Home / รักโบราณ / จารใจทุรยศ / Chapter 15. ต้องพิษ

Share

Chapter 15. ต้องพิษ

last update Last Updated: 2025-03-04 21:31:14

“ฆ่  า ตั ว ตาย?” เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นแล้วเอียงคออย่างงุนงง “ผู้ใดฆ่าตัวตายเจ้าคะ”

“ก็เจ้าไง” เขาใช้นิ้วชี้จิ้มที่หน้าผากของเด็กหญิง “ไม่เช่นนั้นเจ้าจะเดินลงน้ำไปทำไม”

“ท่านผู้มีพระคุณเข้าใจข้าน้อยผิดแล้วเจ้าค่ะ” เด็กหญิงรีบอธิบาย “นายท่านรองบอกให้ข้าน้อยลงไปแช่เท้าที่สระน้ำนี้บ่อยๆ เจ้าค่ะ ให้ข้าน้อยฝึกเดินในน้ำ”

ได้ยินถ้อยคำของนางก็ทำให้เด็กหนุ่มหน้าตึงไป เขาก้าวเท้าถอยห่างนางออกมาเล็กน้อย

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว อย่าได้ลืมเชียวว่าชีวิตเจ้าเป็นของข้าแล้ว”

“เจ้าค่ะ ข้าจะจำใส่ใจไว้” 

สวินเย่ว์ที่เดิมทีไม่คิดสนใจว่าสตรีผู้นี้จะเป็นเช่นไร แต่เมื่อความทรมานเบาบางลง แทนที่ด้วยความเสียวกระสัน เขาจึงเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาที่เคยจ้องมองเขากลับปิดลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลเปื้อนแก้ม นางกัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้อง แต่กระนั้นเขาย่อมรู้ได้ว่านางกำลังสะอึกสะอื้น หัวใจของเขาอ่อนยวบลงจึงโน้มหน้าลงกระซิบ

“ผ่อนคลาย ประเดี๋ยวก็จบแล้ว” 

น้ำเสียงแหบพร่าและลมหายใจร้อนระอุ ทำให้นางพยักหน้าแล้ว

เบือนหน้าหนี กลัวอีกฝ่ายจะเห็นรอยแผลเป็นที่หน้าผาก กลัวเขาผลักไส กลัวเหลือเกินว่าเขาไม่สนใจนาง

ชีวิตนางเป็นของเขา

แม้เรื่องที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น หากมันบรรเทาความทุกข์ทรมานของเขาได้ นางยินดีมอบให้เขา

นางยังบริสุทธิ์!

แม้จะเกลียดสตรีที่เสนอเรือนร่างให้เช่นนี้ แต่เมื่อรู้ว่านางยังเป็นหญิงพรหมจรรย์ เขาก็พยายามเคลื่อนไหวให้ช้าลง แรกทีเดียวช่องทางคับแคบนั้นแห้งผาก นั่นเป็นความผิดที่เขาหุนหันพลันแล่นดึงดันแทรกแก่นกายแห่งบุรุษเพศอย่างไม่ปรานี เขาเป็นคนเรื่องมากและเลือกมาก เรื่องเหล่านี้เรียนรู้ได้แต่ยังขาดการปฏิบัติจริง เขาไม่เคยจุมพิตสตรีนางใด หากแต่เมื่อครู่ที่เห็นนางในสายน้ำ เขามึนเมาลุ่มหลงราวกับดื่มสุรารสแรง อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดทำให้เขาเผลอจุมพิตนางไป

ดวงตาดุจลูกไฟจ้องมองใบหน้าของหญิงสาวที่อ่อนระทวยใต้ร่าง แม้เขาจะมองเห็นไม่ชัดแต่รู้สึกได้ว่านางกลั้นเสียงร้องไห้ เขายื่นมือไปหมายลูบผมปลอบประโลม แต่นางปัดมือของเขาออก การกระทำของนางทำให้เขารู้สึกว่านางรังเกียจเขา  เมื่อครู่ก็เช่นกัน หมายใจจะช่วยปลุกเร้าอารมณ์ของนาง แต่นางก็ปัดมือของเขาออก เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงขยับสะโพกรุนแรง  ลึกล้ำและกระแทกกระทั้นจนใบหน้าของหญิงสาวสะบัดไปมา

นางไม่เคยรู้เลยว่าหลังความเจ็บปวดผ่านพ้นจะกลายเป็นระลอกคลื่นความเสียวซ่านที่นางไม่เคยรู้จัก เสียงหอบหายใจที่อยู่เหนือร่างของนาง ฝ่ามือร้อนระอุบีบเคล้นทรวงอก ใจกลางสตรีที่เบ่งบานเพื่อต้อนรับภมรหนุ่มระเริงกับดอกไม้ที่ไม่เคยต้องมือชาย ทุกการเคลื่อนไหวแม้หนักหน่วงรุนแรงแต่กลับพาให้นางได้รู้จักรสสัมผัสอันน่าอัศจรรย์นี้

ความสัมพันธ์ของชายหญิงเป็นเช่นนี้เองหรือ

นางมิอาจสะกดกลั้นคลื่นอารมณ์ที่กระแทกกระทั้นได้อีก ร่างกายขยับรับสอดประสานกับเรือนร่างกำยำอย่างไม่รู้ตัว เสียงคำรามในลำคอก่อนที่จะซุกซบกับเส้นผมหอมกรุ่นของหญิงสาว เขาได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัวของนาง ช่องทางอันคับแคบบีบรัดจนเขาครางราวสัตว์ป่า แต่กลับผ่อนคลายจากความร้อนรุ่มทุกข์ทรมานที่ต้องเผชิญมาสองวันเต็มๆ

 สวินเย่ว์รอจนร่างกายของนางผ่อนคลายแล้วจึงค่อยๆ ถอนตัวออกจากร่างบอบบาง กลิ่นคาวเลือดจางๆ และกลิ่นอายวสันต์คละคลุ้งรอบกายคนทั้งสองและเพียงความเงียบงัน

เสิ่นฉางซีรวบรวมเรี่ยวแรงยันกายขึ้นยื่นมือไปคว้าเสื้อผ้าของตนมาสวมทับร่างเปลือยเปล่าด้วยมือที่สั่นเทา

“จากที่นี่เดินเท้าแค่ครึ่งก้านธูปก็ถึงบ้านของข้า ท่านไปพักที่นั่นก่อนเถิด หากนายท่านรองกลับมาแล้ว จะให้นายท่านรองช่วยตรวจดูว่าท่านได้รับพิษใด”

ถ้อยคำเรียบง่ายของนางทำให้เขาหงุดหงิด นางควรอ้อนวอนขอให้เขารับผิดชอบนาง แต่นางกลับ...ทำเหมือนเรื่องเมื่อครู่มิได้เกิดขึ้น เขาฮึดฮัดไม่พอใจแต่กลับเดินสะดุดก้อนหินเกือบจะล้มลง เสิ่นฉางซีหันไปเห็นพอดีรีบเข้าไปประคอง แต่ร่างนางก็แทบไม่มีแรงทรงตัว

สวินเย่ว์ก้มมองคนในอ้อมอก เดิมทีไม่คิดติดตามนางไปด้วย แต่จะปล่อยให้นางเดินกลับไปคนเดียวทั้งที่เรี่ยวแรงไม่กลับคืนก็กระไรอยู่

เขาแสร้งให้นางประคองเขา ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายโอบเอวนางไว้ แล้วมุ่งหน้าไปยังเรือนหลังน้อยที่นางเรียกว่าบ้าน.

            แม้อยู่ในเสื้อผ้าธรรมดาเรียบง่ายแต่มิอาจบดบังความงามสง่าของบุรุษผู้นี้ได้ เสิ่นฉางซีหลุบตาลงแสร้งจับสาบเสื้อที่ทบกันเรียบร้อยแล้วให้ดียิ่งขึ้น นางพาเขากลับมาที่พักของตนเองแล้วเดินไปเรือนของนายท่านรองเพื่อหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้สวินเย่ว์ผลัดเปลี่ยน 

            ระหว่างนางกับเกาเทียนฉีมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันมากก็จริง เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของเกาเทียนฉีเป็นนางที่ซักทำความสะอาด ดูแลทุกอย่าง แต่นางก็รู้สึกแปลกพิกลที่หยิบเสื้อผ้าของเขามาให้ผู้อื่นสวมใส่ ซ้ำกวาดตามองก็ไร้เงาของเจ้าของเรือน เขาขึ้นเขาไปสิบห้าวัน ไม่นับว่านานนักหากเทียบกับเวลาปกติที่เขาขึ้นเขาเข้าป่า ด้วยความที่เกาเทียนฉีรักความสงบจึงให้สร้างเรือนอีกหลังอยู่ไม่ห่างจากเรือนหลักนัก นั่นคือเรือนที่นางอยู่ เรือนที่นางเรียกว่า ‘บ้าน’

            บ้านที่แท้จริงของนางกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

            เด็กสาวถอนหายใจเบาๆ ในปีที่นางอายุสิบขวบ มารดาสิ้นใจด้วยอาการเจ็บป่วยเรื้อรังที่เป็นมายาวนาน ทั้งท่านพ่อและท่านแม่ไม่มีญาติพี่น้องที่ใดอีก ครั้นจะฝากฝังนางกับผู้อื่นให้เลี้ยงดูก็ไม่มีใครที่ท่านพ่อวางใจได้ จะให้นางมาติดตามอยู่ข้างกายในเวลานั้นยิ่งไม่สะดวก แรกทีเดียวนางไม่เข้าใจนัก แต่เมื่อวันเวลาผ่านมานางจึงตระหนักได้ว่า บิดามีภารกิจสำคัญยิ่งและช่วงนั้นอยู่คนเดียวในบ้านที่มีกลิ่นอายของมารดาโดยมีเพื่อนบ้านแวะเวียนมาคอยดูแลด้วยความสงสารเวทนาเด็กน้อยที่ไร้มารดา วันที่บิดามารับ นางเข้าใจว่าบิดาจะพานางไปอยู่ด้วยกัน ทว่าเสื้อคลุมงดงามหรูหรากลับถูกคลี่คลุมร่างของนางพร้อมกับคำว่า

            ‘พ่อขอโทษ’

            “เจ้าอยู่กับใคร” 

            น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยถามเรียกสติของเสิ่นฉางซีให้เงยหน้าสนใจเขา ยามนี้นางใช้ผ้าฝ้ายสะอาดปิดดวงตาทั้งสองข้างของเขา

            “ข้าอยู่กับใคร?” นางทวนคำถามของเขาแล้วนึกขึ้นได้ว่าเขาคงสงสัยเสื้อผ้าบุรุษที่นางนำมาให้เขาสวม

“ข้าเป็นกำพร้า เรือนหลังนี้เป็นของนายท่านรอง ข้ามาเฝ้าแปลงสมุนไพรให้นายท่านรอง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • จารใจทุรยศ    Chapter 16.ฐานะใด

    เสิ่นฉางซีไม่กล้าเอ่ยชื่อเกาเทียนฉี นางเกรงว่าจะนำความเดือดร้อนมาสู่สกุลเกา หากจะมีเรื่องเลวร้ายใดเกิดขึ้น ก็เกิดกับนางผู้เหลือเพียงคนเดียวเถิด เพราะมองไม่เห็นแต่จับน้ำเสียงที่คล้ายไม่อยากเอ่ยอะไรมากนัก สวินเย่ว์จึงไม่เอ่ยปากซักไซ้ เพียงแค่ประหลาดใจที่นางสามารถหาเสื้อผ้าของบุรุษให้เขาผลัดเปลี่ยนได้ แรกทีเดียวคิดว่านางมี ‘สามี’ แต่นึกอีกที ‘พรหมจรรย์’ของนางนั้น เขาได้พรากมันมาแล้ว ควรนับได้ว่านางเป็นผู้หญิงของเขา “ร่างกายท่านยังไม่ฟื้นตัวดีนัก กินข้าวต้มกับผัดกุยช่ายขาวกุยช่ายขาวช่วยบำบัดอาการฟกช้ำและบำรุงสายตา เอ่อ...ท่านฝืนกินสักนิดเถิดนะ” สวินเย่ว์นิ่งไปเล็กน้อย ท่าทางนางไม่เหมือนหญิงชาวบ้านทั่วไป ถูกเขาย่ำยีแล้วยังมีเรี่ยวแรงดูแลปรนนิบัติช่วยเช็ดเนื้อตัวและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า สองมือของนางช่างคล่องแคล่วราวกับทำเรื่องเช่นนี้จนคุ้นชิน หรือนางเป็นสาวใช้ข้างห้อง หรือเป็นสตรีที่ถูกเลี้ยงดูไว้เผื่อ... “ท่านแม่ทัพ?” หญิงสาวเรียกเขาเบาๆ เข้าใจไปว่าคนผู้นี้คงกินดีอยู่ดี ไม่ชินกับอาหารการกินเรียบง่าย นางเม้มริมฝีปากครุ่นคิด นางเกรง

    Last Updated : 2025-03-05
  • จารใจทุรยศ    Chapter 17. พิษปลุกกำหนัด

    พอคิดได้ว่าต้องกลับไป นางนึกขึ้นได้ว่าเรือนของนางนั้นเล็กนัก มีเพียงเตียงเดียวซึ่งยามนี้บุรุษผู้นั้นนอนพักผ่อนอยู่ หากนางจะนอนที่เรือนของนายท่านรองก็เกรงว่าเขาตื่นมาหรือต้องการสิ่งใดแล้วไม่มีใครดูแลจะยิ่งลำบาก นางรื้อค้นได้ผ้าห่มสำรองผืนหนาหอบกลับมาด้วย ร่างเล็กเดินลากขาข้างที่เจ็บกลับมาอีกครั้ง เรือนของนางมีเพียงห้องเดียว แค่เตียงนอนกับโต๊ะหนึ่งชุดก็แทบจะไม่มีที่เดินแล้ว ยามนี้บนเตียงของนางมีร่างสูงใหญ่เอนกายพิงหัวเตียงอยู่ “เหตุใดท่านไม่นอนพักผ่อน”นางวางผ้าห่มที่หอบมาไว้บนโต๊ะ แล้วรีบเดินเข้าไปใกล้ร่างของชายหนุ่ม ก่อนออกไปนางประคองเขาลงนอนแล้วนี่ เหตุใดลุกขึ้นมานั่งเช่นนี้นะ ใบหน้าที่มีผ้าปิดตาอยู่เอียงคอเล็กน้อยฟังเสียงที่เข้ามาใกล้ หัวคิ้วกดลงเล็กน้อยคล้ายครุ่นคิดแล้วเอ่ยปากถาม “เท้าของเจ้า?” “เท้า?” เสิ่นฉางซีก้มมองตัวเอง ไม่รู้สึกผิดปกติอันใดจึงเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง “จังหวะการเดินของเจ้าลงน้ำหนักเท้าไม่เท่ากัน เท้าเจ้าเจ็บหรือ?” เด็กสาวกะพริบตาปริบๆ นางเดินเสียงดังจนเขาจ

    Last Updated : 2025-03-05
  • จารใจทุรยศ    Chapter 18. ผู้หญิงของเขาไม่ควรใช้ชีวิตลำบากอีกต่อไป

    น้ำเสียงแหบพร่าเปี่ยมด้วยความปรารถนาเอ่ยปลอบ ค่อยๆ กดแก่นกายเข้าไปในโพรงที่คับแคบและอุ่นร้อน ความปรารถนาที่กลายเป็นเปลวเพลิงผลักดันให้เขาขยับกายดุนดันเข้าไปจนสุดทาง กดแช่ไว้เพื่อให้ร่างกายของนางปรับตัวรับกับแท่งหยกร้อนของเขา ร่างบางสั่นระริกพร้อมกับเสียงครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เขาถอนกายออกมาอย่างเชื่องช้าแล้วผลักดันกลับเข้าไปใหม่ ให้กลีบดอกไม้ค่อยๆ เบ่งบานรับความรัญจวนที่เกิดขึ้น ช่องท้องของนางอุ่นร้อนและเสียวซ่าน เหงื่อหลั่งออกมาจนเสื้อผ้าของนางเปียกชุ่ม การเคลื่อนไหวที่แรกเริ่มเชื่องช้าค่อยๆ เร็วขึ้น รุนแรงขึ้น และลึกล้ำจนร่างกายของนางแทบกระเด็นกระดอนเพราะแรงกระแทกกระทั้น ลมหายใจร้อนระอุรินรดอยู่บนไหล่ของนาง และเสียงหอบครางหนักหน่วงของเขา นำพาให้นางมึนเมากับรสสัมผัสร้อนแรงและหวามไหว ครั้งนี้นางสัมผัสได้ถึงความซ่านเสียวที่ทำให้ร่างกายอ่อนระทวยแทบไร้เรี่ยวแรง ปล่อยให้ร่างแกร่งจ้วงลึกดุดันจนกระทั่งร่างกายของนางสัมผัสความสุขสมที่ไม่คุ้นเคย นางหลุดปากหวีดร้องเป็นจังหวะเดียวกับที่กระแสธารชีวิตอันอุ่นร้อนหลั่งรินในกายของนางพร้อมเสียงคำรามของชายหนุ่มที่ซ้อนกายอยู่ด้านหลัง

    Last Updated : 2025-03-05
  • จารใจทุรยศ    Chapter 19. ความทรงจำอันอบอุ่น

    เสิ่นฉางซีเอ่ยแล้วประคองให้เขานั่งลงที่เก้าอี้ไม้ตัวหนึ่ง นางเผลอมองเขาราวกับกำลังมองภาพวาด แดดเช้าทอดเงาทาบทับร่างสง่างาม เขามิใช่บุรุษบอบบางแต่เป็นร่างกายของชายผู้ผ่านสนามรบมา ใช้ชีวิตในกองทัพมาห้าปี ไต่เต้าจากทหารชั้นผู้น้อยสู่การเป็นแม่ทัพ “เจ้าผ่าฟืนเองรึ” เขาถาม ด้วยไม่คิดว่ามือเล็กๆ คู่นี้ต้องทำงานหนักหนาถึงเพียงนี้ “ฟืนชิ้นไม่ใหญ่นัก ข้าทำเองทุกครั้งไป” นางหัวเราะเก้อเขิน แล้วก้มมองฝ่ามือหยาบกระด้างของตนเอง จริงซินะ เขาคงประหลาดใจที่มาเจอผู้หญิงอย่างนาง หญิงสาวตระกูลสูงศักดิ์ เขียนโคลงกลอนหรือวาดภาพ บรรเลงเพลงพิณ เรื่องเหล่านั้นนางไม่มีความรู้เอาเสียเลย “ข้าทำให้เอง” เสิ่นฉางซีเห็นเขาลุกขึ้นยืน นางก็รีบกดไหล่ให้เขานั่งลงตามเดิม สวินเย่ว์ขมวดคิ้ว ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเขามาก่อน โดยเฉพาะสตรีตัวเล็กๆ คนหนึ่ง “ท่านยังต้องพักผ่อน ดวงตาท่านก็ปิดอยู่ ไม่ควรทำอะไรกระทบกระเทือนจนเกินไป” เมื่อเห็นเขายอมนั่งลงตามเดิมแล้ว นางจึงรีบชักมือกลับเพราะเกรงว่ามือหยาบกระด้างของตนจะระคายผิวกายของเขา “ท่านหิวแล้วหรือไม่ ข้าทำโ

    Last Updated : 2025-03-05
  • จารใจทุรยศ    Chapter 20. ทำอาหาร

    นางหมุนตัวเดินไปเตรียมทำอาหาร เมื่อวานนางทำอาหารหลายจาน หนึ่งในนั้นมีกบนึ่งเห็ดหอม เดิมทีนางทำไว้ให้ตนเอง อย่างไรกบสองตัวนั้นก็ถูกส่งมาให้นางทำเป็นอาหารอยู่แล้ว นางกินเองก็ไม่เห็นเป็นไร แล้วทำไก่ตุ๋นเครื่องยาจีนให้เขาแทน แต่พอเขาออกมากินมื้อเที่ยง กลับถามหากบนึ่งเห็ดหอมเสียนี่ ‘ข้าทำไก่ตุ๋นเครื่องยาจีนให้ท่าน’ ‘แล้วข้าจะกินกบนึ่งเห็ดหอมของเจ้าไม่ได้รึ’ ‘แต่มันเป็นกบ’ ‘แล้วอย่างไร’ นางเห็นท่าทางของเขาเหมือนสั่งการทหารอย่างไรอย่างนั้น นางจึงได้แต่ทำตามที่เขาสั่ง คีบเนื้อกบที่เลาะกระดูกออกแล้วส่งเข้าปากของเขา ‘อืม ไม่เลว’ นางอมยิ้มแล้วป้อนเนื้อไก่จริงๆ ให้เขาอีกคำ ‘คล้ายแต่ก็แตกต่างกัน’ ‘ประสาทรับรสของท่านแม่ทัพดีเยี่ยม’ นางเอ่ยแล้วป้อนอาหารให้เขาต่อ เห็นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยจึงชะงักไป ‘ข้าเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้’ ‘ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ’ ‘เจ้าไม่มีอะไรจะถามข้ารึ’ ‘ข้าควรถามอะไรเจ้าคะ’ นางถามกลับ นิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนเ

    Last Updated : 2025-03-06
  • จารใจทุรยศ    Chapter 21. จารจดไว้ในใจก็พอ

    เด็กสาวถอนหายใจเบาๆ เผลอวางสายตาที่ประตูเรือนของตนเองแล้วย้ายสายตากลับมาที่กระจาดตรงหน้า กุหลาบตูมดอกเล็กๆ วางอยู่ในนั้น มือเรียวกวาดมือไปเกลี่ยแต่ละดอกในกระจาด เตรียมนำตากแดดเพื่อทำชากุหลาบ บางส่วนสามารถนำไปทำอาหารหรือขนมได้ หลายเดือนก่อนนายท่านรองได้ตำรามาจากท่านหมอหวังข่ายเกี่ยวกับดอกไม้ที่ให้คุณเป็นยา แม้นางจะนั่งฟังอยู่ด้วยแต่ไม่ค่อยเข้าใจการโต้เถียงของทั้งสองนั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องราวปกติ จนกระทั่งนายท่านรองสั่งคนงานให้ทำแปลงเพาะปลูกดอกไม้ แต่หลายชนิดนั้นกว่าจะเติบโตให้ดอกผลได้ย่อมต้องใช้เวลา ไม่รู้นายท่านรองไปซื้อดอกกุหลาบมาจากที่ใดเพื่อทดลองทำชาสมุนไพร แต่ด้วยนิสัยใจร้อนของนายท่านรอง จึงทำไม่สำเร็จ นางลองทำตามที่นายท่านรองสอนแต่ผลออกมายอดเยี่ยม ‘เจ้าทำได้อย่างไร เหตุใดยังคงกลิ่นหอมละมุนอยู่เช่นนี้’ ‘ฉางซีก็ทำตามที่นายท่านรองสั่งนี่เจ้าคะ’ นางหัวเราะเบาๆ ‘ตากแดด?’ ‘เจ้าค่ะ แต่ไม่ใช้แดดจัด เลือกกุหลาบที่ไม่ชื้นน้ำค้าง ข้ามาสังเกตว่ากุหลาบแต่ละพันธุ์ให้กลิ่นหอมที่แตกต่างกัน นายท่านรองดมดูซิเจ้าคะ’ นางยื่นฝ่ามือที่มีกลีบก

    Last Updated : 2025-03-06
  • จารใจทุรยศ    Chapter 22. กระท่อมนายพราน

    จุดหมายวันนี้นางจะเดินไปที่กระท่อมนายพรานบนเขาทางทิศเหนือ โดยปกติเป็นที่สำหรับนายพรานมาพักระหว่างล่าสัตว์ ไม่ว่าใครก็สามารถใช้ได้ นายท่านรองพานางไปพักที่นี่บ่อยๆ และนำสมุนไพร ยารักษาโรคหรือบาดแผลฟกช้ำวางไว้ เผื่อมีคนจำเป็นต้องใช้ และยังมีอาหารแห้งบางส่วนวางไว้ นางไม่อาจรู้ได้ว่าเกาเทียนฉีปลอดภัยดีหรือไม่ แม้ปกตินายท่านรองจะขึ้นเขานานนับเดือน แต่ครั้งนี้จิตใจของนางไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก อย่างน้อย ให้นางได้เดินตามรอยทางที่เขาเคยมา สำรวจดูบริเวณนี้ว่า ไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือมีผู้ใดบาดเจ็บ หากไม่มีสิ่งใดผิดปกติ นางอาจจะรอที่นี่สักสองหรือสามวัน เพราะอย่างไรก็เป็นเส้นทางที่เกาเทียนฉีกลับทางนี้ สองหรือสามวัน คนผู้นั้นคงกลับไปแล้ว เสิ่นฉางซีมีไม้ลำหนึ่งใช้ต่างไม้เท้า ยามเดินขึ้นเขาใช้มันช่วยพยุงร่างกาย นอกจากนี้ยังใช้กวาดไปมาไล่สัตว์เลื้อยคลานที่ไม่ทันสังเกตเห็นได้ด้วย นางคุ้นชินกับเส้นทางตรงหน้า มือเล็กๆ เคยมีมือใหญ่ของเกาเทียนฉีจับจูง และหลายครั้งที่เขาเจอสิ่งที่น่าสนใจเผลอปล่อยมือนาง แม้กระทั่งไปเดินตลาดด้วยกัน บางครั้งสายตาของเกาเทียนฉีถูกดึงดูดด้วย

    Last Updated : 2025-03-06
  • จารใจทุรยศ    Chapter 23. บุรุษรูปงาม

    “เจ้าเห็นบุรุษรูปร่างสูงโปร่งสง่างามใบหน้าหล่อเหลาดวงตาคมปลาบบ้างหรือไม่” ซูหลี่น่ายื่นหน้ามาจ้องมองเด็กสาว เพราะความสูงที่ต่างกันมาก นางจึงต้องค้อมเอวลงเล็กน้อย “เจ้านี่ตัวเล็กยิ่งกว่ากระต่ายป่าเสียอีก” “ข้า...ข้าน้อยร่างกายบาดเจ็บตั้งแต่ยังเด็กจึงตัวเล็กเช่นนี้ แม่นางช่างงามสง่าจนน่าอิจฉายิ่ง” เสิ่นฉางซีเอ่ยเสียงเบา ลอบมองหญิงสาวเบื้องหน้า เสื้อผ้าสีสันสดใสฉูดฉาดปักลวดลายไม่คุ้นตา เครื่องประดับทำด้วยเงิน ดูแล้วนางไม่ใช่คนที่นี่ อาจเป็นชนเผ่าอื่นหรือคนในพรรคหนึ่งพรรคใดในยุทธภพ “แน่นอน ข้างามสง่าเหนือผู้ใด” ซูหลี่น่ายิ้มรับคำชม ยื่นปลายนิ้วมาเชยคางเด็กสาวขึ้น “เจ้าชื่ออะไร” “เอ่อ” นางอึกอักเล็กน้อย “ข้าเป็นเด็กกำพร้าชื่อฉางซีเจ้าค่ะ” “ชื่อเพราะดี” ปลายนิ้วของซูหลี่น่า เลื่อนขึ้นไปที่ตีนผมของเด็กสาว บริเวณหน้าผากของนาง มีรอยแผลเป็นสีชมพูคล้ายรอยนิ้วบีบศีรษะ บาดแผลเช่นนี้นางคุ้นตาดีแต่ไม่คิดว่าจะมีคนรอดชีวิตจาก ‘ฝ่ามืออัคคี’ ได้ ดูจากรอยแผลเป็นนี้อาจจะสี่ห้าปีผ่านมาแล้ว แสดงว่าเวลานั้นเด็กสาวคนนี้เป็นเพียงเด็กหญิงเล็กๆ คนหนึ่ง

    Last Updated : 2025-03-08

Latest chapter

  • จารใจทุรยศ    Chapter 100.   เหตุใดเจ้าพูดเข่นนั้น

    นางกรีดร้องราวคนเสียสติ หลีเหว่ยไม่สนใจรีบลุกขึ้นออกจากรถม้า ทว่าเพียงแค่ลุกขึ้นยืน ผนังด้านหนึ่งของรถม้าก็เปิดออกราวกับเป็นเวทีแสดงงิ้ว เบื้องหน้ามีโต๊ะชุดหนึ่งตั้งอยู่พร้อมกับบุรุษผู้หนึ่งหน้าตาดุดันจ้องมองราวกับจะฉีกคนทั้งสองเป็นชิ้นๆ อีกหนึ่งเป็นสตรีในชุดสีม่วงที่นั่งจิบสุราด้วยท่าทีเกียจคร้าน นางหยิบถั่วทอดเข้าปากแล้วเอ่ยทั้งที่ยังเคี้ยวถั่วทอดอยู่“อะไรกัน? เท่านี้เองรึ ข้าอุตส่าห์ตระเตรียมงานอย่างดี พวกเจ้าสองคนเล่นกันแค่นี้เองหรือ? ไม่คุ้มค่าเหนื่อยของข้าเลย”หลีเหว่ยจำหญิงสาวผู้นี้ได้เป็นอย่างดี นางคือคนที่เขาเคยบังเอิญพบเจอที่โรงเตี๊ยมและยังขอให้เขาช่วยหาที่พักให้ ส่วนจางรั่วเวยถึงกับอ้าปากค้าง เพราะหญิงผู้นั้นคือคนที่มารับนางจากจวนแม่ทัพทว่าคนที่น่ากลัวที่สุดคือบุรุษที่นั่งจ้องหน้านางอยู่ “ท่านแม่ทัพ” สวินเย่ว์ส่งสัญญาณ ทหารที่อยู่ใกล้ลากตัวเสี่ยวจูที่ถูกโซ่ล่ามมือและเท้าแน่นหนามากองตรงหน้า จางรั่วเวยเห็นสภาพเสี่ยวจูแล้ว นางถึงเข่าอ่อนหมดไม่มีแรงลุกขึ้นยืน ซูหลี่น่าเหลือบมองใบหน้าถมึงทึงของสวินเย่ว์ นางยกมือกระดิกนิ้วแล้วชี้ไปยังสองหนุ่มสาวบนร

  • จารใจทุรยศ    Chapter 99.  หลับตาลง

    เสิ่นฉางซีหลับตาลง นางมิได้ฝันไปสินะ ไต้ซือซูมาเตือนสตินางและช่วยให้นางเจ็บปวดน้อยลง เอ๊ะ! ถ้าเช่นนั้น...“หยางเอ๋อร์ ท่านแม่ทัพมาเยี่ยมแม่หรือไม่”“ท่านพ่อมาดูอาการท่านแม่แล้วออกไปขอรับ”“ท่านพ่อ?” เสิ่นฉางซีประหลาดใจที่จู่ๆ บุตรชายเรียกสวินเย่ว์ว่า ‘ท่านพ่อ’ ทั้งที่ก่อนหน้านี้พยายามอย่างไรก็ยังดื้อดึงไม่ยอมเรียก หยางหยางหลบตามารดา เขาอาจเป็นเด็กเจ้าเล่ห์แต่ไม่เคยโกหกมารดาได้สักครั้ง“เจ้าต่อรองเรื่องใดกับท่านแม่ทัพ?”“ไม่มีเสียหน่อย” หยางหยางตอบตะกุกตะกัก “ท่านแม่ตื่นแล้ว หิวหรือไม่ ข้าจะไปบอกให้บ่าวรับใช้เตรียมอาหารให้ท่านนะ”หยางหยางหมุนตัวเตรียมวิ่งหนี แต่ยังช้าเกินกว่ามือเรียวของมารดาคว้าแขนของเขาไว้ได้ทัน นี่ท่านแม่มีวรยุทธ์หรือเพราะเขากลัวจนหลบไม่ทันกันแน่นะ!“เจ้ากล้าปิดบังแม่รึ”หยางหยางอ้าปากแต่พูดไม่ออก เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากอันอัน แต่น้องชายกลับส่ายหน้าไปมาเร็วๆ เพียงการแสดงออกเช่นนี้ คนเป็นแม่อย่างเสิ่นฉางซีเข้าใจได้ทันที นางวาดขาลงจากเตียง แล้วยันกายลุกขึ้นอย่างลำบาก สองขายังคงอ่อนแรงอยู่มาก ร่างกายจึงทรุดลงไปนั่งเช่นเดิม“ท่านแม่ ท่านยังไม่แข็งแรง อย่าลงจากเตีย

  • จารใจทุรยศ    Chapter 98. สะสาง

    “ท่านต้องช่วยแก้แค้นให้มารดาของข้า” หยางหยางยืดอกแล้วปรายตามองบ่าวชายสองคนที่หิ้วปีกเสี่ยวจูออกมาพอดี “คนที่ทำให้มารดาของข้าเจ็บ มันต้องเจ็บมากกว่าที่มารดาของข้าได้รับ” เสี่ยวจูที่ได้ยินเข้าถึงกับส่ายหน้าไปมา นางถูกสวินเย่ว์เตะไปหนึ่งครั้งถึงกับกระอักเลือดออกมา เจ็บร้าวซี่โครงจนคาดว่ากระดูกคงจะหัก หากถูกโบยจะมิตายคาไม้เลยหรือ นางพยายามสะบัดตัวแล้วร้องอ้อนวอน “ท่านแม่ทัพเมตตาบ่าวด้วย บ่าวไม่รู้เรื่องใดจริงๆ เจ้าค่ะ” เสียงร้องไห้ของนางน่าเวทนายิ่ง “เรื่องทั้งหมดเป็นความคิดของฮูหยินน้อยทั้งหมดเจ้าค่ะ” สวินเย่ว์กลอกตามองแผ่นฟ้า ไม่คิดว่าชีวิตของตนต้องมาเผชิญเรื่องเช่นนี้ เขาก้มมองหยางหยางที่ถอดแบบเขาแทบจะแกะออกจากพิมพ์เดียวกัน นางเป็นเพียงหญิงชาวบ้านธรรมดา เป็นแม่ครัวในหอนางโลมแต่กลับมีจิตใจงดงาม เลี้ยงดูบุตรชายของเขาได้อย่างดีเยี่ยม ผิดกับคนเหล่านี้ที่เติบโตในสถานที่ที่ดีแต่กลับจิตใจโสมมยิ่งนัก “เรียกสิ” สวินเย่ว์เอ่ยกับหยางหยาง เด็กน้อยแอบเบ้ปากเล็กน้อยแล้วพูดเสียงเบา “ท่านพ่อ” “อะไรนะ” เขาแ

  • จารใจทุรยศ    Chapter 97. คนผู้นั้น

    “แค่หักแขนก็พอ” “ดี! ตามนั้น” “ท่านแม่ทัพ เมตตาด้วย” “เลือกเอาว่าจะตัดแขนหรือหักแขน!” ต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แน่นอนว่ายอมถูกหักดีกว่าถูกตัด และไม่อาจพูดได้ว่าทำไปตามคำสั่งของฮูหยินใหญ่ สวินเย่ว์ปรายตามององค์ชายฝูเจี๋ยแล้วหันมาสบตากับบุตรชายตนเอง “ดูแลแม่ของเจ้า ประเดี๋ยว ‘พ่อ’ กลับมา” หยางหยางพยักหน้ารับแล้วจูงมืออันอันเข้าไปด้านใน ด้านนอกมีทหารองครักษ์รายล้อม นอกจากหมอและบ่าวรับใช้หญิงสองคนแล้วไม่มีผู้ใดเข้าใกล้ได้ “อันอัน” หยางหยางเรียกน้องชายที่ร้องไห้จนดวงตาบวมช้ำ เด็กชายตัวน้อยเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก “ข้าขอบใจเจ้ามาก” หยางหยางกลั้นน้ำตาฝืนยิ้มออกมา “ข้า...” เด็กน้อยพยายามรวบรวมเสียงเพื่อเปล่งคำพูดออกมา “ข้า...”“หากไม่มีเจ้า มารดาของข้าต้องถูกคนเหล่านั้นทำร้ายบาดเจ็บสาหัสกว่านี้เป็นแน่” เด็กน้อยพูดไม่ออกแต่โผเข้ากอดหยางหยางแน่น “ข้าอยากช่วยท่านแม่ได้มากกว่านี้” “อันอัน” หยางหยางตบหลังน้องชายต่างสายเลือดเบาๆ “ท่านแม่บอกว่า เจ้าพบเรื่องเลวร้ายม

  • จารใจทุรยศ    Chapter 96. ตั้งครรภ์?

    “เย่ว์เอ๋อร์ ใจเย็นก่อน” ฮูหยินใหญ่รีบห้ามปราม เด็กคนนี้โกรธร้ายโมโหแรง สามีของนางไม่อยู่ หากเขาระเบิดอารมณ์ออกมาเกรงว่าคนรอบข้างได้ล้มตายกันแน่! “สวินเย่ว์” นางเรียกชื่อเขา เป็นครั้งแรกที่นางเรียกชื่อเขาต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้ เสิ่นฉางซีเองรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้น “ข้า...” “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น” เขาอุ้มนางไม่สนใจว่าตนเองจะเปื้อนเลือดของนาง “ตามหมอเดี๋ยวนี้! สั่งปิดจวน ห้ามผู้ใดเข้าออก ข้าสวินเย่ว์ต้องรู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้นกับคนของข้า!” “รับทราบ!” “องครักษ์เงา คุ้มครององค์ชายฝูเจี๋ย!”

  • จารใจทุรยศ    Chapter 95. บังอาจ!

    น้ำเสียงสั่งทรงอำนาจ สิ้นเสียงของเขาพลันปรากฏร่างทหารองครักษ์นับสิบยืนล้อมกายของเด็กน้อยพร้อมชักกระบี่คมปลาบออกมาเด็กน้อยวัยสี่ขวบตวาดเสียงดังเฉียบขาด แม้เป็นเพียงเด็กน้อยก็ทำเอาคนที่ยึดร่างของเขาไว้ถึงกับปล่อยมือ เด็กน้อยที่ทุกคนเข้าใจว่าเป็นใบ้ มาบัดนี้กลับพูดได้ชัดถ้อยคำ สีหน้าที่เคยหวาดกลัวอยู่เสมอไม่หลงเหลืออีกแล้ว เขากวาดตามองแววตาวาวโรจน์ทั้งที่ดวงตาเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา “องครักษ์?” ฮูหยินใหญ่แห่งตระกูลสวินถึงกับผงะไป แม้นางจะไม่รู้เรื่องการทหารแต่รู้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนของกองทหารสวินเย่ว์เป็นแน่ นอกจากเชื้อพระวงศ์แล้ว ชนชั้นใดเล่าจะมีองครักษ์เงาเช่นนี้ “ฮูหยินใหญ่เจ้าคะ?” เสี่ยวจูเห็นใบหน้าซีดเผือดของฮูหยินใหญ่แล้วประหลาดใจนัก เหตุใดต้องเกรงกลัวเด็กตัวแค่นี้ นางยังไม่ได้ล้างแค้นที่ทำให้นางตกน้ำในครานั้น นางก้าวเท้าไปด้านหน้าหมายจะผลักเด็กน้อยให้พ้นทาง แต่ต้องชะงักไปเมื่อปลายกระบี่ชี้มาที่ปลายจมูกของนางเด็กน้อยวัยสี่ขวบสบตากับสวินเหอซื่อ แล้วหมุนตัวเดินไปหาเสิ่นฉางซีที่จ้องมองอย่างตื่นตะลึง ดวงตามีแววหม่นเศร้าและโกรธแค้น เด็กน้อยตวาดเสียงดังออกมา “ปล่อยตัวนาง!”

  • จารใจทุรยศ    Chapter 94. เกิดเรื่อง

    เสิ่นฉางนั่งเขียนรายการสินเดิมที่ยังทำไม่เสร็จ เหตุที่ทำช้าเพราะนางมักคิดเรื่องวัยเด็กของตน ตำราต่างๆ ที่มารดาสะสมไว้ ความทรงจำเก่าๆ ย้อนคืน จุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของนาง เสียงคนโหวกเหวกโวยวายดังที่หน้าเรือน เด็กน้อยที่อยู่บนตั่งใกล้ๆ ถึงกับผวา นางคว้าอันอันมากอดกระซิบปลอบโยน ประตูเรือนเปิดออกอย่างแรงพร้อมกับคนงานชายสามสี่คนพุ่งเข้ามา “เกิดเรื่องใดขึ้น! เหตุใดบุกเข้ามาเช่นนี้!” เสี่ยวจูวิ่งเข้ามาทั้งน้ำตานองหน้า นิ้วเรียวชี้มายังเสิ่นฉางซีแล้วตวาดด้วยความโกรธแค้น “เป็นเจ้า! เจ้าทำให้ฮูหยินน้อยแท้งบุตร! เจ้าเจตนาทำร้ายฮูหยินน้อยและบุตรของท่านแม่ทัพสวินเย่ว์!” “เป็นไปไม่ได้!” เสิ่นฉางซีส่ายหน้าไปมา นางมึนงงสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ทันได้สอบถามเรื่องราวเท็จจริงเป็นอย่างไร ร่างของนางถูกบ่าวชายฉุดกระชากลากออกมาจากเรือน หญิงรับใช้อีกสองคนเข้ามาคว้าร่างของอันอันไม่ให้วิ่งตาม เด็กน้อยถีบเท้าไปมาดิ้นรนขัดขืน แผดเสียงร้องไห้จ้าแต่ไม่อาจส่งเสียงพูดขอความช่วยเหลือได้ ร่างของหญิงสาวถูกลากออกไปที่ลานหน้า

  • จารใจทุรยศ    Chapter 93 ลูกชายปากแข็ง

    เสร็จงานในครัวแล้ว เสิ่นฉางซีจูงมืออันอันพร้อมตะกร้าใส่อาหารและขนมนำกลับไปที่เรือน เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน นางจึงลงมือจดบันทึกรายการสินเดิมที่ได้รับมาเมื่อหลายวันก่อน หยิบจับสิ่งใด นางก็หวนคิดถึงบิดามารดาที่ล่วงลับไปเสียทุกที ป่านนี้ทั้งสองคงมองนางมาจากบนสวรรค์ ท่านพ่อท่านแม่วางใจเถิด ลูกมีความสุขดี อันอันอยากกินหมูหวาน แต่ตั้งใจอดกลั้นรอหยางหยางกลับจากสำนักศึกษา ระหว่างนี้จึงได้แต่นั่งกินขนมของว่าง เด็กน้อยนั่งบนเก้าอี้กลมแกว่งเท้าไปมา สองมือจับขนมเปี๊ยะดอกเหมยกัดกิน เสิ่นฉางซีเห็นมุมปากของเด็กน้อยเลอะคราบแป้งขนมเปี๊ยะ จึงหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดมุมปากให้ “ท่านแม่” เสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้น เสิ่นฉางซีสบตากับเด็กน้อย ทว่านางกลับรู้สึกว่า แม้อันอันจะจ้องมาทางนางแต่ไม่ได้มองมาที่นาง “คิดถึงแม่หรือ?” เด็กน้อยพยักหน้าหงึกๆ เสิ่นฉางซีอุ้มร่างเด็กน้อยมานั่งบนตัก ทำเหมือนตอนที่หยางหยางยังตัวเล็กเท่าอันอัน นางมักจับลูกชายนั่งตักและอ่านตำราหรือจดรายการอาหารที่ต้องทำ แต่เวลานี้นางกำลังบันทึกรายการ ‘สินเดิม’ ที่ได้รับมา อันอั

  • จารใจทุรยศ    Chapter 92. เคราะห์กรรม

    “ข้าสามารถเขียนรายกายอาหารให้เจ้านำไปให้แม่ครัวทำให้ได้” “เจ้าทำเองไม่ได้รึ” เสี่ยวจูขมวดคิ้ว “อ้อ! เจ้าไม่ใช่แม่ครัวแล้วนี่ เป็นอนุคนโปรดของท่านแม่ทัพ ต้องขออภัยที่ข้าลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท” “ไม่เป็นไร ประเดี๋ยวข้าเข้าครัวทำให้ฮูหยินน้อยเอง” เสิ่นฉางซีตอบแล้วหันไปคุยกับอันอันด้วยภาษามือ รอบเรือนหลังนี้มีองครักษ์ลับอยู่แต่นางก็ไม่ไว้ใจ หญิงสาวจึงให้เด็กน้อยวางพู่กันแล้วหยิบผ้าเปียกเช็ดมือน้อยๆ ให้อันอัน เด็กชายตัวน้อยอมยิ้ม เขาชอบที่เสิ่นฉางซีใส่ใจดูแลเขาเช่นนี้ ในหัวสมองน้อยๆ ของเขา เอาแต่คิดหาทางจะให้นางกับหยางหยางไปอยู่กับเขาในวังหลวง “เจ้ายิ้มอะไร” เสิ่นฉางซีหัวเราะเบาๆ เห็นเด็กน้อยเอาแต่อมยิ้ม นางก็อดยิ้มตามไม่ได้ อันอันไม่ตอบแต่โผเข้ากอดขาของนาง “เจ้ากอดแม่เช่นนี้จะเดินได้อย่างไร” นางส่ายหน้าไปมาแล้วแกะมือที่รัดรอบขาออก “ไปเถิด ไปในครัวกัน เจ้าอยากกินขนมละสินะ” นางจูงมืออันอันเดินไปที่ครัวด้วยกัน “ฮูหยินน้อยไม่ค่อยอยากอาหารแต่ถ้าเป็นของว่างของกินเล่น นางจะชื่นชอบมาก” เสิ่นฉางซีพึมพำขณะที่จูงมืออันอัน “อันอัน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status