ถ้าถามว่าทำไมถึงได้เลือกจำแลงเป็นผู้หญิงร่างสวยนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคนนี้ด้วย นั่นสินะ พอดีมันเดินผ่านหุ่นลองชุดพวกนี้พอดีน่ะสิ ไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าการที่ต้องนั่งจับคู่รอเวลาให้พวกคนคลั่งรักทั้งหลายมาเจอกันหรอก จะว่าไปแล้วตอนที่ฉันยังเป็นมนุษย์ก็ไม่เคยได้รับความรักอะไรพวกนี้เลยนี่นะ นั่งดูดน้ำส้มไปประมาณครึ่งแก้วได้ ฉันถึงเริ่มมองเห็นเป้าหมายของภารกิจนี้เสียที คนร่างสวยสวมกระเป๋าสะพายสีดำสนิท
แบรนด์ชาแนลงั้นหรอ อืม รสนิยมดีนี่ ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดกำลังเดินมาทางนี้แล้ว ส่วนอีกฝ่ายนึง ก็นั่นไง คนร่างสูงสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาด เรือนผมสีบรอนด์ทองสะบัดไปมาเล็กน้อย สัญลักษณ์แห่งด้ายแดงที่ผูกโยงกันไว้ไม่ว่าจะใกล้หรือจะไกลแค่ไหนฉันก็สามารถสังเกตเห็นมันได้อยู่ดี
หรือว่าฉันคนนี้จะลองใช้แผนเดินชนกันแล้วแกล้งทำน้ำหกใส่พวกเขาเลยดี ทั้งสองคนจะได้รู้จักกันในแบบนิยายรักอะไรพวกนั้น เฮ้อ แต่แบบนั้นมันออกจะเป็นละครน้ำเน่าไปหน่อยรึเปล่านะ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมากกว่านี้อยู่ๆ ตัวฉันก็เปียกแทนซะแล้ว
“ขอโทษค่ะ คือฉันนึกว่าคุณคือ พายอาร์”
คนร่างเพรียวซึ่งยืนถือแก้วน้ำยื่นมาทางฉันชะงักค้างไปชั่วครู่ขณะหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าจากที่โกรธขึ้งเป็นการสำนึกผิดแทนที่ แต่ฉันก็ไม่ค่อยรู้สึกแปลกใจเท่าไร นั่นก็เพราะว่าก่อนหน้านี้เจ้าแมงกะพรุนสีใสในโหลแก้วก็ทักฉันว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางน้ำซะด้วยสิ ที่แท้มันก็ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วนี่เอง
“ไม่เป็นไร ก็คุณไม่ได้ตั้งใจนี่ งั้นฉันขอตัวก่อน”
ขืนไม่รีบตามไปล่ะก็มีหวังเป้าหมายหนึ่งในสองของฉันก็คาดสายตาหายไปพอดีแบบนั้นจะเป็นปัญหายิ่งกว่าเดิมอีก
“เดี๋ยวค่ะ! คุณจะไปทั้งแบบนี้เลยหรอคะ เสื้อคุณเปียกไปทั้งตัวเลยนะ ถ้ายังไงไปเปลี่ยนชุดกับฉันก่อนจะดีกว่านะคะ”
อะไรของเธออีกเนี่ย มาดึงเสื้อฉันไว้ทำไม ไหนจะมีเสื้อผ้าพร้อมเปลี่ยนนี่อีกไม่ใช่ว่าวางแผนมาแล้วหรอกหรอ
“ไม่เป็นไร ฉันรีบ”
“แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ ฉันเป็นคนทำให้คุณอยู่ในสภาพนี่นะ ให้ฉันรับผิดชอบเถอะค่ะ”
เพราะมัวแต่สนใจผู้หญิงคนนี้พอหันหลังกลับไปอีกที เป้าหมายของฉันก็หายไปซะแล้ว การจะตามพวกเขาเจอมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะด้วย แถมแผนที่คู่รักก็ดันไปอยู่กับเจ้าคนเลือดร้อนอย่างหมอนั่นอีก เพราะเธอคนเดียวเลย
“คุณรับผิดชอบอะไรให้ฉันไม่ได้หรอก เพราะคุณทำให้เป้าหมายของฉันหายไปแล้ว เฮ้อ ชักจะยุ่งยากขึ้นมาแล้วสิ”
คนร่างบางเสยผมของตัวเองเองขึ้นมาดื้อๆ ก่อนจะหมวดคิ้วหนักกว่าเดิมเพราะดันลืมไปว่าติดต่อคนร่างสูงไม่ได้ จริงสิฉันยังส่งกระแสจิตไปหาหมอนั่นไม่เป็นเลยนี่ ที่ทำได้ตอนนี้ก็แค่สร้างร่างจำแลงกับควบคุมความคิดคนได้นิดหน่อยจากการทดสอบรอบเช้าที่ผ่านมาก็เท่านั้นเอง แถมพวกเราก็ยังไม่ยอมทดสอบเชื่อมกระแสจิตกันเลยซักนิด เพราะฉันกับเขาไม่ถูกกัน
“ฉันขอโทษค่ะ แต่ฉันว่าคุณควรไปเปลี่ยนชุดก่อนจะดีกว่านะคะ เสื้อของคุณมัน เอ่อ...”
ทำไมต้องหลบสายตากันด้วย เริ่มรู้สึกถึงความผิดที่ทำกับฉันคนนี้แล้วสินะ เล่นมาสาดน้ำใส่หน้ากันแบบนี้เพราะคิดว่าฉันเป็นคนอื่น มีอย่างที่ไหนกัน
“เอาเป็นว่าตามฉันมาก่อนเถอะค่ะ”
พูดจบเธอก็ลากฉันเข้าไปในร้านกาแฟข้างๆ พลางผละฉันเข้าไปในห้องน้ำด้วยความร้อนร่น
“อะไรของคุณจะเข้ามาด้วยทำไม”
ฉันมองคนร่างเพรียวที่พยายามยัดเยียดเสื้อผ้าให้ฉันอย่างลนล่านก่อนจะพยายามเบือนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำไปถึงใบหู
“ก็เสื้อของคุณมันเปียกจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้วนี่คะ รีบเปลี่ยนก่อนเถอะค่ะ ฉันจะออกไปรอด้านนอก”
แค่นี้ต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ด้วยหรอ ผู้หญิงด้วยกันแท้ๆ ฉันบ่นพึมพำพลางเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปเจออีกคนในสภาพที่เรียบร้อยกว่าเดิม เสื้อยืดสีดำรัดรูปกับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินที่เจ้าตัวยัดเยียดให้ส่วนเสื้อสูทสีน้ำตาลฉันก็ทำให้มันหายไปแล้วก็มันขี้เกียจถือ
“เปลี่ยนแล้ว พอใจเธอแล้วนะ”
คนตรงหน้าพยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนที่ฉันจะล้มตัวลงนั่งข้างๆ กาแฟแก้วขนาดปานกลางถูกเสิร์ฟมาให้กันอย่างเป็นมิตร
“กาแฟ?”
“ค่ะ ฉันเลี้ยงเอง”
ฉันปลายตามองคนร่างเพรียวที่มองมาทางฉันอย่างรู้สึกผิดก่อนจะเริ่มเล่าในสิ่งที่ฉันไม่ได้ถามออกมา
“อันที่จริงฉันคิดว่าคุณคล้ายกับพายอาร์คนที่ฉันรู้จักมากๆ มันก็เลยเผลอไป คือฉันไม่ได้ตั้งใจหรอกนะคะ เพียงแต่ฉันโกรธที่เธอมาหลอกใช้พี่ชายของฉันให้รักแล้วก็มาทำให้เขาต้องทรมาน พอดีฉันได้ข่าวมาว่าเธอจะผ่านมาแถวนี้ก็เลยมาดักรอ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะจำคนผิด...”
งี้เอง ผู้หญิงที่ชื่อพายอาร์อะไรนั่นมาหลอกให้พี่ชายของเธอรักแล้วก็เขี่ยทิ้งงั้นสิ โลกของความเป็นจริงความรักมันไม่ได้สวยงามอย่างที่หวังนักหรอก แต่ถึงอย่างงั้นผู้คนก็ยังต้องการโหยหาความรักที่ไม่ได้สวยงามนั้นอยู่ดี
“จะไม่พูดอะไรหน่อยหรอคะ”
“ฉันไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น แล้วก็ขอบคุณสำหรับกาแฟ เราไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ”
ฉันที่เตรียมจะลุกขึ้นยืนกับโดนจับข้อมือเอาไว้โดยคนหน้าสวยซึ่งทำหน้าเหมือนว่าฉันกำลังจะหนีเธอไปจนต้องฝืนตัวเองให้นั่งลงกับที่อีกครั้ง
“คุณแทบไม่แตะกาแฟเลยนะคะ”
“ฉันไม่ชอบดื่มกาแฟ มันขม แล้วจะปล่อยฉันได้รึยัง”
“คุณชื่ออะไรคะ”
“เราจำเป็นต้องรู้จักชื่อกันด้วยหรอ”
ฉันมองตามสายตาของเธอด้วยความสงสัยก่อนจะเข้าใจในความหมายที่เธอกำลังจะสื่อ ที่แท้ก็ชุดนี่เอง
“ฉันชื่อ-”
“ยัยบ้า! เล่นเดินหนีกันมาได้นะ”
ยังไม่ทันจะพูดอะไร เจ้าคนบ้องตื้นก็เดินเปิดประตูเข้ามาพอดี เขาคงตามหาฉันได้จากกระแสพลังที่ใช้ครั้งล่าสุดสินะ นั่นก็เพราะฉันยังลบกระแสพลังไม่เป็น ถือเป็นข้อดีสำหรับครั้งนี้ล่ะนะ
“มาแล้วหรอ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะตามหานายยังไง”
“ฉันเหนื่อยนะ เดินตามหาเธอซะทั่ว ใครใช้ให้เธอส่งกระแสจิตไม่เป็นกันล่ะ”
คนร่างสูงหัวเสียเล็กน้อยก่อนจะปลายตามองแก้วกาแฟที่อยู่ตรงหน้าฉันพลางยกขึ้นดื่มหน้าตาเฉย ทำให้คนร่างเพรียวตั้งคำถามกับฉันมากกว่าเดิม
“กระแสจิตหรอคะ คุณรู้จักผู้ชายหยาบคายแบบนี้ด้วยหรอคะ”
“หยาบคายหรอ เธอนี่ตาถึงนะ”
ฉันแอบหัวเราะคนหน้าหล่อที่กำลังสำลักกาแฟพลางมองค้อนใส่ฉันด้วยความโมโห
“อย่าคิดจะเป็นศัตรูกันตอนนี้ดีกว่านะ คะแนนติดลบแย่กว่าการสู้กับนายเป็นไหนๆ เลยจริงไหม”
“เหอะ เห็นแก่ภารกิจหรอกนะ ฉันจะญาติดีกับเธอไปก่อนก็ได้ แล้วก็ฉันไม่ใช่ผู้ชายหยาบคายซะหน่อย”
รินคุหันไปมองคนร่างเพรียวซึ่งกำลังทำหน้าไม่พอใจใส่เขาอยู่ก่อนจะเหยียดยิ้มออกมา
“นี่เธอกำลังคิดว่าฉันเป็นแฟนของยัยนี่งั้นหรอ หึ คิดได้สมเป็นมนุษย์ดีนะ”
“ทำไมคุณถึงได้!”
คนตรงหน้าฉันดูตกใจเป็นอย่างมากที่รินคุเดาความคิดเธอออกทั้งหมดอย่างกับอ่านใจได้งั้นล่ะ และมันก็เป็นความจริงที่เขากำลังอ่านความคิดเธออยู่ เพียงแต่ว่าคนร่างบางที่กำลังนั่งข้างๆเขากลับพูดดักทางทำให้เจ้าตัวต้องล้มเลิกความคิดนั้นและหันมาโฟกัสกับยูโรแทน
“ถูกปรับตกคงดีกว่าคะแนนติดลบสินะนายน่ะ”
“ถนัดแต่พูดแดกดันดีนะเธอน่ะ”
คนร่างสูงตอบกลับด้วยน้ำเสียงจิกกัดเล็กน้อยก่อนที่เขาจะโบกมือเรียกพนักงานให้มาเก็บเงินซะเองทำให้คนที่นั่งตรงข้ามกับฉันคิ้วหมวดขึ้นอย่างสงสัย
“คิดจะทำอะไรน่ะคะ”
“ก็จ่ายเงินน่ะสิ ไม่ต้องทอนนะ ไปกันได้แล้ว”
คนผมแดงวางเงินลงในถาดก่อนจะลุกขึ้นพลางปลายตามองคนร่างบางที่อมยิ้มนิดๆ ให้กับคนตรงหน้าที่ยอมสงบศึกกับเธอง่ายๆ
“เดี๋ยวค่ะ ฉันบอกว่าจะเลี้ยงคุณคนนี้เอง แล้วคุณเป็นใครคะมาชิงตัดหน้าแบบนี้”
ดูเหมือนผู้หญิงตรงหน้าฉันจะเริ่มโกรธขึ้นมาบ้างแล้ว ช่วยไม่ได้การรู้จักคนในโลกใบนี้ซักนิด คงไม่ทำให้เดือดร้อนเท่าไรหรอก
“เขาเป็นเพื่อนของฉันเอง ชื่อรินคุ ส่วนฉันชื่อยูโร ส่วนชุดเดี๋ยวฉันจะส่งคืนให้ เอาเบอร์มือถือของคุณมาสิ”
ฉันยื่นสมาโฟนให้เธอพร้อมนามบัตรที่ฉันแอบเสกขึ้นมาโดยที่มีรินคุยืนมองการกระทำของฉันและเธออยู่ตลอด
“ฉันชื่อ อีเมลค่ะ จะเรียกว่าเมลก็ได้”
คนร่างเพรียวรับมือถือของฉันไว้ก่อนจะยื่นมันมาอย่างรวดเร็วจนฉันต้องพยักหน้าตามเล็กน้อยและเดินตามรินคุออกไป
“นี่ยัยเด็กใหม่ เธอไปสนิทสนมกับพวกมนุษย์ทำไม เดี๋ยวก็เกิดความผูกพันขึ้นหรอก”
คนร่างสูงที่เดินด้วยกันซักพักพูดขึ้นในขณะที่เขากำลังดูแผนที่คู่รัก
“ถึงเวลาก็แค่ลบความจำ ไม่เห็นยุ่งยากเลย ว่าแต่นายเถอะ จะเรียกฉันว่ายัยเด็กใหม่ไปถึงเมื่อไรกัน ฉันมีชื่อว่ายูโร”
“ฉันก็ชื่อว่ารินคุ ถ้าเธอไม่เรียกชื่อฉัน ทำไมฉันต้องเรียกชื่อเธอด้วย-”
“รินคุ ฉันเรียกแล้วนะ ชื่อของนายน่ะ”
ทันทีที่ฉันเรียกชื่อเขาขึ้นมาดื้อๆ รินคุก็ชะงักค้างไปพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงจางๆ
“ล่ะ...แล้วเธอจะยิ้มทำไม!”
แค่ยิ้มก็ผิดรึไง ทำไมเขาต้องโมโหใส่ฉันขนาดนั้นด้วยเล่า หรือว่าจะชอบให้ฉันตึงหน้าใส่อย่างเดียวรึไง ประหลาดคนชะมัด
“นี่รอฉันด้วยสิ รินคุ”
“หยุดเรียกชื่อฉันได้แล้วน่า ยัยบ้า”
ไหงฉันกลายเป็นคนผิดอีกแล้วล่ะ เราจะญาติดีกันสักนาทีไม่ได้เลยสินะ
“ถึงแล้ว”
“อะไร?”
ฉันคิ้วหมวดเล็กน้อยก่อนที่รินคุจะพูดต่อท้ายให้ฉันหายสงสัยเล่น
“บริษัทที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ไงล่ะ พายอาร์ คนที่จะกลายมาเป็นคู่รักของอทินด้วยฝีมือของเราสองคน”
รู้สึกว่าจะเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนมาก่อนเลยแหะ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ p&j เป็นบริษัทสำหรับผลิตพวกนักร้อง นักแสดงไม่ใช่หรอ
“ถ้าจำไม่ผิดคนที่ชื่ออทินอะไรนั่น เขาเป็นโรคเกลียดที่ๆมีคนเยอะๆ ใช่ไหม”
“ประมาณนั้น ดูเหมือนจะไม่ง่ายแล้วสิ หรือพวกเราต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่ซัก2-3 ปีเห็นจะได้”
คนผมแดงเกาหัวแกรกๆพลางนับเวลาที่ต้องใช้ในภารกิจครั้งนี้
“ไม่อยากให้นานขนาดนั้นหรอก”
“สำหรับโลกทางนั้นไม่นานขนาดนั้นหรอก อาจจะผ่านไปแค่วันหรือสองวัน ยังไงซะพวกเขาก็ให้เวลาเรามาตั้ง10ปีเหลือๆ สำหรับพวกมือใหม่ เธอจะซีเรียสไปทำไมล่ะ นึกว่ามาเล่นสนุกเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีกว่าน่า โลกมนุษย์ไม่ได้มีแค่เราที่มาซักหน่อย”
“หมายความว่ายังไง”
“ถ้าตัวแทนพระเจ้าอย่างฝ่ายเรายังมีภารกิจให้ทดสอบ แล้วพวกปีศาจล่ะ แน่นอนว่าก็ต้องมีมาทำให้พวกเขาแตกแยกกันอยู่แล้ว อะไรก็ตามที่ดึงดูดความมืดในจิตใจออกมาก็เป็นส่วนหนึ่งของงานพวกปีศาจนั่นล่ะ รวมถึงพวกแม่มดที่ชอบทำสัญญาแลกอายุไขจิตวิญญาณหรืออะไรก็ตามแต่ด้วย”
คนร่างสูงปลายตามองคนร่างบางที่ยืนนิ่งอย่างใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะดิ้ดนิ้วลงไปที่หน้าผากมนเบาๆ ของเด็กสาวให้เจ้าตัวออกจากภวังค์ความคิด
“นึกกลัวขึ้นมารึไง ไม่ต้องห่วงหรอกน่า คนที่จะทำร้ายเธอได้มีแค่ฉันคนเดียว ฉันจองคิวจัดการกับเธอไว้แล้วเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวไปหรอก”
ฉันไม่ได้กลัวซะหน่อยตาคนบ้องตื้น แต่ที่กำลังกังวลอยู่นี่ก็เพราะสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอปีศาจที่ตลบอบอวลอยู่ในนี้ต่างหากเล่า งี่เง่าชะมัดเลยนะเขาน่ะ คนร่างบางปัดมือเด็กหนุ่มร่างสูงทิ้งก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางทำให้คนร่างสูงโปร่งมองตามเด็กสาวไปอย่างไม่เข้าใจนัก
“นั่นเธอจะไปไหน”
“ก็แยกทางกันไง ฉันจะไปตีสนิทกับอทินเอง ส่วนนายก็ไปตีสนิทเด็กฝึกพายอาร์นั่นซะ แล้วเราค่อยมาคุยกันอีกที แต่ฉันพูดไว้ชัดเจนแล้วนะว่าจะไม่อยู่บ้านเดียวกับนายแน่ๆ ดังนั้นนายก็สร้างฐานะและตัวตนของตัวเองป้องกันคนอื่นเค้าจับได้ด้วยก็ดี ฉันแค่แนะนำในฐานะที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อน เพราะงั้นขอตัวล่ะ”
พูดจบฉันก็สะกดจิตเจ้าของรถตรงหน้าให้ลุกออกไปทันทีโดยที่ไม่ลืมจะยัดเงินใส่ในกระเป๋าเสื้อนอกของเขาไว้
“จากนี้คุณจะจำได้แค่ว่าคุณขายรถคันนี้ให้กับฉันแล้ว ด้วยความเต็มใจ”
“ผมขายรถคันนี้ให้กับคุณด้วยความเต็มใจ”
ชายหนุ่มเจ้าของรถพูดตามด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนที่คนร่างบางจะขับรถออกไปด้วยความรวดเร็วโดยที่มีคนร่างสูงยืนมองตามด้วยความรู้สึกขุ่นมัวไม่หาย
“นี่เธอกล้าสั่งฉันอีกแล้วหรอ แล้วทำไมฉันถึงได้ยอมตลอดเธอเลยเนี่ย ยูโร”
เกร็ดความรู้ : โลกมนุษย์เป็นหนึ่งในสถานที่ชั้นยอดในการเลือกหาแหล่งพลังงานชีวิตของปีศาจและแม่มด และจะถือว่าเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก หากตัวแทนพระเจ้ายืนมือไปยุ่งย่ามโดยไม่มีเหตุอันสมควร
รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถลุงเงินเล่นอยู่เลยแฮะ ตั้งแต่มายังโลกมนุษย์ฉันก็เอาแต่ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ประหนึ่งว่าเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปหลายต่อหลายครั้งในขณะที่ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าจะให้อะไรกับเขาดี หรือบางทีอาจเป็นพวกไวน์องุ่นไม่ก็แซนวิช อืม ฉันเลือกไวน์องุ่นก็แล้วกัน คิดว่ามันคงจะสร้างความประทับใจแรกให้กับฉันมากพอดู“ครับ คุณมีธุระอะไรรึเปล่าครับ”คนร่างสูงโปร่งเปิดประตูออกมาต้อนรับฉันอย่างสับสน เนื่องจากเขาไม่ได้รู้จักคนตรงหน้านี้เลย สีหน้าของเขาจึงบ่งบอกทุกอย่างออกมาหมด“คือฉันเพิ่งย้ายเข้ามาน่ะค่ะ อยู่ห้องถัดจากคุณ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันยูโร ชิยูอิน และนี่ก็ของฝากค่ะ คิดซะว่าเป็นของขวัญจากเพื่อนข้างห้องนะคะ”อทินมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรนอกเสียจากยอมรับขวดไวน์ราคาแพงมาถือเอาไว้เองพลางหลบเลี่ยงสายตาฉันนิดๆ“ขอบคุณครับ”“แค่นี้เองเหรอคะ นึกว่าคุณจะยอมบอกชื่อกับเพื่อนข้างห้องของค
“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ คุณผู้หญิง”รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายแบบนั้นน่ะเป็นเขาไม่ผิดแน่ รันเวย์...เดี๋ยวนี้เจ้าจิ้งจอกเก้าหางแบบเขาหันมาคบค้าสมาคมกับพวกมนุษย์ไร้กำลังแทนแล้วสินะ“รู้จักกันด้วยเหรอครับ”คนร่างสูงโปร่งเอ่ยถามคนร่างบางด้วยความสงสัย แต่ในทางกลับกันฉันกลับเมินคำถามพวกนั้นออกไปโดยสิ้นเชิง“ฉันนึกว่าคุณจะนัดฉันมาคุยเรื่องธุรกิจคนเดียวซะอีก”“อย่าใจร้ายกับผมนักสิครับ อย่างน้อยๆเราก็รู้จักกันแล้วนะ ยูโร และผมก็สนิทกับอทินมากๆเลยล่ะ”รันเวย์ส่งรอยยิ้มอย่างสดใสมาให้กับฉันซึ่งมองข้ามเขาไปอีกครั้ง ปีศาจนิสัยเสีย คิดจะปั่นประสาทฉันงั้นเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก“นายก็พูดเกินไป อันที่จริงผมแค่ติดสัญญาจ้างกับเขานิดหน่อยเท่านั้นเอง ถ้ามันทำให้คุณลำบากใจ ผมจะไล่เขากลับไปให้”“เดี๋ยวสิอทิน! นี่นายจะไม่คิดหน่อยรึไง!?&rdquo
ความตายแค่ทำตามหน้าที่ เหมือนที่ฉันควรจะเมินความน่าสงสารของเธอทิ้งไป แต่ถึงอย่างนั้นทำไมฉันถึงไม่ยอมขยับออกไปล่ะ ความตายจะไม่สามารถไล่ตามดวงวิญญาณซึ่งอยู่ใกล้กับพระเจ้าได้ในกรณีของฉันที่เป็นตัวแทนของพระเจ้า ก็ได้รับสิ่งเหล่านั้นมาด้วยเช่นกัน“มีอะไรค้างคาอยู่รึเปล่า”“ฮึก..คะ..”“คุณน่ะมีอะไรค้างคาอยู่รึเปล่า ถ้ามีอะไรที่อยากทำก็บอกฉันมา”คนร่างบางค่อยๆ เช็คน้ำตาลวกๆ ในขณะที่ฉันเองก็ปลายตามองเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ“ฉันอยากแต่งงานค่ะ”“แต่งงาน...งั้นใครล่ะที่อยากแต่งงานด้วย”“ไม่รู้ค่ะ”ขอถอนคำพูดที่ว่าจะช่วยมันจะทันรึเปล่านะ...“คุณหนู! ในที่สุดก็เจอตัวซักที หนีออกจากโรงพยาบาลทำไมครับคุณหนู รีบกลับกันเถอะครับ เดี๋ยวคุณหนูจะป่วยซะเปล่าๆนะครับ ”ในขณะที่ฉันกำลัง
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ พวกยมทูตก็มารับสัญญาการต่ออายุจากฉันไป ใครบอกว่ายมทูตต้องใส่ผ้าคลุมสีดำถือเคียวมาค๊อกประตูเอาวิญญาณไปกันนะ ที่ฉันเจอมีแต่หนุ่มหล่อมาดธุรกิจมารับสัญญาจากฉันไปโดยที่ไม่ลืมจะแจกนามบัตรยมทูตให้กับฉันอีกด้วย‘สนใจทำสัญญากับยมทูตเขต1 ติดต่อได้ที่เบอร์ xxx และปรโลกสาขา 1 แถมฟรีไก่ทอด 1 ถัง’“ทำงานกันเป็นทีมดีนะ ยมทูตพวกนี้”“ใครมาหรอคะ”จีราญาเอ่ยถามฉันในขณะที่ตัวเธอก็กำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารเช้าต้อนรับอทินซึ่งกำลังจะไปจัดงานโฆษณารถยนต์ของฉันด้วย ทั้งที่บอกว่าไม่ต้องทำ เธอก็ไม่ยอมฟัง ยัยเด็กเอาแต่ใจเอ้ย“พวกยมทูตน่ะ แต่เธอไม่เห็นพวกเขาหรอก ถ้าตายไปแล้วก็อีกเรื่อง”“นี่ยูโรตายไปแล้วหรอคะเนี่ย”“เธออยากโดนฉันลบความทรงจำมากใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวจัดให้เลย ชักเอาใหญ่แล้วนะ”“อย่านะคะ ความทรงจำที่ไม่มีคุณ ฉันไม่เอาหรอ
ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมายังคนร่างเพรียวซึ่งกำลังวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะถูกผู้หญิงตรงหน้ากระชากแขนเสื้อขึ้นมาโดยที่พายอาร์ไม่ทันได้สนใจสิ่งรอบตัวใดๆ“.......”“ถึงกับใบ้กินเลยงั้นหรอ ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยหรอไง!”“พี่ขอโทษ...แต่ถึงยังไงพี่ก็รักเขาไม่ได้อยู่ดี”“ไหนบอกว่าจะยอมทำทุกอย่างให้เมลไง ที่พูดมาคือคำโกหกงั้นหรอ ว่าแล้วเชียวคนอย่างเธอนี่มันเลวที่สุด!”“ปล่อยมือก่อนเถอะค่ะ ฉันว่าที่นี่ไม่เหมาะให้มาทะเลาะกันนะ”ฉันที่เห็นว่าเรื่องราวมันชักจะยุ่งยากมากขึ้นทุกทีจึงห้ามปรามคนร่างบางซึ่งกำลังหันมาโฟกัสทางฉันแทนด้วยแววตาขุ่นมัว“คุณยูโร? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้...ไม่สิคุณรู้จักกับพายอาร์ด้วยหรอคะ”“ถ้าจะให้พูดล่ะก็ ตอนนี้ฉันเป็นนายจ้างของคุณพายอาร์อยู่น่ะค่ะ และฉันก็ได้แต่หวังว่าเมลจะไม่ทำอะไรนางแบบโฆษณาของฉันหรอกนะคะ ”ฉันยิ้มหน้าตายใส่อีกคนที่ชะงักค้างลงก่อนที่ฉันจะถือวิสาสะพ
รู้สึกว่างเปล่ามากซะจน...เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ นี่ฉันกำลังตกอยู่ในวัยต่อต้านตัวเองรึไง“ท่านประธานค่ะ โฆษณาที่ให้ดิฉันไปจัดการเสร็จแล้วค่ะ”จริงสิ....ฉันยังรับบทเป็นประธานบริษัทรถยนต์นำเข้าอยู่นี่น่า คนร่างบางพยักหน้ารับเลขาสาวช้าๆ พลางหยิบแฟ้มอนุมัติงบประมาณขึ้นมาเซ็นต์“งั้นก็ปล่อยออกไปได้เลย ส่วนยอดขายเดือนนี้บอกให้ทีมเอ กระตุ้นยอดขายโดยการส่งรถยนต์ไปเป็นสปอนเซอร์ของซีรีส์ที่จะออนแอร์ปลายปีนี้ด้วย”“ได้ค่ะท่านประธาน”เห็นแบบนี้ฉันก็มีความรับผิดชอบต่องานที่ตัวเองเอามาบังหน้าอยู่นะ อย่างน้อยก็ควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างแก่พวกพนักงานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย“จริงสิคะ เรื่องหุ้นของบริษัทที่กำลังจะขาดทุนนั่น ท่านประธานจะซื้อเอาไว้ไหมคะ”บริษัทบราเดอร์ เหตุผลที่ขาดทุนขนาดนั้นคงมีคนโกงในบริษัท ถึงไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่เรื่องที่บริษัทของเขาจัดว่าเด่นในเรื่องการรักษาความปลอดภัยก็น่
ณ แทบทะเลทางตอนเหนือ สายลมกระโชกแรง มวลน้ำทะเลม้วนตัวเป็นคลื่นพายุพัดโหมกระหน่ำชายฝั่งทำให้ท่าเรือในละแวกนั้นไม่สามารถสัญจรไปได้ แต่ทว่าร่างของเด็กหญิงผมสีฟ้าครามก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางพายุที่พัดกระหน่ำรุนแรง“เข้าใจเลือกดีนี่ นายจงใจเลือกที่ๆ ฉันไม่สามารถหายตัวไปไหนได้ เพราะไม่รู้พิกัดที่แน่นอน”แปะ..แปะ…เสียงปรบมือดังขึ้นจากด้านหลังของเด็กสาวซึ่งสวมเสื้อคลุมเอาไว้จนมิดศีรษะทำให้อีกฝ่ายเหยียดยิ้มออกมาช้าๆ“ยินดีต้อนรับ ตัวแทนพระเจ้า คุณยอมมาถึงที่นี่จริงๆซะด้วย เพื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นงั้นหรอ หรือเพราะว่าผมกันล่ะ”ร่างขาวเนียนสวมเสื้อบลูฮาวายสีดำสนิทแววตาสีแดงฉานเรือนผมสีชมพูอ่อนเดินเข้ามาหมายจะแตะต้องไหล่บางของอีกคนซึ่งกำลังเดือดเต็มที่“ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ไอความเย็นของคุณแช่แข็งมือของผมหมดแล้วนะครับ ยูโร ชิยูอิน”ไอความเย็นยะเยือกแผ่กระจายไปทั่วบริเวณที่ทั้งคู่ยืนอยู่ สร้างความประห
แบบนี้มันผิดปกติเกินไปแล้ว...หยิบยาสีฟันมาล้างหน้าเนี่ยนะ!? ไหนจะเดินออกคอนโดโดยไม่ยอมเอากุญแจรถมาอีก!? นี่ตัวฉันกำลังเกิดการต่อต้านแน่ๆ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็เอาแต่เห็นภาพของจีราญาตลอด เป็นบ้าอะไรกันเนี่ย ทำไมฉันถึงต้องคิดถึงแต่เธอด้วย ไม่เข้าใจเลย!“อะไรของเธออารมณ์บูดแต่เช้าเลยนะ”รินคุปรากฎตัวขึ้นด้านหลังของฉันซึ่งกำลังกุมศีรษะอย่างไม่รู้จะหาทางออกยังไงก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นมาสบตากับเขาที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร“รู้เรื่องแล้วงั้นหรอ”“แน่สิ เธอนี่ขยันหาเรื่องได้ตลอดเลยนะ รอบนี้ก็ดันไปทำสัญญาเลือดกับเจ้าปีศาจตลบตะแลง จนคะแนนติดลบ คิดอะไรอยู่กันแน่”อ่า คะแนน...จริงสิ...ยังไม่มีเลยแท้ๆ ดันติดลบซะแล้ว ให้ตายเถอะ!“แล้วคะแนนที่ติดมันลบเยอะไหมอ่ะ”ฉันทำหน้าหงอยเต็มขั้นโดยไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะถูกหักคะแนนหางเร่ไปด้วย“เพิ่งจะสำนึกงั้นหรอ”
พาร์ท จีราญาฉันได้แต่ครุ่นคิดแล้วก็สงสัยในทุกๆครั้ง ว่าทำไมกันนะ ไม่ว่าฉันจะพยายามนึกถึงใบหน้าของใครบางคนอีกสักเท่าไร มันก็ไม่มีทางนึกออกได้เลย....เหมือนกับว่าฉันกำลังจมน้ำโดยที่ไม่มีทางที่จะก้าวขึ้นมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยัง...อยากที่จะนึกถึงแต่มันอยู่ดี...แปะ...แปะ...“จี แกเป็นอะไรเนี่ย จู่ๆ ก็ร้องไห้อีกแล้ว ยังรักษาไม่หายอีกหรอ”ทันทีที่ฉันหยุดคิด เสียงแหลมๆ ของเพื่อนคนสนิทซึ่งมีเพียงไม่กี่คนของฉันก็เอ่ยทักขึ้นทำให้ต้องละสายตาจากแก้วกาแฟใบโปรดกลับมองเธอที่ทำหน้าตกใจกับรอยแดงจางๆ บนใบหน้าของฉันแทน“อืม ก็นิดหน่อยน่ะ เมื่อคืนฉันฝันร้ายอีกแล้ว”“แบบนี้ก็แย่สิจี ว่างๆ แกควรให้พี่พีเจพาไปตรวจสุขภาพหน่อยก็ดีนะ ฉันเห็นแกชอบร้องไห้ไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาตั้งหลายครั้งแล้ว ”“ไม่เป็นไรหรอกโรส ฉันโอเค แกคิดมากไปแล้ว”“งั้นหรอ ถ้าแกว่า
ฉัน...รู้อยู่แล้ว ว่าความจริงยูกิจังไม่เหมือนเดิม เธอเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ทั้งรอยยิ้ม และสายตาแบบนั้น ทำให้ฉันเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี….เธอไม่ใช่ชิยูกิของฉันหรอก...แต่ถึงอย่างนั้น..แต่ฉันก็ยังทำใจยอมรับมันไม่ได้...เรื่องที่ว่าไม่มีชิยูกิจังอยู่ต่อไปอีกแล้วน่ะ....ฉันควร...จะทำยังไงดีล่ะ....“นี่มันยังไงกันแน่ ตกลงว่าชิยูกิคนนี้เป็นตัวปลอมอย่างงั้นน่ะหรอ อย่าเอาแต่เงียบสิ ฉันเองก็ปวดใจนะ! อย่าเอาแต่เงียบกันได้ไหม! แล้วตัวจริงล่ะ...ตัวจริงไปอยู่ที่ไหน!”“เรื่องนั้น...”คนร่างบางจับชายเสื้อของชิยูกิเอาไว้แน่นทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงักลงก่อนจะแสดงสีหน้าอันขนขื่นออกมา“ฉันคิดว่าเจ้าของร่างนี้อาจจะตายไปแล้ว”คนร่างผอมเพรียวแทบจะล้มไปกองกับพื้นทันทีตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของมีอาเธอเดินเข้ามากระชากคอเสื้อด้านนอกสีน้ำเงินเข้มของยูโรซึ่งไม่มีทีท่าขัดขืนแต่อย่างใด“ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้เรื่องนี้ตั้งแ
ฉันปรายตามองคนมาใหม่อย่างโกรธเคืองเพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเธอจะตามฉันมาถึงที่นี่ ไหนว่าจะขายฉันทิ้งแล้วไงล่ะ ยังจะมาไยดีอะไรกันอีก แค่หน้าก็ไม่อยากจะมองแล้ว ยังจะมาที่นี่อีกทำไม...“หยุดทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าข้าได้แล้ว พี่สาวอย่างข้าอุตส่าห์ทิ้งภาระอันหนักอึ้งมาหาเจ้าเชียวนะ ตอบแทนกันอย่างนี้รึ”ไม่พูดเปล่ายูแอลยังถือวิสาสะดึงแขนของเด็กสาวออกจากการเกาะกุมของเฮร่าพลางดึงคนร่างบางมาไว้ข้างตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉยผิดกับสองคนที่เหลือ“ชิยูกิ!”“เอริคนี่เจ้าไม่คิดจะสอนมารยาทน้องสาวของเจ้าหน่อยรึไง”คนร่างสวยหวาดตามองหญิงสาวทั้งสองอย่างเอาเรื่องทำให้เอริคผู้เป็นพี่รีบขอโทษแทนน้องสาวแทบไม่ทัน“ขออภัยขอรับ ท่านหญิง น้องสาวของกระผมเสียมารยาทต่อท่านหญิง ได้โปรดอภัยให้นางด้วย”“พี่ / เอริค ย
ฉันคิดว่ามีอาคงผูกใจเจ็บกับเฮร่าจริงๆ นั่นล่ะ เพราะคิดไม่ถึงเลยว่ายัยนั่นจะตามติดพวกฉันแจขนาดนี้“มีอา”ฉันเหล่ตามองเธออย่างลำบากใจที่เห็นคู่หมั้นของเอริคมายืนส่งยิ้มให้กันตั้งแต่หัววันแบบนี้ แถมยังไม่ยอมปลายตามองคู่หมั้นของตัวเองอีกต่างหาก ถ้าให้ฉันเดาล่ะก็ ก็ถูกคลุมถุงชนแหง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่เห็นจะต้องพุ่งสายตากดดันมาทางฉันเลยก็ได้นี่!“ฉันมาชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันน่ะ”“ยูกิจังไม่ไปกับเธอหรอก”เฮร่าเดินลงมาจากบันไดพลางปลายตามองผู้มาใหม่อย่างกดดันเธอดูอารมณ์ไม่คงที่สุดๆ“ ชิยูกิต้องได้รับอนุญาตจากเธอก่อนรึไง ถึงจะออกไปข้างนอกกับฉันได้”“ใช่”เหมือนจะไม่ใช่นะ....ทำไมต้องมาทะเลาะกันเรื่องของฉันด้วยล่ะ อีตาเอริคนี่ก็อีกคนช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณเป็นคนต้นเรื่องไม่ใช่หรอ พวกเค้าทะเลาะกันเพราะคุณนะ“เธอไม่ใช่เจ้าของชิยูกิสักหน่อย ไม่มีสิทธิมาตัดสินใจนะ”“เธอก
ก็ไม่รู้ว่าเฮร่าโกรธฉันเรื่องอะไรหรอกนะ แต่เล่นมาทิ้งกันไปแบบนี้แล้วฉันจะกลับบ้านยังไงได้ล่ะ....ฉันพยายามมองหาเธออีกครั้งแต่ทว่ามันก็ไร้ผล ไม่มีวี่แววของเธอเลย หรือว่าคนร่างบางจะจงใจทิ้งฉันเอาไว้ที่นี่จริงๆ ....“อ้าว ชิยูกิยังไม่กลับบ้านอีกหรอ”“มีอา?”ฉันหันกลับไปมองเธอที่ถือกระเป๋ามารอฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ามายืนรอฉันทำไม เราเพิ่งรู้จักกันวันนี้เองนะ ไม่เห็นจะต้องใส่ใจกันเลย“กลับบ้านด้วยกันไหมล่ะ”“เอ่อ คือว่าฉันต้องรอเฮร่ากลับบ้านด้วยกันน่ะ”“เอ๋ งั้นหรอ แต่ดูท่าทางยัยนั่นจะกลับบ้านไปก่อนแล้วนะ”อ่า...สรุปว่าฉันโดนทิ้งเอาไว้ที่นี่จริงๆ ด้วย...“ทำไมทำหน้าหงอยอย่างนั้นล่ะ เอ้า ยื่นมือมาสิ เธอกลับกับฉันก็ได้”“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองดีกว่า”
ก็ไม่ได้เกลียดกับการถูกติดหนึบจากคนที่ไม่รู้จักหรอกนะ แต่แบบนี้มันก็ดูจะเกินไปหน่อย ฉันแลสายตามองเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันซึ่งกำลังควงแขนของฉันด้วยรอยยิ้มสดใสแตกต่างจากพี่ชายของเธอลิบลับ“ไปก่อนนะคะพี่”“อืม ไปดีมาดีล่ะ”เอริคพูดขึ้นพลางยื่นกระเป๋าส่งมาให้ฉันซึ่งทำหน้าหนักใจหนักกว่าเดิมเพราะเขายังคงยืนนิ่งไม่ขยับตัวไปไหน“เอ่อ คือ”ฉันพูดพลางคิ้วกระตุกนิดๆ เมื่อพยายามดึงกระเป๋าออกจากฝ่ามือของเขาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมันสักที สรุปจะให้หรือไม่ให้กันแน่“พี่จะถือกระเป๋ายูกิจังอีกนานไหมคะ ปล่อยได้แล้วนะ”“อ่ะ โทษที เดินทางปลอดภัยนะ”“อื้ม! ยูกิจังไปกันเถอะ”“ยูกิจัง?”“ ขอเรียกยูกิจังได้ไหม ตอนเด็กๆ เราก็เรียกกันแบบนี้ไง แง ทำไงดี รู้สึกแย่จัง เมื่อไรจะจำฉันได้ล่ะ&rdq
หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง หรือสามชั่วโมง ฉันถูกพามาอยู่ในยุคสงครามรวบรวมหัวเมืองกันอยู่รึไง เหนื่อยชะมัด ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันก็จับดาบไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ ไม่ตลกเลยนะ ไหนพวกเกมแนว rpg มันถึงจับกันง่ายขนาดนั้นล่ะ ชีวิตจริงไม่เห็นเหมือนอย่างที่คิดไว้เลยนี่หว่า!“ท่านเป็นน้องของท่านหญิงซายะแน่หรอ”คนร่างสูงปลายตามองฉันอย่างเหนื่อยใจ แต่นั่นมันก็ช่วยไม่ได้ เพราะชีวิตจริงหรือโลกหลังความตายฉันก็ไม่เคยใช้อาวุธกับใครเค้าซะหน่อย จะใช้ไม่เป็นแล้วมันผิดรึไงย่ะ ไอ้คนคลั่งอาวุธหัวทองเอ้ย!“นี่...ฉันว่าพอก่อนเถอะ”“เห แต่ท่านยังไม่ได้ฝึกพวกธนูกับมีดเลยนะ”จะอะไรฉันก็ไม่อยากฝึกทั้งนั้นล่ะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ทั้งมือและขามันก็ชาไปหมด ไม่รับรู้ถึงความเหนื่อยบ้างรึไงกัน“พอแค่นั้นล่ะ”“ท่านหญิงซายะ รับทราบขอรับท่านหญิง”เคารพกันจังเลยนะ ยัยผู้หญิงเผด็จการคนนี้เนี่
คนร่างบางสบตาฉันนิ่งและไม่ปรากฏรอยยิ้มใดๆ จากเจ้าตัวเลย ที่พูดว่าจะฆ่า เธอคงไม่ได้โกหกสินะ ตัวฉันเริ่มสั่นเทาไปด้วยความกลัวขึ้นมาดื้อๆ ทำไมคนที่มีอำนาจขนาดนั้นถึงได้มาหาฉันได้ล่ะ แต่แล้วเสียงของรินคุก็ทำให้ฉันมีสติขึ้นมา“ยูโร!!”“หืม นายคงเป็น ตัวแทนลำดับที่เก้ามิคาเอล รินคุ”“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม”เขาหันมามองฉันอย่างเป็นห่วง ในขณะเดียวกันสีหน้าของรินคุก็ไม่สู้ดีนัก ทำให้ยูแอลต้องคลายแรงกดดันลง“เธอคงตกอยู่ในอาการหวาดกลัวน่ะ เพราะไม่เคยเจอแรงกดดันแบบนี้มาก่อน ว่าแต่นาย-”“ขออภัยที่กระผมเสียมารยาท ถ้าเธอทำอะไรผิดไปยกโทษให้ยูโรด้วยเถอะครับ! ท่านยูแอล”“ยกโทษ...งั้นหรอ ตลกดีนะ เด็กคนนั้นไม่คิดจะขอโทษฉันด้วยซ้ำไป”“ท่านยูแอล!”“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่คิดจะทำร้ายเธอหรอก เพราะฉะนั้น เด็กคนนี้ฉันจะอบรมเอง
เมื่อคืนเราร้องไห้หนักมากจนตาบวมเลยแหะ ฉันส่องกระจกพลางเช็คสภาพตัวเองและจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะออกมาตามเวลานัดที่ไล่เลี่ยกัน หวังว่าเธอคงจะไม่รอนานนะ“จี”คนร่างบางหันมาตามเสียงเรียกของฉันก่อนเธอที่จะรีบวิ่งเข้ามาหากันด้วยรอยยิ้มสดใส“ยูโร”“รอนานไหม”“ไม่นานหรอกค่ะ”โกหก ฉันมาเลทตั้งครึ่งชั่วโมงเพื่อจะพิสูจน์ความจริงใจ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่รู้ตัวเลยนะ“ขอโทษที่มาช้านะ”“อย่าคิดมากสิคะ ไปกันเลยไหม สวนสนุกน่ะ”ท่าทางกระตื้อรื้อล้นของเธอมันทำให้ฉันแอบปวดใจนิดๆ แหะ“เอาสิ ว่าแต่คนพวกนั้นไม่อยู่แล้วหรอ”ฉ