงนั้น ตรงกลางกายก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อ๋องหนุ่มผุดลุกขึ้น “ เจ้าเจ็บมากหรือไม่ ไม่ต้องลุก เปิ่นหวางจะอุ้มเจ้าไปแช่น้ำอุ่นก่อนนะ สักพักมันน่าจะบรรเทาความเจ็บลงได้ ”จากนั้นเขาก็ผุดลุกขึ้น กายแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างผู้ฝึกร่างกายเป็นประจำนั้น ยืนตรงหน้าของเฟยฮวา นางเงยหน้าขึ้นมองร่างแกร่งนั้นแล้ว ใบหน้ายิ่งแดงยิ่งขึ้น อ๋องหนุ่มก้มลงช้อนตัวนางขึ้นแนบอก แล้วพาเดินเข้าไปหลังฉากกั้น เขาวางนางลงในถังไม้ขนาดใหญ่นั้น ในนั้นมีไอลอยกรุ่นขึ้นมา แสดงว่าเผยอันเพิ่งเตรียมน้ำอุ่นไว้ได้ไม่นานนี้เอง นางช่างรู้ใจจริงๆ เฟยฮวานั่งลงในถังไม้นั้นได้สักพัก นางรู้สึกสบายตัวขึ้นมา ร่างกายที่ปวดระบมนั้นเรื่องดีขึ้น ตัวของนางที่ปวดเมื่อยไปหมดก็บรรเทาลง จากนั้นอ๋องหนุ่มก็ก้าวลงมาแช่ตัวในถ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 1 ลงขันพิชิตหญิงขี้เหร่

    วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งขุนนางใหม่ เหล่าขุนนางทั้งหลายรวมถึงขุนนางใหม่ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งรวมถึงครอบครัวของเขาเหล่านั้น ต่างก็มาร่วมงานเลี้ยงในวังหลวงกันคับคั่ง งานนี้มีองค์รัชทายาทมาเป็นประธานในพิธีแทนองค์ฮ่องเต้ และเมื่อเสร็จพิธีที่เป็นทางการและฟังโอวาทจากองค์รัชทายาทแล้ว แขกเหรื่อก็ต่างพากันชมการแสดงต่างๆและรับประทานอาหารและดื่มสุรากันตามอัธยาศัย เหล่าองค์ชายและท่านอ๋องก็นั่งอยู่ใกล้ๆกันในตำแหน่งที่นั่งของตนเอง ขณะนั้นองค์ชายห้ามองตรงไปเห็นคุณหนูเฟยฮวานั่งอยู่ข้างๆบิดาของนางที่ฝั่งตรงข้าม ดวงตาของนางคล้ายกับจ้องมองมาที่อ๋องรุ่ยหยางเขม็งเช่นเคย เขาจึงเกิดความคิดสนุกๆขึ้นทันทีหลังจากที่นั่งมองไปมาด้วยความเบื่อหน่าย เขาหันไปกระซิบเรื่องราวที่เขาเพิ่งคิดขึ้นมาได้นั้นให้แก่องค์ชายสามที่นั่งข้างๆกันจากนั้นทั้งสองก็หันไปสะกิดองค์ชายหกและท่านอ๋องรุ่ยหยางรวมถึงองค์ชายสองที่อยู่ถัดไป หลังจากถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดให้เหล่าพี่น้องทั้งหลายฟังแล้ว ท่านอ๋องรุ่ยหยางส่ายหัวทันควัน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเขาไม่ยอมหรอก จะให้เขาไปพิชิตคุณหนูอวบอ้วนนั่น แถมแต่งตัวยังกับฮูหยินของบิดาตนเองทำให้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 2 นัดพบบุรุษที่พึงใจ nc

    เมื่อแต่งกายเรียบร้อยแล้ว นางก็แต่งเติมใบหน้าเล็กน้อย อย่างพิถีพิถันแต่มันก็ดูเหมือนใช้สีมาป้ายใบหน้าแบบคนที่มิเคยแต่งเติมใบหน้าตนเองมาก่อน แม้ผิวพรรณเดิมของนางจะดีมาก ผุดผาดไม่แพ้ผู้ใดแต่มันก็ถูกกลบด้วยหุ่นที่อวบอวนใหญ่กว่าคุณหนูอื่นๆ และการแต่งกายที่แก่เกินวัยไปมาก แต่งเติมใบหน้าก็มิเป็นจึงทำให้ดูงดงามน้อยไปกว่าที่ควรจะเป็นมาก แต่นางก็เคยชินกับตัวเองที่เป็นเช่นนี้มานานแล้วจึงมิได้มองเห็นข้อบกพร่องนี้ จากนั้นเมื่อแต่งกายตนเองจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นั่งรอเวลาเพียงครู่ จิบชาและกินขนมรองท้องไปเพียงเล็กน้อยเพราะนางตื่นเต้นมากที่จะได้ออกไปพบกับบุรุษที่นางพึงใจหนักหนา เมื่อใกล้เวลานัดหมายเฟยฮวาก็เดินออกไปที่ขึ้นรถม้าที่หน้าจวนเสนาบดี กับเผยอันสาวใช้ของนาง จากนั้นนางขึ้นไปบนรถม้าอย่างอารมณ์เบิกบาน ยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุข เมื่อรถม้าเดินทางไปถึงหน้าโรงเตี้ยมชั้นดีที่เป็นโรงเตี้ยมสำหรับผู้มีอันจะกินเท่านั้นเพราะมันเป็นโรงเตี้ยมอันดับหนึ่งในเมืองหลวงชาวบ้านทั่วไปมิอาจเข้าไปใช้บริการได้เพราะว่าราคาห้องพักแพงหูฉี่ และอาหารเลิศรสที่มีให้บริการก็แพงมากกว่าโรงเตี้ยมเท่าไปหลายเท่า แม้มันจะอร่อยล้ำเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 3 ตกเป็นของอ๋องหนุ่ม nc

    ปากหนาก็ดูดผลอิงเถาอย่างเมามัน ส่วนมือหนาก็คลำหาจนพบเนินอวบใหญ่เต็มมือของนาง เขาขยำมันอย่างเมามัน แล้วก็ค่อยสอดนิ้วแกร่งเข้าไปแล้วเขี่ยเมล็ดดอกไม้งามนั้นไปมา เฟยฮวาครางกระเส่าทันทีอย่างเสียวซ่าน สะโพกอวบของนางโยกน้อยๆเข้าหามือหนาของเขาทันทีจากนั้นอ๋องหนุ่มสอดนิ้วแกร่งเข้าไปค่อยๆจนมันมิดด้าม เฟยฮวา กรีดร้องด้วยความเจ็บขึ้นทันที ใบหน้าคมคายจึงประกบจูบนางอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง จากนั้นเมื่อนางเคลิบเคลิ้มเขาก็ค่อยขยับนิ้วแกร่งเข้าสุดออกสุดช้าๆ เพื่อให้นางปรับตัวก่อน เขารู้ว่านางมิเคยชายมาก่อน เขาไม่อยากให้นางเจ็บตัวมากเกินไป เขามิรู้มาก่อนว่าเขาอยากจะถนอมนางมากเพียงนี้ จากนั้นนิ้วแกร่งก็ค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นจนกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง จนสะโพกอวบกระตุกเกร็งเสร็จสมไปทันที มือหนาเปื้อนน้ำรักของนางจนเต็มมือ นางหอบหายใจเร็วๆ อย่างเหน็ดเหนื่อย จากนั้นอ๋องหนุ่มก็ก้มลงไล้เลียร่องอวบนั้นไปมาอย่างเมามัน เขาดูดดึงเมล็ดดอกไม้เล็กๆนั้น ดูดจนมันบวมเป่ง เฟยฮวาร่อนสะโพกเข้าหาใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป จากนั้นอ๋องหนุ่มผุดลุกขึ้น ถอดเครื่องแต่งกายของตนที่เหลือจนหมดแล้ว ปลดปล่อยลำกายแกร่งออ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 4 ตกเป็นของเขาอีกครั้งจนได้ nc

    เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้นอีกครั้ง เขาก็ตกใจจนหน้าซีด เฟยฮวายืนตะลึงอยู่หน้าประตู น้ำตาของนางไหลรินลงมาช้าๆ นางห่อกายด้วยผ้าผวยผืนที่เขาเอาคลุมกายนางนั่นเอง เพราะนางไม่มีเวลาสวมอาภรณ์เพราะเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยหน้าห้องเป็นเสียงของชายหลายๆคนนางจึงเอาหูไปแนบประตูห้องนั้น ฟังตั้งแต่ต้นจนจบจึงเข้าใจเรื่องราวโดยละเอียดว่าสาเหตุที่ท่านอ๋องรุ่ยหยางมาพูดคุยตีสนิทกับนาง หลอกนางว่าจะคบหากับนาง และนัดนางมาเพื่อกินอาหารกันนั้น มันเป็นแผนการณ์ที่จะเผด็จศึกนางเพื่อของเดิมพันเป็นม้าชั้นดี จำนวนห้าตัว ที่เหล่าองค์ชายจะให้ท่านอ๋องรุ่ยหยางเมื่อทำภารกิจสำเร็จ นางอึ้งงันไปพักใหญ่เมื่อรู้ความจริงทั้งหมด น้ำตาของนางไหลพรากลงมาทันที นางสะอื้นไห้เสียงดัง เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางกลับเข้าห้องมาแล้ว นางก็ตรงเข้าทุบตีเขาไม่ยั้งด้วยความเจ็บใจเหลือแสนที่เขาเห็นความรู้สึกนางเป็นเพียงการพนันขันต่ออย่างสนุกสนานกับเหล่าพี่น้องของเขาเท่านั้น ท่านอ๋องเจ็บกายไปหมดเพราะนางทุบตีเต็มแรงของนาง เขาตกใจจึงสะบัดนางจนล้มลงกับพื้นห้อง “ เจ้าบ้า กล้าที่จะหลอกลวงข้าขนาดนี้ เห็นความรักของข้าเป็นเรื่องตลกในหมู่พี่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 5 เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่

    เมื่อท่านอ๋องหนุ่มตกใจตื่นขั้นมาในยามซื่อ(ก่อนสิบโมงเช้า ) เขาผุดลุกขึ้นทันทีเมื่อในอ้อมกอดของเขามันว่างเปล่า เขาเหลียวมองไปรอบๆห้องนั้น มิมีวี่แววของนาง เหลียวมองบนพื้นห้องก็เห็นเพียงอาภรณ์ของเขาที่มันหล่นกราดเกลื่อนอยู่ทั่วไป แต่มิมีของนางเลยสักชิ้นเดียวนางกลับไปแล้วเช่นนั้นหรือ มิได้ปลุกเขาขึ้นมาเรียกร้องความรับผิดชอบที่เขาได้ย่ำยีนางไปแล้ว นางไปง่ายๆเช่นนี้เลยหรือ เขารีบลุกขึ้นคว้าเครื่องแต่งกายที่่มันหล่่นอยู่ไปตามพื้นขึ้นมาสวมใส่อย่างเร่งรีบ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบก้าวออกไปจากห้องนั้น เปิดประตูออกไปพบองครักษ์ของเขายืนอยู่ที่นั่งรออยู่ที่หน้าห้องนั้น “ นางล่ะ นางไปแล้วเช่นนั้นหรือ ” เขาเอ่ยถามทันทีอย่างร้อนรน “ องครักษ์ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ นางไปแล้วพะยะคะ ไปตั้งแต่ชั่วยามก่อนแล้ว ” เขาเอ่ยถามอีกว่า ” นางมิได้สั่งอะไรไว้เลยหรือ นางมีท่าทางเช่นใดบ้าง “ องครักษ์เอ่ยขึ้นว่า ” นางมิได้พูดอะไรเลยพะยะคะ นางเดินไปเรียกสาวใช้ของนางแล้วก็เดินออกไปด้วยกัน มิได้โวยวายหรือร้องไห้แต่อย่างใดพะยะคะ " ท่านอ๋องหนุ่มอึ้งงันไป นางมิได้โวยวายร้องไห้อยากจะให้เขารับผิดชอบนางเลยเช่นนั้นหรือ นา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 6 เตรียมตัวออกงานในวัง

    วันนี้เสนาบดีเฟยกลับมาถึงจวนแล้ว ก็ตรงไปที่เรือนใหญ่ของตนเอง เขานั่งลงจิบชาที่ห้องโถงกลางของเขาเพื่อพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า ขณะที่นั่งจิบชาอยู่นั้น เฟยฮวาก็เดินเข้ามาในห้องโถงนั้น ท่านเสนาบดียกยิ้มน้อยๆให้นางหมู่นี้เขาสังเกตุเห็นว่าบุตรสาวงดงามขึ้นมากมาย นางตัวเล็กลงมาก รูปร่างอวบอิ่มกำลังดี ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใย ใบหน้าก็งดงามยิ่งนัก การแต่งกายก็งดงามดังเช่นคุณหนูในห้องหอทั่วไป มองดูเป็นหญิงงามผู้หนึ่งเลยทีเดียวเขาคิดว่าอีกไม่นาน หากพานางออกงานไม่กี่ครั้งรับรองว่าจวนของเขาจะมีแม่สื่อเดินเข้าออกอย่างไม่ขาดสายเป็นแน่ เขาคิดแล้วก็ยกยิ้มกับตนเอง“ ท่านพ่อยิ้มอารมณ์ดีจริงนะเจ้าคะ วันนี้ไปราชการมาเหนื่อยหรือไม่ เจ้าคะ ลูกต้มขนมหยวนเซียวใส่น้ำขิง (ขนมบัวลอยใส่น้ำขิง) ให้ท่านพ่อเจ้าคะ กินแล้วเลือดลมจะได้เดินดีๆ เผยอันยกมันมาให้ท่านพ่อเลย ” นางหันไปมองเผยอันที่ยกถาดใส่ถ้วยขนมหยวนเซียวเดินตามนางมา ขณะที่บิดานั่งกินขนมหยวนเซียวที่นางทำมาให้เขา แล้วก็ชมเชยไม่ขาดปากว่ามันเหนียวหนึบอร่อยยิ่งนัก เฟยฮวายิ้มน้อยๆที่บิดาชอบขนมที่นางทำ นางอยากจะทำอะไรก็ได้ให้บิดามีความสุข สองพ่อลูกนั่งคุยกันด้วยเรื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-21

บทล่าสุด

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 12 กับข้าวมื้อเช้าในตอนบ่าย

    หลังเที่ยงวันนั้นทั้งสองลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมๆกัน เฟยฮวากระพริบตาทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืน เมื่อนึกขึ้นได้หน้าของนางแดงก่ำขึ้นทันที หันไปมองด้้านหลังก็สบเข้ากับตาคมของอ๋องหนุ่ม ทั้งสองมองกันและกันอย่างเก้อเขินกันเล็กน้อย เฟยฮวามิเอ่ยอะไรได้แต่พยายามลุกขึ้นนั่ง “ โอ้ย !! ” นางร้องขึ้นมาอย่างตกใจเมื่อขยับกายจะลงจากเตียงนั้น ตรงกลางกายก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที อ๋องหนุ่มผุดลุกขึ้น “ เจ้าเจ็บมากหรือไม่ ไม่ต้องลุก เปิ่นหวางจะอุ้มเจ้าไปแช่น้ำอุ่นก่อนนะ สักพักมันน่าจะบรรเทาความเจ็บลงได้ ”จากนั้นเขาก็ผุดลุกขึ้น กายแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างผู้ฝึกร่างกายเป็นประจำนั้น ยืนตรงหน้าของเฟยฮวา นางเงยหน้าขึ้นมองร่างแกร่งนั้นแล้ว ใบหน้ายิ่งแดงยิ่งขึ้น อ๋องหนุ่มก้มลงช้อนตัวนางขึ้นแนบอก แล้วพาเดินเข้าไปหลังฉากกั้น เขาวางนางลงในถังไม้ขนาดใหญ่นั้น ในนั้นมีไอลอยกรุ่นขึ้นมา แสดงว่าเผยอันเพิ่งเตรียมน้ำอุ่นไว้ได้ไม่นานนี้เอง นางช่างรู้ใจจริงๆ เฟยฮวานั่งลงในถังไม้นั้นได้สักพัก นางรู้สึกสบายตัวขึ้นมา ร่างกายที่ปวดระบมนั้นเรื่องดีขึ้น ตัวของนางที่ปวดเมื่อยไปหมดก็บรรเทาลง จากนั้นอ๋องหนุ่มก็ก้าวลงมาแช่ตัวในถ

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 11 ข้าเกลียดท่าน nc

    ค่ำคืนนั้นเมื่อรับประทานอาหารเย็นกันแล้ว เฟยฮวาก็เข้าไปอาบน้ำชำระกาย และมานั่งบำรุงผิวพรรณตนเองทั้งผิวหน้าและผิวกาย เครื่องประทินผิวที่นางได้มาใหม่นั้นมีกลิ่นหอมยิ่งนัก เมื่อทาแล้วสบายผิวดีกว่าที่นางเคยใช้มา และก็ยกหวีขึ้นมานั่งสางผมที่นุ่มสลวยยาวถึงกลางหลังจากนั้นก็บอกให้เผยอันไปอาบน้ำและเข้านอนได้เลยมิต้องคอยอยู่รับใช้นางแล้ว นางจะนั่งเล่นอยู่เพียงครู่ก็จะเข้านอนแล้ว จากนั้นนางก็เดินไปที่เตียงนอนใหญ่นั้น มันเป็นเตียงที่ใหญ่กว่าที่นางใช้ที่จวนเสนาบดีด้วยซ้ำ และนางชอบที่มันมีเสาสูงทั้งสี่เสาและมีผ้าม่านสีขาวโปร่งผูกไว้ทั้งสี่ด้าน กลางคืนหากปล่อยม่านลงมาแล้วมีลมพัดเข้ามามันพริ้วไหวไปมาทำให้บรรยากาศในห้องนอนนั้นดีมาก เฟยฮวานั่งลงที่บนฟูกใหญ่นั้น มันใหญ่และหนามานุ่มสบายยิ่งนักเวลานอน เฟยฮวาเอนกายลงนอนบนฟูกหนานั้น มีลมพัดเข้ามาเป็นระลอกเย็นสบายยิ่งนัก เพียงไม่นานนางก็เคลิ้มหลับไป กลางดึกคืนนั้น ร่างหนาของท่านอ๋องรุ่ยหยางก็เข้ามาทางหน้าต่างบานยาวที่เปิดกว้างไว้รับลมนั้น เขาเดินอ้อมระเบียงมา เพราะทั้งสองสาวได้ปิดประตูหน้าเรือนไว้ทำให้เขาเข้ามาในเรือนไม่ได้ เขาเพิ่งกลับมาจากหัวเมืองเพราะไป

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 10 หญิงอุ่นเตียงในตำหนัก

    ยามซื่อ (เก้าโมงเช้า ) วันต่อมา รถม้าของตำหนักอ๋องรุ่ยหยางก็มารอรับคุณหนูเฟยฮวาที่หน้าประตูจวนเสนาบดี เผยอันและสาวใช้สองสามคนช่วยกันขนข้าวของๆเฟยฮวาที่เก็บเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อวานมาใส่รถม้าที่จอดรออยู่นั้น เฟยฮวานางกอดบิดาร่ำไห้เล็กน้อย แต่ก็อดกลั้นไว้เพราะไม่อยากให้บิดาเป็นห่วงนาง นางบอกว่านางจะอดทนไว้ กำหนดเพียงหนึ่งปีมินานเลย เราก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ระหว่างนี้หากนางสามารถมาเยี่ยมท่านพ่อได้นางจะมาให้บ่อยที่สุดเท่าที่นางจะมาได้ จากนั้นนางก็กอดลาบิดาอีกครั้งแล้วก็ขึ้นรถม้าจากไป พร้อมกับเผยอัน บิดาของนางและพ่อบ้านยืนมองรถม้านั้นจนลับตา เฝ้าภาวนาให้นางอยู่ในตำหนักแห่งนั้นได้อย่างราบรื่น เมื่อรถม้ามาจอดที่หน้าตำหนักท่านอ๋องรุ่ยหยาง เฟยฮวากับเผยอันก็ก้าวลงจากรถม้าช้าๆ พ่อบ้านซื่อถังยืนรอรับอยู่ที่หน้าตำหนัก เขาทักทายเฟยฮวาอย่างอัธยาศัยดี เฟยฮวายิ้มตอบเขา แล้วพ่อบ้านซื่อถังก็เรียกสาวใช้สามคนมาช่วยกันขนข้าวของๆคุณหนูเฟยฮวาเข้าไปในตำหนักแล้วตรงไปที่เรือนเล็กในสุดด้านซ้ายของตำหนักที่ต้องเดินผ่านตำหนักใหญ่ของท่านอ๋องไปทางด้านซ้ายมือเดินลัดเลาะผ่านสวนสวยงามไปเรื่อยๆจนพบเรือนเล็ก

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 9 ใช้แผนการณ์บีบบังคับ

    เหล่าองค์ชายทั้งหลายจึงได้คิดแผนการณ์ช่วยเหลือท่านอ๋องรุ่ยหยางขึ้น เพราะองค์ชายสามรู้มาว่า ขุนนางในบังคับบัญชาของท่านเสนาบดีเฟยมีขุนนางกังฉินอยู่จำนวนหนึ่ง ได้รับงานสร้างเขื่อนขนาดกลางขึ้นที่หัวเมืองและได้ทุจริตงบประมาณที่ส่วนกลางส่งไปเพื่อให้ทำการก่อสร้างเขื่อนนั้น แต่พวกเขาเฉือนงบที่ใช้ในการก่อสร้างเข้าพกเข้าห่อของตนเอง ทำให้เขื่อนนั้นไม่ได้มาตราฐานตามที่ส่วนกลางต้องการ แต่ท่านเสนาบดีไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขาจึงจะใช้เรื่องนี้บีบบังคับท่านเสนาบดีและคุณหนูเฟยฮวาให้ยอมตบแต่งกับท่านอ๋องรุ่ยหยาง แล้วจะช่วยเหลือแก้ไขปัญหานี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ท่านเสนาบดีจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้ เมื่อวางแผนการณ์ทั้งหลายจนรัดกุมคิดว่าคงจะได้ไม่มีช่องโหว่ให้ท่านเสนาบดีแก้ไขได้ทัน ท่านอ๋องรุ่ยหยางและองค์ชายสามจึงได้เดินทางไปที่จวนเสนาบดีเฟยในอีกสามวันต่อมา เมื่อมาถึงได้พากันเข้าไปสนทนากับท่านเสนาบดีเฟยและพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ ท่านเสนาบดีเฟยวิตกกังวลเป็นอย่างยิ่ง เขาเสนอจะใช้สมบัติของตนเองทดแทนเงินส่วนกลางที่หายไป แล้วจะไปจัดการไต่สวนเรื่องนี้ในภายหลัง แต่องค์ชายสามค้านว่าเรื่องมันได้เกิดขึ้นแล้วและมี

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 8 ตามง้อขอคืนดี

    ขณะนั้นเฟยฮวากินอาหารอิ่มแล้ว นางจึงอยากจะไปเข้าห้องน้ำและเดินย่อยอาหารเสียหน่อย เพราะนั่งมานานมากแล้ว จึงเอ่ยบอกบิดา เขาพยักหน้าอนุญาติ นางจึงลุกขึ้นแล้วค่อยๆเดินออกไปจากห้องโถงนั้น ทุกการเคลื่อนไหวของนางมิรอดพ้นสายตาคมดุจเหยี่ยวของท่านอ๋องรุ่ยหยางไปได้เขารีบลุกขึ้นตามนางทันที แล้วเร่งก้าวออกไปจากห้องโถงเพื่อจะหาทางคุยกับนางให้รู้เรื่อง เมื่อเดินออกมาจากห้องโถงเขาเห็นนางเดินลัดเลาะไปตามทางเดินในสวนที่บริเวณด้านหน้าซึ่งเป็นสวนที่กว้างใหญ่งดงามเชื่อมต่อกันหลายๆสวน จนถึงสวนในตำหนักหลัง แต่มีอาณาเขตกั้นเป็นกำแพงเพื่อมิให้ผู้อื่นล่วงล้ำเข้าไปในตำหนักหลังง่ายๆ แต่แค่เพียงสวนด้านหน้าสถานที่จัดงานนี้ก็กว้างใหญ่มาจนเดินแทบจะไม่ทั่วด้วยซ้ำ ท่านอ๋องหนุ่มเร่งฝีเท้าตามนางไปจนทันที่บริเวณใกล้ศาลาเล็กๆที่อยู่กลางสวนนั่น “ ฮวาเอ๋อ เจ้ารอเปิ่นหวางก่อน เปิ่นหวางมีเรื่องจะพูดกันเจ้า ” เขาเดินไปแล้วพยายามคว้าแขนเรียวของนางไว้ เฟยฮวาหันมามองเห็นท่านอ๋องผู้นั้นที่นางพยายามหลีกเลี่ยงเขาเดินตามนางมาจนทัน “ ฟังเปิ่นหวางก่อนได้ไหม วันนั้นเจ้าออกมาจากโรงเตี้ยมมิได้ปลุกเปิ่นหวางจึงมิได้พูดกันให้รู้เรื่อง แล้ว

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 7 ออกงาน

    เช้าวันงานเลี้ยงในวัง เฟยฮวาตื่นขึ้นแต่เช้าแล้วจัดการทำธุระส่วนตัวจนเรียบร้อยแล้ว แล้วก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่เตรียมไว้แล้วนั้น จากนั้นก็มานั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งของนางเพื่อแต่งเติมใบหน้าสวยหวานนั้นให้เข้มขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย ลงมือวาดคิ้วโก่งนั้นให้ได้รูปยิ่งขึ้นแต่งเติมให้มันเข้มขึ้นเล็กน้อย แต้มใฝเม็ดเล็กๆที่ปลายคิ้วข้างหนึ่งเติมสีสันที่เปลือกตาให้ดูสว่างขึ้น เติมสีสันให้แก้มนวลทั้งสองข้างให้ขึ้นสีแดงกว่าเดิมเล็กน้อย เติมสีให้เรียวปากอิ่มนั้นให้แดงเข้มขึ้น นางมีปากที่อวบอิ่มได้รูปยิ่งเติมสีเข้าไปมันดูอวบอิ่มน่าจุมพิตอย่างมาก แล้วเรียกให้เผยอันมาช่วยทำผมและประดับปิ่นและติดกิ๊บรูปผีเสื้อและดอกไม้เล็กๆที่เป็นพลอยสีเขียวเข้ากับชุดของนาง จากนั้นก็ใส่ตุ้มหูที่เข้ากัน เมื่อเสร็จเรียบร้อยนางก็เดินออกไปจากเรือนเล็กของนางเพื่อออกไปรอท่านพ่อที่หน้าเรือนใหญ่ เมื่อเดินไปถึงได้เพียงครู่ท่านเสนาบดีเฟยก็เดินออกมาในชุดขุนนางเต็มยศของท่าน แล้วก็พากันเดินออกไปขึ้นรถม้าที่จอดรออยู่แล้วที่หน้าประตูจวน รถม้าวิ่งผ่่านตลาดที่่ยังวุ่นวายแม้เป็นเวลาที่สายมากแล้ว เพราะเป็นเวลาที่ผู้คนต่่างก็ออกมาซื้อหาข้า

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 6 เตรียมตัวออกงานในวัง

    วันนี้เสนาบดีเฟยกลับมาถึงจวนแล้ว ก็ตรงไปที่เรือนใหญ่ของตนเอง เขานั่งลงจิบชาที่ห้องโถงกลางของเขาเพื่อพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า ขณะที่นั่งจิบชาอยู่นั้น เฟยฮวาก็เดินเข้ามาในห้องโถงนั้น ท่านเสนาบดียกยิ้มน้อยๆให้นางหมู่นี้เขาสังเกตุเห็นว่าบุตรสาวงดงามขึ้นมากมาย นางตัวเล็กลงมาก รูปร่างอวบอิ่มกำลังดี ผิวพรรณผุดผ่องเป็นยองใย ใบหน้าก็งดงามยิ่งนัก การแต่งกายก็งดงามดังเช่นคุณหนูในห้องหอทั่วไป มองดูเป็นหญิงงามผู้หนึ่งเลยทีเดียวเขาคิดว่าอีกไม่นาน หากพานางออกงานไม่กี่ครั้งรับรองว่าจวนของเขาจะมีแม่สื่อเดินเข้าออกอย่างไม่ขาดสายเป็นแน่ เขาคิดแล้วก็ยกยิ้มกับตนเอง“ ท่านพ่อยิ้มอารมณ์ดีจริงนะเจ้าคะ วันนี้ไปราชการมาเหนื่อยหรือไม่ เจ้าคะ ลูกต้มขนมหยวนเซียวใส่น้ำขิง (ขนมบัวลอยใส่น้ำขิง) ให้ท่านพ่อเจ้าคะ กินแล้วเลือดลมจะได้เดินดีๆ เผยอันยกมันมาให้ท่านพ่อเลย ” นางหันไปมองเผยอันที่ยกถาดใส่ถ้วยขนมหยวนเซียวเดินตามนางมา ขณะที่บิดานั่งกินขนมหยวนเซียวที่นางทำมาให้เขา แล้วก็ชมเชยไม่ขาดปากว่ามันเหนียวหนึบอร่อยยิ่งนัก เฟยฮวายิ้มน้อยๆที่บิดาชอบขนมที่นางทำ นางอยากจะทำอะไรก็ได้ให้บิดามีความสุข สองพ่อลูกนั่งคุยกันด้วยเรื

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 5 เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่

    เมื่อท่านอ๋องหนุ่มตกใจตื่นขั้นมาในยามซื่อ(ก่อนสิบโมงเช้า ) เขาผุดลุกขึ้นทันทีเมื่อในอ้อมกอดของเขามันว่างเปล่า เขาเหลียวมองไปรอบๆห้องนั้น มิมีวี่แววของนาง เหลียวมองบนพื้นห้องก็เห็นเพียงอาภรณ์ของเขาที่มันหล่นกราดเกลื่อนอยู่ทั่วไป แต่มิมีของนางเลยสักชิ้นเดียวนางกลับไปแล้วเช่นนั้นหรือ มิได้ปลุกเขาขึ้นมาเรียกร้องความรับผิดชอบที่เขาได้ย่ำยีนางไปแล้ว นางไปง่ายๆเช่นนี้เลยหรือ เขารีบลุกขึ้นคว้าเครื่องแต่งกายที่่มันหล่่นอยู่ไปตามพื้นขึ้นมาสวมใส่อย่างเร่งรีบ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็รีบก้าวออกไปจากห้องนั้น เปิดประตูออกไปพบองครักษ์ของเขายืนอยู่ที่นั่งรออยู่ที่หน้าห้องนั้น “ นางล่ะ นางไปแล้วเช่นนั้นหรือ ” เขาเอ่ยถามทันทีอย่างร้อนรน “ องครักษ์ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นว่า “ นางไปแล้วพะยะคะ ไปตั้งแต่ชั่วยามก่อนแล้ว ” เขาเอ่ยถามอีกว่า ” นางมิได้สั่งอะไรไว้เลยหรือ นางมีท่าทางเช่นใดบ้าง “ องครักษ์เอ่ยขึ้นว่า ” นางมิได้พูดอะไรเลยพะยะคะ นางเดินไปเรียกสาวใช้ของนางแล้วก็เดินออกไปด้วยกัน มิได้โวยวายหรือร้องไห้แต่อย่างใดพะยะคะ " ท่านอ๋องหนุ่มอึ้งงันไป นางมิได้โวยวายร้องไห้อยากจะให้เขารับผิดชอบนางเลยเช่นนั้นหรือ นา

  • ชายาขี้เหร่นี้เป็นของท่านนะเจ้าคะ    บทที่ 4 ตกเป็นของเขาอีกครั้งจนได้ nc

    เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางเปิดประตูเข้าไปในห้องนั้นอีกครั้ง เขาก็ตกใจจนหน้าซีด เฟยฮวายืนตะลึงอยู่หน้าประตู น้ำตาของนางไหลรินลงมาช้าๆ นางห่อกายด้วยผ้าผวยผืนที่เขาเอาคลุมกายนางนั่นเอง เพราะนางไม่มีเวลาสวมอาภรณ์เพราะเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยหน้าห้องเป็นเสียงของชายหลายๆคนนางจึงเอาหูไปแนบประตูห้องนั้น ฟังตั้งแต่ต้นจนจบจึงเข้าใจเรื่องราวโดยละเอียดว่าสาเหตุที่ท่านอ๋องรุ่ยหยางมาพูดคุยตีสนิทกับนาง หลอกนางว่าจะคบหากับนาง และนัดนางมาเพื่อกินอาหารกันนั้น มันเป็นแผนการณ์ที่จะเผด็จศึกนางเพื่อของเดิมพันเป็นม้าชั้นดี จำนวนห้าตัว ที่เหล่าองค์ชายจะให้ท่านอ๋องรุ่ยหยางเมื่อทำภารกิจสำเร็จ นางอึ้งงันไปพักใหญ่เมื่อรู้ความจริงทั้งหมด น้ำตาของนางไหลพรากลงมาทันที นางสะอื้นไห้เสียงดัง เมื่อท่านอ๋องรุ่ยหยางกลับเข้าห้องมาแล้ว นางก็ตรงเข้าทุบตีเขาไม่ยั้งด้วยความเจ็บใจเหลือแสนที่เขาเห็นความรู้สึกนางเป็นเพียงการพนันขันต่ออย่างสนุกสนานกับเหล่าพี่น้องของเขาเท่านั้น ท่านอ๋องเจ็บกายไปหมดเพราะนางทุบตีเต็มแรงของนาง เขาตกใจจึงสะบัดนางจนล้มลงกับพื้นห้อง “ เจ้าบ้า กล้าที่จะหลอกลวงข้าขนาดนี้ เห็นความรักของข้าเป็นเรื่องตลกในหมู่พี่น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status