บทที่ 3 เข้าหา ในเวลานั้นเองสตรีนางก็ได้ยินสตรีนางหนึ่งเอ่ยขึ้น"น่าเสียดายหน้าตานี้ของอาจารย์มู่จริง ๆ เขาหล่อเหลาราวกับเทพเซียนที่หลุดออกมาจากภาพวาด แต่ว่าฐานะยากจนและต้นตระกูลก็ยังต่ำต้อย จนไม่มีสตรีใดชายตาแล"ถึงมู่หรงจะสอบผ่านได้เป็นจอหงวน แต่ก็เป็นจอหงวนใหม่เขาไม่มีเส้นสายในวังหลวง ฐานะบ้า
หลังจากเมื่อเลิกเรียนแล้ว หนานหงหงอุ้มกล่องพิณมาดักรออาจารย์มู่หรงที่หน้าห้องพำนักอาจารย์ อาจารย์ผู้หนึ่งที่อายุค่อนข้างมากเอ่ยถาม"แม่นางน้อยผู้นี้มิใช่คุณหนูสามจวนสกุลหนานหรือ"หนานหงหงยอบกายอย่างอ่อนน้อม"เจ้าค่ะ""มีธุระอันใดหรือ"หนานหงหงกล่าวอ้าง"ใกล้จะถึงวันเกิดท่านแม่ของหงหงแล้ว จึงจะมาขอให
บทที่ 4 ศิษย์ของอาจารย์"ติดค้างหรือเจ้าคะ"หนานหงหงรู้อยู่แล้วแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้"เป็นเช่นนั้นก่อนหน้านี้สายตาของอาจารย์ไม่ค่อยดี มารดาของเจ้ามีน้ำใจก่อนที่จะสอบจอหงวนได้เสาะหาแว่นตามาให้ ของสิ่งนี้มีราคาแพงหายากยิ่ง หากไม่กว้างขวางพอก็ไม่อาจหามาได้ง่าย ๆ"ในตอนนี้แผ่นดินใหญ่ได้มีการติดต่อค้าขายก
บทที่ 5 ตั้งใจเรียนหน่อยหนึ่งเดือนต่อมาหลังจากเลิกเรียนวันนี้หนานหงหงก็มาฝึกเพลงพิณตามลำพังกับมู่หรงในตำหนักพำนักของอาจารย์ดั่งเช่นทุกวันในห้องโถงกว้างของสถานที่แห่งนี้ มู่หรงนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่สวมเพียงเสื้อผ้าสีขาวสบายๆ ที่ไม่ได้เป็นชุดทางการของท่านอาจารย์อย่างที่เคยเป็นมาทุกวัน แต่กลับยิ่ง
หนานหงหงจำใจปล่อยแขนมู่หรงอย่างเสียดาย ในขณะที่นางกำลังเก็บพิณเขาก็เอ่ยว่า“นี่ก็ใกล้วันเกิดของมารดาเจ้าแล้ว แต่เจ้ายังไม่คืบหน้าคงเป็นเพราะว่ามีเวลาเรียนค่อนข้างจำกัด เช่นนั้นเจ้ามาเรียนเพิ่มที่จวนของอาจารย์ในทุกวันหยุดดีหรือไม่”หนานหงหงดวงตาเบิกกว้าง“นอกจากวันหยุดแล้ว วันที่ศิษย์มีเรียนแค่ช่วงเช
บทที่ 6 ความลับของเด็กเนิร์ด NCหนานหงหงมาถึงหน้าจวนของมู่หรงด้วยสีหน้าแย้มยิ้ม โดยมีอาซูอุ้มพิณของนางตามมาด้วย ในใจตื่นเต้นที่จะได้เริ่มแผนการจับหนอนหนังสือคนนี้ทว่านางก็ต้องเสียใจเมื่อคนที่มาต้อนรับกลับเป็นพ่อบ้านที่แก่ชราของเขา"คุณชายกำชับบ่าวเอาไว้ให้ดูแลคุณหนูสามให้ดี บ่าวได้เตรียมห้องเอาไว้ให
หนานหงหงฝึกดีดพิณอยู่กับเด็กแฝดครู่หนึ่ง นางก็เริ่มเบื่อเด็กทั้งสองมีฝีมือในการดีดพิณจริง ๆ ตัวเล็กเพียงเท่านี้ก็สามารถบรรเลงได้ดียิ่งนักหนานหงหงสีหน้าเบื่อหน่ายนางจึงหยุดเล่น ทั้ง ๆ ที่ตนเองดีดได้ย่ำแย่ก็ไม่มีใจที่จะฝึกฝน ก็แน่ล่ะ เพราะการดีดพิณนี่มีเอาไว้เป็นข้ออ้างที่จะใกล้ชิดมู่หรงเท่านั้นเสีย
บทที่ 7 คิดถึงเขาได้แต่ช่วยตัวเอง NCหนานหงหงหอบหายใจยาว หลังจากหยุดพักไปชั่วครู่ก็จัดแจงดึงกางเกงตัวในขึ้นมา โชคดีที่เสื้อผ้าแบบโบราณตัวนอกล้วนเป็นกระโปรงตัวหนา น้ำรักของนางจึงไม่ได้เปียกออกไปจนถึงด้านนอกกระโปรงหนานหงหงหยิบหนังสือขึ้นมาแล้วเก็บซ่อนเอาไว้ในอกเสื้อ ถึงจะปลดปล่อยไปแล้วแต่ก็รู้สึกเสีย
ปีค.ศ.1970คุณนายสกุลฉางให้กำเนิดบุตรีคนแรก ผิวขาวราวหยกใบหน้าจิ้มลิ้ม ซินแสทำนายวาสนาสูงส่งยิ่งนัก ทำให้กิจการค้าขายของบิดามารดาเจริญรุ่งเรืองในยามนั้นบิดาได้หมั้นหมายเด็กหญิงเอาไว้กับบุตรชายคนโตของเพื่อนรักแห่งสกุลต้วนต้วนชางหลางเด็กชายอายุราวหกขวบกำลังจ้องมองทารกตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลด้วยความสน
จูชางหลางอุ้มสตรีร่างผอมขึ้นมาวางนางเอาไว้บนตักของเขาโถมร่างกายก้มกอดนางแนบแน่นจนลึกสุดหัวใจ เส้นผมของนางกลายเป็นสีขาวโพลน รวมทั้งผมของเขาเช่นกัน ยามนี้เมื่อใกล้ชิดเส้นผมขาวของคนทั้งคู่กำลังเคลียคลอซึ่งกันและกันโดยไม่อาจแยกแยะว่าเป็นผมของผู้ใดกันแน่จูชางหลางเข้าใจชีวิต มิมีผู้ใดฝืนสังขารของร่างกาย
ตอนพิเศษ ตอนที่ 1ยี่สิบปีต่อมา“ท่านตา ท่านยายแย่แล้วขอรับ”จู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาบอกเขาในเรือนสมุนไพร จูชางหลางที่กำลังนั่งยอง ๆ พร้อมกับใช้พัดโหมไฟให้ลุกโชนเพื่อต้มสมุนไพรให้กับหยางอี้หงถึงกับมือสั่นระริกทำพัดที่อยู่ในมือหลุดลงทันใดเขาวิ่งไปที่เรือนของนางอย่างรวดเร็ว หลายปีมานี้หยางอี้
มู่เหยาทอดสายตามองแผ่นน้ำเบื้องหน้าที่คล้ายกำลังเต้นรำระริกไหวไปตามแสงจันทราแล้วยิ้มงดงาม“ท่านแม่ ขอให้ท่านคุ้มครองให้ข้ามีความสุขด้วยนะเจ้าคะ”เอ่ยคำนี้แล้วนางจึงโปรยดอกไม้ลงไปเบื้องล่าง ก่อนจะเดินกลับลงมายังหมู่บ้านก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านนั่นเอง จู่ ๆ มู่เหยาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของค
มู่เหยายิ้มไม่หุบ คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาใจนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลต่อนางเพียงนี้ "หลานชายช่างปากหวานยิ่งนัก เช่นนี้สตรีใดได้พบคงไม่อาจถอนใจได้ ด้วยใบหน้างดงามเช่นนี้ต่อไปคงทำให้สตรีเสียใจอีกหลายคน"จูอี้หลางส่ายหน้า"ข้าไม่คิดหลอกสตรีใด จิตใจของข้าจะมอบให้กับสตรีที่ข้ารักเพียงผู้เดียวเช่นท่านพ่
เมื่ออยู่กันเพียงลำพังจูชางหลางจึงเอ่ยขึ้นว่า“เจ้าได้พบนางแล้วใช่หรือไม่”จูอี้หลางพยักหน้า“ท่านพ่อ เป็นท่านแม่จริงหรือ”จูชางหลางพยักหน้า“ที่นี่ไกลจากหน้าผาที่แม่เจ้าตกลงมายิ่งนัก พ่อไม่คิดว่านางจะรอดกระทั่งมีคนของหมู่บ้านนายพรานไปพบเข้าระหว่างที่นางลอยไปตามกระแสน้ำ ท่านแม่ของเจ้าลืมทุกเรื่องไปจ
จูอี้หลางขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่านางย่อมคือมารดาของเขา อยากจะบอกออกไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ดูเหมือนว่าสตรีนางนั้นจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น จูอี้หลางถอนหายใจยาวเขาต้องสนิทกับเด็กคนนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อสืบถามเรื่องราวเอาไปบอกบิดา“แล้วพ่อแม่ของเจ้าเล่า”“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าหรือ
"ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องรีบปล่อยเขาออกจากเขตหมู่บ้านตามกฎ มิใช่จับเขามามัดเอาไว้เช่นนี้ เห็นท่าแล้วเจ้าอยากได้ม้าของเขาใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตราประจำตัวม้าเป็นตราราชสำนัก เจ้ากำลังนำความเดือดร้อนมาให้คนในหมู่บ้านแล้ว”มู่เยี่ยนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ดวงตากลมโตตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ท่านน้าของนางจ
จูอี้หลางเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ ตั้งแต่เกิดมาทุกคนล้วนนอบน้อมกับเขา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าเจ้าหน้าขาว ทั้งยังกล้าจับเขามัดอย่างไม่กลัวเกรง ทว่าเห็นท่าทางน่ารักของเด็กหญิงผู้นี้แล้วเขากลับไม่นึกโกรธ ยังนึกชื่นชมในความกล้าหาญของนางด้วยซ้ำ“เช่นนั้นบอกข้ามาก่อนว่าข้าอยู่ที่ใด แล้วเจ