ตาคู่สวยเหลือบขึ้นมองสบตาคู่คม ขณะที่ปากทั้งดูดทั้งเลียหัวมนอวบอารัญสูดปากเบา ๆ เขาขยับบั้นเอว ผลักส่งลำกายเข้าออกในปากนุ่มตื้น ๆ แต่พอความเสียวพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ชายหนุ่มเริ่มหอบหายใจแรง เขาไม่อาจต้านทานความต้องการของตัวเองได้ เขากระชับมือที่ขยุ้มเส้นผมสลวยไว้แน่น แล้วกดศีรษะเล็กเข้าหา พร้อมกับกระทุ้งลำเนื้อใส่ปากนุ่มเต็มแรง“อื๊อ !” พิมพ์ใจอ้าปากค้าง ตาเบิกโพลง หญิงสาวจับต้นขาแกร่งสองข้างไว้แน่น อ้าปากให้กว้างที่สุด เพื่อรองรับเอาลำกายแกร่งที่ขยับเข้าออกในปากของเธออย่างดุดัน หัวมนทู่แทงลึกถึงคอหอย และกระทุ้งแรงจนทำให้เธอสำลักน้ำลายน้ำตารินไหลอาบแก้มเนียน น้ำลายไหลย้อยลงตามมุมปาก เธอหายใจไม่ทัน รู้สึกอึดอัดเหมือนจะขาดใจตาย แต่คนที่กำลังเอาแต่ใจกับเธอ ก็ไม่ยอมหยุด เขากระทุ้งกระแทกลำเอ็นอัดใส่ปากเธออย่างรุนแรง ทั้งกดหัวเธอไว้แน่น“พิมพ์…” อารัญครางเสียงทุ้มต่ำ เขาใกล้จะถึงจุดแตกซ่านเต็มที ชายหนุ่มสะบัดบั้นเอว ขับเคลื่อนแก่นกายใส่ปากนุ่มถี่ยิบ ก่อนจะกระแทกแรงครั้งสุดท้าย กดลำเนื้อค้างคา แล้วหลั่งน้ำรักอุ่นร้อนใส่ปากเล็กจนเต็มล้นพิมพ์ใจหลับตาลง เธอพยายามกลืนกินน้ำที่เขาหลั่งออกมา แต่
“โอนมาให้แม่ตอนนี้เลย โอนมาเลยนะ แค่นี้แหละลูก”ผู้เป็นแม่วางสายไปแล้ว แต่คนเป็นลูกยังถือโทรศัพท์ค้างไว้ท่าเดิม แม่ของเธอไม่คิดจะถามถึงสารทุกข์สุกดิบของเธอเลย และเธอก็ยังไม่ทันได้บอกแม่เลยว่า เธอเรียนจบแล้ว แต่มันคงไม่สำคัญเท่ากับเรื่องเงินที่แม่โทรมาขอหรอกพิมพ์ใจถอนหายใจบางเบา เธอเริ่มจะชาชินกับการที่ไม่มีใครใส่ใจเธอแล้ว บางที เธออาจจะต้องหัดอยู่คนเดียวให้ชิน อยู่ให้ได้โดยไม่มีใครโอบกอดในวันที่รู้สึกเดียวดายพิมพ์ใจจัดการโอนเงินให้มารดาทั้งหมด เพราะเธออยู่แต่คอนโด ไม่ได้ออกไปไหน เธอไม่ต้องใช้เงิน ก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสถานที่ที่เป็นเหมือนกรงทองแห่งนี้ได้ก่อนที่ความรู้สึกจะดำดิ่งลงไปมากกว่านี้ พิมพ์ใจรีบดึงสติกลับมา แล้วเริ่มลงมือทำคุกกี้ จดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า เพื่อจะได้ลืมเลือนทุกเรื่องราวความเจ็บปวด แม้เป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ แต่มันก็ช่วยเยียวยาหัวใจดวงน้อยนี้ได้เมื่อจัดเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้ว พิมพ์ใจก็ปั้นคุกกี้วางลงบนถาด ก่อนจะนำเข้าไปอบในเตาอบ ดวงตากลมโตสุกใส รอคอยคุกกี้ผลไม้รวมฝีมือตัวเองด้วยความตื่นเต้นระหว่างรอ พิมพ์ใจจัดเก็บทำความสะอาดในครัวจนเรียบร้อย หญิงสาวเ
หลังจากที่อารัญออกจากห้องไปแล้ว พิมพ์ใจลุกจากเตียง อาบน้ำอาบท่าเพื่อให้ตัวเองสดชื่น ก่อนจะเข้าครัวเพื่อทำอาหารกินด้วยความที่เธอเวียนหัวและอ่อนเพลีย พิมพ์ใจจึงทำอาหารรสจัด เธอทำต้มยำเห็ดรวม และยำวุ้นเส้น เน้นรสชาติเผ็ดและเปรี้ยวนำ พอได้กินแล้วก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างเมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย พิมพ์ใจยังไม่ง่วง และนี่ก็ยังไม่ดึกมาก เธอจึงเลือกที่จะอ่านหนังสือเพื่อผ่อนคลาย และจะได้ไม่ต้องคิดอะไรฟุ้งซ่านพิมพ์ใจนั่งอ่านหนังสือได้ครู่เดียว มารดาของเธอก็โทรมาหา คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ เพราะแม่เพิ่งโทรหาเธอเมื่อกลางวัน ปกติท่านไม่โทรหาเธอเลยด้วยซ้ำพอพิมพ์ใจกดรับสาย แม่ของเธอก็พูดขึ้นมาว่า“พิมพ์..ว่างมั้ยลูก มาหาแม่หน่อย”“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณแม่” พิมพ์ใจถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย“แม่คิดถึง”“พิมพ์ต้องขออนุญาตคุณรัญก่อนค่ะ”“มาแป๊บเดียว แล้วค่อยกลับไป ได้มั้ยลูก”น้ำเสียงที่ไม่ดีเท่าไรนักของมารดา ทำให้พิมพ์ใจเป็นห่วง“คุณพ่ออยู่กับคุณแม่มั้ยคะ”“พ่อเขาออกไปทำธุระ เดี๋ยวก็กลับเข้ามา แล้วก็คงเมากลับมาเหมือนเดิม แล้วก็จะทุบตีทำร้ายร่างกายแม่ เขาหาว่าแม่ใช้เงินเปลือง เงินที่พิมพ์โอนมาใ
12 คนใจร้าย“ไปไหนมา” เสียงเข้มดุดังขึ้นทันทีที่พิมพ์ใจเปิดประตูห้องเข้ามาร่างเล็กสะดุ้งตกใจ เธอไม่ตอบคำถามเขาในทันที หญิงสาวปิดประตู แล้วเดินเข้าไปหยุดยืนห่างจากโซฟาที่เขานั่งพอสมควร“พิมพ์กลับบ้าน ไปหาคุณแม่ค่ะ”“ฉันเคยบอกแล้วว่า หากจะไปไหนให้ขออนุญาตฉันก่อน และถ้าฉันไม่อนุญาต เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น”“คุณรัญออกไปทำธุระ พิมพ์ไม่อยากรบกวนค่ะ คุณแม่ไม่สบาย พิมพ์ไปเยี่ยมแค่แป๊บเดียวเองนะคะ”“จะไปหาใครก็ช่าง จะออกไปแค่เสี้ยววินาที หรือจะไปเป็นชั่วโมง เธอก็ต้องขออนุญาตฉันก่อน”“พิมพ์ขอโทษค่ะ ต่อไปพิมพ์จะขออนุญาตคุณรัญก่อนทุกครั้ง”“ฉันเคยบอกแล้วว่า คำขอโทษปากเปล่าไม่มีค่า”“แล้วพิมพ์ต้องทำยังไงคะ คุณรัญถึงจะยกโทษให้พิมพ์”“ใช้ร่างกายของเธอสิ ใช้ร่างกายของเธอแทนคำขอโทษ ทำให้ฉันพอใจ แล้วฉันจะยกโทษให้ ไม่อย่างนั้น อย่าหวังว่าจะได้ออกไปไหนอีกเลย ฉันจะขังเธอไว้ในนี้ตลอดไป”พิมพ์ใจมองคนใจร้ายผ่านม่านน้ำตา คำพูดและสายตาของเขา ทำให้เธอรู้สึกราวกับเป็นผู้หญิงไร้ค่า มีเพียงร่างกายไว้ตอบสนองตัณหาราคะ เขาไม่เห็นค่าความเป็นคน ไม่รับรู้ว่าเธอก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกันผู้ชายคนนี้ไม่ใช่พี่รัญแสนดีข
พิมพ์ใจหลับตาแน่น แล้วทำตามที่เขาสั่ง เธอขย่มเต็มแรง บั้นท้ายอวบอัดตีกระทบต้นขาแกร่งเสียงดังลั่น ร่องอุ่นอ้าวรูดรัดลำกายอวบใหญ่ขึ้นลงถี่ยิบ “อื๊อ ๆ พี่รัญขา…”อารัญจับจ้องใบหน้าสาวไม่วางตา สีหน้ารัญจวนใจยามเธอตกอยู่ในห้วงเสน่หาเย้ายวนน่าหลงใหล เรือนกายเนียนนุ่ม และกลิ่นหอมของเธอกำลังจะทำให้เขาคลั่ง เขาหวง และเขาต้องการครอบครองเธอเพียงผู้เดียว เขาจะกักขัง จะดึงรั้งและจะผูกมัดเธอให้เป็นคนของเขาตลอดไป“พี่รัญ…พิมพ์จะถึงแล้ว อื๊อ !”พิมพ์ใจโหนลำคอแกร่งไว้ ในตอนที่เธอขย่มลำกายอวบจังหวะถี่ยิบ“พี่รัญ…พี่รัญ อ๊า !”พิมพ์ใจขย่มเต็มแรงในครั้งสุดท้าย เธอกดบั้นท้ายแนบแน่นบนตักแกร่ง แล้วแตกกระจายอย่างรุนแรง สุขสมเสียวซ่านอย่างน่าอาย ทั้งที่แรกเริ่มเธอถูกบังคับแท้ ๆ“เธอมันก็แค่ผู้หญิงปากไม่ตรงกับใจ ปากบอกไม่อยากเอา แต่พอได้ขึ้นก็ขย่มจนแตกคาลำ ร่าน !”คำพูดคำจาเย้ยหยันเสียดแทงใจดวงน้อย พิมพ์ใจจึงขยับตัวจะลงจากตักของเขา แต่คนใจร้ายกลับไม่ยอมอารัญสะบัดกางเกงที่คาอยู่ข้อเท้าออก เขาพลิกตัวเปลี่ยนให้หญิงสาวนั่งบนโซฟา ดันแผ่นหลังเนียนจนติดพนักโซฟา ยกขาเรียวสองข้างขึ้นพาดบ่า จับส่วนหัวมนกดลงกลางร่องสาว
หลังจากกินอาหารเช้า จัดเก็บโต๊ะอาหารและล้างจานชามเรียบร้อยแล้ว พิมพ์ใจเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง หญิงสาวค้นหาโทรศัพท์มือถือของเธอในกระเป๋า แต่หาอย่างไรก็ไม่พบ“ไปลืมไว้ที่ไหนนะ” พิมพ์ใจบ่นกับตัวเอง แล้วเดินตามหาโทรศัพท์ของเธอจนทั่วห้อง แต่หาอย่างไรก็ไม่เจออยู่ดี สุดท้ายพิมพ์ใจเลยลองมาค้นหาในกระเป๋าถืออีกครั้ง มันไม่มีตั้งแต่แรกแล้ว ต่อให้เธอเทของออกมาจากกระเป๋าทั้งหมด ก็ไม่เจออยู่ดี แต่ถึงไม่เจอมือถือ แต่อย่างน้อยก็ได้ถือโอกาสทำความสะอาดกระเป๋า หญิงสาวเก็บเศษกระดาษและสลิปใบเสร็จเล็ก ๆ ที่นอนอยู่ก้นกระเป๋าออกมา แล้วเอาไปทิ้งที่ถังขยะทว่ามือบางก็ต้องชะงัก เธอกำเศษกระดาษในมือไว้แน่น เมื่อชะโงกหน้ามองในถังขยะใบเล็ก แล้วเห็นบางสิ่งที่ผิดปกติ ซึ่งในถังขยะมีขยะอยู่ชิ้นเดียวพิมพ์ใจย่อตัวลงนั่งคุกเข่า เธอเพ่งมองของที่อยู่ในถังขยะ เมื่อเห็นชัดเจนว่าคือโทรศัพท์มือถือของเธอ หญิงสาวก็หยิบมันขึ้นมา มองมันด้วยความรู้สึกโกรธและน้อยใจ เพราะสภาพของมันในตอนนี้ คงไม่สามารถใช้งานอะไรได้แล้ว หน้าจอแตก ตัวเครื่องหักงอ และช่องใส่ซิมก็ถูกดึงออกทำไมเขาถึงต้องทำขนาดนี้ เธอไม่ได้ติดต่อหาเพื่อน ไม่ได้คุยก
“เงียบแบบนี้ แสดงว่าใช่…ใช่ไหมคะ”อารัญถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาวางปากกาในมือลง แล้วเงยหน้าขึ้นมองสบตากับวาสินี“ถ้าคุณไม่มีธุระอะไร ผมขอความเป็นส่วนตัวในการทำงานนะครับ”วาสินีชักสีหน้าไม่พอใจ“วายอมให้คุณมีเล็กมีน้อย มีนางบำเรอกี่คนก็ได้นะคะ”“มันไม่เกี่ยวหรอกว่าผมจะมีใครสักกี่คน ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงที่ว่า ผมยังไม่พร้อมที่จะหมั้นหมายหรือแต่งงานกับใคร”“ถ้ารัญยังไม่พร้อมตอนนี้ วารอได้ค่ะ”“ก็ดีครับ งั้นก็เชิญกลับไปรอในที่ของคุณวานะครับ ผมขอพื้นที่ส่วนตัวทำงานครับ”วาสินีจ้องหน้าคนที่ไล่เธอด้วยความไม่พอใจ“เชิญครับ” อารัญผายมือไปทางประตูวาสินีทุกขึ้นยืน แล้วสะบัดค้อนด้วยความโมโห หญิงสาวก้าวฉับ ๆ ตรงไปยังประตู ในตอนที่เธอเปิดประตูออกและก้าวเดินออกไปจากห้อง ลูกน้องของอารัญเดินสวนเข้ามาพอดี หญิงสาวเดินชนเขาอย่างจัง แต่เธอไม่ขอโทษเขาสักคำอารัญเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ หลับตาลง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาหงุดหงิดและรำคาญคนประเภทไม่ยอมรับความจริงแบบวาสินีที่สุด เขาก็ว่าเขาพูดไปตรง ๆ แล้วนะ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่รับฟังอะไรเลย น่ารำคาญ“คุณรัญครับ”อารัญลืมตาขึ้น เขามองหน้าลูกน้องที่มายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะ
“พิมพ์…พี่จะจัดการทุกอย่างให้เอง”พิมพ์ใจสะอื้นไห้หนักขึ้น เธอมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ“ไม่จำเป็นค่ะ แค่คุณรัญปล่อยพิมพ์ไป พิมพ์จะจัดการทุกอย่างเอง เราสองคนไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะคะ”แม้เสียงของเธอจะสั่นเจือสะอื้น แต่หนักแน่นและเด็ดเดี่ยว ดวงตาหม่นเศร้าแต่จริงจังแน่วแน่เธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเขา เธอไม่อยากได้ความช่วยเหลือใด ๆ จากเขาทั้งสิ้น ระหว่างเธอกับเขาไม่มีอะไรติดค้างกันอีกต่อไป ขอให้ทุกอย่างจบลงเท่านี้ เธอจะไม่ชดใช้อะไรให้เขาอีกแล้ว14 ไม่เหลือใครเหมือนความฝัน และเป็นฝันร้ายที่สุดเท่าที่เคยฝันมา เธออยากตื่นแล้ว ไม่อยากอยู่ในความฝันนี้แล้ว มันเจ็บปวด ทรมาน เธอร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหลแล้วหากแต่นี่ไม่ใช่ความฝัน มันคือเรื่องจริง เป็นสิ่งที่เธอต้องยอมรับ คุณพ่อคุณแม่จากเธอไปแล้ว แม้คุณพ่อจะเป็นเพียงพ่อเลี้ยง แต่ท่านส่งเสียเลี้ยงดูเธอ และดูแลเธอกับคุณแม่เป็นอย่างดี แม้คุณแม่จะไม่ค่อยสนใจเธอ บางครั้งอาจจะใช้ถ้อยคำทำร้ายจิตใจ แต่บนโลกกว้างใบนี้ เธอมีพวกเพียงท่านสองคนเท่านั้นเป็นหลักยึด เมื่อไม่มีพวกท่านแล้ว เธอก็ไม่เหลือใครท่ามกลางผู้คนมากมาย ท่ามกลางความวุ่นวายในงาน
อารัญไม่สนใจข่าวพวกนั้นหรอก เพราะคนอื่นไม่ได้มาใช้ชีวิตร่วมกับเขากับพิมพ์ใจ แค่ครอบครัวของเราเข้าใจและยอมรับกัน รักและเข้าใจกัน เขาก็ไม่เห็นต้องแคร์คนอื่นเลยเขาแคร์เฉพาะคนที่ยืนข้างกายเขาในตอนนี้ต่างหาก เขาอยากให้เธอมีความสุขในทุกวัน ไม่อยากให้ใครหรืออะไรมาทำให้เธอทุกข์ร้อนใจสักนิด ดังนั้น เมื่อเห็นว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขากับภรรยา อารัญก็กอดเอวบางรั้งเธอมาแนบชิดอย่างปกป้องหวงแหน“ซื้อไว้สักยูนิตดีมั้ยครับ เอาไว้แอบหนีเจ้าพอร์ชไปจู๋จี๋กันสองต่อสอง” อารัญกระซิบถามยิ้ม ๆพิมพ์ใจหันขวับไปมองสบตาสามี เธอขึงตาใส่คนหื่น“พี่รัญ หน้าไม่อาย”“อายทำไมล่ะครับ พี่ชอบ” อารัญบอกพลางทำทีเหลือบตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะกระซิบบอกเมียว่า“วิวห้องมุมดีมากเลยนะครับ จัดที่ระเบียงน่าจะฟินมาก โอ๊ย !”คนคิดหื่นกลางวันแสก ๆ โดนเมียหยิกจนต้องร้องโอดโอยเบา ๆ กระนั้นคนถูกเมียหยิกก็ยังยิ้มกรุ้มกริ่มได้การโอบกอดเมียไว้แนบกายตลอดเวลา การส่งสายตาหวานเชื่อมมองกัน และการพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกของสามีภรรยา ทำให้คนที่มองพวกเขาตั้งแต่เดินเข้ามาในงานหมั่นไส้วาสินีก็มางานนี้เช่นกัน พอเห็นภาพสวีตของสองคนนั้นแล้วก็อดไม่ได้
เมื่อห้วงเวลาแสนเสียวเบาบาง พิมพ์ใจก็นอนหอบหายใจแรงจนทรวงอกสะท้านขึ้นลงอารัญดูดเนื้อนวลเต็มปาก เขาดื่มด่ำกับความหวานละมุนอย่างพอใจ ก่อนจะไล้เลียไปทั่วทุกซอกหลืบความสาว แล้วจึงค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าขึ้นมา เขาพรมจูบเนินเนื้ออวบอูมนวลเนียนไร้พุ่มไหม ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าขึ้นมา เพื่อจูบสลับกับไล้เลียผิวเนียนจากหน้าท้องแบนราบ ขึ้นมาถึงชายโครง ก่อนจะเข้าครอบครองทรวงอกอวบอิ่มด้วยปากร้อนผ้าว ดูดดึง ไล้เลีย จนเมียครางหวิวในลำคอ และเริ่มมีอารมณ์อยากขึ้นมาอีกครั้ง“พิมพ์จ๋า...ขึ้นให้พี่นะครับ”อารัญกระซิบอ้อนเสียงแตกพร่าพิมพ์ใจลืมตาขึ้นสบตาคมเข้ม หญิงสาวผลักอกกว้างเบา ๆ สามีของเธอก็เอนกายลงนอนหงายอย่างเต็มใจอารัญนอนมองเมียป่ายขาคร่อมตัวเขา แล้วหยัดกาย นั่งคุกเข่าคร่อมอยู่ตรงกลางหว่างขา เธอล้วงมือลงจับหัวมนทู่เอามันไปถูไถกลางกลีบเนื้ออ่อนนุ่ม“ซี้ด ! พิมพ์จ๋า...”อารัญครางเสียว แล้วกัดฟันแน่น เขายื่นมือไปจับเอวบางไว้หลวม ๆ มองใบหน้าเมียอย่างแสนรัก แสนเสน่หา อารัญกลั้นหายใจ ในตอนที่เมียจับหัวอวบใหญ่กดลงตรงปากทางแอ่งอุ่นนุ่มลื่น และพอเธอโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย กดสองมือลงบนอกกว้าง แล้วขย่มลงมา
“พี่รัญ...พอแล้ว” พิมพ์ใจทั้งดิ้น ทั้งขำ เธอทุบบ่ากว้างไปหนึ่งที คนขี้แกล้งจึงหยุดอารัญทาบทับตัวเองลงบนเรือนกายเนียนนุ่ม เขาสอดแขนลงใต้แผ่นหลังบาง กกกอดเธอไว้เต็มอ้อมอก และซุกหน้าอยู่ซอกคอหอมกรุ่น“เฮ้อ ! รู้สึกดีจังเลย พี่อยากกอดพิมพ์ไว้แบบนี้ตลอดไป”พิมพ์ใจยิ้มอ่อนหวาน เธอยกแขนขึ้นกอดเขาไว้เต็มวงแขน ตัวเขาใหญ่โตกว่าเธอมาก พอถูกเขาทาบทับและกอดไว้แน่น ๆ แบบนี้ เธอรู้สึกหนักอยู่เหมือนกัน แต่ความรู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัวทั้งใจมันมากกว่า“งั้นก็กอดอย่างนี้ไปจนถึงเช้าเลยดีมั้ยคะ”ทำไมจะไม่รู้ว่า สามีอยากทำมากกว่ากอด เพราะตอนนี้ ความเป็นชายของเขาแข็งคึกแนบอยู่กับต้นขาของเธอคนอยากทำมากกว่ากอดรีบพลิกตัวลงนอนหงาย โดยกอดรัดเมียให้มานอนเกยก่ายอยู่บนตัวเขาแทน“อยากทำมากกว่ากอด แต่วันนี้เหนื่อยจังเลยครับ พิมพ์จ๋า พิมพ์ที่รัก ทำให้พี่หน่อยนะครับ”พิมพ์ใจยิ้มอย่างรู้ทัน หญิงสาวลุกขึ้นนั่งคร่อมหน้าท้องแกร่ง เธอไขว้มือลงจับชายกระโปรงชุดนอนแล้วดึงออกทางศีรษะเธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน ดังนั้น สิ่งที่อารัญเห็นตอนนี้คือ เรือนร่างขาวนวลล้อแสงไฟ กับเต้านมอวบใหญ่ของคุณแม่ลูกหนึ่งแม้น้องพอร์ชจะเลิกกินนมแม่ไปแล้ว
พอได้ไอติมถ้วยเล็กมาแล้ว อารัญก็พาลูกชายไปนั่งรอที่ม้านั่งตัวยาวซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับร้านขนม เขานั่งหันหลังให้ร้าน ใช้ตัวบังลูกชายที่นั่งอยู่บนตัก ป้อนไอติมให้ลูกกินอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะเลอะ แล้วแม่พิมพ์จะจับได้คุณพ่อรัญยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่เห็นลูกกินอย่างมีความสุข พอลูกชายกินไอติมจนหมดถ้วย เขาจึงเอ่ยถามว่า“อร่อยมั้ยครับ”“อะหย่อยฮับ” น้องพอร์ชเงยหน้าขึ้นมาตอบและยิ้มหวานให้คุณพ่อ“เปื้อนขนาดนี้ เช็ดปากให้ลูกหน่อยมั้ยคะ”เสียงดุ ๆ มาพร้อมกับทิชชูเปียกยื่นมาตรงหน้าคุณพ่อคนตามใจลูกถึงกับใจหายวาบ เขาเงยหน้ามองคุณแม่หน้าหวานแต่ตาดุ แล้วยิ้มแหยให้เธอ“พิมพ์บอกแล้วว่า ช่วงนี้ น้องพอร์ชต้องงดไอติมและเครื่องดื่มเย็น”“กะ...ก็ลูกอยากกิน” ไม่รู้จะเถียงยังไง และก็ไม่รู้จะเอาเหตุผลใดไปเถียงพิมพ์ใจถอนหายใจแรง หญิงสาวเช็ดปากเช็ดแก้มเลอะไอติมของลูกชาย“กลับบ้านกันได้แล้วค่ะ วันนี้ต้องมีคนโดนทำโทษแน่นอน”พิมพ์ใจพูดพร้อมกับส่งสายตาดุให้สามี ก่อนจะหันไปมองลูกชาย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไร เจ้าเด็กหัวหมอก็พูดเสียงอ่อนเสียงหวาน“จุนแม่ฮับ จุนแม่คนฉวย จุนแม่ใจดี๊ดีของพอร์ช”พิมพ์ใจถึงกับส่ายหน้ากับ
พิมพ์ใจเดินเข้าไปหยุดอยู่ข้างเก้าอี้ที่สองพ่อลูกนั่งอยู่ เธอยื่นสองมือไปหาลูกชาย เพื่อจะอุ้มไปนั่งรอคุณพ่อที่โซฟา“ไม่อาว...พอร์ชจะอยู่กับจุนพ่อ” เจ้าหนูหันหน้าเข้าหาคุณพ่อ แขนเล็กป้อมกอดลำคอแกร่งไว้แน่น ซุกหน้ากับบ่ากว้าง ไม่ยอมไปหาคุณแม่อารัญกอดลูกชายไว้ด้วยวงแขนข้างหนึ่ง มืออีกข้างลูบศีรษะอย่างรักใคร่เอ็นดูสุดหัวใจ“พี่รัญคะ ส่งลูกมาให้พิมพ์เถอะค่ะ พี่รัญจะได้ทำงาน”“ไม่เป็นไรครับ อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้ว พี่อุ้มลูกไว้เอง พิมพ์ไปนั่งรอที่โซฟาเถอะ”พิมพ์ใจถอนหายใจบางเบา พลางคิดในใจว่า ดื้อทั้งพ่อทั้งลูกเลย แต่เธอก็ยอมเดินไปนั่งรอที่โซฟาแต่โดยดี“คุณแม่ไปแล้วครับ”คุณพ่อกระซิบกระซาบบอก น้องพอร์ชจึงค่อย ๆ เหลียวหลังไปมอง พอเห็นว่าคุณแม่ไปนั่งอยู่ตั้งไกลแล้ว เด็กชายก็ยิ้มพอใจ เขาขยับตัวนั่งลงบนตักของคุณพ่อ พิงหลังกับอกอบอุ่นที่เขาชื่นชอบอารัญสอดแขนลงใต้รักแร้คนตัวเล็ก โอบกอดลูกไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็ตรวจงาน เซ็นเอกสารไปเรื่อย ๆน้องพอร์ชนั่งนิ่ง ไม่ดื้อ ไม่ซน นั่งรอคุณพ่อทำงานอย่างเรียบร้อยครู่เดียวอารัญก็ทำงานเสร็จ เขาจึงอุ้มลูก ลุกขึ้นจากเก้าอี้ และพาเดินไปหาคุณมาที่นั่งอ่า
พอพูดถึงบ้านตัวเอง ใบหน้าของพิมพ์ใจก็หม่นเศร้าลง หญิงสาวมองไปนอกหน้าต่างรถ ถนนเส้นนี้เป็นเส้นที่เธอคุ้นเคย และรถก็กำลังเคลื่อนเข้าใกล้บ้านที่เคยเป็นของครอบครัวเธอ เธออยากเห็นอีกสักครั้ง อยากเห็นบ้านที่เธอเคยพักพิง ที่ที่เคยมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยกัน...อยากเห็นก่อนที่มันจะถูกขายไปเป็นของคนอื่นอารัญกระชับมือนุ่มที่กุมอยู่ เขามองใบหน้าด้านข้างของพิมพ์ใจ เธอกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เขารู้ว่าเธอรอดูตอนที่รถขับผ่านบ้านของเธอ แต่เขาจะไม่ให้รถขับผ่านไปเฉย ๆ เขาจะให้คนขับรถจอด เพื่อเธอจะได้ลงไปดูบ้านหลังเดิมของเธอได้ชัด ๆพิมพ์ใจย่นหัวคิ้วเข้าหากันด้วยความแปลกใจ เมื่อรถตู้จอดที่หน้าประตูรั้วบ้านที่ถูกปิด และมีโซ่กับแม่กุญแจอันใหญ่คล้องไว้ หญิงสาวหันไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างเธออารัญยิ้มอ่อนหวาน ก่อนจะบอกเธอว่า“ลงไปดูใกล้ ๆ มั้ยครับ”“ลงไปดูได้เหรอคะ”เพราะที่ประตูรั้วบ้านมีแผ่นป้ายปิดประกาศเอาไว้ว่า เป็นทรัพย์ของธนาคารแห่งหนึ่ง พิมพ์ใจจึงไม่แน่ใจว่า เธอจะเข้าไปดูใกล้ ๆ ได้จริงเหรอ“ได้สิครับ มาเถอะ พี่พาไปเอง”เมื่อคนขับรถเปิดประตูด้านข้างรถ อารัญลงจากรถก่อน แล้วหันมาประคองคุณแม่ท้องคนสวย
พิมพ์ใจตื่นนานแล้ว แต่เธอยังคงนอนอยู่ท่าเดิม นอนอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของคนตัวโตหญิงสาวนอนมองหน้าเขาอยู่ครู่ใหญ่ คนที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานจึงลืมตาขึ้น พอเห็นว่าคนที่เขากกกอดไว้ตื่นก่อนแล้ว เขาก็ยิ้มหวาน แล้วหลับตาลงอีกครั้ง พร้อมกับกระชับวงแขนโอบกอดคุณแม่ตัวเล็กไว้เต็มอ้อมอก“ฮื้อ ! พี่รัญขา ตื่นได้แล้วค่ะ วันนี้มีประชุมนะคะ”คนที่ต้องประชุมถอนหายใจเฮือกใหญ่ และบ่นทั้งที่ยังหลับตาอยู่ว่า“พี่ว่า พี่เปลี่ยนอาชีพไปเป็นชาวสวนดีไหม เราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา ตอนเช้ากินข้าวด้วยกัน ตอนสายก็เข้าสวน พี่ดูแลสวนดูแลต้นไม้ ส่วนพิมพ์ก็นั่งใกล้ ๆ คอยเป็นกำลังใจให้พี่ พอกลางวันก็กินข้าวปิ่นโตฝีมือเมีย ตกเย็นก็เดินจูงมือกันกลับบ้าน อาบน้ำ แล้วก็เข้านอนพร้อมกัน แต่เป็นประธานบริษัทเนี่ย ไม่ได้เข้านอนพร้อมเมียเลย พี่กลับถึงบ้านทีไร พิมพ์ก็หลับก่อนทุกที”พิมพ์ใจลูบแก้มท่านประธานบริษัท เธอยิ้มหวานให้กำลังใจเขา“เป็นประธานบริษัทก็กินข้าวปิ่นโตฝีมือเมียได้นะคะ วันนี้พิมพ์จะทำกับข้าว และเอาปิ่นโตมื้อกลางวันไปให้ที่บริษัทนะคะ พอเรากินข้าวเที่ยงด้วยกันเสร็จ จากนั้นพิมพ์ก็จะนั่งให้กำลังใจพี่รัญอยู่ในห้อ
พอเมียทำให้เขาเสียว เขาก็ระบายความเสียวด้วยการบีบขยำบั้นท้ายอวบอัดสองลอนเต็มสองมือ และเมื่ออารมณ์ร้อนแรงพุ่งสูง เขาก็สอดนิ้วกลางผ่านขอบเป้ากางเกงชั้นในตัวบาง ซอกซอนสำรวจแอ่งเนื้ออุ่นลื่นชุ่มฉ่ำพิมพ์ใจเงยหน้าขึ้น ครางแว่วหวาน เธอกดหัวเข่าข้างหนึ่งลงกลางหว่างแกร่ง เท้าบางอีกข้างยืนอยู่บนพื้น เธอแอ่นก้น ยกกระดก และส่ายร่อนรับนิ้วที่ขยับเสียดสีกลางกลีบเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ“พี่รัญ…พิมพ์จะเอา”เขาทำให้เธอเสียว กระตุ้นจนเธอร้อนฉ่าไปทั้งตัว ร่องสาวตอดกระตุก เรียกร้องหาความแข็งแกร่งมาเติมเต็มอารัญปลดเข็มขัด แกะกระดุม รูดซิป และปลดปล่อยตัวตนแข็งขึงออกมา“เอาเลย เอาพี่แรง ๆ นะครับ พี่รออยู่”สองสายตาสบประสาน ต่างคนต่างกระหายและโหยหากันและกันพิมพ์ใจขยับหันหลังให้เขา เธอรูดกางเกงชั้นนั้นในลงจนพ้นปลายเท้า แล้วจึงล้วงมือลงกลางหว่างขาแกร่ง จับแก่นกายอวบยาวรูดเบา ๆ แล้วจับตรงส่วนหัวมนทู่จี้จมตรงปากทางร่องสาวอารัญประคองเอวของภรรยาไว้ และจับจ้องมองภาพเร้าใจไม่วางตา หัวมนอวบใหญ่กำลังสอดใส่เข้าไปในร่องอุ่นอ้าว แค่ส่วนหัวจมจ่อมเข้าไป เขาก็เสียวจนต้องกัดฟัน พอพิมพ์ใจขย่มบั้นท้ายลงมา ร่องเนื้ออุ่นอ้าวดูดกลืน
“อย่าทำตาแบบนี้สิครับ พี่กลัว”“อย่างพี่รัญน่ะเหรอคะจะกลัวพิมพ์”“กลัวสิครับ พี่กลัวพิมพ์ไม่รัก กลัวพิมพ์หนีไปไกล ๆ อีก ถ้าเป็นแบบนั้น พี่ต้องใจขาดตายแน่นอน”พิมพ์ใจมองสบตาคู่คม เธอประคองใบหน้าหล่อเหลาไว้ในสองมือ“เราสัญญากันแล้วนี่คะว่า จะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตอีก เราจะมีความสุขกับปัจจุบัน รักและหวังดีให้กันในทุก ๆ วัน พี่รัญลืมสัญญาของเราไปแล้วเหรอคะ”เพราะบางเรื่องราวในอดีตไม่น่าจดจำเท่าไรนัก แต่ก็ไม่อาจลบเลือนไปจากความทรงจำได้ หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้ว เขาและเธอจึงสัญญากันว่า จะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตอีก ไม่ว่าจะไม่พอใจกันมากแค่ไหน ไม่ว่าจะผิดใจกันมากเท่าไร ก็จะไม่รื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ปล่อยให้มันเป็นอดีตไป ให้มันอยู่แค่ในความทรงจำก็พอ“พี่ขอโทษครับ ต่อไปนี้พี่จะไม่พูดถึงอีกแล้ว”อารัญยิ้มเต็มใบหน้า ไม่ว่าเธอต้องการอะไร ไม่ว่าเธออยากให้เขาทำแบบไหน เขาก็ยอมทำให้ทั้งนั้น ยอมให้เธอคนเดียว เพราะอยากให้เธอยิ้มสดใสในทุก ๆ วัน“พิมพ์รักพี่รัญนะคะ”พิมพ์ใจยิ้มอ่อนหวาน นัยน์ตาเป็นประกายสดใส“พี่รักพิมพ์มากกว่า”“พิมพ์รักพี่รัญมากกว่าต่างหาก”อารัญหัวเราะในลำคอ“ไม่เชื่อหรอก”“จริง ๆ นะคะ”“