“หากข้าจะบอกท่านว่า ท่านเคยฝันว่าท่านวางยาพิษข้า และข้าคิดว่าจะเกิดขึ้นจริงท่านจะว่าอย่างไร ข้าคนนี้ไม่ว่าฝันอันใดล้วนแม่นยำไม่ผิดเพี้ยน”“ข้าไม่ได้วางยาพิษเจ้า”จากนั้นก็ก้มต่ำลงมามองนาง “เป็นเจ้าที่วางยาพิษข้ามิใช่หรือ”เหยียนซือเหยียนเงยหน้ามองเขาทันควัน“ไป๋จิ้งหาน ท่านหมายความว่าอย่างไร!”เสียงข
บทที่ 41 คนใจร้ายในเวลานั้นไป๋จิ้งหานก็ปรากฏกายพร้อมกับอี้ชิงที่จับมือของไป๋จิ้งหานอย่างใกล้ชิดเหยียนซือเหยียนมองมือของพวกเขาที่เกาะกุมกันแน่นจากนั้นเม้มปากทำใจให้สงบ บอกตนเองว่าอย่าได้อิจฉาริษยาเป็นอันขาด และในเวลานี้ไป๋จิ้งหานก็ปล่อยมือของอี้ชิงแล้วเขาเดินตรงมาหานางจากนั้นก็สำรวจร่างเล็กอย่างระม
“ท่านพี่ พี่สะใภ้ก็หนาวเช่นกัน ชิงเอ๋อร์ไม่หนาวเท่าใดให้นพี่สะใภ้สวมเสื้อคลุมของท่านเถิดเจ้าค่ะ”ไป๋จิ้งหานส่ายหน้า“ไม่ต้องพูดมากแล้ว สวมให้ดีร่างกายเจ้าอ่อนแอหากล้มป่วยข้าจะบอกท่านย่าว่าอย่างไร คืนนี้ก็ย่ำแย่เกินทนแล้ว”“แต่พี่สะใภ้...”“นางอดทนได้ ไม่ต้องห่วงเจ้าไม่เห็นหรือว่านางชอบเถลไถลนอกจวนเพ
บทที่ 42 เข้าใจผิดมาทั้งชาติเหยียนซือเหยียนแนบใบหน้าลงบนเข่าของตนเอง หันไปมองทางอื่น อี้ชิงที่มองดูอยู่ตลอดลอบหัวเราะหยันในใจ ไม่คิดว่าไป๋จิ้งหานจะรังเกียจเหยียนซือเหยียนเพียงนั้นแรกเริ่มที่นางรู้ว่าเป็นเขาที่มารับเหยียนซือเหยียน ทั้งยังพาออกมานอกเมืองมุ่งตรงไปดูหิ่งห้อย นางโกรธแค้นแทบกระอักเลือด
นางจ้องหน้าหล่อเหลาของเขาราวกับตกอยู่ในภวังค์กระทั่งไป๋จิ้งหานกระแอม“ทำไมหรือ มีสิ่งใดติดที่ใบหน้าข้า”“ไม่มีสิ่งใดติดที่หน้า แต่ข้าติดใจเรื่องหนึ่ง”“เรื่องอันใด”ถึงยังไม่แน่ใจเต็มสิบส่วน แต่ก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง ในเมื่อเขาเองก็มาเกิดใหม่ดังนั้นนางจึงอยากพิสูจน์ว่าเขาเปลี่ยนไปจริง ๆ หรือไม
บทที่ 43 เปิดใจ“บุ่มบ่ามเกินไปแล้ว”เขาตำหนินางเสียงแผ่วไม่จริงจัง เหยียนซือเหยียนยังคงร้อนรน“ตาเฒ่าไป๋เจ้าคงไม่ตามมาฆ่าข้าใช่หรือไม่ ข้านอนไม่หลับหากว่าวันนี้ไม่รู้ความจริง”เขาบิดแก้มนางเบา ๆ พลางตอบว่า“ข้าไม่เคยคิดฆ่าเจ้ามาก่อนข้าบอกแล้ว คนเลวที่ต้องการฆ่าสามีตนเองคือเจ้าต่างห่าง เอาล่ะ เจ้าไม
ไป๋จิ้งหานคิดถึงเรื่องราวตั้งแต่นางแต่งกับเขา นางที่เป็นตัวของตัวเอง มีชีวิตชีวาทำให้เขาหลงใหลขึ้นทุกขณะ กระทั่งจดหมายที่นางส่งมาให้เขา ไป๋จิ้งหานก็ยังเก็บไว้อย่างทะนุถนอมราวกับสิ่งของล้ำค่า“ท่านไม่โกรธไม่เกลียดข้าแล้วหรือ”“ข้าผ่านมาแล้วชาติหนึ่ง เรื่องของบิดาเจ้าแม้ในใจจะยังเจ็บปวดแต่ก็คิดได้แล้ว
เขาหัวเราะในลำคอ“ข้าไม่เคยคิดฆ่าเจ้า ก่อนหน้าไม่คิดตอนก็เป็นเช่นนั้น เรื่องนี้ค่อยพูดคุยภายหลัง แต่เวลานี้เจ้าต้องบอกข้ามาว่าเจ้าได้สุรามาจากที่ใด”เหยียนซือเหยียนครุ่นคิด“เป็นเซียวยีที่นำเหล้ามาให้ข้า บ่าวของข้าย่อมไม่คิดทรยศ ข้าจึงเชื่อใจนางยิ่งนักเซียวยีไม่มีทางวางยา”ไป๋จิ้งหานเอ่ยสงสัย“สุราอ
ปีค.ศ.1970คุณนายสกุลฉางให้กำเนิดบุตรีคนแรก ผิวขาวราวหยกใบหน้าจิ้มลิ้ม ซินแสทำนายวาสนาสูงส่งยิ่งนัก ทำให้กิจการค้าขายของบิดามารดาเจริญรุ่งเรืองในยามนั้นบิดาได้หมั้นหมายเด็กหญิงเอาไว้กับบุตรชายคนโตของเพื่อนรักแห่งสกุลต้วนต้วนชางหลางเด็กชายอายุราวหกขวบกำลังจ้องมองทารกตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลด้วยความสน
จูชางหลางอุ้มสตรีร่างผอมขึ้นมาวางนางเอาไว้บนตักของเขาโถมร่างกายก้มกอดนางแนบแน่นจนลึกสุดหัวใจ เส้นผมของนางกลายเป็นสีขาวโพลน รวมทั้งผมของเขาเช่นกัน ยามนี้เมื่อใกล้ชิดเส้นผมขาวของคนทั้งคู่กำลังเคลียคลอซึ่งกันและกันโดยไม่อาจแยกแยะว่าเป็นผมของผู้ใดกันแน่จูชางหลางเข้าใจชีวิต มิมีผู้ใดฝืนสังขารของร่างกาย
ตอนพิเศษ ตอนที่ 1ยี่สิบปีต่อมา“ท่านตา ท่านยายแย่แล้วขอรับ”จู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาบอกเขาในเรือนสมุนไพร จูชางหลางที่กำลังนั่งยอง ๆ พร้อมกับใช้พัดโหมไฟให้ลุกโชนเพื่อต้มสมุนไพรให้กับหยางอี้หงถึงกับมือสั่นระริกทำพัดที่อยู่ในมือหลุดลงทันใดเขาวิ่งไปที่เรือนของนางอย่างรวดเร็ว หลายปีมานี้หยางอี้
มู่เหยาทอดสายตามองแผ่นน้ำเบื้องหน้าที่คล้ายกำลังเต้นรำระริกไหวไปตามแสงจันทราแล้วยิ้มงดงาม“ท่านแม่ ขอให้ท่านคุ้มครองให้ข้ามีความสุขด้วยนะเจ้าคะ”เอ่ยคำนี้แล้วนางจึงโปรยดอกไม้ลงไปเบื้องล่าง ก่อนจะเดินกลับลงมายังหมู่บ้านก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านนั่นเอง จู่ ๆ มู่เหยาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของค
มู่เหยายิ้มไม่หุบ คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาใจนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลต่อนางเพียงนี้ "หลานชายช่างปากหวานยิ่งนัก เช่นนี้สตรีใดได้พบคงไม่อาจถอนใจได้ ด้วยใบหน้างดงามเช่นนี้ต่อไปคงทำให้สตรีเสียใจอีกหลายคน"จูอี้หลางส่ายหน้า"ข้าไม่คิดหลอกสตรีใด จิตใจของข้าจะมอบให้กับสตรีที่ข้ารักเพียงผู้เดียวเช่นท่านพ่
เมื่ออยู่กันเพียงลำพังจูชางหลางจึงเอ่ยขึ้นว่า“เจ้าได้พบนางแล้วใช่หรือไม่”จูอี้หลางพยักหน้า“ท่านพ่อ เป็นท่านแม่จริงหรือ”จูชางหลางพยักหน้า“ที่นี่ไกลจากหน้าผาที่แม่เจ้าตกลงมายิ่งนัก พ่อไม่คิดว่านางจะรอดกระทั่งมีคนของหมู่บ้านนายพรานไปพบเข้าระหว่างที่นางลอยไปตามกระแสน้ำ ท่านแม่ของเจ้าลืมทุกเรื่องไปจ
จูอี้หลางขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่านางย่อมคือมารดาของเขา อยากจะบอกออกไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ดูเหมือนว่าสตรีนางนั้นจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น จูอี้หลางถอนหายใจยาวเขาต้องสนิทกับเด็กคนนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อสืบถามเรื่องราวเอาไปบอกบิดา“แล้วพ่อแม่ของเจ้าเล่า”“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าหรือ
"ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องรีบปล่อยเขาออกจากเขตหมู่บ้านตามกฎ มิใช่จับเขามามัดเอาไว้เช่นนี้ เห็นท่าแล้วเจ้าอยากได้ม้าของเขาใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตราประจำตัวม้าเป็นตราราชสำนัก เจ้ากำลังนำความเดือดร้อนมาให้คนในหมู่บ้านแล้ว”มู่เยี่ยนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ดวงตากลมโตตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ท่านน้าของนางจ
จูอี้หลางเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ ตั้งแต่เกิดมาทุกคนล้วนนอบน้อมกับเขา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าเจ้าหน้าขาว ทั้งยังกล้าจับเขามัดอย่างไม่กลัวเกรง ทว่าเห็นท่าทางน่ารักของเด็กหญิงผู้นี้แล้วเขากลับไม่นึกโกรธ ยังนึกชื่นชมในความกล้าหาญของนางด้วยซ้ำ“เช่นนั้นบอกข้ามาก่อนว่าข้าอยู่ที่ใด แล้วเจ