“อ๊ะๆ อย่าตบหน้าฉันเชียว ฉันไม่ใช่สุภาพบุรุษนักหรอกนะ หากเธอตบฉัน ฉันก็อาจจะทำอะไรเธอมากกว่าจูบในห้องรับรองนี้เลยก็ได้นะ”
ราฟาเอลยกนิ้วชี้ขึ้นส่ายไปมาตรงหน้าหญิงสาวที่กำลังจะเงื้อมือตวัดลงบนแก้มขาวๆ ของเขาด้วยโทสะ
“แก ไอ้..” แทนฤทัยพูดไม่ออกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้องในขณะเดียวกันก็ร้อนรุ่มด้วยความโกรธและอารมณ์บางอย่างที่ตีตื้นขึ้นมา หญิงสาวมองเขาด้วยประกายตากร้าวอย่างสับสนน้ำใสๆ คลอดวงตางามจวนเจียนจะร่วงแหล่มิร่วงแหล่
“หึหึ.. หน้าตาก็สวย ปากก็หวานดี แต่คำพูดนี่ต้องปรับปรุงนะครับ.. หมดธุระฉันแล้ว ไปละ อ้อ.. หากติดใจจูบของฉันก็ไปหาฉันได้เสมอนะจ๊ะคนสวย..”
เสียงหัวเราะยียวนดังก้องไปทั้งห้องและเหมือนว่ามันดังอึกทึกอยู่ในหัวของเธอ จนเมื่อร่างสูงลับตาไปแทนฤทัยก็กรีดร้องด้วยความเจ็บใจ
“กรี๊ดดดดดด.. ไอ้บ้า ไอ้คนทุเรศ..”
หญิงสาวกระทืบเท้ากรีดร้องด้วยความเจ็บใจ น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มไม่ใช่เพราะเธอเสียใจอะไรนักแต่เจ็บใจเสียมากกว่าที่โดนลบเหลี่ยมถึงถิ่น และที่สำคัญเขาบังอาจขโมยจุมพิตแรกของเธอไป...
แทนฤทัยหน้าหงิกเมื่อบิดาเรียกเข้าไปพบเพื่อบอกว่าเธอจะต้องทำงานร่วมกับราฟาเอลในโปรเจ็คใหม่ของบริษัทและลูกค้าก็เลือกเธอกับราฟาเอลให้ทำงานชิ้นนี้ซึ่งแน่นอนว่าค่าตอบแทนมันมากเกินกว่าที่เธอจะปฏิเสธเพียงเพราะไม่ชอบหน้าอีกฝ่าย
ขืนเธอถอนตัวก็เท่ากับว่ายอมแพ้อีตานั่นน่ะสิ หญิงสาวคิดอย่างฉุนๆ ขณะเดินไปที่รถของตนแต่เมื่อเดินมาถึงรถก็ต้องตาโตด้วยความฉุนเฉียวหนักกว่าเดิม
“นี่นาย อย่ามายืนพิงรถฉัน ออกมาห่างๆ เลย เดี๋ยวความชั่วร้ายของนายมันจะมาติดรถฉันและสีมันจะถลอก...”
แทนฤทัยถลามาที่รถเมื่อพบว่าหนุ่มผมทองยืนพิงรถของเธอด้วยท่าทางแสนสบาย ท่าทางราว เจ้าชายอสูรจอมเจ้าเล่ห์ ของเขานี่เธอเกลียดที่สุดเลย...
“คุณผู้หญิงครับ แค่พิงแค่นี้สีไม่ถลอกหรอกครับ แต่ถ้ายืนทำอย่างอื่น ก็ไม่แน่..”
“คนลามก..”
หญิงสาวหน้าแดงก่ำขึงตามองเขาแถบถลน แล้วภาพที่เขาจูบเธอในวันนั้นก็แวบเข้าในหัว แทนฤทัยเชิดหน้าขึ้นแล้วพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดทั้งที่ในใจเต้นรัว
“อะไร ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย มาว่าฉันลามกเธอนี่กำลังคิดมิดีมิร้ายกับฉันรึเปล่า” ราฟาเอลยิ้มยียวนพลางหลิ่วตาให้เธอยิ่งทำให้เธอพลุ่งพล่าน
“อ๊ายยยย อีตาบ้า นายสิ คิดอะไรลามก ถอยไป..”
“หึหึ หน้าแดงๆ แบบนี้คิดถึงจูบฉันล่ะสิ” ชายหนุ่มยังคงไม่เลิกกวนประสาทไม่เลิก แทนฤทัยกระทืบเท้าเร่าๆ อยากจะกระโจนมาข่วนหน้าหล่อๆ นั่นนัก
“นาย ไอ้คนทุเรศ ฉันอยากจะ..”
“เอ๊า.. จะไปกันรึยังฉันรออยู่นะเนี่ย” แทนฤทัยอ้าปากพะงาบๆ จะต่อว่าเขาแต่ราฟาเอลกลับพูดไปอีกเรื่องหน้าตาเฉย
“จะไปไหนไม่ทราบ นายมาทางไหนก็ไปทางนั้นเลย”
“จะให้ฉันขับรถให้หรือจะขับเอง แต่ว่าท่าทางเหมือนคนขาดสติแบบนี้มาฉันขับให้เอง...”
เขาไม่สนใจคำพูดเธอด้วยซ้ำพอพูดจบเขาก็คว้ากุญแจจากมือเธอไปทันทีซึ่งแทนฤทัยก็ได้แต่ยืนอึ้งตามเขาไม่ทัน
“นะ นี่ นาย..”
“พูดมากจริง เข้ามาได้แล้วจะยืนโชว์หุ่นแห้งๆ ให้ใครดู”
แทนที่เธอจะเป็นฝ่ายต่อว่าเขากลายเป็นว่าเธอถูกเขาว่าเสียอย่างนั้น แทนฤทัยอ้าปากจะคัดค้านราฟาเอลตวัดสายตามองเหมือนรำคาญแล้วรั้งให้เธอเข้าไปนั่งในรถอย่างง่ายดายโดยที่เธอไม่ทันได้พูดอะไรได้แต่มองเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
แทนฤทัยเคืองจัดจนไม่สามารถประมวลผลคำพูดจะมาต่อว่าได้ทันการกระทำของเขานั่นเอง ส่วนราฟาเอลก็ทำตัวเหมือนเจ้าของรถ เอื้อมมือไปเปิดเพลงจากเครื่องเสียงชั้นดีเบาๆ ด้วยความสบายอกสบายใจซ้ำยังผิวปากร้องคลอเพลงไปด้วย
“เป็นไง เสียงฉันเพราะจนอึ้งไปเลยล่ะสิ”
“ทุเรศ ฉันกำลังรำคาญย่ะ แล้วก็กรุณาจอดรถแล้วก็ลงไปจากรถฉันเสียด้วย..”
จริงๆ แล้วเสียงของราฟาเอลเพราะมากเลยล่ะแต่เธอจะไม่ชมเขาแน่นอน
“อ๊ะๆ เรายังมีสัญญากันอยู่นะครับ เหลือเวลาอีกตั้งสามวัน”
“สัญญาบ้าบออะไรฉันไม่รับรู้ นายตกลงกับคุณพ่อเองก็ไปทวงเอากับท่านสิไม่เกี่ยวกับฉันเลยสักนิด”
“แน่ใจเหรอว่าจะให้ฉันทำแบบนั้น..”
คราวนี้น้ำเสียงเขาจริงจังทำให้คนตัวเล็กสะบัดหน้าหนีอย่างเจ็บใจเพราะเธอรู้ดีว่าถึงอย่างไรก็ต้องทำงานร่วมกับเขาอยู่ดี
“เอาน่า ไหนๆ เราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว”
“เชอะ ลงเรือลำเดียวกัน ฉันว่านายมันเป็นโจรสลัดที่ลักพาตัวโฉมงามอย่างฉันลงเรือมาด้วยเสียมากกว่า”
“แต่สุดท้าย โฉมงามกับโจรสลัดก็ลงเอยด้วยการรักกันและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนะครับ..”
ราฟาเอลยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเขาทำให้แทนฤทัยตาพร่าไปอยู่ไม่น้อยแล้วก็ต้องรีบตีสีหน้าเริดๆ เชิดๆ ไว้ข่มใจไม่ให้หวั่นไหวกับรอยยิ้มของโจรสลัดรูปงามอย่างราฟาเอล..
“แหวะ.. โฉมงามอย่างฉันไม่มีทางลงเอยกับจอมโจรสลัดเจ้าเล่ห์หน้าด้านหน้าทนอย่างนายแน่นอน...”
ราฟาเอลไม่พูดว่ากระไรแต่ขับรถคันเล็กของเธอไปยังบริษัทของตนหน้าตาเฉยซึ่งแทนฤทัยจำต้องไปพร้อมกับเขาเมื่อเจอสีหน้าและแววตาจริงจังเอางานเอาการของเขา เธอต้องมาช่วยเขาดูการออกแบบและเจียระไนพลอยที่จะทำเครื่องประดับให้กับลูกค้าของราฟาเอลที่ต้องการตราประจำตระกูลที่งดงามอลังการ และตอนนี้บิดาของเธอกับราฟาเอลคือหุ้นส่วนกัน... ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ แทนฤทัยคิดอย่างขุ่นใจ
ตอนที่4.ราฟาเอลไม่พูดว่ากระไรแต่ขับรถคันเล็กของเธอไปยังบริษัทของตนหน้าตาเฉยซึ่งแทนฤทัยจำต้องไปพร้อมกับเขาเมื่อเจอสีหน้าและแววตาจริงจังเอางานเอาการของเขา เธอต้องมาช่วยเขาดูการออกแบบและเจียระไนพลอยที่จะทำเครื่องประดับให้กับลูกค้าของราฟาเอลที่ต้องการตราประจำตระกูลที่งดงามอลังการ และตอนนี้บิดาของเธอกับราฟาเอลคือหุ้นส่วนกัน... ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ แทนฤทัยคิดอย่างขุ่นใจ“ถึงแล้วครับ เชิญครับคุณผู้หญิง”ราฟาเอลผายมือเชื้อเชิญ แทนฤทัยหน้างอแต่ก็ลงจากรถแล้วเดินตามเขาเข้าไปในตึกสำนักงานของเขาด้วยความตื่นเต้นไม่น้อย เป็นครั้งแรกในที่เธอได้มาเยือนอาณาจักรของเขา...“เป็นไงบ้างละแทมมี่ งานราบรื่นดีมั้ย” เสียงของบิดาทำให้หญิงสาวที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดชะงักแล้วหันมายิ้มหวานให้ผู้เป็นพ่อ“อ้าวคุณพ่อ กลับมานานแล้วหรือคะ”“ก็สักพัก แล้วเป็นไงบ้างร่วมงานกับราฟ”“ก็ดีค่ะ..”หญิงสาวตอบตามความจริงอย่างที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าราฟาเอลนั้นเป็นคนที่ทำงานเก่งฉลาดหลักแหลมและฉับไวไม่ด้อยไปกว่าพี่ธามของเธอเลยแม้แต่น้อย“เก็บเกี่ยวความรู้ประสบการณ์จากพี่เขาเยอะๆ ล่ะ อย่ามัวแต่แง่งอนใส่พี่เขา”“โหย คุณพ่อน
ตอนที่1. “ไม่นะ ออกไป ไอ้ฆาตกร.. ออกไป ไม่ ม่ายยยย.. เฮือกกกก..”ร่างสูงผวาลุกขึ้นจากที่นอนกว้างด้วยใบหน้าตื่นตระหนกเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายเต็มใบหน้าหล่อเหลาขาวเผือด.. มือเรียวอย่างชายชาตรียกขึ้นสอดเสยแล้วขยี้เรือนผมสีทองอร่ามของตนอย่างบ้าคลั่งก่อนจะร้องออกมาอย่างเจ็บปวด...“อ๊ากกก.. ฉันเกลียดแก.. ฮือออ.. ลินดา ลินดา.. ฉันขอโทษ..”น้ำตาลูกผู้ชายไหลรินออกมาจากดวงตาสีมรกตหม่นมัว ร่างแกร่งไร้อาภรณ์ใดๆ ซึ่งมีลายสักแปลกตาหลากสีอยู่บนแผ่นหลังกว้างและแขนแข็งแรงขดงอยู่บนเตียงนุ่มทว่าหนาวเหน็บอยู่เพียงผู้เดียวท่ามกลางฝันร้ายที่ติดตามหลอกหลอนเขามากว่าสิบห้าปี หากย้อนเวลากลับไปได้และหากเขาเข้มแข็งพอเขาอาจจะช่วยเธอไว้ให้ได้ แต่แล้วในวันนั้นเขากลับวิ่งหนีเอาตัวรอดอย่างคนขี้ขลาด.. ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดและเกลียดตัวเองก่อนจะพยายามข่มตาลง แต่ทุกครั้งที่ข่มตาลงภาพความทรงจำอันเลวร้ายก็ตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ร่ำไปแล้วเมื่อไหร่หนอฝันร้ายนี้จะหายไป... ราฟาเอล ฟร้องส์ หลับตาลงอย่างอ่อนล้าและเจ็บปวดกับความฝันแสนโหดร้ายที่ตามหลอกหลอนเขามาเนิ่นนาน...ฝันร้าย เมื่อไหร่จะจบสิ้น... บทที่ 1.จอมวายร้ายแทน
ตอนที่2.หญิงสาวบอกอย่างสุภาพแล้วเดินออกไปเพื่อให้แขกคนสำคัญของเจ้านายได้อยู่อย่างเป็นส่วนตัวราฟาเอลเดินไปหยุดมองภาพเบื้องหน้าผ่านกระจกใสอย่างไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับภาพตรงหน้านัก กรุงเทพมหานครก็เหมือนกับเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ของประเทศต่างๆ ที่มีแต่ความสับสนวุ่นวายและเขาก็ค่อนข้างจะเบื่อมันเหลือเกิน...“นายมาที่นี่ทำไมไม่ทราบ..”เสียงหวานแต่ทว่าห้วนจัดของหญิงสาวดังขึ้นทำให้ริมฝีปากเรียวได้รูปสีเข้มราวริมฝีปากอิสตรียกยิ้มน้อยๆ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้...“ฉันถามว่านายมาทำไม..”แทนฤทัยตวัดเสียงใส่เขาอีกครั้งชายหนุ่มจึงหันมามองหญิงสาวที่เท้าสะเอวมองเขาตาเขียวปัดอย่างนึกขัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีแทนฤทัยก็ยังเหมือนเดิม น้ำเสียงแสนเกเรท่าทางหยิ่งผยองและไม่เคยยอมอ่อนข้อให้เขามันทำให้เขาสนุกทุกครั้งที่แหย่เย้าเจ้าหล่อน...“ก็คิดถึงเลยแวะมาทักทาย ทำไม มาไม่ได้เหรอ..”“อี๊ อย่าใช้มุกน้ำเน่ามาจีบฉันเลยย่ะ ฉันไม่สนนายหรอก”หญิงสาวทำท่าแขยงกับคำพูดของเขาซึ่งมันทำให้ราฟาเอลหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปนั่งเหยียดยาวยกขาแกร่งพาดเท้ากับโต๊ะกระจกหรูอย่างสบายอารมณ์