“อ๊ะ อ๊ายยย...”เธอร้องลั่น สั่นเกร็งไปทั้งตัว เจลหล่อลื่นทำให้สัมผัสในช่องทางที่ไม่ควรนั้นลื่นไหลมากกว่าที่เป็น และทางกีตาร์เองก็ยิ่งกระแทกเข้าออกถี่รัวอยู่เช่นนั้น มันทำให้เวลานี้มินตราราวกับรู้สึกว่าแท่งเนื้อของทั้งสองคนกำลังเสียดสีบดเบียดกันอยู่ในร่างกายของเธอโดยพร้อมเพียง“อ๊ะ อ๊า อ๊า จะ จุก..อื๊อออ...ซี้ดดด”มินตราพยายามดีดดิ้น แต่เมื่อกีตาร์ที่รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร เขาจึงกอดร่างกายของเธอให้แนบชิดเอาไว้เช่นเดิม แล้วปล่อยให้พี่ชายได้ทะลวงเข้าไปในรูเสียวข้างเคียงอย่างเต็มที่ สองกายตอกกระแทกร่างกายของมินตราอย่างต่อเนื่อง เสียงครางดังสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว มินตราในอ้อมกอดกีตาร์ตัวสั่นระริก เธอเม้มปากแน่นระคนกับส่งเสียงครางออกมาเรื่อย ๆหญิงสาวทั้งเสียว แล้วก็ทั้งจุก วินาทีนี้รู้สึกเหมือนช่องทางทั้งสองราวกับจะฉีกขาดออกเพราะแรงกระแทกอันมหาศาล สองมือเธอกำแน่น ซุกหน้าลงกับแผงอกแกร่งของแฝดน้องยิ่งกว่าเดิม ดวงตาเคลิบเคลิ้มเหลือกลอย น้ำตาระคนน้ำลายไหลเยิ้มเพราะไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกอันแปลกใหม่ในยามนี้ได้ยิ่งเธอขมิบเกร็ง ไม่ว่าช่องทางไหนก็ยิ่งตอดรัดลำกายที่สอดใส่เข้ามาทั้ง
เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นคนที่ทำให้เธอเจ็บปวด คนที่ทำให้หัวใจของลูกผู้หญิงคนหนึ่งแตกสลาย ครั้นพอกอบกู้มันขึ้นมาได้ ร่องรอยลึกในหัวใจกลับกลายเป็นการโหยหาอย่างไม่น่าให้อภัย ทั้ง ๆ คนที่บุกเข้ามาพรากความสาวไปจากเธอในช่วงวัยเพียงแค่มัธยมต้นกลับกลายเป็นผู้ชายที่เธอเรียกเขาว่าพี่ชายมาตลอดทั้งชีวิตมินตรา ดีดดิ้น ร่ำร้อง แต่เรี่ยวแรงของเธอหรือจะสู้ชายผู้มีดีกรีเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลที่ทั้งกล้ามโตและตัวสูงใหญ่ เขาจับสองขาของเธอแยกออก สอดนิ้วเข้ามาชำแรก แทรก และคว้าน ค่ำคืนนั้นไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเธอได้เลย เพราะเขาคือคนที่พ่อแม่ไว้ใจให้ดูแลมากที่สุดตอนที่ท่านทั้งสองออกจากบ้านไปมันเป็นคืนที่ฝนตก เสียงกรีดร้องของเธอถูกม่านพิรุณที่เทกระหน่ำราวกับท้องฟ้าจะพังทลายนกลบไปจนหมดสิ้น ชั้นในตัวบางถูกกระชากออก น้ำตารินไหล หัวใจเต้นโครมคราม ใบหน้าของพี่ชายผู้อ่อนโยนกลายเป็นปีศาจที่ไม่อาจจะกล้าสบตาอีกต่อไปแล้วในค่ำคืนนั้น ทุก ๆ อย่างของลูกผู้หญิงคนหนึ่งแหลกสลายไปจนหมด ไม่เหลือมันจับขาของเธอแยกออก แล้วแทรกสอดความน่าขยะแขยงอันมหึมาเข้าโถม ร่างกายที่ไม่เคยสัมผัสถึงอารมณ์หวามหวิวถูกทิ่มแทงเข้า
ตั้งแต่วันแรกที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบ้าน ราวกับคำว่าครอบครัวอาจจะเป็นไปอีกครั้งหนึ่งมินตราไม่ได้ปิดกั้นหากว่าพ่อของเธอจะหาผู้หญิงสักคนมาเป็นคู่ครอง เธอสัมผัสได้มาตลอดชีวิต ว่าพ่อนั้นแทบจะไม่มีความสุขเลยด้วยซ้ำ การตกถังข้าวสารแต่กลับต้องกลายเป็นเบี้ยล่างเมียตัวเองนั้นมันแย่ยิ่งกว่าสิ่งใด ภายนอกคนที่มองเข้ามารู้สึกได้เลยว่าแม่ยินยอมให้พ่อเป็นผู้นำ แต่มันก็แค่หน้ากากทางสังคมเท่านั้นตอนที่ทั้งสองหย่ากัน มินตราอายุสิบสี่ปี และไอ้ปีศาจตัวนั้นอายุสิบเก้า นั่นเท่ากับว่าอย่างน้อย ๆ ที่พ่อต้องทนอยู่เพื่อรักษาคำว่าครอบครัวเอาไว้โดยไร้อิสรภาพคือยี่สิบปี แต่ตอนนี้มันก็คงจะถึงเวลาแล้วที่พ่อจะได้รับใครสักคนเข้ามา คนที่มีฐานะใกล้เคียงกัน และที่สำคัญที่สุด...มีความเป็นมนุษย์ใกล้เคียงกันฉัตรโฉม คือว่าที่แม่ใหม่ของมินตรา หล่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อ เจอกันในงานแฟร์แห่งหนึ่งที่พ่อเองกำลังเริ่มต้นการทำธุรกิจ ก่อนจะถูกใจด้วยหลาย ๆ อย่างที่เข้ากันได้ ผ่านไปเพียงไม่ถึงปี ทั้งคู่ตัดสินใจลองใช้ชีวิตร่วมกัน ยังไงเสียก็เป็นคนที่ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิตอยู่แล้ว และยังมีลูกติดอีกด้วย...หากแต่ทั้งสองคนเป็น
คีตะเป็นแฝดพี่ ส่วนกีตาร์เป็นแฝดน้อง ทั้งสองหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ หากไม่ใช่ทรงผม หรือการแต่งตัวในการแยกทั้งสองออกจากกัน ก็คงจะเหมือนกันจนน่าตกใจทว่าในเวลานี้ คีตะมุ่งไปทางด้านดนตรีมากกว่า เขากำลังตามหาความฝันด้วยการเป็นศิลปิน ทำงานเป็นนักร้องกลางคืน พร้อมกับการแต่งตัวที่ดุดันมีสไตล์มากกว่าอีกคน รวมทั้งรอยสักที่แขนทั้งสองข้าง ทำให้มินตราสามารถแยกแยะเขากับกีตาร์ผู้เป็นน้องชายที่เนื้อตัวใสสะอาดไม่มีร่องรอยน้ำหมึกแต่งแต้มใด ๆมินตรารู้ว่าสายตาของคีตะเวลาคุยกับเธอเขาไม่เคยสักครั้งที่จะมองหน้าตรง ๆ เขามองที่ร่องอกของเธอรวมทั้งเต้าถันที่ตึงเต่งนั้นมากกว่าด้วยซ้ำ ความพิศวาสเกิดขึ้นในสถานะต้องห้าม แต่มันก็ไม่มีอะไรต้องห้ามมากว่าสิ่งที่มินตราเจอมาแล้ว...และถ้าหากว่าเขาต้องการ เธอจะมอบมันแก่เขานาฬิกาดิจิทัลบอกเวลาตีหนึ่งครึ่ง มินตรายังคงสวมเสื้อกล้ามรัดรูปพร้อมกับกางเกงขาสั้นนั่งไขว่ห้างดูทีวีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านสักคนเดียว พ่อกับแม่ไปออกงานแฟร์ ส่วนกีตาร์เองก็ไปค้างบ้านเพื่อน มีเพียงมิตราและคีตะสองคนบานประตูเลื่อนออกช้า ๆ คีตะในสภาพที่ค่อนข้างเมามายเดินเซเข้า
“ซี้ดดดด...”คีตะสูดปาก ความเสียวซ่านในเวลานี้ทำให้ทั้งสองขาเกร็งแน่น ร่างเล็กของมินตราแทรกสอดเข้าระหว่างขาทั้งสอง ก้ม ๆ เงย ๆ ดูดดุนลำกายที่แข็งชูชันขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มสอดมือเข้าลูบไล้เส้นผมของเธอพลางลามลงไปที่เนื้อตัวบางนั้นก่อนบรรจงปลดสายคล้องทั้งสองลงอย่างเบามือ ไม่นาน เสื้อตัวบางก็หลุดร่น เนินอกเต่งตึงถูกปลดปล่อยออกจากส่วนที่ปิดเร้น เขาเริ่มบีบคลำพลางสะกิดปลายนิ้วที่ส่วนยอดซึ่งเริ่มแข็งเป็นตุ่มไตรับการสัมผัสแล้วมินตราหลับตาพริ้ม ลิ้มรสชาติอันหวานฉ่ำของหยาดน้ำผึ้งซึ่งยังคงไหลเยิ้มออกมาเรื่อย ๆ ในทุกจังหวะที่ขยับใบหน้าดูดดุนลงไป เธอวาดเรียวลิ้นไปรอบส่วนลำแข็งนั้นพร้อมกับตวัดเลียวนรอยหยักหลังจากที่ครอบครองจนหมดสิ้น ปากของเธออ้ากว้างสุดองศา เพราะขนาดที่แสนมหึมาของแท่งเนื้อที่คีตะเป็นเจ้าของในหัวสมองคิดมั่วซั่วไปหมด...พลันก็อยากรู้เหลือเกินว่าเป็นแฝดกัน เหมือนกันไปเสียทั้งหมด...จะใหญ่เหมือนกับแบบนี้หรือเปล่ามือเรียวจับรั้งลำกายกระชับแน่นพร้อมกับขยับรูดชักไปในจังหวะที่สอดประสานกันกับริมฝีปากซึ่งยังคงรัดตอดแก่นกายของพี่ชายเอาไว้อย่างแนบแน่น เสียงครางที่ดังขึ้นมาไม่หยุดมันยิ
มินตรากระเด้งกระดอนอยู่บนโซฟาตัวนุ่มนั้น เริ่มถอดเสื้อของเธอออกไปพร้อมกับที่คีตะเองก็รีบร้อนถอดเสื้อผ้าของเขาโยนทิ้งไปเช่นกันร่างสูงยืนตระหง่านตรงหน้า กล้ามหน้าท้องแน่นเด่นเป็นระลอกคลื่น มินตราอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไปสัมผัส“พี่จะฟ้องแม่ว่าน้องมินยั่วพี่...”“ก็ลองดูสิ” มินตราฉีกยิ้ม ก้มโน้มใบหน้าลงไปอมให้อีกฝ่ายทันที“ซี้ดดดดดสสสส์”คีตะไม่ทันตั้งตัว ยืนสั่นสะท้านอยู่อย่างนั้น ครั้นพอเริ่มตั้งสติได้ก็ไม่รีรอ จับบ่าเล็กไว้แล้วกระแทกสะโพกตอกดุ้นเนื้อเข้าไปในโพรงปากอันนิ่มนวลทันทีจนกระทั่งใบหน้าของมินตราจำต้องโยกไหวไปตามแรงกระแทกที่ก่อเกิด ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยยอมแพ้ ออกแรงดูดดุนความสุขสมของอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นคีตะที่ถอดถอนมันออกไปเองมินตราหอบจนตัวโยก จ้องมองดูคีตะที่ตอนนี้เขายังไม่เว้นช่วงให้เธอได้พัก แต่นั่นอาจจะเป็นความร้อนแรงที่ลึก ๆ ในใจของมินตราปรารถนาอยู่ก็เป็นได้คีตะนั่งลง จับสองขาของเธอยกแยกออก จ้องมองดูส่วนสวาทที่บานฉ่ำราวกับดอกไม้งามยามเช้าตรู่ สัดส่วนที่สวยงามกระตุ้นรอยยิ้มของผู้จ้องมองได้อย่างง่ายดาย คีตะซุกไซ้สันจมูกเข้าไปตามร่องเสียวนั้นอย่างหื่นกระหาย
“น้ำน้องมิน...หวานมากเลยนะครับเนี่ย”คีตะลุกขึ้นมาจูบกับน้องสาวอีกครั้ง ในขณะที่หงายมือแล้วใช้สองนิ้วสอดเข้าไปในรูสวาทแล้วกระดกนิ้วอย่างเร็วรี่จนสัมผัสได้ถึงของเหลวมากมายทะลักล้นออกมาจากช่องทางนั้น ยามนี้เสียงครางกระเส่าของมิตราเริ่มเบาลงไปเหลือเพียงเสียงลมหายใจที่พยายามประคองร่างกายที่แสนสุขสันต์ให้ไปต่อได้อย่างเต็มที่“อืมมม...ร้องดัง ๆ ครับ...ยิ่งร้องดังพี่ก็ยิ่งมีอารมณ์นะครับ ซี้ดดด”มินตรานอนหอบหายใจรวยริน...สุดยอดเหลือเกิน ช่วงเวลาที่ถูกปลดปล่อยออกมาจนร่างกายเบาโหวงประหนึ่งกลายเป็นเพียงกระดาษที่ล่องลองตามสายลมพัดพา“พร้อมจะให้เอาหรือยังครับ” คีตะยิ้มกว้าง ความขี้เล่นยังคงทำให้เขาส่ายเอวไปมา สะบัดแก่นกายที่แข็งขืนฟาดสัมผัสลำตัวดังแน่นหนัก พร้อมรูดส่วนนอกลงไปจนสุดอีกครั้งแล้วกระดกขึ้นลงให้อีกฝ่ายเห็นถึงความพร้อมที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คีตะจับดุ้นกายแล้วฟาดเข้าที่ฝ่ามือตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า “เจ็บไปทั้งลำแล้วเนี่ย...”“มะ...มา...มาเลย ขะ เข้ามาเลย พี่ หนู...อยากจะโดน...”“ไหนพูดให้พี่ชายคนนี้ชื่นใจหน่อยครับ” คีตะแค่นหัวเราะ “อยากจะโดนอะไร”“โดน อะ เอา...พี่จ๋า หนูไม่ไหวแล้ว เร็วสิ...
น้ำเสียงหื่นกระหายแว่วขึ้น สายตาที่จดจ้องมองไปยังหญิงสาวตรงหน้าราวกับเธอเป็นอาหารมื้อพิเศษ ลำกายสะบั้นความเป็นพี่น้องสิ้น กระแทกกระทั้นเข้าไปจนเสียงครางของอีกฝ่ายแผดก้องแล้วเหือดหาย เรี่ยวแรงที่สมสะถูกฟัดเหวี่ยงจนแตกกระจายไม่เป็นชิ้นดีพั่บ! พั่บ! พั่บ!“ซี้ดดดดสสส์ อ๊า.....เสียวววว ซี้ดดดดดดด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!สองแขนของมินตราพยายามป่ายปัดหาที่ประคองตัว ทว่าแรงกระแทกที่โหมกระหน่ำทำเอาเธอไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลยสักอย่าง ความกำหนัดของคนตรงหน้าราวกับตายอดตายอยากในกายสาวมาแสนนาน หายใจหอบเฮือกไม่หยุด แม้มันจะรู้สึกทุกข์ทรมาน แต่มันกลับกลายเป็นห้วงแห่งความสุขที่น่าเหลือเชื่อ“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า...เสียว..เสียวพะ พี่...อ๊ะ คะ คีตะ อ๊ายยย...ซี้ดดด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!เมื่อต่อต้านไม่ได้ ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสอย่างเต็มที่ มินตราขมิบเกร็งร่างกาย ช่องทางสีหวานถูกกระแทกจนขึ้นสีเรื่อ กระนั้นเธอขยังคงเว้าวอนให้อีกฝ่ายตอกกระหน่ำเข้ามาอย่างเต็มที่ เพราะอย่างไรเสีย มันก็ไม่มีใครตายเพราะโดนเอาหรอก ซ้ำชายหนุ่มคนนี้ก็ยังมีทั้งของดีและลีลาที่เหลือร้าย...เธอชื่นชอบมันเห