คีตะเป็นแฝดพี่ ส่วนกีตาร์เป็นแฝดน้อง ทั้งสองหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ หากไม่ใช่ทรงผม หรือการแต่งตัวในการแยกทั้งสองออกจากกัน ก็คงจะเหมือนกันจนน่าตกใจ
ทว่าในเวลานี้ คีตะมุ่งไปทางด้านดนตรีมากกว่า เขากำลังตามหาความฝันด้วยการเป็นศิลปิน ทำงานเป็นนักร้องกลางคืน พร้อมกับการแต่งตัวที่ดุดันมีสไตล์มากกว่าอีกคน รวมทั้งรอยสักที่แขนทั้งสองข้าง ทำให้มินตราสามารถแยกแยะเขากับกีตาร์ผู้เป็นน้องชายที่เนื้อตัวใสสะอาดไม่มีร่องรอยน้ำหมึกแต่งแต้มใด ๆ
มินตรารู้ว่าสายตาของคีตะเวลาคุยกับเธอเขาไม่เคยสักครั้งที่จะมองหน้าตรง ๆ เขามองที่ร่องอกของเธอรวมทั้งเต้าถันที่ตึงเต่งนั้นมากกว่าด้วยซ้ำ ความพิศวาสเกิดขึ้นในสถานะต้องห้าม แต่มันก็ไม่มีอะไรต้องห้ามมากว่าสิ่งที่มินตราเจอมาแล้ว...และถ้าหากว่าเขาต้องการ เธอจะมอบมันแก่เขา
นาฬิกาดิจิทัลบอกเวลาตีหนึ่งครึ่ง มินตรายังคงสวมเสื้อกล้ามรัดรูปพร้อมกับกางเกงขาสั้นนั่งไขว่ห้างดูทีวีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านสักคนเดียว พ่อกับแม่ไปออกงานแฟร์ ส่วนกีตาร์เองก็ไปค้างบ้านเพื่อน มีเพียงมิตราและคีตะสองคน
บานประตูเลื่อนออกช้า ๆ คีตะในสภาพที่ค่อนข้างเมามายเดินเซเข้ามาก่อนทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดท่าที
“น้องมินยังไม่นอนเหรอครับ รอรับพี่เหรอ” คีตะเอี้ยวใบหน้าขึ้นมอง ยกยิ้มขึ้นราวกับหมาป่าเจ้าเล่ห์ มือและขาข้างหนึ่งห้อยลงเรี่ยพื้น “แบบนี้พี่ดีใจนะเนี่ย”
กลิ่นเหล้าโชยหึ่ง ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาหวานเยิ้ม
“แล้วถ้าหนูบอกว่ารอ...มันจะมีอะไรเกิดขึ้นเหรอคะ” มิตราปรายตามอง เธอพูดคุยอย่างวางท่า ก่อนจะค่อย ๆ ยกขาที่ไหว่ห้างขึ้นเปลี่ยนท่าอย่างแช่มราวประหนึ่งตั้งใจให้สายตาอีกคู่ที่อยู่ไม่ห่างจดจ้องไปยังสัดส่วนที่นูนเด่นขึ้นมาจากเนื้อผ้ารัดรูป “ไหนตอบให้หนูรู้สึกชื่นใจหน่อยสิคะ”
“เปล่า” คนพูดหน้าขึ้นสี “ก็แค่รู้สึกว่าการมีน้องสาวนี่มันดีจังเลย”
มินตราลุกขึ้นไปยืนอยู่ตรงหน้าของคีตะ ก้มลงมองผ่านเนินอกอวบอิ่มของตนเอง “สายตาแบบนั้น มองหนูว่าเป็นน้องสาวจริง ๆ เหรอ”
“กะ...ก็” ชายหนุ่มเริ่มอึกอัก “ก็ถ้าพ่อแม่เราไม่เป็นผัวเมียกันก็คงไม่ใช่”
เหยื่อกินเบ็ดแล้ว!
มินตราทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าของคีตะในระยะที่สามารถสัมผัสกันได้อย่างง่ายดาย เอื้อมคว้ามือของเขาที่ห้อยตกขึ้นมาประทับเอาไว้ในหน้าอกของตัวเอง “แล้ว...มันจะไม่ได้เลยหรือไง”
“นะ...น้องมิน อย่าทำแบบนี้ครับ” คีตะแทบจะสร้างเมาในทันที
“ก็เอามือออกไปสิ...” ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุยง มินตราค่อย ๆ กระชับมือที่วางแนบฝ่ามือของพี่ชายตรงหน้าให้บีบคลำคลึงที่หนั่นเนื้อของเธอ ก่อนที่จะรับรู้ได้ว่าคีตะนั้นไม่จำเป็นต้องมีเธอประคองอีกแล้ว เขาเริ่มลูบไล้ไปตามส่วนเว้าโค้งกลมนูนนั้น พร้อมกับเริ่มส่งสายตาที่เร่าร้อนออกมา ริมฝีปากยกขึ้น
“เล่นกับไฟเหรอครับ”
“เปล่า” มินตราแอ่นอกเข้าใกล้ “หนู...เป็นไฟ”
สิ้นเสียงอันเย้ายวน มือเรียวของมินตราอีกข้างที่ยังว่างก็ค่อย ๆ ลูบไล้ร่างกายของพี่ชายผู้นี้ก่อนไปหยุดลงตรงหว่างขา...บางส่วนที่อัดแน่นอยู่ตรงนั้นเริ่มพองขยายขึ้นคามือของเธอ ยิ่งรู้ว่ามันตื่นขึ้นมา มือก็ยิ่งนวดคลึงอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเจ้าของร่างแสดงสีหน้าสยิวซ่าน
“น้องมิน...” คีตะเขม้นมอง ขยับตัวนอนให้เข้าที่เข้าทาง มืออีกข้างค่อย ๆ รูดซิปแล้วสอดลึกลงไปคว้าเอาลำเนื้อที่แข็งขืนชูชันนั้นขึ้นมาอวดโฉม แก่นกายใหญ่อวบแข็งเกร็ง เส้นเลือดรายล้อมปูดโปน ส่วนที่ถูกห่อหุ้มถูกมือผู้เป็นเจ้าของรูดลงไปช้า ๆ พร้อมกับจับมันกวัดแกว่งไปมาให้หญิงสาวได้เห็นมันอย่างชัดเจน ส่วนหัวกลมมนเริ่มเยิ้มฉ่ำด้วยหยาดน้ำผึ้งใสไหลปริ่ม “น้องทำเรื่องแล้วนะครับ”
คิ้วโก่งเลิกขึ้น สายตาหรี่เล็กจ้องมองนิ่งเฉย ริมฝีปากกระจับยกยิ้มพร้อมกับที่เธอเอื้อมมือไปจับความเป็นชายของคีตะ เริ่มขยับไหวรูดรั้งชักขึ้นลงอย่างเนิบช้ากระทั่งเสียงสูดลมผ่านไรฟันเล็ดลอดออกมา
“ใหญ่จังเลย...นี่พี่กับน้องใครใหญ่กว่ากันนะ” เธอตั้งคำถามโดยที่ไม่ประสงค์หาคำตอบ ปลายนิ้วแตะเข้าที่รูเสียวส่วนปลาย ยกขึ้นเผยให้น้ำกระสันนั้นเยิ้มติดปลายมือก่อนขาดลงไป ขณะที่ดวงตาโฉบเฉี่ยวยังจดจ้องใบหน้าอันหล่อเหลาไม่วางตา เธอก็อ้าปากออกมาแล้วตวัดลิ้นเลียปลายนิ้วนั้นทันทีพร้อมกับดูดดุนจนเกิดเสียงจ๊วบแว่วขึ้น
“หวานไหมครับ”
“เดาสิคะ...” มินตราหรี่ตามอง “สรุปจะบอกหนูได้หรือยัง...ใครใหญ่กว่า”
“ไม่ต้องถามว่าใครใหญ่กว่ากันหรอก...แค่ใหญ่ก็พอแล้ว” พี่ชายดีดตัวขึ้นยืนแล้วรีบร้อนถอดกางเกงลง แล้วกลับมานั่งแยกขาออก กระดกลำเนื้อแข็งชูชันนั้นขึ้นลงยั่วยวนสายตาที่จับจ้องของหญิงสาวตรงหน้า “ไม่ต้องดูดนิ้วครับ...มาดูดจากของจริงเลยดีกว่า”
รอยยิ้มวาดขึ้นในห้องอันสลัวราง มือแกร่งสอดเข้าไปดึงท้ายทอยของมินตรารั้งให้เข้าใกล้ เธอไร้ซึ่งการขัดขืนใด ๆ ทั้งสิ้น จับดุ้นนั้นนั้นรูดชักก่อนเลื่อนมือลงมาแนบโคนพร้อมกับก้มหน้าลงไปครอบริมฝีปากที่ความปรารถนาของคีตะทันที
เสียงครางของแฝดพี่ดังขึ้น พร้อมกับเสียงดูดดุนอันหยาบโลนที่เริ่มเร่งเร้าถี่รัวขึ้นเรื่อย ๆ
“ซี้ดดดด...”คีตะสูดปาก ความเสียวซ่านในเวลานี้ทำให้ทั้งสองขาเกร็งแน่น ร่างเล็กของมินตราแทรกสอดเข้าระหว่างขาทั้งสอง ก้ม ๆ เงย ๆ ดูดดุนลำกายที่แข็งชูชันขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มสอดมือเข้าลูบไล้เส้นผมของเธอพลางลามลงไปที่เนื้อตัวบางนั้นก่อนบรรจงปลดสายคล้องทั้งสองลงอย่างเบามือ ไม่นาน เสื้อตัวบางก็หลุดร่น เนินอกเต่งตึงถูกปลดปล่อยออกจากส่วนที่ปิดเร้น เขาเริ่มบีบคลำพลางสะกิดปลายนิ้วที่ส่วนยอดซึ่งเริ่มแข็งเป็นตุ่มไตรับการสัมผัสแล้วมินตราหลับตาพริ้ม ลิ้มรสชาติอันหวานฉ่ำของหยาดน้ำผึ้งซึ่งยังคงไหลเยิ้มออกมาเรื่อย ๆ ในทุกจังหวะที่ขยับใบหน้าดูดดุนลงไป เธอวาดเรียวลิ้นไปรอบส่วนลำแข็งนั้นพร้อมกับตวัดเลียวนรอยหยักหลังจากที่ครอบครองจนหมดสิ้น ปากของเธออ้ากว้างสุดองศา เพราะขนาดที่แสนมหึมาของแท่งเนื้อที่คีตะเป็นเจ้าของในหัวสมองคิดมั่วซั่วไปหมด...พลันก็อยากรู้เหลือเกินว่าเป็นแฝดกัน เหมือนกันไปเสียทั้งหมด...จะใหญ่เหมือนกับแบบนี้หรือเปล่ามือเรียวจับรั้งลำกายกระชับแน่นพร้อมกับขยับรูดชักไปในจังหวะที่สอดประสานกันกับริมฝีปากซึ่งยังคงรัดตอดแก่นกายของพี่ชายเอาไว้อย่างแนบแน่น เสียงครางที่ดังขึ้นมาไม่หยุดมันยิ
มินตรากระเด้งกระดอนอยู่บนโซฟาตัวนุ่มนั้น เริ่มถอดเสื้อของเธอออกไปพร้อมกับที่คีตะเองก็รีบร้อนถอดเสื้อผ้าของเขาโยนทิ้งไปเช่นกันร่างสูงยืนตระหง่านตรงหน้า กล้ามหน้าท้องแน่นเด่นเป็นระลอกคลื่น มินตราอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไปสัมผัส“พี่จะฟ้องแม่ว่าน้องมินยั่วพี่...”“ก็ลองดูสิ” มินตราฉีกยิ้ม ก้มโน้มใบหน้าลงไปอมให้อีกฝ่ายทันที“ซี้ดดดดดสสสส์”คีตะไม่ทันตั้งตัว ยืนสั่นสะท้านอยู่อย่างนั้น ครั้นพอเริ่มตั้งสติได้ก็ไม่รีรอ จับบ่าเล็กไว้แล้วกระแทกสะโพกตอกดุ้นเนื้อเข้าไปในโพรงปากอันนิ่มนวลทันทีจนกระทั่งใบหน้าของมินตราจำต้องโยกไหวไปตามแรงกระแทกที่ก่อเกิด ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยยอมแพ้ ออกแรงดูดดุนความสุขสมของอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นคีตะที่ถอดถอนมันออกไปเองมินตราหอบจนตัวโยก จ้องมองดูคีตะที่ตอนนี้เขายังไม่เว้นช่วงให้เธอได้พัก แต่นั่นอาจจะเป็นความร้อนแรงที่ลึก ๆ ในใจของมินตราปรารถนาอยู่ก็เป็นได้คีตะนั่งลง จับสองขาของเธอยกแยกออก จ้องมองดูส่วนสวาทที่บานฉ่ำราวกับดอกไม้งามยามเช้าตรู่ สัดส่วนที่สวยงามกระตุ้นรอยยิ้มของผู้จ้องมองได้อย่างง่ายดาย คีตะซุกไซ้สันจมูกเข้าไปตามร่องเสียวนั้นอย่างหื่นกระหาย
“น้ำน้องมิน...หวานมากเลยนะครับเนี่ย”คีตะลุกขึ้นมาจูบกับน้องสาวอีกครั้ง ในขณะที่หงายมือแล้วใช้สองนิ้วสอดเข้าไปในรูสวาทแล้วกระดกนิ้วอย่างเร็วรี่จนสัมผัสได้ถึงของเหลวมากมายทะลักล้นออกมาจากช่องทางนั้น ยามนี้เสียงครางกระเส่าของมิตราเริ่มเบาลงไปเหลือเพียงเสียงลมหายใจที่พยายามประคองร่างกายที่แสนสุขสันต์ให้ไปต่อได้อย่างเต็มที่“อืมมม...ร้องดัง ๆ ครับ...ยิ่งร้องดังพี่ก็ยิ่งมีอารมณ์นะครับ ซี้ดดด”มินตรานอนหอบหายใจรวยริน...สุดยอดเหลือเกิน ช่วงเวลาที่ถูกปลดปล่อยออกมาจนร่างกายเบาโหวงประหนึ่งกลายเป็นเพียงกระดาษที่ล่องลองตามสายลมพัดพา“พร้อมจะให้เอาหรือยังครับ” คีตะยิ้มกว้าง ความขี้เล่นยังคงทำให้เขาส่ายเอวไปมา สะบัดแก่นกายที่แข็งขืนฟาดสัมผัสลำตัวดังแน่นหนัก พร้อมรูดส่วนนอกลงไปจนสุดอีกครั้งแล้วกระดกขึ้นลงให้อีกฝ่ายเห็นถึงความพร้อมที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คีตะจับดุ้นกายแล้วฟาดเข้าที่ฝ่ามือตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า “เจ็บไปทั้งลำแล้วเนี่ย...”“มะ...มา...มาเลย ขะ เข้ามาเลย พี่ หนู...อยากจะโดน...”“ไหนพูดให้พี่ชายคนนี้ชื่นใจหน่อยครับ” คีตะแค่นหัวเราะ “อยากจะโดนอะไร”“โดน อะ เอา...พี่จ๋า หนูไม่ไหวแล้ว เร็วสิ...
น้ำเสียงหื่นกระหายแว่วขึ้น สายตาที่จดจ้องมองไปยังหญิงสาวตรงหน้าราวกับเธอเป็นอาหารมื้อพิเศษ ลำกายสะบั้นความเป็นพี่น้องสิ้น กระแทกกระทั้นเข้าไปจนเสียงครางของอีกฝ่ายแผดก้องแล้วเหือดหาย เรี่ยวแรงที่สมสะถูกฟัดเหวี่ยงจนแตกกระจายไม่เป็นชิ้นดีพั่บ! พั่บ! พั่บ!“ซี้ดดดดสสส์ อ๊า.....เสียวววว ซี้ดดดดดดด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!สองแขนของมินตราพยายามป่ายปัดหาที่ประคองตัว ทว่าแรงกระแทกที่โหมกระหน่ำทำเอาเธอไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลยสักอย่าง ความกำหนัดของคนตรงหน้าราวกับตายอดตายอยากในกายสาวมาแสนนาน หายใจหอบเฮือกไม่หยุด แม้มันจะรู้สึกทุกข์ทรมาน แต่มันกลับกลายเป็นห้วงแห่งความสุขที่น่าเหลือเชื่อ“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า...เสียว..เสียวพะ พี่...อ๊ะ คะ คีตะ อ๊ายยย...ซี้ดดด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!เมื่อต่อต้านไม่ได้ ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสอย่างเต็มที่ มินตราขมิบเกร็งร่างกาย ช่องทางสีหวานถูกกระแทกจนขึ้นสีเรื่อ กระนั้นเธอขยังคงเว้าวอนให้อีกฝ่ายตอกกระหน่ำเข้ามาอย่างเต็มที่ เพราะอย่างไรเสีย มันก็ไม่มีใครตายเพราะโดนเอาหรอก ซ้ำชายหนุ่มคนนี้ก็ยังมีทั้งของดีและลีลาที่เหลือร้าย...เธอชื่นชอบมันเห
อีกสามวัน งานที่มินตราสมัครเอาไว้ก็ถึงเวลาเริ่ม เธอมีเวลาพักผ่อนอีกเพียงเท่านั้น ก่อนจะต้องย้ายไปอยู่หอ มันอาจจะทำให้เธอต้องห่างพ่อ และแน่นอนว่าห่างพี่ชายของเธอด้วยเช่นกัน กีตาร์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่ในช่วงนี้ ส่วนเธอกับคีตะก็อยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น พ่อและแม่เห็นว่าเธอกับพี่ชายที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นนั้นเข้ากันได้ดีก็ดีใจแต่พ่อกับแม่ก็คงไม่รู้เหมือนกัน ว่าทั้งสองคนเข้ากันได้ดีเสียจนสุดลำ แถมกระหน่ำเสียสุดโคนกันเลยทีเดียวธุรกิจของที่บ้านกำลังไปได้ด้วยดี สินสมรสและทรัพย์สินทางแม่เลี้ยงของมินตราที่จริงแล้วมันก็มากพอที่จะทำให้เธอนอนกระดิกเท้าอยู่บ้านเฉย ๆ ไปจนตายนั่นแหละ แต่ว่าเธอยังคงอยากใช้ชีวิต อยากจะโล่นแล่น ทำในสิ่งที่อยากทำอย่างเต็มที่โดยไม่สนใจว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร เพราะท้ายที่สุด หากเธอไม่ประสบความสำเร็จ และงานที่ทำสะดุด มินตราก็แค่ล้มลงกองเงินกองทองของพ่อแม่เพียงเท่านั้นมันก็แค่สีสันและส่วนประกอบของชีวิต อยากจะทำอะไรอีกเยอะแยะเลย...แน่นอนว่าสิ่งที่ได้ทำกับคีตะก็ด้วยเช่นกันนาฬิกาปลุกดังเพียงครั้งเดียวมินตราก็ลุกขึ้นมาจัดการตัวเองแล้วจึงเดินเข้าไปในครัว วันนี้ไม่
แม้ในเวลานี้มินตราอยากจะบอกให้หยุดพัก หรือให้ถอยร่นแต่มันคงไม่ได้ เพราะพี่ชายเอาแต่ครวญครางออกมาแล้วหลับตาพริ้ม ซ้ำเธอเองยังไม่สามารถหลุดออกไปจากพันธนาการในเวลานี้ได้ มินตราพยายามกลั้นหายใจ แล้วรับสัมผัสอันใหญ่หลวงนั้นจนไม่ไหว ตีหน้าขาของพี่ชายจนอีกฝ่ายหยุดแล้วกระชากดุ้นออกไปมินตราไอโขลก หอบหายใจถี่รัว น้ำตารื้นไหลอาบแก้มแฮ่ก! แฮ่ก!แฮ่ก!กีตาร์ขยับกายนั่งลงตรงหน้าแล้วเชยคางน้องสาวขึ้นก่อนประกบปากจูบกับเธอทันที เพียงครู่ จุมพิตเร่าร้อนก็เริ่มต้นขึ้นอย่างง่ายดายพร้อมกับร่างกายของคนทั้งสองที่เริ่มยืนขึ้นพร้อมกัน และเป็นกีตาร์เองที่ยกร่างเล็กของน้องสาวให้ขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์รสจูบยังคงหนักหน่วงขึ้น ลิ้นร้อนโรมรันกันไม่คลาย มือเริ่มลูบไล้ล่วงล้ำร่างกายของเธอไปยังทุกสัดส่วน ก่อนค่อย ๆ ดึงกางเกงตัวน้อยนั้นลงไป มือหนาเริ่มประกบเนินสวาทยามเช้าที่กำลังเบ่งบาน ซอกซอนนิ้วเข้าไปยังช่องทางเสียวและวาดวนไปรอบ ๆ กลีบสีหวานประหนึ่งผึ้งน้อยที่คอยผสมเกสร“อืมมมม ซี้ดดดดด”ครู่เดียวนิ้วก็สอดเข้าล่วงถลำลึก ขณะที่ปลายนิ้วโป้งสะกิดเขี่ยที่เม็ดเสียวส่วนยอดอันเริ่มตอบรับความต้องการกีตาร์ด้วยการแข็งขึ้นเป็นตุ
ดุ้นความต้องการที่ทั้งใหญ่และยาวกว่าที่เคยกระแทกเข้ามารวดเดียวสุดกำลังหลังจากที่มันหาช่องทางเข้าได้อย่างง่ายดาย มือทั้งสองของกีตาร์จับเกร็งที่ขาของมินตราก่อนเริ่มขยับโยกไหวสะโพกอยู่อย่างนั้น ในขณะที่ผู้ถูกกระทำในเวลานี้ร่างกายโยกเคลื่อนไปตามกำลังเสียวของพี่ชายจนแทบจะทรงตัวเอาไว้ไม่ไหวพั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า...พี่คะ ดะ ดีจังเลย ซี้ดดด...หนูชอบมากเลยอื๊อออ”“ชอบกว่าไอ้คีตะหรือเปล่า...พูดสิ หืม...”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!หนึ่งคำถาม แรงกระแทกก็เพิ่มขึ้นเป็นทบทวีคูณ ร่างกายของทั้งสองสัมผัสกันในส่วนที่ทำให้เกิดสรรพเสียงอันหยาบโลนดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน รูสวาทถูกทะลวงจ้วงเข้าไปนับครั้งไม่ถ้วนพร้อมกับเสียงครวญครางของพี่ชายซึ่งกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับความเสียวซ่านที่ถูกปลุกขึ้นมาในยามเช้าตรู่วันนี้“อ๊ะ อ๊า อ๊า...สะ เสียว อื๊อออ...ลึก อ๊ายยย”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!“ตอบก่อนสิครับ ไม่งั้นพี่คงเสียใจแย่เลย อา...แน่นลำจริง ๆ นะครับ”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!กีตาร์แม้จะดูไม่ใช่คนที่ดูโผงผางหรือก๋ากั่น
ทั้งพูด ทั้งขยับไหว ทั้งตีบั้นท้ายอย่างเมามันส์ เสียงแห่งความสุขสันต์ดังลั่นขึ้นมาในครัวราวกับว่าไม่มีใครยอมใครและไม่มีใครเลยสักคนที่จะหยุดห้วงเวลานี้ลงไปได้กีตาร์ค่อย ๆ ทิ้งตัวลงไปแนบกับแผ่นหลังของเธอ มือสอดอ้อมไปบีบคลึงเค้นหนั่นเนื้อกลมกลึงนั้น ปลายนิ้วสะกิดยวนเย้าที่ส่วนยอดพร้อมกับใบหน้าที่ซบลงแล้วพรมจูบครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับว่ากำลังจะถูกลืนกินจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกันจังหวะที่แสนรุนแรงเร่าร้อนแปรเปลี่ยนเป็นการขยับไหวที่เนิบช้าทว่าต่อเนื่อง มินตราแอ่นสะโพกสูงขึ้นกว่าเดิม ยิ่งถูกสอดใส่เข้ามาลึกเท่าไหร่ ก็เหมือนกับว่าเธอจะถึงจุดสุดยอดมะรอมมะร่อ“อา..อา...น้องมินครับ เสียวไหมครับ ชอบไหม อือ ซี้ดดดด...” กีตาร์ไถ่ถาม เคลื่อนลำกายอย่างเนิบช้าในสัมผัส“อ๊ะ อา อา...ชะ ชอบ เสียว เสียวมากเลยพี่กีตาร์ มิน...อื๊อออ...เสียวววว”มินตราส่งเสียงครางกระเส่า มือเอื้อมไปด้านหลัง ลากขึ้นตามแนวเรียวขาแล้วคว้าจับที่บั้นท้ายของพี่ชาย บีบคลำและดึงดันหมายให้ความปรารถนาของชายผู้นี้ฝังรากลึกเข้ามาในร่างกายของเธอให้มากที่สุด แล้วอยู่ ๆ กีตาร์เองก็ถอดถอนลำกายออกไป“อ๊า...อื้อออออ”มินตราหันขวับกลับไปมองทำหน้