ตอนที่ 1
“ไม่นะท่านพ่อ! ลูกไม่ยอมถูกส่งตัวเข้าวังเป็นแน่ ท่านพ่อก็รู้ว่าลูกไม่อยากเป็นผู้หญิงในฮาเร็มขององค์รัชทายาท ไม่ว่าจะเป็นของพระองค์ใด ลูกก็ไม่อยากเป็น ท่านพ่อห้ามส่งลูกไปเด็ดขาดนะเจ้าคะ” เสียงของมูนา สาวน้อยวัยสิบแปดปีดังขึ้นหลังบิดาบอกกล่าวเรื่องสำคัญให้รับทราบ เนื่องจากใกล้ถึงวันกำหนดส่งตัวหญิงสาวเข้าไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่องค์รัชทายาทแห่งประเทศอัสคาซานแล้ว แต่หมู่บ้านคาเบียนเซียกำลังเกิดอาเพศบางอย่าง ทำให้เด็กที่เกิดมาล้วนแล้วแต่เป็นเด็กผู้ชายหมด นับตั้งแต่มูนาเกิดมาจนอายุครบสิบแปดปี และตอนนี้ก็เหลือเพียงมูนาคนเดียวเท่านั้นที่เป็นสาวบริสุทธิ์คนสุดท้ายของหมู่บ้านคาเบียนเซีย
“มูนา เจ้าก็รู้ว่าในหมู่บ้านของเราเหลือเพียงเจ้าคนเดียว แล้วเจ้าจะให้พ่อทำเช่นไรหากไม่ส่งเจ้าเข้าวัง มูนาลูกรัก เจ้าตรองให้ดีก่อนเถิด หาไม่แล้วภัยร้ายอาจเกิดขึ้นกับหมู่บ้านของเราได้” น้ำเสียงอ่อนนุ่มจากผู้เป็นพ่อหว่านล้อม หวังจะให้บุตรสาวยินยอมแต่โดยดี อีกทั้งในตอนนี้คนในหมู่บ้านก็เริ่มหวาดผวาต่ออาญาของผู้ปกครองประเทศอัสคาซานกันแล้ว เพราะหากหมู่บ้านใดไม่ส่งหญิงสาวบริสุทธิ์เข้าไปเป็นเครื่องบรรณาการจะถือว่าก่อกบฏ
“แต่ลูกไม่อยากเข้าไปอยู่ในวัง ทำไมท่านพ่อถึงไม่ฟังลูกบ้างล่ะเจ้าคะ” เสียงเล็กเอ่ยค้านด้วยสีหน้าบึ้งตึง โดยมีพี่เลี้ยงคอยปรามอยู่ห่างๆ
“แล้วเจ้าจะให้พ่อทำเช่นไรหากไม่ส่งเจ้าเข้าวัง ในเมื่อหมู่บ้านของเราไม่มีหญิงบริสุทธิ์อีกแล้ว นอกจากเจ้าคนเดียวเท่านั้น” โมฮัมถอนหายใจออกมาอย่างหนักอก เพราะตัวท่านเองก็ไม่ได้อยากส่งบุตรสาวคนเล็กไป
“มันต้องมีสักทางสิท่านพ่อ อีกอย่างในตำหนักขององค์รัชทายาทคงจะมีคนดูแลองค์รัชทายาทมากพออยู่แล้ว แล้วเหตุใดยังต้องการหญิงสาวเข้าไปอยู่ให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำด้วยเล่า” มูนาให้เหตุผลเสียงอ่อนนุ่ม หลังเผลอทำเสียงดังใส่ผู้เป็นบิดา
“เจ้านี่ช่างหาเหตุผลมาอ้างเสียจริง” คนเป็นพ่อส่ายหัวเบาๆ อย่างเอ็นดูบุตรสาวคนเล็ก ที่เกิดมาพร้อมสายตาหยามเหยียดของชาวบ้านบางคน และนี่คือเหตุที่มูนามีนิสัยดื้อรั้น ใครว่าอะไรมาก็ตอกกลับจนแทบหน้าหงายกันทุกคน แล้วหากไม่มีการิดคอยปรามแล้วละก็ นางจักคงไปไล่ทำร้ายคนที่กล่าวร้ายนางเป็นแน่
“ก็ลูกไม่อยากถูกส่งเข้าวัง ลูกไม่อยากไป ไม่อยากไปได้ยินไหมท่านพ่อ” มูนาบอกเสียงกระเง้ากระงอด ใบหน้าสวยคมสมวัยฉายแววดื้อรั้นและเอาแต่ใจออกมาอย่างชัดเจน
“แต่พี่สาวของเจ้าก็อยู่ในวังด้วย แล้วจะกลัวสิ่งใดเล่ามูนาลูกรัก เจ้าเชื่อพ่อเถิดมูนา แล้วสิ่งที่เจ้าทำครั้งนี้จะทำให้หมู่บ้านของเรารอดปลอดภัยจากอาญาแผ่นดิน” ผู้เป็นพ่อพยายามหว่านล้อมด้วยเสียงเอื้อเอ็นดู แต่ก็อ่อนอกอ่อนใจไม่น้อยเพราะรู้ดีว่าบุตรสาวคนเล็กดื้อรั้นเพียงใด แล้วหากถูกส่งเข้าไปอยู่ในวังไม่รู้จะสร้างความเดือดร้อนอะไรขึ้นมาหรือไม่ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่หนักใจไม่น้อยกับการส่งบุตรสาวคนเล็กเข้าไปอยู่ในวัง
“ก็พี่มีนาอยากถูกส่งตัวเข้าวังใจจะขาดนี่ท่านพ่อ ซึ่งต่างจากลูก เพราะลูกไม่อยากถูกส่งตัวเข้าวัง แล้วถ้าลูกถูกส่งตัวไปแล้ว ใครจะอยู่ดูแลท่านพ่อเล่า ลูกเป็นห่วงท่านพ่อ อยากอยู่ดูแลท่านพ่อตลอดไป” มูนาออดอ้อนหวังจะให้บิดาเปลี่ยนใจ
“แต่เจ้าก็รู้ว่าในหมู่บ้านของเราเหลือเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น แล้วหากเจ้าไม่ไป แล้วเจ้าจะให้พ่อส่งใครไปเล่า” โมฮัมเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ ถอนหายใจไปไม่รู้กี่รอบนับตั้งแต่เรียกบุตรสาวคนเล็กเข้ามาพูดคุยถึงเรื่องนี้ ซึ่งคงไม่มีทางเลี่ยงได้อีกแล้ว นั่นเพราะมีเวลาอีกแค่สามวันก็ถึงเวลาที่ต้องส่งบุตรสาวที่รักห่างจากอ้อมอก ที่ไม่รู้จะมีวันใดได้พบหน้ากันอีก
“ก็หาคนอื่นส่งไปสิเจ้าคะ อีกอย่างผู้หญิงในหมู่บ้านของเราก็ตกพุ่มม่ายกันหลายคน แล้วเหตุใดท่านพ่อถึงไม่เลือกพวกนางไปเล่า แล้วลูกก็เห็นว่านางเหล่านั้นยังสาวและสวยกันทุกคน” มูนาเร่งหาข้อเสนอแนะ
“มูนา! นี่เจ้าคิดอะไรออกมา เจ้าไม่รู้หรือไรว่าหากเราทำแบบนั้น หมู่บ้านของเราจะพังพินาศกันหมด แล้วเจ้าก็จงจำเอาไว้ให้ดีว่าการหลอกลวงเบื้องบนจะต้องถูกประหาร แล้วหมู่บ้านนั้นๆ จะถูกกวาดล้างจนสิ้นซาก”
“องค์รัชทายาทคงไม่รู้หรอกว่านางเป็นม่าย” มูนาเถียงเสียงอ่อยๆ
“มูนา เจ้าเลิกคิดเช่นนี้ได้แล้ว หากไม่อยากถูกลงอาญา” โมฮัมเอ็ดบุตรสาวคนเล็กหน้าดุ พลางส่ายหน้าระอากับความคิดเด็กๆ ของบุตรสาว แล้วนี่ถ้าหากมีใครมาได้ยินเข้าแล้วรู้ไปถึงเบื้องบน หมู่บ้านคาเบียนเซียคงได้ถูกลงอาญากันทั้งหมู่บ้านเป็นแน่ โดยเฉพาะบุตรสาวคนเล็กของตน
“ให้ลูกตายเสียยังดีกว่าถูกส่งตัวเข้าไปอยู่ในวัง แล้วรอให้องค์รัชทายาทเรียกหาไม่ต่างจากนางบำเรอ แล้วลูกก็เกลียดชีวิตแบบนี้ที่สุด ท่านได้ยินหรือไม่ ท่านพ่อ ว่าลูกเกลียด เกลียดการเป็นหญิงแล้วถูกข่มเหงแบบนี้ อีกอย่างนี่ก็เป็นชีวิตของข้า เหตุใดต้องตกไปอยู่ในกำมือของผู้อื่นด้วย” มูนาเอ่ยเสียงกร้าวอย่างไม่คิดเกรงกลัวสิ่งใด
“มูนา! เจ้านี่ นับวันจะยิ่งดื้อรั้นไม่ฟังใคร” โมฮัมเอ็ดบุตรสาวเสียงเข้ม แล้วปรายตามองพี่เลี้ยงของบุตรสาวอย่างตำหนิ เพราะหน้าที่การเลี้ยงดูมูนาเป็นของรอนีย์มาตลอดนับตั้งแต่มูนาสูญเสียมารดา แต่รอนีย์ก็เอาแต่ตามใจ มูนาจนจะเสียผู้เสียคน ซ้ำร้ายยังปล่อยให้มูนาไปฝึกวิชาการต่อสู้แทนการอบรมมารยาทที่เป็นของลูกผู้หญิง จนทำให้มูนาแข็งกระด้างจนออกจะก้าวร้าวเสียด้วยซ้ำไป
ตอนที่ 2“ลูกขออภัยท่านพ่อ แต่ลูกก็เป็นของลูกแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ท่านพ่ออย่ามาต่อว่าลูกเลย นิสัยของลูกเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว” มูนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่สีหน้าไม่ได้สำนึกผิดแม้สักนิด“เอาละๆ พ่อเข้าใจเจ้าดี แต่เจ้าก็อย่าลืมว่าเจ้าเกิดมาพร้อมคำทำนายของแม่เฒ่า แล้ววันนี้สิ่งที่แม่เฒ่าทำนายไว้ก็เกิดขึ้นแล้ว และมีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยหมู่บ้านของเราได้” คนเป็นพ่อหันมาหว่านล้อมบุตรสาวอีกครั้งด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แม้จะใจหายที่ลูกต้องมาจากอกไป แต่มันก็เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้คนอื่นๆ ในหมู่บ้านได้อยู่ต่อกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข“แต่ลูกไม่เชื่อคำทำนายนั่นหรอกท่านพ่อ ลูกว่ามันน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญเสียมากกว่า” มูนาเถียงเสียงขึ้นจมูก ดวงหน้าสวยคมบึ้งตึงขึ้นมาอีกครั้งอย่างขัดเคืองใจ ที่จนแล้วจนรอดผู้เป็นพ่อก็ยังไม่เลิกคิดจะส่งเธอเข้าวัง“มูนา! นี่เจ้ากล้าลบหลู่คำทำนายของแม่เฒ่างั้นหรือ”“ลูกเปล่านะท่านพ่อ เพียงแต่ลูกไม่คิดว่าตัวลูกจะเป็นสาเหตุทำให้หมู่บ้านของเราเกิดอาเพศแปลกประหลาด
ตอนที่ 3“เฮ้อ! ข้าจะทำอย่างไรดี พี่รอนีย์ ข้าไม่อยากถูกส่งตัวเข้าวัง” เมื่อเดินเข้ามาอยู่ในห้องพักและทิ้งตัวนั่งบนเตียงเรียบร้อยเสียงหวานก็บ่นอุบ ทำเอาพี่เลี้ยงสาวถึงกับงงไม่น้อย ทั้งที่ก่อนหน้าคุณหนูคนสวยของนางเพิ่งจะรับปากท่านโมฮัมไปว่ายินดีถูกส่งตัวเข้าวัง“เหตุใดคุณหนูถึงได้พูดเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ” รอนีย์เอ่ยถามด้วยความสงสัย เดินไปนั่งบนพื้นพรมชั้นดีใกล้กับคนที่ตนนึกห่วง และยิ่งห่วงมากขึ้นเมื่อรู้ว่ามีเวลาอีกเพียงสามวันที่จะได้อยู่ดูแลกัน“ก็ข้าไม่อยากเข้าไปอยู่ในวัง แล้วที่ข้ารับปากท่านพ่อไป ก็เพราะข้าไม่อยากให้ท่านกลุ้มใจเพราะเรื่องนี้ แต่พอมาคิดๆ ดู ข้าก็ไม่อยากจากท่านพ่อไปไหน แล้วในวังหลวงนั้นจะมีอะไรให้ข้าเล่นข้าทำบ้างล่ะ” มูนาบอกด้วยเสียงเศร้าสร้อย“แต่คุณหนูก็รับปากท่านโมฮัมไปแล้ว คุณหนูจะมาผิดสัญญาหรือเจ้าคะ พี่ว่าไม่ดีแน่ หากคุณหนูจะพูดกลับไปกลับมาเช่นนี้ หาไม่ หากท่านโมฮัมรู้เรื่องเข้า ท่านจะพานล้มป่วยเอา
ตอนที่ 4“มูนา เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยมากหรือเปล่า” ราชิดที่ช่วยผู้เป็นพ่อตรวจตราและจัดเก็บสัมภาระรวมทั้งกับช่วยคนอื่นๆ ตั้งกระโจมเรียบร้อย ชายหนุ่มก็เดินมานั่งลงไม่ห่างจากเพื่อนรัก พร้อมเสียงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หากแต่แววตาของชายหนุ่มสื่อความหมายที่มากกว่าห่วงใยออกมา แต่คนมองมิทันได้พบเห็น เพราะมูนาเอาแต่จ้องมองดวงอาทิตย์ที่ใกล้ลับหายจากเนินทรายด้วยหัวใจหดหู่“มูนา! มูนา นี่เจ้าได้ยินที่ข้าถามเจ้าหรือไม่” ราชิดขานย้ำเสียงดัง“เจ้าถามข้าว่าอะไรนะราชิด” ดวงตาสวยคมที่อยู่ภายใต้ผ้าฮิญาบสีดำเหลียวมองมายังคนถาม“ข้าถามว่าเจ้าเหนื่อยบ้างหรือเปล่า เพราะเราเดินทางกันมาทั้งวัน ก็เพิ่งจะได้หยุดพักกัน” ราชิดส่ายหน้าน้อยๆ แล้วยื่นถุงน้ำดื่มให้ มูนารับมาพร้อมกล่าวขอบคุณเบาๆ แต่ไม่คิดจะยกน้ำขึ้นดื่ม ราชิดหน้าเสียไปนิด เมื่อหญิงสาวที่ตนแอบรักมานานไม่สนใจความห่วงใยเล็กๆ น้อยๆ ที่มอบให้“ข้าเป็นถึงลูกสาวของท่านโมฮัม ข้าจะเหนื่อยได้อย่า
ตอนที่ 5“ข้าบอกแล้วว่าข้ายินดีอยู่เป็นเพื่อนเจ้าและอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดไป” แม้อยากจะโอบกอดสตรีที่รักหมดหัวใจ แต่ราชิดก็ไม่อาจทำได้ เพราะสตรีที่อยู่ข้างกายคือว่าสตรีขององค์รัชทายาท ชายหนุ่มจึงทำเพียงเฝ้ามองดวงตาดำขลับที่ไม่ได้ถูกปิดกั้นด้วยผ้าฮิญาบ“มูนา เจ้าอยากไปอาบน้ำที่ลำธารหรือไม่” เสียงเอ่ยถามของอะมีนะฮ์ มารดาของราชิดดังมาจากด้านหลังของคนทั้งสอง เรียกให้สองหนุ่มสาวหยุดสนทนากันและเหลียวมองไปยังทิศทางของเสียง ทั้งมูนาและราชิดพากันลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาอะมีนะฮ์“ท่านป้า ที่โอเอซิสแห่งนี้มีลำธารด้วยหรือ ข้าไม่เคยเห็นเลย” มูนาเอ่ยถามเสียงตื่นเต้น เพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน หากได้พาตัวไปแช่น้ำเย็นๆ คงจะให้ความรู้สึกสดชื่นขึ้นเป็นกอง“มีสิมูนา ข้าว่าเจ้ารีบไปเตรียมตัวเถิด เราจะได้ไปพร้อมๆ กัน ส่วนเจ้า ราชิด ไปหาพ่อของเจ้าเถอะ เห็นว่ามีเรื่องจะพูดคุยด้วย” อะมีนะฮ์เอ่ยสั่งบุตรชายแล้วเร่งจูงมือของมูนาเดินผ่านหน้าลูกชายไป“ข้ารักเจ้าได้
ตอนที่ 6“นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้าลัยลา! แล้วมูนาน้องข้าน่ะหรือ จะเข้ามาถวายตัวกับองค์รัชทายาท” มีนาตะคอกถาม ดวงตาคมสวยเต็มไปด้วยไฟริษยาแทบจะทันที เมื่อรู้ว่าจะมีผู้หญิงเข้ามาอีกหลายคนเพื่อเข้ามาแย่งชิงตำแหน่งพระชายา ที่ตนหมายปองโดยเฉพาะมูนา แม้นว่ามูนาจะไม่ใช่ผู้หญิงสวยเกินหญิงคนใด อีกทั้งนิสัยก็หาได้เรียบร้อยเหมือนเช่นหญิงอาหรับคนอื่นๆ แต่บางทีความไม่เหมือนใครของมูนาอาจเป็นที่ต้องตาต้องใจขององค์รัชทายาทก็เป็นได้“ฮึ! เจ้านี่ช่างน่าสมเพชนัก แม้แต่เรื่องน้องตัวเองจะเข้ามาถวายตัวต่อองค์รัชทายาทเจ้าก็ยังไม่รู้”“ก็วันๆ ท่านหญิงมีนาเอาแต่แต่งตัวสวยแล้วก็คอยชะเง้อคอรอองค์รัชทายาทยังไรเล่าลัยลา ท่านหญิงมีนาถึงไม่รู้ว่าน้องสาวของตัวเองกำลังจะมาแย่งตำแหน่งนางสนมคนโปรดไป” นาดาสาวงามที่เก่งด้านการเต้นระบำจนเป็นที่พออกพอใจขององค์รัชทายาทจนถูกเรียกให้ไปปรนนิบัติอยู่บ่อยครั้ง เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงชิงชังระคนประชดประชัน“ลัยลา! นาดา! เจ้าทั้งสองเร่งหุบปากของพวกเจ้า
ตอนที่ 7“ข้าไม่ได้ผิดอะไร เจ้าต่างหากที่ผิด เพราะเจ้าสั่งให้สาวใช้ของเจ้ามารุมรังแกข้า ท่านฟาติมาท่านต้องช่วยข้านะเจ้าคะ ข้าเจ็บปวดไปทั่วร่างกายแล้ว และค่ำคืนนี้ข้าคงไปรับใช้องค์รัชทายาทไม่ได้แน่เลยเจ้าค่ะ” ลัยลานำเสนอตัวให้ท่านฟาติมาดูรอยช้ำที่ปรากฏ หากแต่ลัยลาลืมมองเลยไปยังนาดาที่ยืนยิ้มสะใจอยู่ลึกๆ และสมใจเป็นที่สุด เพราะงานนี้ทั้งมีนาและลัยลาคงจะถูกกักบริเวณ แล้วก็หมดสิทธิ์ได้ขึ้นไปปรนนิบัติองค์รัชทายาทบนตำหนักเป็นแน่แท้ แล้วเมื่อนั้นก็จะโอกาสอันดีของเธอ“ข้าไม่คิดจะเข้าข้างใครหรอกลัยลา เพราะเจ้ากับมีนาจะถูกกักบริเวณให้อยู่ภายในห้องของพวกเจ้าเป็นเวลาสองอาทิตย์ แล้วหากใครฝ่าฝืนคำสั่งของข้า ข้าจะสั่งกักบริเวณพวกเจ้าเพิ่ม” ท่านฟาติมากล่าวเสียงเรียบทว่าเฉียบขาด ลัยลาเบิกตากว้าง และพยายามคิดหาวิธีให้ได้ขึ้นไปปรนนิบัติองค์รัชทายาทบนตำหนัก ต่างจากมีนาที่ได้แต่เก็บกักความไม่พอใจต่อคำสั่งของท่านฟาติมาเอาไว้ในอก เพราะถึงอย่างไรเสียองค์รัชทายาทก็จะต้องเรียกหาเธอ แม้จะไม่ใช่ค่ำคืนนี้ก็เถอะ“ท่านฟาติมา โ
ตอนที่ 8“เจ้านี่มัน... เป็นคนของฮากิมนี่ครับ ท่านการิด” อุสมานอุทานหน้าเครียด เพราะเคยเห็นคนร้ายเคยลับลอบเข้าไปในหมู่บ้านอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ฮากิมจะบอกว่าเป็นญาติห่างๆ จะมาขออยู่ด้วย แต่เหตุใดทำไมเจ้าคนนี้ถึงได้มาอยู่ที่นี่ แล้วยังหมายจะทำร้ายคนในกระโจมเสียอีก“เจ้าว่าอะไรนะอุสมาน” การิดหันไปถามย้ำหน้าเคร่งเครียด ใจก็หวนคิดถึงท่าทีของซากีรอฟฟ์เมื่อหลายวันก่อน เพราะซากีรอฟฟ์มักนัดคนให้เข้าไปพบที่บ้านพักเป็นประจำ แต่ละวันก็ไม่ซ้ำหน้ากันด้วยซ้ำไป“ข้ามั่นใจว่ามันคือคนของฮากิมแน่นอน ท่านการิด แล้วเจ้าหมอนี่ก็เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ในหมู่บ้านของเราได้ไม่นาน พร้อมกับพรรคพวกของมันอีกสามสี่คน ข้าว่าคนที่หนีไปได้ต้องเป็นพวกของมันแน่นอนครับ”อุสมานปรายตาดุกร้าวไปยังคนบุกรุกที่มีสภาพสะบักสะบอมที่เกิดการต่อสู้กันขึ้น อดใจสังหรณ์ใจไม่ได้ว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่หมู่บ้านคาเบียนเซีย‘ท่านโมฮัม’ หากเกิดเรื่องขึ้น ท่านโมฮัมไม่อาจรับมือซากีรอฟฟ์ได้แน่ สีหน้
ตอนที่ 9“เคยชินบ้าอะไรของเจ้า ในเมื่อข้าออกจากวังหลวงมาตั้งแต่อายุห้าขวบ แล้วก็มีเจ้าเติบโตมากับข้า แล้วข้าก็บอกเจ้าไปเป็นพันครั้งแล้วกระมังว่าอย่าเรียกข้าแบบนี้อีก เพราะข้าไม่ใช่องค์รัชทายาทแห่งอัสคาซานอีกต่อไป ถ้าขืนเจ้ายังเรียกข้าแบบเมื่อครู่อีก ข้าจะส่งเจ้าไปเลี้ยงอูฐเสียให้เข็ด” กล่าวจบชายหนุ่มก็ขยับตัวลุกขึ้นแล้วนั่งพิงต้นอินทผลัม สายตาดุดุจพญาเหยี่ยวจดจ้องไปยังคนสนิท“ยังจะยืนเงียบอยู่อีก มีอะไรก็ว่ามาราฮิม หรือที่เจ้าเอาแต่เงียบ เพราะเจ้าเบื่อที่จะติดตามข้าแล้ว ก็ดี ข้าจะได้ให้เจ้าไปเป็นคนเลี้ยงอูฐซะเลย” ฟารีฟถอนฉุน แต่มิได้เคืองโกรธคนสนิทอย่างที่ปากพูดออกไปนัก แต่ที่ต้องเอ่ยเตือนเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหนเสียมากกว่า นั่นเพราะนับตั้งแต่เขาถูกส่งตัวมาอยู่กับพ่อเฒ่าซุกกีเพื่อความปลอดภัย เพราะตามกฎของประเทศอัสคาซานที่ยึดถือกันมาช้านานว่าหากมีองค์ชายสองพระองค์ พระองค์รองจะต้องออกจากวังไป และนั่นทำให้ข่าวคราวของเขาค่อยๆ เงียบหายไป จนคนในราชสำนักคิดว่าเขาป่วยตายกลางทะเลทรายไปแล้วพร้อมพี่เลี
อวสานหนึ่งเดือนต่อมาข่าวการประกาศสละราชบัลลังก์ขององค์ฟาตินก็ดังไปทั่วประเทศอัสคาซาน รวมไปถึงประเทศใกล้เคียงที่ต่างก็ส่งตัวแทนเข้าร่วมพิธีที่ถูกจัดภายในพระราชวังอัสเซโรซานาพร้อมการเฉลิมฉลองที่ยิ่งใหญ่ เหล่าประชาชนทั่วประเทศอัสคาซานก็พากันร่วมเฉลิมฉลองในหมู่บ้านของตน พร้อมกับการได้รับข้าวของบริจาคจากราชวังที่องค์ฟาเดลทรงให้ตัวแทนนำออกมาแจกจ่ายให้กับประชาชนของพระองค์ เพื่อเป็นการตอบแทนที่ประชาชนทุกคนต่างร่วมยินดีที่พระองค์ขึ้นดำรงตำแหน่งประมุขของประเทศอัสคาซาน ในขณะภายในพระราชวังกำลังจัดพิธีเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่อยู่นั้น ที่เนินทรายสูงมีหญิงชายนั่งกอดกันอยู่บนหลังม้าใกล้กับโอเอซิสขนาดเล็ก เพื่อเดินทางกลับหมู่บ้านบาลายูดา หลังจากฟารีฟได้พามูนาเดินทางกลับไปเยี่ยมผู้ให้กำเนิดที่หมู่บ้านคาเบียนเซีย ที่เวลานี้มีแต่ความสงบสุขไม่ต่างจากหมู่บ้านบาลายูดา “ท่านพี่” มูนาขานเรียกเจ้าของอ้อ
ตอนที่ 82จังหวะรักร้อนแรงขึ้นพอๆ กับเสียงครวญครางของสองสามีภรรยา แล้วฟารีฟก็จับร่างเมียรักพลิกนอนคว่ำหน้า ขยับตัวขึ้นทาบทับ เบียดความรุ่มร้อนเข้าหา ปากหยักพรมจูบไปทั่วไหล่ลาดและแผ่นหลังเนียน มือหนาคว้าเอวเล็กไว้แล้วยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อผสานความรักต่อกัน มืออีกข้างก็ลากผ่านไปทางด้านหน้าเพื่อเคล้นคลึงอกอิ่มไปพร้อมกัน เหงื่อไหลย้อยเป็นทางเมื่อความกระชั้นโถมขึ้นหนักหน่วง ชั่วอึดใจคนที่รับความแข็งแกร่งก็ครางลั่นยาวเหยียด สมองที่มืดมนสว่างวาบเมื่อความทรมานที่มาพร้อมความซาบซ่านถึงจุดสิ้นสุด มูนาถึงกับอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว จนต้องฟุบหน้าแนบไปกับฟูกนุ่ม ด้านฟารีฟเมื่อเห็นว่าเมียรักเดินทางไปถึงสวรรค์เรียบร้อยแล้ว จึงเร่งทะยานพาตัวเองไปถึงจุดนั้นตามเธอไปติดๆ เพียงไม่นานก็เปล่งเสียงครางลึกอย่างสุขสม เมื่อปลดปล่อยความรักทั้งหมดทั้งมวลให้เมียรักจอมดื้อรั้นไปแล้ว ก่อนทิ้งร่างลงนอนทาบ อ้อมแขนกำยำสอดเข้าไปโอบกอดร่างนุ่มที่ยังสั่นสะท้านเพราะฤทธิ์รักไว้แน่น จูบซับเม็ดเหงื่อให้อย่างอ่อนโยน แต่เหมือนความต้องการของเขาไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เมื่อเนื้อสัมผัสเนื้อจึงเกิดกระแสความปรารถนาขึ้น
ตอนที่ 81ฟารีฟขยับตัวเพียงนิดเพื่อจะเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าบนกายเมียรักออก ปากของเขาลากลงมาที่ลำคอระหง จูบซับอย่างเอาใจคนใต้ร่าง โดยที่มืออีกข้างก็สอดหายเข้าไปใต้ชายผ้าที่รั้งขึ้นมาจนถึงโคนขาเรียว วาดผ่านแผ่วเบาไปบนความนุ่มละมุมของความเป็นหญิง กอบกุมลูบไล้ด้วยความพึงพอใจ ก่อนจับร่างเล็กพลิกให้นอนคว่ำ แล้วเข้าทาบทับทางด้านหลัง ไซ้จมูกและปากไปกับก้านคอขาวผ่อง พร้อมปลดพันธนาการของตัวเองจนเหลือเพียงกายเปลือยเปล่า ผิดกับอาภรณ์บนกายเมียรักเขาค่อยๆ ถอดออกทีละชิ้น พยายามใจเย็นที่สุดในชีวิต ซึ่งเมื่อผิวนวลขาวของเมียรักเผยตรงจุดไหนเขาก็ก้มหน้าพรมจูบไปตรงนั้น แล้วจบลงที่สะโพกงอนงามหลังจากที่ตอนนี้หญิงสาวนอนเปลือยอวดเรือนร่างให้เห็นตลอดทั้งตัว“ยอดรักของพี่” ฟารีฟเคลื่อนตัวขึ้นไปกระซิบคำหวานใส่ใบหูเล็ก แล้วกดปากร้อนลงกับแก้มนุ่ม ทาบเรือนกายส่วนหน้าแนบชิดกับเรือนร่างบอบบางด้านหลัง ทำให้มูนาสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าผู้เป็นสามีจะไร้อาภรณ์เช่นเดียวกัน หนำซ้ำความแข็งขึงที่ถูไถไล้วนเวียนกับสะโพกของเธอ ก็ส่งผลให้ใบหน้าคมสวยร้อนผ่าวและเห่อแดงขึ้นมาทันตา
ตอนที่ 80“เจ้าจะกลับไปหาไอ้ราชิดหรือไงมูนา!” ฟารีฟตะคอกถามเสียงแข็งกระด้าง จากที่โมโหเพราะความดื้อรั้นของเมียรักอยู่นั้น ตอนนี้กลับมีแรงหึงหวงเข้ามาเพิ่ม ยิ่งทำให้ใบหน้าคมที่เต็มไปด้วยหนวดเครายาวเฟื้อยบึ้งตึงมากยิ่งขึ้น “หากใช่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับท่าน” มูนาเชิดใบหน้าขึ้นอย่างท้าทาย ขุ่นเคืองเขาที่ดึงคนอื่นเข้ามาเกี่ยวทั้งที่ต้นเหตุของเรื่องคือเขาคนเดียวเท่านั้นที่หลอกลวงเธอมาตลอด “มูนา!” ฟารีฟคำรามลั่น แววตาคมลุกวาวไม่จากกองไฟที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เป็นจุณ “ออกไป! ไปให้พ้นหน้าข้า” ปากบอกขณะที่มือก็คว้าหมอนที่เกลื่อนพื้นขึ้นมาปาใส่ร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่เหี้ยมจัด ตามด้วยข้าวของที่พอจะฉวยหยิบขึ้นมาได้จนฟารีฟต้องถลันเข้ามาคว้าข้อมือเล็กไว้แน่น พร้อมกับตวาดเสียงแข็งเพื่อปราม&nb
ตอนที่ 79หลายวันผ่านพ้นไปนับตั้งแต่เรื่องราวเศร้าสะเทือนใจชาวบ้านค่อยๆ จางหาย แต่ชาวบ้านทุกคนก็มิเคยลืมเลือนพ่อเฒ่าซุกกี ทุกอย่างในหมู่บ้านบาลายูดากลับสู่ความสงบสุขอีกครั้ง แต่ดูเหมือนจะมีคนหนึ่งดูไม่ค่อยเป็นสุขนัก เมื่อเมียรักยังไม่ยอมพูดจาด้วย หลังฟารีฟเริ่มปฏิบัติการง้อเมียรักอยู่หลายวันแต่ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ และในค่ำคืนนี้ก็เช่นกันที่ฟารีฟยังคงเดินหน้าง้อเมียรักเช่นเดิมผิดกับมูนาที่นับวันก็ยิ่งโกรธเคืองผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีมากขึ้นทุกวัน หลังเขาสั่งกักขังเธอไว้แต่ในบ้านราวกับสัตว์เลี้ยงเมื่อเธอยืนยันว่าจะไปจากเขา ‘คนใจร้าย อย่าให้ข้าหนีไปได้นะ ชาตินี้ทั้งชาติ ข้าจะไม่มีวันให้อภัยท่านแน่ คนหลอกลวง!’มูนาเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างโกรธจัด หากแต่ตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านั่งระบายความเคียดแค้นกับผ้าห่มที่ถูกกระชากทิ้งลงพื้นไปไม่รู้กี่ครั้ง ทว่าก็ถูกดึงกลับขึ้นมาแล้วจับขมวดเป็นก้อนกลมแล้วปาทิ้งอยู่อย่างนั้น
ตอนที่ 78“นัจมีย์ไม่ทราบหรอกเจ้าค่ะ พอเห็นนัจมีย์ก็รีบมาบอกคุณหนูนี่แหละเจ้าค่ะ หรือว่า! พวกชาวบ้านจะรู้กันแล้วว่าคนที่วางยาท่านพ่อเฒ่าคือคุณหนู แล้วจะทำอย่างไรกันดีล่ะเจ้าคะคุณหนู” นัจมีย์โผเข้าไปเกาะแข้งเกาะขาอันดาด้วยเนื้อตัวสั่นงันงก น้ำตาก็ไหลพรากด้วยความหวาดกลัว“หุบปากของเจ้าเดี๋ยวนี้นัจมีย์ แล้วก็จำไว้ว่าข้าไม่ได้เป็นคนวางยาท่านลุง แต่เป็นเจ้าต่างหากที่เป็นคนใส่ยาพิษลงไปในอาหารของท่านลุง แล้วก็เป็นเจ้าอีกเช่นกันที่ใส่ยาพิษลงไปในขนมของนังมูนา” อันดาสะบัดขาของตนออกจากเกาะกุมของสาวใช้“คุณหนู! เหตุใดถึงได้พูดเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ” นัจมีย์หน้าไร้เลือดมาหล่อเลี้ยงพร้อมส่ายหน้าที่เจิ่งนองด้วยน้ำตาไปมา“ก็มันเป็นเจ้าจริงๆ ที่เป็นคนวางยาท่านลุงของข้า” อันดายังคงโบ้ยความผิดให้สาวใช้“แต่นัจมีย์ทำไปเพราะคำสั่งของคุณหนูนะเจ้าคะ”“หุบปากของเจ้าเดี๋ยวนี้นัจมีย์!” อันดาโผเข้าไปตบหน้าของสาวใช้ฉาดใหญ่ แล้วบังคับให้นัจมีย์ยอมรับผิดเพียงคนเดียว แต่นัจมีย์ยังไม่ได้
ตอนที่ 77“โธ่มูนา เจ้าอย่าบีบบังคับข้าอีกเลย” ไอช่าบอกเสียงสั่นเครือ พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ร้องไห้ตามมูนา ใจก็ภาวนาขอให้ท่านฟารีฟรีบกลับมาที่หมู่บ้านเสีย มูนาจะได้เลิกบีบบังคับตนเสียที เพราะเวลานี้ใจเธอเองก็อยากจะช่วยเพื่อนรักไปครึ่งค่อนใจแล้ว แต่ก็ยังกลัวโทษทัณฑ์จากท่านฟารีฟ“ข้าไม่ได้บังคับเจ้านะไอช่า เพียงแต่ข้าขอร้องให้เจ้าช่วยเห็นใจข้าบ้าง เพราะข้าไม่อยากอยู่ที่นี่จริงๆ เจ้าช่วยข้าสักครั้งเถอะนะไอช่า แล้วข้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ้าต้องเดือดร้อน” มูนายังคงรบเร้าไม่หยุด“โธ่มูนา ต่อให้เจ้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้ข้าเดือดร้อน แล้วเจ้าคิดหรือว่าคนของท่านฟารีฟจะไม่รู้ว่าข้าเป็นคนบอกทางให้เจ้าหนีไป” ไอช่าครวญด้วยหน้าสีหน้าอยากจะไปกินยาพิษฆ่าตัวตายเสียให้จบๆ ไป จะได้ไม่ต้องมานั่งฟังคำรบเร้าของเพื่อนรักที่ทำเอาเธอหนักใจมากที่สุดในชีวิต“มันก็จริงของเจ้า แต่ข้ารับรองว่าเจ้าจะไม่เดือดร้อน เพราะข้าแน่ เจ้าเชื่อข้าสิไอช่า”“มูนา เจ้านี่ช่างดื้อรั้นเสียจริง” ไอช่าบ่นอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
ตอนที่ 76 ที่ห้องรับรองภายในตำหนักขององค์รัชทายาท ที่เวลานี้พระองค์ทรงประทับอยู่เพียงลำพัง และรอคอยการมาของฟารีฟด้วยพระทัยกระวนกระวาย แม้ว่าเรื่องการแต่งตั้งพระชายาจะจบลงไปได้ด้วยดี แต่ก็มาเรื่องการโยกย้ายโอซามาทำให้พระองค์ทรงคิดหนักว่าอาจจะมีอะไรที่มากกว่านั้น ในเมื่อโอซามาเป็นถึงคนสนิทของท่านอูเซน“ท่านพี่” ฟารีฟขานเรียกพร้อมเผยยิ้มมุมปากที่แทบจะมองไม่เห็น เพราะหนวดเคราที่แม้จะถูกองค์รัชทายาทหรือแม้แต่องค์ฟาตินบอกให้โกนออกเสียบ้าง แต่ฟารีฟก็ยืนยันที่จะไม่โกน“เจ้ามาแล้วหรือน้องพี่” องค์รัชทายาทฟาเดลแย้มพระโอษฐ์เล็กน้อย แล้วยื่นพระหัตถ์เชิญให้ผู้เป็นน้องชายนั่งจิบน้ำชาด้วยกัน ก่อนจะเริ่มพูดคุยถึงเรื่องที่อูเซนสั่งโยกย้ายนายทหารคนสนิทของตน“เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไรบ้างน้องพี่” องค์รัชทายาทตรัสถามด้วยพระพักตร์ครุ่นคิด“ข้าว่าท่านอย่ากังวลใจไปเลย ในเมื่อท่านก็รู้แล้วว่าโอซามาเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องที่ซากีรอฟฟ์ส่งลูกส
ตอนที่ 75ที่บ้านพักของท่านอูเซน เจ้าของบ้านกำลังนั่งทำหน้าเรียบนิ่ง เสียจนคนที่มาขอร้องเริ่มจะนั่งไม่ติดเมื่อท่านอูเซนดูไม่เป็นทุกข์เป็นร้อนกับเรื่องที่ตนมาขอร้องในครั้งนี้ “ท่านอูเซน ท่านโปรดพูดกับข้าบ้างเถิดท่าน ตอนนี้ข้าร้อนใจเต็มทนแล้ว” โอซามา นายทหารวัยกลางคนพูดขึ้นอีกครั้ง หลังได้เข้าร่วมประชุมหารือเรื่องการแต่งพระชายา แต่กลับกลายเป็นว่านูรีน หลานสาวนอกไส้ของตนไม่ได้รับการคัดเลือกแต่อย่างใด“แล้วเจ้าจะให้ข้าช่วยอะไรเจ้าได้อีก ในเมื่อตอนนี้องค์รัชทายาทได้ตัดสินพระทัยแล้วว่า จะให้หลานสาวของท่านอัฟฟานขึ้นเป็นพระชายาแทน มีนาหญิงสาวชาวบ้านธรรมดา ซึ่งข้าก็เห็นด้วยกับสิ่งที่พระองค์ได้ตัดสินพระทัย เพราะจัสมินเป็นหญิงสาวที่เพียบพร้อมด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ตามธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติกันมา”ท่านอูเซนกล่าวเสียงเรียบไม่แพ้หน้าตาตนในเวลานี้ แต่กลับยิ่งทำให้โอซามาไม่พอใจมากยิ่งขึ้น ในเมื่อก่อนหน้าท่านอูเซนก็รับปากแล้วว่าจะช่วย“แต่นูรีน หลานสาวของข้าก็เ