บทที่ 8 จะตีสุนัขต้องดูเจ้าของเช้าวันรุ่งขึ้นหนานหงหงตื่นแต่เช้าถึงแม้ว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนเลยก็ตาม คิดว่าวันนี้อย่างไรนางก็จะยั่วยวนเขาให้รับรักนางให้จงได้ วันนี้นางให้อาซูช่วยม้วนผมสลวยให้เป็นมวยสูง ประดับด้วยปิ่นทองรูปผีเสื้อวิบวับ ปล่อยให้ปอยผมสองข้างลู่ลงมาข้างแก้มเนียนอย่างอ่อนช้อย นางเลือกสว
"แม่นางคนงามเจ้าอย่ายุ่งเลยดีกว่า หากไม่อยากทำให้หน้าสวย ๆ ได้รับบาดแผล"หนานหงหงหัวเราะลั่น"ข้างามข้าไม่เถียง แต่ใครกันแน่ที่จะได้รับบาดแผลกลับไป เอาตัวเองให้รอดก่อนจะห่วงผู้อื่นเถิด" จากนั้นนางก็พุ่งตัวเข้าใส่พวกมันด้วยความรวดเร็วและความแม่นยำ ในไม่ช้าพวกมันก็ล้มลงต่อหน้าหนานหงหง ทั้งหมอบราบและข
บทที่ 9 ห้ามแต่งกับผู้ใดมู่หรงสำลักไอค่อกแค่ก สีแดงลามไปถึงใบหูเมื่อศิษย์แสนซนผู้นี้เอ่ยวาจาที่ไม่รักนวลสงวนตัวออกมา ริ้วหางตาของเขาบิดเกร็งจนแทบจะกลายเป็นก้นหอย แต่ถึงจะมีริ้วรอยเช่นนั้นแต่เขากลับดูน่ารักมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นไปอีก นางจึงกล่าวเย้าอีกคำ"อาจารย์ท่านอยากช่วยศิษย์หรือไม่เจ้าคะ ท่าทางท่าน
สีหน้าของเขากลับมาแดงระเรื่อชวนมองอีกครั้ง หนานหงหงยิ่งรู้สึกใจสั่นไหวและตกหลุมรักความหล่อเหลานี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้น"สัญญาเงินกู้อย่างไรก็ต้องมอบให้เจ้า แล้วอาจารย์จะรีบหามาใช้หนี้ให้เร็วที่สุด ส่วนของเพิ่มเติมเจ้าอยากได้สิ่งใด ข้ามู่หรงไม่ชอบที่สุดก็คือการติดค้างผู้อื่น หากไม่
บทที่ 10 ท่านเป็นของข้ามู่หรงดูเหมือนจะนิ่งงันไปแล้วเขาอึกอักเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่ครู่หนึ่ง แน่นอนว่าคำพูดของนางล้วนมีเหตุผล เขาไม่มีสิ่งใดดีสักอย่าง ไยนางต้องตามตอแยในขณะที่คุณหนูตระกูลใหญ่ล้วนหลีกเลี่ยงแต่มู่หรงยังคงตีสีหน้าขรึมกล่าวเย็นชา“หนานหงหง นี่เจ้าคิดว่าอาจารย์จะเชื่อหรือว่า
มู่หรงกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อริมฝีปากอุ่นชื้นของนางแตะเข้าที่ริมฝีปากของเขา นางเริ่มจูบเขาอย่างเชื่องช้า ละเลียดเลียชิมเพื่อสัมผัสรสชาติหวานละมุนจากปากของมู่หรงแผ่วเบาเขากัดริมฝีปากแน่นคงมีเพียงส่วนเล็ก ๆ นี้ที่เขาสามารถขยับได้ อย่างไรก็ไม่ยินยอมให้นางจูบแต่ในที่สุดเขาก็ต้องพ่ายแพ้เมื่อหนานหงหงสามารถส
บทที่ 11 ถูกดูดเสียแล้ว NCภายในเรือนหนังสือแห่งนี้มีบานหน้าต่างไม้ฉลุลายดอกไม้เปิดกว้าง เผยให้เห็นสวนหย่อมเล็กๆ นอกหน้าต่างทำให้สายลมอุ่นพัดโชยเอื่อยสามารถพัดพาเอากลิ่นหอมจากดอกไม้นานาพันธุ์โชยเข้ามาในห้องมู่หรงที่ขยับเขยื้อนตนเองไม่ได้กลับรู้สึกว่ากลิ่นดอกไม้ที่โชยมานี้ช่างเข้ากันได้ดีกับกลิ่นกาย
“ซี้ดดด อา....”ปากของนางทั้งนุ่มและร้อนจัด ทุกการดูดดึงของนางทำให้เขาถึงกับร่างกายเหยียดเกร็ง สัมผัสของสตรีทำให้เขารู้สึกดีจนคล้ายกำลังเหยียบย่างไปบนสวรรค์ชั้นฟ้า“หนานหงหง....อา....หนานหงหง”มู่หรงหอบหายใจกระเส่า นางกำลังทำให้เขาคลั่งจนครางชื่อของนางไม่หยุดหนานหงหงรู้สึกว่าแท่งหยกนี้อร่อยยิ่ง กลิ
ปีค.ศ.1970คุณนายสกุลฉางให้กำเนิดบุตรีคนแรก ผิวขาวราวหยกใบหน้าจิ้มลิ้ม ซินแสทำนายวาสนาสูงส่งยิ่งนัก ทำให้กิจการค้าขายของบิดามารดาเจริญรุ่งเรืองในยามนั้นบิดาได้หมั้นหมายเด็กหญิงเอาไว้กับบุตรชายคนโตของเพื่อนรักแห่งสกุลต้วนต้วนชางหลางเด็กชายอายุราวหกขวบกำลังจ้องมองทารกตัวน้อยที่นอนอยู่ในเปลด้วยความสน
จูชางหลางอุ้มสตรีร่างผอมขึ้นมาวางนางเอาไว้บนตักของเขาโถมร่างกายก้มกอดนางแนบแน่นจนลึกสุดหัวใจ เส้นผมของนางกลายเป็นสีขาวโพลน รวมทั้งผมของเขาเช่นกัน ยามนี้เมื่อใกล้ชิดเส้นผมขาวของคนทั้งคู่กำลังเคลียคลอซึ่งกันและกันโดยไม่อาจแยกแยะว่าเป็นผมของผู้ใดกันแน่จูชางหลางเข้าใจชีวิต มิมีผู้ใดฝืนสังขารของร่างกาย
ตอนพิเศษ ตอนที่ 1ยี่สิบปีต่อมา“ท่านตา ท่านยายแย่แล้วขอรับ”จู่ ๆ ก็มีเด็กผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาบอกเขาในเรือนสมุนไพร จูชางหลางที่กำลังนั่งยอง ๆ พร้อมกับใช้พัดโหมไฟให้ลุกโชนเพื่อต้มสมุนไพรให้กับหยางอี้หงถึงกับมือสั่นระริกทำพัดที่อยู่ในมือหลุดลงทันใดเขาวิ่งไปที่เรือนของนางอย่างรวดเร็ว หลายปีมานี้หยางอี้
มู่เหยาทอดสายตามองแผ่นน้ำเบื้องหน้าที่คล้ายกำลังเต้นรำระริกไหวไปตามแสงจันทราแล้วยิ้มงดงาม“ท่านแม่ ขอให้ท่านคุ้มครองให้ข้ามีความสุขด้วยนะเจ้าคะ”เอ่ยคำนี้แล้วนางจึงโปรยดอกไม้ลงไปเบื้องล่าง ก่อนจะเดินกลับลงมายังหมู่บ้านก่อนจะถึงทางเข้าหมู่บ้านนั่นเอง จู่ ๆ มู่เหยาก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของค
มู่เหยายิ้มไม่หุบ คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาใจนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลต่อนางเพียงนี้ "หลานชายช่างปากหวานยิ่งนัก เช่นนี้สตรีใดได้พบคงไม่อาจถอนใจได้ ด้วยใบหน้างดงามเช่นนี้ต่อไปคงทำให้สตรีเสียใจอีกหลายคน"จูอี้หลางส่ายหน้า"ข้าไม่คิดหลอกสตรีใด จิตใจของข้าจะมอบให้กับสตรีที่ข้ารักเพียงผู้เดียวเช่นท่านพ่
เมื่ออยู่กันเพียงลำพังจูชางหลางจึงเอ่ยขึ้นว่า“เจ้าได้พบนางแล้วใช่หรือไม่”จูอี้หลางพยักหน้า“ท่านพ่อ เป็นท่านแม่จริงหรือ”จูชางหลางพยักหน้า“ที่นี่ไกลจากหน้าผาที่แม่เจ้าตกลงมายิ่งนัก พ่อไม่คิดว่านางจะรอดกระทั่งมีคนของหมู่บ้านนายพรานไปพบเข้าระหว่างที่นางลอยไปตามกระแสน้ำ ท่านแม่ของเจ้าลืมทุกเรื่องไปจ
จูอี้หลางขมวดคิ้ว เขาแน่ใจว่านางย่อมคือมารดาของเขา อยากจะบอกออกไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร ดูเหมือนว่าสตรีนางนั้นจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น จูอี้หลางถอนหายใจยาวเขาต้องสนิทกับเด็กคนนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อสืบถามเรื่องราวเอาไปบอกบิดา“แล้วพ่อแม่ของเจ้าเล่า”“ท่านพ่อท่านแม่ของข้าหรือ
"ถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องรีบปล่อยเขาออกจากเขตหมู่บ้านตามกฎ มิใช่จับเขามามัดเอาไว้เช่นนี้ เห็นท่าแล้วเจ้าอยากได้ม้าของเขาใช่หรือไม่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตราประจำตัวม้าเป็นตราราชสำนัก เจ้ากำลังนำความเดือดร้อนมาให้คนในหมู่บ้านแล้ว”มู่เยี่ยนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป ดวงตากลมโตตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ท่านน้าของนางจ
จูอี้หลางเป็นองค์รัชทายาทผู้สูงศักดิ์ ตั้งแต่เกิดมาทุกคนล้วนนอบน้อมกับเขา นี่จึงเป็นครั้งแรกที่มีคนเรียกเขาว่าเจ้าหน้าขาว ทั้งยังกล้าจับเขามัดอย่างไม่กลัวเกรง ทว่าเห็นท่าทางน่ารักของเด็กหญิงผู้นี้แล้วเขากลับไม่นึกโกรธ ยังนึกชื่นชมในความกล้าหาญของนางด้วยซ้ำ“เช่นนั้นบอกข้ามาก่อนว่าข้าอยู่ที่ใด แล้วเจ