วันเวลาผ่านพ้นไป1สัปดาห์
แสงจันทร์ทอประกายและแสงระยิบระยับของหมู่ดาวในทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่เจิดจรัสงดงามอยู่บนท้องฟ้า ทินภัทรที่ไม่มีอะไรทำหรือไม่มีใครคอยมากวนใจเฉกเช่นหลายวันก่อนที่ผ่านมา ก็ปลีกตัวมานั่งทำหน้าหงอยมองผืนฟ้าอยู่ที่ชิงช้าตัวเดิมที่ทุกวันนี้แทบจะเป็นที่ประจำของเจ้าตัวอยู่แล้ว
"มานั่งทำเอ็มวีอะไรอยู่นี้อ่ะพี่ผัก ไม่กลัวยุงมาหามไปหรือไง"เสียงทุ้มของน้องชายที่พึ่งจะเดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งลงที่ชิงช้าตัวข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้น พลันนัยน์ตาคมของข้าวเม่าก็ลอบมองสังเกตท่าทีของพี่ชายตัวเองไปด้วย
"ก็เปล่า ก็มันไม่มีอะไรให้ทำแล้วอ่ะ ไซต์งานอะไรก็ไม่มีอะไรให้ไปตรวจดูแล้ว หอพักเองอัญชันก็เริ่มเข้าที่เข้าทางหมดแล้วช่วงนี้พี่ก็เลยไม่รู้จะทำอะไร เลยรู้สึกเบื่อ ๆ นิดหน่อยก็เลยมานั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นี้อย่างที่เห็น"ผักขาเอ่ยตอบอธิบายกับน้องชายยาวเหยียด ก่อนที่จะพ่นลมหายใจทิ้งออกมาเฮือกใหญ่
"อ่อเหรอ ไอ้เราก็นึกว่าพี่ชายจะเหงาที่หลายวันที่ผ่านมานี้ไม่มีคนมาคอยกวนใจ"ข้าวเม่าเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้ายียวนกวนประสาทพี่ชายพร้อมกับออกแรงเท้า
หลายวันผ่านไปทินภัทรยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิมที่ผ่านมา คือตื่นเช้ามาก็ทำอาหารและกินข้าวกับครอบครัว พอสายหน่อยก็แวะไปดูความคืบหน้าของไซต์งานก่อสร้าง ตกบ่ายก็ไปเดินตลาดกับน้องชายเพื่อเก็บค่าเช่าแผงกับซื้อของมาทำอาหารในมื้อเย็น พอถึงช่วงค่ำกินข้าวอะไรเสร็จผักขาก็มานั่งเล่นมือถือที่ชิงช้าตัวเดิมเหมือนรอใครบางคนทักหาหรือไม่ก็โทรหาตัวเขา"วันนี้เงียบหายไปเลยแฮะ"ผักขาสบถกับตัวเองเสียงเบาหลังจากที่เขาออกมานั่งเล่นอยู่ตรงนี้นานนับชั่วโมง แล้วก็ไม่เห็นอัลฟ่าตัวสูงที่มักจะทักมาหรือโทรมากวนตัวเขาในเวลาช่วงนี้ของทุกวัน"หายไปไหนของเขานะ?"ผักขายังคงสบถบ่นกับตัวเองพลางนัยน์ตาสวยก็เหลือบมองที่หน้าจอมือถือของตัวเองเป็นระยะๆ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเงยหน้าทอดสายตามองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่วันนี้แทบจะไร้ดวงดาวให้เขาดู"วันนี้ท้องฟ้าก็แทบไม่มีดาวให้เห็นอีกแล้วเหรอเนี่ย"ทินภัทรนั่งเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำราตรีอยู่นั้นพลันอยู่ ๆ ภายในร่างกายของผักขาก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาเสียดื้อๆ จนเจ้าตัวต้องยกมือทั้งสองขึ้นมาลูบแขนทั้งสองข้างของ
ข้าวเม่าเวลา06:17นาทีเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรที่กำลังหลับใหลอยู่ในห้วงนิทราบนเตียงนอนขนาด5ฟุตเป็นต้องสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้น เมื่ออยู่ๆเขาก็รู้สึกร้อนรุ่มข้างในร่างกาย จนทำให้เจ้าตัวต้องดีดตัวลุกขึ้นมานั่งหายใจหอบหนักอยู่ข้างเตียงนอนที่ในตอนนี้มีเพื่อนร่างบางของเขานอนคว่ำหลับใหลเปลือยกายอยู่อีกฝั่งของเตียงนอน"อึก เป็นอะไรวะเนี่ยอยู่ ๆ ร่างกายก็รู้สึกร้อนขึ้นมา"ข้าวเม่าสบถบ่นกับตัวเองเสียงเบาพลางนัยน์ตาคมก็เหลือบไปมองเพื่อนร่างบางเจ้าของห้องที่ตอนนี้นอนคว่ำโชว์แผ่นหลังขาวเนียนให้เขาดูอยู่"หลับสบายเชียวนะ"คนตัวสูงบ่นออกมาเสียงเบาด้วยใบหน้ายิ้มน้อย ๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายของตัวเองระหว่างที่ข้าวเม่ากำลังอาบน้ำอยู่นั้น ตัวของข้าวเม่าเองก็รู้สึกว่าภายในร่างกายของเขานั้นรู้สึกแปลก ๆ เพราะตั้งแต่ที่ข้าวเม่ารู้สะดุ้งตื่นมาเขาก็รู้สึกว่าภายในร่างกายของเขานั้นรู้สึกร้อนรุ่มและครั่นเนื้อครั่นตัว แถมเขายังรู้สึกมีอารมณ์ความต้องการมากกว่
เวลา08:23นาทีหลังจากที่ทินภัทรเกิดอาการฮีทและได้ชนาธิปใช้มือช่วยตลอดอาการฮีท เช้าวันถัดมาอาการฮีทของโอเมก้ากลิ่นผักชะอมอย่างผักขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง ทั้งที่ปกติแล้วเวลาที่เจ้าตัวถึงช่วงฮีทตัวของผักขาต้องทนทุกข์กับความทรมานที่ไม่มีฟีโรโมนจากอัลฟ่าคู่ของตัวเองค่อยทำให้สบายใจอยู่ในห้องถึง2-3วัน แต่ทว่าครั้งนี้อาการฮีทของผักขากลับหายไปเพียงแค่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเองนี้คงจะเป็นผลจากการที่ได้ฟีโรโมนของคู่พันธะค่อยปลอบประโลมซินะ"คุณน้ากับอัญชันจะกลับมาวันไหนเหรอครับผัก"เสียงทุ้มของคนตัวสูงที่นั่งอยู่โต๊ะกินข้าวเรียกสติผักขาที่กำลังยืนทำกับข้าวอย่างเหม่อลอยอยู่กับความคิดให้หันมาสนใจยังต้นเสียง"ไม่แน่ใจ คุณนายบอกแค่ว่าจะไปต่างจังหวัดกับยัยอัญ2-3วันแค่นั้นเอง"ผักขาที่ได้สติกลับมาก็หันมามองนายน์ ก่อนที่จะเอ่ยตอบเสียงเบาแล้วหันกลับไปสนใจการทำอาหารตรงหน้าต่อ"อ่ออย่างงั้นเหรอครับ แล้วผักมีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย"นายย์ขานรับเสียงเบา ก่อนที่จะหั
"ฉันเคยเตือนเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามาให้ฉันกับผักขาเห็นหน้าอีก แล้วก็อีกอย่างควบคุมฟีโรโมนเหม็น ๆ นี้ของเธอซะเลิกปล่อยมันออกมาสักที ฉันจะอ้วก!"หลังจากจบประโยคที่ชนาธิปเอ่ยน้ำฝนที่รู้สึกอายที่โดนนายน์ว่าให้อย่างนั้น ก็รีบหันหลังเดินหนีกลับไปยังรถของตัวเองและโทรเรียกให้ผู้เป็นพ่อมาพาตัวเองกลับบ้านผ่านไปไม่นานสักพ่อของน้ำฝนก็เดินกลับมาที่รถด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ก่อนที่จะขึ้นรถขับออกไปโดยที่ไม่เอ่ยลานายน์และผักขาเลย"เฮ่อออพรุ่งนี้ต้องมีข่าวลือแปลก ๆ ออกมาอีกแน่ ๆ "ผักขาถอนหายใจทิ้งพร้อมกับสบถบ่นกับตัวเองเสียงเบา ก่อนที่จะหันไปมองคนตัวสูงก็พบว่านายน์นั้นมองมายังตัวเองอยู่ก่อนแล้วด้านนายน์ที่ได้ยินสิ่งที่คนร่างบางเอ่ยบ่นก็มองด้วยสายตาแสดงถึงความเป็นห่วง ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปจับมือบางแล้วเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น"ไม่ต้องคิดมากนะครับ ถ้าเกิดมีข่าวลืออะไรเกี่ยวกับผัก พี่จะเป็นคนสยบข่าวพวกนั้นของผักขาเอง"หลังจากจบประโยคที่คนตัวสูงเอ่ย ทินภัทรก็ยืนนิ่งจ้องมองสบกับนัยน์ตาคมของชนาธิปด้วยแววตานิ่ง ๆ พลันก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายก็เริ่มเต้นผิดจังห
หลังจากจบมื้ออาหารเที่ยงที่ชนาธิปได้แต่นั่งกินข้าวอย่างเงียบ ๆ ดูคนทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตลอดมื้ออาหารนั้น ในตอนนี้พวกเขาทั้งสามก็ได้มายืนกันอยู่ที่ลานจอดรถของร้าน"แล้วนี่เรากลับห้องยังไงเหรอต้นไม้"เป็นเสียงของผักขาที่เอ่ยถามเด็กหนุ่มตัวสูงขึ้นหลังจากหยุดเท้าอยู่ใกล้ ๆ กับรถยนต์ของนายน์"ซิ่งมอเตอร์ไซต์กลับครับผม"ต้นไม้ตอบคนร่างบางกลับด้วยใบหน้ายิ้มทะเล้น ก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้ก็รีบก้มหน้าค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าพายของตัวเองและเมื่อเจอสิ่งที่ตัวเองต้องการ ก็ยื่นให้ผักขาด้วยใบหน้ากระตือรือร้นทันที"หื้มมซองอะไรอ่ะ"ผักขาถามขึ้นพลางเอื้อมมือไปรับซองสีขาวที่ต้นไม้ยื่นมาให้ด้วยใบหน้าสงสัย"ซองเงินค่าเช่าของเดือนนี้ครับ ขอโทษที่ผมจ่ายช้านะครับ""โอ๊ยยยไม่เป็นไรเลยต้นไม้ เรามีเมื่อไหร่ค่อยเอามาจ่ายพี่ก็ได้"ผักขาเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะก้าวเข้าไปหาเด็กตรงหน้าแล้วเอื้อมมือลูบหัวทุยของต้นไม้อย่างนึกเอ็นดูเหมือนน้องชายตัวเองอีกคนต่างกับคนตัวสูงที่ในตอนนี้ยืนกำหมัดแน่นอย่างนึกหงุดหงิดและแสดงสีหน้าไม่พอใจ ที่ผักข
ณ.โรงพยาบาล"ครับ? คุณหมอว่ายังไงนะครับ?"ทินภัทรถามคุณหมอชายวัยกลางคนขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอึ้งตกใจ"ตอนนี้สถานะเพศรองของคนไข้ได้เปลี่ยนแปลงจากเบ้ตากลายเป็นอัลฟ่าแล้วครับ"คุณหมอเอ่ยแจ้งอีกครั้งด้วยน้ำเสียงและท่าทางใจเย็นเพราะคุณหมอทราบดีว่าเรื่องแบบนี้เป็นใครใครก็ตกใจ ก็อยู่ๆพี่น้องที่เห็นกันมาตั้งแต่เกิดก็เกิดมาสถานะเปลี่ยนเป็นอัลฟ่าแบบนี้ มันก็ต้องตกใจกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"เป็นไปได้ยังไง...."ผักขาพึมพำออกมาเสียงเบาอย่างคนหมดแรงพลางใบหน้าหวานก็ยังคงแสดงสีหน้าอย่างไม่อยากจะเชื้อในสิ่งที่ตัวเองพึ่งจะรับรู้จากปากของคุณหมอด้านนายน์ที่นั่งฟังอยู่เก้าอี้ข้างๆ เมื่อเห็นสีหน้าอ่อนแรงของผักขาก็เอื้อมมือไปกุมมือบางเพื่อเป็นการให้กำลังใจ"ไม่เป็นไรนะ"นายน์หันมาเอ่ยพูดกับคนร่างบางที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้ายิ้มอ่อนโยน"หมอเข้าใจนะครับว่าตอนนี้ญาติของคนไข้กำลังตกใจแต่เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ครับ เพราะสถานะเพศรองของบางคนเขาก็ซ่อนอยู่กว่าจะแสดงสถานะจริง ๆ ของตัวเองออกมาก็ตอนที่โตเต็มไวหรือก็คือช่วง
เวลาผ่านพ้นไป3เดือนเวลา22:12นาทีในตอนนี้อพาร์ทเม้นท์ของผักขาก็สร้างเสร็จมาได้สักพักแล้ว และตอนนี้เองที่บ้านของผักขาก็กำลังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้กับตึกใหม่ที่จะเปิดให้คนที่จองไว้เข้ามาพักอยู่ได้ในวันพรุ่งนี้และงานเลี้ยงในวันนี้เองก็เป็นการเลี้ยงส่งชนาธิปด้วยไปในตัวด้วยหลังจากเริ่มสังสรรค์กันตั้งแต่หนึ่งทุ่ม จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ตัวของผักขาที่ดื่มจนเริ่มรู้สึกมึนเล็กน้อย ก็ได้หลบออกมาจากงานเลี้ยงมานั่งเหม่อดูดาวอยู่ที่ชิงช้ามุมประจำของเจ้าตัว"อพาร์ทเม้นท์ก็สร้างเสร็จแล้ว ต่อไปนี้พี่มันก็คงไม่มีเหตุผลอะไรให้มาที่นี้อีกแล้วซินะ"ผักขาที่นั่งแกร่งชิงช้าเล่นเบา ๆ พึมพำออกมาด้วยสีหน้าและความรู้สึกวูบโหวงในใจ พลันนัยน์ตาสีน้ำตาลก็แสดงแววตาวูบไหวเมื่อนึกได้ว่างานที่นี้ของชนาธิปได้จบลงแล้ว และคนเป็นพี่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องกลับมาที่นี้อีก"แล้วทำไมมึงต้องรู้สึกเศร้าด้วยเนี่ยผักขา พี่มันไปก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง"ผักขาบ่นพึมพำกับตัวเองออกมาอีกครั้งพลางใบหน้าหวานก็เงยหน้ามองท้องฟ้า ที่มีดวงจันทร์ทอประกายแสงอ
"อื้อห์ อ่าาาส์ เจ็บ เบาหน่อย อ่าาส์"น้ำเสียงครางหวานร้องบอกคนตัวสูงที่ขยับกายถาโถมเข้าหาคนร่างบางที่หันหลังพิงใบหน้าเข้าหาผนังห้องน้ำอย่างบ้าคลั่งกลิ่นเหม็นฉุนและกลิ่นหอมของดอกไม้สีขาวถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆ เมื่อความต้องการของคนทั้งสองที่กำลังนัวเนียนกันปะทุเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามสัญชาตญาณของอัลฟ่าและโอเมก้าที่เกิดอาการรัทและฮีทขึ้นพร้อมกันร่างสูงของอัลฟ่ายีนเด่นขยับตอกอัดเข้าหาร่างกายขาวเนียนของโอเมก้าที่ส่งกลิ่นเหม็นฉุนออกมาหลอกล้อเขาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ อัลฟ่าตัวสูงที่ตอนนี้ห้ามฟีโรโมนของตัวเองไม่ได้เช่นกันก็ปล่อยกลิ่นหอมของดอกมะลิฟุ้งกระจายออกมาไม่ต่างกันพับ พับ พับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสลับกับเสียงร้องครางกระเส่ายังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อคนตัวสูงที่ไร้สติยังคงกระแทกตอกอัดลำเอ็นเข้าออกช่องทางสีสวยที่ตอนนี้ได้บวมช้ำอย่างชัดเจน"หื้มมม"เสียงครางต่ำในลำคอดังขึ้นจากอัลฟ่าที่มีกลิ่นฟีโรโมนเป็นดอกมะลิ พลางเอวสอบก็ยังคงกระแทกกระทั่งลำเอ็นเข้าออกช่องทางสีสวยของโอเมก้าที่หันหลังโก่งก้นให้ตัวเขาไม่หยุดหย่อน"อ่าาส์ อย่า อย่ากัดนะ อื้มม"น้ำเสียงครางหวานสลับกับร้องห้ามดังขึ้นจากร่า
เวลาผ่านพ้นไป3เดือนเวลา22:12นาทีในตอนนี้อพาร์ทเม้นท์ของผักขาก็สร้างเสร็จมาได้สักพักแล้ว และตอนนี้เองที่บ้านของผักขาก็กำลังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ให้กับตึกใหม่ที่จะเปิดให้คนที่จองไว้เข้ามาพักอยู่ได้ในวันพรุ่งนี้และงานเลี้ยงในวันนี้เองก็เป็นการเลี้ยงส่งชนาธิปด้วยไปในตัวด้วยหลังจากเริ่มสังสรรค์กันตั้งแต่หนึ่งทุ่ม จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ตัวของผักขาที่ดื่มจนเริ่มรู้สึกมึนเล็กน้อย ก็ได้หลบออกมาจากงานเลี้ยงมานั่งเหม่อดูดาวอยู่ที่ชิงช้ามุมประจำของเจ้าตัว"อพาร์ทเม้นท์ก็สร้างเสร็จแล้ว ต่อไปนี้พี่มันก็คงไม่มีเหตุผลอะไรให้มาที่นี้อีกแล้วซินะ"ผักขาที่นั่งแกร่งชิงช้าเล่นเบา ๆ พึมพำออกมาด้วยสีหน้าและความรู้สึกวูบโหวงในใจ พลันนัยน์ตาสีน้ำตาลก็แสดงแววตาวูบไหวเมื่อนึกได้ว่างานที่นี้ของชนาธิปได้จบลงแล้ว และคนเป็นพี่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องกลับมาที่นี้อีก"แล้วทำไมมึงต้องรู้สึกเศร้าด้วยเนี่ยผักขา พี่มันไปก็ดีแล้วไม่ใช่หรือไง"ผักขาบ่นพึมพำกับตัวเองออกมาอีกครั้งพลางใบหน้าหวานก็เงยหน้ามองท้องฟ้า ที่มีดวงจันทร์ทอประกายแสงอ
ณ.โรงพยาบาล"ครับ? คุณหมอว่ายังไงนะครับ?"ทินภัทรถามคุณหมอชายวัยกลางคนขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าและน้ำเสียงอึ้งตกใจ"ตอนนี้สถานะเพศรองของคนไข้ได้เปลี่ยนแปลงจากเบ้ตากลายเป็นอัลฟ่าแล้วครับ"คุณหมอเอ่ยแจ้งอีกครั้งด้วยน้ำเสียงและท่าทางใจเย็นเพราะคุณหมอทราบดีว่าเรื่องแบบนี้เป็นใครใครก็ตกใจ ก็อยู่ๆพี่น้องที่เห็นกันมาตั้งแต่เกิดก็เกิดมาสถานะเปลี่ยนเป็นอัลฟ่าแบบนี้ มันก็ต้องตกใจกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว"เป็นไปได้ยังไง...."ผักขาพึมพำออกมาเสียงเบาอย่างคนหมดแรงพลางใบหน้าหวานก็ยังคงแสดงสีหน้าอย่างไม่อยากจะเชื้อในสิ่งที่ตัวเองพึ่งจะรับรู้จากปากของคุณหมอด้านนายน์ที่นั่งฟังอยู่เก้าอี้ข้างๆ เมื่อเห็นสีหน้าอ่อนแรงของผักขาก็เอื้อมมือไปกุมมือบางเพื่อเป็นการให้กำลังใจ"ไม่เป็นไรนะ"นายน์หันมาเอ่ยพูดกับคนร่างบางที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้ายิ้มอ่อนโยน"หมอเข้าใจนะครับว่าตอนนี้ญาติของคนไข้กำลังตกใจแต่เรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ครับ เพราะสถานะเพศรองของบางคนเขาก็ซ่อนอยู่กว่าจะแสดงสถานะจริง ๆ ของตัวเองออกมาก็ตอนที่โตเต็มไวหรือก็คือช่วง
หลังจากจบมื้ออาหารเที่ยงที่ชนาธิปได้แต่นั่งกินข้าวอย่างเงียบ ๆ ดูคนทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตลอดมื้ออาหารนั้น ในตอนนี้พวกเขาทั้งสามก็ได้มายืนกันอยู่ที่ลานจอดรถของร้าน"แล้วนี่เรากลับห้องยังไงเหรอต้นไม้"เป็นเสียงของผักขาที่เอ่ยถามเด็กหนุ่มตัวสูงขึ้นหลังจากหยุดเท้าอยู่ใกล้ ๆ กับรถยนต์ของนายน์"ซิ่งมอเตอร์ไซต์กลับครับผม"ต้นไม้ตอบคนร่างบางกลับด้วยใบหน้ายิ้มทะเล้น ก่อนที่จะนึกอะไรขึ้นมาได้ก็รีบก้มหน้าค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าพายของตัวเองและเมื่อเจอสิ่งที่ตัวเองต้องการ ก็ยื่นให้ผักขาด้วยใบหน้ากระตือรือร้นทันที"หื้มมซองอะไรอ่ะ"ผักขาถามขึ้นพลางเอื้อมมือไปรับซองสีขาวที่ต้นไม้ยื่นมาให้ด้วยใบหน้าสงสัย"ซองเงินค่าเช่าของเดือนนี้ครับ ขอโทษที่ผมจ่ายช้านะครับ""โอ๊ยยยไม่เป็นไรเลยต้นไม้ เรามีเมื่อไหร่ค่อยเอามาจ่ายพี่ก็ได้"ผักขาเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะก้าวเข้าไปหาเด็กตรงหน้าแล้วเอื้อมมือลูบหัวทุยของต้นไม้อย่างนึกเอ็นดูเหมือนน้องชายตัวเองอีกคนต่างกับคนตัวสูงที่ในตอนนี้ยืนกำหมัดแน่นอย่างนึกหงุดหงิดและแสดงสีหน้าไม่พอใจ ที่ผักข
"ฉันเคยเตือนเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามาให้ฉันกับผักขาเห็นหน้าอีก แล้วก็อีกอย่างควบคุมฟีโรโมนเหม็น ๆ นี้ของเธอซะเลิกปล่อยมันออกมาสักที ฉันจะอ้วก!"หลังจากจบประโยคที่ชนาธิปเอ่ยน้ำฝนที่รู้สึกอายที่โดนนายน์ว่าให้อย่างนั้น ก็รีบหันหลังเดินหนีกลับไปยังรถของตัวเองและโทรเรียกให้ผู้เป็นพ่อมาพาตัวเองกลับบ้านผ่านไปไม่นานสักพ่อของน้ำฝนก็เดินกลับมาที่รถด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ก่อนที่จะขึ้นรถขับออกไปโดยที่ไม่เอ่ยลานายน์และผักขาเลย"เฮ่อออพรุ่งนี้ต้องมีข่าวลือแปลก ๆ ออกมาอีกแน่ ๆ "ผักขาถอนหายใจทิ้งพร้อมกับสบถบ่นกับตัวเองเสียงเบา ก่อนที่จะหันไปมองคนตัวสูงก็พบว่านายน์นั้นมองมายังตัวเองอยู่ก่อนแล้วด้านนายน์ที่ได้ยินสิ่งที่คนร่างบางเอ่ยบ่นก็มองด้วยสายตาแสดงถึงความเป็นห่วง ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปจับมือบางแล้วเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น"ไม่ต้องคิดมากนะครับ ถ้าเกิดมีข่าวลืออะไรเกี่ยวกับผัก พี่จะเป็นคนสยบข่าวพวกนั้นของผักขาเอง"หลังจากจบประโยคที่คนตัวสูงเอ่ย ทินภัทรก็ยืนนิ่งจ้องมองสบกับนัยน์ตาคมของชนาธิปด้วยแววตานิ่ง ๆ พลันก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายก็เริ่มเต้นผิดจังห
เวลา08:23นาทีหลังจากที่ทินภัทรเกิดอาการฮีทและได้ชนาธิปใช้มือช่วยตลอดอาการฮีท เช้าวันถัดมาอาการฮีทของโอเมก้ากลิ่นผักชะอมอย่างผักขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง ทั้งที่ปกติแล้วเวลาที่เจ้าตัวถึงช่วงฮีทตัวของผักขาต้องทนทุกข์กับความทรมานที่ไม่มีฟีโรโมนจากอัลฟ่าคู่ของตัวเองค่อยทำให้สบายใจอยู่ในห้องถึง2-3วัน แต่ทว่าครั้งนี้อาการฮีทของผักขากลับหายไปเพียงแค่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเองนี้คงจะเป็นผลจากการที่ได้ฟีโรโมนของคู่พันธะค่อยปลอบประโลมซินะ"คุณน้ากับอัญชันจะกลับมาวันไหนเหรอครับผัก"เสียงทุ้มของคนตัวสูงที่นั่งอยู่โต๊ะกินข้าวเรียกสติผักขาที่กำลังยืนทำกับข้าวอย่างเหม่อลอยอยู่กับความคิดให้หันมาสนใจยังต้นเสียง"ไม่แน่ใจ คุณนายบอกแค่ว่าจะไปต่างจังหวัดกับยัยอัญ2-3วันแค่นั้นเอง"ผักขาที่ได้สติกลับมาก็หันมามองนายน์ ก่อนที่จะเอ่ยตอบเสียงเบาแล้วหันกลับไปสนใจการทำอาหารตรงหน้าต่อ"อ่ออย่างงั้นเหรอครับ แล้วผักมีอะไรให้พี่ช่วยมั้ย"นายย์ขานรับเสียงเบา ก่อนที่จะหั
ข้าวเม่าเวลา06:17นาทีเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรที่กำลังหลับใหลอยู่ในห้วงนิทราบนเตียงนอนขนาด5ฟุตเป็นต้องสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้น เมื่ออยู่ๆเขาก็รู้สึกร้อนรุ่มข้างในร่างกาย จนทำให้เจ้าตัวต้องดีดตัวลุกขึ้นมานั่งหายใจหอบหนักอยู่ข้างเตียงนอนที่ในตอนนี้มีเพื่อนร่างบางของเขานอนคว่ำหลับใหลเปลือยกายอยู่อีกฝั่งของเตียงนอน"อึก เป็นอะไรวะเนี่ยอยู่ ๆ ร่างกายก็รู้สึกร้อนขึ้นมา"ข้าวเม่าสบถบ่นกับตัวเองเสียงเบาพลางนัยน์ตาคมก็เหลือบไปมองเพื่อนร่างบางเจ้าของห้องที่ตอนนี้นอนคว่ำโชว์แผ่นหลังขาวเนียนให้เขาดูอยู่"หลับสบายเชียวนะ"คนตัวสูงบ่นออกมาเสียงเบาด้วยใบหน้ายิ้มน้อย ๆ อีกครั้ง ก่อนที่จะหยัดตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายของตัวเองระหว่างที่ข้าวเม่ากำลังอาบน้ำอยู่นั้น ตัวของข้าวเม่าเองก็รู้สึกว่าภายในร่างกายของเขานั้นรู้สึกแปลก ๆ เพราะตั้งแต่ที่ข้าวเม่ารู้สะดุ้งตื่นมาเขาก็รู้สึกว่าภายในร่างกายของเขานั้นรู้สึกร้อนรุ่มและครั่นเนื้อครั่นตัว แถมเขายังรู้สึกมีอารมณ์ความต้องการมากกว่
หลายวันผ่านไปทินภัทรยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิมที่ผ่านมา คือตื่นเช้ามาก็ทำอาหารและกินข้าวกับครอบครัว พอสายหน่อยก็แวะไปดูความคืบหน้าของไซต์งานก่อสร้าง ตกบ่ายก็ไปเดินตลาดกับน้องชายเพื่อเก็บค่าเช่าแผงกับซื้อของมาทำอาหารในมื้อเย็น พอถึงช่วงค่ำกินข้าวอะไรเสร็จผักขาก็มานั่งเล่นมือถือที่ชิงช้าตัวเดิมเหมือนรอใครบางคนทักหาหรือไม่ก็โทรหาตัวเขา"วันนี้เงียบหายไปเลยแฮะ"ผักขาสบถกับตัวเองเสียงเบาหลังจากที่เขาออกมานั่งเล่นอยู่ตรงนี้นานนับชั่วโมง แล้วก็ไม่เห็นอัลฟ่าตัวสูงที่มักจะทักมาหรือโทรมากวนตัวเขาในเวลาช่วงนี้ของทุกวัน"หายไปไหนของเขานะ?"ผักขายังคงสบถบ่นกับตัวเองพลางนัยน์ตาสวยก็เหลือบมองที่หน้าจอมือถือของตัวเองเป็นระยะๆ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเงยหน้าทอดสายตามองท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่วันนี้แทบจะไร้ดวงดาวให้เขาดู"วันนี้ท้องฟ้าก็แทบไม่มีดาวให้เห็นอีกแล้วเหรอเนี่ย"ทินภัทรนั่งเหม่อมองท้องฟ้ายามค่ำราตรีอยู่นั้นพลันอยู่ ๆ ภายในร่างกายของผักขาก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาเสียดื้อๆ จนเจ้าตัวต้องยกมือทั้งสองขึ้นมาลูบแขนทั้งสองข้างของ
วันเวลาผ่านพ้นไป1สัปดาห์แสงจันทร์ทอประกายและแสงระยิบระยับของหมู่ดาวในทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่เจิดจรัสงดงามอยู่บนท้องฟ้า ทินภัทรที่ไม่มีอะไรทำหรือไม่มีใครคอยมากวนใจเฉกเช่นหลายวันก่อนที่ผ่านมา ก็ปลีกตัวมานั่งทำหน้าหงอยมองผืนฟ้าอยู่ที่ชิงช้าตัวเดิมที่ทุกวันนี้แทบจะเป็นที่ประจำของเจ้าตัวอยู่แล้ว"มานั่งทำเอ็มวีอะไรอยู่นี้อ่ะพี่ผัก ไม่กลัวยุงมาหามไปหรือไง"เสียงทุ้มของน้องชายที่พึ่งจะเดินเข้ามาทิ้งตัวนั่งลงที่ชิงช้าตัวข้าง ๆ เอ่ยถามขึ้น พลันนัยน์ตาคมของข้าวเม่าก็ลอบมองสังเกตท่าทีของพี่ชายตัวเองไปด้วย"ก็เปล่า ก็มันไม่มีอะไรให้ทำแล้วอ่ะ ไซต์งานอะไรก็ไม่มีอะไรให้ไปตรวจดูแล้ว หอพักเองอัญชันก็เริ่มเข้าที่เข้าทางหมดแล้วช่วงนี้พี่ก็เลยไม่รู้จะทำอะไร เลยรู้สึกเบื่อ ๆ นิดหน่อยก็เลยมานั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นี้อย่างที่เห็น"ผักขาเอ่ยตอบอธิบายกับน้องชายยาวเหยียด ก่อนที่จะพ่นลมหายใจทิ้งออกมาเฮือกใหญ่"อ่อเหรอ ไอ้เราก็นึกว่าพี่ชายจะเหงาที่หลายวันที่ผ่านมานี้ไม่มีคนมาคอยกวนใจ"ข้าวเม่าเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้ายียวนกวนประสาทพี่ชายพร้อมกับออกแรงเท้า
วันต่อมาหลังจากเหตุการณ์เมื่อวานที่ผักขาได้มีปากเสียงกับน้ำฝน ในวันนี้ก็เริ่มมีข่าวลือเกี่ยวข้องของผักขาดังขึ้นในหมู่บ้านอีกครั้งและตัวผักขาเองก็พอจะรู้ว่าใครเอาข่าวเกี่ยวกับเขาไปแพร่กระจายให้คนเขาเอามาพูดกันเสีย ๆ หาย ๆยัยน้ำฝนตัวดีนั้นแน่ ๆยัยบ้านั้นคงจะโมโหที่เมื่อวานโดนชนาธิปข่มขู่เป็นแน่ เพราะหลังจากที่จบประโยคคำพูดของชนาธิปที่ว่าห้ามมายุ่งวุ่นวายกับตัวเขาอีก น้ำฝนก็รีบวิ่งหนีไปทันทีและหลังจากนั้นพวกเราทั้งสองก็พากันกลับบ้านโดยที่ไม่มีใครได้เอ่ยพูดอะไรอีก"ทำไมอยู่ ๆ พวกแม่ค้าพ่อค้าที่ตลาดก็เอาเรื่องคู่ของพี่ผักมาพูดอีกแล้ว"ข้าวเม่าที่พึ่งกลับมาถึงบ้านเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจทันทีที่นั่งลงยังโซฟาในห้องรับแขกที่ในตอนนี้ทุกคนได้นั่งรวมตัวกันดูทีวีกับคุณนายอรอนงค์อยู่"เฮ่อ ช่างมันเถอะเรื่องของเขา อยากพูดอะไรก็พูดไปเดี๋ยวพวกเขาก็พากันลืมแล้วหาเรื่องใหม่มาพูดอยู่ดี"ผักขาถอนหายใจทิ้งออกมาเฮือกใหญ่พลางมือก็จิ้มผลผลไม้เข้าปากกิน ส่วนดวงตาก็มองไปย