Chapter1
ณ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี
โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนตู้ข้างเตียงส่งเสียงปลุกตามเวลาที่เจ้าของเครื่องตั้งไว้เช่นทุกวัน มันดังอยู่หลายครั้งกว่าคนนอนบนเตียงจะขยับตัว ราวกับว่าคร้านตื่นนอน แต่ด้วยความเคยชินเปลือกตาของชมพลอยหรือเกรซ หญิงสาววัยยี่สามปีค่อยๆ เปิดขึ้นเชื่องช้า
ความรู้สึกแรกที่ลืมตาตื่น ชมพลอยปวดเมื่อยไปทั้งตัว ราวกับว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเธอตรากตรำทำงานหนัก และรู้สึกเจ็บแปลบตรงความเป็นอิสตรี ก่อนความทรงจำเมื่อวานจะหวนเข้ามาในสมอง ราวกับตนจุดไฟแช็ค
เมื่อค่ำวานนี้มีเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ชมพลอยไม่คิดไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้นกับตน ภาพของลอลี่ คนรักที่คบหากันมาเกือบสองปีกำลังมีความสัมพันธ์ทางกายกับพลอยพัตรา น้องสาวต่างมารดาของตน เธอถึงกับช็อคทำอะไรไม่ถูก ยืนนิ่งราวกับว่ามีใครเอากาวทาเท้ายึดไว้กับพื้นห้อง ความเสียใจหลั่งไหลเข้ามาในจิตใจราวกับห่าฝนตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา
ลอลี่ตกใจมากรีบหาผ้าขนหนูมาปิดบังร่างกาย และพยายามแก้ตัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทว่าช่วงเวลานั้นชมพลอยไม่อยากได้ยินแม้แต่เสียงของเขา เธอไล่ให้เขาออกไปจากห้องพักของตน ซึ่งลอลี่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี
ส่วนอีกคนหาได้ละอายใจหรือรู้สึกผิดกับการกระทำของตน ตอกย้ำความเสียใจปักลงไปกลางดวงใจอันเจ็บช้ำของชมพลอยให้แน่นขึ้น
“เธอทำอย่างนี้กับพี่ได้ยังไง ทำได้ยังไง”
ชมพลอยถามทั้งน้ำตา มองน้องสาวด้วยความผิดหวัง ทว่าพลอยพัตราหาได้สะทกสะท้านกับการกระทำของตัวเอง เธอหยักไหล่ มองพี่สาวแล้วยิ้ม
“แล้วทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ อีกอย่างที่ทำลงไปก็เพื่อช่วยพี่เกรซนะ”
“ช่วยเหรอ” เจอคำตอบแบบนี้ ชมพลอยถึงกับอึ้งและไม่เข้าใจ
“ก็ใช่ไง ฉันกำลังช่วยพี่อยู่นะ” พลอยพัตรากระตุกยิ้ม “พี่น่ะเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่อง นอนก็ไม่นอนด้วย แม้แต่จูบยังไม่ให้พี่ลอลี่เลย ไม่รู้จะหวงตัวทำไม แล้วที่ฉันนอนกับเขา เพื่อที่เขาจะไม่ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นไงเล่า พี่ลอลี่จะได้มาหาพี่บ่อยๆ ไม่ชายตาแลหญิงอื่น”
ช่างเป็นเหตุผลที่ไร้ความสำนึกสักนิดเดียว แถมใบหน้าคนพูดก็ยิ้มเยาะเย้ยคนเป็นพี่สาว ชมพลอยทนไม่ไหว เธอรับไม่ได้กับเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น จึงเลือกเป็นฝ่ายวิ่งร้องไห้หนีความเจ็บปวด และใช้น้ำเมาดับความทุกข์ ความเสียใจที่ตัวเองได้รับ ก่อนมาจบลงบนเตียงกับผู้ชายที่ไม่รู้จัก
ชมพลอยขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เธอมองไปยังที่นอนข้างกายที่ตอนนี้ว่างเปล่าทั้งน้ำตา ความเสียใจตอนนี้เธอไม่รู้ว่ามาจากเรื่องใดมากกว่า ระหว่างเสียใจกับการถูกคนรักหักหลัง เสียใจจากการกระทำไร้ซึ่งความสำนึกถูกผิดของน้องสาวและเสียใจเรื่องการสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับผู้ชายแปลกหน้า ชายหนุ่มที่เคยเจอเป็นครั้งแรก
แต่อย่างหลังชมพลอยเป็นคนเลือกเอง แม้ว่าเวลานั้นสติของเธอจะไม่เต็มร้อย ถูกแอลกอฮอล์เข้าไปแทรกซึม ทว่าเธอรู้ตัวว่าทำอะไร แต่ห้ามตัวเองไม่ได้ ที่สำคัญชมพลอยเดินไปหาเขาเอง
มือเรียวสวยปาดน้ำตาบริเวณแก้ม หันไปหยิบมือถือขึ้นมากดปิดนาฬิกาปลุกที่ยังคงทำงานอยู่ จังหวะที่กำลังวางมือถือลงตามเดิม นัยน์ตาหวานปนเศร้ามองเห็นกระดาษโน้ตที่วางใกล้กับโคมไฟ เธอจึงหยิบมันขึ้นมาอ่านข้อความ
‘ผมจ่ายค่าห้องแล้ว มีอะไรโทรหาผมได้ เบอร์ผม...’
ธาม
ชมพลอยอ่านข้อความและมองเบอร์มือถือที่เขียนไว้อย่างไม่สนใจ เธอคิดว่า คงไม่ได้เจอกับเขาอีก ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องติดต่อกัน ชมพลอยฉีกกระดาษโน้ตเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก่อนทิ้งมันไปในถังขยะข้างเตียง และนั่นทำให้เธอมองเห็นถุงยางอนามัยที่ถูกใช้แล้ว ตอกย้ำความเป็นจริงที่ว่า เธอเป็นสาวเปื้อนโลกีย์ ไร้พรหมจรรย์ให้เจ้าบ่าวในคืนวันแต่งงาน
อีกยี่สิบนาทีต่อมา ชมพลอยก้าวเดินออกจากห้องพักหรูภายในโรงแรมชื่อดัง เธอสัญญากับตัวเองว่า นับต่อจากนี้เธอจะใช้สติในการดำเนินชีวิต ทิ้งอดีตที่เจ็บปวดและเก็บต้นเหตุของความเสียใจทั้งหมดไว้ที่เธอคนเดียว
Chapter 26 ปี 1 เดือนต่อมา ณ ประเทศไทยเสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากการแสดงบนเวทีของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลหนึ่งสิ้นสุดลง หนูน้อยทั้งเก้าคนพนมมือไหว้ เหล่าผู้ปกครองและคุณครูที่นั่งชมการแสดง ก่อนนักแสดงตัวน้อยๆ จะวิ่งไปยังหลังเวทีเพื่อให้รุ่นพี่ขึ้นแสดงในลำดับต่อไปด้านหลังเวทีมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนยืนรอรับลูกสาวและลูกชายที่ขึ้นทำการแสดง ใบหน้าของทุกคนแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มที่มาจากความภาคภูมิใจในตัวลูกๆ หนึ่งในผู้ปกครองย่อตัวอ้าแขนรับร่างบุตรสาวสุดที่รักที่วิ่งเข้าหามารดา“แม่ขา แม่ขา น้องแก้มเต้นเก่งไหมคะ” เด็กหญิงอลิสสาในวัยห้าขวบสองเดือนเอ่ยถามชมพลอย มารดาแสนสวยเจ้าของรอยยิ้มโลกตะลึง ที่ว่ากันว่า มีรอยยิ้มสวยบาดใจ“เต้นเก่งมากค่ะ เก่งที่สุดในโลกเลยค่ะ” ชมพลอยชมลูกสาว หอมแก้มเป็นรางวัล“น้องแก้มเก่งเหมือนคุณแม่ไงคะ อ้อ...แล้วสวยเหมือนคุณแม่ด้วยค่ะ” อลิสสาช่างจ้อ ชมมารดากลับและสวมกอด “คุณครูชมคุณแม่ด้วยค่ะว่า ตัดชุดน้องแก้มสวยมากๆ คุณครูจะไปตัดชุดกับคุณแม่ด้วยค่ะ”“ได้เลยค่ะคุณลูกที่น่ารัก” ชมพลอยประคองแก้มลูกสาวแล้วโยกเบาๆ“คุณแม่ก็น่ารักและใจดีที่สุดในสามโลกค่ะ” คนเป็นลูกชมกลับ หอมแก้ม
Chapter 3“ผมดีใจที่เกรซกับลูกชอบกิน ไว้คราวหน้านะผมจะเอามาฝากอีก” ชมพลอยยิ้มและพยักหน้า ขณะนั้นพนักงานของร้านได้เดินมาหากฤตย์เพื่อถามถึงคิว“ไม่ทราบว่าจองคิวไว้หรือยังคะ”“ยังครับ เรามากันหกคนครับ” กฤตย์ตอบ“ตอนนี้มีที่นั่งที่เข้าได้เลยสี่ที่ค่ะ แต่ถ้าหกที่ต้องรอประมาณสามคิวนะคะ” พนักงานตอบ สามคิวก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร เด็กๆ รอไม่ไหวแน่“พอจะเสริมเก้าอี้อีกตัวไหมคะเป็นห้าที่” เสียงน้ำฟ้าดังขึ้น “คือฟ้ากะว่าจะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์ไปทำอาหารเย็นน่ะค่ะ ซื้อเสร็จจะได้กลับบ้านไปทำกับข้าวรอคุณหมอ พี่มิกค์แล้วก็น้องแทนกลับไปกินข้าว”น้ำฟ้าหาทางออก เธอรู้ดีว่ากฤตย์คงไม่อยากให้ตนร่วมโต๊ะสักเท่าไหร่ เธอไม่อยากเป็นส่วนเกินของใคร และไม่อยากรู้สึกอึดอัดอีกด้วย“งั้นเอางี้ นายเข้าไปกินไอติมกับเกรซ พาน้องแก้มกับน้องแทนไปด้วย ส่วนฉันจะไปเป็นเพื่อนฟ้าซื้อของเอง แล้วก็จะกลับพร้อมฟ้า ไปรอนายที่บ้าน” ชมัศชัยหาทางออกที่ดีกว่า กฤตย์มองหน้าเพื่อนรัก ก่อนตวัดสายตาไปมองน้ำฟ้า“ก็ได้ ตามใจ” กฤตย์ตอบตกลง “เกรซไปกินข้าวเย็นบ้านพี่นะ ถือว่าแทนคำขอบคุณที่พาแทนมากินไอติม”ชมพลอยยังไม่ทันตอบ เสียงรบเร้าระคนออดอ้อ
Chapter 4บ้านหมอกฤตย์ห้องครัวไม่ได้อบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารที่แม่ครัวสาวตั้งใจทำเพียงอย่างเดียว ยังมีกลิ่นไอความรักโชยมาจากตัวพ่อเลี้ยงหนุ่มสุดหล่อขวัญใจสาวๆ เมืองเหนือ ทว่าเขาหาได้สนใจหญิงคนใดนอกจากน้ำฟ้าหลังจากซื้อของสดไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์และผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารแห้งบางอย่างเสร็จ ชมัศชัยพาน้ำฟ้ากลับบ้าน ก่อนมาเป็นลูกมือน้ำฟ้า คอยช่วยเธอหั่นเนื้อสัตว์และผักสด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย เป็นเพราะชมัศชัยเป็นผู้ชายที่ทำอาหารเก่งมาก เขาทำได้หลายเชื้อชาติเมนูอาหารวันนี้มีห้าอย่างที่กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมนูที่ว่านี้คือหมูทอด ไข่เจียวกุ้งสับ ผัดบล็อกโคลี่กุ้งสด ต้มยำทะเล และมีอีกหนึ่งเมนูที่กฤตย์ส่งข้อความทางไลน์มาบอกให้น้ำฟ้าทำคือ แกงมัสมั่นไก่“พี่มิกค์ชิมให้ฟ้าหน่อยได้ไหมคะ ไม่ได้ทำแกงมัสมั่นนานแล้ว ไม่ค่อยมั่นใจค่ะ” อีกสี่เมนูไม่มีปัญหา เป็นอาหารที่น้ำฟ้าทำบ่อยๆ เธอจึงไว้วานให้ชมัศชัยชิมรสชาติที่ตนปรุง“พี่แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าอร่อย” พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้รสมือน้ำฟ้าดีว่า ไม่ว่าอาหารที่ทำครั้งแรกหรือนานๆ ทำสักครั้งต่างก็มีรสชาติเดียวคือ อร่อย“ลองชิมก่อนดีกว่าค่ะ บางทีอาจไม่
Chapter 501.55 น.ความมืดสลัวภายในบ้านไม่ได้เป็นอุปสรรคในการก้าวเดิน เขาเดินฝ่าความมืดโดยไม่คิดจะเปิดไฟ ก้าวฉับๆ ขึ้นไปยังชั้นบน กฤตย์มาหยุดยืนหน้าห้องๆ หนึ่งที่ไม่ใช่ห้องนอนของตน เขาไม่เคาะประตูขออนุญาตเจ้าของห้อง ราวกับว่าคุ้นชินกับการทำเช่นนี้ มือใหญ่จับลูกบิดประตู หมุนแล้วดันประตูเข้าไปด้านใน ก่อนก้าวเดินเข้าไปในห้องสายตาคมเข้มมองไปยังร่างน้ำฟ้าที่นอนหลับอยู่บนเตียง เธอคงนอนหลับสนิทจนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูแล้วไม่รู้ว่า ใครกำลังเดินเข้ามาในห้อง กฤตย์ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวหมดทุกชิ้น ก้าวเดินไปเอนกายนอนซ้อนทับร่างสาวที่นอนตะแคงกอดหมอนข้างปลายจมูกโด่งของหมอกฤตย์กดลงไปตรงข้างลำคอสาว เขาซุกไซ้หาความหอมจากกลิ่นกายสาวไปเรื่อยๆ จากข้างลำคอไล่ตามบ่าและหัวไหล่ที่ถูกกัดเบาๆ คล้ายกับว่า กำลังปลุกสาวขี้เซาให้ตื่น แต่ไม่ใช่ว่าปากเขาจะปลุกเธอเพียงอย่างเดียว ฝ่ามือใหญ่ล้วงเข้าไปในชายกระโปรงชุดนอน ลูบไล้เรียวขาวสวยขึ้นสูงเรื่อยๆ จนมาถึงโคนขาและสัมผัสกับเนื้อนวลไร้สิ่งกีดขวาง“อืม” คนกำลังนอนถูกปลุกด้วยความสิเน่หาทำเสียงในลำคอคล้ายรำคาญจากการถูกรบกวนการนอน แล้วเมื่อความเป็นอิสตรีถูกเขาเน้นหนักมากข
Chapter 6“อา...คุณหมอ...อา” เสียงครางรัญจวนระบายออกมาไม่ขาดสาย ราวกับน้ำในลำธารที่ไหลระเรื่อยอย่างไร้จุดสิ้นสุด ความรักที่มีให้กฤตย์จนหมดหัวใจ นำพาความคิดของเธอให้หลุดออกจากหัว เธอทำตามใจตัวเอง พลีกายให้เขาเชยชมโดยง่าย ยอมเป็นนางบำเรออย่างไม่มีข้อแม้ ขอเพียงเธอได้ไออุ่นจากกายเขา ได้สัมผัสแตะต้องซุกซบกับอกแข็งแรงของเขาเป็นพอ ราวกับว่าน้ำฟ้ากำลังให้กฤตย์เติมเต็มในความรู้สึกที่ขาดหาย ทว่าความปรารถนาของเธอเหมือนห่างออกไป ความรู้สึกของเธอไม่เคยถูกเติมเข้ามาสักนิดเดียว ตรงกันข้ามกลับทำให้ช่องว่างห่างออกไป ห่างออกไปและห่างออกไป แต่ก็หวังว่าสักวันหนึ่ง ระยะห่างจะย่นมาชิดกัน จนหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวเมื่อน้ำฟ้าพร้อมสำหรับเกมสวาท กฤตย์ขยับตัวเตรียมพร้อมฝังกายใหญ่เข้าสู่รวงผึ้งฉ่ำเสน่หา น้ำฟ้าละความเขินอายตามประสาของวัวเคยขาม้าเคยขี่ เธอแยกเรียวขารอท่า ทว่าครั้งนี้แรงประสานกายไม่ได้นุ่มนวล เขาดันเข้ามาสุดแรงจนเธอจุกแน่นในช่วงท้อง และแรงกำลังขับเคลื่อนดุดัน รุนแรง อัดกระแทกแบบเข้าสุดออกสุด“คุณหมอ...อา” น้ำฟ้าครางรับแรงเคลื่อนไหวเร็วแรงของชายร่างกำยำที่เวลานี้ดูเหมือนว่าถูกอารมณ์โกรธเข้าครอบงำ เ
Chapter 7บ้านหลังใหญ่กลางเมืองหลวงบนเนื้อที่กว่าสองไร่คือที่พำนักของครอบครัววงศ์วิวัฒน์ ตระกูลเศรษฐีตระกูลหนึ่งของเมืองไทย ธุรกิจในมือมีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโรงแรมทั้งในเมืองไทยและในฮ่องกง แล้วยังเป็นหุ้นส่วนอีกหลายธุรกิจเจ้าของบ้านมีนามว่าอัยการ อาศัยอยู่กับจิรวรรณหรือดวง พลอยพัตราหรือแพท ลูกสาวคนที่สอง และคนรับใช้อีกสามคน คนขับรถอีกหนึ่งคน แม้ว่าบ้านหลังนี้จะอยู่รวมกันแล้วเจ็ดคน ขาดสมาชิกหนึ่งคนที่ถูกไล่ออกจากบ้านไปเมื่อหกปีก่อน ที่ดูเหมือนว่าจะไม่กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีกตลอดชีวิตพลอยพัตราลูกสาวคนที่สองของบ้าน เดินลงมาจากชั้นบนด้วยรอยยิ้มเพราะวันนี้มีแขกพิเศษมากินข้าวเที่ยงด้วย ซึ่งนานๆ ครั้งเขาจะมีเวลามาบ้านหลังนี้ ซึ่งครั้งเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน“วันนี้ลูกแม่แต่งตัวสวยมากเลยนะลูก ชุดใหม่ซะด้วย” จิรวรรณพูดกับลูกสาว“ชุดนี้สั่งมาจากฝรั่งเศสค่ะ แค่สี่หมื่นกว่าๆ เองค่ะคุณแม่ ไหนๆ ก็สั่งแล้วแพทเลยสั่งมาสิบตัวค่ะ” คนเป็นลูกตอบมารดา ก่อนหันมาพูดกับบิดาแล้วหมุนตัว “คุณพ่อคะ แพทสวยไหมคะ”อัยการละสายตาจากมือถือ เงยหน้ามองบุตรสาวแล้วตอบ“สวยจ้ะ ลูกพ่อสวยที่สุดเลย” คนถูกชมเดินมานั่งใก
Chapter 8ภาวิตเดินหน้าเปื้อนยิ้มลงมาจากชั้นบนของบ้าน ก่อนผิวปากอย่างอารมณ์ดี คนสองคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ของบ้านมองลูกชายคนเล็กด้วยอารมณ์ที่ต่างกัน“อารมณ์ดีแบบนี้จะไปหาเกรซล่ะสิ” ภูษิต ผู้เป็นบิดาถามลูกชายอย่างรู้ทัน“คุณพ่อรู้ใจผมจริงๆ ครับ”“กลับมาจากเมืองนอกแทนที่จะอยู่กับพ่อกับแม่ นี่อะไรดันไปหาผู้หญิงมีพันธะคนนั้น แกคิดอะไรของแกอยู่ภาม ผู้หญิงดีๆ มีชาติตระกูลที่แม่หามาให้ไม่สนใจ ดันไปสนใจผู้หญิงที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับแกเลยสักนิด” ภูรดาต่อว่าบุตรชายตัวดีอย่างอารมณ์เสีย ยิ่งนึกถึงต้นเหตุด้วยแล้ว อารมณ์ดูหงุดหงิดมากขึ้น ตอนที่รู้ว่า ภาวิตไปติดพันแม่ม่ายลูกติด นางโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมาก สั่งห้ามลูกชายเด็ดขาดว่า อย่ายุ่งเกี่ยว ตัดความสัมพันธ์ไปเลยยิ่งดี“ก็ผมรักของผม” ภาวิตตอบมารดา ทรุดกายนั่งข้างนางแล้วกอดอย่างเอาใจ “ถ้าคุณแม่รู้จักเกรซ คุณแม่จะเปลี่ยนความคิด เกรซมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นเมียและแม่ของลูก”“แกน่ะรักมันจนหน้ามืดตาลาย สมองตีบตันจนคิดอะไรไม่ได้ ถ้าคุณสมบัติครบถ้วนจริงจะเป็นม่ายได้ยังไง ผัวมันก็ต้องรักต้องหลง ต้องดูแลสิ เลิกกันทำไมล่ะ” คนคิดในทางไม่ดีต่อให้ภาวิตพู
Chapter 9“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณแม่” ของที่อยากได้พลอยพัตราไม่พลาด“ที่มาวันนี้แม่มีเรื่องจะคุยกับแพทด้วย คุยที่บ้านไม่สะดวก กลัวคุณพ่อจะได้ยิน”“เรื่องนั้นน่ะเหรอคะ” ลูกสาวเหมือนรู้ว่ามารดาต้องการพูดอะไร“ได้เรื่องไหมล่ะ”“ยังเลยค่ะคุณแม่ ไม่รู้ว่ามันไปมุดดินอยู่ที่ไหน ตามสืบมาสองปียังไม่ได้เรื่องเลย ไม่รู้ว่ามันหนีเก่งหรือว่านักสืบไม่ได้เรื่องก็ไม่รู้”เรื่องที่สองแม่ลูกกำลังคุยกันคือ ตามหาชมพลอย พี่สาวต่างมารดาที่ไม่ได้ติดต่อและไม่ได้ข่าวคราวนับตั้งแต่ถูกอัยการขับไล่ออกจากบ้าน อัยการโกรธมากที่รู้ว่า ชมพลอยท้องไม่มีพ่อ และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องความเหลวแหลกของลูกสาวคนโตที่มั่วผู้ชายไม่เลือกหน้า จนตัวเองตั้งครรภ์จากปากลูกสาวคนเล็ก นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็ห้าหกปีแล้ว“ทำไมหาตัวมันยากจังนะ เปลี่ยนนักสืบดีไหมเผื่อมีความคืบหน้า” จิรวรรณไม่คิดว่า การตามหาคนคนหนึ่งจะยากเย็นขนาดนี้ ผ่านมาสองปีเรื่องไม่คืบหน้าเอาเสียเลย“นักสืบบอกว่า เขาเช็คข้อมูลประกันสังคมก็ไม่เจอ เพราะถ้ามีก็เป็นเรื่องง่าย อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามันทำงานที่ไหน จะหวังพึ่งข้อมูลทะเบียนราษฎร์ก็ไม่ได้ เพราะข้อมูลของมั
Chapter 10ก่อนส่งถุงในมือให้ชมพลอยที่รับไว้อย่างเกรงใจ ใบหน้าสาวตกใจเมื่อเห็นว่า ของในถุงนั้นคืออะไร สุดท้ายภาวิตก็ซื้อมาให้อลิสสาจนได้“ขอบคุณค่ะสำหรับของฝาก แต่ของน้องแก้มนี่แพงไปนะคะแล้วก็ซื้อมาหลายตัวด้วย อย่างนี้แกจะได้ใจ” ชมพลอยสอนให้ลูกสาวใช้เงินอย่างประหยัด เห็นคุณค่าของเงิน อยากได้อะไรต้องเก็บเงินซื้อ ไม่ใช่ว่าร้องอยากได้แล้วก็ได้“นิดหน่อยเองเกรซ คิดอย่างนี้ก็ได้นะว่า อีกตัวผมซื้อมาฝาก อาทิตย์หน้าก็วันเกิดน้องเกรซพอดี ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดล่วงหน้าให้น้องแก้มก็ได้นะ” ภาวิตหาทางไปจนได้“แล้วหวังว่าวันนั้นคงไม่มีของขวัญวันเกิดชิ้นใหม่ให้น้องแก้มนะคะ” ชมพลอยดักคอ“ถ้าผมไม่ลืมนะว่า ผมซื้อของขวัญวันเกิดให้น้องแก้มแล้ว แต่ถ้าลืมเกรซก็อย่าผมล่ะกันที่ซื้อของขวัญมาให้ซ้ำ” คุณแม่ลูกหนึ่ฃส่ายหน้า ไม่พูดอะไร เดินคู่เขาเข้าไปในบ้าน“คุณภามนั่งก่อนนะคะ เมื่อเช้านี้เกรซทำน้ำแครอทแช่เย็นไว้ เกรชจะเอามาให้คุณดื่มค่ะ” ชมพลอยต้อนรับเขาอย่างดี เดินเข้าไปในครัวเพื่อหาเครื่องดื่มเย็นๆ ขณะนั้นอลิสสาเดินลงมาจากชั้นบนของบ้าน เด็กหญิงยิ้มให้ภาวิต คุณอาใจดี ไม่เพียงแค่ยิ้มยังโผกอดอย่างสนิทสนม“สวัส
Chapter 9“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณแม่” ของที่อยากได้พลอยพัตราไม่พลาด“ที่มาวันนี้แม่มีเรื่องจะคุยกับแพทด้วย คุยที่บ้านไม่สะดวก กลัวคุณพ่อจะได้ยิน”“เรื่องนั้นน่ะเหรอคะ” ลูกสาวเหมือนรู้ว่ามารดาต้องการพูดอะไร“ได้เรื่องไหมล่ะ”“ยังเลยค่ะคุณแม่ ไม่รู้ว่ามันไปมุดดินอยู่ที่ไหน ตามสืบมาสองปียังไม่ได้เรื่องเลย ไม่รู้ว่ามันหนีเก่งหรือว่านักสืบไม่ได้เรื่องก็ไม่รู้”เรื่องที่สองแม่ลูกกำลังคุยกันคือ ตามหาชมพลอย พี่สาวต่างมารดาที่ไม่ได้ติดต่อและไม่ได้ข่าวคราวนับตั้งแต่ถูกอัยการขับไล่ออกจากบ้าน อัยการโกรธมากที่รู้ว่า ชมพลอยท้องไม่มีพ่อ และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องความเหลวแหลกของลูกสาวคนโตที่มั่วผู้ชายไม่เลือกหน้า จนตัวเองตั้งครรภ์จากปากลูกสาวคนเล็ก นับตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็ห้าหกปีแล้ว“ทำไมหาตัวมันยากจังนะ เปลี่ยนนักสืบดีไหมเผื่อมีความคืบหน้า” จิรวรรณไม่คิดว่า การตามหาคนคนหนึ่งจะยากเย็นขนาดนี้ ผ่านมาสองปีเรื่องไม่คืบหน้าเอาเสียเลย“นักสืบบอกว่า เขาเช็คข้อมูลประกันสังคมก็ไม่เจอ เพราะถ้ามีก็เป็นเรื่องง่าย อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามันทำงานที่ไหน จะหวังพึ่งข้อมูลทะเบียนราษฎร์ก็ไม่ได้ เพราะข้อมูลของมั
Chapter 8ภาวิตเดินหน้าเปื้อนยิ้มลงมาจากชั้นบนของบ้าน ก่อนผิวปากอย่างอารมณ์ดี คนสองคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ของบ้านมองลูกชายคนเล็กด้วยอารมณ์ที่ต่างกัน“อารมณ์ดีแบบนี้จะไปหาเกรซล่ะสิ” ภูษิต ผู้เป็นบิดาถามลูกชายอย่างรู้ทัน“คุณพ่อรู้ใจผมจริงๆ ครับ”“กลับมาจากเมืองนอกแทนที่จะอยู่กับพ่อกับแม่ นี่อะไรดันไปหาผู้หญิงมีพันธะคนนั้น แกคิดอะไรของแกอยู่ภาม ผู้หญิงดีๆ มีชาติตระกูลที่แม่หามาให้ไม่สนใจ ดันไปสนใจผู้หญิงที่ไม่มีอะไรคู่ควรกับแกเลยสักนิด” ภูรดาต่อว่าบุตรชายตัวดีอย่างอารมณ์เสีย ยิ่งนึกถึงต้นเหตุด้วยแล้ว อารมณ์ดูหงุดหงิดมากขึ้น ตอนที่รู้ว่า ภาวิตไปติดพันแม่ม่ายลูกติด นางโกรธและไม่พอใจเป็นอย่างมาก สั่งห้ามลูกชายเด็ดขาดว่า อย่ายุ่งเกี่ยว ตัดความสัมพันธ์ไปเลยยิ่งดี“ก็ผมรักของผม” ภาวิตตอบมารดา ทรุดกายนั่งข้างนางแล้วกอดอย่างเอาใจ “ถ้าคุณแม่รู้จักเกรซ คุณแม่จะเปลี่ยนความคิด เกรซมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นเมียและแม่ของลูก”“แกน่ะรักมันจนหน้ามืดตาลาย สมองตีบตันจนคิดอะไรไม่ได้ ถ้าคุณสมบัติครบถ้วนจริงจะเป็นม่ายได้ยังไง ผัวมันก็ต้องรักต้องหลง ต้องดูแลสิ เลิกกันทำไมล่ะ” คนคิดในทางไม่ดีต่อให้ภาวิตพู
Chapter 7บ้านหลังใหญ่กลางเมืองหลวงบนเนื้อที่กว่าสองไร่คือที่พำนักของครอบครัววงศ์วิวัฒน์ ตระกูลเศรษฐีตระกูลหนึ่งของเมืองไทย ธุรกิจในมือมีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโรงแรมทั้งในเมืองไทยและในฮ่องกง แล้วยังเป็นหุ้นส่วนอีกหลายธุรกิจเจ้าของบ้านมีนามว่าอัยการ อาศัยอยู่กับจิรวรรณหรือดวง พลอยพัตราหรือแพท ลูกสาวคนที่สอง และคนรับใช้อีกสามคน คนขับรถอีกหนึ่งคน แม้ว่าบ้านหลังนี้จะอยู่รวมกันแล้วเจ็ดคน ขาดสมาชิกหนึ่งคนที่ถูกไล่ออกจากบ้านไปเมื่อหกปีก่อน ที่ดูเหมือนว่าจะไม่กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีกตลอดชีวิตพลอยพัตราลูกสาวคนที่สองของบ้าน เดินลงมาจากชั้นบนด้วยรอยยิ้มเพราะวันนี้มีแขกพิเศษมากินข้าวเที่ยงด้วย ซึ่งนานๆ ครั้งเขาจะมีเวลามาบ้านหลังนี้ ซึ่งครั้งเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน“วันนี้ลูกแม่แต่งตัวสวยมากเลยนะลูก ชุดใหม่ซะด้วย” จิรวรรณพูดกับลูกสาว“ชุดนี้สั่งมาจากฝรั่งเศสค่ะ แค่สี่หมื่นกว่าๆ เองค่ะคุณแม่ ไหนๆ ก็สั่งแล้วแพทเลยสั่งมาสิบตัวค่ะ” คนเป็นลูกตอบมารดา ก่อนหันมาพูดกับบิดาแล้วหมุนตัว “คุณพ่อคะ แพทสวยไหมคะ”อัยการละสายตาจากมือถือ เงยหน้ามองบุตรสาวแล้วตอบ“สวยจ้ะ ลูกพ่อสวยที่สุดเลย” คนถูกชมเดินมานั่งใก
Chapter 6“อา...คุณหมอ...อา” เสียงครางรัญจวนระบายออกมาไม่ขาดสาย ราวกับน้ำในลำธารที่ไหลระเรื่อยอย่างไร้จุดสิ้นสุด ความรักที่มีให้กฤตย์จนหมดหัวใจ นำพาความคิดของเธอให้หลุดออกจากหัว เธอทำตามใจตัวเอง พลีกายให้เขาเชยชมโดยง่าย ยอมเป็นนางบำเรออย่างไม่มีข้อแม้ ขอเพียงเธอได้ไออุ่นจากกายเขา ได้สัมผัสแตะต้องซุกซบกับอกแข็งแรงของเขาเป็นพอ ราวกับว่าน้ำฟ้ากำลังให้กฤตย์เติมเต็มในความรู้สึกที่ขาดหาย ทว่าความปรารถนาของเธอเหมือนห่างออกไป ความรู้สึกของเธอไม่เคยถูกเติมเข้ามาสักนิดเดียว ตรงกันข้ามกลับทำให้ช่องว่างห่างออกไป ห่างออกไปและห่างออกไป แต่ก็หวังว่าสักวันหนึ่ง ระยะห่างจะย่นมาชิดกัน จนหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวเมื่อน้ำฟ้าพร้อมสำหรับเกมสวาท กฤตย์ขยับตัวเตรียมพร้อมฝังกายใหญ่เข้าสู่รวงผึ้งฉ่ำเสน่หา น้ำฟ้าละความเขินอายตามประสาของวัวเคยขาม้าเคยขี่ เธอแยกเรียวขารอท่า ทว่าครั้งนี้แรงประสานกายไม่ได้นุ่มนวล เขาดันเข้ามาสุดแรงจนเธอจุกแน่นในช่วงท้อง และแรงกำลังขับเคลื่อนดุดัน รุนแรง อัดกระแทกแบบเข้าสุดออกสุด“คุณหมอ...อา” น้ำฟ้าครางรับแรงเคลื่อนไหวเร็วแรงของชายร่างกำยำที่เวลานี้ดูเหมือนว่าถูกอารมณ์โกรธเข้าครอบงำ เ
Chapter 501.55 น.ความมืดสลัวภายในบ้านไม่ได้เป็นอุปสรรคในการก้าวเดิน เขาเดินฝ่าความมืดโดยไม่คิดจะเปิดไฟ ก้าวฉับๆ ขึ้นไปยังชั้นบน กฤตย์มาหยุดยืนหน้าห้องๆ หนึ่งที่ไม่ใช่ห้องนอนของตน เขาไม่เคาะประตูขออนุญาตเจ้าของห้อง ราวกับว่าคุ้นชินกับการทำเช่นนี้ มือใหญ่จับลูกบิดประตู หมุนแล้วดันประตูเข้าไปด้านใน ก่อนก้าวเดินเข้าไปในห้องสายตาคมเข้มมองไปยังร่างน้ำฟ้าที่นอนหลับอยู่บนเตียง เธอคงนอนหลับสนิทจนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูแล้วไม่รู้ว่า ใครกำลังเดินเข้ามาในห้อง กฤตย์ถอดเสื้อผ้าออกจากตัวหมดทุกชิ้น ก้าวเดินไปเอนกายนอนซ้อนทับร่างสาวที่นอนตะแคงกอดหมอนข้างปลายจมูกโด่งของหมอกฤตย์กดลงไปตรงข้างลำคอสาว เขาซุกไซ้หาความหอมจากกลิ่นกายสาวไปเรื่อยๆ จากข้างลำคอไล่ตามบ่าและหัวไหล่ที่ถูกกัดเบาๆ คล้ายกับว่า กำลังปลุกสาวขี้เซาให้ตื่น แต่ไม่ใช่ว่าปากเขาจะปลุกเธอเพียงอย่างเดียว ฝ่ามือใหญ่ล้วงเข้าไปในชายกระโปรงชุดนอน ลูบไล้เรียวขาวสวยขึ้นสูงเรื่อยๆ จนมาถึงโคนขาและสัมผัสกับเนื้อนวลไร้สิ่งกีดขวาง“อืม” คนกำลังนอนถูกปลุกด้วยความสิเน่หาทำเสียงในลำคอคล้ายรำคาญจากการถูกรบกวนการนอน แล้วเมื่อความเป็นอิสตรีถูกเขาเน้นหนักมากข
Chapter 4บ้านหมอกฤตย์ห้องครัวไม่ได้อบอวลไปด้วยกลิ่นอาหารที่แม่ครัวสาวตั้งใจทำเพียงอย่างเดียว ยังมีกลิ่นไอความรักโชยมาจากตัวพ่อเลี้ยงหนุ่มสุดหล่อขวัญใจสาวๆ เมืองเหนือ ทว่าเขาหาได้สนใจหญิงคนใดนอกจากน้ำฟ้าหลังจากซื้อของสดไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์และผัก ผลไม้ รวมถึงอาหารแห้งบางอย่างเสร็จ ชมัศชัยพาน้ำฟ้ากลับบ้าน ก่อนมาเป็นลูกมือน้ำฟ้า คอยช่วยเธอหั่นเนื้อสัตว์และผักสด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลย เป็นเพราะชมัศชัยเป็นผู้ชายที่ทำอาหารเก่งมาก เขาทำได้หลายเชื้อชาติเมนูอาหารวันนี้มีห้าอย่างที่กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมนูที่ว่านี้คือหมูทอด ไข่เจียวกุ้งสับ ผัดบล็อกโคลี่กุ้งสด ต้มยำทะเล และมีอีกหนึ่งเมนูที่กฤตย์ส่งข้อความทางไลน์มาบอกให้น้ำฟ้าทำคือ แกงมัสมั่นไก่“พี่มิกค์ชิมให้ฟ้าหน่อยได้ไหมคะ ไม่ได้ทำแกงมัสมั่นนานแล้ว ไม่ค่อยมั่นใจค่ะ” อีกสี่เมนูไม่มีปัญหา เป็นอาหารที่น้ำฟ้าทำบ่อยๆ เธอจึงไว้วานให้ชมัศชัยชิมรสชาติที่ตนปรุง“พี่แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าอร่อย” พ่อเลี้ยงหนุ่มรู้รสมือน้ำฟ้าดีว่า ไม่ว่าอาหารที่ทำครั้งแรกหรือนานๆ ทำสักครั้งต่างก็มีรสชาติเดียวคือ อร่อย“ลองชิมก่อนดีกว่าค่ะ บางทีอาจไม่
Chapter 3“ผมดีใจที่เกรซกับลูกชอบกิน ไว้คราวหน้านะผมจะเอามาฝากอีก” ชมพลอยยิ้มและพยักหน้า ขณะนั้นพนักงานของร้านได้เดินมาหากฤตย์เพื่อถามถึงคิว“ไม่ทราบว่าจองคิวไว้หรือยังคะ”“ยังครับ เรามากันหกคนครับ” กฤตย์ตอบ“ตอนนี้มีที่นั่งที่เข้าได้เลยสี่ที่ค่ะ แต่ถ้าหกที่ต้องรอประมาณสามคิวนะคะ” พนักงานตอบ สามคิวก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร เด็กๆ รอไม่ไหวแน่“พอจะเสริมเก้าอี้อีกตัวไหมคะเป็นห้าที่” เสียงน้ำฟ้าดังขึ้น “คือฟ้ากะว่าจะไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์ไปทำอาหารเย็นน่ะค่ะ ซื้อเสร็จจะได้กลับบ้านไปทำกับข้าวรอคุณหมอ พี่มิกค์แล้วก็น้องแทนกลับไปกินข้าว”น้ำฟ้าหาทางออก เธอรู้ดีว่ากฤตย์คงไม่อยากให้ตนร่วมโต๊ะสักเท่าไหร่ เธอไม่อยากเป็นส่วนเกินของใคร และไม่อยากรู้สึกอึดอัดอีกด้วย“งั้นเอางี้ นายเข้าไปกินไอติมกับเกรซ พาน้องแก้มกับน้องแทนไปด้วย ส่วนฉันจะไปเป็นเพื่อนฟ้าซื้อของเอง แล้วก็จะกลับพร้อมฟ้า ไปรอนายที่บ้าน” ชมัศชัยหาทางออกที่ดีกว่า กฤตย์มองหน้าเพื่อนรัก ก่อนตวัดสายตาไปมองน้ำฟ้า“ก็ได้ ตามใจ” กฤตย์ตอบตกลง “เกรซไปกินข้าวเย็นบ้านพี่นะ ถือว่าแทนคำขอบคุณที่พาแทนมากินไอติม”ชมพลอยยังไม่ทันตอบ เสียงรบเร้าระคนออดอ้อ
Chapter 26 ปี 1 เดือนต่อมา ณ ประเทศไทยเสียงปรบมือดังขึ้นหลังจากการแสดงบนเวทีของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลหนึ่งสิ้นสุดลง หนูน้อยทั้งเก้าคนพนมมือไหว้ เหล่าผู้ปกครองและคุณครูที่นั่งชมการแสดง ก่อนนักแสดงตัวน้อยๆ จะวิ่งไปยังหลังเวทีเพื่อให้รุ่นพี่ขึ้นแสดงในลำดับต่อไปด้านหลังเวทีมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนยืนรอรับลูกสาวและลูกชายที่ขึ้นทำการแสดง ใบหน้าของทุกคนแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มที่มาจากความภาคภูมิใจในตัวลูกๆ หนึ่งในผู้ปกครองย่อตัวอ้าแขนรับร่างบุตรสาวสุดที่รักที่วิ่งเข้าหามารดา“แม่ขา แม่ขา น้องแก้มเต้นเก่งไหมคะ” เด็กหญิงอลิสสาในวัยห้าขวบสองเดือนเอ่ยถามชมพลอย มารดาแสนสวยเจ้าของรอยยิ้มโลกตะลึง ที่ว่ากันว่า มีรอยยิ้มสวยบาดใจ“เต้นเก่งมากค่ะ เก่งที่สุดในโลกเลยค่ะ” ชมพลอยชมลูกสาว หอมแก้มเป็นรางวัล“น้องแก้มเก่งเหมือนคุณแม่ไงคะ อ้อ...แล้วสวยเหมือนคุณแม่ด้วยค่ะ” อลิสสาช่างจ้อ ชมมารดากลับและสวมกอด “คุณครูชมคุณแม่ด้วยค่ะว่า ตัดชุดน้องแก้มสวยมากๆ คุณครูจะไปตัดชุดกับคุณแม่ด้วยค่ะ”“ได้เลยค่ะคุณลูกที่น่ารัก” ชมพลอยประคองแก้มลูกสาวแล้วโยกเบาๆ“คุณแม่ก็น่ารักและใจดีที่สุดในสามโลกค่ะ” คนเป็นลูกชมกลับ หอมแก้ม