มินตรากระเด้งกระดอนอยู่บนโซฟาตัวนุ่มนั้น เริ่มถอดเสื้อของเธอออกไปพร้อมกับที่คีตะเองก็รีบร้อนถอดเสื้อผ้าของเขาโยนทิ้งไปเช่นกัน
ร่างสูงยืนตระหง่านตรงหน้า กล้ามหน้าท้องแน่นเด่นเป็นระลอกคลื่น มินตราอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไปสัมผัส
“พี่จะฟ้องแม่ว่าน้องมินยั่วพี่...”
“ก็ลองดูสิ” มินตราฉีกยิ้ม ก้มโน้มใบหน้าลงไปอมให้อีกฝ่ายทันที
“ซี้ดดดดดสสสส์”
คีตะไม่ทันตั้งตัว ยืนสั่นสะท้านอยู่อย่างนั้น ครั้นพอเริ่มตั้งสติได้ก็ไม่รีรอ จับบ่าเล็กไว้แล้วกระแทกสะโพกตอกดุ้นเนื้อเข้าไปในโพรงปากอันนิ่มนวลทันทีจนกระทั่งใบหน้าของมินตราจำต้องโยกไหวไปตามแรงกระแทกที่ก่อเกิด ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยยอมแพ้ ออกแรงดูดดุนความสุขสมของอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นคีตะที่ถอดถอนมันออกไปเอง
มินตราหอบจนตัวโยก จ้องมองดูคีตะที่ตอนนี้เขายังไม่เว้นช่วงให้เธอได้พัก แต่นั่นอาจจะเป็นความร้อนแรงที่ลึก ๆ ในใจของมินตราปรารถนาอยู่ก็เป็นได้
คีตะนั่งลง จับสองขาของเธอยกแยกออก จ้องมองดูส่วนสวาทที่บานฉ่ำราวกับดอกไม้งามยามเช้าตรู่ สัดส่วนที่สวยงามกระตุ้นรอยยิ้มของผู้จ้องมองได้อย่างง่ายดาย คีตะซุกไซ้สันจมูกเข้าไปตามร่องเสียวนั้นอย่างหื่นกระหาย ไม่รีรอให้เสียงครางที่เริ่มแว่วดังนั้นได้ผ่อนคลาย เรียวลิ้นร้อนก็ตวัดซอกซอนไปตามกลีบสวาทอย่างตะกละตะกลาม
ความมูมมามที่เกิดขึ้นพร้อมกับลีลาการเลียไล้และดูดดุนของคีตะ ทำให้ในเวลานี้ร่างกายของมินตราสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ยกแยกสองขาให้อีกฝ่ายด้วยตัวเอง ปล่อยให้ทั้งเรียวลิ้นและนิ้วสอดใส่เข้ามาในรูรักของเธอพร้อมกับทั้งกวาดคว้าน และขยับไหวถี่รัวจนหายใจไม่ทั่วท้อง
“อ๊ะ...อ๊า อ๊า..สะ เสียว...พี่คีตะ อ๊ะ อ๊า...สะ เสียว...ซี้ดดด”
มินตราแหงนศีรษะพิงโซฟา ปลดปล่อยร่างกายให้สัมผัสอันหยาบโลนเริ่มกวาดต้อนเธอเข้ามาเรื่อย ๆ เสียงแห่งความหยาบโลนดังขึ้นพร้อมกับความสุขสมที่แผ่กระจายไปทั่วร่าง ปลายเท้าจิกเกร็งงองุ้ม กดหัวของพี่ชายชิดลงไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“อ๊ะ อ๊า... พี่คีตะขา...ละ เลียอีกสิ เลียอีก...อื๊อออ”
ในระหว่างที่ใบหน้าของคีตะกำลังขยับไหวอย่างบิดพลิ้วนั้น ปลายนิ้วอีกข้างก็เริ่มสะกิดยวนเย้าที่เม็ดเสียวส่วนยอด ครู่เดียวเมื่อถูกสัมผัส เสียงครางก็ดังขึ้นมาพร้อมกับตุ่มไตที่ถูกกระตุ้น ปลายลิ้นตวัดเลียลากจากส่วนล่างขึ้นมาที่ยอดสวาทก่อนดูดดุนที่เม็ดเสียวนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนร่างกายของมินตรากระวีกระวาดดีดดิ้นราวจะขาดใจอยู่บนโซฟา
“อ๊ะ อ๊า..อ๊า สะ เสียว เสียว...มะ ไม่ไหวแล้วพี่ คีตะ หนูเสียว อื๊อออ...”
คีตะสอดสองมือประคองบั้นท้าย ยกสะโพกให้ลอยสูงขึ้นเหนือที่นั่ง ปลายนิ้วโป้งแหวกแคมสีหวานนั้นออกมาก่อนซุกหน้าเข้าไปอีกครั้ง ปากทางที่ขมิบเกร็งเป็นจังหวะถูกดูดดุนอย่างจัง ลิ้มรสน้ำหวานที่ปริ่มออกมาทุกขณะ สร้างความซ่านเสียวกระทั่งมินตราต้องคลึงเค้นเนินอกของตัวเองไปพลางเพราะเริ่มทนกับความช่ำชองในการเล้าโลมที่แสนหวือหวานี้แทบไม่ไหว
“น้ำน้องมิน...หวานมากเลยนะครับเนี่ย”คีตะลุกขึ้นมาจูบกับน้องสาวอีกครั้ง ในขณะที่หงายมือแล้วใช้สองนิ้วสอดเข้าไปในรูสวาทแล้วกระดกนิ้วอย่างเร็วรี่จนสัมผัสได้ถึงของเหลวมากมายทะลักล้นออกมาจากช่องทางนั้น ยามนี้เสียงครางกระเส่าของมิตราเริ่มเบาลงไปเหลือเพียงเสียงลมหายใจที่พยายามประคองร่างกายที่แสนสุขสันต์ให้ไปต่อได้อย่างเต็มที่“อืมมม...ร้องดัง ๆ ครับ...ยิ่งร้องดังพี่ก็ยิ่งมีอารมณ์นะครับ ซี้ดดด”มินตรานอนหอบหายใจรวยริน...สุดยอดเหลือเกิน ช่วงเวลาที่ถูกปลดปล่อยออกมาจนร่างกายเบาโหวงประหนึ่งกลายเป็นเพียงกระดาษที่ล่องลองตามสายลมพัดพา“พร้อมจะให้เอาหรือยังครับ” คีตะยิ้มกว้าง ความขี้เล่นยังคงทำให้เขาส่ายเอวไปมา สะบัดแก่นกายที่แข็งขืนฟาดสัมผัสลำตัวดังแน่นหนัก พร้อมรูดส่วนนอกลงไปจนสุดอีกครั้งแล้วกระดกขึ้นลงให้อีกฝ่ายเห็นถึงความพร้อมที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คีตะจับดุ้นกายแล้วฟาดเข้าที่ฝ่ามือตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า “เจ็บไปทั้งลำแล้วเนี่ย...”“มะ...มา...มาเลย ขะ เข้ามาเลย พี่ หนู...อยากจะโดน...”“ไหนพูดให้พี่ชายคนนี้ชื่นใจหน่อยครับ” คีตะแค่นหัวเราะ “อยากจะโดนอะไร”“โดน อะ เอา...พี่จ๋า หนูไม่ไหวแล้ว เร็วสิ...
น้ำเสียงหื่นกระหายแว่วขึ้น สายตาที่จดจ้องมองไปยังหญิงสาวตรงหน้าราวกับเธอเป็นอาหารมื้อพิเศษ ลำกายสะบั้นความเป็นพี่น้องสิ้น กระแทกกระทั้นเข้าไปจนเสียงครางของอีกฝ่ายแผดก้องแล้วเหือดหาย เรี่ยวแรงที่สมสะถูกฟัดเหวี่ยงจนแตกกระจายไม่เป็นชิ้นดีพั่บ! พั่บ! พั่บ!“ซี้ดดดดสสส์ อ๊า.....เสียวววว ซี้ดดดดดดด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!สองแขนของมินตราพยายามป่ายปัดหาที่ประคองตัว ทว่าแรงกระแทกที่โหมกระหน่ำทำเอาเธอไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลยสักอย่าง ความกำหนัดของคนตรงหน้าราวกับตายอดตายอยากในกายสาวมาแสนนาน หายใจหอบเฮือกไม่หยุด แม้มันจะรู้สึกทุกข์ทรมาน แต่มันกลับกลายเป็นห้วงแห่งความสุขที่น่าเหลือเชื่อ“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า...เสียว..เสียวพะ พี่...อ๊ะ คะ คีตะ อ๊ายยย...ซี้ดดด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!เมื่อต่อต้านไม่ได้ ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสอย่างเต็มที่ มินตราขมิบเกร็งร่างกาย ช่องทางสีหวานถูกกระแทกจนขึ้นสีเรื่อ กระนั้นเธอขยังคงเว้าวอนให้อีกฝ่ายตอกกระหน่ำเข้ามาอย่างเต็มที่ เพราะอย่างไรเสีย มันก็ไม่มีใครตายเพราะโดนเอาหรอก ซ้ำชายหนุ่มคนนี้ก็ยังมีทั้งของดีและลีลาที่เหลือร้าย...เธอชื่นชอบมันเห
อีกสามวัน งานที่มินตราสมัครเอาไว้ก็ถึงเวลาเริ่ม เธอมีเวลาพักผ่อนอีกเพียงเท่านั้น ก่อนจะต้องย้ายไปอยู่หอ มันอาจจะทำให้เธอต้องห่างพ่อ และแน่นอนว่าห่างพี่ชายของเธอด้วยเช่นกัน กีตาร์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่ในช่วงนี้ ส่วนเธอกับคีตะก็อยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น พ่อและแม่เห็นว่าเธอกับพี่ชายที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นนั้นเข้ากันได้ดีก็ดีใจแต่พ่อกับแม่ก็คงไม่รู้เหมือนกัน ว่าทั้งสองคนเข้ากันได้ดีเสียจนสุดลำ แถมกระหน่ำเสียสุดโคนกันเลยทีเดียวธุรกิจของที่บ้านกำลังไปได้ด้วยดี สินสมรสและทรัพย์สินทางแม่เลี้ยงของมินตราที่จริงแล้วมันก็มากพอที่จะทำให้เธอนอนกระดิกเท้าอยู่บ้านเฉย ๆ ไปจนตายนั่นแหละ แต่ว่าเธอยังคงอยากใช้ชีวิต อยากจะโล่นแล่น ทำในสิ่งที่อยากทำอย่างเต็มที่โดยไม่สนใจว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร เพราะท้ายที่สุด หากเธอไม่ประสบความสำเร็จ และงานที่ทำสะดุด มินตราก็แค่ล้มลงกองเงินกองทองของพ่อแม่เพียงเท่านั้นมันก็แค่สีสันและส่วนประกอบของชีวิต อยากจะทำอะไรอีกเยอะแยะเลย...แน่นอนว่าสิ่งที่ได้ทำกับคีตะก็ด้วยเช่นกันนาฬิกาปลุกดังเพียงครั้งเดียวมินตราก็ลุกขึ้นมาจัดการตัวเองแล้วจึงเดินเข้าไปในครัว วันนี้ไม่
แม้ในเวลานี้มินตราอยากจะบอกให้หยุดพัก หรือให้ถอยร่นแต่มันคงไม่ได้ เพราะพี่ชายเอาแต่ครวญครางออกมาแล้วหลับตาพริ้ม ซ้ำเธอเองยังไม่สามารถหลุดออกไปจากพันธนาการในเวลานี้ได้ มินตราพยายามกลั้นหายใจ แล้วรับสัมผัสอันใหญ่หลวงนั้นจนไม่ไหว ตีหน้าขาของพี่ชายจนอีกฝ่ายหยุดแล้วกระชากดุ้นออกไปมินตราไอโขลก หอบหายใจถี่รัว น้ำตารื้นไหลอาบแก้มแฮ่ก! แฮ่ก!แฮ่ก!กีตาร์ขยับกายนั่งลงตรงหน้าแล้วเชยคางน้องสาวขึ้นก่อนประกบปากจูบกับเธอทันที เพียงครู่ จุมพิตเร่าร้อนก็เริ่มต้นขึ้นอย่างง่ายดายพร้อมกับร่างกายของคนทั้งสองที่เริ่มยืนขึ้นพร้อมกัน และเป็นกีตาร์เองที่ยกร่างเล็กของน้องสาวให้ขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์รสจูบยังคงหนักหน่วงขึ้น ลิ้นร้อนโรมรันกันไม่คลาย มือเริ่มลูบไล้ล่วงล้ำร่างกายของเธอไปยังทุกสัดส่วน ก่อนค่อย ๆ ดึงกางเกงตัวน้อยนั้นลงไป มือหนาเริ่มประกบเนินสวาทยามเช้าที่กำลังเบ่งบาน ซอกซอนนิ้วเข้าไปยังช่องทางเสียวและวาดวนไปรอบ ๆ กลีบสีหวานประหนึ่งผึ้งน้อยที่คอยผสมเกสร“อืมมมม ซี้ดดดดด”ครู่เดียวนิ้วก็สอดเข้าล่วงถลำลึก ขณะที่ปลายนิ้วโป้งสะกิดเขี่ยที่เม็ดเสียวส่วนยอดอันเริ่มตอบรับความต้องการกีตาร์ด้วยการแข็งขึ้นเป็นตุ
ดุ้นความต้องการที่ทั้งใหญ่และยาวกว่าที่เคยกระแทกเข้ามารวดเดียวสุดกำลังหลังจากที่มันหาช่องทางเข้าได้อย่างง่ายดาย มือทั้งสองของกีตาร์จับเกร็งที่ขาของมินตราก่อนเริ่มขยับโยกไหวสะโพกอยู่อย่างนั้น ในขณะที่ผู้ถูกกระทำในเวลานี้ร่างกายโยกเคลื่อนไปตามกำลังเสียวของพี่ชายจนแทบจะทรงตัวเอาไว้ไม่ไหวพั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า...พี่คะ ดะ ดีจังเลย ซี้ดดด...หนูชอบมากเลยอื๊อออ”“ชอบกว่าไอ้คีตะหรือเปล่า...พูดสิ หืม...”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!หนึ่งคำถาม แรงกระแทกก็เพิ่มขึ้นเป็นทบทวีคูณ ร่างกายของทั้งสองสัมผัสกันในส่วนที่ทำให้เกิดสรรพเสียงอันหยาบโลนดังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน รูสวาทถูกทะลวงจ้วงเข้าไปนับครั้งไม่ถ้วนพร้อมกับเสียงครวญครางของพี่ชายซึ่งกำลังเคลิบเคลิ้มไปกับความเสียวซ่านที่ถูกปลุกขึ้นมาในยามเช้าตรู่วันนี้“อ๊ะ อ๊า อ๊า...สะ เสียว อื๊อออ...ลึก อ๊ายยย”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!“ตอบก่อนสิครับ ไม่งั้นพี่คงเสียใจแย่เลย อา...แน่นลำจริง ๆ นะครับ”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!กีตาร์แม้จะดูไม่ใช่คนที่ดูโผงผางหรือก๋ากั่น
ทั้งพูด ทั้งขยับไหว ทั้งตีบั้นท้ายอย่างเมามันส์ เสียงแห่งความสุขสันต์ดังลั่นขึ้นมาในครัวราวกับว่าไม่มีใครยอมใครและไม่มีใครเลยสักคนที่จะหยุดห้วงเวลานี้ลงไปได้กีตาร์ค่อย ๆ ทิ้งตัวลงไปแนบกับแผ่นหลังของเธอ มือสอดอ้อมไปบีบคลึงเค้นหนั่นเนื้อกลมกลึงนั้น ปลายนิ้วสะกิดยวนเย้าที่ส่วนยอดพร้อมกับใบหน้าที่ซบลงแล้วพรมจูบครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับว่ากำลังจะถูกลืนกินจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกันจังหวะที่แสนรุนแรงเร่าร้อนแปรเปลี่ยนเป็นการขยับไหวที่เนิบช้าทว่าต่อเนื่อง มินตราแอ่นสะโพกสูงขึ้นกว่าเดิม ยิ่งถูกสอดใส่เข้ามาลึกเท่าไหร่ ก็เหมือนกับว่าเธอจะถึงจุดสุดยอดมะรอมมะร่อ“อา..อา...น้องมินครับ เสียวไหมครับ ชอบไหม อือ ซี้ดดดด...” กีตาร์ไถ่ถาม เคลื่อนลำกายอย่างเนิบช้าในสัมผัส“อ๊ะ อา อา...ชะ ชอบ เสียว เสียวมากเลยพี่กีตาร์ มิน...อื๊อออ...เสียวววว”มินตราส่งเสียงครางกระเส่า มือเอื้อมไปด้านหลัง ลากขึ้นตามแนวเรียวขาแล้วคว้าจับที่บั้นท้ายของพี่ชาย บีบคลำและดึงดันหมายให้ความปรารถนาของชายผู้นี้ฝังรากลึกเข้ามาในร่างกายของเธอให้มากที่สุด แล้วอยู่ ๆ กีตาร์เองก็ถอดถอนลำกายออกไป“อ๊า...อื้อออออ”มินตราหันขวับกลับไปมองทำหน้
ไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นแต่แล้วยังไงล่ะ...ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรทั้งนั้น ในเมื่อมินตราเลือกที่จะยืนอยู่เหนือกับทุกสิ่งอย่าง หากแม้เพียงนิดเดียวที่มินตราอ่อนข้อ นั่นเท่ากับว่าเธอพ่ายแพ้ขึ้นมาทันที ถึงร่างกายนี้จะอ่อนแรงเต็มทน ทว่าความหรรษาที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอยอมที่จะสิ้นแรงไปในช่วงเวลานี้อย่างเต็มใจหญิงสาวลุกขึ้นมาแล้วทิ้งตัวลงนอน สองขาแยกออกพร้อมส่งมือเอื้อมลงไปแหวกร่องสวาทสีหวานที่ตอนนี้เริ่มขยายกว้างเพราะถูกตอกกระแทกอยู่เนิ่นนาน คีตะเดินเข้ามาแทรกอย่างตั้งใจก่อนทิ้งตัวลงแล้วจับลำกายนั้นถูไถไปตามร่องเสียวที่มีน้ำสวาทเยิ้มฉ่ำ ทางด้านกีตาร์เองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขามองดูพี่ชายค่อย ๆ ดันความปรารถนาเข้าไปในรูเสียวของมินตราก่อนเริ่มกระแทกอย่างดุเดือดจนร่างกายของน้องสาวถูกโยนเหวี่ยงไปตามอารมณ์กามาที่พุ่งทานขึ้นอย่างสดใหม่“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า...พี่ คะ คีตะ อื๊อออ...อะ ซี้ดดดด อ๊ะ อา มาเลย อ๊ายยย...”คีตะจ้องหน้าน้องสาว เลียรอบริมฝีปากแล้วเม้มแน่น เริ่มยัดเยียดความหยาบโลนเข้าไปอย่างไม่เว้นจังหวะใด ๆ ให้อีกฝ่ายหายใจ“ร้องออกมาครับ...ร้องออกมาดัง ๆ เลยครับ” คีตะหันมองน้องชาย แววตาเอาชนะ “ร้
“อย่า...อย่า หนูขอร้อง...พี่จ๋า อย่า...” เด็กหญิงพยายามดีดดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของผู้ที่เธอเรียกว่าเป็นพี่ชาย พยายามที่จะทำทุกอย่าง ตั้งแต่กราบไหว้ อ้อนวอน พูดจาทั้งดีทั้งร้าย แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ไม่อาจจะเปลี่ยนใจพี่ชายที่จ้องจะทำร้ายจิตใจและข่มเหงร่างกายของเธอได้เลย “ปล่อย...กูบอกให้ปล่อย กรี๊ดดด”“แหกปากไปเถอะอีห่า พ่อแม่ก็ไม่มีใครเขาสนใจมึงหรอก...เขาฝากมึงไว้กับกู นั่นหมายความว่ากูจะทำอะไรกับมึงก็ได้”สองขาพยายามหุบ สองมือพยายามแหวก แต่เรี่ยวแรงของเด็กสาวหรือจะสู้พละกำลังของชายหนุ่มผู้โตเต็มวัยได้ สุดท้าย กางเกงและเสื้อผ้าของมินตราก็ถูกกระชากออก แววตาของมันเปลี่ยนไปเป็นกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อได้เห็นร่างกายอันเปลือยเปล่าของเธออยู่ตรงหน้า“สวยดีนี่กว่า...ชมพูเชียว แบบนี้แหละ กูชอบ”“อย่า...ไอ้เหี้ย กูบอกว่าอย่าไง...ไอ้สัตว์ กรี๊ดดด อ๊ะ!!!”มินตราเคยดูแต่ละครหลังข่าว แต่เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกกระทำเช่นนั้น หมัดหนัก ๆ ของมันต่อยเข้ามาที่หน้าท้องของเธอ เด็กสาวจุกจนดีดดิ้นตัวงองุ้ม ร่างกายหมดเรี่ยวแรงไปดื้อ ๆ แล้วสองขาก็ถูกแยกออก พร้อมกับส่วนอันอันน่ารังเกียจที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาในร่างก