หน้าหลัก / แฟนตาซี / จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ / บทที่ 5 ร้านขายของโบราณร้านนั้นยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่านะ? 

แชร์

บทที่ 5 ร้านขายของโบราณร้านนั้นยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่านะ? 

ผู้เขียน: primพริมโรส
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-29 10:01:23

บทที่ 5 ร้านขายของโบราณร้านนั้นยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่านะ? 

เมื่อหมวดอาหารการกินเสร็จต่อมาก็เป็นพวกเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม จ้าวเว่ยเว่ยนั้นดูข้อมูลของยุคราชวงค์ต้าหมิง ชุดที่คนยุคนั้นใส่จะเป็นชุดที่เรียกว่าชุดฮั่นฟู ถ้าเป็นของพวกในราชสำนักหรือบุคคลที่ร่ำรวยจะเป็นผ้าไหม หรือ ผ้าลูกไม้สวยๆ แต่ถ้าเป็นชาวบ้านจะเป็นชุดฮั่นฟูของชาวบ้านมักทำจากผ้าฝ้าย ป่าน หรือขนสัตว์ ผ้าเหล่านี้ทนทาน ระบายอากาศได้ดี และเหมาะกับงานเกษตร งานฝีมือ และกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ชุดเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย ทนทาน และเหมาะสมกับสภาพอากาศ สีของชุดฮั่นฟูของชาวบ้านมักเรียบง่าย สีที่พบบ่อย ได้แก่ สีขาว สีดำ สีน้ำเงิน และสีเขียว สีเหล่านี้ไม่ดึงดูดความสนใจ และเหมาะกับงานทั่วไป

การออกแบบชุดฮั่นฟูของชาวบ้านมักมีการออกแบบที่เรียบง่าย กางเกงขายาว เสื้อตัวโคร่ง และเสื้อคลุม เป็นชุดทั่วไปสำหรับผู้ชาย ผู้หญิงมักสวมกระโปรงยาว เสื้อตัวโคร่ง และเสื้อคลุม

เมื่อเห็นเช่นนั้นจ้าวเว่ยเว่ยก็สั่งจากออนไลน์ทันที เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นชุดยุคไหนก็มีขายแบบสำเร็จรูปทั้งนั้น เธอสั่งไปทั้งของเด็กผู้ใหญ่ ผู้หญิง ผู้ชาย คละกันหลากหลายขนาดและสีสัน นอกจากนี้เธอยังได้สั่งให้พวกเขาส่งผ้าที่เป็นม้วนมาด้วยเลยเพราะถ้าไปอยู่ที่นั่นแล้ว เธอสามารถที่จะดูแฟชั่นของพวกเขาและออกแบบตัดตามได้ แบบนั้นก็จะง่ายด้วย

นอกจากนั้นก็ยังสั่งพวกผ้าป่าน ผ้าฝ้าย และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ พวกชุดเครื่องนอนอย่างไรล่ะ พวกเครื่องนอน หมอน ผ้าห่มของเธอจะต้องเป็นของดี เกรดท็อป หนานุ่ม เพราะเธอดูข้อมูลแล้วว่าที่นั่นเมื่อถึงฤดูหนาวแล้ว หิมะจะหนักมากและนานถึง 4-5 เดือนเลยทีเดียวแสดงว่าที่นั่นจะต้องลำบากมาก ดังนั้นนอกจากผ้าห่มหมอน มุ้งแล้วก็ยังต้องเตรียมพวกหมวก ถุงมือถุงเท้าไปด้วย และยังสั่งพวกไหมพรมไปด้วยเผื่อเธอว่างและอยากจะถักในฤดูหนาว

ถัดมาก็เป็นพวกของใช่ส่วนตัวพวกชุดชั้นใน กรรไกรตัดเล็บ ผ้าอนามัย เครื่องสำอางค์ ครีม สบู่ แชมพู่ ครีมนวดผม ครีมทาผิวต่างๆ ที่เธอใช้ประจำไปหลายสิบชุดเหมือนกัน

ทันใดนั้นเธอก็คิดได้ว่าถ้าหากว่าเธอต้องการที่ทำขายก็อาจจะเป็นอาชีพที่ดีก็ได้ คิดได้เช่นนั้นจ้าวเว่ยเว่ยก็รีบสั่งพวกขี้ผึ้ง น้ำมันพืช เช่น น้ำมันเมล็ดองุ่น น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมัน jojoba ไปด้วยเลย นอกจากนั้นก็เป็นพวกสีต่างๆ และหัวน้ำหอมก็เตรียมไปหลากหลายกลิ่น เท่าที่เธอดู ในราชวงค์หมิงนั้นจะใช้น้ำหอมจาก ดอกไม้ สมุนไพร และพวกเครื่องเทศต่างๆ รวมทั้งสีที่พวกเขาใช้เช่น

สีแดง : ได้จากชาด ดอกไม้ หรือดินแดง

สีชมพู: ได้จากดอกไม้ ผลไม้ หรือดินสอพอง

สีส้ม: ได้จากแครอท ฟักทอง หรือดินสอสี

สีม่วง: ได้จากลูกเบอร์รี่ ดอกไม้ หรือดินสอสี

สีดำ: ได้จากถ่าน ดินสอสี หรือหมึก ซึ่งสีเหล่านี้อาจจะเป็นอันตรายเพราะบางส่วนผสมในลิปสติกในยุคนั้น อาจเป็นอันตรายต่อผิวหนัง เช่น ดินแดง ดินสอสี หรือหมึก เพราะลิปสติกยุคโบราณ อาจไม่มีสารกันบูดที่ทันสมัย ควรเก็บไว้ในที่เย็น และปิดฝาให้สนิทได้เพราะว่ามีไม่สารกันบูด

จ้าวเว่ยเว่ยไม่ต้องการที่จะมีปัญหาเหล่านี้เธอจึงสั่งพวกสีสังเคราะห์และน้ำหอมก็เป็นหัวน้ำหอมจากฝรั่งเศสไปเลยก็แล้วกัน แต่ก็ยังไม่ลืมสั่งกลิ่นที่คิดว่าชาวราชวงค์หมิงทั้งหญิงชายจะชอบไปด้วย เช่นกลิ่นมะลิ กลิ่นกุหลาบ กลิ่นซากุระ กลิ่นไผ่ กลิ่นดอกท้อ และกลิ่นหอมหมื่นลี้พวกนี้

แน่นอนว่าเมื่อสั่งของพวกนี้ ก็ต้องมีวิธีการผลิต ซึ่งเธอก็ได้ปริ้นออกมาเป็นแผ่นๆ ไปด้วย ทั้งวิธีการผลิตสบู่ แชมพู่ ครีมนวด วิธีผลิตลิปสติกและเครื่องสำอางค์ตัวอื่นๆ ด้วย และเมื่อจะนำวิธีการผลิตไปด้วยแล้ว จ้าวเว่ยเว่ยก็หาวิธีการทำสิ่งของต่างๆ ไปด้วยเลยก็แล้วกัน ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเกลือ ผลิตน้ำตาล การเผ่าถ่าน วิธีการทำของหมักดองทั้งแบบเกาหลีจิมกิ(กิมจิ) หรือแบบจีน ญี่ปุ่น ไทย หรือทางตะวันตกที่ทำพวกชีส พวกเนย รวมทั้งวิธีการดัดแปลงการทำอาหาร การแปรรูปอาหารที่คนสมัยนี้ที่มีความชาญฉลาดเป็นอย่างมาก เธอก็ปริ้นข้อมูลเอาไปด้วยให้หมด และไม่ลืมวิธีการปลูกพืช การเพาะถั่วงอก การปลูกมันหวาน การปลูกข้าวโพดหรือแม้แต่การปลูกข้าวที่ถูกวิธี รวมถึงการปลูกเห็ดต่างๆ และการทำปุ้ยหมักด้วย และที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็เป็นการสร้างกังหันลม แบบจำลองการสร้างเขื่อน สร้างถนน การทำปูน ทำอิฐ กำแพง อะไรพวกนี้ เผื่อว่ามีโอกาสก็อาจจะได้ช่วยเหลือชาวบ้านได้ เพราะมันเป็นความรู้และเป็นประโยชน์ทั้งนั้นดังนั้นเอาไปด้วยเถอะ จ้าวเว่ยเว่ยคิด

เมื่อเสร็จจากหมวดจิปาถะแล้ว ก็มาถึงหมวดโครงสร้างต่างๆ เพราะไม่แน่เธออาจจะต้องสร้างบ้านใหม่ก็เป็นได้ ดังนั้นพวกอุปกรณ์การก่อสร้างต้องไปด้วยเช่นกัน พวกเหล็กต่างๆ ที่มีความแข็งแกร่งกว่าในยุคโบราณแน่นอน เพราะว่าไม่ได้เอาไปเยอะ เพียงแต่ว่าต้องครบเท่านั้นเอง ทำให้การจัดส่งไม่น่าจะยากมาก และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ไฟโซลาร์เซลล์ ที่ชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เธอสั่งแบบที่พลังวัตต์ที่สูงที่สุดไป เกือบ 100 ชุดเลยทีเดียว เอาให้พอเลยจะได้ไม่ต้องกังวลเวลากลางคืน และเมื่อมีไฟฟ้าแล้วเธอก็เลยแอบสั่งพวกแอร์และเครื่องทำความร้อน ตู็เย็น เตาอบขนม เตาแก๊ส ไปด้วยเอาไปไม่เยอะ เพียง 10ชุดเท่านั้น ถ้าหากว่าใช้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

เมื่อตรวจดูอีกครั้งพวกอุปกรณ์ก่อสร้างน่าจะครบเธอน่าจะสร้างบ้านได้แบบไม่มีปัญหา แต่เดียวก่อน.... ทำไมถึงไม่เอาบ้านแบบสำเร็จไปด้วยเลยล่ะ มันมีขายนี่นา ที่เป็นบ้านแบบน็อคดาวน์ ซึ่งแบบนั้นสะดวกและสวยด้วย เธอสามารถที่จะพักเองหรือ ถ้าหากมีญาติก็สามารถที่จะให้พวกเขาเข้าพักได้นี้น่า เมื่อคิดได้เช่นนั้น ( fc ที่รักท่านหนึ่งส่งมาบอกว่าต้องการบ้านน็อคดาวน์จ้า 5555) จ้าวเว่ยเว่ยก็รีบหาแบบและกดสั่งมาทันที 20 แบบ ซึ่งแต่ละแบบนั้นทำสวยงามเหมือนกับรีสอร์ทเลยทีเดียว แบบนี้ค่อยน่าอยู่หน่อย

หลังจากสั่งของเสร็จ ต่อมาจ้าวเว่ยเว่ยก็หาเช่าโกดังเพื่อให้พวกเขามาส่งของซึ่งก็โชคดีที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมากนัก เป็นโกดังขนาดใหญ่เลยทีเดียว เมื่อทำการจองและจ่ายเงินเสร็จ เธอก็ได้ว่าจ้างให้ทางเจ้าของหาคนมารับของให้ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร จ่ายเงินแล้วทุกอย่างสะดวกมาก

เอาหล่ะตอนนี้ถึงเวลาที่เธอจะต้องไปที่ห้างสรรพสินค้าแล้ว เพราะถึงแม้จะคิดว่าตัวเองสั่งของครบหมดแล้ว แต่ว่า คำว่า'ช็อปปิ้ง' นั้นจะไม่สมบูรณ์ถ้าไม่ได้ไปด้วยตัวเอง คิดเช่นนั้นจ้าวเว่ยเว่ยก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและหยิบกุญแจรถ และขับไปที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลทันที เธอยังคิดว่าจะแวะไปดูร้านขายของเก่าร้านนั้นด้วย เพราะว่า...เธอสงสัยนะสิ....

*** ขนเอาความรู้จากยุคปัจจุบันไปฝากคนยุคโบราณเยอะๆ เลย ไม่รู้ว่าเจ้ากระจกนะอนุญาตหรือเปล่าสินะ***

ถึงรีดที่รัก 

ถ้าชื่นชอบน้องเว่ยอย่าลืม กดเพิ่มเข้าขั้น กดหัวใจ และคอมเมนต์มาเป็นกำลังใจให้กันนะคะ 

ขอบคุณมากค่ะ 

บทที่เกี่ยวข้อง

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 6 มีคนตั้งมากมายทำไมถึงเลือกฉัน?

    บทที่ 6 มีคนตั้งมากมายทำไมถึงเลือกฉัน?เมื่อถึงห้างสรรพสินค้า จ้าวเว่ยเว่ยก็ตรงไปที่แผนกซุปเปอร์มาเก็ตก่อนเป็นอันดับแรก เธอเดินซื้อของหยิบของที่ต้องการเอานำไปด้วยพวกขน นม เนย ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ อาหารสดอาหารแห้งอาหารแช่แช็งและเครื่องปรุงต่างๆ เพิ่มเต็มเพราะบางอย่างเธอก็ไม่สามารถที่จะสั่งออนไลน์ได้ เมื่อได้ของเต็ม 3 รถเข็นเธอก็ทะยอยของไปไว้ที่รถก่อน เมื่อของอยู่ในรถก็ค่อยเก็บเขาจี้กระจกอีกที เธอทำแบบนี้หลายรอบจนเหนื่อยหอบไปเลยเหมือนกันจากนั้นเธอก็นั่งพักที่ร้านขายชา และสั่งชาชั้นเลิศไปอีกหลายชนิด จากนั้นก็ตรงไปที่แผนกเครื่องครัว จ้าวเว่ยเว่ยช้อปพวกจานชามตะเกียบสวยๆ หรูหรา ไปมากมายหลายสิบชุด แต่ก็มีพวกจานชามแบบธรรมดาที่จะใช้ในชีวิตประจำวันด้วยอีกหลายสิบชุด พวกเครื่องครัว หมอ มีด เขียง ทัพพี เอาไปหมด จ้าวเว่ยเว่ยเดินไปทุกแผนกทุกชั้น จนตอนนี้ขาเธอแทบจะไม่มีแรงแล้ว ไม่คิดเลยว่าการช้อปปิ้งมันจะเหนื่อยขนาดนี้ มันยิ่งกว่าการยืนผ่าตัดทั้งวันอีกนะเนี้ยเธอคิดขณะที่ขับรถออกมาจากห้างสรรพสินค้าในเวลาใกล้จะมืดแล้ว เพื่อไปที่ร้านขายของเก่าร้านนั้นเมื่อรถใกล้จะถึงเธอก็จอดและเดินไปเพราะว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 7 ณ ชนบทที่ห่างไกลในยุคราชวงค์ต้าหมิง ปี 1360 

    บทที่ 7 ณ ชนบทที่ห่างไกลในยุคราชวงค์ต้าหมิง ปี 1360 เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งวันก็จะครบ 5 วันตามที่เจ้ากระจกโบราณบอกเอาไว้ จ้าวเว่ยเว่ยนั้นเก็บของทุกอย่างหมดแล้ว ตอนนี้เธอเหลือเวลาอีกเพียง 1 วันเท่านั้นที่จะได้อยู่ยุคนี้ หลายวันที่ผ่านมานอกจากเก็บของเพื่อนำไปใช้ที่ยุคอดีต เธอก็โทรหาอาจารย์ที่เคยสั่งสอน เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักทั้งที่ทำงานและที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และวันนี้เธอก็ได้นัดกับแม่ๆ ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าว่าจะเข้าไปเยี่ยมพวกเขาด้วยดังนั้นวันนี้เธอจึงถือโอกาสเดินทางไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อพบกว่าน้องๆ และแม่ๆ ที่เลี้ยงดูเธอมาเป็นครั้งสุดท้าย แน่นอนว่าทุกครั้งที่เธอไป เธอจะขนขนม นม เนยเสื้อผ้ามากมายไปฝากน้องๆ ด้วย วันนี้ก็เช่นกัน ขณะที่เธอกำลังจอดรถนั้นเองเสี่ยวเปาเด็กชายอายุ5 ครบก็วิ่งมาหาเธออย่างรวดเร็วสีหน้าของเขานั้นตื่นตกใจมาก“พี่สาว! พี่สาวมาแล้ว!! พี่สาวช่วยด้วย!! ช่วยแม่ใหญ่ด้วย” เจ้าเสี่ยวเปาเมื่อวิ่งมาถึงเธอก็พูดรัวเร็ว จนจ้าวเว่ยเว่ยนั้นฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบาง แต่จากนั้นมือของเธอก็ถูกเจ้าเสี่ยวเปาลากไปที่ห้องของแม่ใหญ่ทันทีเสียงฝีเท้าที่รีบเร่งดังก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 8 ทะลุมิติมาแล้ว

    บทที่ 8 ทะลุมิติมาแล้วจ้าวเว่ยเว่ยค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาด้วยความอยากลำบาก ความรู้สึกเจ็บปวดที่ศีรษะนี้มันอะไรกัน ไม่ใช่ว่าแม่ใหญ่หรอกหรือที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แต่ทำไมเธอถึงได้เจ็บด้วยล่ะ เธออยากจะรีบตื่นขึ้นมา แต่ก็ต้องสิ้นหวังเพราะร่างกายของตนกลับแข็งทื่อ เปลือกตาหนักอึ้งดั่งภูเขา อยากจะบอกให้เสียงร้องไห้เหล่านี้หยุดสักที แต่ปากของเธอกลับแข็งไม่มีแรงแม้แต่จะพูดอะไรออกมา ไม่มีแรงจะทำอะไรได้เลย ทำได้เพียงกลอกตามองไปรอบๆ ตัว และมองไปยังคนที่นั่งร้องไห้ข้างๆ เธอทีละคน“ท่านพี่! .. พี่ใหญ่ ..เว่ยเว่ยลูกแม่เจ้าฟื้นแล้ว…”สามเสียงของเด็กน้อยและผู้ใหญ่ช่างบีบคั้นหัวใจเหลือเกินทำไมเธอรู้สึกเจ็บปวดเสียใจนะ เธอไม่ได้รู้จักพวกเขาเสียหน่อยหัวใจของจ้าวเว่ยเว่ยเกิดบางสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้จนเจ็บแปล๊บเล็กน้อยและต้องการปลอบโยนคนเหล่านั้นจากใจจริง แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีเรี่ยวแรงใด ๆ ที่จะทำเช่นนั้นได้มีมือมากมายที่ค่อยจับค่อยลูบไปตามเนื้อตัวและแขนขาของเธอเหมือนพยายามจะหาว่ามีบริเวณไหนบ้างที่เธอเจ็บปวดพวกเขาจะได้ช่วยคลายความเจ็บปวดให้ จ้าวเว่ยเว่ยมองไปรอบๆ ห้องที่เธอนอนอยู่อีกครั้งสิ่งแรกที่เห็นคือเพดา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-29
  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 9 ครอบครัวเจ้าสี่ได้รับความอยุติธรรม

    บทที่ 9 ครอบครัวเจ้าสี่ได้รับความอยุติธรรม“เว่ยเว่ย ลูกแม่ / พี่ใหญ่ พี่ใหญ่” สามเสียงประสานกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้จ้าวเม่ยตรงเข้าไปและมองดูลูกสาวใกล้ๆ เมื่อเห็นว่าลูกสาวเพียงเป็นลมไปเท่านั้นก็ถอนหายใจ ให้เจ้าเด็กน้อยทั้งสองไปหาผ้าชุบน้ำเพื่อจะเช็ดหน้าเช็ดตาให้ลูกสาวของนางเมื่อได้ผ้ามานางก็ค่อยๆ เช็ดไปตามใบหน้าแห้งผอมของลูกสาวคนโต และมองไปที่ผ้าที่พันอยู่บนศีรษะที่มีเลือดซึมออกมานิดหน่อยแล้วถอนหายใจ พลางคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า.....เมื่อเช้าตัวนางออกไปทำงานที่นาแต่เช้าโดยให้ลูกชายและลูกสาวคนเล็กดูแลพี่สาวที่นอนป่วยไม่มีเรี่ยวแรงมา 3-4 วันแล้ว โดยนางได้บอกให้พวกเขาอยู่แต่ในห้องไม่ต้องออกมาทำงานบ้าน โดยนางจะกลับมาทำเองเมื่อทำงานที่นาเสร็จ เด็กๆ ก็ตกลงและเข้าไปนั่งข้างๆ เตียงของพี่สาวของพวกเขาขณะที่นางกำลังถอนหญ้าที่อยู่ในนานั้น ป้าถงป้าที่อยู่ข้างบ้านก็รีบเดินมาหานางเพียงตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงร้อนรน“จ้าวเม่ย จ้าวเม่ย เจ้ายังทำอะไรอยู่ที่นี่ บ้านของเจ้าเกิดเรื่องแล้ว ยังไม่รีบกลับไปอีก”จ้าวเม่ยนวดเอวที่กำลังปวดเมื่อยขึ้น ในมือถือยังมีหญ้าที่ถูกถอนออกจากแปลงนาอยู่กำใหญ่“ยังเหลืองานต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 10 ถูกไล่ออกจากบ้าน

    บทที่ 10 ถูกไล่ออกจากบ้าน“ไล่ออกจากบ้านอย่างนั้นหรือ?”เมื่อจ้าวเว่ยเว่ยฟื้นขึ้นมาจากการสลบจ้าวเม่ยก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ลูกสาวฟังว่า ทุกคนในครอบครัวตระกูลจ้าวก็ต่างโกรธแค้นนางตบหน้าสะใภ้ใหญ่ และต้องการขับไล่พวกนาง 4 แม่ลูกออกจากบ้านตระกูลจ้าวไปโดยทันที นางจ้าวเม่ยรู้สึกเสียใจและตกใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เธอรู้ดีว่าความใจร้อนของเธอสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวแล้ว แต่ในตอนนั้นที่เห็นลูกสาวนอนอยู่ด้านนอกเหมือนของไร้ค่า ไม่มีใครเหลียวแลเอาใจใส่ ความโกรธก็พลุ่งพล่านจนอดไม่ได้ที่จะลงมือตบสะใภ้ใหญ่ไปหลายฉาดแม้ต่อมานางจ้าวเม่ยพยายามอธิบายให้ครอบครัวตระกูลจ้าวฟังว่าเธอทำไปด้วยความโกรธและห่วงใยลูกสาว แต่ครอบครัวตระกูลจ้าวก็ไม่ฟัง พวกเขาตัดสินใจเด็ดขาดที่จะขับไล่พวกนางสี่แม่ลูกออกจากบ้านทันที“แม่ขอโทษนะลูกที่ทำให้พวกลูกต้องลำบากแล้ว"ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย ครอบครัวจ้าวต่างโกรธแค้นนางจ้าวเม่ยที่ลงมือตบหน้าสะใภ้ใหญ่โดยทำเป็นหลงลืมประเด็นที่ว่าทำไม สะใภ้ใหญ่และแม่เฒ่าจ้าวถึงได้เข้ามาค้นหาเงินในห้องของนางจ้าวเม่ย ซึ่งจ้าวเว่ยเว่ยที่เพิ่งฟื้นและตอนนี้เธอก็ได้รับรู้ความท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 11 ต้องการตั้งตระกูลใหม่

    บทที่ 11 ต้องการตั้งตระกูลใหม่เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเดินมาถึงก็ได้ยินประโยคนั้นของแม่เฒ่าจ้าวพอดีเขาถึงกับก็ส่ายหน้า สตรีตระกูลนี้ทั้งอำมหิตและไร้ยางอายจริงๆ แบบนี้เขาคงต้องเตือนญาติๆ แล้วว่าห้ามเกี่ยวดองด้วยเด็ดขาด มิเช่นนั้นคงได้ปวดหัวและบ้านไม่สงบสุขแน่นอน เพราะแม่เป็นเช่นไร ลูก ๆ หลานๆ ก็ย่อมไม่หนีกันอยู่แล้วจ้าวเม่ยรู้สึกเจ็บใจมาก คนในบ้านหลังนี้นอกจากพี่สามจ้าวหลี่หยาง ที่เรียนอยู่ในเมืองแล้วนางไม่ไม่เคยรับรู้ถึงน้ำใจและความอบอุ่นแม้สักเสี้ยวเดียว ทุกคนล้วนเห็นนางต่างวัวต่างม้า ทว่านางก็ยึดที่แห่งนี้เป็นบ้านของตนมาโดยตลอด ดังนั้นถึงจะลำบากและเหนื่อยล้าเพียงใด ได้รับความไม่เป็นธรรมถึงเพียงไหน นางก็ไม่เคยบ่น และยังพยายามที่จะเอาใจพวกเขาด้วย เพราะกลัวว่าลูกๆ ของนางที่ไม่มีพ่อคอยปกป้องจะถูกรังแก แต่ว่ายิ่งนางยอมพวกเขาก็ยิ่งได้ใจและข่มเหงครอบครัวนางมากขึ้นอีก ทว่าวันนี้ ในที่สุดนางก็ฟื้นสติอย่างเต็มที่แล้วพร้อมกับบางสิ่งบางอย่างในตัวนางที่เริ่มฟื้นขึ้นมาเหมือนกัน บ้านหลังนี้ไม่ต้องการนางและลูกๆ ของนางถึงนางจะพยายามแทบตายก็คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ดังนั้นการจากไปอาจจะเป็นการเริ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 12หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์

    บทที่ 12หนังสือตัดขาดความสัมพันธ์“ไม่มีอะไรหรอกลูกสาม ครอบครัวของสะใภ้เล็กนั้นเกียจคร้าน ไม่ทำการทำงาน และตอนนี้ก็กำเริบเสิบสานถึงขนาดทำร้ายสะใภ้ใหญ่ จนหน้าตาเละเทะไปหมด แม่ทนไม่ได้ก็เลยให้พวกมันออกจากบ้านเราไป”นางจ้าวเล่าเรื่องราวในส่วนของตัวเองและทำให้ครอบครัวของจ้าวเม่ยนั้นดูเลวร้ายมากที่สุดในสายตาของลูกชาย จ้าวหลี่หยางนั้นรู้นิสัยแม่ของเขาและคนในครอบครัวดี มันเป็นไปไม่ได้ที่สะใภ้เล็กจ้าวเม่ยจะเกียจคร้าน เพราะที่บ้านนี้คนที่ทำงานมากที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้นก็คือ จ้าวเม่ยนั้นเอง ดังนั้นเขาจึงไม่เชื่อที่ท่านแม่ของเขาพูดมา เขาหันไปมองหน้าจ้าวเม่ยและหลานๆ และเมื่อสายตาของเขาไปถึงจ้าวเว่ยเว่ยก็เห็นผ้าพันแผลสีขาวที่พันเอาไว้ ความสงสัยยิ่งเพิ่มขึ้น เขาหันมามองหน้าแม่ของเขาอีกครั้ง สายตาของเขาเต็มไปด้วยคำถาม นางจ้าวเมื่อเห็นลูกชายที่รักมองมาที่ตนแบบนั้นก็เกิดอาการร้อนรนขึ้นมาทันที“เออ เออ ..ก็นังเด็กนั้นมันไม่เชื่อฟังแม่ แม่กับพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้าแค่ตีสั่งสอนเล็กน้อยและนังเด็กนั้นก็ล้มลงไปหัวกระแทกเองนะ ไม่เกี่ยวอะไรกับแม่เลย”คำพูดปัดสวะให้พ้นตัวที่นางจ้าวพูดออกมาแบบไม่อายปากนั้นทำใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30
  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 13 ของในพื้นที่มิติตามมาครบหรือเปล่านะ?

    บทที่ 13 ของในพื้นที่มิติตามมาครบหรือเปล่านะ?หนังสือตัดความสัมพันธ์ถูกส่งให้ทั้งสองครอบครัวคนละหนึ่งชุดและสำหรับหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อนำไปแจ้งที่อำเภออีกหนึ่งชุดเป็นอันว่าเสร็จตอนนี้ทั้งสองครอบครัวถือไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป ขณะที่จ้าวเม่ยกับลูกๆ กำลังช่วยกันหอบข้าวของ และช่วยกันประคองจ้าวเว่ยเว่ยอยู่นั้น จ้าวหลี่หยางก็เดินตามมาช่วยหยิบของด้วยเช่นกันตอนนี้พวกเขาตกลงกันที่จะไปเช่าบ้านของน้องชายของหัวหน้าหมู่บ้านอยู่ก่อนระหว่างที่รอการสร้างบ้านบนที่ดินร้างแห่งนี้ ซึ่งหัวหน้าหมู่บ้านนั้นด้วยความสงสารครอบครัวของเจ้าเม่ยเขาจึงคิดค่าเช่าเพียง 120 อีแปะต่อเดือน ซึ่งถ้าเป็นปรกติการเช่าบ้านเป็นหลังราคาจะอยู่ที่ 200-300 อีแปะต่อเดือนเลยทีเดียวซึ่งจ้าวเม่ยนั้นทราบราคาดีและนางก็ก้มขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านหลายครั้งเช่นกันที่ยื่นมือช่วยเหลือคราวนี้แต่ปัญหาต่อมาของครอบครัวจ้าวก็คือตอนนี้ทั้งครอบครัวพวกเขามีเงินอยู่เพียง 100 อีแปะที่จ้าวเม่ยพยายามเก็บสะสมมานานแต่ว่ามันยังขาดอยู่20 อีแปะ จ้าวเม่ยนั้นเครียดจัดตาแดงเพราะกลัวว่าจะไม่มีบ้านให้ลูกของเธออยู่ เพราะตอนนี้จ้าวเว่ยเว่ยก็ยังไม่หายดี ป้าถงที่มองดูเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-30

บทล่าสุด

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 30 โรงประมูลพยัคฆ์แดง

    บทที่ 30 โรงประมูลพยัคฆ์แดงหลังจากท่านแม่เดินไปหลังบ้านเพื่อดูเจ้าม้าเหงื่อโลหิตอยู่ครู่หนึ่งเมื่อนางเดินกลับมาจ้าวเว่ยเว่ยสังเกตเห็นหน้าผากของนางนั้นมีเหงื่อขึ้นมาตรงไรผมเล็กน้อยทั้งๆ ที่ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นแล้วก็ตาม นี่คงไม่ได้ไปทำอะไรมาอีกหรอกนะเจ้าค่ะท่านแม่! จ้าวเว่ยเว่ยคิด จากนั้นทั้งสี่แม่ลูกก็กระโดดขึ้นรถม้าที่ท่านแม่เตรียมจะขับออกจากบ้าน จ้าวเว่ยเว่ยเมื่อขึ้นมาบนรถม้าก็มองน้องๆ ที่ตอนนี้หาที่เกาะกันคนละมุมในรถม้าแล้วปากกระตุกนิดหน่อยพลางคิดว่าในใจว่า ไม่เหลือที่ให้พี่ใหญ่เกาะเลยนะเจ้าพวกนี้!แน่นอนด้วยการซิ่งแบบตีนผีของท่านแม่รถม้าของพวกเขามาถึงเมืองฟงในเวลาน้อยกว่าครึ่งชั่วยามเท่านั้นซึ่งเป็นการทำลายสถิติเดิมที่ท่านแม่เคยทำเอาไว้เสียด้วยซ้ำ ในตอนที่เด็กๆ ลงจากรถม้า จ้าวเว่ยเว่ยและน้องๆ ถึงกับขาสั่นอยู่สักครู่ถึงได้ยืนกันได้แบบปรกติ พลางคิดกันในใจว่า สรุปว่าที่ผ่านมาคนอื่นเขาขับรถม้ากันไม่เป็นหรือว่าเป็นท่านแม่นั้นเข้าถึงศาตร์ด้านการขับรถม้าอย่างถ่องแท้กว่าพวกเขากันแน่!!!!ส่วนท่านแม่นั้นพอได้ออกมาซิ่งสีหน้าก็สดชื่นมากทีเดียว เพราะว่าตอนนี้อากาศเริ่มจะเย็นลงมากแล้ว ทำให้ตลา

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 29 ปรมาจารย์ผู้ลึกลับ(มาก) 

    บทที่ 29 ปรมาจารย์ผู้ลึกลับ(มาก) เมื่อวางแผนการใหญ่ที่จะปลูกพืชผักเอาไว้ให้มากมายเพราะจากที่อ่านประวัติของราชวงค์ต้าหมิงมานั้นในปีนี้พวกเขาจะประสบกับภัยหนาว ภัยแล้ง ดังนั้นสิ่งที่จ้าวเว่ยเว่ยต้องเตรียมการให้พร้อมนั้นคือ เงิน เงิน และเงิน เพื่อที่จะหาพื้นที่ปลูกให้ได้มากที่สุด และกักตุนไว้เป็นเสบียงอาหารเอาไว้มากๆ เพื่อช่วยชาวบ้านในยามวิกฤตมาถึง สิ่งที่จ้าวเว่ยเว่ยจะปลูกอย่างแรกคือจะต้องเป็นพืชที่ให้ผลผลิตมาก เก็บผลผลิตได้เร็วและที่สำคัญคือสามารถกินแทนข้าวได้ยามเมื่อเจอภัยแล้งสวนพริกนั้นนางปลูกเอาไว้ไม่เยอะมากนัก เอาไว้หากมักแพร่หลายค่อยให้ชาวบ้านปลูกและรับซื้อแบบนั้นจะเป็นการเพิ่มช่องทางการทำมาหากินให้ชาวบ้านจากที่นางศึกษามาพืชที่เหมาะสมที่จะปลูกคือมันฝรั่ง มันเทศและถั่วเหลือง นั้นเอง มันฝรั่ง ทนแล้งได้ดี สามารถเจริญเติบโตในสภาพอากาศที่แห้งแล้ง โดยอาศัยน้ำจากดินเพียงเล็กน้อยส่วนมันเทศ ทนแล้งได้ปานกลาง ต้องการน้ำมากกว่ามันฝรั่ง แต่ยังสามารถเจริญเติบโตในสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้ถั่วเหลือง ทนแล้งได้ปานกลาง สามารถเจริญเติบโตในสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้ ระยะเวลาการปลูกของมันฝรั่ง มันเทศ และถ

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 28 วางแผนการใหญ่

    บทที่ 28 วางแผนการใหญ่การจ่ายเงินและแลกของเสร็จสิ้นในเวลา 1 ชั่วยาม ลานหน้าโกดังก็กลับมาเงียบสงบอย่างที่มันเคยเป็น ทันใดนั้นลมหนาวก็พัดอ่อนๆมาปะทะหน้าของจ้าวเว่ยเว่ยที่ยืนมองครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านที่มาช่วยงานในวันนี้เต็มกำลังทั้งบ้านจริงๆ นางเดินเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับข้าวของมากมายเต็มสองมือ และแน่นอนว่ามีค่าจ้างและสินน้ำใจให้พวกเขาด้วยเช่นกัน คือ 10 ตำลึงหัวหน้าหมู่บ้านมองในมือของเจ้าเด็กน้อยเว่ยเว่ยที่เต็มไปด้วยข้าวของที่มีพวกเนื้อหมู 2 จิ้น เกลือ1 จิ้น น้ำตาล 1 จิ้นและผ้าพับอีก 2 ผับและยังมีถุงลูกอมให้หลานๆ ของเขาอีก 2-3 ถุง ที่นางจะมอบให้กับพี่สะใภ้ทั้งสองที่มาช่วยด้วย หัวหน้าหมู่บ้านมองหน้าของนางที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า“พวกข้าปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วใช่หรือไม่?” หัวหน้าหมู่บ้านเจียงไห่เกิดการเรียนรู้เหมือนกันว่าไม่ควรปฎิเสธครอบครัวนี้เมื่อพวกเขาต้องการอะไร“ใช่แล้วเจ้าค่ะ” เจ้าเว่ยเว่ยพยักหน้าขึ้นลง และเอ่ยว่า "อีกอย่างข้าก็มีเรื่องจะปรึกษาหัวหน้าหมู่บ้านด้วยเจ้าค่ะ คือหากว่าข้าอยากจะซื้อที่เพิ่มเพื่อปลูกพืชผัก ที่หมู่บ้านเรายังจะมีที่เหลือหรือไม่เจ้าคะ”เพราะว่าหมู่บ

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 27 ภารกิจอันยิ่งใหญ่

    บทที่ 27 ภารกิจอันยิ่งใหญ่เมื่อถึงเวลายามโหย่ว (6 โมงเย็น) หัวหน้าหมู่บ้านก็ตีเกราะเป็นสัญญาณว่าวันนี้เลิกงานแล้วเหล่าคนที่ถูกจัดให้เป็นหัวหน้างานที่ถูกแบ่งเอาไว้ 10 คน ก็เริ่มออกเดินตรวจงานตามแปลงที่แบ่งให้แต่ละครอบครัว พวกเขาหายไปไม่ถึงครึ่งเคอก็กลับมาพร้อมกับพยักหน้าว่าทุกอย่างและงานทุกแปลงนั้นเรียบร้อยดีมาก แม้กระทั่งของครอบครัวแม่เฒ่าชุนที่ได้รับแบ่งไปก็เรียบร้อยมากเช่นกันพวกเขาทั้งหมดก็เดินกลับมาที่โกดังซึ่งตอนนี้ในนั้นเปิดกว้างออกมา เมื่อทุกคนมาถึงก็ถึงกับตกใจเพราะว่าของในโกดังนั้นเยอะมาก และมันถูกจัดเรียงเอาไว้อย่างเป็นระเบียบอีกด้วย เหมือนกับการจัดของในร้านในเมืองฟงที่พวกเขาไปบ่อยๆ แต่ว่าการจัดที่นี่นั้นเป็นระเบียบและหาของได้ง่ายกว่ามากด้านหน้ามีโต๊ะของหัวหน้าหมู่บ้านเจียงไห่จงและลูกชายคนโตของเขาเจียงต้าเจี้ยนและลูกชายคนที่สองเจียงเอ่อหลานที่คนหนึ่งนั่งอยู่และมีรายชื่อของลูกบ้านที่ทำงานในวันนี้ ด้านข้างเป็นลูกชายคนรองที่กำลังเปิดหีบและนำพวงเงินอีแปะและเงินตำลึงเงินออกมา วางบนโต๊ะโต๊ะด้านข้างเป็นลูกสะใภ้ของเขาที่วันนี้มาช่วยทั้งสองคน ซึ่งพวกเขาทั้งสองคนจะเป็นคนรับคำสั่งจาก

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 26 กักตุนอาหาร

    บทที่ 26 กักตุนอาหารวันต่อมา ตอนนี้การทำความสะอาดบริเวณที่จะสร้างบ้านได้เริ่มแล้ว จ้าวเว่ยเว่ยและท่านแม่จ้าวเม่ยนั้นหลังจากขนซื้อข้าวของมามากมายก็ขนไปที่โกดังของหมู่บ้านที่ตอนนี้หัวหน้าหมู่บ้านได้ให้กุญแจกับสองแม่ลูกเป็นคนถือ เมื่อนำของที่ซื้อมาขนเข้าไปด้านใน จ้าวเว่ยเว่ยก็ให้แม่ของนางออกมาดูต้นทาง ส่วนตัวเองนั้นเข้าไปเพิ่มจำนวนของภายในโกดังเพราะว่านางซื้อของทุกอย่างมาอย่างละแค่ 10 ชุด แต่ว่าจากจำนวนคนที่หัวหน้าบอกว่าจะมาทำงานให้บ้านนางนั้นคือ 40 ครอบครัว ก็ตกประมาณ 200-250 คน นางจึงเพิ่มจำนวนของเอาไว้เสียเลย เพราะหากว่าชาวบ้านต้องการที่จะกักตุนอาหารในช่วงนี้ก็จะได้มีให้พวกเขาเลย เพราะหลังจากสัปดาห์นี้เถ้าแก่ที่นางซื้อข้าวของพวกนี้ด้วยต่างบอกกันว่า ปีนี้หิมะจะมาเร็วทำให้ราคาของอาหารและข้าวของจะขึ้นแล้วให้พวกนางรีบซื้อไปมาเพิ่มนอกจากขนข้าวของมาเยอะแยะแล้วจ้าวเว่ยเว่ยยังไปแลกเงินที่ร้านรับแลกเงินของทางการที่เมืองฟงเปิดเอาไว้ด้วย คล้ายๆ กับเป็นธนาคารในยุคปัจจุบันนั้นล่ะ เพราะว่าการจ่ายเงินให้กับชาวบ้านพวกนางน่าจะต้องใช้เงินอีแปะเป็นจำนวนมากดังนั้นนางจึงมาแลกไปเลย เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านจ

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 25 แขกผู้สูงศักดิ์

    บทที่ 25 แขกผู้สูงศักดิ์“เชิญคุณหนูเลือกดูอาหารสดด้านนี้ขอรับ ทางร้านของเรามีเนื้อสัตว์เกือบทุกประเภท”เมื่อหลงจู๊พาจ้าวเว่ยเว่ยมาถึงห้องครัวก็เรียกหัวหน้าพ่อครัวมาและแนะนำให้รู้จัก หัวหน้าพ่อครัวนั้นตั้งแต่ตอนที่ได้กินอาหารที่ใส่ผงวิเศษของคุณจ้าวเว่ยเว่ยที่ท่านหลงจู๊แนะนำแล้วตอนนี้เขาถือว่าตัวเองเป็นแฟนคลับเบอร์สองของคุณหนูจ้าวเว่ยเว่ยแล้ว เพราะเบอร์หนึ่งนั้นท่านหลงจู๊เอาไปก่อนเขา เมื่อจ้าวเว่ยเว่ยเดินมาเห็นพวกอาหารสดที่จัดเอาไว้อย่างดีของทางร้านก็ค่อนข้างประทับใจนางเดินดูอยู่ครู่หนึ่งก็ได้พวกของทะเลมา ทั้งกุ้ง ปู หมึกทะเลตัวใหญ่ เมื่อได้มาแล้วนางก็หาที่รัดแขนเสื้อเพื่อลงมือทำต้มยำทะเลน้ำข้นทันที ขณะนั้นเองเหล่าพ่อครัวก็ถอยออกมาอย่างรู้ธรรมเนียม เพราะว่าสูตรอาหารนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางสูตรนั้นสืบทอดกันมาจากต้นตระกูลหลายร้อยปีเลยทีเดียวจ้าวเม่ยเม่ยนั้นไม่ได้คิดมากขนาดนั้นเพราะว่าในยุคที่นางจากมานั้นทั้งความรู้และสูตรอาหารต่างก็เปิดเผยในอินเทอร์เน็ตทั้งหมดไม่ว่าอยากจะทำจะทานอะไรก็สามารถทำได้หาได้อย่างง่ายดาย เมื่อได้ของทะเลมานางก็ลงมือจัดการกับพวกเครื่องปรุงและส่วนผสมทันทีให้พร้

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 24 ต้มยำทะเลน้ำข้น

    บทที่ 24 ต้มยำทะเลน้ำข้นอาหารจานเนื้อผัด 3 จาน อาหารจานผักผัด 2 จาน ที่ใส่ผงปรุงรสถูกส่งขึ้นไปที่ห้องพิเศษของแขกผู้สูงศักดิ์ท่านนั้นทันที ส่วนหมูตุ๋นนั้นเพราะต้องใช้เวลาทำให้ยังไม่สามารถที่จะยกไปบริการได้ แต่ว่ากลิ่นหลังจากนั้นที่ตุ๋นมาไปสักพักนั้นมันช่างหอมหวนเสียจริงๆ ส่วนแขกด้านนอกนั้นเมื่อเห็นว่าทางร้านเริ่มผัดอาหารที่หอมขนาดนั้นออกมา ก็กระหน่ำสั่งอีกทันทีถึงแม้บางโต๊ะนั้นใกล้จะอิ่มแล้วแต่ว่าเพราะไม่อาจจะอดทนกับกลิ่นที่หอมของอาหารที่โต๊ะด้านข้างสั่งได้จึงต้องสั่งมากินอีกจนได้ และก็เหมือนกันกับหลงจู๊ที่เมื่ออาหารเข้าปากสีหน้าเคลิบเคลิ้มของลูกค้าที่กินอาหารนั้นทำให้หลงจู๊ที่แอบมองนั้นถึงกับยิ้มกว้างเลยทีเดียว“ท่านหลงจู๊ผงวิเศษพวกนี้เหลือน้อยเต็มทีแล้วนะขอรับ ท่านไปได้มาจากไหนกัน รีบไปเอามาเพิ่มเถอะขอรับ ตอนนี้ยังมีอีกหลายสิบจานที่ยังทำไม่ทัน ข้ากลัวว่ามันจะไม่พอ” ขณะที่หลงจู๊กำลังแอบมองเหล่าลูกค้าที่แย่งกันคีบอาหารในจานจนมีหลายโต๊ะถึงขั้นเริ่มจะมีปากเสียง จนต้องหันมาสั่งจานนั้นเพิ่ม ก็ได้ยินเสียงเหล่าพ่อครัวตะโกนบอกเขาพลันเขาก็เห็นคุณหนูน้อยท่านนั้นและครอบครัวกำลังจะออกจากร้านพอ

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 23 ผงปรุงรส

    บทที่ 23 ผงปรุงรสตัดมาที่กล่องที่เก็บกระจกวิเศษของจ้าวเว่ยเว่ย ตอนนี้รอยร้าวของมันนั้นได้ประสานกันยาวขึ้นมาอีก 10 เซ็นติเมตาเลยที่เดียวหากจ้าวเว่ยเว่ยเห็นก็คงจะสงสัยเหมือนกันว่าการช่วยคนๆ นี้คนเดียวทำไมรอยร้าวถึงได้ประสานกันได้ยาวขนาดนี้ เมื่อคณะของใต้เท้าหวังจากไป ภัตตาคารเจียหลินก็กลับมาต้อนรับลูกค้าใหม่อีกครั้ง หลงจู๊จงหย่ง นั้นเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกที่เด็กสาวคนนั้นเข้าช่วยเหลือใต้เท้าหวัง เขาจึงรีบเดินเข้าไปและโค้งคำนับและเชิญพวกนางขึ้นชั้นสองที่เป็นห้องพิเศษ ความจริงแล้วภัตตาคารแห่งนี้นั้นเป็นของตระกูลของใต้เท้าหวังนั้นเอง“เชิญคุณหนูและฮูหยินขอรับ วันนี้พวกท่านได้ช่วยเหลือใต้เท้าหวังทางภัตตาคารเจียหลินขอเป็นตัวแทนใต้เท้าเลี้ยงอาหารมื้อนี้นะขอรับ ขอคุณหนูอย่างได้ปฎิเสธเลยนะขอรับ” หลงจู๊รีบพูดกันเอาไว้ก่อนที่จ้าวเว่ยเว่ยจะปฎิเสธ“เช่นนั้นก็ขอรับกวนท่านหลงจู๊ด้วยนะเจ้าคะ”จ้าวเว่ยเว่ยเมื่อเห็นว่าไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้จึงได้ยอมรับน้ำใจของเขาในครั้งนี้ขณะที่รออาหารจ้าวเม่ยก็มองจ้องมาที่ลูกสาวคนโตของนางอย่างพิจารณา จะบอกว่านางไม่ใช่ลูกสาวของนางก็ไม่ใช่เพราะว่าทุกอย่างยังเป็นปรกติ

  • จ้าวเว่ยเว่ยสาวน้อยทะลุมิติพร้อมกระจกวิเศษ   บทที่ 22 ช่วยชีวิตคน

    บทที่ 22 ช่วยชีวิตคนเช้าวันต่อมาหัวหน้าหมู่บ้านก็ตีเกราะอีกครั้งครั้งนี้มีชาวบ้านมาร่วมฟังเกือบครึ่งหมู่บ้าน แน่นอนว่าบ้านตระกูลจ้าวนั้นยังมาไม่ได้เช่นเดิม และข่าวใหม่ที่หัวหน้าหมู่บ้านบอกกับชาวบ้านก็คือ พวกเขาจะแบ่งพื้นที่ในการทำความสะอาดที่ดินของนางจ้าวเม่ยให้กับทุกครอบครัวที่ต้องการทำงานแทนการจ้างรายบุคคล เพราะตอนนี้เขาทราบว่าทุกคนต่างการก็การทำงานและต้องการเงิน ดังนั้นพื้นที่ที่จะแบ่งนั้นจะแบ่งตามจำนวนคนในครอบครัวที่สามารถมาทำงานได้ โดยค่าจ้างนั้นจะมีให้เลือก 2 แบบคือสามารถเลือกอาหารแห้งพวกข้าวสาร แป้ง เกลือ น้ำตาล ถั่ว ซีอิ๊ว เครื่องปรุงต่างๆ หรือพวกเผือก มัน ธัญพืชแห้ง หรือ ถ้าต้องการเนื้อสัตว์ก็สามารถเลือกได้แต่ว่าราคาก็จะตามท้องตลาด หรือ สามารถรับเป็นเงินได้ โดยครอบครัวไหนมากันเยอะก็จะได้พื้นที่ทำงานเยอะ ถ้ามีน้อยก็ได้น้อย และการทำงานจะมีหัวหน้างานที่เดินตรวจทุกวันเมื่อทำงานเสร็จแล้ว หากครอบครัวไหนทำงานไม่เรียบร้อย วันต่อมาก็จะถูกลดพื้นที่ลง โดยค่าจ้างจะให้ตามพื้นที่ที่แต่ละครอบครัวได้รับนั้นคือหมู่ละ 5 ตำลึง ส่วนอาหารนั้นจะให้เพียงซาลาเปาและน้ำเต้าหู้ในตอนเช้าเท่านั้นส่วนมื

DMCA.com Protection Status