หลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ พวกยมทูตก็มารับสัญญาการต่ออายุจากฉันไป ใครบอกว่ายมทูตต้องใส่ผ้าคลุมสีดำถือเคียวมาค๊อกประตูเอาวิญญาณไปกันนะ ที่ฉันเจอมีแต่หนุ่มหล่อมาดธุรกิจมารับสัญญาจากฉันไปโดยที่ไม่ลืมจะแจกนามบัตรยมทูตให้กับฉันอีกด้วย
‘สนใจทำสัญญากับยมทูตเขต1 ติดต่อได้ที่เบอร์ xxx และปรโลกสาขา 1 แถมฟรีไก่ทอด 1 ถัง’
“ทำงานกันเป็นทีมดีนะ ยมทูตพวกนี้”
“ใครมาหรอคะ”
จีราญาเอ่ยถามฉันในขณะที่ตัวเธอก็กำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารเช้าต้อนรับอทินซึ่งกำลังจะไปจัดงานโฆษณารถยนต์ของฉันด้วย ทั้งที่บอกว่าไม่ต้องทำ เธอก็ไม่ยอมฟัง ยัยเด็กเอาแต่ใจเอ้ย
“พวกยมทูตน่ะ แต่เธอไม่เห็นพวกเขาหรอก ถ้าตายไปแล้วก็อีกเรื่อง”
“นี่ยูโรตายไปแล้วหรอคะเนี่ย”
“เธออยากโดนฉันลบความทรงจำมากใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวจัดให้เลย ชักเอาใหญ่แล้วนะ”
“อย่านะคะ ความทรงจำที่ไม่มีคุณ ฉันไม่เอาหรอกค่ะ ไม่ล้อแล้วก็ได้”
“งั้นสัญญามาว่าจะไม่บอกใครเรื่องฉัน”
“ถึงบอกใครไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ อีกอย่างคุณไม่เคยบอกฉันเลยว่าคุณเป็นใคร”
“ถ้าฉันบอกแล้วมันจะเปลี่ยนอะไรได้”
“ฉันก็ได้รู้จักคุณมากขึ้น”
“ไม่จำเป็นต้องรู้จักฉันมากขึ้นหรอก เธอเป็นอิสระแล้ว ที่เหลือก็แค่ให้พ่อของเธอหาหนอนบ่อนไส้ในบริษัทให้เจอ ส่วนเรื่องอทินเธอไม่ต้องช่วยฉันแล้วก็ได้”
“ทำไมล่ะคะ อยู่ๆคุณเป็นอะไรไป”
แค่รู้สึกว่ามันแปลกๆไป....
“ฉันแค่รู้สึกว่าเธอไม่ต้องทำแล้วมันก็เท่านั้น”
“โกหก คุณเป็นอะไรกันแน่-”
“ งั้นฉันจะพูดตรงๆก็ได้ เธอกำลังชอบฉันใช่ไหม”
ทันทีที่ฉันตัดสินใจถามออกไป จีราญาก็ชะงักลงดื้อๆ เธอมีอาการล่นลานอย่างเห็นได้ชัด
“มะ...ไม่ใช่นะคะ”
“แล้วทำไมต้องหลบตาฉันด้วย”
“ฉันไม่ได้ชอบคุณ...”
“แล้วทำไมต้องเสียงสั่น”
“ฉันไม่ได้...”
“หยุดโกหกเถอะ เธอชอบฉัน ”
ยูโรไล่ต้อนอีกฝ่ายที่เบือนหน้าหนีตนก่อนจะใช้ฝ่ามือดันผนังห้องเอาไว้ไม่ให้จีราญาหันหน้าหนีไปไหนได้อีก
“ทำไมคุณต้องบังคับให้ฉันพูดด้วย”
“เพราะว่าถ้าเธอชอบฉัน ฉันคงต้องให้เธอไป ก่อนมันจะสายไปกว่านี้ ”
“แล้วทำไมฉันถึงชอบคุณไม่ได้ ”
“ เพราะมันไม่มีเหตุผลน่ะสิ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ”
“ แล้วคุณมาทำดีกับฉันทำไม.... ”
“ถ้าจะพลักไสกันแบบนี้... คุณมาช่วยฉันไว้ทำไมคะ....ทำไมถึงทำเหมือนว่า...ฉันมีค่า ”
"....ทำให้ฉันคิดไปเอง....ว่าฉันพิเศษ”
“ฉัน....”
“ฉันเกลียดคุณค่ะ ฉันเกลียดคุณที่สุดเลย! แบบนี้พอใจแล้วใช่ไหมคะ ฝากบอกคุณอทินด้วยว่าฉันอยู่ทานข้าวด้วยไม่ได้แล้ว...”
พูดจบฉันก็โดนคนร่างบางผลักออกพลางวิ่งร้องไห้ออกไปทันที ทำไมเธอดูเปราะบางจังนะ เผลอแปปเดียวก็ทำให้หัวใจเป็นรอยขึ้นมาแล้วสิ...ใช้ไม่ได้เลยนะฉันน่ะ....
“งานวันนี้มีอะไรไม่พอใจรึเปล่าครับ”
“ไม่นี่คะ มันดีมากเลย”
“จริงหรอครับ แล้วทำไมคุณถึงดูเศร้าจังเลยล่ะ”
อทินมองตามใบหน้าของยูโรซึ่งกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก่อนจะหาตัวช่วยอย่างรันเวย์มาแทน
“อ่ะ นั่นรันเวย์นี่คะ”
“ครับ เขาก็อยู่ตรงนั้นมาตลอดนั่นล่ะ”
“เอ่อ จริงสิคะ คุณกับพายอาร์เป็นยังไงกันบ้างคะ”
ฉันรีบยิงคำถามใส่เขาทันที เพราะอทินจ้องจะจับผิดฉันอยู่ตลอด ถ้าเขาไม่ทำงานด้านออกแบบ ฉันก็คิดว่าเขาน่าจะไปได้ดีกับอาชีพนักสืบนะ
“เธอก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีครับ”
“อ่า เพื่อนร่วมงาน...”
“คุณยูโรช่วยมาดูรูปตรงนี้หน่อยสิคะ คุณคิดว่ามันโอเครึยัง”
พูดถึงก็เดินมาพอดี คนร่างสูง นัยต์ตาหวาน สวมชุดพนักงานขายที่ต้องทำเวลาตามคอนเซ็ปที่อทินวางไว้ให้
“ค่ะ ฉันคิดว่ามันโอเคแล้วนะคะ ทุกคนวันนี้ทำดีมากค่ะ พักกองได้”
เนื่องจากมันเป็นการโฆษณาชุดใหญ่ฉันก็เลยจ้างทีมงานมืออาชีพมาทั้งเซ็ต แน่นอนว่าทั้งหมดนี่ก็เพื่อให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันมากยิ่งขึ้น
“รินคุ นายทำอะไรซักอย่างสิ”
ฉันแอบกระซิบกระซาบคนร่างสูงซึ่งก็มาเป็นนายแบบโฆษณาในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน เขาทำหน้างงเล็กน้อยก่อนจะดีดนิ้วหนึ่งทีทำให้เสาไฟที่เป็นเหล็กล้มลงมาจะทับตัวพายอาร์จนอทินที่อยู่แถวนั้นพอดีต้องรีบวิ่งเข้าไปรับเอาไว้แทน
“แบบนี้เป็นไง ซีนโรแมนติก”
“โรแมนติกกับผีสิ อทินเขาเจ็บตัวไม่ใช่เหรอ”
“แหม เพื่อความรัก มันก็ต้องมีเจ็บตัวกันบ้างสิ ยันบ๊อง”
“คิดได้แต่เรื่องใช้กำลังสินะนายน่ะ”
“อย่าเพิ่งเอาแต่ว่า ดูนั่นก่อน”
พูดจบรินคุก็หันหน้าคนร่างบางไปทางพวกเขาทันที
“เจ็บมากไหมคะ! เพราะฉันแท้ๆ เลย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เจ็บเลย โอ๊ย!”
“ค่อยๆ ลุกนะคะ ฉันจะพาคุณไปโรงพยาบาล”
พายอาร์ค่อยๆช่วยพยุงอทินขึ้นก่อนที่ทีมงานแถวนั้นจะรีบวิ่งเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาด้วยเช่นกัน
“เห็นไหมล่ะ มันโอเค”
“พวกพระเจ้าหัวรุนแรง คิดได้แค่นี้สินะครับ”
รันเวย์! เขามาอยู่ข้างหลังพวกเราตั้งแต่เมื่อไร....
“นี่จิ้งจอกอ่อนไหวง่ายอย่างแกยังอยู่ดีอีกเหรอเนี่ย เธอไม่รำคาญบ้างรึไง ถ้าเธอโอเค ฉันเผามันแทนได้นะ เห็นแล้วมันขัดตา”
“หยุดเลยรินคุ เขาไม่ได้จะทำร้ายเราก่อนซะหน่อย ถ้านายทำเขา นายก็เป็นฝ่ายผิดนะ”
“นี่เธอเข้าข้างมันเหรอยูโร”
“พูดจาอวดดีได้ตลอดเลยนะครับ ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นพระเจ้าเลยแท้ๆ ”
“อยากตายจริงๆ สินะ”
“หยุดเลยทั้งคู่นั้นแหละ ฉันขอสั่งให้พวกนายหยุดทะเลาะกัน แล้วคุมทีมงานที่นี่ด้วย ฉันจะพาพวกเขาไปหาหมอ”
“นี่เธอสั่งฉันอีกแล้วนะยูโร! ถึงไอ้จิ้งจกนี่จะฟังเธอ แต่ฉันไม่ฟังหรอกน่า นี่ได้ยินไหมเนี่ย”
“เธอเดินไปไกลแล้วครับ อีกอย่างผมเป็นจิ้งจอกไม่ใช่จิ้งจกนะ!”
“หนอยแน่ะ ไอ้ลูกหมาแกจะยังไงกับฉันห๊ะ”
“แกนั่นล่ะ อยากโดนหมากัดมากสินะ!”
หลังจากนั้นประมาณ 15 นาทีได้ ฉันก็พาอทินไปถึงโรงพยาบาลได้สำเร็จพร้อมกับพายอาร์ซึ่งมีอาการเป็นกังวลสุดๆ
“ไม่ต้องห่วงนะคะ คุณอทินเขาต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน มันไม่ใช่ความผิดของคุณเลยค่ะ”
เพราะมันเป็นความผิดของรินคุต่างหากล่ะ!
“แต่สาเหตุมันมาจากฉันนะคะ”
“อย่าคิดมากเลยค่ะ มันเป็นอุบัติเหตุนี่น่า”
“แต่ว่า...”
“ถ้าคุณยังรู้สึกไม่ดีอยู่ล่ะก็ ฉันมีทางแก้ให้นะคะ”
“อะไรคะ”
“รับผิดชอบคุณอทินสิคะ”
“คะ?”
“ถือว่าดูแลเขาในระหว่างที่เข้าเฝือกแขนอยู่ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณยังรู้สึกผิดอยู่อ่ะนะ”
“จะดีเหรอคะ”
“ดีสิคะ ถ้าเป็นแฟนกันด้วยจะดีมากเลย”
“เมื่อกี้คุณยูโรว่าอะไรนะคะ”
แย่ล่ะสิ...ดันหลุดปากซะได้...
“เอ่อ คือว่า...”
“พายอาร์นี่เธอ ยอมโพล่หัวมาแล้วงั้นเหรอ!”
ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ที่คนร่างบางลืมคำพูดของฉันไปแล้ว แต่ตอนนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันกลับกลายเป็นคนที่บอกกับฉันว่า เธอเกลียดผู้หญิงที่ชื่อพายอาร์เป็นที่สุด ผู้หญิงที่ทำให้พี่ชายของเธอต้องนอนร้องไห้
“น้องเมล์...”
“ฉันไม่ใช่น้องคุณ!”
ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมายังคนร่างเพรียวซึ่งกำลังวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ก่อนที่เธอจะถูกผู้หญิงตรงหน้ากระชากแขนเสื้อขึ้นมาโดยที่พายอาร์ไม่ทันได้สนใจสิ่งรอบตัวใดๆ“.......”“ถึงกับใบ้กินเลยงั้นหรอ ไม่มีอะไรจะพูดหน่อยหรอไง!”“พี่ขอโทษ...แต่ถึงยังไงพี่ก็รักเขาไม่ได้อยู่ดี”“ไหนบอกว่าจะยอมทำทุกอย่างให้เมลไง ที่พูดมาคือคำโกหกงั้นหรอ ว่าแล้วเชียวคนอย่างเธอนี่มันเลวที่สุด!”“ปล่อยมือก่อนเถอะค่ะ ฉันว่าที่นี่ไม่เหมาะให้มาทะเลาะกันนะ”ฉันที่เห็นว่าเรื่องราวมันชักจะยุ่งยากมากขึ้นทุกทีจึงห้ามปรามคนร่างบางซึ่งกำลังหันมาโฟกัสทางฉันแทนด้วยแววตาขุ่นมัว“คุณยูโร? ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้...ไม่สิคุณรู้จักกับพายอาร์ด้วยหรอคะ”“ถ้าจะให้พูดล่ะก็ ตอนนี้ฉันเป็นนายจ้างของคุณพายอาร์อยู่น่ะค่ะ และฉันก็ได้แต่หวังว่าเมลจะไม่ทำอะไรนางแบบโฆษณาของฉันหรอกนะคะ ”ฉันยิ้มหน้าตายใส่อีกคนที่ชะงักค้างลงก่อนที่ฉันจะถือวิสาสะพ
รู้สึกว่างเปล่ามากซะจน...เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ นี่ฉันกำลังตกอยู่ในวัยต่อต้านตัวเองรึไง“ท่านประธานค่ะ โฆษณาที่ให้ดิฉันไปจัดการเสร็จแล้วค่ะ”จริงสิ....ฉันยังรับบทเป็นประธานบริษัทรถยนต์นำเข้าอยู่นี่น่า คนร่างบางพยักหน้ารับเลขาสาวช้าๆ พลางหยิบแฟ้มอนุมัติงบประมาณขึ้นมาเซ็นต์“งั้นก็ปล่อยออกไปได้เลย ส่วนยอดขายเดือนนี้บอกให้ทีมเอ กระตุ้นยอดขายโดยการส่งรถยนต์ไปเป็นสปอนเซอร์ของซีรีส์ที่จะออนแอร์ปลายปีนี้ด้วย”“ได้ค่ะท่านประธาน”เห็นแบบนี้ฉันก็มีความรับผิดชอบต่องานที่ตัวเองเอามาบังหน้าอยู่นะ อย่างน้อยก็ควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างแก่พวกพนักงานที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย“จริงสิคะ เรื่องหุ้นของบริษัทที่กำลังจะขาดทุนนั่น ท่านประธานจะซื้อเอาไว้ไหมคะ”บริษัทบราเดอร์ เหตุผลที่ขาดทุนขนาดนั้นคงมีคนโกงในบริษัท ถึงไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่เรื่องที่บริษัทของเขาจัดว่าเด่นในเรื่องการรักษาความปลอดภัยก็น่
ณ แทบทะเลทางตอนเหนือ สายลมกระโชกแรง มวลน้ำทะเลม้วนตัวเป็นคลื่นพายุพัดโหมกระหน่ำชายฝั่งทำให้ท่าเรือในละแวกนั้นไม่สามารถสัญจรไปได้ แต่ทว่าร่างของเด็กหญิงผมสีฟ้าครามก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางพายุที่พัดกระหน่ำรุนแรง“เข้าใจเลือกดีนี่ นายจงใจเลือกที่ๆ ฉันไม่สามารถหายตัวไปไหนได้ เพราะไม่รู้พิกัดที่แน่นอน”แปะ..แปะ…เสียงปรบมือดังขึ้นจากด้านหลังของเด็กสาวซึ่งสวมเสื้อคลุมเอาไว้จนมิดศีรษะทำให้อีกฝ่ายเหยียดยิ้มออกมาช้าๆ“ยินดีต้อนรับ ตัวแทนพระเจ้า คุณยอมมาถึงที่นี่จริงๆซะด้วย เพื่อเด็กผู้หญิงคนนั้นงั้นหรอ หรือเพราะว่าผมกันล่ะ”ร่างขาวเนียนสวมเสื้อบลูฮาวายสีดำสนิทแววตาสีแดงฉานเรือนผมสีชมพูอ่อนเดินเข้ามาหมายจะแตะต้องไหล่บางของอีกคนซึ่งกำลังเดือดเต็มที่“ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ไอความเย็นของคุณแช่แข็งมือของผมหมดแล้วนะครับ ยูโร ชิยูอิน”ไอความเย็นยะเยือกแผ่กระจายไปทั่วบริเวณที่ทั้งคู่ยืนอยู่ สร้างความประห
แบบนี้มันผิดปกติเกินไปแล้ว...หยิบยาสีฟันมาล้างหน้าเนี่ยนะ!? ไหนจะเดินออกคอนโดโดยไม่ยอมเอากุญแจรถมาอีก!? นี่ตัวฉันกำลังเกิดการต่อต้านแน่ๆ ตั้งแต่วันนั้นฉันก็เอาแต่เห็นภาพของจีราญาตลอด เป็นบ้าอะไรกันเนี่ย ทำไมฉันถึงต้องคิดถึงแต่เธอด้วย ไม่เข้าใจเลย!“อะไรของเธออารมณ์บูดแต่เช้าเลยนะ”รินคุปรากฎตัวขึ้นด้านหลังของฉันซึ่งกำลังกุมศีรษะอย่างไม่รู้จะหาทางออกยังไงก่อนจะเงยใบหน้าขึ้นมาสบตากับเขาที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร“รู้เรื่องแล้วงั้นหรอ”“แน่สิ เธอนี่ขยันหาเรื่องได้ตลอดเลยนะ รอบนี้ก็ดันไปทำสัญญาเลือดกับเจ้าปีศาจตลบตะแลง จนคะแนนติดลบ คิดอะไรอยู่กันแน่”อ่า คะแนน...จริงสิ...ยังไม่มีเลยแท้ๆ ดันติดลบซะแล้ว ให้ตายเถอะ!“แล้วคะแนนที่ติดมันลบเยอะไหมอ่ะ”ฉันทำหน้าหงอยเต็มขั้นโดยไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะถูกหักคะแนนหางเร่ไปด้วย“เพิ่งจะสำนึกงั้นหรอ”
“ประธานค่ะ คุณอีเมลมาขอเข้าพบค่ะ”“ให้เธอเข้ามา”ปวดหัวฉันชะมัด ตั้งแต่วันนั้นฉันก็ไม่กล้าไปพบหน้าจีราญาอีกเลย เธอมาหาก็เอาแต่หลบหน้า ทำไงดี เกิดกลัวความรู้สึกขึ้นมาดื้อๆ ไอ้ความรู้สึกชอบเนี่ย ฉันเองก็ยังไม่เข้าใจ...ตาโหล....เนื่องจากอดนอน....“สวัสดีค่ะ คุณยูโร”คนร่างบางสวมกางเกงขายาวสามส่วนพร้อมกับชุดน้ำตาลสีเข้มเข้ามาหาฉันที่นั่งจดจ่อกับเอกสารพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอีกคน“สวัสดีค่ะ คุณอีเมล”ฉันส่งยิ้มให้เธอนิดๆตามมารยาท ก่อนจะยื่นเอกสารฉบับเต็มซึ่งมีลายเซ็นต์ของฉันเรียบร้อยให้กับอีกคน“อันนี้เป็นเอกสารสัญญาเพิ่มเติมของคุณอีเมลที่ฉันร่างไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณต้องการเพิ่มเติมอะไรบอกฉันได้เลยนะคะ”“ค่ะ ขอบคุณนะคะ ว่าแต่คุณยูโร เป็นอะไรรึเปล่าคะ”“ฉันหรอคะ ก็ไม่นี่น่า....”
คนร่างสวยลอบมองท่าทางของทั้งสองสาวอย่างชั่งใจก่อนจะเอ่ยคำถามออกมาด้วยความยากลำบาก“แล้วเมลอยากรู้ไปทำไมหรอคะ...”“เพราะฉันชอบคุณค่ะ”ป๊อก....อยู่ๆ คนหน้าสวยก็เริ่มหน้าขึ้นสีอีกครั้งพลางยกมือปิดหน้าไว้ด้วยความสับสน ‘พวกประสบการณ์ด้านความรักเป็นศูนย์’นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย แค่เขาบอกชอบก็ดันหน้าแดงแล้วหรอ จะมีความรู้สึกกับทุกคนที่มาชอบไม่ได้นะ ยูโร ถึงแม้จริงๆ ฉันจะไม่มีเหตุผลที่ต้องเกลียดพวกเขาก็เถอะ“คุณหน้าแดงอีกแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นพวกตกหลุมรักง่ายเกินไปหรอคะ”จีราญาตวัดตาค้อนฉันที่ปรับสีหน้าไม่ถูก ก่อนจะทำหน้ามุ่ยพลางจ้องคนร่างสวยตาเขม็ง“คือฉันไม่เคยรักใครมาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง ขอโทษนะ ...”ฉันยืนปิดหน้าที่แดงก่ำของตัวเองก่อนจะถูกคนร่างบางเปิดมันออกและสบตากับฉันด้วยความไม่พอใจ“ถ้าอย่
“เดี๋ยวค่ะ! ยูโร ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ! มันเป็นอุบัติเหตุ”คนร่างบางรีบวิ่งออกมาด้วยท่าทางร้อนล่นพลางคว้าแขนเสื้อของฉันไว้เพราะตกใจที่คนหน้าสวยรีบเดินออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าว“ก็ไม่ได้คิดอะไรนี่คะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักนิด”โกหก อันที่จริงฉันคิดมาก คิดจริงจัง คิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว ทำไมทั้งสองคนนั้นถึงได้ไปนอนคร่อมกันในห้องของฉัน ท่าทางล่อแหลม ไหนจะอาการเห่อร้อนนั่นอีก!“หันมานี่ก่อนสิคะ”คนตัวเล็กพยายามง้อฉันที่พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติและหันไปสบตากับคนร่างบางด้วยรอยยิ้มปลอมๆ“คุณยูโร เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”“ค่ะ”ฉันตอบกลับเสียงแข็ง บ้าจริง ฉันเกิดรู้สึกน้อยใจขึ้นมาได้ไงกัน“นี่หรือว่ายูโรจะ...”“จะอะไรคะ”คนตัวเล็กยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจ
เมื่อคืนเราร้องไห้หนักมากจนตาบวมเลยแหะ ฉันส่องกระจกพลางเช็คสภาพตัวเองและจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะออกมาตามเวลานัดที่ไล่เลี่ยกัน หวังว่าเธอคงจะไม่รอนานนะ“จี”คนร่างบางหันมาตามเสียงเรียกของฉันก่อนเธอที่จะรีบวิ่งเข้ามาหากันด้วยรอยยิ้มสดใส“ยูโร”“รอนานไหม”“ไม่นานหรอกค่ะ”โกหก ฉันมาเลทตั้งครึ่งชั่วโมงเพื่อจะพิสูจน์ความจริงใจ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่รู้ตัวเลยนะ“ขอโทษที่มาช้านะ”“อย่าคิดมากสิคะ ไปกันเลยไหม สวนสนุกน่ะ”ท่าทางกระตื้อรื้อล้นของเธอมันทำให้ฉันแอบปวดใจนิดๆ แหะ“เอาสิ ว่าแต่คนพวกนั้นไม่อยู่แล้วหรอ”ฉ
ฉัน...รู้อยู่แล้ว ว่าความจริงยูกิจังไม่เหมือนเดิม เธอเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ทั้งรอยยิ้ม และสายตาแบบนั้น ทำให้ฉันเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี….เธอไม่ใช่ชิยูกิของฉันหรอก...แต่ถึงอย่างนั้น..แต่ฉันก็ยังทำใจยอมรับมันไม่ได้...เรื่องที่ว่าไม่มีชิยูกิจังอยู่ต่อไปอีกแล้วน่ะ....ฉันควร...จะทำยังไงดีล่ะ....“นี่มันยังไงกันแน่ ตกลงว่าชิยูกิคนนี้เป็นตัวปลอมอย่างงั้นน่ะหรอ อย่าเอาแต่เงียบสิ ฉันเองก็ปวดใจนะ! อย่าเอาแต่เงียบกันได้ไหม! แล้วตัวจริงล่ะ...ตัวจริงไปอยู่ที่ไหน!”“เรื่องนั้น...”คนร่างบางจับชายเสื้อของชิยูกิเอาไว้แน่นทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงักลงก่อนจะแสดงสีหน้าอันขนขื่นออกมา“ฉันคิดว่าเจ้าของร่างนี้อาจจะตายไปแล้ว”คนร่างผอมเพรียวแทบจะล้มไปกองกับพื้นทันทีตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของมีอาเธอเดินเข้ามากระชากคอเสื้อด้านนอกสีน้ำเงินเข้มของยูโรซึ่งไม่มีทีท่าขัดขืนแต่อย่างใด“ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้เรื่องนี้ตั้งแ
ฉันปรายตามองคนมาใหม่อย่างโกรธเคืองเพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเธอจะตามฉันมาถึงที่นี่ ไหนว่าจะขายฉันทิ้งแล้วไงล่ะ ยังจะมาไยดีอะไรกันอีก แค่หน้าก็ไม่อยากจะมองแล้ว ยังจะมาที่นี่อีกทำไม...“หยุดทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าข้าได้แล้ว พี่สาวอย่างข้าอุตส่าห์ทิ้งภาระอันหนักอึ้งมาหาเจ้าเชียวนะ ตอบแทนกันอย่างนี้รึ”ไม่พูดเปล่ายูแอลยังถือวิสาสะดึงแขนของเด็กสาวออกจากการเกาะกุมของเฮร่าพลางดึงคนร่างบางมาไว้ข้างตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉยผิดกับสองคนที่เหลือ“ชิยูกิ!”“เอริคนี่เจ้าไม่คิดจะสอนมารยาทน้องสาวของเจ้าหน่อยรึไง”คนร่างสวยหวาดตามองหญิงสาวทั้งสองอย่างเอาเรื่องทำให้เอริคผู้เป็นพี่รีบขอโทษแทนน้องสาวแทบไม่ทัน“ขออภัยขอรับ ท่านหญิง น้องสาวของกระผมเสียมารยาทต่อท่านหญิง ได้โปรดอภัยให้นางด้วย”“พี่ / เอริค ย
ฉันคิดว่ามีอาคงผูกใจเจ็บกับเฮร่าจริงๆ นั่นล่ะ เพราะคิดไม่ถึงเลยว่ายัยนั่นจะตามติดพวกฉันแจขนาดนี้“มีอา”ฉันเหล่ตามองเธออย่างลำบากใจที่เห็นคู่หมั้นของเอริคมายืนส่งยิ้มให้กันตั้งแต่หัววันแบบนี้ แถมยังไม่ยอมปลายตามองคู่หมั้นของตัวเองอีกต่างหาก ถ้าให้ฉันเดาล่ะก็ ก็ถูกคลุมถุงชนแหง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่เห็นจะต้องพุ่งสายตากดดันมาทางฉันเลยก็ได้นี่!“ฉันมาชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันน่ะ”“ยูกิจังไม่ไปกับเธอหรอก”เฮร่าเดินลงมาจากบันไดพลางปลายตามองผู้มาใหม่อย่างกดดันเธอดูอารมณ์ไม่คงที่สุดๆ“ ชิยูกิต้องได้รับอนุญาตจากเธอก่อนรึไง ถึงจะออกไปข้างนอกกับฉันได้”“ใช่”เหมือนจะไม่ใช่นะ....ทำไมต้องมาทะเลาะกันเรื่องของฉันด้วยล่ะ อีตาเอริคนี่ก็อีกคนช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณเป็นคนต้นเรื่องไม่ใช่หรอ พวกเค้าทะเลาะกันเพราะคุณนะ“เธอไม่ใช่เจ้าของชิยูกิสักหน่อย ไม่มีสิทธิมาตัดสินใจนะ”“เธอก
ก็ไม่รู้ว่าเฮร่าโกรธฉันเรื่องอะไรหรอกนะ แต่เล่นมาทิ้งกันไปแบบนี้แล้วฉันจะกลับบ้านยังไงได้ล่ะ....ฉันพยายามมองหาเธออีกครั้งแต่ทว่ามันก็ไร้ผล ไม่มีวี่แววของเธอเลย หรือว่าคนร่างบางจะจงใจทิ้งฉันเอาไว้ที่นี่จริงๆ ....“อ้าว ชิยูกิยังไม่กลับบ้านอีกหรอ”“มีอา?”ฉันหันกลับไปมองเธอที่ถือกระเป๋ามารอฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ามายืนรอฉันทำไม เราเพิ่งรู้จักกันวันนี้เองนะ ไม่เห็นจะต้องใส่ใจกันเลย“กลับบ้านด้วยกันไหมล่ะ”“เอ่อ คือว่าฉันต้องรอเฮร่ากลับบ้านด้วยกันน่ะ”“เอ๋ งั้นหรอ แต่ดูท่าทางยัยนั่นจะกลับบ้านไปก่อนแล้วนะ”อ่า...สรุปว่าฉันโดนทิ้งเอาไว้ที่นี่จริงๆ ด้วย...“ทำไมทำหน้าหงอยอย่างนั้นล่ะ เอ้า ยื่นมือมาสิ เธอกลับกับฉันก็ได้”“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองดีกว่า”
ก็ไม่ได้เกลียดกับการถูกติดหนึบจากคนที่ไม่รู้จักหรอกนะ แต่แบบนี้มันก็ดูจะเกินไปหน่อย ฉันแลสายตามองเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันซึ่งกำลังควงแขนของฉันด้วยรอยยิ้มสดใสแตกต่างจากพี่ชายของเธอลิบลับ“ไปก่อนนะคะพี่”“อืม ไปดีมาดีล่ะ”เอริคพูดขึ้นพลางยื่นกระเป๋าส่งมาให้ฉันซึ่งทำหน้าหนักใจหนักกว่าเดิมเพราะเขายังคงยืนนิ่งไม่ขยับตัวไปไหน“เอ่อ คือ”ฉันพูดพลางคิ้วกระตุกนิดๆ เมื่อพยายามดึงกระเป๋าออกจากฝ่ามือของเขาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ยอมปล่อยมันสักที สรุปจะให้หรือไม่ให้กันแน่“พี่จะถือกระเป๋ายูกิจังอีกนานไหมคะ ปล่อยได้แล้วนะ”“อ่ะ โทษที เดินทางปลอดภัยนะ”“อื้ม! ยูกิจังไปกันเถอะ”“ยูกิจัง?”“ ขอเรียกยูกิจังได้ไหม ตอนเด็กๆ เราก็เรียกกันแบบนี้ไง แง ทำไงดี รู้สึกแย่จัง เมื่อไรจะจำฉันได้ล่ะ&rdq
หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง หรือสามชั่วโมง ฉันถูกพามาอยู่ในยุคสงครามรวบรวมหัวเมืองกันอยู่รึไง เหนื่อยชะมัด ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ฉันก็จับดาบไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ ไม่ตลกเลยนะ ไหนพวกเกมแนว rpg มันถึงจับกันง่ายขนาดนั้นล่ะ ชีวิตจริงไม่เห็นเหมือนอย่างที่คิดไว้เลยนี่หว่า!“ท่านเป็นน้องของท่านหญิงซายะแน่หรอ”คนร่างสูงปลายตามองฉันอย่างเหนื่อยใจ แต่นั่นมันก็ช่วยไม่ได้ เพราะชีวิตจริงหรือโลกหลังความตายฉันก็ไม่เคยใช้อาวุธกับใครเค้าซะหน่อย จะใช้ไม่เป็นแล้วมันผิดรึไงย่ะ ไอ้คนคลั่งอาวุธหัวทองเอ้ย!“นี่...ฉันว่าพอก่อนเถอะ”“เห แต่ท่านยังไม่ได้ฝึกพวกธนูกับมีดเลยนะ”จะอะไรฉันก็ไม่อยากฝึกทั้งนั้นล่ะ เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ทั้งมือและขามันก็ชาไปหมด ไม่รับรู้ถึงความเหนื่อยบ้างรึไงกัน“พอแค่นั้นล่ะ”“ท่านหญิงซายะ รับทราบขอรับท่านหญิง”เคารพกันจังเลยนะ ยัยผู้หญิงเผด็จการคนนี้เนี่
คนร่างบางสบตาฉันนิ่งและไม่ปรากฏรอยยิ้มใดๆ จากเจ้าตัวเลย ที่พูดว่าจะฆ่า เธอคงไม่ได้โกหกสินะ ตัวฉันเริ่มสั่นเทาไปด้วยความกลัวขึ้นมาดื้อๆ ทำไมคนที่มีอำนาจขนาดนั้นถึงได้มาหาฉันได้ล่ะ แต่แล้วเสียงของรินคุก็ทำให้ฉันมีสติขึ้นมา“ยูโร!!”“หืม นายคงเป็น ตัวแทนลำดับที่เก้ามิคาเอล รินคุ”“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม”เขาหันมามองฉันอย่างเป็นห่วง ในขณะเดียวกันสีหน้าของรินคุก็ไม่สู้ดีนัก ทำให้ยูแอลต้องคลายแรงกดดันลง“เธอคงตกอยู่ในอาการหวาดกลัวน่ะ เพราะไม่เคยเจอแรงกดดันแบบนี้มาก่อน ว่าแต่นาย-”“ขออภัยที่กระผมเสียมารยาท ถ้าเธอทำอะไรผิดไปยกโทษให้ยูโรด้วยเถอะครับ! ท่านยูแอล”“ยกโทษ...งั้นหรอ ตลกดีนะ เด็กคนนั้นไม่คิดจะขอโทษฉันด้วยซ้ำไป”“ท่านยูแอล!”“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่คิดจะทำร้ายเธอหรอก เพราะฉะนั้น เด็กคนนี้ฉันจะอบรมเอง
เมื่อคืนเราร้องไห้หนักมากจนตาบวมเลยแหะ ฉันส่องกระจกพลางเช็คสภาพตัวเองและจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะออกมาตามเวลานัดที่ไล่เลี่ยกัน หวังว่าเธอคงจะไม่รอนานนะ“จี”คนร่างบางหันมาตามเสียงเรียกของฉันก่อนเธอที่จะรีบวิ่งเข้ามาหากันด้วยรอยยิ้มสดใส“ยูโร”“รอนานไหม”“ไม่นานหรอกค่ะ”โกหก ฉันมาเลทตั้งครึ่งชั่วโมงเพื่อจะพิสูจน์ความจริงใจ แต่ดูเหมือนว่าเธอไม่รู้ตัวเลยนะ“ขอโทษที่มาช้านะ”“อย่าคิดมากสิคะ ไปกันเลยไหม สวนสนุกน่ะ”ท่าทางกระตื้อรื้อล้นของเธอมันทำให้ฉันแอบปวดใจนิดๆ แหะ“เอาสิ ว่าแต่คนพวกนั้นไม่อยู่แล้วหรอ”ฉ
“เดี๋ยวค่ะ! ยูโร ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ! มันเป็นอุบัติเหตุ”คนร่างบางรีบวิ่งออกมาด้วยท่าทางร้อนล่นพลางคว้าแขนเสื้อของฉันไว้เพราะตกใจที่คนหน้าสวยรีบเดินออกไปโดยไม่บอกไม่กล่าว“ก็ไม่ได้คิดอะไรนี่คะ ฉันไม่ได้คิดอะไรสักนิด”โกหก อันที่จริงฉันคิดมาก คิดจริงจัง คิดจนปวดหัวไปหมดแล้ว ทำไมทั้งสองคนนั้นถึงได้ไปนอนคร่อมกันในห้องของฉัน ท่าทางล่อแหลม ไหนจะอาการเห่อร้อนนั่นอีก!“หันมานี่ก่อนสิคะ”คนตัวเล็กพยายามง้อฉันที่พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติและหันไปสบตากับคนร่างบางด้วยรอยยิ้มปลอมๆ“คุณยูโร เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด”“ค่ะ”ฉันตอบกลับเสียงแข็ง บ้าจริง ฉันเกิดรู้สึกน้อยใจขึ้นมาได้ไงกัน“นี่หรือว่ายูโรจะ...”“จะอะไรคะ”คนตัวเล็กยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจ